เราใช้คุกกี้ Cookie เพื่อสำรวจหน้าเว็บไซต์และสามารถวิเคราะห์การใช้งานเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งสามารถส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่ท่าน ทั้งนี้ เราจะไม่ใช้คุกกี้ทางเลือกจนกว่าท่านจะอนุญาตให้เราเปิดใช้งานคุกกี้ดังกล่าว โดยท่านสามารถศึกษารายละเอียดการใช้คุกกี้ได้จาก นโยบายการใช้คุกกี้
เรามักจะเห็นหลายคนลา "ของไหว้" กลับมากิน ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง แต่ความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่
เมื่อเราถวาย "ของไหว้" ไม่ว่าจะเป็นไหว้ศาลพระภูมิ ไหว้บรรพบุรุษ ไหว้เทพต่างๆ รวมถึง ของแก้บน ฯลฯ หลังจากจบพิธีการแล้วเรามักจะเห็นหลายคนลา "ของไหว้" เหล่านั้นกลับมากิน ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
แต่ความเชื่อเหล่านี้เป็นเรื่องจริงหรือไม่ "ของไหว้" และ ของแก้บน เหล่านั้นสามารลากลับมากินได้หรือไม่ วันนี้ หมอปลาย พรายกระซิบ มีคำตอบมาฝากกันค่ะ
หมอปลาย พรายกระซิบ แนะนำว่า สำหรับ "ของไหว้" เทพ หรือ ไหว้บรรพบุรุษ สามารถลากลับมากินเป็นยา หรือเสริมมงคลชีวิตได้ ส่วน ของแก้บน ห้ามลากลับมากินเด็ดขาด เพราะถือว่าให้แล้วทวงคืน พรที่เทพให้ไว้ก็จะถูกทวงคืนเช่นกัน
ที่มาข้อมูล-ภาพ : Plai Navaracha หมอปลาย พรายกระซิบ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ความยาวของ "ข้อนิ้วก้อย" บอกอะไรในตัวคุณ
"หมอกฤษฏ์" ท้าพิสูจน์ คาถาทวงหนี้ ของหายได้คืน ใครไม่เชื่อต้องลอง
"ปล่อยสัตว์" สอดรับความเชื่อเรื่องใด ควรปล่อยอย่างไร จะไม่เป็นบาป
5 "ต้นไม้มงคล" เสริมเสน่ห์ ดึงดูด ทรัพย์ รับ โชคลาภ ใครอยาก รวย รีบหามาปลูก
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ข่าวล่าสุด
#ข่าววันนี้
#ข่าวด่วน
#คมชัดลึก
#คมชัดลึกออนไลน์
#คมชัดลึกไลฟ์สไตล์
#หมอปลาย
#หมอปลาย พรายกระซิบ
#ความเชื่อ
#ของไหว้
#ของแก้บน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Previous
Read More
451
ความยาวของ "ข้อนิ้วก้อย" บอกอะไรในตัวคุณ
Read More
28388
"หมอกฤษฏ์" ท้าพิสูจน์ คาถาทวงหนี้ ของหายได้คืน ใครไม่เชื่อต้องลอง
Read More
3907
"ปล่อยสัตว์" สอดรับความเชื่อเรื่องใด ควรปล่อยอย่างไร จะไม่เป็นบาป
Read More
1236
5 "ต้นไม้มงคล" เสริมเสน่ห์ ดึงดูด ทรัพย์ รับ โชคลาภ ใครอยาก รวย รีบหามาปลูก
Next- 1
- 2
แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ข่าวล่าสุด
#ข่าววันนี้
#ข่าวด่วน
#คมชัดลึก
#คมชัดลึกออนไลน์
#คมชัดลึกไลฟ์สไตล์
