Mesofat ก บ botox ฉ ดพร อมก นได ม ย

ไขมันส่วนเกินบนใบหน้าและรูปร่างแทบจะเป็นปัญหาด้านความงามอันดับต้นๆ ที่ใครหลายคนอยากกำจัดออก โดยอาจผ่านวิธีการคุมอาหาร ออกกำลังกาย กินยาลดน้ำหนัก หรือดูดไขมัน แต่ในบางครั้งวิธีเหล่านี้ก็ไม่ได้ผลและไม่ทันใจผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันออกแบบเร่งด่วน

การฉีดเมโสแฟตจึงเป็นอีกวิธีกำจัดไขมันที่หลายคนเลือกใช้ เพราะมีทั้งจุดเด่นด้านการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และยังเลือกบริเวณที่จะฉีดได้อย่างหลากหลาย

ทางกังนัมคลินิก ซึ่งเป็นคลินิกเสริมความงามจากประเทศเกาหลีใต้ก็ได้เปิดให้บริการฉีดเมโสแฟตเช่นเดียวกัน เพื่อคลายความกังวลและไม่มั่นใจในไขมันส่วนเกินที่ให้รูปใบหน้าและรูปร่างของผู้เข้ารับบริการดูไม่กระชับ

สำหรับใครที่ยังไม่รู้รายละเอียดข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต ทางกังนัมคลินิกและ HDmall.co.th ขอรวบรวมทุกข้อควรรู้เกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตไว้ใจบทความนี้

เมโสแฟตคืออะไร? ฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

เมโสแฟต (Meso Fat) คือ ตัวยาลดไขมันส่วนเกินเพื่อกระชับสัดส่วนที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน โดยประกอบไปด้วยสารยาที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน รวมถึงช่วยลดกระบวนการเกิดเซลล์ไขมันใหม่ ได้แก่

  • แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) มีคุณสมบัติช่วยเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง
  • เมโสสตาบิล (Mesostabyl) ลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่และคอเลสเตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อ
  • ไทโรซีน (Tyrosine) เร่งการเผาผลาญไขมันของร่างกายให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
  • สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) ลดการสร้างกรดไขมันและระดับไขมันแบบเฉพาะจุด

นอกจากยาทั้งสี่ตัวนี้ แพทย์ในบางสถานพยาบาลยังนิยมใช้ยากลุ่มอื่นๆ เช่น ยาฟอสฟาทิดิลโคลีน (Phosphatidylcholine) สารดีออกซีโคเลท (Deoxycholate) ยาเด็กซ์แพนทีนอล (Dexpanthenol) ซึ่งสกัดมาจากสารอาหารที่มีประโยชน์ในไข่แดงและถั่วเหลือง รวมถึงวิตามินอื่นๆ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดไขมันได้แบบเฉพาะจุด ในการฉีดเมโสแฟตให้กับผู้เข้ารับบริการด้วย และยังเห็นผลลัพธ์ได้ชัด มีความปลอดภัยสูง

หลังจากฉีดเมโสแฟตไปยังบริเวณที่มีไขมันส่วนเกินเรียบร้อยแล้ว โครงสร้างผิวบริเวณดังกล่าวก็ค่อยๆ ลดขนาดลง ดูเรียวกระชับมากขึ้น รวมถึงระบบเผาผลาญไขมันภายในร่างกายก็จะทำงานได้อย่างเต็มที่ โดยบริเวณที่ผู้เข้ารับบริการนิยมฉีดเมโสแฟตมากที่สุดจะเป็นบริเวณแก้มและเหนียง เพื่อให้กรอบหน้าดูเรียวเล็ก นอกจากนี้ยังนิยมฉีดบริเวณอื่นๆ ของร่างกายด้วย เช่น

  • ต้นแขน
  • หน้าท้อง
  • ต้นขา
  • น่อง
  • สะโพก

ฉีดเมโสแฟตแล้ว ไขมันส่วนเกินหายไปไหน?

