Eco sport เป ดประต ม เส ยงเต อน

สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=171001569585626&id=295233259527#!/notes.php?id=295233259527

Aeroklas

16-11-2010, 15:57

วันอังคาร ที่ 16 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 16.00 น. ข่าวสารอุตสาหกรรมยานยนต์ : มิตซูบิชิเรียกคืนรถ 250,000 คัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 4 ของญี่ปุ่น จะดำเนินการเรียกคืนรถยนต์ประมาณ 250,000 คันในญี่ปุ่น กลับมาซ่อมแซม เนื่องจากความบกพร่องซึ่งทำให้มีนำมันรั่วไหลออกมาในเครื่องยนต์ รถที่จะถูกเรียกคืนเหล่านี้เป็นรถรุ่นเล็กรวม 7 รุ่น เป็นต้นว่า อีเค แวกอน รวมทั้ง 2 รุ่นซึ่งผลิตให้กับแบรนด์ของนิสสัน มอเตอร์ ซึ่งได้แก่ ออตตี และคลิปเปอร์ ซึ่งทั้งหมดผลิตในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2003 ถึงเดือนสิงหาคม 2005 //upic.me/i/by/16-11-53.jpg (//upic.me/show/18288603) ที่มา : นสพ.ผู้จัดการรายวัน สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=171026116249838&id=295233259527#!/notes.php?id=295233259527

Aeroklas

17-11-2010, 09:54

วันพุธ ที่ 17 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น. ข่าวสาร : All-New Ford Ranger ปี 2011 เปิดตัวที่ออสเตรเลีย เริ่มผลิตในไทยส่งขาย 180 ประเทศทั่วโลก //www.file2go.com/img.php?im=11347s1 (//www.file2go.com/vifi.php?im=11347s1)

วันนี้ Ford ได้ปล่อยภาพ All-New Ford Ranger ปี 2011 ก่อนเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่งาน Australian International Motor Show ในเมืองซิดนี่ย์ ประเทศออสเตรเลีย ที่จัดขึ้นในสัปดาห์นี้ โดย Ford จะเริ่มจำหน่าย All-New Ranger พร้อมกันทั่วโลกใน 180 ประเทศยกเว้นสหรัฐอเมริกา! ซึ่ง Ford ได้พัฒนากระบะรุ่นนี้ร่วมกับ Mazda ซึ่งก็จะเปิดตัว BT-50 ในงานเดียวกันนี้เช่นกัน Ford Ranger รุ่นใหม่นี้ได้รับการออกแบบให้ขยับเข้าใกล้ความเป็นรถยนต์นั่งมากขึ้นในแง่ของดีไซน์ การตกแต่งภายใน และเทคโนโลยีต่างๆที่ใช้ โดย Ranger จะมีรูปทรง Cab Body ใน 3 สไตล์ มีระบบขับเคลื่อนแบบ 4X2 และ 4X4 มี 2 ระดับความสูง และ 4 รุ่นย่อยให้เลือก เครื่องยนต์ทางเลือกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล Duratorq TDCi ของ Ford จำนวน 2 รุ่นด้วยกันคือ เครื่องยนต์ 4 สูบ TDCi 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ 5 สูบ แถวเรียง TDCi 3.2 ลิตร 200 แรงม้า แรงบิด 470 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนผ่านเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะและเกียร์ธรรมดาแบบใหม่ สำหรับรุ่นขับเคลื่อนแบบ 4WD จะมีการติดตั้ง Transfer Case อิเล็กทรอนิกส์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนจากระบบ 4?2 เป็น 4?4 ผ่านสวิทช์ที่ติดตั้งบนคอนโซล ในขณะที่การเปลี่ยนเกียร์ต่ำก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน Ford เผยว่าพื้นที่จุสัมภาระของรุ่น Double Cab จะมีขนาดกว้างกว่าเดิม 100 มิลลิเมตรคือ 1,560 มิลลิเมตร ในขณะที่มีความยาวและสูง 1,549 และ 511 มิลลิเมตรตามลำดับ โดยมีปริมตรความจุที่ประมาณ 1.21 ลูกบาศร์เมตร Ranger ทุกรุ่นจะมาพร้อมระบบควบคุมความเสถียรอิเล็กทรอนิกส์ ESP แบบใหม่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนเทคโนโลยีอื่นๆได้แก่ เซนเซอร์ถอยหลัง กล้องมองหลังแบบใหม่ ถุงลิมนิรภัยด้านข้างที่มีในทุกรุ่นเป็นครั้งแรก Ford จะทำการผลิต Ranger รุ่นใหม่นี้ที่โรงงาน 3 แห่งโดยจะเริ่มทำการผลิตเพื่อป้อนตลาดในช่วงฤดูร้อนปีหน้าในโรงงานที่จังหวัดระยอง ประเทศไทยเป็นที่แรก ตามด้วยอีก 2 แห่งในอาร์เจนติน่าและแอฟริกาใต้ //www.file2go.com/img.php?im=11348s1 (//www.file2go.com/vifi.php?im=11348s1) //www.file2go.com/img.php?im=11349s1 (//www.file2go.com/vifi.php?im=11349s1) //www.file2go.com/img.php?im=11350s1 (//www.file2go.com/vifi.php?im=11350s1) //www.file2go.com/img.php?im=423s2 (//www.file2go.com/vifi.php?im=423s2)

