ค ม อ extension สำหร บงานก อสร าง
- 1. Extension เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสรางโมเดลสามมิติและถอดปริมาณวัสดุ (Quantity Takeoff)
- 2. ม.อ.ก. PART-01
- 3. FACE คําสั่งเพื่อยืด Group/Component ใหวิ่งไปชนกับ Face EXTEND TO STRUCTURE คําสั่งเพื่อยืด Group/Component ใหวิ่งไปชนกับชิ้นสวนอื่น GROW TO FACE คําสั่งเพื่อยืด Group/Component ใหวิ่งไปชนกับ Face ที่ตองการ COMBINE EACH คําสั่งสําหรับการรวม Group/Component เขาดวยกัน TABLE EDITOR สราง/ปรับแก ตารางมาตรฐานเหล็กหรือโครงสรางตางๆ QUERY ATTRIBUTE แสดงคา Attribute ของ Group/Component ที่สรางขึ้น BST SOLID FROM FOOT PRINT ใชสราง Group จาก Footprint PROFILE SCHEMA EDIT สําหรับตรวจสอบการใสคาตัวแปรตางๆ 1) คลิ๊กที่ SHOW_TOOLS แสดงชื่อหมวดของ Structure ตางๆ Structure ที่อยูในหมวดตางๆ คําสั่งสําหรับจัดการขอมูลทั้งหมด 2) คลิ๊กที่ Load เพื่อเปด Database ที่ตองการ 3) คลิ๊กที่ Sample_pflist_japan เพื่อโหลด Structure ตามมาตรฐานของญี่ปุนหรือ JIS 4) คลิ๊ก Open
- 4. Add Row เพื่อสราง Database ใหม ตรงตามมาตรฐาน ม.อ.ก. 6) คลิ๊ก DELETE ROWS เพื่อลบ Database ทั้งหมด 8) คลิ๊กตําแหนงนี้เพื่อเลือกหนาตัดของ Structure 9) เลือกหนาตัดของเหล็กกลอง 10) พิมพ " SHS-100x100x3.2-9.52 kg/m เพื่อสรางเหล็กกลองขนาดหนาตัด 100x100 มม. หนา 3.2 มม. โดยมีน้ําหนักเฉลี่ยเทากับ 9.52 กก./ม. 11) จากนั้นคลิ๊ก Add Row เพิ่มเติม จากนั้น เพิ่มหนาตัดเหล็กกลองเพิ่มอีก 1 ตัว โดยพิมพ "SHS-50x50x3.2-4.5 kg/m"
- 5. (TSV) AS เพื่อ Save Database เก็บไวใชในภายหลัง 13) พิมพ "มาตรฐาน TIS" เพื่อสรางไฟล Database ของวัสดุตามมาตรฐาน ม.อ.ก. 14) คลิ๊ก Save จากนั้นปดหนาตาง ทั้งหมด 15) คลิ๊ก SHOW_TOOLS 16) คลิ๊ก OK 17) คลิ๊ก Property 17) เลือกหนาตัดเหล็กกลอง 18) เลือกเหล็กกลองขนาด 100x100x3.2-9.52 kg/m 19) คลิ๊กที่บริเวณนอกกรอบ 1 ครั้งเพื่อปดหนาตาง
