"กรดไหลย้อน" (ภาษาอังกฤษ Gastroesophageal Reflux Disease หรือ GERD) เป็นโรคทางเดินอาหารชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้ที่มีพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่เหมาะสม สูบบุหรี่ ดื่มสุรา มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ผู้ป่วยเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์ เป็นต้น หากเป็นติดต่อกันนานๆ โดยไม่ได้รับการรักษา ก็อาจนำไปสู่อาการเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้
รู้จัก "โรคกรดไหลย้อน" เกิดจากอะไร?
โรคกรดไหลย้อน เกิดจากการไหลย้อนของน้ำย่อย กรด และแก๊สในกระเพาะอาหาร ไหลย้อนขึ้นไปในหลอดอาหาร อาการเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทำให้เกิดอาการแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ ลามมาจนถึงหน้าอกและคอ โดยสามารถสรุปสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดโรคกรดไหลย้อน ดังนี้
- กินอาหารประเภทไขมันสูง และนอนทันทีหลังกินเสร็จ
- หลอดอาหารบีบตัวผิดปกติ ทำให้มีอาหารตกค้างในระบบย่อยอาหาร
- หูรูดส่วนปลายของกระเพาะอาหารทำงานผิดปกติ
- สูบบุหรี่ ดื่มสุรา กินยาบางชนิด
- ปัญหาความเครียด
เช็ก 5 อาการ คุณกำลังเป็นโรคกรดไหลย้อนหรือเปล่า?
1. หลังกินอาหารเสร็จ จะรู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่และกลางหน้าอก
2. รู้สึกว่ามีน้ำรสเปรี้ยว หรือรสขม ไหลย้อนขึ้นมาในปากและคอ
3. จุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง บางครั้งรู้สึกคลื่นไส้อยากอาเจียนหลังกินอาหาร
4. การกลืนอาหารติดขัด รู้สึกเหมือนมีก้อนจุกในลำคอ ไอแห้งๆ เสียงแหบ
5. สุขภาพช่องปากแย่ลง เช่น มีฟันผุ หรือมีกลิ่นปาก
กรดไหลย้อน 3 ระยะ มีอาการแบบไหนควรไปพบแพทย์?
อาการของโรคกรดไหลย้อน แบ่งออกเป็น 3 ระยะ โดยในระยะเริ่มแรกสามารถรักษาให้หายได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แต่หากเป็นกรดไหลย้อนอาการหนักที่ส่งผลต่อสุขภาพอย่างมาก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
ระยะที่ 1 : โรคกระเพาะอาหาร
โรคกระเพาะอาหาร ถือเป็นสัญญาณเริ่มแรกของโรคกรดไหลย้อน ทำให้มักมีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่น รวมถึงรู้สึกว่ามีลมในกระเพาะอาหาร ควรหันมากินอาหารให้ตรงเวลา
ระยะที่ 2 :
ปัญหาลำไส้
สัญญาณต่อมาของโรคกรดไหลย้อนคือ จะเริ่มมีปัญหาลำไส้ ทำให้การย่อยไม่สมบูรณ์ มีอาหารตกค้างในลำไส้ ส่งผลให้ท้องผูก ขับถ่ายไม่ตรงเวลา เรอบ่อย รู้สึกแสบร้อนบริเวณหน้าอก กลืนลำบาก ผายลมเหม็น
ระยะที่ 3 : สารอาหารในเลือดน้อย
กรดไหลย้อนอาการหนักในระยะนี้ ร่างกายจะอ่อนเพลีย รู้สึกจุกแน่นท้องบ่อย แสบหน้าอก เรอมีรสเปรี้ยวและขมคอ ท้องผูก กลืนอาหารลำบาก น้ำหนักลด ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายและรับการรักษา งดอาหารไขมันสูง งดดื่มสุรา งดสูบบุหรี่
รวมถึงน้ำอัดลม ชา และกาแฟ
วิธีรักษาโรคกรดไหลย้อน ลดอาการได้ด้วยการปรับพฤติกรรม
สำหรับผู้ที่มีอาการของโรคกรดไหลย้อน แต่ไม่ได้เป็นหนัก สามารถปรับพฤติกรรมการกิน เพื่อให้อาการกรดไหลย้อนบรรเทาลงได้ ด้วยวิธีต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูง อาหารรสจัด ของทอด น้ำอัดลม ชา กาแฟ บุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- กินอาหารให้ตรงเวลา กินในปริมาณที่พอดี ไม่ควรกินเสร็จแล้วเอนตัวนอนทันที
- ควบคุมน้ำหนักตัว และออกกำลังกายเพื่อสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
- ไม่สวมเสื้อผ้าที่รัดบริเวณหน้าท้องมากเกินไป
- ปรับหมอนหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อย
กรดไหลย้อน ห้ามกินอะไรบ้าง?