ที่มา : Autospinn.com สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=171051129580670&id=295233259527#!/notes.php?id=295233259527

Aeroklas

17-11-2010, 15:55

วันพุธ ที่ 17 เดือนพฤศจิกายน 2553 เวลา 16.00 น. MOTOR EXPO 2010 มีค่ายรถยักษ์ใหญ่เข้าร่วมงาน กว่า35 ยี่ห้อ!! คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27″ เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดยานยนต์ปีนี้ จะกลับคืนสู่ภาวะรุ่งโรจน์อีกครั้ง โดยคาดการณ์ว่าตลอดปี 2553 ยอดขายรถยนต์ในประเทศมีโอกาส ขยายตัวสูงถึง 700,000 คัน ขณะที่จำนวนรถยนต์ส่งออกอาจเพิ่มขึ้นกว่า 830,000 คัน ส่งผลให้การผลิตรถยนต์มีโอกาสขยับขึ้นแตะระดับ 1,500,000 ถึง 1,600,000 คัน หรือขยายตัวประมาณร้อยละ 50 – 60 เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งนับเป็นตัวเลขการผลิตที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังเป็นอัตราการเติบโตในรถยนต์ทุกประเภท ทั้งนี้เนื่องจากมองว่าช่วงไตรมาสที่ 3 เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวขึ้น จากความเชื่อมั่น ผู้บริโภค ประกอบกับพืชผลทางการเกษตรค่อนข้างดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา และปัจจุบันราคาน้ำมันไม่แพงจนเกินไปนัก ซึ่งน่าจะเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เติบโตตามเป้าหมาย โดยในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27” มีรถยนต์เข้าร่วมงานถึง 35 ยี่ห้อ ได้แก่ อัลฟา โรเมโอ / ออดี / บีเอมดับเบิลยู / เชอรี่ / เชฟโรเลตต์ / ซีตรอง / ดีเอฟเอม / เฟียต / ฟอร์ด / แกรนด์ แคร์รี่บอย / ฮอนดา / ฮุนได / อีซูซุ / เกียร์ / แลนด์ โรเวอร์ / เลกซัส / มาสดา / เมอร์ซิเดส-เบนซ์ / มินิ / มิตซูบิชิ / มิตซูโอกะ / เอมทีเอม / นิสสัน / เปอโยว์ / โพลาร์ซัน / โปรตรอน / รูฟ / สโกดา / ซังยง / ซูบารุ / ซูซูกิ /ทาทา / โตโยตา / โฟล์คสวาเกน และ โวลโว และที่น่าสนใจบริษัทรถยนต์รายใหญ่ ได้แก่ เลกซัส เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และ รูฟ ค่ายรถสายพันธุ์เยอรมนีตัดสินใจเข้าร่วมงานปีนี้ด้วย“ปีนี้ผู้ชมงานเตรียมพบความตระการตาของกิจกรรมต่างๆ ที่น่าสนใจ อาทิ การจัดแสดงผลงานประกวดนวัตกรรมยานยนต์ ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก ยิ่งไปกว่านั้นหลายค่ายเตรียมนำรถต้นแบบมาจัดแสดง พร้อมกับเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ด้วยพโรโมชันดึงดูดใจผู้บริโภค ซึ่งแนวโน้มตลาดจะเน้นรถเล็กประหยัดพลังงาน (อีโคคาร์) โดยทุกบริษัทต่างมั่นใจว่า ปลายปีนี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวและสามารถทำยอดขายได้ประสบความสำเร็จอย่างปีที่ผ่านมา” เตรียมพบความยิ่งใหญ่ของงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27″ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 วันธรรมดา 12.00-22.00 น. เสาร์และอาทิตย์ และวันหยุดราชการ 11.00-22.00 น. ปิดการจำหน่ายบัตรเข้าชมงาน เวลา 21.00 น. ของทุกวัน //upic.me/i/tj/motor-expo-2010.jpg (//upic.me/show/18314697) //upic.me/i/3g/221010154239motor-expo-2010-logo.jpg (//upic.me/show/18314702) //upic.me/i/a4/nn112.jpg (//upic.me/show/18314704) สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ที่ //www.facebook.com/aeroklas#!/notes.php?id=295233259527

