หู ฟัง Bluetooth Dolby Atmos

ตั้งแต่เข้าปี 2021 มา นอกจาก realme จะเปิดตัวมือถือหลายรุ่นทั้งซีรีส์ realme Q3, realme 8, realme GT หูฟังไร้สายก็ยังเป็นสินค้าอีกประเภทที่ realme ขยันเปิดตัวหลายรุ่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น realme Buds Air 2,  Buds Air 2 Neo และล่าสุดก็ได้มี realme Buds Q2 แอบเปิดตัวออกมาแบบเงียบ ๆ […]

  • realme Buds Air หูฟังไร้สายฟีเจอร์เพียบ ทั้งระบบตัดเสียง, Game Mode, หยุดเพลงอัตโนมัติ ฯลฯ เคาะราคาราว 1,700 บาท

    จากงานเปิดตัว realme X2 หรือ realme XT 730G ณ กรุงเดลี ประเทศอินเดีย พวกเขาก็ได้ทำการเปิดตัว realme Buds Air หูฟัง True Wireless ที่มากับดีไซน์คุ้นตา แต่ให้สเปคและฟีเจอร์แบบอัดแน่น ทั้งระบบชาร์จไร้สาย, ระบบตัดเสียงรบกวน หรือเซนเซอร์ตรวจจับการถอด-ใส่หูฟังก็ยังมี โดยเคาะราคาออกมาเบาๆ 3,999 รูปี หรือประมาณ 1,700 บาทเท่านั้นเอง

  • เปิดตัว OPPO Enco Buds หูฟังไร้สาย TWS ฟังต่อเนื่อง 6 ชม. กันน้ำ IP54 พร้อมโหมดความหน่วงต่ำ เคาะราคา 999 บาท

    นอกจาก OPPO จะเปิดตัวมือถือซีรีส์ A รวดเดียวถึง 4 รุ่นแล้ว ยังเปิดตัวหูฟังไร้สาย Enco Buds อีกด้วย โดยหูฟังรุ่นนี้มากับจุดเด่นที่แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน, มีระบบตัดเสียงรบกวนเมื่อสนทนา, เบสตึ้บ, กันน้ำ แถมยังมีโหมดเล่นเกมความหน่วงต่ำ แต่มาในราคาเบาสุด ๆ แค่ 999 บาท เท่านั้นเอง

  • Amazfit PowerBuds Pro หูฟัง True Wireless มากับระบบตัดเสียง ANC, เซนเซอร์วัดชีพจร และฟีเจอร์แจ้งเตือนนั่งหลังค่อม

    Amazfit เปิดตัวหูฟังไร้สาย True Wireless รุ่นใหม่ Amazfit PowerBuds Pro ที่มากับฟีเจอร์เพียบ ถูกใจทั้งคนชอบฟังเพลงที่ให้เสียงระดับคุณภาพ และยังถูกใจคนรักสุขภาพอีกด้วย เพราะมีทั้งระบบตัดเสียงรบกวน ANC ให้เลือกใช้ได้หลายสถานการณ์, กันน้ำกันเหงื่อใส่ออกกำลังได้ไม่มีปัญหา, เซนเซอร์วัดชีพจร, เซนเซอร์ตรวจจับให้นั่งตัวตรง และอื่น ๆ อีกเพียบไปหมด

    หลังจาก Apple เปิดตัวฟีเจอร์ Spatial Audio ไปตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2019 ในที่สุดหลังจากรอกันมาเกือบ 2 ปีเราก็ได้ใช้ระบบเสียงแบบใหม่นี้อย่างเต็มตัวซักที โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. 2021 ใครที่ลงทะเบียน Apple Music และใช้งาน iOS 14.6 หรือ iPadOS 14.6 จะสามารถใช้งานระบบ Apple Music Lossless และ Dolby Atmos ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

    สำหรับมือใหม่ Apple Music Lossless และ Dolby Atmos เป็น 2 ระบบที่แตกต่างกัน โดย Lossless จะเน้นที่คุณภาพเสียงรายละเอียดสูง ส่วน Dolby Atmos นั้นจะเน้นที่ประสบการณ์การฟังเพลงที่แปลกใหม่เสมือนอยู่โลก 3 มิติ

    Spatial Audio และ Dolby Atmos แตกต่างกันอย่างไร?

