สวัสดีครับ หลังจากตอนที่แล้วเราพูดถึง User Defined Function กันไป สัปดาห์นี้ มาพบกับเรื่อง การรับข้อมูลผ่านคีย์บอร์ดกันนะครับ ในภาษา Python มีวิธีการรับข้อมูลผ่านทาง keyboard โดยใช้คำสั่งที่ชื่อว่า input() เรามาดูรูปแบบการใช้งานกันดังนี้เลย
แบบที่ 1 เป็นแบบที่นิยมทั่วงไป วิธีคือ ตัวแปร = input(“ข้อความที่จะสื่อความหมายว่าต้องการรับข้อมูลอะไร”) ตัวอย่างดังนี้
your_name = input(“What is your name:”) #=>” John Smith ” ENTER
print(your_name) #=> ” John Smith ”
แบบที่ 2 ถ้าต้องการรับข้อมูลผ่านทางคีย์บอร์ดและต้องการลบช่องว่า ซ้ายสุด และขวาสุดจะใช้คำสั่ง ตัวแปร = input(“ข้อความที่จะสื่อความหมายว่าต้องการรับข้อมูลอะไร”).strip()
your_name = input(“What is your name:”).strip() # ” John Smith ”
print(your_name) # “John Smith”
แบบที่ 3 ถ้าต้องการรับข้อมูลพร้อมกันในคราวเดียว แต่มีกฏว่าต้องใช้ เคาะ (space bar) เพื่อแยกข้อมูลที่รับมาพร้อมกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
fname,lname = input(“Enter first and last name:”).split()
print(fname, “, “, lname)
# “John Smith”
# “John, Smith”
เป็นยังไงกันบ้างครับ หวังว่าวิธีการเหล่านี้น่าจะพอเป็นแนวทางให้เราลองทดสอบเขียนโปรแกรมแบบรับข้อมูลผ่านทาง Keyboard ก็ได้บ้างนะครับ แล้วพบกันใหม่ Python EP 10 ขอบคุณที่ติดตามครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม
Happy Coding!!!
- Facebook iconFacebook
- Twitter iconTwitter
- LINE iconLine
Recent Posts
Microsoft Azure SQL Database [Deployment Model]
Deployment Model เป็นบริการในรูปแบบPlatform as a Serviceของระบบฐานข้อมูลDatabaseบนโครงสร้างของMicrosoft AzureโดยมีDeployment Options ดังต่อไปนี้
Read More »Microsoft Azure SQL คืออะไร?
Microsoft Azure SQL เป็นบริการจัดเก็บฐานข้อมูลต่างๆบน Cloud ที่อยู่ในรูปเเบบ IaaS (Infrastructure as a
Read More »Microsoft Azure App Service คืออะไร?
Azure App Service เป็นอีกหนึ่งในบริการยอดนิยมของ Microsoft ที่ถูกใช้บริการมากที่สุด บริการนี้มีเครื่องมือที่จำเป็นเเละตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับ Developer ที่ต้องการมุ่งเน้นเเละให้ความสำคัญไปกับการพัฒนา Application
เป็นคำสั่งสำหรับใช้แสดงผลบนคอมมานด์ไลน์
มีไวยากรณ์ดังนี้
[python]print(ตัวแปรหรือข้อมูล)[/python]
ตัวอย่างเช่น
>>> print(1,2,3)
1 2 3
>>> print("Hello")
Hello
>>> a = "python"
>>> print(a)
python
input
เป็นคำสั่งสำหรับรับข้อมูลจากแป้นพิมพ์ โดยรับทางคอมมานด์ไลน์
