ต้นไม้ คือ สิ่งมีชีวิตที่ต้องการน้ำ และ ธาตุอาหาร ในการเจริญเติบโต เมื่อวันเวลาผ่านไป ต้นไม้ที่เคยอยู่ในภาชนะใบเก่า อาจถึงเวลาต้อง เปลี่ยนกระถาง กันแล้วจ้า แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบ ถึงวิธีการเปลี่ยนกระถางที่ถูกต้อง จึงทำให้ในขั้นตอนการย้ายบ้านให้กับต้นไม้ อาจจะก่อให้เกิดความเสียหายแต่ต้นไม้แทนได้
วันนี้ my home จะมาแนะนำวิธีการ เปลี่ยนกระถาง อย่างถูกวิธีค่ะ เพราะการเปลี่ยนกระถาง แบบไม่ระมัดระวังนั้น อาจจะทำให้รากของต้นไม้ขาดได้ อาจจะถือว่าเป็นการทำร้ายต้นไม้ทางอ้อมได้เลยนะ ไหนลองเช็คดูซิคะว่า วิธีที่เราเคยเปลี่ยนกระถางมานั้นทำถูกหรือเปล่า หากทำผิดก็มาแก้ไขกันใหม่ เพื่อให้บ้านใหม่ของต้นไม้ต้นโปรดเป็นการย้ายสู่สิ่งที่ดีกว่ากันค๊าาา
สังเกตุอย่างไรว่าถึงเวลาต้อง เปลี่ยนกระถาง แล้ว หรือยัง
- หมั่นสังเกตสภาพทรงพุ่ม และ ฟอร์ม ของต้นไม้ หากเริ่มมีอาการที่ดูแล้วหงอย ๆ ดูแล้วห่อเหี่ยว ไม่สดใสเหมือนครั้งแรก ๆ ที่เรารับตัวมาจากร้าน ก็น่าจะถึงเวลาต้องขยับขยาย เปลี่ยนบ้าน เปลี่ยนดินให้ต้นไม้แล้วค่ะ
- นอกจากรูปทรงพุ่มแล้วสิ่งที่สังเกตได้ง่ายสุด ๆ เรียกว่า พอต้นไม้เราอาการเริ่มไม่ปกติ ก็มักจะแสดงออกทางนี้ นั้นก็คือใบ ค่ะ หากใบต้นไม้ที่เราดูแลอยู่เริ่มแสดงอาการซีด เหลือง หรือ เริ่มร่วงเป็นจำนวนมากกว่าปกติ นั้นแสดงว่า ต้องมีอะไรผิดปกติอยู่ภายในกระถางอย่างแน่นอนค่ะ
- หมั่นสังเกตบริเวณก้นของกระถางต้นไม้ดูค่ะ ถ้าหากว่ามีรากงอกออกมาที่ก้นกระถาง แสดงว่ารากด้านในกระถางนั้นน่าจะมีความกระจุกตัว พันตัวกว่าแสนรอบ จนต้องการหาทางออกมาเติบโต กระถางที่เราปลูกอยู่อาจจะเล็กเกินไปแล้ว ถึงเวลาเปลี่ยนกระถางกันแล้วหล่ะค่ะ
เลือกกระถางให้ต้นไม้ในบ้านอย่างไรดี
ปลูกไม้กระถาง อย่างไรให้งาม ต้นไม่เฉา ใบไม่เหี่ยว
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเปลี่ยนกระถาง
- ดินผสมใบก้ามปู
- เสียมพรวนดิน
- ถุงมือสำหรับทำสวน
- ปุ๋ยออสโมโค้ท ( ปุ๋ยเม็ดละลายช้า )
- กาบมะพร้าวสับ
- สูตรผสมดินสำหรับปลูกไม้กระถางขั้นพื้นฐาน
- วิธีผสมดินและจัดชั้นดินในกระถางแบบไม่ให้มดขึ้น
- สูตรผสมดินสำหรับปลูก กระบองเพชร
ขั้นตอนการเปลี่ยนกระถาง
1 . ก่อนทำการย้ายกระถาง ควรจะเด็ดใบที่แห้ง ๆ ทิ้งไปก่อน จากนั้นใช้กรรไกรตัดกิ่ง ตัดแต่งพุ่มให้อยู่ในฟอร์มที่เราต้องการ ไม่แนะนำให้ใช้มือดึงนะคะ ไม่อย่างนั้นต้นไม้จะเป็นรอยซ้ำ เป็นแผลที่เกิดจากการหักงอที่ไม่คม ทำให้อาการหลังจากการเปลี่ยนกระถางทำให้ต้นไม้ฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น
2 . คว่ำกระถางลงโดยใช้มืออีกข้างหนึ่งจับโคนต้นไว้ และกุมดินบริเวณปากกระถางไปพร้อม ๆ กัน ส่วนอีกมือใช้นิ้วโป้งดันดินออกมาทางรูที่บริเวณก้นของกระถาง
3 . หากต้นไม้ที่เราจะทำการเปลี่ยนกระถางนั้นเป็นกระถางที่มีขนาดใหญ่ การคว่ำและกดที่บริเวณก้นกระถางอาจจะใช้ไม่ได้ผล เพราะดินปลูกเดิม อาจจะอัดตัวกันแน่นจนเกินไป แนะนำให้ใช้ส้อนปลูกอันเล็ก ๆ แซะดินรอบ ๆ ขอบกระถางออกบ้าง หากยังไม่คลายตัวให้รดน้ำลงไปที่บริเวณรอบขอบกระถาง ทิ้งไว้สักครู่เมื่อดินเริ่มอ่อนตัวลงก็ค่อย ๆ ใช้นิ้วดันออกมา
4 . เอียงกระถางลงเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ ดึงต้นไม้ออกมาแบบช้า ๆ แต่หากเป็นกระถางปากแคบมาก ๆ การเปลี่ยนกระถางใหม่นั้นอาจจะต้องใช้กำลังทุบทำลายกระถางเก่าให้แตก (ในกรณีที่ไม่ใช่ของแพงหรือหายากนะคะ ) เมื่อหลุดออกจากกระถางเดิมแล้วให้แซะดินเก่าออกมาบ้าง แต่ไม่ต้องสะอาดหมดจดเหลือติดรากไว้ได้เพียงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับสภาพต้นและรากด้วยนะคะ
5 . นำดินผสมรองก้นกระถางใหม่ โดยใช้ดินผสมใบก้ามปูกับกาบมะพร้าวสับในอัตราส่วน 2 : 1 จากนั้นนำต้นไม้ลงปลูก กลบดิน และกดซ้ำลงไปเบา ๆ ให้ดินแน่นแบบพอดี ๆ กระแทกก้นกระถางลงบนพื้นเบา ๆ เพื่อเพิ่มอากาศในดิน
6. โรยปุ๋ยออสโมโค้ทรอบ ๆ บริเวณโคนต้นประมาณหนึ่งกำมือ จากนั้นรดน้ำตามให้ชุ่ม ในช่วง 1 สัปดาห์หลังการเปลี่ยนกระถางไม่ควรนำต้นไม้ออกไปในที่ ๆ มีแดดจัด วางกระถางไว้ในพื้นที่ ที่มีแดดร่มรำไรก่อนเพื่อเป็นการพักฟื้น