Aeroklas

18-11-2010, 09:48

วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา 10.00 น. ข่าวสารรถยนต์ : Lexus ส่ง CT200h รุกไฮบริด ประกาศดับเครื่องชนเกรย์ ร่วมปลุกกระแสรถไฮบริดในไทย "Lexus" ได้รับแรงหนุนจากบริษัทแม่โตโยต้านำเข้า "ซีที200เอช" (CT200h) แฮชแบ็ก 5 ประตูรุ่นใหม่หมาดๆในตลาด และเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ของเล็กซัสเข้ามาบุกตลาด Entry-Level รถยนต์ระดับหรูในไทยแบบฉับไว ซึ่งมีกำหนดเผยโฉมในงาน Motor Expo 2010 ต้นเดือนธันวาคมนี้ พร้อมประกาศรับจองทันที โดยเปิดราคาคร่าวๆเริ่มต้นที่ประมาณ 2.2 ล้านบาท และส่งมอบรถในต้นปีหน้า มั่นใจไฮบริดรุ่นนี้จะช่วยผลักดันยอดขายเล็กซัสในไทยให้ก้าวกระโดดเหนือกว่า 500 คัยต่อปี จากปัจจุบันทำได้ไม่เกิน 300 คัน //upic.me/i/uc/v9908233-4.jpg (//upic.me/show/18330859) //upic.me/i/cw/2011_lexus_ct200h_hybrid_09_cd_gallery.jpg (//upic.me/show/18330862) //upic.me/i/cc/lexus-ct-200h-08.jpg (//upic.me/show/18330860) //upic.me/i/va/2011_lexus_ct_200h_-_interior_controls.jpg (//upic.me/show/18330861) ที่มา : นสพ.ผู้จัดการรายวัน สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ //www.facebook.com/Aeroklasthailand#!/notes.php?id=295233259527

Aeroklas

18-11-2010, 16:40

วันพฤหัสบดี ที่ 18 พฤศจิกายน 2553 เวลา 16.40 น. ข่าวสารอุตสากรรมรถยนต์ : The Style by TOYOTA พร้อมทุ่ม 50 ล้านเพื่อขยายฐานสมาชิก บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทยฯ เปิดเผยว่าหลังจากที่โตโยต้าได้เปิดบริการ "The Style by TOYOTA" ศูนย์กลางการเรียนรู้ ย่านสยามสแควร์เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา โดยใช้วงเงินลงทุน 120 ล้านบาท มีนักเรีนย นิสิต นักศึกษาให้ความสนใจสมัครเป็นสมาชิกประมาณ 60,000 ราย ล่าสุดบริษัทได้ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ปรับปรุงให้เป็นศูนย์ข้อมูลการเรียนรู้สำหรับผู้สนใจเทคโนโลยีอุตสาหกรรมยานยนต์ที่โตโยต้าได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งคาดว่าจะทำให้ฐานสมาชิกเพิ่มอีกเท่าตัวหรือ 120,000 ราย //upic.me/i/vj/img_8887_resize.jpg (//upic.me/show/18335273) //upic.me/i/jq/2010_11_09_the_style_by_toyota_04.jpg (//upic.me/show/18335280) //upic.me/i/oh/0911101406394.jpg (//upic.me/show/18335284) //upic.me/i/fs/the20style20by20toyota_0011-20resize.jpg (//upic.me/show/18335295) //upic.me/i/nc/8063301.jpg (//upic.me/show/18335296) ที่มา : นสพ.ฐานเศรษฐกิจ