#หมอปลาย
#หมอปลาย พรายกระซิบ
#ความเชื่อ
#ของไหว้
#ของแก้บน
ข่าวที่น่าสนใจ
Previous
ชาวสวนโอด "มังคุด-เงาะ" ราคาตกฮวบ ซ้ำขายไม่ออกหลังล้งปิดรับซื้อ
จับหนุ่มอ้างเป็น ตร.ตุ๋นเงินอ้างเคลียร์คดีก่อนเชิดเงินหนี
อดีตดาราดัง เจอวิกฤตโควิดเป็นหนี้ 10 ล้าน ผันตัวเองขายทุเรียนพลิกชีวิต
10 ปรากฎการณ์ 'อสังหาฯไทย' คอนโดฯพลิกกลับ - บ้านมือสองมาแรง
ชาวสวนโอด "มังคุด-เงาะ" ราคาตกฮวบ ซ้ำขายไม่ออกหลังล้งปิดรับซื้อ
จับหนุ่มอ้างเป็น ตร.ตุ๋นเงินอ้างเคลียร์คดีก่อนเชิดเงินหนี
อดีตดาราดัง เจอวิกฤตโควิดเป็นหนี้ 10 ล้าน ผันตัวเองขายทุเรียนพลิกชีวิต
10 ปรากฎการณ์ 'อสังหาฯไทย' คอนโดฯพลิกกลับ - บ้านมือสองมาแรง
ชาวสวนโอด "มังคุด-เงาะ" ราคาตกฮวบ ซ้ำขายไม่ออกหลังล้งปิดรับซื้อ
Next- 1
- 2
- 3
- 4
นอกจาก Livinginsider จะเป็นเว็บที่รวบรวมประกาศ เช่าคอนโด เช่าบ้าน ขายคอนโด ขายบ้าน ก็ยังมีบทความที่มีความรู้อื่นๆมาเสิร์ฟกันให้ได้อ่านทุกวันอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อนั้นเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับบ้านเรามาอย่างช้านาน ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาอย่างบาป บุญ ผีสาง รวมถึงเจ้าที่เจ้าทางและผีบ้านผีเรือนด้วย ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องที่เกี่ยวกับสองอย่างหลังครับ นั่นก็คือการไหว้เจ้าที่ในบ้านนั่นเอง อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงหลังวันขึ้นปีใหม่ไทยหรือวันสงกรานต์แล้วด้วย เรียกได้ว่าเหมาะที่จะหาเรื่องทำบุญสุดๆ เลยล่ะครับ
การไหว้เจ้าที่ในบ้านนั้นนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังทำได้ไม่ยากอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องนิมนต์พระหรือจ้างพราหมเพื่อทำพิธีแต่อย่างใด พร้อมด้วย วิธีไหว้เจ้า ให้ชีวิตดีมีแต่ เฮง เฮง เฮง ในช่วงตรุษจีน ไหว้ได้ทั้งวัน ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
การไหว้เจ้าที่ในบ้านนั้นนอกจากจะได้บุญแล้ว ยังทำได้ไม่ยากอีกด้วย ไม่จำเป็นต้องนิมนต์พระหรือจ้างพราหมเพื่อทำพิธีแต่อย่างใด ส่วนการไหว้มีขั้นตอนอย่างไรบ้างนั้น อ่านได้จากบทความนี้เลยครับ
ทำไมต้องไหว้เจ้าที่ในบ้านด้วย
บางคนอาจสงสัยว่าทำไมยังต้องไหว้เจ้าที่ในบ้านอีก ไหว้ศาลพระภูมิหน้าบ้านก็น่าจะพอแล้ว ซึ่งจริงๆ เป็นคนละส่วนกันครับ ศาลพระภูมินั้นถือเป็นวิญญาณที่เราเชิญให้เข้ามาปกปักษ์และปกป้องพื้นที่นั้นๆ แต่เจ้าที่ในบ้านเนี่ยจะเป็นวิญญาณที่อยู่ในบ้านหรืออาคารหลังนั้นๆ อยู่แล้ว ไม่ได้ถูกเชิญมาจากที่ไหน ดังนั้นก็เหมือนกับการให้ความเคารพวิญญาณของบ้านที่เราอาศัยอยู่นั่นเอง
