เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier Pro
คุณสมบัติ
- เหมาะสำหรับห้องขนาด 35-60 ตารางเมตร
- ขนาดตัวเครื่องที่ใหญ่ขึ้นและสูงขึ้นกว่ารุ่นแรก และรุ่น 2 ทำให้มีประสิทธิภาพในการทำงานที่เพิ่มขึ้น
- สามารถผลิตอากาศบริสุทธิ์ออกมาได้ถึง 15000 ลิตรต่อนาที (500 ลบ.ม./ชั่วโมง)ในเวลาเพียง 10 นาที สำหรับห้อง 23 ตารางเมตร
- ประหยัดพื้นที่ ด้วยขนาดกะทัดรัด เที่ยบเท่ากระดาษ A4
- ระบบมอเตอร์คู่ DC Brushless กับ 2 .ใบพัด ทำให้สามารถดูดอากาศไม่บริสุทธิ์เข้าสู่ตัวเครื่องได้อย่างรวดเร็ว
- กรองอากาศถึง 3 ขั้นตอน คือ PET Pre-Filter, HEPA-Filter และ Carbon-Filter ที่สามารถกรองฝุ่นที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนได้มากถึง 99.99%
- หน้าจอ OLED ที่ค่อยบอกโหมดการทำงาน, ค่าอากาศ, ความชื้น, อุณหภูมิของห้องนั้นๆ แบบ Real-Time
- ไฟบอกสถานะของค่าอากาศที่รอบจอ OLED
- สีเขียว สถานะดี (2.5<75μg ต่อตารางเมตร)
- สีส้ม สถานะปานกลาง (75<150μg ต่อตารางเมตร)
- สีแดง สถานะแย่ (>150μg ต่อตารางเมตร) - ใช้ตัวเซ็นเซอร์แบบเลเซอร์ สามารถตัวจับค่าอากาศอนุภาคขนาด 0.3 ไมครอน ให้มีความแม่นยำสูงขึ้น และรวดเร็วขึ้น
- เซ็นเซอร์ตัวจับความชื้นและอุณหภูมิของอากาศของห้อง
- โหมด Auto ตัวเครื่องสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศและทำงานโดยอัตโนมัติ
- โหมด Favorite สามารถปรับความแรงของอากาศได้ตามใจผู้ใช้งาน
- โหมด Sleep ตัวเครื่องสามารถทำงานได้อย่างเงียบสนิท
- โหมดล็อค เพื่อป้องกันเด็กมากดเล่น
- ตั้งเวลาเปิด-ปิด ผ่านทางแอพบนสมาร์ทโฟนได้
- สามารถควบคุมและตรวจสอบคุณภาพของอากาศผ่านทางสมาร์ทโฟน
- แจ้งเตือนการเปลี่ยนไส้กรองผ่านทางสมาร์ทโฟน
- สามารถเปลี่ยนไส้กรองได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เปิดฝาหลัง โดยมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มากกว่า 4,000 ชั่วโมง
- การเชื่อมต่อไวไฟ Wifi module 802.11b/g/n
- ประหยัดพลังงาน ใช้ไฟน้อยสุดแค่ 1.5 วัตต์ และสูงสุดเพียง 66 วัตต์เท่านั้น
- แอพรองรับ ทั้ง Android และ iOS
- ขนาด สูง 73.5 x กว้าง 26 x ยาว 26 cm.
