ปรมาจารย์ลัทธิมาร nc แปลไทย

มังงะแปลไทยค่ะ เริ่มตั้งแต่ตอน 42 //m.facebook.com/story.php?story_fbid=1932726233484510&id=1576429235780880&...

Posted by ปรมาจารย์ลัทธิมาร on Tuesday, December 11, 2018

เมื่อเว่ยอู๋เซี่ยนพูดจบ บรรยากาศโดยรอบเขานั้นก็ดูพลันจะนิ่งเงียบขึ้นมาฉับพลัน แต่หากผู้ที่เขาต้องการให้สนใจได้ยินนั้นกลับไม่ไหวติงกับคำพูดเช่นนั้นหรือไม่สักนิด เว่ยอู๋เซี่ยนไม่รู้ว่าเขาเข้าใจสิ่งที่ตนพูดหรือไม่ ฉะนั้นแล้วเขาจึงผละออกจากใบหน้าของคนตรงหน้าเพียงเล็กน้อย บังคับให้สายตาของเขานั้นสบกับตนเอง 

"พี่รองหลาน ข้าจะข่มขืนเจ้า" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดต่อและเน้นเสียงหนัก "พี่รองหลาน หลานวั่งจี หานกวงจวิน เจ้าได้ยินหรือไม่ว่าข้าจะข่มขืนเจ้าน่ะ เช่นนั้นแล้วทำไมท่านจึงยังนิ่งเฉยได้อยู่อีก?" 

"...." หลานวั่งจีได้ยินเช่นนั้นก็ละจากหนังสือที่อ่านแล้วเงยหน้าขึ้นมองสบเขาทันที "ทำอย่างไร?" 

"หา?" 

"เจ้าจะทำอย่างไร" หลานวั่งจีเอ่ยถาม  

คำถามเหล่านั้นทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ได้แต่มองเขาด้วยท่าทีที่เลิ่กลั่กไปมา พลันใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีแดงระเรื่อ หลานวั่งจีเห็นเช่นนั้นก็ถามคำถามเดิมอีกครา "เว่ยอิง เช่นนั้นเจ้าจะทำอย่างไร" 

"อะ เอ่อ... คือว่าข้า..." 

"...." 

"ขะ ข้าก็จะจับเจ้าถอดเสื้ออย่างไรล่ะ!" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพลางก้าวข้ามโต๊ะไปแล้วผลักให้เขานอนแนบลงกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมร่างกายของคนตรงหน้า "ชะ ใช่แล้ว! แบบนี้ยังไงล่ะ!!" 

เมื่อเว่ยอู๋เซี่ยนพูดจบ เขาก็ปลดเสื้อคนตรงหน้าออก เผยให้เห็นลำคอที่นวลผ่อง เว่ยอู๋เซี่ยนลอบกลืนน้ำลายไปชั่วครู่ ก่อนที่จะกลั้นใจระดมจูบเขาไปทั่ว จากต้นคอ ไล้ไปยังบริเวณไหปลาร้า และลูกกระเดือก แต่หากคนตรงหน้านั้นกลับไม่ไหวติง นอนแน่นิ่งราวกับศพ พลางจ้องมองการกระทำของเขาอย่างนิ่งเฉย 

ไม่นานเว่ยอู๋เซี่ยนที่ไม่มีว่าจะมีท่าทีที่ฝ่ายตรงข้ามนั้นขัดขืนเลยสักนิด กลับกัน เขาอาจจะนึกชอบใจที่เขาทำเช่นนี้แล้วยิ้มย่องอยู่ในใจก็เป็นได้ พอเห็นท่าทีเช่นนั้นแล้วเขาก็เริ่มหมดอารมณ์ปล่อยต้นคอของคนตรงหน้าให้เป็นอิสระแล้วลุกขึ้นนั่งบนตัวของเขาตามเดิม พลางไตร่ถามในสิ่งที่สงสัย 

"หานกวงจวิน เหตุใดเจ้าจึงไม่ขัดขืนแม้แต่น้อย หากเจ้านิ่งเฉยยอมให้ข้าลวนลามเจ้ากลับเช่นนี้แล้ว เช่นนั้นจะเรียกมันว่าข่มขืนได้อย่างไรกัน ในเมื่อก็เห็นๆอยู่ว่าเจ้าสมยอมถึงเพียงนี้น่ะ!"  

