หลายคนอาจจะอยากเรียน คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า วิทย์กีฬา แต่ไม่รู้จบไปจะเป็นอะไรได้มากกว่าครูพละ จริง ๆ แล้วมีอาชีพที่หลากหลายและน่าสนใจกว่านั้น จะมีอะไรบ้างลองไปดูกันเลย
วิทยาศาสตร์การกีฬา เรียนจบไป ทำอะไรได้บ้าง ?
วิทยาศาสตร์การกีฬา เรียนอะไรบ้าง?
เรียนเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพร่างกายและจิตใจของนักกีฬาให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยประยุกต์ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ สรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ จิตวิทยา สังคมวิทยา ชีวกลศาสตร์ โภชนาการ ศึกษาเกี่ยวกับระบบการทำงานของมนุษย์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
โค้ชฝึกสอนกีฬา
สำหรับใครที่มีความสามารถด้านกีฬาอยู่แ้ลวก็สามารถไปเป็นโค้ชฝึกสอนได้ เพราะได้เรียนทั้งศาสตร์ทางด้านกีฬาประเภทต่าง ๆ รวมถึงกายวิภาคศาสตร์ และจิตวิทยา ทำให้สามารถกำหนดรูปแบบการฝึกซ้อมกีฬา จัดโปรแกรมการฝึกซ้อมได้อย่างเหมาะสม
นักวิทยาศาสตร์การกีฬา
ทำงานตามทีมกีฬาต่าง ๆ ดูแลนักกีฬาทั้งด้านโภชนาการ เทคนิคกีฬา จิตวิทยา ตลอดจนการดูแลสุขภาพร่างกายนักกีฬาอย่างเป็นขั้นตอน
นักโภชนาการกีฬา
คอยให้ความรู้ จัดการในเรื่องโภชนาการให้กับนักกีฬา ดูแลเรื่องอาหารของนักกีฬาให้เหมาะสมในแต่ละช่วงของการฝึกซ้อมและแข่งขัน
นักเวชศาสตร์การกีฬา
ฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กับนักกีฬา รักษาอาการบาดเจ็บ เพื่อช่วยเสริมสมรรถภาพทางกายของนักกีฬาให้อยู่ในสภาวะสมบูรณ์พร้อมที่สุด ทำงานตามทีมกีฬา หรือโรงพยาบาล
เทรนเนอร์ฟิตเนส
ด้วยความสามารถทางด้านกีฬาและการได้รับความรู้ที่ถูกหลัก ผู้ที่จบคณะนี้สามารถไปทำงานเทรนเนอร์งานฟิตเนสตามฟิตเนส สปอร์ตคลับ สถานศึกษา องค์กรต่าง ๆ หรือเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวได้
นักจิตวิทยาการกีฬา
ช่วยฟื้นฟู เยียวยา ปลุกใจนักกีฬาทั้งก่อนแข่งขัน ระหว่างแข่งขัน ไปจนถึงหลังแข่งขัน โดยจะทำงานอยู่ตามทีมกีฬาต่าง ๆ
นักข่าวกีฬา
หากจบวิชาเฉพาะทางด้านการสื่อสารมวลชนทางกีฬา ก็สามารถเป็นนักข่าวสายกีฬาได้ โดยนำความรู้ด้านกีฬามาใช้ในการสื่อสารมวลชน
อาจารย์มหาวิทยาลัย
ผู้ที่เรียนจบคณะนี้สามารถเป็นอาจารย์ตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ได้
นักกีฬา
มีนักกีฬาหลายคนเลือกที่จะเรียนคณะนี้ เพราะจะได้เรียนรู้หลักและเทคนิคที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพของนักกีฬาทั้งทางร่างกายและจิตใจ
ขอบคุณข้อมูลจาก: jobsdb
Written by: Typrn
บทความแนะนำ
- เรียนจบแล้วยังไม่อยากทำงาน | Gap Year ทั้งที ใช้อย่างไรให้คุ้มค่า
- How to ฝึกงานยังไง ให้ประสบความสำเร็จ – ฝึกงานให้ได้งาน
- อย่าสติแตก! 4 กฎเหล็ก เรียนไปทำงานไป ทำยังไงไม่ให้ชีวิตพัง
- สัมภาษณ์งานระวังให้ดี! 7 ข้อนี้ที่ HR จับตามมองคุณอยู่ แต่ไม่เคยบอก
- แนะนำ 10 งานพาร์ทไทม์ ช่วงปิดเทอม
- 3 อาชีพเสริม ที่นักศึกษา สามารถทำได้ในระหว่างเรียน
คำถามเจอบ่อยเด็กอยากติดคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
ถาม : อยากเรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาต้องจบสายวิทย์หรือสายศิลป์?