- น้ำหนักเบาเพียง 9.7 กก. (รวมไส้กรอง)
คะแนนความพึงพอใจโดยรวม 9.1 เต็ม 10
()
- ราคาถูก
- เซนเซอร์ทำงานรวดเร็ว
- ภายนอกดูทันสมัย มินิมอล
- มีช่องดูดอากาศรอบทิศทาง
- ควบคุมผ่านโทรศัพท์มือถือได้
- ไม่มีเสียงรบกวนการนอนหลับ
- การใช้งานไม่ได้เหมาะกับทุกวัย
- รัศมีตรวจจับของเซนเซอร์แคบ
- การเชื่อมต่อครั้งแรกซับซ้อน
- ไม่มีด้ามจับสำหรับเคลื่อนย้าย
- ต้องมี Wi-Fi ถึงจะใช้ฟังก์ชั่นเสริมได้
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 3C
การใช้ชีวิตในปัจจุบันเต็มไปด้วยความเสี่ยงมากมาย ยิ่งการเดินทางออกจากบ้านยิ่งแล้วใหญ่เพราะนอกจากอากาศที่ร้อนอบอ้าวและรถติดที่กินเวลาหลายชั่วโมงแล้วคุณยังต้องเผชิญกับไวรัสและมลพิษต่าง ๆ ที่แพร่กระจายอยู่ในอากาศ บางคนที่มีความจำเป็นอาจจะต้องพกพาทั้งแอลกอฮอล์ล้างมือ, กระดาษทิชชู่ฆ่าเชื้อ และหน้ากากอนามัย เพื่อความปลอดภัยมากที่สุด ขณะที่บางคนเลือกที่จะทำงานหรือเรียนที่บ้านเพื่อเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเชื้อโรคต่าง ๆ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะปลอดภัยจากไวรัสและฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะคนเป็นภูมิแพ้ที่มีความไวต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและความสะอาดสูงเป็นพิเศษ
เนื่องจากฝุ่นละอองและเชื้อโรคบางชนิดมีขนาดเล็กจนสามารถลอดผ่านระบบกรองอากาศภายในจมูกและเข้าสู่ร่างกายของเราได้ ดังนั้นการสูดอากาศบริสุทธิ์ไร้เชื้อโรคและแบคทีเรียจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงทางด้านสุขภาพของคุณได้เลยค่ะ และอากาศสะอาดบริสุทธิ์สามารถสร้างได้ด้วยเครื่องฟอกอากาศ Xiaomi รุ่น Mi Air Purifier 3C ที่สามารถกำจัดเชื้อโรคในอากาศได้ถึง 99.99% พร้อมมอบอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายทุกครั้งที่สูดลมหายใจ เพิ่มความแข็งแรงให้คุณและคนที่คุณรัก
วีดีโอ ทดลองใช้เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 3C
ความสามารถของเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C
Mi Air Purifier 3C เป็นเครื่องฟอกอากาศที่จะเปลี่ยนอากาศภายในห้องของคุณให้บริสุทธิ์สดชื่นเป็นมิตรต่อร่างกาย เครื่องจะตรวจจับฝุ่นควันและมลพิษในอากาศผ่านทางเลเซอร์เซนเซอร์ที่ติดตั้งอยู่บริเวณกลางตัวเครื่องและแสดงค่าความบริสุทธิ์ของอากาศภายในห้องผ่านหน้าจอ LED แบบเรียลไทม์โดยแบ่งค่าความบริสุทธิ์ของอากาศออกเป็น 3 สีดังนี้
- สีเขียว หมายถึงอากาศภายในห้องมีค่า PM2.5 อยู่ที่ 0 – 75 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ถือว่าอยู่ในระดับที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ คุณสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติ
- สีส้ม หมายถึงอากาศภายในห้องมีค่า PM2.5 อยู่ที่ 76 – 150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร อยู่ในระดับที่ควรเฝ้าระวังเพราะอาจจะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้
- สีแดง หมายถึงอากาศภายในห้องมีค่า PM2.5 อยู่ที่ 150 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรขึ้นไป อยู่ในระดับอันตรายและอาจจะทำให้คุณเกิดความเจ็บป่วยทางด้านร่างกายได้