เมื่อได้ยินประโยคเช่นนั้นจากเขา หลานวั่งจีก็ลุกขึ้นมาจัดผ้าผ่อนของตนเองให้เรียบร้อย จากนั้นก็ใช้สองมือโอบเอวคนตรงหน้าหลวมๆโดยที่เขาไม่ทันได้สังเกตก่อนที่จะพูดต่อ "เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าทำอย่างไร" 

"หลานจ้าน ฟังนะ! หากข้าข่มขืนเจ้า สิ่งแรกที่เจ้าเพียงกระทำคือ เจ้าต้องดิ้นรนแล้วผลักข้า ไม่ให้ข้าลวนลามเจ้า ทำร้ายข้า หรืออะไรก็ตามที่สามารถผลักข้าออกจากตัวของเจ้าได้ เจ้าเข้าใจหรือไม่กัน"  

เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพลางหลับตาแล้วกอดอกแนะนำเขาต่อโดยที่ไม่ได้ล่วงรู้ถึงสิ่งที่ตามมาเลยสักนิด "และในขณะเดียวกันเจ้าจะต้องร้องขอความช่วยเหลือดังๆด้วย" 

"แต่อวิ๋นเซินปู้จือชู่ห้ามส่งเสียงดัง" หลานวั่งจีกล่าวพลางปลดเข็มขัดเขาไปด้วย "เจ้าก็รู้" 

"เช่นนั้นเจ้าก็ร้องความช่วยเหลือเบาๆในระดับที่ไม่ผิดกฎต่อตระกูลของเจ้าก็ได้" เว่ยอู๋เซี่ยนพูด ทันใดนั้นเข็มขัดของเขาก็ถูกปลดออกพลางวางไว้ข้างตัว แต่หากเขากลับไม่สังเกตเห็นเลยแม้สักนิด "และเมื่อข้าเปลื้องผ้าเจ้าออก เจ้าก็ควรพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะขัดขืนและ... หืม? เหตุไฉนเข็มขัดของข้าจึงลงไปกองอยู่ที่พื้นได้กัน?" 

"ฟังดูยาก" หลานวั่งจีกล่าวราวไม่สนใจที่เขาพูด "เจ้าอยากทำเช่นนั้นหรือ" 

"หลานจ้าน เจ้าอย่ามาพูดบ่ายเบี่ยงประเด็น การที่เข็มขัดของข้าลงไปกองอยู่ที่พื้นเช่นนี้ เดาว่าเจ้าอยากเป็นฝ่ายที่จะข่มขืนข้าแทนงั้นสินะ" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพลางใช้นิ้วชี้เชิดไปที่คางของเขา "ถ้างั้นก็ย่อมได้ เช่นนั้นพวกเราก็เปลี่ยนกัน ให้เจ้าข่มขืนข้าแทนและ... โอ๊ะ!" 

สิ้นเสียงนั้นหลานวั่งจีก็ผลักเว่ยอู๋เซี่ยนให้นอนแนบกับโต๊ะทันที จากที่เขาถูกคนตรงหน้าขึ้นคร่อมอยู่เมื่อครู่ ไม่นานตำแหน่งเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปแทบจะทันที เหมือนกับว่าเขากำลังรอให้โอกาสเหล่านี้มาถึงนานแล้วเสียอย่างนั้นก็ไม่ปาน แต่สุดท้ายเขาก็หยุดนิ่งสักพัก เหมือนกับรออะไรบางอย่างไม่ก็แกล้งหยอกเขาเล่นแล้วพูดต่อ 

"ทำอย่างไรต่อ" หลานวั่งจีเอ่ยถาม 

"ทำอย่างไรน่ะเหรอ... ก็ข่มขืนข้าไง" เว่ยอู๋เซี่ยนตอบ  

"แล้วเหตุใดจึงไม่ขัดขืนอย่างที่เคยกล่าว"  