- 6. By Clicks เพื่อเริ่มตน การสราง Structure ของเหล็กกลอง 21) คลิ๊กเสนเสนในแนวดิ่งดังภาพเพื่อสรางโครงสราง ของเหล็กกลอง 22) คลิ๊กขวา เพื่อเปด Entity Info 23) สังเกตชื่อของเหล็กกลองถูกสรางขึ้นมา ทําการ Copy ชื่อของ Component ไวโดยการเลือก ชื่อทั้งหมดแลวกด Ctrl+C 24) คลิ๊กขวาที่ Component 25) คลิ๊กที่ Explode เพื่อทําการระเบิด Component 26) เลือกชิ้นสวนดานบนสุดแลว กด Delete หรือลบทิ้ง 27 ถาทําถูกตองเราจะไดหนาตัดเหล็กดังภาพ
- 7. ของเหล็กอื่นๆ เพิ่มเติมดังภาพ เชน เหล็กฉาก เหล็กตัวเอช เหล็กรางน้ํา และเหล็กรูปตัวซี เปนตน WORK SHOP 01 ทดลองการใช T2HBuilding Structure Tool สรางเหล็กรูปพรรณขนาดตางๆ กัน
- 8. Database เก็บไวใชงานดวย Extension ที่ชื่อวา Profile Builder 2
- 9. ใชสําหรับการปรับแก Profile Member Trim to Face ใชสําหรับตัด Profile Member เขา กับ Face ที่เราเลือกไว Trim to Solid ใชสําหรับตัด Profile Member เขา กับ Solid Group/Component ที่เราเลือกไว Extend Tool ใชสําหรับการยืดและหด Profile Member Smart-Patch Select ใชสราง Profile Member จากเสนที่เราเลือก สวนที่ใชในการหาปริมาณและราคา สวนที่ใชในการปรับแก/เปลี่ยนแปลง Profile Member สวนที่ใชในการสราง Profile Member Assembler Dialog ใชสําหรับสรางชิ้นสวนงานที่ซับซอน แบบ Auto คลาย Dynamic Component Profile Builder Dialog ใชสําหรับสราง Profile 1) สรางวงกลมเสนผาศูนยกลาง 60.5 มม. 2) Offset ใหมีความหนา 3.2 มม. เพื่อสราง Profile ของทอเหล็กกลมขนาด 2" หนา 3.2 มม.ดังภาพ 3) ลบ Face ตรงกลางออก เมื่อแลวเสร็จก็ได Profile ของทอเหล็ก กลมขนาด 2" ที่มีความหนา 3.2 มม. ดังภาพ
- 10. Builder Dialog 5) เลือก Profile ทั้งหมด 6) คลิ๊กเครื่องหมายบวกเพื่อ สราง Profile ของทอเหล็กกลม 7) ตั้งชื่อวา CarbonSteelPipe50x32mm 8) คลิ๊ก Save 9) คลิ๊กสราง Folder ใหมเพื่อเก็บ Profile ที่เราสรางขึ้นมา 10) เลือก Save ใน Folder ที่เราสรางขึ้นมา 11) คลิ๊ก Save 12) สราง Profile ทอเหล็กกลมขนาด 34 มม. หนา 3.2 มม. อีกตัวขึ้นมา จากนั้นทําแบบเดิมซ้ําอีกครั้งโดยตั้งชื่อ Profile วา CarbonSteelPipe25x3.2mm 13) เมื่อทําเสร็จแลวเราจะได Profile เปน Database เก็บไวใชประโยชน ในอนาคต
- 11. Profile ของเหล็กรูปพรรณตางๆ ตามมาตรฐาน ม.อ.ก.
