Google file steam แจ งว าเต ม ว ธ แก

สําคัญ: ในส่วน "ตําแหน่งการสตรีมของ Google ไดรฟ์" คุณอาจเห็นการแจ้งเตือนว่า "ตําแหน่งโฟลเดอร์ควบคุมโดย macOS" และคุณจะอัปเดตจุดต่อเชื่อมไม่ได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปใน macOS

  • เลือกตําแหน่งที่ต้องการให้พบไฟล์
  • คลิกตกลง

หยุดการซิงค์ชั่วคราว

เมื่อการซิงค์หยุดชั่วคราว ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปจะหยุดกิจกรรมการซิงค์ในพื้นหลังเหล่านี้

  • การอัปเดตที่ดำเนินการกับไฟล์ที่สตรีมในไดรฟ์เสมือน
  • ไฟล์ที่ซิงค์กับไดรฟ์ในทั้งสองทิศทางสําหรับโฟลเดอร์ที่มิเรอร์
  • การสํารองข้อมูลไปยัง Google Photos
  • คุณจะไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ที่ยังไม่ได้ดาวน์โหลดใน macOS File Provider ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปใน macOS

หากต้องการหยุดการซิงค์ชั่วคราว ให้ทําดังนี้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกการตั้งค่า
    หยุดการซิงค์ชั่วคราว

หากต้องการซิงค์ต่อ ให้ทำดังนี้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป ในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกการตั้งค่า
    ซิงค์ต่อ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าไฟล์ที่สตรีมและมิเรอร์

คุณสามารถซิงค์ไฟล์ในไดรฟ์ของฉันกับไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปโดยใช้การมิเรอร์หรือการสตรีมได้

หากต้องการเปลี่ยนจากการสตรีมเป็นการมิเรอร์ ให้ทําดังนี้

  1. เปิดไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
  2. คลิกการตั้งค่า
    ค่ากําหนด
  3. ทางด้านซ้าย ให้คลิกโฟลเดอร์จากไดรฟ์
  4. ในส่วน "ตัวเลือกการซิงค์ไดรฟ์ของฉัน" ให้เลือกมิเรอร์ไฟล์
  5. ปิดไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อป

เคล็ดลับ:

  • เมื่อเปลี่ยนแล้ว ไฟล์ในไดรฟ์ของฉันจะดาวน์โหลดไปยังโฟลเดอร์ที่คุณเลือก
  • หากมีไฟล์ในโฟลเดอร์ที่เลือกอยู่แล้ว ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปจะพยายามไม่คัดลอกไฟล์ที่มีอยู่แล้วในระบบคลาวด์
    • หากเนื้อหาในไฟล์แตกต่างจากเนื้อหาในระบบคลาวด์ ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปจะเก็บไว้ทั้งคู่
  • ระบบจะอัปโหลดไฟล์ที่ไม่ได้อยู่ในระบบคลาวด์
  • ตำแหน่งการสตรีมของ Google ไดรฟ์จะอัปเดตเพื่อแสดงทางลัดไปยังโฟลเดอร์ไดรฟ์ของฉันรายการใหม่
  • ไดรฟ์ที่แชร์ คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ และอุปกรณ์ USB ที่สํารองไว้จะยังคงปรากฏอยู่และยังสามารถสตรีมได้

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการมิเรอร์และการสตรีมด้วยไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

ดูข้อมูลเกี่ยวกับแคชที่ใช้เก็บเนื้อหาสำหรับการสตรีมไฟล์

สำคัญ: หากเส้นทางไดเรกทอรีของแคชไม่พร้อมใช้งาน คุณจะใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปไม่ได้

หากคุณสตรีมไฟล์ในจาก Google ไดรฟ์ไปยังคอมพิวเตอร์ ระบบจะเก็บข้อมูลไฟล์ไว้ในแคชในเครื่องซึ่งอยู่ในฮาร์ดไดรฟ์

แคชจะทําให้ไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปเปิดไฟล์ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและใช้งานแบบออฟไลน์ได้ หากคุณแก้ไขบางอย่างแบบออฟไลน์ ระบบจะจัดเก็บการแก้ไขนั้นไว้ในแคชจนกว่าจะอัปโหลดไปยังระบบคลาวด์

สำหรับใน Windows และ macOS เวอร์ชันเก่า ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปจะจัดการแคชที่ใช้เก็บเนื้อหาโดยอัตโนมัติ สําหรับบัญชีงานหรือบัญชีโรงเรียน ผู้ดูแลระบบจะกําหนดขีดจํากัดพื้นที่ที่แคชจะใช้ได้

ส่วน macOS เวอร์ชันใหม่จะจัดการแคชที่ใช้เก็บเนื้อหา และเนื่องจาก macOS จัดการแคชเนื้อหา คุณจึงไม่สามารถกําหนดขีดจํากัดพื้นที่ที่แคชจะใช้ได้