ไขมันสูง ฟาสต์ฟู้ด น้ำอัดลม ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารรสเผ็ดจัด เค็มจัด เปรี้ยวจัด สุรา เบียร์ ไวน์ อาหารหมักดอง ถั่ว ผักดิบ เนื่องจากผักดิบจะเพิ่มกรดและแก๊สในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
กรดไหลย้อน กินน้ำขิงได้ไหม?
น้ำขิง
ถือเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคกรดไหลย้อน ให้จิบน้ำขิงอุ่นๆ ก่อนเริ่มกินอาหาร จะสามารถช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้
##ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ทานกระเจี๊ยบเขียวเป็นยารักษาแผลในกระเพาะ## . เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีการนิยมบริโภคกระเจี๊ยบเขียวเช่นเดียวกัน . . กระเจี๊ยบเขียว หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Okra (オクラ) เป็นผักที่นิยมบริโภคกันเป็นอย่างมาก เพราะเชื่อกันว่ากระเจี๊ยบเขียวเป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีประโยชน์ต่อร่างกายและสามารถบรรเทาอาการของโรคได้หลายโรค ในส่วนของ #กระเจี๊ยบเขียว นั้นมีข้อดีมากมาย . ✅มีเยื่อเมือกที่ช่วยเคลือบแผล และ ✅มีกากใยอาหารที่สูง ช่วยในเรื่องของอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี . #กระเจี๊ยบเขียว (Okra) พร้อมแร่ธาตุและวิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมากมาย เช่น แมกนีเซียม วิตามินซี วิตามินเค แต่ไร้ไขมัน ทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนัก ดูแลหัวใจและเป็นแหล่งโปรตีนที่หาได้ยากในพืชด้วย . |
##กินไปเท่าไหร่ทำไมถึงไม่เห็นผล_หรือว่าเรากินผิดวิธีกันนะ## . หลายคนถามผมมาเยอะมากครับว่า...กระเจี๊ยบเขียวควรกินแบบต้มหรือไม่ต้มดี . . เพราะ "เยื่อเมือกของกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง ✅ ทั้งเคลือบทางเดินอาหารและกระเพาะ ✅ ทำให้กระเพาะว่างช้าลง อิ่มนาน ✅ เจลจากกากใยเป็นอาหารของแบคทีเรียตัวดี ✅ ป้องกันโรคท้องผูก ✅ ป้องกันโรคริดสีดวง . . หากใครที่ไม่มีเวลาพอที่จะต้้มกระเจี๊ยบเขียวก็สามารถหา ##ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสกัดจากกระเจี๊ยบเขียว## มาทานแทนได้ครับ |
. . สำหรับคนเป็นกรดไหลย้อน นอกจากต้องทาน #กระเจี๊ยบเขียวเพื่อช่วยเคลือบแผลแล้ว ยังต้องเร่งบำรุง ฟื้นฟูเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ถูกกรดน้ำย่อยกัดกร่อน ขอแนะนำ . ##สูตรลดแสบแนะนำโดยเภสัชเอ็กซ์## . . 1. กระเจี๊ยบเขียว 4-5 ฝัก . 2. กล้วยดิบ 3-4 แว่น . 3. ว่านหางจระเข้ล้างสะอาด 1 ชิ้นใหญ่ . 4.ใบบัวบก 20-30 ใบ . 5. ไข่ขาวต้มสุก 2-3 ฟอง . 6. น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา . 7.น้ำเปล่า 1-2 แก้ว . . #วิธีทำ ล้างทุกอย่างแล้วพึงให้สะเด็ดน้ำจากนั้นปั่นทุกอย่างรวมกัน . |
#ทำไมถึงแนะนำสูตร6ปั่นจากพืชผักพื้นบ้านแทนการใช้ยาลดกรด??? |
📢 ทางเลือกแบบสูตรลดแสบกรดไหลย้อนเร่งด่วน
URD นวัตกรรมเคลือบแผลในกระเพาะโดยไม่ใช้ยาลดกรด
ด้วย 6 คุณสมบัติจัดการอาการแสบร้อน
ในคนกรดไหลย้อนได้ผลชะงัด
✅เคลือบแผล ✅ลดอักเสบแสบร้อน ✅กระตุ้นการหลั่งเยื่อเมือก
✅ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ ✅ยับยั้งเชื้อ ✅ลดท้องผูกด้วยพรีไบโอติกส์
💖 คำขอบคุณจากใจ ของคนไข้ หมอเอ๊กซ์ 💖 | |
แสบร้อน ปวดท้อง คืออาการของแผลในทางเดินอาหาร ที่ต้องบรรเทาและจัดการให้หายเร็วที่สุด คลิกฟังด่วน 🔽 |
.
