คุณใช้ "โทรศัพท์มือถือ" ทุกวันใช่ไหม?
คำถามนี้อาจฟังแล้วรู้สึกแปลก...หากมีใครมาถามแบบนี้...เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่แทบทุกคนต้องมีและนำติดตัวไปด้วยทุกที่แม้นั่งอยู่บ้าน!!!
โทรศัพท์มือถือ หรือ "สมาร์ทโฟน" ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของพวกเราไปแล้ว และมันมีความสามารถมากมายเหลือเกิน (นอกเหนือจากการรับสายหรือโทรออก) และส่วนหนึ่งที่ทำให้โทรศัพท์มือถือของคุณมีความสามารถมากขึ้นก็คือ "แอปพลิเคชันบนมือถือ" นั่นเอง
ธุรกิจทั่วทุกมุมโลกต่างก็เริ่มโยกย้ายจากการใช้สื่อดั้งเดิม อาทิ การลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์หรือนิตยสาร, การแจกใบปลิว, โบรชัวร์โฆษณา, การทำป้ายโฆษณา มุ่งสู่การทำการตลาดบนมือถือและสื่อสังคมออนไลน์กันแล้ว
ซึ่งผมคิดว่าร้านค้าและธุรกิจขนาดเล็กของคุณก็ควรทำเช่นกัน
ผมรู้นะว่าคุณกำลังคิดว่า "ไม่เห็นจำเป็นต้องทำแอปพลิเคชันบนมือถือเลย เพราะมีบัญชีไลน์ บัญชีบนเฟสบุ๊ค หรือเว็บไซต์เพื่อใช้สื่อสารกับลูกค้าอยู่แล้ว"
ก็ไม่ผิดอะไรครับ สะดวกแบบไหนก็ทำแบบนั้น
ในมุมมองของผมคือ หากคุณมีวิสัยทัศน์ว่าอยากยกระดับแบรนด์ของคุณให้เติบโตได้ในอนาคตล่ะก็ ผมบอกได้เลยว่า "แอปพลิเคชันบนมือถือ" เป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดสำหรับใช้สร้างแบรนด์ของคุณ
ไม่ใช่การพยายามมีรายชื่อแบรนด์ของคุณแสดงอยู่บนแพลตฟอร์มต่างๆ ที่มีคู่แข่งทั้งเล็กและใหญ่อยู่ปะปนและกระจายไปทั่ว แต่เป็นการสร้างช่องทางลัดของแบรนด์เพื่อให้ผู้ชม ผู้สนใจ รวมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณเข้ารับบริการ รับข้อมูล ซื้อสินค้าหรือสื่อสารกับแบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว และได้รับคุณค่าของแบรนด์ที่คุณเตรียมไว้ได้จากช่องทางเดียว
แต่อย่างเพิ่งเชื่อผมนะ? มาลองอ่านประโยชน์ 4 ข้อที่เราเตรียมมาเพื่อใช้โน้มน้าวคุณ
1. มอบคุณค่าที่เหนือกว่าให้กับลูกค้าของคุณ
การทำธุรกิจเป็นเรื่องของการแลกเปลี่ยน คุณเป็นผู้นำเสนอสินค้า/บริการ แล้วลูกค้าก็ควักเงินในกระเป๋าเพื่อจ่ายเงินซื้อตามความต้องการของพวกเขา เรื่องมันก็มีแค่นี้ใช่ไหม?
