วิธี การสอบสัมภาษณ์งาน ไม่มี ประสบการณ์

ตุลาคม 27, 2563 การเขียนเรซูเม่และเทคนิคการสัมภาษณ์งาน

เด็กจบใหม่หลายคนแม้จะมีความสามารถมากมายแต่เมื่อไปสัมภาษณ์งานด้วยความที่ประสบการณ์การสัมภาษณ์งานยังน้อย อาจทำให้บางครั้งทำคำแนนหล่นไปเพราะตอบคำถามสัมภาษณ์ได้ไม่ดีพอ เนื่องจากไม่รู้ว่าควรตอบอย่างไร อะไรควรตอบไม่ควรตอบ หรือควรนำเสนอตัวเองอย่างไรให้เข้าตาผู้สัมภาษณ์ จนทำให้พลาดโอกาสได้งานไปอย่างน่าเสียดาย Adecco จึงได้รวบรวมคำถามสัมภาษณ์งานที่เด็กจบใหม่มักตอบพลาด พร้อมยกตัวอย่างคำตอบต้องห้าม มาให้น้องๆ ศึกษาเป็นแนวทางกันค่ะ

1.ทำไมถึงเลือกเรียนคณะนี้ 

กรณีที่ผู้สมัครเป็นเด็กจบใหม่ ผู้สัมภาษณ์มักใช้คำถามนี้เป็นตัวเปิดประเด็น เพื่อดูว่าผู้สมัครมีแรงบันดาลใจอย่างไรในการเลือกคณะนี้ และเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครหรือไม่ ดังนั้นคำตอบที่แสดงว่าผู้สมัครเป็นคนไร้แรงบันดาลใจ ไร้เป้าหมาย อย่างเช่น เรียนตามเพื่อน / พ่อแม่บังคับ, พอดีไม่ติดอันดับ1 ที่เลือกไว้, ไม่รู้จะเรียนอะไร จึงเป็นคำตอบที่ไม่ควรตอบ เพราะจะทำให้ผู้สัมภาษณ์มองผู้สมัครในเชิงลบ ผู้สมัครควรเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้าสำหรับคำถามนี้

2.ทำไมถึงสมัครบริษัทนี้

ตำแหน่งนี้ คำถามนี้มีเด็กจบใหม่หลายคนที่ทำพลาดบ่อย ตัวอย่างที่ไม่ควรตอบ เช่น คำตอบที่แสดงว่าเราไม่ได้ตั้งใจมาสมัครบริษัทนี้เท่าไร อย่างการให้เหตุผลในการสมัครงานว่าเพราะว่างงาน หรือ พ่อแม่บอกให้มา และไม่ควรตอบว่าสนใจสมัครงานเพราะอยากค้นหาตัวเอง เพราะหากเรายังโลเลไม่มั่นใจว่างานจะเหมาะกับเราไหม องค์กรก็อาจลังเลที่จะรับเราเหมือนกัน เพราะสิ่งที่องค์กรคาดหวังจากเด็กจบใหม่คือ ความมุ่งมั่นตั้งใจและกระตือรือร้นในการทำงาน

3. หากเจอคำถามนี้ห้ามตอบว่าไม่รู้จักเด็ดขาด

เพราะแสดงถึงการไม่เตรียมพร้อมและไม่สนใจบริษัทที่จะร่วมงานด้วย ก่อนที่จะไปสัมภาษณ์งานผู้สมัครควรหาข้อมูลของบริษัทก่อนทุกครั้ง และตอบตามข้อมูลเท่าที่เราหาได้ แม้จะมีข้อมูลน้อยก็ไม่เป็นไร

4 . ถามถึงทักษะหรืองานที่เราทำไม่เป็น

เป็นธรรมดาที่เด็กจบใหม่อาจมีทักษะที่ไม่ครบตามที่กำหนดไว้ในใบสมัคร ดังนั้นเมื่อถูกถามถึงทักษะที่เราทำไม่เป็นก็ควรตอบตามจริงว่าทำไม่เป็น แต่ควรอธิบายเพิ่มว่าเราพร้อมและสนใจที่จะเรียนรู้เพื่อแสดงถึงทัศนคติที่ดีในการทำงาน แสดงให้เห็นว่าเรามีศักยภาพที่จะพัฒนาได้ ไม่ควรตอบแค่ว่าทำไม่ได้แล้วจบเลย หรืออ้างว่าไม่ชอบ ไม่อยากทำ