สามารถอ่านข่าวสารอื่นๆได้ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

20-11-2010, 15:24

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน เวลา 15.30 น. ข่าวสารรถยนต์ : มาไทยปีหน้า Honda New Small Car รถแนวคิดขนาดจิ๋ว Hatchback 5 ที่นั่ง เผยโฉมที่อินเดียวันนี้ วันนี้ Honda ได้เผยโฉมรถแนวคิดของ City Car ขนาดจิ๋วทรง Hatchback 5 ที่นั่ง ในงาน Auto Expo 2010 ในกรุงนิวเดลฮี ประเทศอินเดีย โดยในขณะนี้ยังไม่มีชื่อรุ่น ซึ่ง Honda ยังไม่ยอมเผยไต๋เกี่ยวกับรถขนาดเล็กรุ่นนี้ นอกจากบอกว่า จะเปิดตัวรุ่นผลิตของรถจิ๋วนี้ในปี 2011 หรือปีหน้านี่เอง ซึ่งในช่วงแรกจะเริ่มจำหน่ายในอินเดียและไทย ส่วนภาพประกอบที่นำมาให้ชมเป็นเวอร์ชั่น 3 ประตู หรืออาจจะเป็นแบบ 5 ประตูที่ใช้ที่เปิดประตูแบบซ่อนตัวเพราะมีเส้นขอบประตูอยู่ งานนี้ตลาดรถ Supermini คงร้อนระอุขึ้นไปอีกเพราะนอกจาก Mazda2 จะเปิดตัวไปแล้ว ยังจะมี Nissan Ecocar ราคาก็แสนจะถูก(ว่ากันว่าเริ่มต้นที่ 3 แสนกว่าๆ) ที่จะเปิดตัวประมาณเดือนมีนาคมนี้หรือเร็วกว่านั้น Honda ยังขอร่วมแจมด้วยการส่งรถรุ่นนี้เข้าสู่ตลาดอีกในปีหน้า แบบนี้ผู้บริโภคมีเฮ สมัยนี้ขับรถเล็กนอกจากประหยัดน้ำมันแล้ว ยังสะท้อนให้เห็นว่าคนขับรับผิดชอบกับโลกและสังคมมากขึ้นโดยปริยาย //upic.me/i/bc/2dtwd.jpg (//upic.me/show/18391576) //upic.me/i/wz/dtwd.jpg1.jpg (//upic.me/show/18391577) //upic.me/i/7n/dtwd.jpg2.jpg (//upic.me/show/18391581) ที่มา : autospinn.com

Aeroklas

22-11-2010, 12:47

วันจันทร์ที่ 22 พฤศจิกายน 13.00 น. ข่าวสารรถยนต์ : All-New Mazda BT-50 กระบะโฉมใหม่สไตล์รถยนต์นั่ง หรูทั้งนอกและใน ใช้งานสารพัดรูปแบบ All-New Mazda BT-50 ควงแขนมาเปิดตัววันนี้พร้อมกับญาติสนิทอย่าง All-New Ford Ranger ในงาน Australian International Motor Show และถือว่าเป็นกระบะปิกอัพที่ถูกจับตามากที่สุดในช่วงนี้ก็ว่าได้ ด้วยรูปลักษณ์ที่ฉีกตัวเองให้ต่างออกไปจากกระบะรุ่นอื่นๆในท้องตลาด ด้วยรูปโฉมทั้งภายในและภายนอกที่ดูเหมือนกับรถยนต์นั่งมากกว่าที่จะเป็นรถกระบะปิกอัพ แม้แต่ Ford Ranger ที่มีการพัฒนาร่วมกันก็ยังไม่ฉีกแนวออกมามากถึงขนาดนี้ ชัดเจนว่ารูปลักษณ์ภายนอกในส่วนของด้านหน้า เส้นสายได้รับอิทธิพลมาจากดีไซน์รถยนต์นั่งของ Mazda เอง ในขณะที่ภายในซึ่ง AutoSpinn เคยนำภาพทีเซอร์มาให้ชมแล้วดูหรูหราทันสมัยในแบบของรถยนต์นั่งยังไงยังงั้น โดย Mazda ตั้งใจออกแบบรถรุ่นนี้ให้รองรับการใช้งานได้ทั้งในแบบรถยนต์นั่งทั่วไปจนถึงรถสำหรับครอบครัวที่สามารถบุกตะลุยได้ทุกที่ในแบบรถ SUV อย่างไรก็ตาม Mazda ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆของรถรุ่นนี้ //upic.me/i/0t/wepvt.jpg (//upic.me/show/18392088) //upic.me/i/kb/78jqp.jpg (//upic.me/show/18392094) //upic.me/i/a5/71261.jpg (//upic.me/show/18392097) //upic.me/i/ed/07dk7.jpg (//upic.me/show/18392101) //upic.me/i/22/dcbbu.jpg (//upic.me/show/18392106) //upic.me/i/16/b3rn8.jpg (//upic.me/show/18392107)