จากนั้นพัดลมจะดูดอากาศเข้าไปในตัวเครื่องผ่านฟิลเตอร์กรองอากาศที่สามารถดูดอากาศได้รอบทิศทาง และเนื่องจากภายในมีการติดตั้งฟิลเตอร์กรองอากาศ True HEPA Filter ที่มีความละเอียดสูงถึง 3 ชั้น
- ชั้นแรก เป็นแผ่นกรองละเอียดที่จะกรองเส้นผม, ขนสัตว์, ฝุ่น, เชื้อรา หรืออนุภาคขนาดใหญ่ต่าง ๆ
- ชั้นที่สอง จะเป็นแผ่นกรอง True HEPA ที่สามารถกรองเชื้อโรค, แบคทีเรีย, ไวรัส, สารก่อภูมิแพ้, ควัน รวมถึงอนุภาคที่มีขนาด 0.3 ไมโครเมตรขึ้นไปได้สูงสุดถึง 99.97% และอนุภาคขนาด 90 – 100 นาโนเมตรได้ถึง 99.99%
- ชั้นสุดท้าย จะเป็น High-quality activated carbon ที่จะดูดซับสารพิษอย่างฟอร์มัลดีไฮด์, VOCs, ก๊าสพิษ และกลิ่นไม่พึงประสงค์
หลังจากนั้นอากาศบริสุทธิ์จะไหลผ่านท่อและถูกปล่อยออกมาทางพัดลมที่ติดทั้งอยู่บริเวณด้านบนของตัวเครื่อง กระบวนการทั้งหมดจะเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็วและแม่นยำจากการตรวจจับของเลเซอร์เซนเซอร์โดยมีอัตราการฟอกอากาศถึง 320 ลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมงหรือ 5330 ลิตร/นาทีสำหรับห้องขนาด 106 ตารางเมตรและมีเสียงดังเพียง 30.5 – 61 เดซิเบล
นอกจากความสามารถฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงแล้ว อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ทำให้ Mi Air Purifier 3C โดดเด่นและน่าสนใจคือระบบการควบคุมแบบอัจฉริยะ คุณสามารถเชื่อมต่อและควบคุมเครื่องฟอกอากาศผ่านสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์หรือการตั้งค่าเปิด – ปิดแบบอัตโนมัติ และที่สำคัญคือ Mi Air Purifier 3C รองรับการสั่งงานผ่านระบบเสียงไม่ว่าจะเป็น Google Assistant หรือ Alexa เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและลดการสัมผัส
ข้อมูลจำเพาะด้านเทคนิคของเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi Mi Air Purifier 3C
วิธีใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C
วิธีการใช้งานถือว่าง่ายและไม่ซับซ้อนเลยค่ะ ภายในกล่องจะประกอบด้วยพัดลมฟอกอากาศและไส้กรองอากาศที่ถูกบรรจุอยู่ภายในช่องอากาศ ด้านหลังจะเป็นเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่นละอองและสายไฟ เพียงแค่คุณนำตัวเครื่องออกจากกล่องและเสียบปลั๊กไฟแล้วกดปุ่มที่ติดตั้งอยู่บริเวณด้านขวาล่างของตัวเครื่องเพื่อเปิดเครื่อง จากนั้นเครื่องจะเข้าสู่โหมดการทำงานอัตโนมัติ หากคุณต้องการเปลี่ยนโหมดเพียงแค่กดปุ่มเดิมหนึ่งครั้งเครื่องจะเข้าสู่โหมดกลางคืนและโหมดกำหนดเองตามลำดับ ส่วนการปิดเครื่องทำได้โดยการกดปุ่มเดิมค้างไว้ 2 วินาที เครื่องจะส่งเสียง ปิ๊บ หนึ่งครั้งและปิดเครื่องโดยทันที สำหรับปุ่มบริเวณซ้ายล่างจะเป็นปุ่มสำหรับรีเซตหน้าจอและตัวรับ Wi-Fi ค่ะ
วิธีการใช้งาน Mi Air Purifier 3C ผ่านแอปพลิเคชั่น
คุณสามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C จากระยะไกลได้ด้วยแอปพลิเคชั่น Mi Home ที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android โดยขั้นตอนแรกคุณจะต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่นลงบนโทรศัพท์มือถือของคุณก่อนค่ะ หน้าแรกของแอปพลิเคชั่นจะให้คุณเลือกกดเข้าสู่ระบบและกดสมัครเข้าใช้งาน (ตามรูปที่ 1) หากคุณเป็นสมาชิกและใช้สินค้าของแบรนด์ XiaoMi อยู่แล้วก็สามารถกดเข้าสู่ระบบได้ทันที แต่หากยังไม่ได้เป็นสมาชิกคุณสามารถเลือกสมัครผ่านเฟสบุ๊ค, อีเมล หรือเบอร์โทรศัพท์ได้ค่ะ