ใช่แล้ว แม้เว่ยอู๋เซี่ยนจะบอกให้เขาข่มขืนตนก็ตาม แต่หากขาทั้งสองข้างเขากลับอ้าออกเสียอย่างนั้น ไม่พอเขายังใช้ขาอีกข้างที่ว่างอยู่ถูไถไปมากับส่วนล่างที่อ่อนยวบอยู่ แต่หากเพราะการยั่วยวนโทสะของคนตรงหน้า ไม่กี่วินาทีต่อมา ส่วนล่างที่อ่อนยวบนั้นก็กลับมาแข็งขืนอย่างทุกครั้งที่พวกเขาเคยมีอะไรกัน 

"ทำอย่างไรได้ล่ะ ในเมื่อพอหานกวงจวินผลักข้า กดข้าลงเช่นนั้นแล้ว ร่างกายของข้าก็รุ่มร้อนและสั่นเทิ้มไปหมด ทั้งขาของข้ายังอ้าออกเองก่อนที่ข้าจะรู้ตัวเสียอีก หากเป็นอย่างนี้แล้วข้าจะเอาแรงที่ไหนมาขัดขืนกัน"  

เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพลางยิ้มย่องในใจ ก่อนที่จะใช้ขาทั้งสองนั้นเกี่ยวไปที่หลังของเขา แล้วชักนำให้เขาโน้มกายลงมามากขึ้น เพื่อให้เขานั้นได้กระซิบที่ข้างใบหูอย่างที่ตั้งใจแต่ทีแรก "หานกวงจวิน เจ้าว่ายาก ข้าเองก็ว่ายากเช่นกัน" 

เมื่อได้ยินเช่นนั้นหลานวั่งจีก็ยกยิ้มที่มุมปากก่อนที่จะพูดต่อ "เช่นนั้นเจ้าอยากให้ข้าทำเช่นไร" 

"จูบข้าสิ" เว่ยอู๋เซี่ยนพูด พลางขบกัดไปที่ติ่งหูของเขาแล้วโลมเลียมันเบาๆ ราวกับกำลังยั่วยวนเขาก็ไม่ปาน "จูบข้า... จากนั้นก็ทำสิ่งที่เจ้าอยากทำ ทำตามที่เจ้าปรารถนา เจ้าเข้าใจหรือไม่" 

"อืม" 

เมื่อพูดจบลิ้นร้อนๆของหลานวั่งจีก็โลมเลียไปรอบที่ใบหูของเขาอย่างหยอกล้อ เขาทั้งเม้มและขบกัดมันเล่นราวกับกำลังลิ้มรสรสของขนมหวานที่เลิศรสอยู่ก็ไม่ปาน แน่นอนว่าเพียงแค่จูบนั้นไม่เพียงพอแต่ความต้องการของเขาในตอนนี้ได้อย่างแน่นอน  

ดังนั้นแล้วหลานวั่งจีจึงพ่นลมหายใจออกไประที่ข้างใบหูของเขาทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนนั้นสะดุ้งเฮือกทันที "อ๊ะ!" 

ร่างกายของเว่ยอู๋เซี่ยนนั้นทั้งรุ่มร้อนและสั่นเทิ้มไปหมด ในหัวของเขาเริ่มคิดอะไรไม่ออก สิ่งที่คนตรงหน้าทำนั้นช่างอบอุ่นและนุ่มนวล ความรู้สึกเช่นนั้นเป็นความรู้สึกที่เขานั้นไม่ได้สัมผัสมานาน 

...ราวกับโลกนี้มีเพียงแค่พวกเขาอยู่กันเพียงลำพังเท่านั้น... 

"ฮืื่ออออ!"  

แผ่นอกของเขานั้นเด้งรับกับสัมผัสของคนตรงหน้าได้เป็นอย่างดี ลมหายใจที่ถี่และแรงนั้นทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนแทบจะหายใจไม่ออก ริมฝีปากของเขานั้นพะงาบขึ้นๆลงๆราวกับต้องการอะไรบางอย่างที่มากยิ่งกว่านั้น 

"หลานจ้าน... พอแล้ว หยุดเล่นกับใบหูของข้าเสียที..." เว่ยอู๋เซี่ยนพูดหยาดน้ำสีใสนั้นร่วงหล่นออกจากนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาอย่างจนใจ "ข้าบอกให้เจ้าจูบข้ามิใช่หรือ แล้วไยจึงทำกับข้าเช่นนี้กัน..." 