ที่มา : autospinn.com สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ //on.fb.me/9S9Kv1

Aeroklas

23-11-2010, 08:22

วันอังคาร ที่ 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา 08.30 น. เกร็ดความรู้ : เตือนเจ้าของรถที่ดัดแปลงไฟซีนอนหรือไฟเบรกสว่างจ้ามากเกินไป ผิดกฎหมายกันนะครับ กรมการขนส่งทางบก ย้ำเตือนกันอีกครั้ง เจ้าของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่ดัดแปลง ไฟซีนอน หรือ ไฟเบรก ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป นอกจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับอีกด้วย นายเทียนโชติ จงพีร์เพียร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า "ในปัจจุบันมีเจ้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ นำรถไปดัดแปลงแก้ไข หลอดไฟหน้ารถ (ไฟซีนอน) และ ไฟเบรก (ไฟหยุด) ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป หรือบางราย ไปปรับแต่งทิศทางการส่องสว่างของแสงไฟ ให้สูงขึ้นจากเดิม เพื่อให้ส่องสว่างได้ไกลขึ้น ซึ่งเป็นการรบกวนสายตาของผู้ขับขี่รายอื่น ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้น และ มีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท" นายเทียนโชติ กล่าวเพิ่มเติมว่า "หลอดไฟซีนอนนั้น แม้จะมีข้อดีในเรื่องของประสิทธิภาพการส่องสว่าง แต่การที่จะนำมาใช้เป็นหลอดไฟหน้ารถได้อย่างปลอดภัยนั้น หลอดไฟจะต้องมีคุณลักษณะในเรื่อง แนวจำกัดของแสง และ รูปแบบการกระจายของแสง ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด โดยไฟหน้าของรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ จะต้องมี แสงสีขาว หรือ เหลืองอ่อน จำนวน 2 ดวง ติดตั้งอยู่ในระดับเดียวกันที่หน้ารถ ด้านซ้ายและขวา ด้านละ 1 ดวง ติดตั้งสูงจากผิวทาง ไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร แต่ ไม่เกิน 1.35 เมตร ความสว่างของไฟสามารถส่องทางด้านหน้าได้อย่างชัดเจน และไม่เอียงไปทางขวา จนรบกวนสายตาของผู้อื่น" "สำหรับไฟหยุด (ไฟเบรก) ต้องเป็นสีแดง ไฟเลี้ยว ต้องเป็นสีเหลืองอำพัน ไฟส่องป้าย ต้องเป็นสีขาว มองเห็นป้ายทะเบียนได้ไกล ไม่น้อยกว่า 20 เมตร โดยการดัดแปลงไฟหน้าให้เป็นแสงสีอื่น หรือดัดแปลงอุปกรณ์ส่วนควบ หรือเพิ่มเติมส่วนหนึ่งส่วนใดเข้าไป จนทำให้แสง มีความสว่างจ้ามากจนเกินไป เมื่อนำไปใช้งานบนท้องถนน จะส่องเข้าตาผู้ขับขี่รายอื่น ทำให้สายตาพร่ามัวจนอาจเกิดอุบัติเหตุได้ หากฝ่าฝืน มีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยังฝากถึงเจ้าของรถ อย่าได้ไปดัดแปลงไฟหน้าให้ผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะการเปลี่ยนหลอดไฟเป็น ไฟซีนอน หรือเปลี่ยนเป็นสีอื่น เช่น สีฟ้า สีม่วง สีเหลืองเข้ม หรือ สีเขียว เนื่องจากการดัดแปลงหลอดไฟ จะทำให้แสงที่ส่องออกมาผิดเพี้ยน หรือสว่างจ้าเกินไป จนรบกวนสายตาผู้อื่นทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากยิ่งขึ้น "สำหรับผู้ที่ดัดแปลงมาแล้ว ก็ขอให้รีบดำเนินการแก้ไขปรับปรุงให้ถูกต้อง และขอความร่วมมือ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) หรือ ศูนย์บริการรถยนต์ หากพบรถที่ติดตั้งโคมไฟหน้ารถที่ไม่ได้มาตรฐาน ขอให้ปรับเปลี่ยนให้ถูกต้องด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาในการใช้รถใช้ถนนร่วมกัน" อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวทิ้งท้าย กรมการขนส่งทางบก ย้ำเตือนกันอีกครั้ง เจ้าของรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ที่ดัดแปลง ไฟซีนอน หรือ ไฟเบรก ให้มีแสงสว่างจ้ามากเกินไป นอกจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุแล้ว ยังมีความผิดตามกฎหมาย ต้องระวางโทษปรับอีกด้วย //upic.me/i/d3/04677.jpg (//upic.me/show/18473695) //upic.me/i/dk/xenon-warning.jpg (//upic.me/show/18473696) ที่มา : motortrivia.com สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ //on.fb.me/9y3uKL