    เพื่อไม่ให้ไม่สับสน เราต้องทำความเข้าใจกับ Spatial Audio ของ Apple ก่อน

    Spatial Audio เป็นระบบที่ผนวกเอาเทคโนโลยี 2 ส่วนใหญ่ๆเข้าด้วยกัน คือ

    1. Dolby Atmos ที่เป็นเทคโนโลยีการเก็บและถ่ายทอดเสียงแบบ 3D รอบทิศทาง
    2. HRTF (Head-Related Transfer Function) เทคโลโลยีที่ดึงเอาข้อมูลจากเซนเซอร์ Gyroscope + Accelerometer มาผสมผสานกันเพื่อระบุตำแหน่งศีรษะ และสร้างเสียง 3D ที่อ้างอิงตำแหน่งของการรับฟังจากอุปกรณ์ที่เล่นเล่นและตำแหน่งหัวของผู้ฟัง

    ระบบ Spatial Audio เริ่มแรกถูกออกแบบมาเพื่อดูหนังและเล่นเกมส์ เราเลยจะเห็นประโยชน์เมื่อนำมาใช้ดูหนังมากกว่าฟังเพลง

    Apple Music Dolby Atmos เป็นการใช้งานเพียง Dolby Atmos อย่างเดียวเท่านั้นยังไม่ได้เปิดใช้ระบบ HRTF เพราะฉะนั้นหากเราหมุนหัวเสียงก็ไม่เปลี่ยนตำแหน่ง เสียงที่ได้จะเป็นแบบ 3D รอบทิศทางที่มีตำแหน่งคงที่ไม่ขึ้นกับการหมุนหัวหรือตัวของเราแต่อย่างใด

    จะฟังเพลง Dolby Atmos ต้องทำอย่างไร?

    อย่างแรกที่ต้องมีคืออุปกรณ์ที่รองรับ iOS เวอร์ชั่น 14.6 (หรือสูงสูงกว่า) หรือ iPadOS เวอร์ชั่น 14.6 (หรือสูงกว่า) และ หูฟังสเตอริโออะไรก็ได้

    กดเปิด Spatial Audio ที่ Control Center

    เปิดใช้งาน Apple Music และเข้าไปที่ Settings -> Music -> Dolby Atmos เลือกออปชั่นเป็น Automatic หรือ Always On ก็ได้

    สำหรับ Apple Music บน MacOS Big Sur เวอร์ชั่น 11.4 สามารถเปิด Dolby Atmos ได้ แต่ยังไม่สมบูรณ์เท่าบน iOS หรือ iPadOS หลายเพลงที่ส่งข้อมูลมาในรูปแบบ Dolby Atmos ยังไม่สามารถเล่นแบบ Dolby Atmos ได้ครับ

    ส่วน Apple TV ในขณะนี้ยังรองรับเฉพาะลำโพงที่ระบบ Dolby Atmos ในตัวเท่านั้น

    ทำไมส่ายหัวแล้วเสียง Dolby Atmos ของ Apple Music ไม่เปลี่ยนทิศทางล่ะ?

    เพราะในขณะนี้ Apple Music ยังไม่เปิดใช้ฟังก์ชั่น HRTF ร่วมกับการฟัง Dolby Atmos

    หูฟังรุ่นไหนบ้างที่ใช้ฟังเสียง Dolby Atmos ของ Apple Music ได้บ้าง?

    หูฟังทุกรุ่นที่เป็นระบบเสียงสเตอริโอ คือมี 2 ข้าง มีเสียงซ้ายขวาออกแยกจากกัน ส่วนจะแบบสายหรือไร้สาย ก็สามารถฟังเสียงเพลง Dolby Atmos ได้ทั้งนั้น ไม่จำเป็นต้องใช้ Apple AirPods Pro หรือ AirPods Max

    โดยตัวที่ควบคุมการแปลง Dolby Atmos ให้เป็นเสียงสเตอริโอคือแอพ Apple Music โดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์ภายนอกแต่อย่างใดครับ

    จะฟัง Dolby Atmos ต้องใช้ DAC พิเศษมั้ย?

    ไม่จำเป็นครับ แต่ถ้าใช้ DAC ที่คุณภาพดี เสียงที่ได้ก็จะดีขึ้นด้วย

    ไฟล์ของ Dolby Atmos ใหญ่กว่าไฟล์ Lossless หรือเปล่า?