ขอบคุณภาพจาก horolive.com
เตรียมสิ่งของให้พร้อม
แน่นอนว่าการไหว้เจ้าที่ในบ้านต้องมีสิ่งของที่เฉพาะเจาะจงไม่ต่างจากการไหว้ชนิดอื่น ส่วนสิ่งที่ต้องมีและจำนวนที่ต้องใช้ในการไหว้เจ้าที่ในบ้าน มีดังนี้
1. เทียน 2 เล่ม
2. ธูป 5 ดอก
3. น้ำชา 5 แก้ว
4. ดาวเรือง 9 ดอก
5. ผลไม้ 9 ชนิด
6. หมากพลู 9 คำ
7. ผ้าขาวบาง 1 ผืน
ในส่วนของผลไม้ทั้ง 9 ชนิดนั้นจะเป็นผลไม้ชนิดใดก็ได้ โดยควรจะเลือกผลไม้ที่มีความหมายเป็นมงคล เช่น ส้ม กล้วย องุ่น สับปะรด แอปเปิ้ล ลิ้นจี่ สาลี่ ลูกพลับ ทับทิม เป็นต้น
ขอบคุณภาพจาก tnews.co.th
วิธีไหว้เจ้าที่ในบ้านมีขั้นตอนอย่างไร
หลังจากได้สิ่งของที่จำเป็นสำหรับทำพิธีครบหมดแล้ว ควรหาฤกษ์งามยามดีสำหรับการไหว้เจ้าที่ในบ้านครับ ซึ่งควรจะเป็นวันอังคารหรือวันเสาร์ เวลา 12.00 น. ตรงจะถือเป็นเวลาที่ดีที่สุด ส่วนขั้นตอนมีดังนี้
1. ให้ผู้ไหว้หันหน้าเข้าในบ้าน จากนั้นปูผ้าขาวบางไว้ที่กลางบ้านและนำของไหว้ทั้งหมดวางบนผ้าขาวบาง
2. จุดธูป เทียน และกล่าวขอขมาว่า "ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือนบ้านเลขที่...(บ้านเลขที่ตัวเอง) บ้านหลังนี้ วันนี้เป็นวันดี ข้าพเจ้า...(ชื่อ-นามสกุล) นำเครื่องสักการะบูชามาตั้งถวายเพื่อขอขมากรรม หากมีสิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำผิดไปทั้งตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งรู้ก็ดี ไม่รู้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมท่าน ขอท่านจงโปรดงดโทษ เว้นโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด และโปรดช่วย...(คำอธิฐานของเราเอง)"
3. หลังจากธูปหมดแล้ว ให้ดับเทียนและจับพานพร้อมกล่าวว่า "ขอเดนขอทานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นศิริมงคล" หลังจากนั้นค่อยนำผลไม้ไปรับประทาน
ต้องไหว้เจ้าที่ในบ้านบ่อยแค่ไหน
สำหรับการไหว้เจ้าที่ในบ้านนั้น ไม่มีระยะเวลาที่กำหนดไว้ตายตัวว่าต้องทำทุกกี่วันหรือกี่เดือน ดังนั้นก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลยครับ ถ้าไม่ค่อยมีเวลาหรือไม่ค่อยมีงบ ก็อาจจะไหว้ปีละครั้งก็ได้ แต่ถ้าเงินพร้อมและมีเวลาสามารถไหว้ได้บ่อย จะไหว้ทุก 3 เดือนก็ได้ ตามแต่สะดวกครับผม
ขอบคุณภาพจาก noozup.news
ทั้งหมดนี้ก็เป็นรายละเอียดที่จำเป็นต้องรู้ของการไหว้เจ้าที่ในบ้านครับ ใครที่กำลังคิดจะไหว้และสงสัยในขั้นตอนก็สามารถอ่านได้จากบทความนี้แล้วนำไปทำตามได้เลย ซึ่งผมว่ามันเป็นการเสริมสิริมงคลที่สามารถทำได้ง่ายแถมยังใช้งบน้อยอีกด้วย
