กิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบใดก็ตามที่เริ่มได้รับความนิยมจากคนหมู่มาก(Mass Tourism) และเริ่มนำมาซึ่งความเสี่ยงรูปแบบต่าง ๆ ปรากฏการณ์การท่องเที่ยวลักษระนี้กำลังใหลบ่าเข้าไปในพื้นที่ทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
กิจกรรมการท่องเที่ยวรูปแบบข้างต้นก่อให้เกิดผลกระทบเชิงลบกล่าวคือส่งผลให้เกิดการเสื่อมโทรมหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งทางด้านคุณค่าของวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของผู้คนในพื้นที่หรือการเสื่อมโทรมทางสิ่งแวดล้อมของพื้นที่ที่ถูกท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นหนึ่งในทางออกให้กับการท่องเที่ยวรูปแบบดั้งเดิมข้างต้นซึ่งขาดการพิจารณาถึงบริบทเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติ หลักการสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นี้ คือ การลดผลกระทบเชิงลบที่เกิดจากทางการท่องเที่ยวที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและประเพณีวัฒนธรรมของชุมชนแหล่งท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับการรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในพื้นที่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้้ที่นี้
หลักการพื้นฐานของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เรียนรู้เพิ่มเติม � หามัคคุเทศก์ผู้มีความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ
จับจ่ายใช้สอยกับชุมชนท้องถิ่น
เรียนรู้และสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถ่ินอย่างแท้จริง
เดินตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ(เท่านั้น) � เพื่อป้องกันไม่ให้นักท่องเที่ยวไม่เดินหลุดออกไปเหยียบย่ำทำลายพันธ์ุพืชหายากและรบกวนสัตว์ป่า
ประหยัดพลังงาน � ปิดไฟ แอร์ปรับอากาศเมื่อไม่จำเป็นหรือเมื่อออกจากห้องพัก อาบน้ำน้อยลง และปิดน้ำทุกครั้งขณะแปรงฟัน
เก็บไว้เพียงแค่ความทรงจำและทิ้งไว้เพียงแค่รอยเท้า � หากเราเอาธรรมชาติกลับไปเป็นของฝาก แล้วทิ้งขยะไว้ มันก็จะยิ่งเลวร้ายยิ่งกว่าหากเราเอาส่ิงที่มันเป็นของธรรมชาติแต่กลับหยิบยื่นสิ่งที่ธรรมชาติไม่ต้องการและไม่สามารถรองรับได้
ประยุกต์ความเป็นธรรมชาติมาใช้กับบ้านของเรา � ประยุกต์เอากฏเกณฑ์ที่เหมาะสมมาใช้กับที่บ้านเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติให้มาก และช่วยเหลือในกิจกรรมที่เป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตก
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในผืนป่าตะวันตก
เนื่องจากผืนป่าตะวันตกยังคงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติจึงเหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ระบบนิเวศที่หลากหลายครอบคลุมตั้งแต่ผืนป่าเขตร้อน ป่าชายเลน ป่าทุ่งหญ้า ที่ราบ จนผืนป่าเชิงเขาทำให้เกิดความหลากหลายทั้งพันธุ์สัตว์และพรรณพืช และความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ ภูมิทัศน์ที่สวยงาม และเส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจให้กับนักศึกษาธรรมชาติ คลิกอ่านต่อที่หน้า กิจกรรมและแหล่งท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หมายถึงการท่องเที่ยว ที่เน้นเรื่องของการสร้างความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อม และธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ รวมถึงการใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้น้อยที่สุด ซึ่งเป็นการช่วยรักษาสภาพแวดล้อมให้มีความอุดมสมบูรณ์ สามารถมีชีวิตชีวา ซึ่งแตกต่างจากการท่องเที่ยวแบบเก่า ที่เน้นความสะดวกสบายของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก จนลืมนึกถึงสภาพแวดล้อม สำหรับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้นจะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันได้เลยครับ