- 12. 2 PART-03
- 13. ของ เหล็ก รูปตัวเอชขนาด 300x300x10x15x13 2)คลิ๊ก Build เพื่อสราง Profile member 3) คลิ๊กจุดแรก 4) ลากเสนขึ้นแนวดิ่งจากนั้นคลิ๊กอีก 1 ครั้ง เพื่อสราง Profile Member 5) ถาทําถูกตองจะได Profile Member ดังภาพ 6) สรางเสนรูปตัว L กลับดานดังภาพ 7) คลิ๊กสองครั้งเพื่อเลือกเสนทั้งหมด 8) คลิ๊ก Build along patch เพื่อสราง Profile member 3.1 การสราง Profile Member
- 14. Member ของเหล็กH-250x125x6x9x8 อีก 1 ตัวดังภาพ สังเกตภาพและชื่อของ Profile 10) คลิ๊กที่ Get Attribute เพื่อทําการเปลี่ยน Profile ใหเกลับไปเปน H-300x300x10x15x13 อีกครั้ง 11) จากนั้นไปคลิ๊กที่ Profile member ของเหล็ก H-300x300x10x15x13 12) ถาทําถูกตอง ภาพและชื่อของ Profile จะเปลี่ยนไปเปน H-300x300x10x15x13 ตรงตามตัวที่เราคลิ๊ก 13) คลิ๊ก Stamp Profile 14) คลิ๊กอีกครั้งในตําแหนงที่ตองการเพื่อทดสอบ การ Copy Profile ของ Profile Member H-300x300x10x15x13 H-300x300x10x15x13 H-300x300x10x15x13
- 15. Member 1) คลิ๊ก Extend Tool เพื่อยืดหรือหด Profile Member 2) คลิ๊กที่ปลายของ Profile member ที่ตองการ 3) จากนั้นลากเหล็กขึ้นมาตามระยะที่ตองการหรือพิมพ ระยะที่ตองการแลวกด Enter 4) สังเกตเหล็กจะยาวขึ้นตามระยะที่ตองการ 5) คลิ๊กสองครั้งที่ Profile Member เพื่อทําการ Edit 6) คลิ๊ก Edit Patch เพื่อปรับแก 7) ลากเสนออกมาตามแกนแดงเพื่อปรับแกขนาดของ Profile Member
- 16. Member ของเหล็กก็จะเปลี่ยนขนาดใหม ตามเสนที่เรา Edit 10) คลิ๊ก Trim to Solid 9) สราง Profile Member สองตัวดังภาพ โดยตัวดานขวาเอียงทํามุม 45 องศากับแนวราบ 11) คลิ๊กครั้งที่ 1 12) คลิ๊กครั้งที่ 2 13) เมื่อทําถูกตอง Profile Meber ตัวเอียงจะเชื่อมติด กับ Profile Member แนวตั้งดังรูปโดยปลายจะโดนเฉือนหรือ Trim ดังภาพ
- 17. Member สองตัวมาติดกันดังภาพ 15) สราง Face เอียงทํามุม 45 องศาดังรูป จําลองแนวตัดของเหล็กเอียงทํามุม 45 องศา 16) คลิ๊ก Trim to Face 17) คลิ๊กครั้งแรกที่ Face 18) คลิ๊กครั้งที่สองที่ Profile Member ตัวนอน 19) คลิ๊กครั้งที่สามที่ Profile Member แนวตั้ง 20) ลบ Face ออกจะเห็นวาเหล็กตัด กันทํามุม 45 องศาดังรูป
- 18. Materials และการคิดราคา (Cost Estimation) ดวย Profile Builder 2 PART-04
- 19. Memeber ของเหล็ก H-300x300x10x15x13 2) สราง Layer ที่ชื่อวา H-300x300x10x15x18-94 kg/m 3) คลิ๊กที่ Quantifier เพื่อเปดคําสั่งในการคิดปริมาณงานและราคา 4) คลิ๊กที่ Profile Member H-300x300x10x15x18 5) อานคาความยาวของเหล็ก 6) อานคาพื้นที่ผิวของเหล็ก 7) อานคาปริมาตรของเหล็ก
