เราเป็นคนที่ใช้เครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเรา แบบทรหดมากๆ ตกบ่อยมาก ครั้งล่าสุด ตอนนก เราก็แค่เอาเครื่องขึ้นมาเช็คดูว่า หน้าจอแตกไหม โทรออกได้แค่นั้น ไม่ได้เช็คอาการอย่างอื่น เพราะเครื่องตกจนเราชิน แต่ตอนที่จะถ่ายรูปนี้แหละ ถึงรู้ว่ากล้องไม่โฟกัส เราคิดว่าน่าจะเป็นเพราะเราทำเครื่องตกแน่นอน แต่ตอนนั้นเราไม่ได้เช็ค มาดูวิธีที่แก้อาการเครื่องเบื้องต้น ก่อนส่งซ่อมกันเลย
- เช็คตรงบริเวณหน้าเลนส์กล้อง
สิ่งแรกที่ควรทำเลย คือ เช็ดเลนส์กล้อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเราก่อนเลย เพราะปกติเราก็ไม่ได้เป็นคนที่รักษาความสะอาดของเครื่อง iPhone (ไอโฟน) ของเราอยู่แล้ว เช็ดเสร็จ จนคิดว่าไม่มีฝุ่น หรือคราบติดอยู่ ก็ทดลองถ่ายรูปดูอีกครั้ง
- ลอง Restart เครื่องใหม่
เมื่อวิธีแรกไม่ได้ผล เราลองวิธีที่ 2 คือ ลอง Restart เครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเรา เพราะน่าจะเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้ว คิดอะไรไม่ออก ให้ปิดเครื่อง เราลอง ปิด – เปิดเครื่อง แล้วก็ลองใช้กล้องดู
- แตะหน้าจอบริเวณที่จะโฟกัส
ทำทั้ง 2 วิธีแล้ว เครื่องก็ยังไม่หายอยู่ดี เราเลยลอง แตะที่หน้าจอ ตรงบริเวณที่เราอยากให้กล้องของเราโฟกัส เพราะบางครั้ง แสงอาจจะเยอะ หรือ องค์ประกอบใดๆ ก็ตาม อาจจะทำให้กล้องเครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเราไม่โฟกัสก็เป็นได้
- ลองสลับใช้กล้องหน้า กล้องหลัง
เมื่ออาการไม่ดีขึ้น เราลองสลับหน้าจอ ไปมา เพื่อลองทดสอบดูว่าเครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเรานั้น มีปัญหาที่ ตัวกล้องหน้า หรือ กล้องหลังกันแน่ เพื่อส่งซ่อมต่อไป
ส่งเครื่องเข้าร้านซ่อมที่เชื่อถือได้
เมื่อทดสอบแล้ว ปรากฏว่า เครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max ของเรานั้น มีปัญหาที่กล้องหลัง ที่ไม่โฟกัส เราแอดไลน์ไปที่ร้าน Tech Avenue เทคอเวนิว เพื่อส่งอาการของเครื่อง ให้ช่างดูอาการ ร้านนี้เพื่อนเราเคยส่งเครื่องเข้าซ่อม เลยแนะนำเรา เรานำเครื่องไปส่งซ่อมที่ร้าน และรอรับเครื่องกลับเลย ใช้เวลาไม่นาน ค่าซ่อมก็ตามอาการของเราเลย แต่ค่าซ่อมถูกกว่าส่งเข้าศูนย์เยอะเลย
เราใช้เครื่องอย่างไม่ค่อยระวังเท่าไหร่ ตกบ่อย ทำให้กล้องของเครื่อง iPhone (ไอโฟน) 11 Pro Max นั้นมีปัญหานิดหน่อย ช่างที่ร้านก็แก้ให้เรียบร้อย อยากแนะนำว่าถ้าใครมีปัญหา แนะนำสอบถามอาการของเครื่องกับช่างที่มีความชำนาญเลยดีกว่า เพื่อให้ช่างประเมินอาการให้แบบแน่นอน ใครมีปัญหาเครื่องก็ลองแอดไลน์ไปสอบถามทางร้านได้เลย ทางร้านบริการดี เป็นกันเองมาก
iFixit ยืนยันว่า iPhone 13 หากเปลี่ยนจอเอง จะใช้งาน Face ID ไม่ได้ ถึงแม้จะนำจอแท้ของอีกเครื่องมาสลับใช้ก็ตาม
เปลี่ยนจอ iPhone 13 กระทบต่อ Face ID
ก่อนหน้านี้เคยมีรายงานว่า iPhone 13 ใช้รูปแบบหน้าจอแบบใหม่ซึ่งเกี่ยวข้องกับระบบ Face ID ทำให้ผู้ใช้รวมถึงร้านซ่อมอิสระ ถ้าเปลี่ยนจอหรือสลับจอเครื่องอื่นมาใช้ จะไม่สามารถใช้งาน Face ID ได้ ถึงแม้หน้าจอนั้นจะเป็นจอแท้ ๆ ของ iPhone อีกเครื่องก็ตาม
iCorrect ได้เผยวิดีโอทดสอบการสลับจอ iPhone 13 จากอีกเครื่อง มายังอีกเครื่อง พบว่าหน้าจอสามารถใช้งานได้ปกติ แต่ฟีเจอร์ Face ID ไม่สามารถใช้งานได้
iFixit เผยว่า ความเชื่อมโยงระหว่างหน้าจอกับ Face ID อยู่ที่ Microcontroller ที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ต้องใช้เครื่องมือเพิ่มเติมที่ซับซ้อน ขั้นตอนมีความยุ่งยาก รวมถึงต้องมีการส่งข้อมูลยืนยืนไปยัง Server ของ Apple ด้วย
iFixit เผยต่อว่า รูปแบบหน้าจอแบบใหม่ของ iPhone 13 นี้ทำให้ร้านซ่อมอิสระทำงานได้ลำบากขึ้น เพราะการเปลี่ยนจอจะมีผลต่อระบบ Face ID แน่นอนว่าลูกค้าที่นำเครื่องมาเปลี่ยนจออาจไม่ยอมรับถึงผลกระทบส่วนนี้
หากร้านซ่อมอิสระอยากเข้าถึงเครื่องมือและวิธีการซ่อมที่ได้มาตรฐานจาก Apple, ร้านซ่อมอิสระต้องเข้าร่วมโปรแกรมร้านซ่อมอิสระของ Apple ซึ่งมีเงื่อนไขและข้อจำกัดหลายอยากที่ร้านซ่อมอาจต้องปรับปรุง
ราคาซ่อมจอ iPhone 13 ที่ Apple
สรุปว่าในตอนนี้หากผู้ใช้ทำหน้าจอ iPhone 13 เสียหายและไม่อยากให้สูญเสียระบบ Face ID อาจจำเป็นต้องนำเครื่องไปซ่อมที่ Apple หรือศูนย์บริการ ร้านซ่อมอิสระที่ได้มาตรฐานของ Apple ด้วย ส่วนอนาคตร้านซ่อมอิสระจะมีแนวทางหรือวิธีการจัดการหรือไม่ ต้องรอดูกันต่อไป