ค่าสาธารณูปโภคสำคัญที่ผู้บริโภคต้องจ่ายไปในแต่ละเดือนจากนี้มีแนวโน้มสูงขึ้นตามปริมาณการใช้พลังงาน ยกเว้นว่าภาครัฐจะปรับเปลี่ยนนโยบาย
ทบวงพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดว่าอีกสามปีจากนี้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกจะสูงขึ้นตามการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิด เป็นผลทำให้ผู้บริโภคต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้น แต่ปัญหาดังกล่าวอาจทุเลาลงหากรัฐบาลทั่วโลกหันมาจริงจังการใช้พลังงานสะอาดมากกว่านี้
ปี 2021 อัตราการใช้พลังงานและค่าไฟทั่วโลกเพิ่มขึ้น 6% หลังรัฐบาลและภาคธุรกิจเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ซบเซาจากสถานการณ์โควิดเมื่อปี 2020 ถือเป็นการเพิ่มขึ้นมากสุดในรอบ 10 ปีนับจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เริ่มจากวิกฤตสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำในสหรัฐฯ (Subprime) ในปี 2010
ยิ่งกว่านั้น ปริมาณการใช้ไฟฟ้าโดยรวมทั่วโลกยังสูงถึง 1,500 เทราวัตต์ต่อชั่วโมง มากสุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ โดยมากสุดอยู่ที่จีน โดยครึ่งหนึ่งของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นเมื่อปี 2021 มาจากจีน และเฉพาะที่จีนประเทศเดียวปี 2021 ก็ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมา 10%
อินเดียเป็นประเทศใหญ่อีกประเทศที่ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยสถานการณ์ในจีนและอินเดียทำให้ทั้งสองประเทศต้องหาถ่านหินเพื่อป้อนให้โรงไฟฟ้าเพิ่ม แต่เมื่อเกิดวิกฤต Supply Chain จัดหาถ่านหินมาได้ไม่ทันกับความต้องการทำให้ครึ่งหลังปี 2021 เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ของทั้งสองประเทศ
ในเมื่อการลดใช้พลังงานอาจทำได้ยาก เพราะแต่ละประเทศคงพยายามอย่างเต็มที่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจให้พ้นจากภาวะซบเซาจากสถานการณ์โควิด IEA เสนอว่ารัฐบาลทั่วโลกต้องลงทุนในพลังงานสะอาด และพลังงานทดแทนมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไปพร้อมกับลดการสนับสนุนโครงการพลังงานที่สร้างมลพิษ เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหิน กระตุ้นให้ประชาชนในประเทศรู้คุณค่าของพลังงานและใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
IEA ยังเตือนด้วยว่า หากไม่ลงทุนในพลังงานสะอาดเพิ่มเติม จะไม่สามารถลดการปล่อยคาร์บอนสู่ชั้นบรรยากาศจากโรงไฟฟ้า จนนำไปสู่การไม่ปล่อยคาร์บอนเลย (Net Zero Carbon) ตามเป้าในปี 2050
ส่วนเรื่องนโยบายด้านพลังงาน IEA เตือนว่ารัฐบาลประเทศใดที่ไม่ปรับเปลี่ยนหรือลงทุนในพลังงานสะอาดเพิ่มเติม จะต้องเพิ่มค่าไฟ จนทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ ที่สุดอาจบานปลายกลายเป็นปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาล และทำให้ประเทศเกิดความวุ่นวายได้/theguardian
–
อัพเดตข่าวสารการตลาดทุกวันได้ที่ Website: Marketeeronline.co
Facebook:
www.facebook.com/marketeeronline