- 20. Member เพิ่มเติม ดังภาพ 10) ตรวจสอบความยาวรวมของเหล็กทั้งหมด 11) ตรวจสอบพื้นที่ผิวของเหล็กทั้งหมด 12) ตรวจสอบปริมาตรรวมของเหล็กทั้งหมด 9) ตรวจสอบจํานวนเหล็กทั้งหมด 13 คลิ๊กที่ HTML Report เพื่อตรวจสอบ ปริมาณงานทั้งหมด ชื่อ Group ของ Profile Member ชื่อของ Profile ความยาวของ Profile Member พื้นที่ผิวของ Profile Member
- 21. เพื่อกําหนดน้ําหนักและราคาของเหล็ก 15) เลือก Layer ที่เราสรางไว 16) เลือกหนวย kg/m และกําหนดใหมีคา 94 kg/m 17) กําหนดราคาคาของและคาแรงเทากับ 32 บาท/kg 18) คลิ๊ก ok 19) กําหนดให Profile Member ทั้งหมด อยูใน Layer ที่ชื่อวา H-300x300x15x18-94 kg/m ซึ่งเปน Layer ที่กําหนดน้ําหนักและราคาไว 20) คลิ๊กที่ Profile Member 1 ชิ้น 21) ถาทําถูกตองเราจะเห็นสูตรคํานวณราคาขึ้นมา ในที่นี้คือ ราคา = ความยาวเหล็กxน้ําหนัก/เมตรxราคาตอน้ําหนัก
- 22. kg/m3 23) สังเกตราคาจะเปลี่ยนไปตามสูตรใหม ราคา =ปริมาตรxความหนาแนนxราคาตอกิโลกรัม 24) เลือกเหล็กทั้งหมด 25) ดูราคาทั้งหมด26) คลิ๊ก Show Missing เพื่อตรวจสอบวา Profile Member ตัวใดไมมีการบันทึกขอมูล 27) Profile Member ที่มีการบันทึกขอมูล จะขึ้นกรอบสีเขียวทั้งหมด 28) ในกรณีที่ไมมีการบันทึกขอมูลผาน Layer Profile Member นั้นจะขึ้นกรอบสีแดง
- 23. Group ของ Profile Member ทุกตัวโดย การ Paint สีเหลืองที่ผิวดังภาพ 30) เลือก In Model 31) เลือกสีเหลือง 32) เปลี่ยนชื่อของสีใหมวา "สีเหลือง" 33) คลิ๊กที่ Material เพื่อกําหนดราคางานทาสี 34) เลือก Material ที่ชื่อวา สีเหลือง 35) กําหนดราคาคาของและคาสีเทากับ 150 บาท/m2 36) คลิ๊ก Ok 37) คลิ๊กที่เหล็ก 1 ชิ้นดังภาพ 38) สังเกตราคาของเหล็กจะมีสูตรคํานวณพื้นที่เพิ่มเขาไป
- 24.
- 25. Materials ใชสําหรับ Copy ตัวแปรตางๆ ใชสําหรับการ Edit คาตางๆ ใชสําหรับสราง Component ของ Coolpipe ใชสําหรับการสรางหนาแปลน ใชสําหรับการสราง Cap ใชสําหรับการสรางสามทาง ใชสําหรับการสรางขอลด (Reducer) ใชสําหรับการสรางของอ (ELBOW) ใชสําหรับการสรางทอตรง 1) คลิ๊กสําหรับการปรับภาษาและตั้งคาตางๆ 2) ปรับเปนภาษา English 3) ปรับขอบของทอใหเปน 12 ขอบ 4) กดหนดใหทอมีความหนา (ไมไชทอตัน) เมื่อเสร็จแลว คลิ๊ก Save 6) ใชสําหรับสรางหัวขอมาตรฐานตางๆ เชน DIN, JIS หรือ TIS 7) ใชสําหรับสรางทอชนิดตางๆ 8) ใชสําหรับสรางทอขนาดตางๆ 9) ใชสําหรับกําหนด Layer ของทอ 10) ใชสําหรับกําหนด Materials ของทอ 5) คลิ๊กที่เครื่องมือทอเพื่อตรวจสอบคําสั่งตางๆ