5.เราทุกคนล้วนมีข้อเสียที่ควรปรับปรุง

การตอบว่าไม่มีข้อเสียเลยก็ดูมั่นใจและหลงตัวเองเกินเหตุ ดังนั้นเมื่อต้องเลือกข้อเสียมาตอบ ผู้สมัครต้องระวังในการตอบข้อเสียที่จะส่งผลต่องานที่สมัครโดยตรง เช่น สมัครงานบัญชีแล้วบอกว่าข้อเสียคือไม่เก่งคำนวณและไม่รอบคอบ ควรเลี่ยงไปตอบข้อเสียด้านอื่นที่ไม่ส่งผลกระทบต่องานมากนัก และอธิบายเพิ่มเติมว่าเรากำลังแก้ไขหรือปรับปรุงตัวเองอย่างไรจะทำให้ได้คะแนนเพิ่มในข้อนี้

สำหรับเด็กจบใหม่ที่อยากพัฒนาการสัมภาษณ์งานให้ปัง Adecco มีคอร์ส Career Pitching ที่จะช่วยให้อัพสกิลการตอบคำถามสัมภาษณ์งานสำหรับเด็กจบใหม่โดยเฉพาะ เข้าไปสมัครกันได้เลย งานนี้ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย >> Experience Work Day
[ หมดเขตรับสมัคร 6 พ.ย. นี้ ]

สัมภาษณ์งานทั้งที เชื่อมั่นมากว่า น้อง ๆ นิสิต นักศึกษา จบใหม่ ต้องอยากได้งานที่ตนเองคาดหวังแน่นอน แต่จุดท้าทายที่สำคัญคือ นักศึกษาจบใหม่ “ไม่มีประสบการณ์งาน” ดังนั้น หนึ่งในเคล็ดลับการสัมภาษณ์งาน ที่สำคัญที่สุดในการสร้างความประทับใจตั้งแต่เริ่มต้น ก็คือ “การแนะนำตัวเอง” และ เราจะทำอย่างไรที่จะแนะนำตัวเองให้ประทับใจ คนสัมภาษณ์งานทั้ง ฝ่ายบุคคล (HR) และ หัวหน้างาน (Hiring Manager) วันนี้ โค้ชเบ็นมีเทคนิค “สัมภาษณ์งาน แนะนำตัวเองใน 3 นาที ให้เฉียบ ได้งาน กัน สำหรับ นักศึกษาจบใหม่” ทุกคนครับ

การแนะนำตัวเองแบบทางการ หรือ Professional นั้นมีเทคนิคที่สำคัญอยู่ ขอให้เริ่มจาก

การตั้งเป้าหมายในการสัมภาษณ์งาน (Interview Goal) โดย จุดมุ่งหมายการมาสัมภาษณ์งานของเรา ชัดเจน คือ “ได้งาน” ที่สัมภาษณ์งานในวันนี้ ขอให้ชัดเจนกับตัวเองว่าเรามาสัมภาษณ์งาน เพื่อที่จะได้งานในตำแหน่งงานที่สมัครกับบริษัทนี้ อย่าให้เอาตัวเองมาสัมภาษณ์งานแล้ว ไม่ตั้งใจ ไม่ได้งานก็ไม่เป็นไร เพราะ ความคิดเหล่านี้ จะทำให้เราเสียความมั่นใจในการสัมภาษณ์งาน ความไม่พร้อมของตัวเรายังจะไปทำให้คนสมัครงานท่านอื่น ที่อยากได้โอกาสสัมภาษณ์งานนี้ เสียโอกาสด้วยนั่นเอง ดังนั้น เมื่อเราตั้งเป้าหมายชัดเจนแล้ว ว่าเราอยากได้งานนี้ เราจะมีวิธีแนะนำตัวเองอย่างไร ให้ได้งาน ? จากการสัมภาษณ์งานครั้งนี้

ทำความเข้าใจจุดท้ายทาย ในการสัมภาษณ์งาน (Challenging of this Interview)

ในฐานะที่น้องเป็นนักศึกษาจบใหม่ (new graduation) และเป็นผู้สมัครงาน (candidate) ที่สมัครงานครั้งแรกและได้โอกาสสัมภาษณ์งาน จุดท้าทาย คือ ไม่มีประสบการณ์งาน (no work experiences) ซึ่งเป็นสิ่งที่น้องสามารถเตรียมตัว ทำการบ้าน ก่อนได้ โดยพุ่งเป้าไปที่ จำต้องทำอย่างไรให้บริษัทที่เราสมัครงาน รู้ว่า น้องยากร่วมงานกับเขาในตำแหน่งงานที่สมัครจริง ๆ มากไปกว่านั้น น้องมีความสามารถอะไร (skills) ประสบการณ์ฝึกงาน (internship) กิจกรรมในมหาวิทยาลัย (activities) รางวัลผลงาน (awards) ที่สามารถแสดงให้เห็นได้ โดยเราสามารถนำจุดท้าทายเหล่านี้ เสนอข้อมูลในตัวเราแบบมีแบบแผน (pattern) และใส่กลยุทธิ์ในการแนะนำตัวเอง (strategy) ลงไป ซึ่งจะทำให้เราสามารถ สัมภาษณ์งาน และ แนะนำตัวเองได้ใน 3 นาที ให้เฉียบ ประทับใจผู้สัมภาษณ์งาน ตั้งแต่เริ่มสัมภาษณ์งานกัน ครับ