1. การเดินทางศึกษาธรรมชาติ เป็นกิจกรรมที่จะช่วยปลูกฝังนักท่องเที่ยวให้ซึมซาบและตระหนักได้ถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี โดยในระหว่างการเที่ยวชมนั้นวิทยากร หรือไกด์นำทางก็จะอธิบายถึงความสำคัญของระบบนิเวศน์ หรือสิ่งแวดล้อมให้ฟังไปด้วย เส้นทางการศึกษาธรรมชาตินั้น ที่นิยมกันมากก็ได้แก่ ภูเขา ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ ป่าชายเลน เป็นต้นครับ
2. การนั่งเรือชมพูมิประเทศ ส่วนใหญ่กิจกรรมนี้จะเป็นการเน้นที่แม่น้ำลำคลองต่างๆ ซึ่งกิจกรรมนี้จะมีพวกไกด์ หรือวิทยากร คอยดูแลนักท่องเที่ยว ด้วยการบรรยายให้ความรู้ เกี่ยวกับความสำคัญของสิ่งแวดล้อมไปด้วยก็ได้
3. การขี่จักรยานชม ภูมิประเทศ จักรยานถือได้ว่าเป็นยานพาหนะที่มีความคล่องตัวสูง และมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากใช้พลังงานสะอาดที่ผลิตจากมนุษย์ นอกจากนั้นในระหว่างการขี่จักรยานท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมได้โดยตรง ซึ่งจะช่วยให้ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี
4. การล่องแก่ง เป็นการศึกษาระบบนิเวศน์ รวมถึงสิ่งแวดล้อมได้ดีอีกช่องทางหนึ่ง ผ่านทางกิจกรรมที่มีความสนุกสนาน น่าตื่นเต้นอย่างการล่องแก่ง โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถสัมผัสกับน้ำสะอาด และธรรมชาติสองฟากฝั่งของแก่ง ได้อย่างชัดเจน และโดยตรงเลยทีเดียว
5. การขี่ช้าง เที่ยวชมพูมิประเทศ หรือตามเส้นทางการศึกษาธรรมชาติ ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้นไม่ควรพลาด เนื่องจาก เป็นอีกทางหนึ่งที่จะสามารถสัมผัสกับธรรมชาติได้อย่างโดยตรงเช่นเดียวกัน
6. การส่องสัตว์ หรือดูนก ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติชั้นเยี่ยม การส่องสัตว์นั้นจะสามารถเรียนรู้การดำรงชีวิต การหาอาหารของสัตว์ได้อย่างดี ส่วนการดูนกนั้นจะเน้นไปที่ความรู้เกี่ยวกับสานพันธุ์ต่างๆ ของนก ซึ่งมีอยู่มากมายหลายชนิด
7. การดำน้ำ เพื่อดูสิ่งแวดล้อมใต้ทะเล ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมกันมาก เมื่อไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล
8. การกางเต็นท์นอนพักแรม ก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่สามารถช่วยปลูกฝังเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังเป็นกิจกรรม ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวนั้นสัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
นอกจากที่กล่าวมาแล้ว ยังมีกิจกรรมที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อีกมาก ซึ่งหลักใหญ่ใจความของมันคือการท่องเที่ยวโดยที่ไม่สร้างภาระต่างๆ ให้กับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิต ความเป็นไปที่เกิดขึ้นในธรรมชาติรูปแบบต่างๆ ด้วยนั่นเองครับ
หรือการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ หมายถึง การท่องเที่ยวที่คำนึงถึงแหล่งธรรมชาติ หรือแหล่งวัฒนธรรมอันมีความเกี่ยวเนื่องกับระบบนิเวศของสถานที่นั้นๆ โดยที่ไม่ก่อให้เกิดการรบกวน หรือความเสียหายต่อธรรมชาติ หรือระบบนิเวศ ในขณะเดียวกันยังเป็นการช่วยส่งเสริมวิถีชุมชนโดยรอบให้มีคุณภาพชีวิต หรือคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น นับเป็นกระแสการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยมีจุดเด่นตรงที่นอกจากจะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวลักษณะหนึ่งแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้คุณภาพชีวิตและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติ วัฒนธรรมท้องถิ่น หรือกลุ่มคนในท้องถิ่น ให้มีความมั่นคง และยั่งยืนมากยิ่งขึ้นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มีวิธีอย่างไรบ้าง?