เมื่อสารยาเมโสแฟตเข้าไปจับไขมันส่วนเกินภายในร่างกายเรียบร้อยแล้ว ไขมันจะละลายและถูกขับออกไขมันตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เช่น ปัสสาวะ อุจาระ หรือเหงื่อ

ความแตกต่างของการฉีดเมโสแฟต เทียบกับการสลายไขมันด้วยวิธีอื่นๆ

นอกจากการฉีดเมโสแฟต ยังมีนวัตกรรมและวิธีการสลายไขมันอื่นๆ ที่ถือเป็นคู่แข่งสำคัญของการฉีดเมโสแฟตอีก เช่น

  • การทำเทอร์มาจ (Thermage) เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานคลื่นวิทยุ (High Radio Frequency) ลงไปชั้นใต้ผิวหนัง เพื่อสลายเซลล์ไขมันส่วนเกินและแก้ปัญหาความหย่อนยานของผิว ส่งผลให้ผิวแน่นกระชับขึ้น และยังช่วยลบริ้วรอยแห่งวัยที่หย่อนคล้อยให้เลือนจางลงอย่างเห็นได้ชัด เช่น บริเวณหน้าผาก หางคิ้ว ใต้ตา
  • การทำไฮฟู่ (HIFU) เป็นเทคโนโลยีการยิงพลังงานยื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อลดชั้นไขมันส่วนเกิน พร้อมเสริมโครงสร้างคอลลาเจนผิวให้ยืดหยุ่นและแข็งแรงอีกครั้ง จึงทำให้ผิวที่หย่อนคล้อย ไม่เรียวสวยกลับมาเต่งตึง มีสัดส่วนเล็ก และกระชับขึ้น โดยเครื่องทำไฮฟู่ที่ได้รับความนิยมจนมีชื่อเสียงติดหูในท้องตลาดจะแบ่งเป็น 2 เครื่อง คือ เครื่องอัลตราฟอร์เมอร์ (Ultraformer III) และเครื่องอัลเทอร์รา (Ulthera)
  • การฉีดโบท็อกซ์ เป็นการฉีดสารที่มีชื่อเต็มว่า “สารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ ( Botulinum Toxin Type A) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยยกกระชับผิวให้ตึงและมีกรอบใบหน้าชัดขึ้น รวมถึงลดขนาดของริ้วรอยแห่งวัย หรือผิวส่วนที่หย่อนคล้อยให้เล็กลง เป็นอีกการทำหัตถการโดยใช้เข็มฉีดยาที่ได้รับความนิยมไม่แพ้การฉีดเมโสแฟต และยังช่วยลดอาการเหงื่อออกผิดปกติตามร่างกายได้เช่นกัน

ในส่วนของความแตกต่างระหว่างการฉีดเมโสแฟตกับการทำหัตถการอื่นๆ เพื่อการลดสัดส่วนไขมันส่วนเกิน การฉีดเมโสแฟตจะเป็นวิธีใช้ “สารยา” เพื่อเร่งกระบวนการต่างๆ ของร่างกายให้นำไขมันส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุด ในขณะที่วิธีกำจัดไขมันแบบอื่นๆ จะมีกลไกการกำจัดไขมันที่ต่างออกไป โดยแจกแจงได้ดังนี้

  • การทำเทอร์มาจและการทำไฮฟู่ ใช้วิธีการยิงพลังงานจากเครื่องลงไปใต้ผิวเพื่อสลายเซลล์ไขมันส่วนเกิน แต่เทอร์มาจจะมีจุดเด่นเพิ่มเติมในส่วนของการลบเลือนริ้วรอยแห่งวัยได้ และมีก้อนพลังงานที่ยิงลงไปใหญ่กว่าการทำไฮฟู่ รวมถึงเห็นผลลัพธ์ได้นานถึง 1-2 ปีเลยทีเดียว แต่ก็มีจุดด้อยในส่วนของความเจ็บและค่าใช้จ่าย โดยการทำเทอร์มาจจะมีราคาสูงกว่าและเจ็บกว่า เมื่อเทียบกับการทำไฮฟู่ที่ราคาจะย่อมเยาลงมาและไม่รู้สึกเจ็บมาก
  • การฉีดโบท็อกซ์ กลไกการทำงานของสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ จะอยู่ที่การกระชับกล้ามเนื้อผิวให้หดเล็กลงมากกว่าการสลายไขมัน ดังนั้นวิธีนี้จึงอาจไม่ช่วยลดสัดส่วนไขมันให้น้อยลงได้ แต่จะช่วยยกกระชับผิวให้ตึงและดูเรียวสวยขึ้นมากกว่า