หลังจากเข้าสู่ระบบได้แล้ว หน้าแรกของแอปจะยังว่างเปล่าเพราะเรายังไม่ได้เชื่อมต่อกับเครื่องฟอกอากาศค่ะ ดังนั้นขั้นตอนแรกเราจะกดเพิ่มอุปกรณ์ก่อน (ตามรูปที่ 2) ขั้นตอนนี้ควรจะตรวจสอบให้แน่ใจว่าเพื่อน ๆ ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi 2.4GHz และเปิด Bluetooth เรียบร้อยแล้วนะคะ จากนั้นระบบจะให้เรากรอกรหัสผ่าน Wi-Fi เพื่อให้เครื่องฟอกอากาศสามารถทำงานแบบออนไลน์ได้ (ตามรูปที่ 3) หลังจากนั้นจะเริ่มทำการเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือของคุณกับเครื่องฟอกอากาศ ระบบจะมีหน้าจออธิบายวิธีการมาให้ โดยคุณจะต้องกด 2 ปุ่มด้านล่างพร้อมกันค้างไว้ประมาณ 5 วินาที หรือจนกว่าจะได้ยินเสียง ปิ๊บ 3 ครั้ง จากนั้นกดติ๊กถูกในวงกลมเพื่อยืนยันการทำงานแล้วกดต่อไป (ตามรูปที่ 4)
หลังจากเชื่อมต่อได้แล้วระบบจะเริ่มทำการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติและใช้เวลาเพียง 1 – 2 นาทีเท่านั้นค่ะ (ตามรูปที่ 5) หลังจากเชื่อมต่อเสร็จเรียบร้อยแล้วระบบจะให้คุณเลือกตั้งชื่ออุปกรณ์และสถานที่ติดตั้ง (ตามรูปที่ 6-7) ตามต้องการเพื่อความสะดวกในกรณีที่คุณมีเครื่องฟอกอากาศหรืออุปกรณ์หลายเครื่อง จากนั้นจะมีปุ่มให้คุณกดยืนยันข้อตกลงและเงือนไขในการบริการอีกครั้งก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ ซึ่งอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อแล้วจะมีคำสั่งลัดขึ้นที่หน้าแรกของแอปพลิเคชั่นโดยคุณสามารถตรวจสอบคุณภาพอากาศ, เปลี่ยนโหมด และควบคุมการทำงานของเครื่องฟอกอากาศได้ที่ปุ่มนี้ (ตามรูปที่ 8)
การแชร์อุปกรณ์กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่น คุณสามารถควบคุมเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C ผ่านสมาร์ทโฟนหลายเครื่องพร้อมกันได้ โดยทุกเครื่องจะต้องติดตั้งแอปพลิเคชั่น Mi Home และมีบัญชีผู้ใช้เรียบร้อยแล้ว โดยสามารถกดไปที่คำสั่งลัดของอุปกรณ์ที่ปรากฎที่หน้าแรกตามด้วยจุดสามสุดบนซ้ายมือ กด Share Device แล้วกรอกอีเมลหรือหมายเลขบัญชี Mi Home ของสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งเครื่องลงไปแล้วกด OK เพื่อส่งลิงก์ไปยังเครื่องปลายทาง (ตามรูปที่ 9-12) จากนั้นเปิดแอปพลิเคชั่นที่เครื่องปลายทาง กดกล่องข้อความและกด Accept เพื่อเป็นการยืนยันการเข้าถึงเครื่องฟอกอากาศก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สามารถใช้งานได้แล้วค่ะ
การเปลี่ยนภาษา สำหรับการตั้งค่าภาษาสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม Profile บริเวณขวาล่างของหน้าจอ จากนั้นกด Settings เลื่อนลงมาจนเจอกับคำว่า Language กดเข้าไปแล้วเลื่อนหาภาษาไทยแล้วกดบันทึก ระบบจะประมวลผลแล้วเปลี่ยนภาษาภายในแอปพลิเคชั่นเป็นภาษาไทยให้คุณโดยอัตโนมัติค่ะ (ตามรูปที่ 13-16)
รีวิว การใช้งานเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C
→ ลักษณะภายนอก