มีไวยากรณ์ดังนี้
input(ข้อความชนิดสตริงอธิบาย)
ตัวอย่างเช่น
>>> a = input("Text :")
Text :Hello
>>> print(a)
Hello
id
เป็นคำสั่งสำหรับบอกที่อยู่ของวัตถุในหน่วยความจำหลัก โดยคืนค่าออกมาเป็นจำนวนจริง
ในการประกาศเก็บค่าตัวแปร คอมพิวเตอร์จะนำข้อมูลนั้นไปเก็บไว้ที่หน่วยความจำหลัก โดยจะเก็บข้อมูลงหน่วยความจำและอ้างอิงข้อมูลที่เก็บอยู่ด้วยเลข ID ที่เก็บบนหน่วยความจำ เมื่ออ้างอิงตัวแปรข้อมูลในเขียนโปรแกรม ตัวแปรจะอ้างอิง ID บนหน่วยความจำและดึงข้อมูลจากหน่วยความจำมาใช้อีกที
มีไวยากรณ์ดังนี้
id(ตัวแปร)
ตัวอย่างเช่น
>>> a = [1,2,3]
>>> id(a)
45848712
>>> id(a[0])
1485616816
>>> id(a[1])
1485616848
>>> id(a[2])
1485616880
round
เป็นคำสั่งสำหรับใช้ปัดตัวเลข ในระบบจำนวนจริง
มีไวยากรณ์ดังนี้
round(ตัวเลขจำนวนจริง)
ตัวอย่างเช่น
>>> round(4)
4
>>> round(4.5)
4
>>> round(4.6)
5
>>> round(-0.1)
0
>>> round(-0.6)
-1
sum
เป็นคำสั่งสำหรับใช้หาผลรวมของ iterable
มีไวยากรณ์ดังนี้
sum(List ข้อมูลตัวเลข)
sum(List ข้อมูลตัวเลข, ค่าเริ่มต้น)
ตัวอย่างเช่น
>>> sum([1,2,3])
6
>>> sum([1,2,3],10)
16
type
เป็นคำสั่งสำหรับใช้ตรวจสอบชนิดของข้อมูล
มีไวยากรณ์ดังนี้
type(X)
ตัวอย่างเช่น
input(ข้อความชนิดสตริงอธิบาย)0
ด้านล่างนี้อันนี้คือความคิดของผมครับ หากท่านใดไม่อยากเสียเวลา ข้ามไปไม่ต้องอ่านครับ
ทำไมต้องเรียนรู้ไวยากรณ์พวกนี้ด้วย นำไปใช้เลยง่ายกว่า ?
เรื่องเหล่านี้เรื่องพื้นฐานครับ คุณอาจจะเคยเขียนภาษาอื่น ๆ มาก่อน หรือคุณคิดว่าเรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็น ผมจะขอยกประโยคหนึ่ง "นักรบแค่มีดาบ ก็เป็นนักรบได้ แต่ถ้านักรบร่ำเรียนวิชาการสู้รบ (ซึ่งเหมือนพื้นฐาน) กับวิชาเชื่อมโลหะ (งานช่าง เรียนไม่เรียนก็ได้) มา รบร้อยครั้งจะชนะมากกว่าแพ้ แม้ดาบหักก็ยังสามารถซ่อมดาบของตนเองได้แม้ไม่มีช่าง"
และอีกคำถาม ใช้ภาษานู้นดีกว่าและภาษานี้ดีกว่า
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะใช้ภาษาอะไร คุณก็ยังสามารถสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้ ภาษาคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน ขอให้เลือกภาษาซักภาษาหนึ่ง ฝึกให้เป็นภาษาที่คุณคุ้นเคย ถนัดกับมัน และ ไว้ใจมันได้ อย่าว่ายตามกระแสนัก แล้วคุณจะพบกับความสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับความเป็นจริงของชีวิต
"น้ำไหลมา จงอย่าว่ายไปตามกระแสน้ำ จงว่ายทวนกระแสน้ำ แล้วสุดท้ายคุณจะรู้เองว่า ความจริงแล้วว่ายไปตามกระแสน้ำสุดท้ายแล้วจะไปไหน"
ติดตามบทความต่อไปนะครับ
ขอบคุณครับ