bomgrade

23-11-2010, 10:17

ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลดีๆ

Aeroklas

23-11-2010, 14:51

วันอังคาร ที่ 23 พฤศจิกายน 2553 เวลา 15.00 น. ข่าวสารรถยนต์ : ยอดจำหน่ายฮอนด้า ตั้งแต่ ม.ค.-ต.ค. 53 รวม 91,948 คัน เติบโตขึ้นกว่า 28% บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดจำหน่าย ฮอนด้า เดือนตุลาคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 9,885 คัน และมียอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนมกราคม ถึงตุลาคม 91,948 คัน เติบโตขึ้น 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน และคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 14.6% ของตลาดรถยนต์โดยรวม (628,361 คัน) และ 30.78% ของตลาดรถยนต์นั่ง (274,030 คัน) ซึ่งยอดจำหน่ายรถแบ่งออกเป็นรุ่นต่างๆ ดังนี้ Sub-Compact • Honda City มียอดจำหน่าย 4,264 คัน ยอดสะสม 37,859 คัน คิดเป็น 26.6% • Honda Jazz มียอดจำหน่าย 1,941 คัน ยอดสะสม 15,369 คัน คิดเป็น 10.8% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท • Honda Civic มียอดจำหน่าย 2,670 คัน ยอดสะสม 23,714 คัน คิดเป็น 31.9% กลุ่มรถยนต์ประเภท Compact • Honda Accord มียอดจำหน่าย 223 คัน ยอดสะสม 4,842 คัน คิดเป็น 19.6% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท Family • Honda Freed มียอดจำหน่าย 206 คัน มียอดสะสม 2,573 คัน คิดเป็น 23.2% มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในกลุ่มรถยนต์เอนกประสงค์ MPV • Honda CR-V มียอดจำหน่าย 581 คัน มียอดสะสม 7,591 คัน คิดเป็น 17.3% ในกลุ่มรถยนต์ประเภท SUV/PPV เยี่ยมชมเว็บไซต์ หรือติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.honda.co.th (//www.honda.co.th) //upic.me/i/w7/tokyo_motor_show_40th_honda_cr_z_image001.jpg (//upic.me/show/18473814) //upic.me/i/vk/motor-2004-01.jpg (//upic.me/show/18473817) ที่มา : motortrivia.com สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ //on.fb.me/9y3uKL