คนทำธุรกิจหรือเจ้าของร้านมักชอบเน้นย้ำให้พนักงานคอยกระตุ้นให้ลูกค้าใช้บริการและยินดีควักเงิน ทั้งการพูดคุย โน้มน้าว หรือแนะนำบริการ ซึ่งส่วนใหญ่มักทำร่วมกับการส่งเสริมการขาย (ให้ส่วนลด) แน่นอนว่าคุณจำเป็นต้องนำเสนอคุณค่าที่มีระดับให้กับลูกค้าของคุณที่พวกเขาไม่สามารถจะหาได้จากที่อื่น
อีกวิธีหนึ่งที่ร้านค้าต่างๆ นิยมทำกันก็คือ การสร้างโปรแกรมความภักดี (Loyalty Program) ด้วยแนวคิดที่ว่า ยิ่งลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับธุรกิจและสินค้าของคุณมากเท่าไหร่ พวกเขาก็ยิ่งได้รับคะแนนสะสมที่มากขึ้น และนำคะแนนไปแลกสินค้าตามที่พวกเขาต้องการ
*สตาร์บัคส์ทำแอปพลิเคชันบนมือถือก็เพื่อใช้สะสมคะแนนและมอบรางวัลให้แก่สมาชิก สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าซื้อกาแฟ (และของว่างแสนอร่อยอื่นๆ) อย่างต่อเนื่อง และก็ล้ำหน้ากว่าเดิมด้วยการอนุญาตให้ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ช่วยให้การทำธุรกรรมทั้งหมดทำได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
หากคุณมีแผนการทำงานแบบนี้อยู่แล้ว - ยอดเยี่ยมเลยครับ การที่คุณสามารถรวมฟังก์ชันต่างๆ ไว้ในแอปพลิเคชันบนมือถือได้ก็เท่ากับว่า ทุกการสั่งซื้อของลูกค้ามีความหมายมากยิ่งขึ้น สะดวกขึ้น รวดเร็วขึ้นจากกระบวนการภายในร้านค้าที่เป็นดิจิทัล หากคุณยังไม่ได้ทำแอป... รีบทำเถอะครับ
2. สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
อีกหนึ่งประโยชน์ของการทำแอปพลิเคชันบนมือถือก็คือ การพัฒนาการสื่อสารและการรับรู้แบรนด์ของคุณ การมีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจให้มีเพิ่มขึ้นในระยะยาว
ยิ่งผู้บริโภคของคุณไว้วางใจคุณมากเท่าไร พวกเขาก็จะยิ่งยินดีรับฟังการขายที่จะเกิดขึ้นตามมา ให้ความสำคัญกับแบรนด์ของคุณมากขึ้น การทำแอปพลิเคชันบนมือถือมีส่วนช่วยให้ผู้ใช้งานของคุณตระหนักได้ว่า ทำไมพวกเขาต้องเชื่อใจแบรนด์ของคุณ
การแจกจ่ายแอปพลิเคชันบนมือถือให้ใช้งานก็ไม่ต่างอะไรกับการแจกของที่ระลึกที่มีชื่อและโลโก้บริษัทของคุณติดอยู่ มันมีหน้าที่ช่วยคุณโปรโมทและโฆษณาธุรกิจของคุณ ซึ่งการสร้างแอปพลิเคชันบนมือถือไม่ใช่ธุรกิจใดๆ ก็ทำได้ นี่จึงเป็นการช่วยเสริมสร้างแบรนด์และสร้างการรับรู้ของลูกค้า และป็นสาเหตุที่ธุรกิจส่วนใหญ่ในทุกภาคส่วนเริ่มทำแอปพลิเคชันบนมือถือเป็นของตัวเอง*
*การสมัคร LINE Official Account มีลักษณะใกล้เคียงกันกับการเปิดร้านในห้างสรรพสินค้าหรือตลาด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ผู้คนต่างก็เข้ามาจับจ่ายใช้สอย พูดคุยกันทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ที่สำคัญคือคู่แข่งของคุณก็ทำเช่นกัน
การทำแอปพลิเคชันบนมือถือ เปรียบเสมือนการที่คุณมีหน้าร้านหรือมีออฟฟิศเพื่อให้บริการในพื้นที่ของตนเอง ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการที่คุณเตรียมไว้ได้อย่างรวดเร็วผ่าน "ไอคอน" ที่มีชื่อเป็น "ธุรกิจของคุณ" ซึ่งติดตั้งไว้บนหน้าจอสมาร์ทโฟน ผู้บริโภคของคุณจะสามารถรับรู้ได้ถึงความตั้งใจและความแตกต่างของการให้บริการด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย ช่วยให้พวกเขามั่นใจกับแบรนด์ของคุณเพิ่มขึ้น
3. เชื่อมต่อลูกค้าได้มากขึ้น
การบริการลูกค้าในอนาคตจากนี้ไปจะไม่ใช้การพบกันระหว่างพนักงานขายที่คอยแจกรอยยิ้มให้กับผู้บริโภคอีกแล้ว เพราะอะไรหรือครับ?
ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 55 ล้านคน พวกเขานิยมใช้อินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือและการระบาดของไวรัสโควิท เป็นสัญญานที่บอกเราว่าถึงเวลาแล้วที่งานบริการลูกค้าจำเป็นต้องได้รับการปรับเปลี่ยนไปสู่การให้บริการบนโทรศัพท์มือถือได้ทั้งหมด
ทำไมล่ะ?
- ผู้บริโภคได้รับบริการที่ต้องการทันทีโดยไม่ต้องรอหรือหงุดหงิดใจกับผู้ให้บริการที่มีความเป็นมนุษย์ มีอารมณ์ที่แปรปรวน หรือมีประสิทธิภาพการทำงานที่ลดลง
- ผู้บริโภคไม่ต้องการสัมผัสหรือลดการสัมผัส เพื่อหลีกเลี่ยงจากการติดเชื้อ
- ธุรกิจสามารถแจ้งข้อมูล ข่าวสารให้กับลูกค้าด้วยเนื้อหาและรูปแบบที่เหมือนกัน พร้อมๆ กันได้ในคราวเดียว
นักการตลาดส่วนใหญ่ที่มักมองว่าการทำแอปพลิเคชันบนมือถือเป็นแค่วิธีการปรับปรุงงานบริการลูกค้าและสิ้นเปลือง
แต่ในความเป็นจริง การที่ธุรกิจของคุณได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกค้ามันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือครับ?
ยกตัวอย่างเช่น หากมีคนได้ยินเกี่ยวกับแอปพลิเคชันบนมือถือของคุณในตอนกลางคืน พวกเขาต้องการรับข้อมูลเดี๋ยวนั้น สิ่งที่พวกเขาต้องทำก็แค่เปิดสมาร์ทโฟนแล้วดาวน์โหลดแอปของคุณ เมื่อเกิดความคิดว่าอยากซื้อสินค้าหรือบริการ พวกเขาก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่ต้องรอเวลาเปิดทำการปกติหรือรอให้ร้านของคุณเปิด
หรือแม้แต่การเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์เพื่อรู้จักธุรกิจของคุณหรือเข้าสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เพื่อดูกิจกรรมต่างๆ หรือแชทพูดคุยกับแบรนด์ หรือสั่งซื้อสินค้าจากร้านค้าออนไลน์ที่คุณตรียมไว้ ทั้งหมดทำผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือซึ่งเป็นศูนย์กลางของทั้งหมด
ดังนั้นหากการบริการลูกค้าเป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญอันดับแรกของคุณ (ซึ่งมันควรจะเป็น) การทำแอปพลิเคชันบนมือถือจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าด้วยบริการและสื่อทั้งหมดที่คุณเตรียมไว้ในช่องทางเดียว
4. เพิ่มผลกำไร
เมื่อความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น ยอดขายของธุรกิจก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน อ้างอิงจากข้อมูลของ SalesForce ที่บอกว่าร้อยละ 70 ของประสบการณ์การซื้อนั้นได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกของลูกค้าที่ได้รับจากการปฏิบัติหรือการให้บริการ
เมื่อสินค้าและธุรกิจของคุณได้รับความสนใจและสร้างความพึงพอใจมากขึ้น ความต้องการของผู้บริโภคก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