ฉีดเมโสแฟตควบคู่กับฉีดโบท็อกซ์ได้หรือไม่?

สามารถทำได้ และยังช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้ชัดขึ้นในบางจุดของร่างกายด้วย เพราะการฉีดโบท็อกซ์มีกลไกการยกกระชับผิวผ่านการลดขนาดกล้ามเนื้อ ในขณะที่การฉีดเมโสแฟตจะเป็นการลดเซลล์ไขมันส่วนเกิน ซึ่งหากทำควบคู่กัน ก็ยิ่งช่วยลดขนาดสัดส่วนที่ผู้เข้ารับบริการอยากได้แก้ไขได้อย่างเห็นผลมากขึ้นไปอีก

ฉีดเมโสแฟตกับการดูดไขมัน ควรเลือกแบบไหนดี?

การฉีดเมโสแฟตและการดูดไขมันมีกระบวนการที่ค่อนข้างแตกต่างกัน ซึ่งผู้เข้ารับบริการต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบคอบเสียก่อน

การฉีดเมโสแฟตจะมีกระบวนการเพียงฉีดสารยาลงไปใต้ผิวไม่ต่างจากการฉีดยาทั่วไป จากนั้นผู้เข้ารับบริการก็สามารถกลับบ้านได้ทันที และมีการดูแลตนเองต่อเพียงเล็กเล็กน้อย เช่น งดอาหารที่มีไขมันสูง งดวิตามินบางกลุ่มชั่วคราว หมั่นออกกำลังกายบ่อยๆ ส่วนผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน

ส่วนการดูดไขมันจะมีกระบวนการคล้ายกับการผ่าตัดเล็กๆ โดยบางสถานพยาบาลจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ หรืออาจให้ยาสลบกับผู้เข้ารับบริการก่อนเริ่มทำหัตถการ วิธีการดูดไขมันจะเป็นการสอดท่อเล็กๆ ลงไปใต้ผิวเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา และอาจต้องมีการเย็บแผล รวมทั้งต้องเดินทางมาตรวจความเรียบร้อยของแผลหลังรับบริการเสร็จด้วย

ดังนั้นในส่วนของผลกระทบด้านร่างกายหลังจากทำหัตถการเสร็จ เมื่อเทียบกับการฉีดเมโสแฟตแล้ว การดูดไขมันจึงมีโอกาสทำให้รู้สึกเจ็บได้มากกว่า และอาจทำให้เกิดอาการช้ำ บวม หรือผิวหนังอักเสบได้มากกว่า นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้นร่างกาย ต้องใส่ปลอกหรือชุดกระชับสัดส่วนตามที่แพทย์แนะนำด้วย

ในขณะที่การฉีดเมโสแฟตมักจะมีเพียงอาการผิวบวมแดงบริเวณที่ใช้เข็มฉีดยาประมาณ 1-2 วันเท่านั้น หลังจากนั้นก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันก็มีจุดเด่นด้านการดึงเซลล์ไขมันออกไปได้ทันทีและยังทำได้หลายบริเวณของร่างกาย ซึ่งหากไปใช้บริการในสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัย ได้มาตรฐาน และมีความเชี่ยวชาญ ก็จัดเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่น่าสนใจเช่นเดียวกัน

ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี?