นอกจากไหว้เจ้าที่แบบไทยๆกันแล้ว สำหรับชาวไทยเชื้อสายจีน เราก็มีวิธีไหว้เจ้า ให้ชีวิตดีมีแต่ เฮง เฮง เฮง ในช่วงตรุษจีน มาแชร์กันอีกด้วย
ขั้นตอนการไหว้เจ้า ตรุษจีน มีให้ครบทุกรูปแบบ โดยเฉพาะ ไหว้เทพเจ้า “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภที่จะมาแค่ปีละครั้ง ทั้งการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรพบุรุษ ให้ทานสัมภเวสี
ใน“ตรุษจีน” ปกติเราจะไหว้ 3 วันสำคัญ คือ วันจ่าย วันไหว้ และวันเที่ยว (วันขึ้นปีใหม่จีน) โดยเฉพาะ "วันไหว้" ซึ่งเรามีความเชื่อว่าจะทำให้ ทำมาค้าขึ้น ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมา
เรามีวิธีและขั้นตอนสำหรับการไหว้เจ้า “ตรุษจีน” มาฝากกัน มาดูกันเลยครับ
1. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ช่วงเช้ามืด
ช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00-07.00 น. เริ่มต้นด้วยการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ (ไป๊เล่าเอี๊ย) เป็นการไหว้เทพเทวดาผู้คุ้มครองบ้านเรือน หลังจากไหว้เสร็จ ก็เผากระดาษเงินกระดาษทองตามประเพณี แต่อย่าเผาเยอะมาก เพราะช่วงนี้จะมีผลกับ PM 2.5 ด้วยครับ
ของไหว้ที่ต้องเตรียมได้แก่ :
- ใช้ธูปในการไหว้ 5 ดอก
- เนื้อสัตว์ต้มสุก(ซาแซ) 3 อย่าง หรือ 5 อย่าง
- (โหงวแซ) เช่น ไก่ เป็ด หมู ฯลฯ
- ต่อด้วยผลไม้มงคล 5-7 อย่าง
- เหล้า น้ำชา
- กระดาษเงินกระดาษทอง
2. ไหว้บรรพบุรุษ ช่วงสาย
เวลาประมาณ 10.00-11.00 น. เป็นการไหว้บรรพบุรุษ (ไป๊เป้บ๊อ) เพื่อระลึกถึงญาติพี่น้องที่เสียไปแล้ว เป็นการแสดงความกตัญญูกตเวที หลังจากไหว้แล้วรอจนธูปหมด จากนั้นจะนำของไหว้มารับประทานร่วมกันและแบ่งปันเพื่อนบ้าน
ของไหว้ที่ต้องเตรียมได้แก่ :
- ใช้ธูปในการไหว้ 3 ดอก
- เนื้อสัตว์ต้มสุก 3-5 อย่าง (ซาแซหรือโหงวแซ) แต่ให้เพิ่มอาหารอื่นๆ ที่บรรพบุรุษชอบหรืออาหารที่มีความหมายมงคล เช่น อาหารจานเส้น อาหารจานปลา อาหารที่มีปลาหมึกแห้ง และเมนูซุปใสหรือแกงจืด เป็นต้น
- ขนมมงคล เช่น จันอับ ขนมถ้วยฟู ขนมเข่ง ขนมเทียน ซาลาเปา ฯลฯ
- ผลไม้มงคล และกระดาษเงินกระดาษทอง
ข้อควรระวัง : ไม่ควรนำเต้าหู้ขาวมาไหว้วันตรุษจีน เนื่องจากสีขาวสำหรับชาวจีนเป็นสีแห่งความโศกเศร้า และของไหว้ไม่ควรเป็นอาหารที่มีรสเผ็ด รสขม และผลไม้ที่มีหนาม เพราะจะทำให้ชีวิตมีอุปสรรคขวากหนามไม่ราบรื่น
ขอบคุณภาพจาก gourmetandcuisine.com
3. ไหว้ทำทานสัมภเวสี ช่วงบ่าย
