จบ ป 6 เรียน ต่อ สาย ไหน ดี

น้องๆ คนไหนที่กำลังคิดอยู่ว่าเรียนจบ ม.ต้น แล้ว จะเลือกเรียนสายไหนต่อดี วันนี้เราก็มีข้อแนะนำดีๆ สำหรับน้องคนไหนที่กำลังเลือกจะเรียนต่อสายสามัญ (มัธยมปลาย) แต่ก็ยังคิดไม่ออกว่าถ้าเลือกเรียนสายวิทย์-คณิตจะเป็นอย่างไร? แล้วถ้าเปลี่ยนไปเลือกสายศิลป์ล่ะจะดีกว่าหรือไม่? ซึ่งการเลือกเรียนสายนั้นมีความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่จะกำหนดอนาคตในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้ส่วนหนึ่งเลยทีเดียว และทั้งสองสายก็มีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ลองมาอ่านกันก่อนตัดสินใจได้เลย

เรียนสายไหนดี ?

สายวิทย์-คณิต เรียนอะไรบ้าง?

เนื้อหาที่เรียนเป็นหลักในสายวิทย์-คณิต ตามชื่อสายแล้วก็ต้องเป็นวิชาวิทย์-คณิตนั่นแหละค่ะ แต่อย่าได้คิดว่ามันจะสบายเหมือนวิทย์-คณิตตอยมัธยมต้นเชียวล่ะ เพราะว่าวิชาวิทยาศาสตร์ ม.ปลาย นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา ซึ่งแต่ละวิชาย่อยๆ นั้นน้องๆ ก็ต้องเรียนทั้งภาคบรรยายในห้องเรียนและภาคปฏิบัติที่จะได้ทำการทดลองต่างๆ อีกด้วย ทำให้จำนวนชั่วโมงเรียนและงานนั้นเยอะตามมา ส่วนคณิตศาสตร์นั้นในระดับ ม.ปลาย จะค่อนข้างแตกต่างและยากกว่าระดับ ม.ต้น ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว และปริมาณเนื้อหาทีเรียนก็ยิ่งจะเจาะลึกมากขึ้น ส่วนวิชาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทย สังคมศึกษา อังกฤษ นั้นจะมีเรียนเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อสัปดาห์เท่านั้น

สายศิลป์ เค้าเรียนอะไรบ้าง?

สายศิลป์นั้นแบ่งออกเป็น 2 สาขาด้วยกันหลักๆ คือศิลป์คำนวณและสายศิลป์ภาษา มีรายละเอียดดังนี้

ศิลป์คำนวณ การเรียนจะเน้นหนักไปที่ 2 วิชา ได้แก่ ภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ โดยภาษาอังกฤษนั้นน้องๆ จะได้เรียนอย่างละเอียดมากๆ ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระดับลึกเหมือนเรียนไวยกรณ์ภาษาไทยเลยนั่นแหละ ส่วนคณิตศาสตร์นั้นก็เป็นวิชาหลักอีกวิชาของสายศิลป์คำนวณ ซึ่งระดับความยากและความหนักนั้นอยู่ในระดับเดียวกับสายวิทย์-คณิต ด้านวิชาอื่นๆ เช่น วิทยาศาสตร์นั้นก็ยังมีเรียนนะ แต่จำนวนชั่วโมงเรียนและความเข้มข้นของเนื้อหาจะไม่เท่าสายวิทย์-คณิต

ส่วนสายศิลป์ภาษานั้น การเรียนจะเน้นไปที่ภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 ที่น้องๆ เลือกเรียน ส่วนวิชาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นคณิตศาสตร์ ภาษาไทย สังคมศึกษานั้นก็จะลดความสำคัญลงไป

ข้อดี-ข้อเสีย ของสายวิทย์-คณิต

สำหรับข้อดีของสายวิทย์-คณิตที่เรารู้กันอยู่แล้วก็คือ มีโอกาสเลือกสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หลายคณะมากกว่าสายศิลป์ อีกทั้งยังได้เปรียบเด็กสายศิลป์เวลาสอบเข้า เพราะสนามสอบใหญ่ๆ นั้นมักจะต้องใช้คะแนนคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ด้วยเสมอ ดังนั้นเด็กสายวิทย์ที่เรียนมาหนักกว่านั้นย่อมทำคะแนนวิชาเหล่านี้ได้ดีกว่าเด็กสายศิลป์ ส่วนข้อเสียก็คือ การเรียนที่หนักกว่าสายศิลป์เป็นอย่างมากและเกรดที่ได้นั้นอาจจะได้ยากกว่าสายศิลป์มากเลยทีเดียว