อาการยังแสบ เป็นเพราะว่ากระเพาะยังมีเยื่อเมือกบาง
จึงทำให้น้ำย่อยสัมผัสผิวของเยื่อบุกระเพาะได้ จึงแสบนะคะ
.
URD จะกระตุ้นเยื่อเมือก Mucin ตัวนี้ได้โดยตรง
. ถ้าคุณมีอาการดังต่อไปนี้ รีบรักษาซะ อย่าให้มันเรื้องรัง!!นี่คือ "อาการแรกที่คุณต้องจัดการ เพราะถ้าแผลไม่หาย อาการต่างๆจะเรื้อรังไปเรื่อยๆ |
#6_วิธีเอาชนะปัญหาแผลในกระเพาะอาหาร |
❶ เคลือบแผล : การเคลือบแผล ทำให้ลดอาการเจ็บ และเป็นการบอกกระเพาะว่าไม่ต้องกลัวการหลั่งกรด หลั่งออกมาเลย ให้พอที่จะสามารถย่อยอาหารให้เต็มที่ เพื่อที่จะไม่เกิดอาหารตามมาของกรดไหลย้อน ▶ สมุนไพรที่เคลือบแผลได้คือ : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ ว่านหางจระเข้ น้ำผึ้ง ❷ ลดอักเสบแสบร้อน : เพื่อบรรเทาความทรมานของการแสบร้อน หรือ ปวดท้อง ❸ กระตุ้นเยื่อเมือก : ต้นเหตุที่แท้จริงคือ กระเพาะไม่แข็งแรง สร้างเยื่อเมือกไม่มากพอ ทำให้เกิดแผลในกระเพาะ ส่งผลเป็นวงจรให้กระเพาะย่อยได้ไม่ดี จนกลายเป็นกรดไหลย้อนเรื้อรังได้หากไม่รีบรักษาแผลให้หาย ▶ สมุนไพรที่กระตุ้นเยื่อเมือก : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ ❹ ฟื้นฟูเนื้อเยื่อ : หลายคนมองข้ามประเด็นนี้จนหายช้าจากการเป็นกรดไหลย้อน เพราะทานโปรตีนน้อยเกินไป ▶ แนะนำโปรตีนจากไข่ขาว หรือโปรตีนแหล่งอื่นที่ย่อยง่าย ให้เพียงพอเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ❺ ยับยั้งเชื้อ : เชื้อ H.Pyroli ที่เป็นต้นเหตุของโรคกระเพาะอาหารติดเชื้อ เป็นตัวการสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ดังนั้นถ้าเราดูแลสุขอนามัย ของเราดี ทานสมุนไพรยับยั้งเชื้อ ก็เป็นการช่วยป้องกันปัญหาแผลเรื้อรังอีกทางด้วยค่ะ ▶ สมุนไพรยับยั้งเชื้อ : กระเจี๊ยบเขียว ว่านหางจระเข้ ใบบัวบก น้ำผึ้ง ❻ ลดท้องผูก ปรับสมดุลลำไส้ : คนที่มีปัญหากรดไหลย้อน หรือกระเพาะอาหารจำเป็นมากที่ต้องดูแลลำไส้ให้แข็งแรง เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมโรคให้รุนแรงขึ้น พรีไบโอติกส์ ใยอาหารท่ีละลายน้ำได้ สามารถช่วยปรับสมดุลลำไส้ได้ ▶สมุนไพรที่เป็นพรีไบโอติกส์ : กระเจี๊ยบเขียว กล้วยดิบ สาหร่ายคอเรลล่า . 🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆🔆 |
#อยากให้ทุกคนมั่นใจ ว่าเราใส่ใจในรายละเอียดตามแบบที่ดีที่สุดของเรา . ใน URD ที่คนไข้ที่ได้ใช้แล้ว ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่า . ตัวนี้ดีมากๆ ไม่น่าเชื่อว่า จะหายปวดท้องโดยไม่ต้องกินยาเคลือบกระเพาะ . ลืมไปเลยว่าเคย "แสบ-อก" . วัตถุดิบสำคัญ คือกระเจี๊ยบเขียว แห่งสูตร6ปั่นของหมอเอ็กซ์ . ด้วยความเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ที่เอามาเพิ่มมาตรฐานในเกรดของอาหารเสริมที่มี อย ถูกต้อง . ผลิตในโรงงานมาตรฐานสูง . ทุกลอตการผลิตเราใส่ใจที่จะส่งกระเจี๊ยบเขียวไปฉายรังสีเพื่อการันตีว่าจะไม่มีสิ่งปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ ในวันที่ถึงมือลูกค้า . #ฮาชิ URD |