ข้อควรรู้ในการจ้างงานของบริษัท (Hiring Company Process)

ในการสมัครงาน สัมภาษณ์งาน ตำแหน่งงานที่สมัคร ข้อควรรู้ คือ บริษัทต้องการ “จ้างคนที่ทำงาน ตำแหน่งงานนั้นได้” ซึ่ง ณ จุดนี้สิ่งที่พิสูจน์ได้คือ ประสบการณ์งานที่เคยทำของผู้สมัครงาน เชื่อมโยงกับตำแหน่งที่สมัคร ในส่วนของเด็กจบใหม่ เราจะเน้นในส่วนของการศึกษา (Education) นำเสนอโดยเชื่อมโยงไปกับวิชาเรียนที่โดดเด่น กิจกรรมที่ทำ รางวัลที่เคยได้ และ สุดท้าย คือ วิสัยทัศน์ของตัวน้อง ที่จะทำงานในตำแหน่งงานนี้ เป็นอย่างไร ? ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด สำคัญมาก เพราะ บริษัทต้องการจ้างพนักงานที่พัฒนาตัวเองได้เสมอ และ กลายเป็น “พนักงานที่ดีเยี่ยม” ของทีมงานในอนาคต ดังนั้น เมื่อเราเข้าใจว่าบริษัทอยากจ้างงานผู้สมัครงานแบบใด แล้วเราไม่มีประสบการณ์งานด้วย จะเห็นว่า การแนะนำตัวเองให้ประทับใจ ในตอนสัมภาษณ์งาน สำหรับเด็กจบใหม่ เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด

เทคนิคสัมภาษณ์งาน แนะนำตัวเอง ใน 3 นาที ให้เฉียบ ได้งาน …สำหรับนักศึกษาจบใหม่

จะแบ่งเทคนิคนี้ ในการพูดแนะนำตัวเอง ออกเป็น 3 ท่อน ด้วยกัน ในการแนะนำตัวเอง 3 นาที โดย

ท่อน 1 ประวัติ และ ความสนใจ

ในส่วนของท่อนนี้เราจะแนะนำตัวเองถึง ประวัติส่วนตัวและ ความสนใจส่วนตัว ของเรา แบ่งออกเป็น

• ชื่อ (และ ชื่อเล่น) 
• ภูมิลำเนา ที่อยู่ 
• จบการศึกษา  
• อาชีพที่ใฝ่ฝัน  
• กิจกรรมยามว่าง

ขอให้จำข้อมูลทั้งหมดนี้ แล้วแนะนำตัวเองในท่อน 1 ในการสัมภาษณ์งานให้ครบถ้วน ไม่ตกหล่น เพื่อให้ผู้สัมภาษณ์งานทำความรู้จักเราในเบื้องต้น อย่าลืมการแนะนำตัวเองด้วยเสียงที่ไพเราะ ยิ้มแย้ม มองตาผู้สัมภาษณ์ และเป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุด 

ตัวอย่าง

“สวัสดีครับ ผมชื่อณรงฤทธิ์ หรือ ริทครับ ผมเป็นคนลำปางและจบการศึกษาจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ ผมใฝ่ฝันที่จะเป็นนักการตลาดมืออาชีพในวงการ FMCG เพราะผมชอบคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆให้เพื่อนๆและครอบครัวใช้ และผมยังเคยชนะรางวัลวิจัยและผลิตสบู่ OTOP สูตรกากกาแฟในช่วงเรียนมหาวิทยาลัยปีที่ 3 ด้วยครับ”

ท่อน 2 จุดแข็งของตัวเรา

ในท่อนนี้ เราจะสร้างความประทับใจมากขึ้นให้ผู้สัมภาษณ์ โดยการแนะนำตัวเองถึง “จุดแข็งของตัวเรา” แสดงให้เห็นถึง เราในฐานะผู้สมัครงาน และเป็นเด็กจบใหม่ รู้จักตัวเองมากพอ ที่จะเข้าใจว่าจุดแข็ง ความสามารถของเราคืออะไร และอยากแสดงให้เห็น ณ จุดนี้ ว่าเราโดดเด่ด กว่าผู้สมัครงานท่านอื่นอย่างไร จุดแข็งของตัวเรา มาจาก บุคลิคภาพ และ ความสามารถ ของตัวเรา