ตอบ : ไม่มีข้อจำกัดว่าต้องจบแผนการเรียนอะไร แต่เด็กสายวิทย์จะค่อนข้างได้เปรียบกว่า เพราะระบบแอดมิชชั่นปัจจุบัน ตอนสอบเข้าก็ต้องใช้ PAT 2 และในตอนปีหนึ่งจะต้องเรียนพวกวิชาพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่น กายวิภาคและระบบไหลเวียน สถิติวิทยาศาสตร์ชีววิทยา
___________________________________________________________________________________________
ถาม : คณะนี้ต้องเรียนกีฬาเยอะมั้ย?
ตอบ : ตามชื่อคณะเลยว่าวิทยาศาสตร์การกีฬา ดังนั้นน้อง ๆ จะได้เรียนกีฬากันตั้งแต่ปีหนึ่งเลยทีเดียวในสัปดาห์นึงก็อาจจะเรียนหลายวัน
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : ผู้หญิงเรียนคณะนี้ได้มั้ย?
ตอบ : ผู้หญิงก็เรียนคณะนี้ได้ สำหรับคนที่รักสุขภาพก็ถูกใจเลยทีเดียวเพราะมีวิชาน่าเรียนอย่างว่ายน้ำ โยคะ แอโรบิกให้เลือกเรียน
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเรียนอะไร?
ตอบ : คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาเรียนเกี่ยวกับการพัฒนาศักยภาพร่างกายและจิตใจของนักกีฬาให้สามารถเล่นกีฬาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้หลักการทางวิทยาศาสตร์ สรีรวิทยา กายวิภาคศาสตร์ จิตวิทยา สังคมวิทยา ชีวกลศาสตร์ โภชนาการ ศึกษาเกี่ยวกับระบบการทำงานของมนุษย์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : คณะวิทยาศาสตร์การกีฬาจบมาทำงานอะไร?
ตอบ : จบมาจะทำเป็นโค้ชฝึกสอนกีฬา ใช้ความรู้ทางด้านกีฬานั้น ๆ รวมถึงเรื่องกายวิภาคศาสตร์และจิตวิทยาการกีฬา กำหนดรูปแบบการฝึกซ้อมที่เหมาะสมกับนักกีฬา หรือจะเป็นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ทำงานตามทีมกีฬาต่าง ๆ ดูแลเกี่ยวกับอาหาร เทคนิคกีฬา จิตวิทยา และดูแลร่างกายของนักกีฬาก็ได้
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : จบวิทยาศาสตร์เป็นครูพละได้ไหม?
ตอบ : ในการรับราชการ ก็คือไม่ได้เพราะครูพละก็คือการประกอบอาชีพราชการ น้อง ๆ ต้องมีใบประกอบวิชาชีพในสายคณะนี้ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ แต่ก็ไม่เสมอไปนะน้อง ๆ ที่จบคณะนี้ก็สามารถเป็นครูในโรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติได้ เพราะโรงเรียนพวกนี้ส่วนใหญ่จะมีฟิตเนส เขาก็จะอยากได้นักวิทยาศาสตร์การกีฬาไปประจำเพื่อดูแลและสอนเด็ก
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : จะเข้าเรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา อยู่ ๆ อยากเปลี่ยนสายเรียนอย่างอื่นได้ไหม?
ตอบ : จริง ๆ เปลี่ยนสายได้ แต่ก็ต้องคิดให้ดี ๆ ก่อน เพราะเราจะเสียเวลาที่เรียนไปแล้วต้องเริ่มเรียนใหม่ทางที่ดี แนะนำน้องค้นหาตัวเองให้พบว่าอยากเรียนอะไรและอะไรที่ใช่จริง ๆ ดีกว่า
__________________________________________________________________________________________________________________
ถาม : เรียนคณะวิทยาศาสตร์การกีฬาดียังไง?
ตอบ : สายออกกำลังกาย สายเล่นกีฬา สายดูแลสุขภาพ คณะนี้จะตรงกับสิ่งที่น้องต้องการมาก ๆ น้องจะรู้ถึงวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้อง โดยอาศัยหลักวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน ข้อดีที่ทำให้คณะนี้น่าเรียนมาก ๆ คือสุขภาพสำคัญที่สุด งานที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งก็คืองานของสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์การกีฬาตามสโมสรกีฬา ก็ยังสามารถเป็นเทรนเนอร์ได้
__________________________________________________________________________________________________________________
สาขาของคณะวิทยาศาสตร์การกีฬามีสาขาไหนบ้าง ?