ข้อดี-ข้อเสีย ของสายศิลป์

แน่นอนว่าข้อดีที่เห็นได้ชัดในการเรียนสายศิลป์ก็คือ ความสบาย เพราะด้วยเนื้อหาการเรียนที่ไม่หนักเท่าสายวิทย์ ทำให้การเรียนสายศิลป์นั้นค่อนข้างสบายกว่าสายวิทย์มาก อีกทั้งความสามารถทางภาษาที่ดีกว่าเด็กสายวิทย์นั้นย่อมมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตามข้อเสียที่สำคัญของเด็กสายศิลป์คือ โอกาสการเลือกเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยที่หลากหลายน้อยกว่าเด็กสายวิทย์ และการสอบแข่งขันในสนามสอบใหญ่ๆ ที่มักจะมีข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์ด้วยนั้นเด็กสายศิลป์จะสู้เด็กสายวิทย์ไม่ได้

แล้วจะเลือกเรียนยังไงดี?

1. อยากเรียนต่ออะไรในมหาวิทยาลัย

ต้องถามตัวเองก่อน อยากเรียนต่อคณะอะไรในระดับมหาวิทยาลัย?

ถ้าหากว่าน้องๆ คนไหนรู้ตัวอยู่แล้วว่าอยากเข้าคณะอะไร การเลือกสายก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย สำหรับคนที่อยากเข้าคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์นั้น แนะนำให้เลือกเรียนสายวิทย์-คณิต แม้ว่าบางคณะที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์จะเปิดโอกาสให้เด็กสายศิลป์ไปสอบเข้าได้เช่นกัน

แต่อย่างไรก็ตามการที่น้องเรียนวิทย์-คณิตมานั้นโอกาสที่จะสอบเข้าได้ย่อมมากกว่าเด็กสายศิลป์อยู่แล้วค่ะ อีกทั้งคณะเหล่านี้นั้นเมื่อเข้าไปเรียนแล้ววิชาที่เรียนส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้พื้นฐานความรู้เกี่ยวกับวิทย์-คณิตค่อนข้างเยอะ ดังนั้นเด็กสายวิทย์ย่อมได้เปรียบเมื่อเข้าไปเรียนนะ ส่วนน้องๆ ที่อยากเข้าคณะทางด้านสายศิลป์โดยไม่เปลี่ยนใจแน่ๆ แล้วล่ะก็ เลือกเรียนสายศิลป์ไปดีกว่า จะมาเรียนสายวิทย์ให้หนักสมองไปทำไมกัน อีกทั้งการเรียนภาษาที่เข้มข้นกว่าสายวิทย์นั้นมีประโยชน์ต่อการทำงานในอนาคตอย่างแน่นอน

2. ชอบเรียนวิชาอะไรบ้าง?

ถ้ายังไม่มีคำตอบสำหรับคำถามแรกก็ลองดูคำถามที่ 2 นะ ว่าชอบวิชาอะไร ถ้าหากว่าชอบ วิทย์-คณิต ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ชอบการคำนวณ ชอบการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตเลยค่ะ เพราะคนที่มีความชอบทางด้านนี้นั้นมีแนวโน้มที่จะเลือกเรียนต่อในคณะที่เกี่ยวข้องกับวิทย์-คณิต อีกทั้งการได้เรียนในสิ่งที่ชอบนั้นก็ไม่รู้สึกว่าหนักและเหนื่อยอีกด้วย ส่วนน้องๆ ที่ชอบด้านภาษา ไม่ชอบคำนวณ ไม่ชอบการทดลองทางวิทยาศาสตร์แล้วล่ะก็ สายศิลป์ น่าจะเป็นคำตอบสำหรับน้องๆ เพราะเลือกเรียนสายวิทย์ไปนอกจากจะไม่มีความสุขแล้วยังอาจจะทำออกมาได้ไม่ดี ทำให้เพิ่มความเครียดอีกด้วย

3. ทำวิชาอะไรได้ดีที่สุด?

ถ้า 2 คำถามแรกยังไม่ได้คำตอบลองถามตัวเองอีกคำถามนะ ว่าน้องสามารถทำวิชาอะไรได้ดี ถ้าหากว่าทำคะแนนวิชาวิทย์-คณิตได้ดีก็แสดงว่าน้องมีความสามารถทางด้านนี้ ดังนั้นก็อาจจะเลือกเรียนวิทย์-คณิต แต่ถ้าทำคะแนนวิชาด้านภาษาได้ดี ก็ควรจะเลือกเรียนสายศิลป์

4. ถ้าไม่รู้จริงๆ จะทำยังไงดี?