ยกตัวอย่าง
✔️ เป็นคนขยัน 
✔️ ทำงานเป็นทีม
✔️ มีความเป็นผู้นำ
✔️ สามารถทำงานให้เสร็จลุล่วงตามเวลา
✔️สนุกกับงานที่ท้าทายและต้องแก้ปัญหา

ตัวอย่าง

“ผมเป็นคนขยันและชอบงานท้าทาย และทำงานเลิกดึกได้ครับ ในกิจกรรมมหาวิทยาลัยผมเป็นประธานนำเชียร์รุ่น และมากไปกว่านั้นผมจัดงานการกุศลระดมทุนหารายได้ช่วยเหลือคนน้ำท่วมในจังหวัดภาคอีสานได้เงินมากกว่า 500,000 บาทครับ ผมเป็นคนทุ่มเทและให้ใจเกิน 100% สำหรับทุกกิจกรรมที่ผมร่วมครับ”

ท่อน 3 พูดถึงตำแหน่งงานที่มาสัมภาษณ์

ในท่อนสุดท้าย ของ การแนะนำตัวเอง สัมภาษณ์งาน ใน 3 นาที ให้เฉียบ โดดเด่น นั้น เราจะพุ่งไปที่ “ตำแหน่งงาน” ที่น้องสมัครกัน ว่าทำไมน้องถึงทำงานตำแหน่งงานนี้ได้
ก่อนอื่น ข้อผิดพลาดของน้อง ๆ คือ น้องหลายคน ตอบว่า มาสัมภาษณ์งานตำแหน่งนี้ เพื่อ มาเรียนรู้งาน มาหัดทำงาน หรือ ขอมาทำงาน 2 ปี แล้ว ไปเรียนปริญญาโทต่อ ซึ่งคำตอบเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ผิดพลาดครับ เพื่อแก้ปัญหาการแนะนำตัวเองที่ผิด และเราไม่มีประสบการณ์งานด้วย น้อง ๆ จะต้องเน้นถึง

✔️ แรงผลักดันตัวเอง (Passion) ที่อยากทำงานตำแหน่งนี้ และแสดงให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่า เราควรเป็นผู้สมัครที่น่าจับตามอง และจ้างงานในตำแหน่งนี้ นั้นเอง

ตัวอย่าง

“วันนี้ผมมาสมัครงานตำแหน่ง Brand Executive ฝ่ายการตลาดครับ เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าผมสามารถช่วยองค์กรในการขับเคลื่อนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ความคิดสร้างสรรค์ออกมา เพื่อที่จะทำให้ผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์นี้ ร่วมกับทีมงานที่ผมทำงานด้วยในองค์กรนี้ครับ ผมจะนำความรู้ทั้งหมดที่เรียนมาพร้อมกับความมุ่นมั่นของผมในการพิสูจน์ตำแหน่งงานนี้ครับ”

จะเห็นว่า เมื่อเรารวม 3 ท่อน ของ การสัมภาษณ์งาน แนะนำตัวเองใน 3 นาที จะได้ข้อมูลที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะประวัติการศึกษา สิ่งที่เราตั้งเป้าหมายในตัวเอง จุดแข็งในการทำงาน และ ตำแหน่งงานที่เราสัมภาษณ์งานวันนี้ ว่าเรามีความมุ่งมั่นในการทำงานอย่างไร ด้วยรูปแบบการแนะนำตัวที่เป็นทางการ และ น่าดึงดูด ต่อผู้สัมภาษณ์งานทั้งฝ่ายบุคคล และ หัวหน้างานในอนาคต 

ลองอ่านบทความนี้ เพื่อการเตรียมตัวที่ดีขึ้นครับ 5 คำถามสัมภาษณ์งาน ยอดฮิต พร้อมคำตอบ! (ให้ได้งาน)

ขอให้น้อง ๆ นำเทคนิค การสัมภาษณ์งาน แนะนำตัวเอง ใน 3 นาที สำหรับ นักศึกษาจบใหม่ นี้ ไปฝึกฝนให้เข้ากับสถานการณ์ของตัวเอง จนคล่องและพูดได้แบบธรรมชาติ โค้ชเบ็น เชื่อมั่นมากว่า น้อง ๆ จะสร้างความประทับใจในช่วงสัมภาษณ์งาน พร้อมความมั่นใจ และได้งานในฝัน แน่นอนครับ