"นั้นเป็นการทำโทษ" หลานวั่งจีกล่าว "ทำโทษ... ที่ไม่ฟังคำสั่งให้จัดเก็บหอคัมภีร์ให้เรียบร้อย" 

"แต่ถึงแบบนั้นก็เถอะ วิธีการของเจ้ามันออกจะเกินไปเสียหน่อยนะและ... เอ๊ะ!"  

จู่ๆเว่ยอู๋เซี่ยนก็สัมผัสได้ถึงสัมผัสที่คุ้นเคยจากภายใต้ร่มผ้าขาวบางจากกายของคนตรงหน้า บัดนี้แก่นกายของเขานั้นได้แข็งขืนอย่างเต็มที่ อีกทั้งเว่ยอู๋เซี่ยนที่ก็นั่งทับอยู่ตรงบริเวณส่วนนั้นเข้าพอดี ดังนั้นเขาจึงรู้สึกถึงไอความร้อนที่กำลังคุกกรุ่นอยู่ที่ใต้ร่มผ้าขาวบางที่เขากำลังนั่งทับอยู่ในขณะนี้ 

...ไอความร้อนที่แทบจะหลอมละลายเขาไปทั่วทั้งตัว... 

"ละ หลานจ้าน... อ๊ะ...!" 

หลานวั่งจีไม่ทันทำอะไรมากไปกว่าการจูบไปใบหูของเขาเลย แต่หากเว่ยอู๋เซี่ยนนั้นกลับความรู้สึกไวไปก่อนเสียแล้ว นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าพวกเขานั้นไม่ได้ทำกันมานานแล้วก็เป็นได้ เพราะหลังจากที่เกิดคดีนั้น ทุกวันคือทุกวัน ของพวกเขานั้นก็ลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด นั้นจึงทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนนั้นมีความรู้สึกมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม 

และถึงแม้ร่างกายของเขานั้นจะเรียกร้องให้สนองตัณหาถึงเพียงไรก็ตาม แต่หากหลานวั่งจีกลับไม่กระทำการสิ่งใดต่อจากนี้เลย สิ่งที่เขาทำนั้นอย่างมากมีเพียงแค่จูบเขาวกวนไปมาเพียงเท่านั้น 

ริมฝีปากของหลานวั่งจีนั้นเลื่อนไล้ลงจากเดิมที่เคยอยู่ที่ใบหูเป็นขบกัดริมฝีปากอันอ่อนนุ่มของคนตรงหน้าเดี๋ยวเบาเดี๋ยวแรง ปลายลิ้นนั้นก่อกวนวกวนอยู่ในโพรงปากจนทำให้คนตรงหน้านั้นแทบหายใจไม่ทัน และพอจะเบี่ยงศีรษะหนีได้หน่อยเดียวก็กับถูกจับให้หันข้างกลับมาจุมพิตให้ลึกล้ำยิ่งขึ้นไปอีก 

เว่ยอู๋เซี่ยนในตอนนี้นั้นแทบจะขาดอากาศหายใจตายคาอกของคนตรงหน้า โดยไม่ทันสังเกตเห็นแววตาที่กำลังลุกโชนนั้นกำลังลุกวาบสะท้อนอยู่ในนัยน์ตาทั้งสองข้างของเขาเลยแม้แต่น้อย ไม่มีสถานที่ใดที่จะให้เขาหนีได้อีก ทางด้านหลังของเขานั้นก็มีโต๊ะมาขวางกั้นเขาเอาไว้อยู่ ทั้งแก่นกายของตนที่ถูกคนตรงหน้านั้นปรนเปรอเป็นอย่างดี 

เว่ยอู๋เซี่ยนถูกคนตรงหน้านั้นชักนำให้ตามจังหวะรักของเขาไปเรื่อยๆ จนในที่สุดมือทั้งสองข้างของเขาก็เอื้อมไปยึดคอหลานวั่งจี จากนั้นขาทั้งสองของเขาก็อ้าออกไปเองตามสัญชาตญาณดังที่เขาเคยกล่าวเอาไว้ แล้วปล่อยใจของตนเองไปกับอารมณ์รักพิศวาสเช่นนี้ เขาหาได้รู้สึกตัวเลยว่าเสื้อผ้าของตนเองนั้นได้ถูกถกออกไปตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มีเพียงร่างกายที่ท่อนบนที่เปลือยเปล่าจนสิ้นแล้ว 