- 26. ตามมาตรฐาน ม.อ.ก. 13) คลิ๊กเพิ่มชื่อ โดยพิมพ TIS หรือ มาตรฐาน ม.อ.ก. 14) คลิ๊ก Save 12) คลิ๊ก New เพื่อสรางมาตรฐานใหม 15) คลิ๊กเพื่อสรางประเภทของทอเพิ่มเติม 16) คลิ๊ก New 17) ตั้งชื่อ TIS 982-2548 18) กําหนดชื่อใหเปนทอ HDPE PIPE PE 100 PN 10 19) คลิ๊ก Save 20) เลือกมาตรฐาน TIS 21) เลือก STANDARD ที่เราสรางไว 22) คลิ๊กบวกเพื่อสรางขนาดทอที่ตองการ 23) คลิ๊ก New เพื่อสรางขนาดทอใหม 24) กําหนดคาขนาดมาตรฐาน 25) กําหนดขนาดเสนผาศูนยกลางวงนอก 26) กําหนดขนาดความหนาของทอ 27) กําหนดน้ําหนักทอความยาว 1 เมตร 28) กําหนดชื่อของทอที่ตองการใหผูใชเห็น เสร็จแลวคลิ๊ก Save
- 27. Use layers 31) กําหนด Layer ใหมที่ชื่อวา HDPE PIPE 32) เลือกทอขนาด 125 33) คลิ๊ก Draft เพื่อดําเนินการสรางทอ HDPE 34) คลิ๊กหนึ่งครั้งเพื่อกําหนดจุดเริ่มตนของทอจากนั้น ลากลูกศรขึ้นในแนวดิ่ง 1 เมตร คลิ๊กอีกครั้งเพื่อสราง ทอ HDPE ขนาด 125 OD PE 100 PN 8
- 28. คลิ๊กที่ปลายทอดานบน 1 ครั้งเพื่อสรางของอ (ELBOW) 37) หมุนใหไดมุมเอียงใหเทากับ 90 องศาดังรูป 38) กําหนดชนิดของของอเปน 90 องศาดังรูป 39) เมื่อทําเสร็จแลวจะไดของอ 90 องศาดังรูป
- 29. กําหนดมาตรฐานเหมือนกับทอที่ทําไว 42) คลิ๊กเพื่อสรางขอลด (Reducer) 43) กําหนดขนาดมาตรฐานทอ 1 44) กําหนดขนาดมารตฐานทอ 2 45) กําหนดขนาดวงนอกทอหมายเลข 1 46) กําหนดทอวงนอกทอหมายเลข 2 47) กําหนดความหนาทอหมายเลข 1 48) กําหนดความหนาทอหมายเลข 2 49) กําหนดความยาวของขอลด 50) ตั้งชื่อขอลดวา " ขอลดกลม 140x125 PE 100 PN 10 51) คลิ๊กขอลด 52) เลือกทอ 140 53) เลือกทอ 125 54) เลือก Option 2 55) คลิ๊ก Draft เพื่อสราง ขอลด 56) คลิ๊ก 1 ครั้งที่ปลายของอเพื่อสรางขอลด 57) ขอลดถูกสรางขึ้น ตามขอมูลที่สรางไว
- 30. เพิ่มดังภาพ จากนั้นเลือกทั้งหมด 59) คลิ๊กเพื่อสราง Bill of Materials 60) เมื่อทําถูกตองจะเห็น Bill of Materials แสดงบัญชีวัสดุทั้งหมดที่เราเลือกไว 61) กําหนด Fitting ทั้งหมดใหอยูใน Layer ที่ชื่อวา HDPE FITTING 62) เลือกทอทั้งหมดอีกครั้ง 63) เลือกแบงหมวดงานตาม Layer 64) สังเกตวา Bill of Materials จะแบงตามหมวดงาน
- 31. SKETCHUP PART-06
- 32. for SketchUp 2) ใชสําหรับการแบงหมวดงานตาม Components, Layers, Materials และ Quotes ที่เรากําหนด 3) ใชสําหรับการกําหนดคาตางๆ 4) ใชสําหรับการสราง Reports เพื่อรายงานปริมาณวัสดุ และราคา 5) หนาตางสําหรับการบันทึกขอมูล 6) คลิ๊กเพื่อปรับแกคาพื้นฐาน 7) ผูใชสามารถสรางเอกสารพื้นฐาน ที่เกี่ยวกับขอมูลราคา ขอมูล Supplier และหนวยตาง ในโปรแกรม Excel แลว นํามา Link เขากับ Estimator ได 8) พื้นที่สําหรับกรอกขอมูลบริษัท 9) คลิ๊กเพื่อ Upload โลโกของบริษัท 10) คลิ๊ก Save Company Changes เพื่อบันทึกขอมูล10) คลิ๊ก Save Company Changes เพื่อบันทึกขอมูล