แบรนด์สารเมโสแฟตในปัจจุบันมีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกันและมีจุดเด่นแตกต่างกันไป โดยแบรนด์ชั้นนำที่มีแพร่หลายและได้รับความนิยมในสถานพยาบาลหลายแห่งจะได้แก่

  • ยี่ห้อ fnc30 มีจุดเด่นด้านการลดไขมันที่แก้มได้ดี จึงทำให้โครงหน้าดูเรียวกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • ยี่ห้อ babi-lone มีจุดเด่นด้านแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม
  • ยี่ห้อ Mesoestetic มีจุดเด่นด้านการเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิว ทำให้สัดส่วนร่างกายไม่ว่าจะเหนียง ต้นแขน สะโพก ต้นขา หรือน่องดูเล็กลง

การเลือกใช้แบรนด์เมโสแฟตในการแก้ปัญหาความงามแต่ละครั้ง จะขึ้นอยู่กับปัญหาด้านไขมันส่วนเกินที่ผู้เข้ารับบริการอยากแก้ไข แต่ไม่ควรเลือกเองตามลำพัง และควรให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ให้คำแนะนำในการเลือกยี่ห้อสารเมโสแฟตอย่างเหมาะสม รวมถึงปริมาณในการฉีดที่ความปลอดภัยของสุขภาพด้วย

ฉีดกี่วันจึงจะเห็นผล? ต้องฉีดบ่อยหรือไม่? และอยู่ได้นานแค่ไหน?

โดยปกติผู้เข้ารับจะสามารถเริ่มเห็นผลลัพธ์หลังจากฉีดเมโสแฟตไปแล้วตั้งแต่ภายใน 1-2 สัปดาห์แรกหลังรับบริการ แต่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดที่สุดเมื่อครบ 1 เดือน และจะอยู่ได้นานประมาณ 3 เดือน

ส่วนความถี่ในการฉีดเมโสแฟตจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับบริการแต่ละท่านในการคงความต่อเนื่องของผลลัพธ์เอาไว้ รวมถึงตามคำแนะนำของแพทย์ในการลดขนาดสัดส่วนที่จะแตกต่างกันไปในแต่บุคคลด้วย

ฉีดเมโสแฟตได้ตั้งแต่อายุเท่าไร? เจ็บหรือไม่?

ผู้ที่ต้องการฉีดเมโสแฟตต้องมีอายุ 20 ขึ้นไปเท่านั้น และเนื่องจากเป็นการทำหัตถการที่ใช้เข็มฉีดยา จึงอาจทำให้รู้สึกเจ็บได้ แต่มักอยู่ในระดับที่ทนได้เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน และอาจมีอาการผิวบวมแดงได้ในช่วง 1-2 วันแรก หลังจากนั้นอาการก็จะค่อยๆ ดีขึ้นเอง

อย่างไรก็ตาม ที่กังนัมคลินิกจะมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะก่อนเริ่มการฉีดเมโสแฟต เพื่อป้องกันอาการเจ็บที่ผู้เข้ารับบริการบางท่านอาจเป็นกังวล

ใครเหมาะกับการฉีดเมโสแฟต?

ผู้ที่เหมาะกับการลดไขมันด้วยการฉีดเมโสแฟต ได้แก่

  • ผู้ที่มีไขมันส่วนเกินและอยากกำจะจัดออกเฉพาะจุด
  • ผู้ที่ออกกำลังกายมาอย่างต่อเนื่องแล้ว แต่สัดส่วนไขมันตามร่างกายและใบหน้ายังไม่ลดลง
  • ผู้ที่ต้องการลดไขมันอย่างเร่งด่วน และมีงบประมาณไม่สูงนัก
  • ผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนไขมันโดยไม่ใช้การผ่าตัดและกังวลเรื่องความเจ็บ

ใครไม่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟตเป็นวิธีการกำจัดไขมันส่วนเกินที่สามารถทำได้กับบุคคลทั่วไปทุกกลุ่ม ยกเว้นหญิงตั้งครรภ์และกำลังให้นมบุตร รวมถึงผู้ที่มีปัญหาผิวหนังอักเสบ ผิวหนังติดเชื้อ หรือกำลังเป็นสิวอักเสบอย่างรุนแรง ซึ่งควรรักษาให้หายเสียก่อนรับบริการ