ใช่แล้ว สิ่งนั้นคือการทำโทษอย่างที่หลานวั่งจีกล่าวไว้ และนั้นก็เป็นการทำโทษที่ทรมานใจเขามากเลยทีเดียว แม้นอยากจะให้คนตรงหน้านั้นสอดใส่เข้ามาอย่างที่ใจต้องการมากแค่ไหนก็ตาม แต่หากทุกอย่างนั้นก็ติดเพียงแต่ผ้าขาวบางที่คนต้องหน้านั้นสวมใส่เพียงเท่านั้น นั้นทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนถึงกับกัดฟันข่มใจตนเองอย่างทุกข์ทรมาน 

"เว่ยอิง" เมื่อเห็นคนตรงหน้านั้นมีสีหน้าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกมากเพียงไร หลานวั่งจีก็ยิ่งได้ใจโน้มกายเขาเข้าชิดใกล้ แล้วเพียงกระซิบที่ใบหูของเขาอย่างเร้าอารมณ์ "เหตุใดจึงไม่ฟังคำข้า" 

"ขะ ข้า... อื้ม!"  

ทุกครั้งที่จะเอ่ยคำพูดใดใดออกมา คนตรงหน้าก็จะใช้นิ้วของตนเองบีบคลึงที่อกของคนตรงหน้าเล่น พลางใช้ลิ้นร้อนๆนั้นโลมเลียยั่วยุบังคับให้เขาตอบคำถามตน แล้วใช้นิ้วอีกข้างที่เหลือสอดไปที่ข้างในสีกุหลาบนั้นจากหนึ่งเป็นสอง พลางเอ่ยถามคำถามที่คนตรงหน้านั้นยากที่จะตอบอีกครา 

"ว่าอย่างไรล่ะ?" 

"ขะ ข้าเข้าใจแล้ว... อึ่ก! เข้าใจแล้ว..."  

เมื่อนิ้วที่สามถูกสอดใส่เข้าไปยังจุดซ่อนเร้นที่เสียวกระสัน เว่ยอู๋เซี่ยนก็แทบจะพูดออกมาไม่เป็นภาษา ได้แต่ตัวสั่นเทาอยู่บนตักของเขา ราวกับกระต่ายน้อยที่กำลังจะถูกหมาป่าห่อที่กำลังหุ้มหนังแกะอยู่จับกินก็ไม่ปาน "ตะ ต่อจากนี้ข้าจะฟังเจ้า... อ๊ะ! จะฟังคำเจ้าทุกสิ่ง ไม่ดื้อ ไม่ซน ไม่หยอกล้อเจ้าเล่นเช่นนี้อีก... อื้ม!" 

"ดี" และเมื่อได้ยินคำพูดที่พึงพอใจหลานวั่งจีก็ชักนิ้วของตนเองออกมาทันที 

อันที่จริงแล้วหมาป่าที่อยู่ในคราบหนังแกะนั้นอาจจะไม่ใช่หลานวั่งจี แต่เป็นเว่ยอู๋เซี่ยนก็เป็นได้ ฉะนั้นแล้วเมื่อเห็นเขาปลดชายผ้าของตนเองออกไปแล้วกองเอาไว้อยู่ด้านข้าง เว่ยอู๋เซี่ยนก็นึกยิ้มย่องในใจว่า คนตรงหน้านั้นเผลอติดกับดักที่ตนพูดหว่านล้อมไปเสียแล้ว  

ใช่แล้ว แม้นเขาจะบอกว่า เข้าใจ มากแค่ไหนก็ตาม แต่แท้จริงแล้วล้วนเป็นคำปดทั้งสิ้น เป็นคำหวานที่หยอกล้อให้แมลงมาดอมดม แต่หากสิ่งที่เขาคิดไม่ถึงเห็นทีจะเป็นการกระทำของคนตรงหน้าที่แม้นจะปลดเสื้อของตนออกอย่างที่เขาต้องการแล้วก็ตาม แต่หากเขากลับไม่ยอมสอดใส่ตรงส่วนนั้นเข้าไปดีดีอย่างที่เขาคิดไว้แต่คราแรก 

...ราวกับว่าเขาล่วงรู้ถึงความคิดของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี... 