ถ้าหากว่าทั้ง 3 คำถามด้านบนไม่สามารถให้ข้อสรุปแก่น้องๆ ได้ เราขอแนะนำอย่างนี้ … ถ้าหากว่าน้องพอจะชอบวิทย์-คณิตอยู่บ้าง ทำวิทย์-คณิตได้ดีอยู่บ้าง และไม่ทุกข์มากที่จะต้องเรียนวิทย์-คณิตก็เลือกเรียนวิทย์-คณิตไปก่อน เพราะแม้ว่าการเรียนวิทย์-คณิตนั้นจะหนักกว่าสายศิลป์ค่อนข้างมาก แต่โอกาสในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นหลากหลายกว่าสายศิลป์ ดังนั้นเมื่อถึง ม.6 ที่น้องๆ ต้องเลือกเรียนต่อโอกาสในการเลือกเรียนก็จะเยอะกว่าเด็กสายศิลป์ ส่วนน้องๆ คนไหนที่รู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ กับวิทย์-คณิต เรียนแล้วต้องทุกข์มากแน่ๆ ก็เลือกเรียนสายศิลป์ไปเลย แม้ว่าโอกาสในการเลือกเรียนต่อจะน้อยกว่า แต่ก็ใช่ว่างานของเด็กสายศิลป์จะด้อยกว่าเด็กสายวิทย์นะ

สุดท้ายนี้อยากจะฝากน้องๆ ให้คิดให้ดีๆ ก่อนเลือกสายการเรียนนะ เพราะนี่คือตัวกำหนดคณะที่เราจะเรียนต่อและงานที่เราจะทำในอนาคตได้เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตามใครที่เลือกสายผิดไปแล้วก็อย่าพึ่งคิดน้อยใจไป ขอให้หาข้อดีของสายนั้นๆ ให้เจอแล้วนำข้อดีนั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ เพราะแต่ละสายก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป

จบม.6 เรียนต่ออะไรได้บ้าง

จบ ม.6 เรียนต่ออะไรดี.
1.คณะมนุษยศาสตร์ ภาพจาก bit.ly/2U6ZouF. ... .
2.คณะนิติศาสตร์ ภาพจาก bit.ly/38Vbuwd. ... .
3.คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ ภาพจาก bit.ly/2UatwW0. ... .
4.คณะบริหารธุรกิจ ภาพจาก bit.ly/3cYwqpv. ... .
5. คณะเศรษฐศาสตร์ ภาพจาก bit.ly/2QjSwJd..

เรียนจบม.6ต่อปริญญากี่ปี

ผู้ที่สำเร็จการศึกษาประโยคมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.6) หรือเทียบเท่า จะเข้าศึกษาตามหลักสูตรปริญญาตรี (4 ปี) โดยศึกษาไม่น้อยกว่า 24 ชุดวิชา หรือ 144 หน่วยกิต

จบ ป 6 สอบอะไรได้บ้าง

1. การสอบO-NET. O-NET หรือมีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า Ordinary National Educational Test คือการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นการทดสอบเพื่อวัดความรู้และความคิดของนักเรียนชั้น ป.6 นักเรียนชั้น ม.3 และนักเรียน ม.6 ซึ่งจะทำการทดสอบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น ... .
2. การสอบ GAT/PAT. ... .
3. การสอบ 9 วิชาสามัญ ... .
4. การสอบ กสพท.

จบม.6 เรียนต่อป.ตรีได้ไหม

ตอบคุณ ส.ต.วิทยา ค่ะ จบกศน.ม.6 มาก็สามารถต่อป.ตรีได้ค่ะ อันนี้ต้องเข้ามาปรึกษาที่สถาบัน เกี่ยวกับการติว ว่าคุณมีเวลาเรียนเท่าไหร่และจะเลือกเรียนแบบไหน เช่น ทำงานเลือกเรียนเป็น เฉพาะวันเสาร์ - อาทิตย์ หรือ วันเสาร์ ก็ทำงาน เลือกเรียน เป็นวันอาทิตย์อย่างเดียว ตลอดหลักสูตร หรือ วันเสาร์ก็ทำงาน วันอาทิตย์ต้องการพักผ่อน ...

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้