ข้อควรระวังในการไปรับบริการฉีดเมโสแฟต

เนื่องจากการฉีดเมโสแฟตเป็นการทำหัตถการความงามที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จึงมีสถานพยาบาลหลายแห่งนำเข้าสารเมโสแฟตปลอมซึ่งมีราคาถูกและไม่ได้มาตรฐานมาใช้ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการฉีดเมโสแฟตหรือต้องการสลายไขมันในราคาย่อมเยา ซึ่งสารเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้เข้ารับบริการได้อย่างมหาศาล

ผู้เข้ารับบริการทุกท่านจึงต้องมีการตรวจสอบมาตรฐานและชื่อเสียงของสถานพยาบาลที่ต้องการไปใช้บริการให้แน่ใจเสียก่อน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาใช้สารเมโสแฟตที่ไม่มีคุณภาพในภายหลัง

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

กระบวนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกินมักมีขั้นตอนโดยหลักๆ ดังต่อไปนี้

  • ผู้เข้ารับบริการพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาไขมันส่วนเกินและปัญหาผิวที่อยากยกกระชับกับแพทย์
  • แพทย์ประเมินยี่ห้อ ปริมาณ และอาจรวมถึงจำนวนครั้งในการมาฉีดเมโสแฟตให้เห็นผลตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการ
  • เมื่อพูดคุยเกี่ยวกับแผนการกำจัดไขมันเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาผู้เข้ารับบริการไปทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะฉีดเมโสแฟต และมีการประคบน้ำแข็งเพื่อให้เกิดความรู้สึกชาชั่วขณะ
  • หลังจากนั้นแพทย์จะเริ่มฉีดเมโสแฟตให้ตามปริมาณที่เหมาะสม โดยส่วนมากมักใช้เวลาไม่เกิน 15 นาที

การดูแลตนเองหลังรับบริการ เพื่อให้เห็นผลของการกำจัดไขมันมากขึ้น

ผู้เข้ารับบริการควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ เพื่อลดโอกาสเสื่อมตัวของสารยาเมโสแฟต รวมถึงควรดื่มน้ำให้มากๆ เพื่อเร่งการขับไขมันออกจากร่างกาย

นอกจากนี้ยังควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความร้อน เช่น การอบซาวน่า การแช่น้ำร้อน การทำทรีตเมนต์หรือนวดตัว เป็นเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเกิดปัญหาฟกช้ำที่ผิว และหากมีอาการแพ้หรือรู้สึกผิดปกติใดๆ ให้ติดต่อแพทย์โดยทันที

ส่วนการดูแลตนเองเพิ่มเติม ผู้เข้ารับบริการควรหมั่นออกกำลังกายเบาๆ เพื่อกระตุ้นความกระชับของผิวส่วนที่ฉีดเมโสแฟต ควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีไขมันสูงหรือมีน้ำตาลสูง เพื่อลดโอกาสเกิดเซลล์ไขมันใหม่ และควรพักผ่อนให้เพียงพอทุกคืน เพื่อให้ระบบเผาผลาญและระบบเมตาบอลิซึมของร่างกายซึ่งมีส่วนช่วยกำจัดไขมันทำงานได้อย่างเต็มที่

รับบริการฉีดเมโสแฟต ที่กังนัมคลินิก

หากคุณคือหนึ่งในผู้ที่ต้องการลดปริมาณไขมันภายในร่างกายให้น้อยลง หรือต้องการให้โครงสร้างสัดส่วนมีความกระชับเล็กจากไขมันส่วนเกินที่หายไป ทางกังนัมคลินิกทั้ง 10 สาขาทั่วกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเปิดให้บริการฉีดเมโสแฟต เพื่อช่วยเร่งการกำจัดไขมันส่วนเกินออก และทำให้สัดส่วนทุกบริเวณในฝันของคุณเป็นจริงได้เร็วขึ้น