สำหรับคณะวิทยาศาสตร์การกีฬามีสาขาเฉพาะทางซึ่งจะมีสาขาต่างๆ ดังนี้
1. กายวิภาคศาสตร์
จะเรียนในเรื่องเกี่ยวกับโครงสร้างของร่างกาย ที่ประกอบขึ้นเป็นรูปร่าง สัดส่วนของร่างกายของนักกีฬาแต่ละคน ได้แก่ กระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น ข้อต่อ หัวใจ ปอด หลอดเลือด เม็ดเลือดแดง เซลล์ประสาท เป็นต้น
2. สรีรวิทยา
สำหรับสาขานี้จะเรียนในเรื่องการทำงานและการทำหน้าที่ของอวัยวะระบบต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งสามารถกระตุ้นและพัฒนาศักยภาพให้ดีขึ้นได้ด้วยระบบการฝึกที่ถูกต้องเหมาะสม
3. นันทนาการศาสตร์และการจัดการกีฬา
เรียนรู้เกี่ยวกับการเป็นผู้นำทางนันทนาการ หรือผู้นำเยาวชน และสามารถบริหารจัดการเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หรือการจัดนันทนาการเพื่อการบำบัด
4. ชีวกลศาสตร์
เป็นการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น และข้อต่อ การใช้แรงในการเคลื่อนไหวหรือปฏิบัติทักษะอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในแต่ละชนิดหรือประเภทกีฬา นำไปสู่การพัฒนาหรือปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องทางด้านเทคนิคทักษะกีฬาแต่ละบุคคล
5. โภชนาการทางการกีฬา
ความรู้เกี่ยวกับคุณค่าของอาหารแต่ละชนิด และรู้จักเลือกรับประทานอาหารให้ถูกต้อง ได้สัดส่วน
และคุณภาพในแต่ละช่วงของการฝึกซ้อมและแข่งขันมีผลต่อการใช้พลังงานของนักกีฬาแค่ละคน
6. ทักษะและการฝึกซ้อมกีฬา
จะเป็นในเรื่องหลักการกำหนดรูปแบบวิธีการฝึกซ้อมที่เหมาะสมกับนักกีฬาแต่ละคน
7. จิตวิทยาการกีฬา
คือความรู้เกี่ยวกับการคิดการควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬา ตลอดจนการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ในการฝึกซ้อมและแข่งขันได้อย่างถูกต้อง
8. เวชศาสตร์การกีฬา
คือ ศาสตร์ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน บำบัดรักษา และฟื้นฟู สภาพร่างกายให้กับนักกีฬาทั้งในสภาวะปกติและในระหว่างการฝึกซ้อมเพื่อช่วยเสริมให้สมรรถภาพทางกายอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์และพร้อมที่จะใช้งานได้ดีที่สุด
9.
เทคโนโลยีทางการกีฬา
เป็นสาขาเรียนเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ช่วยสนับสนุนในการพัฒนาส่งเสริม ตลอดจนการแก้ไขปัญหา ข้อบกพร่องให้กับนักกีฬาเพื่อเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพให้กับผู้ฝึกสอนกีฬาและนักกีฬา
10. วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา
จะเรียนเกี่ยวกับสรีรวิทยาการออกกำลังกายและการกีฬา ชีวกลศาสตร์การกีฬา รวมไปถึงโภชนาการการกีฬา เวชศาสตร์การกีฬา จิตวิทยาการกีฬา และวิศวกรรมและเทคโนโลยีการกีฬา โดยนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารและการจัดการเพื่อพัฒนาความสามารถของผู้ออกกำลังกายและนักกีฬา เป็นต้น
11. การโค้ชกีฬาและจิตวิทยาการกีฬา
สำหรับสาขานี้จะเรียนความรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิด การควบคุมทักษะการเคลื่อนไหวและทักษะกีฬา รวมถึงการตัดสินใจในแต่ละสถานการณ์ของการฝึกซ้อมและแข่งขันได้อย่างถูกต้อง
12. วิทยาศาสตร์สุขภาพประยุกต์
จะเรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องโภชนาการการกีฬา สุขภาพด้านต่าง ๆ สุขภาพส่วนบุคคล หรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพด้านร่างกายและจิตใจ เป็นการนำความรู้มาประยุกต์ช่วยในกาทำงานในส่วนของการดูแลสุขภาพของประชาชน รวมไปถึงการให้บริการด้านสุขภาพในโรงพยาบาล สถานบริการสาธารณสุข และโรงงานต่าง ๆ ให้ขึ้น
คณะนี้เรียนอะไรในแต่ละปี ?