ถ้าหากพูดถึงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ หลายๆ คนอาจจะยังมองไม่เห็นภาพมากนัก แต่ถ้าหากพูดให้เห็นภาพมากที่สุดก็อาจจะเปรียบเสมือนการท่องเที่ยวในลักษณะเดินป่า แต่ก็ต้องลดอัตราการเกิดของขยะ หรือสิ่งที่อาจจะส่งผลเสียต่อธรรมชาติ อย่างเช่น
- วางแผนการเดินทางอย่างรัดกุม เพื่อช่วยประหยัดปริมาณน้ำมัน
- จัดกระเป๋า โดยเน้นปริมาณของที่จำเป็น เพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย
- ลดอุปกรณ์ที่อาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อธรรมชาติ เช่น ทิชชู่เปียก หรือพลาสติกต่างๆ
- พกภาชนะใส่อาหารไปเอง เพื่อลดการใช้ภาชนะที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติ
- พกถุงขยะส่วนตัวไปเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดขยะในบริเวณดังกล่าวที่อาจจะส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ หรือสัตว์ที่อาศัยในบริเวณใกล้เคียง
- หลีกเลี่ยงการขีดเขียน หรือทำสัญลักษณ์ใดๆ ลงบนต้นไม้ โขดหิน หรือโบราณวัตถุต่างๆ
- หลีกเลี่ยงการนำสิ่งของจากธรรมชาติติดไม้ติดมือกลับบ้าน
- สนับสนุนธุรกิจชุมชน เพื่อก่อให้เกิดการหมุนเวียนรายได้ของคนในพื้นที่
การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์มีประโยชน์ยังไง?
จากที่กล่าวมาข้างต้นนั้นจะพบว่าการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่นอกจากจะช่วยรักษา และดำรงไว้ซึ่งระบบนิเวศ และธรรมชาติ ณ สถานที่แห่งนั้นแล้ว การเที่ยวเชิงอนุรักษ์เองนั้นก็ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจบริเวณชุมชนใกล้เคียง นับว่าเป็นการกระจายรายได้สู่ชุมชน อีกทั้งยังช่วยสร้างจิตสำนึกที่ดีของนักท่องเที่ยวต่อการดูแลรักษาระบบนิเวศ และธรรมชาติจากการร่วมด้วยช่วยกันลดปัจจัยที่อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงกับธรรมชาติ เช่น การลดปริมาณการใช้พลาสติก หรือไม่ทิ้งขยะในแหล่งธรรมชาติ นอกจากนี้นักท่องเที่ยวเองก็จะได้เรียนรู้ความสำคัญของธรรมชาติผ่านกระบวนการการศึกษาระบบนิเวศอีกด้วย
7 สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใกล้กรุงเทพ
ถ้าหากใครที่กำลังสนใจ หรืออยากเริ่มการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สามารถเริ่มได้จากบริเวณรอบๆ กรุงเทพฯ ได้ โดย 7 สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ใกล้กรุงเทพฯ จะมีสถานที่ใดบ้าง เตรียมตัวจดลิสต์ไว้ และสุดสัปดาห์นี้ก็ไปลุยกันเลย
1. น้ำตกผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุวัต ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
น้ำตกผากล้วยไม้ – น้ำตกเหวสุทัต ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้นเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ถูกเชื่อมระหว่างสองน้ำตกเข้าไว้ด้วยกัน ถ้าหากใครเป็นคนที่ชอบเที่ยวน้ำตกนับว่าเป็นเส้นทางที่ไม่ควรมองข้าม เพราะตลอดเส้นทางทุกคนจะได้เดินลัดเลาะไปตามห้วยลำตะคอง สลับกับป่าดิบ-แล้ง คลอด้วยเสียงน้ำตกที่ดึงกึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณในฤดูฝน แต่ถ้าไปเที่ยวในฤดูแล้งนั้นทุกคนก็จะพบกับร่องรอยการไหลรวมตัวกันของหินลาวาภูเขาไฟเมื่อหลายร้อยปีก่อน อีกทั้งยังได้พบกับดอกไม้นานาพันธุ์ เช่น หวายแดง ที่เป็นที่มาของชื่อน้ำตกที่ผลิดอกบานสะพรั่งอวดช่อสีแดงตลอดช่วงเดือนเมษายน รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิดที่ออกมาหากินทั่วบริเวณ
2. ศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ททท. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