คุณสามารถค้นหาไฟล์ที่ใช้งานได้แบบออฟไลน์และดูว่าระบบใช้งานพื้นที่ในฮาร์ดไดรฟ์อย่างไรบ้าง ซึ่งคุณดูข้อมูลดังกล่าวได้ดังนี้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ไฟล์ออฟไลน์
  2. หากต้องการดูไฟล์ที่แคชไว้ภายใต้บัญชีของคุณ ให้คลิกไฟล์ออฟไลน์

รายการข้อจํากัดของแคชที่ใช้กับไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปมีดังนี้

  • คุณจะอัปโหลดโฟลเดอร์ที่มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่เก็บข้อมูลที่ใช้ได้ในพาร์ติชันที่มีโฟลเดอร์แคชไม่ได้
  • คุณสามารถทราบโควต้าไดรฟ์ที่จํากัดของไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป (สําหรับบัญชีไม่จํากัด) โดยอิงตามพื้นที่ว่างในไดรฟ์ในเครื่องที่มีแคชอยู่

ขั้นสูง: เปลี่ยนตำแหน่งไดเรกทอรีไฟล์แคชในเครื่อง

คุณสามารถเปลี่ยนตําแหน่งไดเรกทอรีไฟล์แคชในเครื่องได้ แต่เราขอแนะนําให้แนะนําให้ใช้ตําแหน่งเริ่มต้น หากจําเป็นต้องเปลี่ยนตําแหน่ง ให้ทําดังนี้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. ค้นหา "ไดเรกทอรีไฟล์แคชในเครื่อง"
  3. คลิกเปลี่ยน
  4. เลือกตําแหน่งแคชใหม่
  5. คลิกเปลี่ยน

สำคัญ

  • การตั้งค่านี้ไม่ได้เปิดใช้ไว้ใน File Provider สำหรับ macOS
  • ไดเรกทอรีไฟล์แคชในเครื่องต้องไม่มีลักษณะดังนี้
    • เป็นโฟลเดอร์ย่อยของโฟลเดอร์ที่มิเรอร์
    • เป็นโฟลเดอร์ระดับบนสุดหรือโฟลเดอร์ย่อยของตำแหน่งการสตรีม

เปิดหรือปิดใช้การแสดงสถานะแบบเรียลไทม์กับ Microsoft Office

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์กับ Microsoft Office

เมื่อใช้การแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ คุณจะดูได้ว่ามีใครกําลังแก้ไขไฟล์ Microsoft Word, Excel หรือ PowerPoint ที่จัดเก็บไว้ในไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปอยู่หรือไม่ ระบบจะเปิดใช้การแสดงสถานะแบบเรียลไทม์โดยอัตโนมัติในไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป หากมีคนปิดไว้ คุณจะไม่เห็นว่าบุคคลนั้นอยู่ในไฟล์หรือไม่

คุณต้องเปลี่ยนสิทธิ์ของระบบก่อนจึงจะใช้การแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ใน macOS ได้

  1. ใน Mac ให้เปิด ค่ากําหนดของระบบ
    ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
    ความเป็นส่วนตัว
    การช่วยเหลือพิเศษ
  2. คลิกตัวล็อกที่ด้านล่างเพื่อทำการเปลี่ยนแปลง
  3. เลือกช่อง Google ไดรฟ์

สำคัญ: หากต้องการแก้ไขด้วยการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ใน Microsoft Office คุณต้องใช้ Office 2010 ขึ้นไป

ปิดการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์

คุณสามารถปิดการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ในไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปได้

สําคัญ: หากมีผู้ปิดการแสดงสถานะแบบเรียลไทม์ คุณจะไม่ทราบว่าบุคคลนั้นกำลังทํางานอยู่ในไฟล์หรือไม่

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. ยกเลิกการเลือกช่อง "ดูว่ามีผู้อื่นกำลังแก้ไขไฟล์ Microsoft Office ที่แชร์หรือไม่"
  3. คลิกบันทึก

ปรับแต่งการตั้งค่า Google Photos

ดูข้อมูลเกี่ยวกับขนาดที่อัปโหลด

คุณสามารถเลือกคุณภาพสำหรับเก็บข้อมูลรูปภาพและวิดีโอใน Google Photos ได้ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดก็ตาม จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับรูปภาพและวิดีโอในคอมพิวเตอร์

  • ตัวเลือกประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูลจะลดคุณภาพรูปภาพเล็กน้อย แต่ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยลง
  • คุณภาพต้นฉบับจะรักษาคุณภาพและขนาดของรูปภาพและวิดีโอไว้
  • คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  • ค้นหาตัวควบคุมที่มีเครื่องหมาย "ขนาดที่อัปโหลด"
  • เลือกค่ากำหนดของคุณ ดังนี้
    • ประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล
    • คุณภาพต้นฉบับ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับ System Photo Library สำหรับ macOS

  1. ใน macOS ให้คลิกเมนูไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. หากต้องการอัปโหลดรูปภาพและวิดีโอไปยัง Google Photos โดยอัตโนมัติ ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือก "System Photo Library"
    • คลังขนาดใหญ่จะใช้เวลาในการอัปโหลดและโอนข้อมูลจํานวนมากนานกว่าปกติ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับประเภทไฟล์

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. เลือกหรือยกเลิกการเลือกช่องประเภทไฟล์เพื่อซิงค์หรือละเว้น

ปรับแต่งการตั้งค่าทั่วไป

ปิดการเปิดใช้งานอัตโนมัติใน Google ไดรฟ์

หลังจากที่คุณเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์แล้ว Google ไดรฟ์จะเปิดขึ้นโดยค่าเริ่มต้น หากต้องการปิด ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. ยกเลิกการเลือกช่องที่อยู่ถัดจาก "เปิด Google ไดรฟ์เมื่อเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์"

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าพร็อกซี

โดยค่าเริ่มต้น Google ไดรฟ์จะใช้โหมด "ตรวจหาอัตโนมัติ" เพื่อใช้การตั้งค่าพร็อกซีที่ระบบปฏิบัติการระบุไว้ นอกจากนี้ คุณอาจใช้โหมด "การเชื่อมต่อโดยตรง" เพื่อข้ามการตั้งค่าพร็อกซีก็ได้เช่นกัน

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. เลือกตรวจหาอัตโนมัติหรือการเชื่อมต่อโดยตรงตามที่ต้องการ

ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าแบนด์วิดท์

สําหรับอัตราการดาวน์โหลดและอัปโหลดของ Google ไดรฟ์ คุณสามารถป้อนขีดจํากัดแบนด์วิดท์สูงสุดได้

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. คลิกช่องถัดจาก "อัตราการดาวน์โหลด" หรือ "อัตราการอัปโหลด"
  3. ป้อนค่าดังนี้
    • ค่าที่ใช้ได้อยู่ระหว่าง 1 ถึง 100,000,000
    • มีหน่วยเป็น กิโลไบต์ต่อวินาที

ตั้งค่าคีย์ลัด

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. ในส่วน "กําหนดค่าคีย์ลัด" ให้เลือกข้อความชุดค่าผสมของคีย์
  3. ป้อนชุดค่าผสมคีย์

ดูข้อมูลเกี่ยวกับค่ากำหนดการแจ้งเตือน

  1. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
  2. ในส่วนการตั้งค่าการแจ้งเตือน ให้เลือกหรือยกเลิกการเลือก "เตือนให้ฉันสำรองข้อมูลอุปกรณ์"
    • หากเปิดไว้ Google ไดรฟ์จะแจ้งเมื่อตรวจพบอุปกรณ์ USB เช่น แฟลชไดรฟ์หรือกล้องเพื่อให้ทำการสํารองข้อมูล หากคุณเลือกละเว้นอุปกรณ์ที่ถอดได้ในข้อความแจ้ง ไดรฟ์จะจดจําค่ากําหนดของคุณและระบุอุปกรณ์นั้นในส่วน "อุปกรณ์ USB ที่ละเว้น"

ถอนการติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป

  1. ออกจากระบบไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปในคอมพิวเตอร์
  2. คลิกเมนูไดรฟ์สําหรับเดสก์ท็อป
    การตั้งค่า
    ค่ากำหนด
    การตั้งค่าขั้นสูง
    ยกเลิกการเชื่อมต่อบัญชี
  3. ในหน้าต่างป๊อปอัป ให้คลิกตกลง
  4. คลิกเมนูไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อป
    การตั้งค่า
    ออก
  5. ใช้ขั้นตอนมาตรฐานเพื่อถอนการติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปออกจากคอมพิวเตอร์
    • และหากต้องการความช่วยเหลือ โปรดดูคำแนะนำสำหรับระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์ที่คุณใช้

เคล็ดลับ: หลังจากถอนการติดตั้งไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปแล้ว คุณจะยังคงเปิดไฟล์ในไดรฟ์สำหรับเว็บได้

เคล็ดลับ: หากคุณใช้ไดรฟ์สำหรับเดสก์ท็อปผ่านองค์กร เช่น ที่ทำงานหรือโรงเรียน ผู้ดูแลระบบอาจจัดการหรือจำกัดการตั้งค่าบางอย่างได้ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าที่จัดการโดยผู้ดูแลระบบ

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้