#รู้มั้ย? ที่ปวดและแสบเพราะมีแผล |
ทำไม GRD รักษากรดไหลย้อนได้ตรงจุด ✅ขับลม ลดอาการแน่น จุก เสียด เปปเปอร์มิ้นต์ สเปียร์มิ้นต์ สเปคพิเศษ L-Methionine และสารสกัดขิงใน GRD สามารถลดอาการท้องอืด แน่น จุกเสียด ไม่สบายท้อง ไม่สบายตัว ให้ดีขึ้นภายใน 15 นาทีหลังจากที่ทานเพียงเม็ดแรกเลยค่ะ ✅เพิ่มประสิทธิภาพการย่อยอาหาร สารสำคัญจาก ขิงใน GRD ช่วยกระตุ้นการย่อย ดูดซึม ปรับระบบการย่อยให้ผ่อนคลาย ออกฤทธิ์โดยตรงที่ระบบย่อยอาหาร เอ็นไซม์ซิงจิเบนในขิง ช่วยย่อยได้ดีว่า เอ็นไซม์ปาเปนในมะละกอ ถึง 180 เท่า ขิงเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อระบบย่อยอาหาร และ L-Methioinene มีประสิทธิภาพช่วยการย่อย โดยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของตับอ่อน จึงช่วยแก้ปัญหาระบบการย่อยอาหาร ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ✅รักษาแผลในกระเพาะอาหาร การบริโภคขิง สารสำคัญในโสมไซบีเรีย กรดอะมิโน L-Methionine เป็นประจำ สามารถลดการอักเสบของกระเพาะอาหารได้ สำหรับคนที่เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ก็ช่วยรักษาให้แผลค่อยๆรักษาทั้งแผลที่หลอดอาหาร กระเพาะอาหารและลำไส้ รวมถึงสารสกัดจากโสมในสเปคที่เรานำมาใส่ใน GRD นั้นสามารถช่วยควบคุมการกระตุ้นการสร้างเมือกเคลือบกระเพาะอาหารเพื่อบรรเทาอาการแสบร้อนได้เป็นอย่างดี ✅เพิ่มการบีบตัวของกระเพาะให้อาหารไหลไปสู่ลำไส้เล็กเร็วขึ้น โดยทำให้กล้ามเนื้อเรียบของระบบย่อยอาหารคลายตัว ลดอาการเกร็งและตึงของกล้ามเนื้อเส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงกระเพาะอาหาร ทำให้กระเพาะคลายตัว กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ไปเลี้ยงกระเพาะมากขึ้น จึงเพิ่มการย่อยและป้องกันการระคายเคืองจากกรดไปในตัว ✅ลดลำไส้แปรปรวน ขิงลดอาการท้องผูก รักษาอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยออกฤทธิ์โดยตรงที่ระบบย่อยอาหาร น้ำมันดอกทานตะวัน ลดอาการลำไส้แปรปรวนและเสริมฤทธิ์บรรเทาอาการท้องผูกได้อีกด้วย
เปปเปอร์มิ้นต์ สเปียรมิ้นต์ ขิง ช่วยโดยตรงในการผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่กระเพาะอาหาร ทำให้แก้การที่อาหารไม่ย่อยจนล้นเอ่อ กลายเป็นกรดไหลย้อน ทะลักขึ้นมาที่หลอดอาการได้ตรงจุดที่สุด เพราะทำให้การทำงานของกระเพาะอาหารเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งโสมเป็นสมุนไพรปรับสมดุลในร่างกาย บรรเทาอาการต่างๆของโรคกรดไหลย้อนและคลายเครียดได้จากระบบประสาทเลยทีเดียว และ L-Methionine ในสูตรของ GRD เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และสามารถป้องกันการเกิดโรคซึมเศร้าได้ด้วย |
. . ถ้าคุณคือ คนที่เป็นกรดไหลย้อน ยุติอาการซะ อย่าให้มันเรื้องรัง!! หมอยังรักษาไม่ได้ แต่ #GRD #URD ช่วยได้สนใจ ชุดแสบร้อน คลิกรูปเลย #URD นวัตกรรมเคลือบแผลในกระเพาะโดยไม่ใช้ยาลดกรด คลิกเลย หรือ ต้องการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เภสัชกร คลิกค่ะ |