มาเริ่มต้นกันตั้งแต่กล่องบรรจุก่อนเลยค่ะ สำหรับกล่องจะเป็นทรงสูงตามลักษณะของตัวเครื่อง ภายนอกมีการพิมพ์รูปภาพ, รุ่น และจุดขายต่าง ๆ เอาไว้อย่างครบถ้วนรวมไปถึงโลโก้ของแบรนด์ ด้านบนมีพลาสติกสำหรับถือช่วยเพิ่มความสะดวกในการขนย้ายได้ดีทีเดียวค่ะ หลังจากแกะกล่องออกมาแล้วด้านบนจะเป็นโฟมกันกระแทกที่หุ้มส่วนบนของตัวเครื่องไว้พร้อมกับหนังสือคู่มือหนึ่งเล่มหนา ๆ (ตอนดึงตัวเครื่องออกจากกล่องนี่ขอบอกว่าลุ้นมากเพราะกลัวน้องจะพัง 😱) เราแนะนำให้แกะจากด้านล่างแล้วดึงกล่องขึ้นจะง่ายกว่าค่ะ
ถัดมาเป็นตัวเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C ที่มาในรูปทรงสูงโปร่งพร้อมกับการออกแบบในโทนสีขาวสไตล์มินิมอล ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกเพิ่มความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น หลังจากได้เห็นหน้าตาเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้แล้วบอกตรง ๆ ว่าชอบมากค่ะ น้องมีการออกแบบที่เรียบ ๆ แต่ดูดี ด้านบนเป็นพัดลมเป่าอากาศพร้อมปุ่มเล็ก ๆ สองปุ่ม ส่วนด้านหน้าเป็นหน้าจอ LED กลม ๆ เล็ก ๆ และด้านล่างจะเป็นกล่องที่เจาะรูเอาไว้ทั้ง 4 ด้านเพื่อช่วยในการดูดอากาศแบบรอบทิศทางและมีฟิลเตอร์กรองอากาศบรรจุอยู่ภายในจ้า
→ อุปกรณ์ภายในกล่อง
มาเช็กดูอุปกรณ์ภายในกล่องอย่างละเอียดกันบ้างดีกว่า อย่างที่บอกไปแล้วว่าเปิดกล่องมาก็จะมีหนังสือคู่มีหนึ่งเล่มและเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C แต่หลังจากเปิดดูคู่มือเล่มโตดูคร่าว ๆ แล้วก็พบว่าไม่ค่อยจะมีอะไรสักเท่าไหร่ค่ะ ภายในจะมีวิธีการใช้งานและการดูแลรักษาคร่าว ๆ พร้อมกับเงื่อนไขการประกันต่าง ๆ ที่มันหนาก็เพราะมีการแปลมาให้ถึง 10 ภาษา
ในส่วนของเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C ก็จะมีลักษณะเป็นกล่องทรงสูง ลองวัดดูแล้วมีขนาดแค่ 24 X 24 X 52 เซนติเมตรเท่านั้นเองค่ะ ความกว้างเล็กกว่ากระดาษ A4 อีกนะเนี่ย ตัวเครื่องประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ส่วนแรกจะเป็นใบพัด, มอเตอร์, หน้าจอ ส่วนเซนเซอร์ และสายไฟที่ถูกรวมเอาไว้บริเวณด้านหนัง สำหรับสายไฟเป็นแบบไม่มีขากราวด์ มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร ถือว่าค่อนข้างยาวใช้ได้แต่แอบเสียดายที่ไม่มีที่เก็บสายไฟมาให้ด้วย ด้านล่างจะมีแค่ผนังกรองอากาศที่เจาะรูทั้ง 4 ด้าน และฟิลเตอร์กรองอากาศอยู่ภายใน ล่างสุดจะเป็นฐานที่ติดซิลิโคนกันลื่นมาให้เรียบร้อย ลองลาก ๆ ดูแล้วติดหนึบมาก รับรองว่าไม่ลื่นไหลแน่นอน
→ ฟิลเตอร์ True HEPA Filter
แผ่นกรองที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาเพราะนี่คือแผ่นกรอง True HEPA Filter เชียวนะคะ ความพิเศษของแผ่นกรองรุ่นนี้คือมีการกรอง 3 ชั้น แต่ละชั้นก็มีการดักเอาฝุ่นหรือไวรัสที่มีอนุภาคเล็กลงเรื่อย ๆ ตามลำดับ จะเป็น Corona virus หรือ H1N1 virus ก็ไม่รอดแน่นอนเพราะน้องมีประสิทธิภาพในการกรองสูงถึง 99.99% เลยจ้า แต่แค่นั้นยังไม่พอเพราะเรายังสามารถถอดแผ่นกรองไปล้างทำความสะอาดแล้วนำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกด้วย โดยเราสามารถเช็กคุณภาพของแผ่นกรองได้จากแอปพลิเคชั่นหรือเครรื่องหมายที่ปรากฏบนหน้าจอของเครื่องค่ะ
ทดสอบประสิทธิภาพ เครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C
→ ความดังของเสียง