หลานวั่งจีไม่เพียงแต่จะไม่สอดใส่กายของตนไปดีดีอย่างที่คนตรงหน้านั้นเรียกหา ทั้งยังเอาสิ่งนั้นจ่อเข้าใกล้ช่องทางสีกุหลาบนั้นแล้วถอนออก เข้าใกล้แล้วถอนออก ทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนกระวนกระวายใจอยู่หลายครั้ง จนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหวผลักคนตรงหน้าลงแนบกับพื้นแล้วขึ้นคร่อมแทน จนทำให้ตำแหน่งระหว่างพวกเขานั้นสลับกันอีกครั้ง  

"หลานจ้าน! นั้นเจ้ากำลังยั่วโทสะข้าอยู่กระนั้นหรือไรกัน เหตุใดจึงไม่สอดใส่มันเข้าไปดีดี!" 

หลานวั่งจีไม่ตอบอะไรเพียงแต่ยกยิ้มแต่เพียงน้อยเท่านั้น "หลานจ้าน พี่รองหลาน เจ้าก็รู้ว่าการกระทำของเจ้ามันทำให้ข้าจะบ้าตายอยู่แล้ว และหากพวกเรายังชักช้ามากไปกว่านี้ล่ะก็เกรงว่าท่านอาของเจ้าจะ... อื้ม!" 

หลานวั่งจีฉวยโอกาสในตอนที่เว่ยอู๋เซี่ยนกำลังกร่นด่าตนอยู่ หยิบแก่นกายของตนสอดใส่ไปที่ช่องทางสีกุหลาบของคนตรงหน้าแล้วโน้มตัวไปประทับจูบเขากลับทันที นั้นทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนที่ไม่ได้สัมผัสสิ่งนั้นมานานถึงกับทรงตัวไม่อยู่ ทรุดลงไปกับแผงอกอันแข็งแรงของเขา พลางจ้องหน้าของเขาเขม็งทันที 

"หานกวงจวิน เจ้านี่มัน... อ๊ะ!" 

ไม่รอให้คนตรงหน้าได้พูดอะไร ตำแหน่งของพวกเขานั้นก็ถูกสลับกันอีกครั้ง และดูเหมือนว่าเห็นทีครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ตำแหน่งของพวกเขานั้นจะถูกสลับกัน ซึ่งแต่เดิมที่เว่ยอู๋เซี่ยนนั้นเคยขึ้นคร่อมอยู่ก็กลับตาลปัตร กลายเป็นถูกผลักและนอนลงเอาหลังแนบกับโต๊ะจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นฝ่ายได้เปรียบอีกครั้ง  

แต่ก็ใช่ว่าเว่ยอู๋เซี่ยนนั้นจะทนยอมโดนเขารังแกอยู่ร่ำไป วินาทีที่หลานจ้านจับสะโพกที่กลมมนของเขาแล้วโน้มกายของตนเองลงมาเพื่อที่จะสอดใส่เจ้าสิ่งนั้นได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เว่ยอู๋เซี่ยนก็สบโอกาสนั้นใช้สองมือทั้งสองข้างของตนรั้งคอของคนตรงหน้าให้เข้าใกล้กับใบหน้าของเขามากขึ้นเรื่อยๆเหมือนกับยินยอมพร้อมใจ ก่อนที่จะขบเม้มไปที่ต้นคอของคนตรงหน้าอย่างเต็มแรง 

*ง่ำ!* 

"อึ่ก...!" 

"สมน้ำหน้า" เว่ยอู๋เซี่ยนพูดพลางยกยิ้ม "นั้นเป็นการทำโทษเจ้าที่ผลักข้าลงกับโต๊ะ แล้วสอดใส่มันโดยพลการ" 

การกระทำของเว่ยอู๋เซี่ยนนั้นแทนที่จะทำให้คนตรงหน้าสงบลง กลับกัน มันกับยิ่งกระตุ้นให้คนตรงหน้านั้นเกิดอารมณ์ขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล ทั้งนัยน์ตาของเขายังเป็นประกายแวววับมากยิ่งขึ้นกว่าก่อนหน้า จนทำให้เว่ยอู๋เซี่ยนถึงกับขนลุกซู่โดยไม่ทันรู้ตัว  

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้