ปี 1
เรียนพื้นฐาน
สำหรับปี 1 จะเรียนพื้นฐานวิชาทั่ว ๆ ไป ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ น้อง ๆ อาจจะเคยเรียนมาแล้วตอนมัธยมปลาย แต่ความแตกต่างก็คือตอนเรียนมัธยม เนื้อหาจะน้อยกว่าทำให้เรามีเวลาเรียนมากกว่าและเนื้อหาจะง่ายกว่าแต่ในปี 1 น้อง ๆ จะต้องเรียนทั้งหมดภายใน 1 เทอมและเนื้อหาจะยากขึ้นรวมไปถึงน้อง ๆ จะได้ทำแล็บด้วย ในปีนี้น้อง ๆ จะได้เรียนในส่วนวิชากีฬา เช่น จะได้ว่ายน้ำ รวมไปถึงภาษาอังกฤษก็ต้องเรียนด้วยจะได้เรียนร่วมกันกับคณะอื่น ๆ ด้วย
ปี 2
เนื้อหาวิชาเพิ่มมากขึ้น
ปี 2 สำหรับปีนี้เนื้อหาในการเรียนจะเยอะมาก ๆ เรียนวิชาภาคมากขึ้น จะเน้นเรื่อง Anatomy ก็จะเรียนเรื่องกายวิภาคศาสตร์ ในปีนี้ก็ยังคงได้เรียนวิชากีฬาอยู่ ส่วนมากเนื้อหาจะเจาะลึกเกี่ยวกับวิชากีฬาปีนี้น้อง ๆ ก็จะได้ทำ Project ด้วย
ปี 3
เรียนเจาะลึกในวิชาเอก + ฝึกงาน
สำหรับปี 3 นี้เนื้อหาก็ยังคงหนักเหมือนเดิม แล้วปีนี้น้อง ๆ ก็จะได้เสื้อกาวน์ที่บ่งบอกถึงความสำเร็จที่อดทนเรียนมาถึงปีนี้ ผ่านมาครึ่งทางสำหรับการเรียน วิชาที่ต้องเรียนเลยคือ โภชนาการว่าต้องกินยังไงกินอะไรรวมไปถึงการออกกำลังและวิชาในเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับกีฬาและวิชาสัมมนา จะมีการทำวิจัยด้วยเพราะใกล้จบแล้วรวมไปถึงปี 3 นี้น้อง ๆ ต้องออกไปฝึกงานกันด้วย
ปี 4
ปีสุดท้ายแล้ว
สำหรับปี 4 นี้วิชาเรียนจะไม่หนัก แต่จะไปหนักในการทำวิจัยต่อจากปี 3 แล้วนำเสนอวิจัยที่เราได้ทำมาในส่วนเนื้อหาวิชาที่จะได้เรียน คือเรียนในเรื่องเทคโนโลยีการกีฬาและเทคโนโลยีการสื่อสารทางการกีฬาปีนี้ยังคงต้องฝึกงานอยู่ในเทอมสุดท้าย
ทดลองเรียนฟรี >> คลิก
สอบถามรายละเอียด >> คลิก
อยากติด คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
ต้องสอบวิชาอะไร
- สามัญคณิต
- สามัญไทย
- สามัญสังคม
- สามัญอังกฤษ
- สามัญฟิสิกส์
- สามัญเคมี
- สามัญชีวะ
- GAT
- PAT 1
- PAT 2
- O-NET
อยากสอบติด คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา
ควรได้คะแนนขั้นต่ำเท่าไหร่
จุฬา ฯ
รอบ 3
สามัญคณิต 20% 30 คะแนน
สามัญฟิสิกส์ 20% 30 คะแนน
สามัญเคมี 20% 55 คะแนน
สามัญชีวะ 20% 65 คะแนน
GAT 20% 250 คะแนน
รอบ 4
GPAX 20% 3.5
GAT 10% 250
PAT 1 10% 80 คะแนน
PAT 2 30% 120 คะแนน
มหิดล
รอบ 3
สามัญคณิต 30 คะแนน
สามัญฟิสิกส์ 30 คะแนน
สามัญเคมี 55 คะแนน
สามัญชีวะ 65 คะแนน
สามัญไทย 70 คะแนน
สามัญสังคม 60 คะแนน
สามัญอังกฤษ 60 คะแนน
รอบ 4
GPAX 20% 3.00
GAT 30% 250
PAT 1 10% 60 คะแนน
PAT 2 30% 100 คะแนน
ธรรมศาสตร์
รอบ 3
GPAX 20% 3.25
O-NET 30% 300 คะแนน
GAT 10% 250 คะแนน
PAT 1 10% 60 คะแนน
PAT 2 30% 100 คะแนน
รอบ 4
GPAX 20% 3.00
O-NET 30% 250 คะแนน
GAT 10% 250 คะแนน
PAT 1 10% 60 คะแนน
PAT 2 30% 100 คะแนน