Aeroklas

24-11-2010, 09:04

วันพุธที่ 24 พฤศจิกายน 2553 เวลา 09.00 น. ข่าวสาร : MOTOR EXPO 2010 จองพื้นที่ล้นทะลัก "โตโยตา" ใหญ่สุด "ฮอนดา" ใหญ่อันดับ 2 ตามด้วย "มิตซูฯ" ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน "มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" เปิดเผยว่า การเปิดจองพื้นที่จัดงาน ในวันที่ 9-10 มิย. 53 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยได้รับความสนใจจากบริษัทรถยนต์ เครื่องเสียง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง อย่างคึกคัก โดยพื้นที่บูธแสดงรถยนต์ ถูกจองเต็มแล้ว ส่วนพื้นที่โซนเครื่องเสียง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง ลูกค้าจองแล้วกว่า 90 % บริษัทรถยนต์ที่เป็นเจ้าของพื้นที่ใหญ่สุดของงานในปีนี้ คือ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด (1,600 ตรม. ) รองมาคือ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด (1,480 ตรม.) บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด (1,400 ตรม.) บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (1,360 ตรม.) บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด (1,280 ตรม.) บริษัท ฮุนได มอเตอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (1,200 ตรม.) สำหรับบริษัทผู้นำเข้ารถอิสระปีนี้ ได้มีหลายค่ายแสดงความสนใจเข้าร่วมงาน แต่เนื่องจากบริษัทมีนโยบายค่อนข้างชัดเจน คือ การให้สิทธิ์กับบริษัทที่เข้าร่วมรายเดิม ซึ่งปีที่แล้วเป็นของ บีอาร์จี และ ทีเอสแอล ดังนั้นปีนี้ ผู้จัดงานจึงให้สิทธิ์ 2 บริษัทนี้เข้าร่วมงาน ไฮไลท์ของการจัดงานปีนี้ คือ รถต้นแบบ ที่บริษัทรถยนต์จะนำมาแสดงประมาณ 5-6 ยี่ห้อ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ นอกจากนี้ยังมีรถยี่ห้อใหม่ที่จะเปิดตัวในงานอีก 1-2 ยี่ห้อ โดยในปีที่ผ่านมามีรถยนต์เข้าร่วมงาน 32 ยี่ห้อ ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีรถเข้าร่วมงานมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน โดยรถที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ได้แก่ เมร์เซเดส-เบนซ์ และ แฟร์รารี เป็นต้น ตลาดรถยนต์โดยรวมปีนี้ คาดว่าจะมียอดขายอยู่ที่ประมาณ 600,000 คัน หรือโตขึ้นประมาณ 10 % จากปีก่อนหน้า หลังจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเมืองเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นฤดูกาลขาย เชื่อว่าตลาดน่าจะเติบโตสูงสุด ส่วนกรณีที่มีบริษัทผู้จัดงานแสดงรถยนต์บางรายให้ความสนใจ จะย้ายสถานที่จัดงานมาที่ ชาลเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานีนั้น ไม่ได้รู้สึกกังวลใจแต่อย่างใด เนื่องจากมองว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์คือ บริษัทรถยนต์ต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของ อัตราค่าเช่าพื้นที่ ประกอบกับ "มหกรรมยานยนต์" มีความได้เปรียบเรื่องระยะเวลาของการจัดงานที่ดีที่สุด คือเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองและจับจ่ายใช้สอย อย่างไรก็ตาม บริษัท ฯ ได้เตรียมแผนงานเพื่อรองรับกรณีดังกล่าวไว้แล้ว ถ้ามีคนมาเลือกใช้พื้นที่จัดงานเดียวกับเรา ถือว่าไม่ใช่ปัญหา "มหกรรรมยานยนต์ ครั้งที่ 27" จัดขึ้นตามแนวคิด “น้ำหนึ่งใจเดียว...สร้างสรรค์ยานยนต์รักโลก” หรือ UNIFY…CREATE EARTH-LOVING VEHICLES จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2553 ณ อาคาร ชาลเลนเจอร์ 1-3 อิมแพคท์ เมืองทองธานี บนพื้นที่ขนาด 60,000 ตารางเมตร //upic.me/i/4y/vy241.jpg (//upic.me/show/18475202) //upic.me/i/h0/ob242.jpg (//upic.me/show/18475204) //upic.me/i/9s/0b243.jpg (//upic.me/show/18475206) ที่มา : motorexpo.co.th สามารถอ่านข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ //on.fb.me/9y3uKL

Aeroklas

14-12-2010, 15:33

//upic.me/i/sg/nissan-00.jpg (//upic.me/show/19106705) //upic.me/i/xg/nissan-08.jpg (//upic.me/show/19106708) //upic.me/i/lu/h_mg_7909.jpg (//upic.me/show/19106710) Nissan ทุบสถิติต่อเนื่อง ยอดจอง Motor Expo เกินคาด!! Nissan ทุบสถิติต่อเนื่อง ยอดจอง Motor Expo เกินคาดลูกค้าล้นหลังเปิด 5 รุ่นใหม่...Nissan March กระแสแรงไม่เลิก