ศูนย์การเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ททท. อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ราวๆ 140 ไร่ โดยมีภูมิศาสตร์เป็นทุ่งหญ้าพื้นราบขนาดใหญ่สลับกับเนิน สามารถรองรับทุกกิจกรรมของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่า วิ่ง ปั่นจักรยาน Mountain Bike และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่พร้อมจะมอบความสนุกให้กับทุกคน แถมยังโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติของขุนเขา และป่าไม้แห่งเขาใหญ่ อีกทั้งยังช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย
3. ทุ่งโปร่งทอง จังหวัดระยอง
สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างทุ่งโปร่งทอง จังหวัดระยอง เป็นที่เที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่เหมาะกับสายถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนจะได้รูปสวยๆ ราวกับเดินอยู่บนทุ่งดอกไม้สีทองจากต้นโปรง เมื่อถูกแสงแดดสะท้อนกระทบลงมาจนกลายเป็นสีทองระยิบระยับทั่วอาณาบริเวณ จนกลายเป็นที่มาของชื่อทุ่งโปรงทองนั่นเอง ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ราวๆ 6,000 ไร่ และตลอดเส้นทางที่ถูกปูทางด้วยไม้ระแนงทอดยาวไปกับแนวป่าชายเลนที่แสนอุดมสมบูรณ์ พร้อมกับโอบล้อมด้วยแมกไม้นานาพรรณ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการศึกษาระบบนิเวศของป่าชายเลนเป็นอย่างมาก
4. สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ
สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ บางกระเจ้า จังหวัดสมุทรปราการ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่หลายๆ คนอาจจะรู้จักกันดีในนามของ “ปอดของคนกรุงเทพฯ” ถือเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ บนพื้นที่มากกว่า 148 ไร่ ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ จึงทำให้มีแต่ความร่มรื่น เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมายรองรับให้นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เช่น ปั่นจักรยาน ชมนกที่หอส่องนก เดินศึกษาธรรมชาติ พายเรือคายัคชม ให้อาหารปลา ออกกำลังกาย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
5. ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว – น้ำตกกองแก้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช
ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว – น้ำตกกองแก้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช นับว่าเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และเส้นทางเดินป่าระยะใกล้ และมีสภาพการเดินทางสะดวก เหมาะสำหรับนักเดินป่าทุกเพศทุกวัย ลักษณะภูมิศาสตร์จะเป็นในลักษณะป่าดิบชื้นสลับกับป่าดิบแล้งที่อุดมสมบูรณ์ โดยจะเหล่าแมกไม้นานาพันธุ์ที่มีลักษณะเป็นไม้กฤษณา หรือไม้หอม และสัตว์น้อยใหญ่อีกมากมาย ซึ่งจุดหมายปลายทางก็จะพบกับน้ำตกกองแก้วที่พร้อมมอบความชุ่มฉ่ำที่เหมาะกับการศึกษาระบบนิเวศอีกด้วย
6. สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดนครนายก
สะพานทุ่งนามุ้ย จังหวัดนครนายก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ถูกรายล้อมไปด้วยทุ่งนาสีเขียว ที่พร้อมให้ทุกคนได้เรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน โดยจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวของสะพานทุ่งนามุ้ย คือ สะพานไม้ที่ทอดยาวสุดลูกตากลางทุ่งนาที่เขียวขจี ไม่ว่าใครที่แวะเวียนมาก็ต้องถ่ายรูปลงโซเชียลอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมีคาเฟ่ให้ได้นั่งพักผ่อน รับลม และชมธรรมชาติจากทุ่งนา พร้อมดื่มด่ำปล่อยใจไปกับเครื่องดื่มแก้วโปรด แถมยังสามารถสนับสนุนสินค้าจากคนในพื้นที่ หรือเกษตรกรได้ที่โซนของฝากที่มีให้ทุกคนได้เลือกสรรอย่างมากมาย
7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์ที่เป็นผืนป่ามรดกโลกใกล้กรุงเทพฯ แดนสวรรค์ของนักเดินป่า บนพื้นที่กว่า 2,168 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 4 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครราชสีมา นครนายก และปราจีนบุรี นับเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอันดับต้นๆ โดยเป็นสถานที่ที่ก่อให้เกิดแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย อีกทั้งยังเป็นบ้านหลังใหญ่ของเหล่าสัตว์ป่านานาชนิด รวมถึงแมกไม้นานาพรรณเปรียบเสมือนโรงเรียนของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาศึกษาธรรมชาติ หรือระบบนิเวศ อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ดูดาว ส่องสัตว์ ศึกษาเส้นทางธรรมชาติ ตั้งแคมป์ หรือกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ และถ้าหากใครเหนื่อยจากการเดินศึกษาธรรมชาติ สามารถแวะเข้ามาใช้บริการ Rancho Charnvee Resort and Country Club ได้ เพราะนอกจากจะได้รับการบริการระดับ 5 ดาวแล้ว ยังมีกิจกรรมมากมายรองรับทุกความต้องการของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นขี่ม้า ตีกอล์ฟ หรือขี่จักรยานในที่พักสไตล์ยุโรปที่จะทำให้ทุกคนได้รับประสบการณ์พักผ่อนที่เหนือระดับ
เนื่องด้วยกระแสของการตระหนักรู้ถึงเรื่องภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน ที่ส่งผลอย่างไรต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน ทำให้การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นับเป็นอีกหนึ่งเทรนที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน เพราะด้วยเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่เราเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยว โดยก่อให้เกิดการรบกวน หรือทำความเสียหายให้แก่ธรรมชาติน้อยที่สุด และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ยังเป็นการส่งเสริมชุมชนโดยรอบไปในตัวอีกด้วย ดังนั้น จึงอยากเชิญชวนทุกคนให้ลองหันมาท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันให้มากขึ้น โดยอาจจะเริ่มจากสถานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ได้แนะนำไปในบทความนี้ เพราะการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์นั้นจะช่วยรักษาธรรมชาติให้อยู่กับทุกคนไปได้อีกนานแสนนาน
ติดต่อเรา
24 HOURS A DAY
แรนโช ชาญวีร์ รีสอร์ท แอนด์ คันทรีคลับ เขาใหญ่
333/4 หมู่ 12 ตำบลขนงพระ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30450
อีเมล : info@ranchocharnvee.com
โทร. : +66 44 756210-3
แฟกซ์ : +66 44 756210-3
โทร. : 088-378-2324 (โรงแรม),
088-375-4466 (สนามกอล์ฟ)
Show on map
Get in touch. We are waiting for you
SOCIAL MEDIA CHANNELS
Newsletter
SIGN UP FOR SPECIAL OFFERS
SUBSCRIBE
Copyright © 2022 charnveeresortkhaoyai.com. All rights Reserved.
Keep me signed in
Login
Register
Lost your password? Please enter your username or email address. You will receive a link to create a new password via email.