ทุกบริการเสริมความงามที่กังนัมคลินิกมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลอยู่ทุกขั้นตอน รวมถึงมีทีมเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ารับบริการทุกท่านในทุกสาขา และในมาตรฐานเดียวกัน คุณจึงมั่นใจได้ถึงคุณภาพภายในคลินิกที่เป็นของแท้และมาจากหัวใจ หมดห่วงเรื่องเมโสแฟตของปลอมหรือผลกระทบที่อาจเป็นอันตรายจากการกำจัดไขมัน

ยกระดับความมั่นใจให้กับโครงหน้าและรูปร่างทุกส่วนที่บั่นทอนจิตใจของคุณ ด้วยการฉีดเมโสแฟตจากกังนัมคลินิก แล้วคุณจะไม่ผิดหวังในบริการที่มาจากความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริง โดยสามารถเลือกรับบริการได้ที่กังนัมคลินิกสาขาใกล้บ้านคุณ

หรือหากคุณมีข้อสงสัย หรืออยากรับบริการเสริมความงามด้านอื่นๆ เพิ่มเติมของกังนัมคลินิกนอกเหนือจากการฉีดเมโสแฟต ก็สามารถพูดคุยและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับแอดมินของ HDmall.co.th ได้ที่ไลน์ @HDcoth เรามีโปรโมชั่นเกี่ยวกับการเสริมความงามอีกหลายด้าน รวมถึงแพ็กเกจเพื่อสุขภาพอื่นๆ อีกมากมายให้คุณได้เลือกซื้อ หรือหากคุณอยากรู้โปรโมชั่นการเสริมความงามด้านใด ก็สามารถสอบถามกับทางแอดมินได้ทันที

รูปหน้าที่เรียวสวย รวมถึงสัดส่วนที่เล็กกระชับกว่าเดิมรอคุณอยู่ ผ่านบริการฉีดเมโสแฟต คืนความสมบูรณ์แบบให้กับทุกส่วนของโครงสร้างร่างกาย ด้วยบริการสุดพิเศษที่ไม่ทำให้คุณผิดหวังจากกังนัมคลินิก

เมโสแฟต กับ โบท็อกซ์ ต่างกันยังไง

เมโสแฟต กับโบท๊อกซ์ แตกต่างกันที่ฟังก์ชั่นการทำงานครับ โดยเมโสแฟต จะช่วยสลายไขมันส่วนเกินที่เราไม่ต้องการ ทำให้ขนาดของร่างกายบริเวณนั้นดูเล็กลง และยังช่วยลดเซลลูไลท์ ส่วนโบท๊อกซ์จะเป็นการระงับการทำงานของกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อไม่ได้ทำงาน จะส่งผลให้กล้ามเนื้อคลายตัว ลดริ้วรอย และทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเล็กลงครับ

ฉีดโบท็อกกับแฟตพร้อมกันได้ไหม

สามารถฉีดเมโสแฟตร่วมกับการฉีดโบท็อกได้ครับ ช่วยลดไขมันและกล้ามเนื้อ เพื่อให้ได้รูปหน้าและรูปร่างที่สวยงาม ดูกระชับมากยิ่งขึ้น

แฟตบอม กี่วันเห็นผล

หลังฉีด Meso fat ต้นแขนประมาณ 1-3 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยจะสลายไขมันได้ 10-15% ต่อการฉีด 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมของแต่ละคน และการดูแลหลังฉีดแฟตต้นแขนครับ 5-7 วัน เริ่มเห็นผลว่าแขนเริ่มเล็กลง

เมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน

ในการฉีด 1 ครั้งจะมีผลลัพธ์ได้นานประมาณ 2-3 เดือน แต่หากเข้ารับการฉีดอย่างต่อเนื่องติดต่อกัน 4-5 ครั้งโดยแต่ละครั้งควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็ได้ช่วยให้มีผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น ในบางรายอาจอยู่ได้เป็นปีหรือถาวรขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังทำด้วยเพื่อให้เมโสแฟตคงสภาพอยู่ได้นานขึ้นด้วย

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้