    ขนาดของไฟล์ Dolby Atmos มีขนาดเล็กกว่าไฟล์ Lossless เพราะปริมาณบิตเรทที่ต่างกันค่อนข้างมาก ตัวอย่างเพลง Rain On Me ในแบบ Dolby Atmos มีขนาด 23.6MB ส่วนในแบบ Lessless 24-bit / 48 kHz จะมีขนาดที่ 42.4MB

    หมายเหตุ

    • Dolby Atmos audio ที่หลังถูกบีบอัด (encode) แล้วจะอยู่ที่ 384 – 768 kbps
    • Apple Lossless ที่ 24-bit / 48 kHz จะอยู่ที่ประมาณ 1,152 kbps ก่อนถูกบีบอัด
    • ถ้าใครต้องการเสียงคุณภาพสูงให้เลือกเล่นเพลงแบบ Lossless ส่วนใครต้องการประสบการณ์ที่แปลกใหม่เลือกเล่นแบบ Dolby Atmos ครับ

    ทำไมเสียงเพลงของ Dolby Atmos ในแต่ละเพลงถึงแตกต่างกัน?

    เพลง Dolby Atmos ที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์การฟังได้อย่างถูกต้องจำเป็นต้องถูกรีมาสเตอร์ในรูปแบบสามมิติผ่านเครื่องมือของ Dolby Atmos ซะก่อน และเพราะเป็นการมาสเตอร์เสียงแบบ 3D ทำให้ไม่สามารถเอาเพลงเดิมๆที่เป็นเสียงสเตอริโอมาดึงเป็นเสียงแบบ Dolby Atmos ได้อย่างอัตโนมัติ

    VDO กระบวนการรีมาสเตอร์ Dolby Atmos (ชมผ่านแอพ Apple Music) : //music.apple.com/th/music-movie/behind-the-sound-with-masego-spatial-audio-on-apple-music-b2/1570693352

    ตัวอย่างเพลงของ Taylor Swift อัลบั้ม folklore อัลบั้มนี้ทำออกมาในแบบ Dolby Atmos ได้อย่างดี เสียงมีน้ำหนัก ตำแหน่งดนตรีทำออกมาได้อย่างน่าพอใจ แต่พอเป็นอัลบั้ม Lover ของ Taylor Swift เสียงในแบบ Dolby Atmos เสียงค่อนข้างผิดเพี้ยน ฟังแล้วไม่ค่อยเพราะ พอปิดระบบ Dolby Atmos (Spatial Audio OFF) เสียงแบบสเตอริโอเพราะกว่ามากมีตำแหน่งดนตรีจัดวางมาได้อย่างดี

    เห็นได้ชัดว่าขนาดศิลปินคนเดียวกัน และ ซาวด์เอ็นจิเนียร์ก็น่าจะคนเดียว แต่มาสเตอร์ต่างกัน ผลที่ได้ต่างกันมาก

    เสียง Apple Music Dolby Atmos แตกต่างจากระบบเสียงรอบทิศทางสำหรับการดูหนังอย่างไร?

    แรกเริ่มระบบ Dolby Atmos เป็นระบบเสียงที่ถูกออกแบบเพื่อใช้กับการดูหนังเป็นหลัก โดยเน้นที่เสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ ที่อยู่รายล้อมตัวเราเป็นหลัก ซึ่งแตกต่างจากการฟังเพลงที่เราฟังกันในแบบสเตอริโอ

    ลูกเล่นของ Dolby Atmos สำหรับเสียงเพลงก็เช่น การจัดวางเสียงนักร้องในตำแหน่งต่างๆ การวางตำแหน่งเครื่องดนตรีที่เปลี่ยนไปมาได้ หรือ สร้างเสียงแวดล้อมเพื่อเสริมประสบการณ์ฟังเพลงที่ดูโอบล้อมแปลกใหม่ ไม่ใช่เอฟเฟกต์รอบทิศทางแต่อย่างใด

    สรุป

    Apple Music Dolby Atmos ถือเป็นมิติใหม่ของการฟังเพลงที่เข้าถึงได้ง่ายมาก เพราะใช้หูฟังอะไรก็สามารถฟังได้ทันที มันเป็นระบบถูกออกแบบมาเพื่อเน้นประสบการณ์ในการฟังเพลงมากกว่าเรื่องรายละเอียดของเสียง และเพราะมันเป็นระบบเสียง 3D ถ้าจะทำให้เพลงออกมาเวิร์คศิลปินไม่สามารถเอาเพลงแบบสเตอริโอมาแปลงให้เป็น Dolby Atmos แบบอัตโนมัติโดยไม่รีมาสเตอร์ได้ ถ้าเพื่อนๆเจอเพลง Dolby Atmos ที่เสียงแย่บี้ๆแบนๆก็รู้ได้เลยว่าเค้าไม่ได้รีมาสเตอร์หรือมาสเตอร์มาไม่ถูกนั่นเองครับ

  • Toplist

    โพสต์ล่าสุด

    แท็ก

    ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้