เสียงรบกวนคือสิ่งที่เราคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักจะเปิดใช้งานเครื่องฟอกอากาศในเวลากลางคืนและเสียงการทำงานที่ดังมากจนเกินไปอาจจะรบกวนการนอนกลับได้ ดังนั้นถึงแม้ทางแบรนด์จะมีการเคลมมาแล้วว่าเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C มีเสียงการทำงานที่เบาราวกับหนูตัวน้อย เราก็จะทำการวัดระดับเสียงอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ โดยเครื่องจะแบ่งการทำงานออกเป็น 3 โหมด ดังนี้
- โหมดอัตโนมัติ วัดค่าได้ประมาณ 25.4 เดซิเบล แทบจะไม่ได้ยินเสียงการทำงานแต่เมื่อยื่นมือไปอังบริเวณใบพัดด้านบนจะรู้สึกได้ถึงแรงลมอ่อน ๆ
- โหมดกลางคืน วัดค่าได้ประมาณ 25.2 เดซิเบล โหมดนี้เงียบกริบจนได้ยินเสียงยุงเลยค่ะ แรงลมยังคงพัดอ่อนเหมือนโหมดอัตโนมัติ
- โหมดกำหนดเอง วัดค่าได้ประมาณ 45.8 เดซิเบล โหมดนี้จะมีลมแรงและมีเสียงดังพอประมาณค่ะ
→ ความสามารถในการดูดฝุ่น
ในการทดสอบครั้งนี้เราใช้แป้งฝุ่นเทลงบนผ้าแล้วสะบัดบริเวณตัวเครื่องเพื่อใช้แทนฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ ก่อนเริ่มการทดสอบเราจะตั้งค่าเครื่องไว้ในโหมดอัตโนมัติ ซึ่งเป็นโหมดเริ่มต้น คุณภาพอากาศอยู่ที่ 1 – 5 µg/m³ แถบสีเป็นสีเขียว หลังจากเริ่มสะบัดผ้าตัวเลขบนหน้าจอจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยและแถบสีเปลี่ยนเป็นสีส้มและแดงตามลำดับแต่เครื่องยังเงียบและไม่มีเสียงใบพัด เครื่องใช้เวลา 46 วินาทีโดยประมาณในการกรองอากาศก่อนที่ตัวเลขจะลดลงสู่หลักสิบและแถบสีเปลี่ยนกลับมาเป็นสีเขียวเหมือนก่อนเริ่มการทดสอบค่ะ
ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอากาศรอบ ๆ ห้องอาจจะยังฟอกไม่ทั่วถึง แต่ด้วยเซนเซอร์ที่ตรวจจับนั้นค่อนข้างวัดได้ในระยะรัศมีที่ไม่ไกลมากนัก จึงทำให้เครื่องกลับสู่สภาวะปกติ และจะตรวจจับฝุ่นรอบใหม่ในเวลาอันรวดเร็ว จากนั้นก็ทำการฟอกอากาศแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ค่ะ
→ ความสามารถในการดูดควัน
ในส่วนของการทดสอบความสามารถในการดูดควันเราจะเปลี่ยนมาใช้กำยานที่มีทั้งกลิ่นและควันที่เห็นได้อย่างชัดเจน ก่อนเริ่มการทดสอบเราตั้งค่าตัวเครื่องไว้ที่โหมด A และมีค่า PM2.5 อยู่ในระดับไม่เกิน 5 µg/m³ แถบสีเป็นสีเขียวเหมือนเดิมค่ะ
หลังจากเรานำกำยานมาวางไว้บริเวณด้านหน้าก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยหลังจากเซนเซอร์ตรวจจับควันได้ตัวเลขบนหน้าจอจะเพิ่มสูงขึ้นจนถึงหลักร้อยปลาย ๆ และแถบสีเปลี่ยนเป็นสีแดง จากนั้นควันจะถูกดูดเข้าตัวเครื่องอย่างเห็นได้ชัดเจน ตัวเครื่องเข้าสู่โหมด Manual มีเสียงดังและหมุนด้วยความเร็วสูง แต่เมื่อควันกำยานเปลี่ยนทิศทางออกนอกรัศมีเซนเซอร์เครื่องจะเริ่มลดระดับของพัดลมในการฟอกอากาศ ซึ่งแถบสีและค่า PM2.5 ค่อย ๆ ลดลงและกับมาพุ่งสูงเมื่อควันลอยเข้ารัศมีเซนเซอร์อีกครั้ง
เครื่องฟอกอากาศกินไฟแค่ไหน
เครื่องฟอกอากาศ Xiaomi 3C กินไฟไหม
เครื่องฟอกอากาศเปลืองไฟไหม
เครื่องฟอกอากาศ Sharp กินไฟกี่วัตต์
คุณสมบัติ (-) | |
สี | ฟ้า |
แรงดันไฟฟ้า / ความถี่กระแสไฟฟ้า (โวลต์/เฮิรตซ์) | 220/50 |
กำลังไฟฟ้า (วัตต์) (สูง/กลาง/ต่ำ) | 50 / 30 /13 |
กำลังไฟฟ้าในโหมาเตรียมพร้อมใช้งาน (วัตต์) | 1.0 |