- 33. ตั้งชื่อวา F1 เพื่อทําเปน Footing ขนาด 1.2x1.2x0.25 เมตร 12) ทาสีไมลงในบริเวณที่ใชเปนไมแบบดังภาพโดยเปลี่ยนชื่อ Texture ใหเปนชื่อใหมวา ไมแบบ-ฐานราก F1 13) สรางเสาตอมอขนาด 0.2x0.2x1.0 เมตร ตั้งชื่อวา C1 14) ทาสีดวย Texture ไมในบริเวณที่เปนไมแบบ โดย ตั้งชื่อ Texture วา ไมแบบ-เสาตอมอ C1 15) Copy ฐานรากและตอมอเพิ่มเติม ดังภาพ พิมพ ไมแบบ-เสาตอมอ C1
- 34. ขนาดหนาตัด 0.2x0.4 เมตร จากนั้นทาสี Texture ตั้งชื่อวา ไมแบบ-คาน B1 ดังภาพ 17) สรางพื้น S1 ขึ้นมาขนาด 3.8x3.8x0.10 เมตรดังภาพ 18) ตั้ง Layer ใหมขึ้นมา ตั้งชื่อวา "งานคอนกรีตทั้งหมด" 20) สังเกตชื่อ Component ขึ้นวา F1 21) เลือก Cost Code ที่ชื่อวา 3400-CONCRETE 22) กําหนดรายละเอียดวา งานคอนกรีต F1 23) กําหนดชื่อ ผูรับเหมาวา บริษัท ชางไทย จํากัด 24) เลือก Attribute เปน ปริมาตรหนวย Meters3 25) กําหนดราคาเหมาคาแรง+คาของ = 2,800 บาท 26) กําหนดใหมีการสูญเสีย (Waste)=10% 27) เพิ่มกําไร 12 % 28) คลิ๊ก Save Changes เมื่อกรอกขอมูลทั้งหมดเสร็จสิ้น 19) คลิ๊กที่ฐานราก F1 หลังจากนั้นคลิ๊ก Components 3.80m 3.80m
- 35. ทั้งหมดใหอยูใน Layer ที่ชื่อวา งานคอนกรีตทั้งหมด 30) คลิ๊กที่ F1 31) คลิ๊กที่ Layers และบันทึกขอมูล ดังแสดงไวในภาพ 32) คลิ๊กที่ Materials และ บันทึกขอมูงดังแสดงไวในภาพ
- 36. เพื่อเริ่มบันทึกขอมูล 34) คลิ๊ก Components และบันทึกขอมูล 36) คลิ๊กคาน B1 เพื่อเริ่มตนการบันทึกขอมูล 35) คลิ๊ก Materials และบันทึกขอมูล
- 37. และบันทึกขอมูล 38) คลิ๊ก Materials และบันทึกขอมูล 39) คลิ๊กพื้น S1 เพื่อเริ่มบันทึกขอมูล
- 38. เพื่อบันทึกขอมูล 41) เมื่อเสร็จแลว คลิ๊ก Reports เพื่อดําเนินการ ทํารายงานปริมาณวัสดุและราคา 42) กรอกขอมูลทั้งหมดของโครงการจากนั้น คลิ๊กที่ Save Job Changes 43) คลิ๊ก HTML Report เพื่อสราง Report 44) เมื่อทําถูกตองจะเห็น BOQ แสดงการ แจกแจงหมวดงาน ปริมาณงาน และราคาทั้งหมด สังเกตวาปริมาตรคอนกรีตที่อานจาก Layer เทากับ 27 ลบ.ม. แตปริมาตรคอนกรีตจากการแยกหมวดงานตาม Component จะรวมเทากับ 28 ลบ.ม นี้ก็เปน เพราะการปดหนวยนั้นเอง
- 39. 25,000 บาท 46) คลิ๊กบวกเพื่อเพิ่มคาใชจายอื่นๆ 47) คิดคาออกแบบเพิ่มเติมดังภาพ 48) เมื่อคลิ๊กที่ Report ก็จะเห็นวามีคาใชจายเพิ่มขึ้นในรายงานดังภาพ
- 40.