นี่คือสิ่งที่การทำแอปพลิเคชันบนมือถือช่วยให้คุณสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แตกต่างไม่เหมือนใคร
มีแค่เว็บไซต์ได้หรือไม่? แน่นอนว่าคุณควรมีเว็บไซต์ที่ออกแบบให้เข้ากับหน้าจอมือถือทุกขนาดเพื่อกันไม่ให้ผู้บริโภคของคุณหงุดหงิด
แต่หากคุณทำแอปพลิเคชันบนมือถือควบคู่ไปกับเว็บไซต์ คุณก็จะสามารถเพิ่มได้ทั้งยอดขายและสร้างประสบการณ์ของลูกค้าพร้อมๆ กัน
คุณต้องเข้าใจว่า แอปพลิเคชันบนมือถือนั้นออกแบบมาเพื่อมุ่งเชื่อมต่อบนอุปกรณ์พกพาเพื่อสร้างประสบการที่ดีเป็นรายบุคคล รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการตลาดตามสถานที่ตั้งและพื้นที่ใกล้เคียงของธุรกิจ
ดังนั้นฟังก์ชันการใช้งานต่างๆ จึงมุ่งเน้นที่การสัมผัสทั้งการกดและการสไลด์ เนื้อหาจะถูกจัดเรียงให้เป็นสัดส่วนในรูปแบบเมนูที่เข้าถึงง่าย โดยมุ่งสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ไหลลื่นให้มากกว่าการใช้งานผ่านเว็บไซต์ซึ่งที่ส่วนใหญ่จะมีข้อมูลจำนวนมากและพึ่งพาสัญญานอินเทอร์เน็ตในการเชื่อมต่อกับฐานข้อมูล
ประโยชน์อื่นๆ ของการทำแอปพลิเคชันบนมือถือ
หากประโยชน์ 4 ข้อที่ให้มายังไม่กระตุ้นให้คุณรู้สึกอยากทำแอป เรายังมีเหตุผลที่คุณควรจะนำไปพิจารณาว่าแอปพลิเคชันบนมือถือจะช่วยกระตุ้นลูกค้าให้มีส่วนร่วมและเพิ่มความพึงพอใจให้มากขึ้นได้อย่างไร อาทิ
- คุณแจ้งข้อมูลผลิตภัณฑ์หรือข้อเสนอใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ได้ทันที
- ธุรกิจของคุณจะโดดเด่นจากการแข่งขัน
- ส่งมอบโปรโมชันได้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น
- เข้าถึงกลุ่มประชากรที่อายุน้อย
- สร้างฐานลูกค้าเชื่อมต่อกับบัญชีอีเมลและโซเชียลมีเดียของผู้ใช้
ซึ่งหากคุณจัดโครงสร้างภายในแอปพลิเคชันบนมือถือได้ถูกต้อง คุณจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่า ผู้คนโต้ตอบกันภายในแอปพลิเคชันบนมือถือของคุณอย่างไร ช่วงเวลาเฉลี่ยที่ผู้ใช้ดูแอปพลิเคชันบนมือถือ ตลอดจนถึงจำนวนเงินที่พวกเขาใช้ไปกับโปรแกรมความภักดี (Loyalty Program) ในแต่ละครั้ง
แอปพลิเคชันบนมือถืออาจจะได้ไม่ช่วยธุรกิจของคุณได้ทั้งหมด แต่นี่เป็นวิธีการเดียวที่เป็นรูปธรรมสำหรับการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ของคุณในยุคดิจิทัล แทนที่จะเป็นแนวคิดเชิงนามธรรมของแบรนด์ที่จำต้องไม่ได้หรือทำได้แค่ให้ลูกค้าของคุณชื่นชมเท่านั้น
การที่แบรนด์ของคุณอยู่ในกระเป๋าของพวกเขาตลอดเวลา โลโก้ของคุณจะถูกวางไว้บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตของพวกเขา นี่คือการช่วยให้ลูกค้าของคุณเข้าถึงและมีส่วนร่วมกับแบรนด์ได้ง่ายทุกครั้งที่พวกเขาต้องการ