เวลาประมาณ 14.00-16.00 น. เป็นการไหว้ทำทานแก่ผีไร้ญาติหรือสัมภเวสี (ไป๊ฮ้อเฮียตี๋) พอไหว้เสร็จ รอสักครู่ จากนั้นให้จุดประทัดไล่สิ่งชั่วร้ายออกไปให้หมด
ของไหว้ที่ต้องเตรียมได้แก่ :
- ใช้ธูปในการไหว้เพียง 1 ดอกเท่านั้น
- อาหารต่าง ๆ ที่เหลือจากการไหว้รอบเช้าและรอบสาย
- ข้าวสวย ขนมต่าง ๆ เช่น ขนมเข่ง ขนมเทียน เผือกเชื่อมน้ำตาล
- กระดาษเงินกระดาษทอง
ขอบคุณภาพจาก bangkokbiznews.com
4. ไหว้ “ไฉ่ซิงเอี้ย” เทพแห่งโชคลาภ ช่วงดึก
เวลา 23.00-01.00 น เข้าตรุษจีน อยากเฮง อยากร่ำรวย อยากปังในเรื่องความรัก และเรื่องดีๆอื่นๆ เราก็แนะนำให้ไหว้เทพเจ้าแห่งโชคลาภ โดยฤกษ์ในการไหว้คือช่วงกลางดึกของคืนวันสิ้นปี โดยมีความเชื่อว่าการไหว้เทพไฉ่ซิงเอี้ยจะทำให้เกิดโชคลาภและร่ำรวยตลอดปี
ของไหว้ที่ต้องเตรียมได้แก่ :
- รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย
- แจกันดอกไม้สด 1 คู่
- เทียนแดง 1 คู่
- กระถางธูปและธูปสำหรับไหว้
- น้ำชา 5 ถ้วย
- ขนมอี้ (สาคูแดง) 5 ถ้วย หรือข้าวสวย 5 ถ้วย
- ขนมจันอับ, น้ำชา 5 ถ้วยเล็ก
- ผลไม้มงคล 5 อย่าง เช่น ส้ม แอปเปิ้ลแดง องุ่นแดง กล้วยหอมทอง สับปะรด ฯลฯ
- เจไฉ่ 5 อย่าง เช่น ดอกไม้จีน ฟองเต้าหู้ วุ้นเส้น เห็ดหอม เห็ดหูหนู และกระดาษเงินกระดาษทอง
วิธีการไหว้ : ให้หันหน้าไปทางทิศตะวันตก จุดธูป 3 ดอก 5 ดอก 9 ดอก หรือ 12 ดอกก็ได้ แล้วกล่าวคำสวดมนต์ไหว้สักการะ ดังนี้ “นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ” (3 จบ) จากนั้นสวดบทสักการะว่า “โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา” (สวด 3 จบ 5 จบ 9 จบ หรือ 12 จบก็ได้) จากนั้นให้กล่าวชื่อและนามสกุลของตัวเอง และเรื่องที่จะขอพร จากนั้นนำกระดาษเงินกระดาษทองไปเผาแล้วให้ผู้ใหญ่ในบ้านถือรูปภาพหรือรูปปั้นไฉ่ซิงเอี้ยพร้อมกระถางธูปเข้าบ้าน เป็นการเชิญเทพเข้าบ้าน และของไหว้ก็ห้ามทิ้งเพราะถือเป็นของมงคลให้นำไปแบ่งกันรับประทานในครอบครัว
ขอบคุณภาพจาก mgronline.com
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจาก อ.ช้าง ทศพร ศรีตุลา แนะนำว่าต้องจัดของไหว้ให้ครบและเนื่องจากองค์ไฉ่เซิงเอี้ยเป็นเทพเจ้าที่จะประทานโชคลาภเงินทอง จึงควรเตรียมสิ่งของที่เกี่ยวกับเงินทองไว้ด้วยถือว่าเอาเคล็ดความเฮง และยังมีข้อห้ามในการไหว้ไฉ่ซิงเอี๊ยอีกเล้กน้อยก็คือ ห้ามผู้ที่เกิดปีมะเมียซึ่งเป็นปีชงในปี 2563 นี้ไหว้เป็นคนแรก ควรให้คนที่เกิดปีอื่น ๆ เป็นคนแรกในการเริ่มก่อน หรือให้คนปีมะเมียใช้ฤกษ์ในการไหว้เวลา 03.00 - 05.00 น. ของวันที่ 25 มกราคมแทน