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดจองจากงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2010 ทะลุเป้า 2,879 คัน โดย Nissan March ยังแรงดีไม่มีตก โกยยอดขายเกินกว่าครึ่ง ส่วน Nissan Navara รุ่นปี 2011, Nissan Teana Sport Series, Nissan Tiida Fun Pack Limited และ Nissan X-Trail โมเดลใหม่ ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ส่งผลให้ยอดขายแรงตลอดงาน

“เมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เราได้ เปิดตัวรถรุ่นใหม่พร้อมกัน 5 รุ่น คือ มาร์ช สปอร์ต เวอร์ชั่น (ออกแบบโดย ออเทค), นาวารา รุ่นปี 2011, เทียน่า 2.0 สปอร์ต ซีรี่ส์, ทีด้า ลิมิเต็ด เวอร์ชั่น Fun Pack และ เอ็กซ์เทรล V เวอร์ชั่นใหม่ ซึ่งแต่ละรุ่น มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป และมีกระแสตอบรับเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะ นิสสัน มาร์ช ที่แม้จะเปิดตัวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยอดจองยังแรงไม่ตก ลูกค้าที่จองให้เหตุผลว่า เป็นรถที่มีสไตล์และกว้างขวาง นั่ง 5 คนได้สบายๆ ส่วนรุ่นอื่นๆ เฉพาะยอดจองในงาน เกือบเท่าเป้าทั้งเดือนที่ตั้งไว้ และยอดจองรวมทุกรุ่นในงานปีนี้ สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมามากกว่า 2 เท่า” คุณประพัฒน์ เชยชม รองผู้จัดการใหญ่ อาวุโส ฝ่ายตลาดและขาย บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ปี 2553 เป็นปีที่โดดเด่นของ นิสสัน นับตั้งแต่ การเปิดตัว นิสสัน มาร์ช รถ อีโค คาร์ คันแรกของประเทศไทย มาร์ช ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นของกระแสรถยนต์แบบคอมแพค และรถยนต์เพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยช่วงเวลาเพียง 9 เดือน นิสสัน มาร์ช มียอดจองทะลุ 25,000 คันแล้ว โดยส่งรถถึงมือลูกค้าแล้วมากกว่า 60% ของยอดจอง

นิสสัน มาร์ช ได้รับการยอมรับจากตลาดด้วยดี เพราะมีดีไซน์ที่โดดเด่น การออกแบบภายนอกดูกะทัดรัด แต่ภายในกว้างขวาง เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ประหยัดน้ำมัน และตอบสนองทุกการใช้งาน คุ้มค่ามากเกินราคา โดยล่าสุด นิสสัน มาร์ช ได้รับรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมด้านผลิตภัณฑ์ รถยนต์นั่งส่วนบุคคลประเภท Pre-Entry

“ยอดขายประจำเดือนของนิสสัน ทำลายสถิติต่อเนื่องโดยมียอดขายสูงกว่า 5,000 คันต่อเดือนเป็นเวลาติดต่อกัน 6 เดือนแล้ว และยอดขายนิสสันช่วง 8 เดือนในปีงบประมาณ 2553 โตขึ้น 92% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีงบประมาณ 2552 ซึ่งความสำเร็จนี้ แน่นอนเราต้องขอขอบคุณผู้บริโภค ที่มั่นใจในแบรนด์ของ นิสสัน และอีกด้านคือคุณภาพของรถยนต์ นิสสัน ทุกรุ่น” คุณประพัฒน์ เชยชม กล่าวปิดท้าย ปี 2553 เป็นปีที่โดดเด่นของ นิสสัน นับตั้งแต่ การเปิดตัว นิสสัน มาร์ช รถ อีโค คาร์ คันแรกของประเทศไทย มาร์ช ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นการเริ่มต้นของกระแสรถยนต์แบบคอมแพค และรถยนต์เพื่อการประหยัดพลังงาน รวมถึงการเปิดเซ็กเมนต์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยช่วงเวลาเพียง 9 เดือน นิสสัน มาร์ช มียอดจองทะลุ 25,000 คันแล้ว โดยส่งรถถึงมือลูกค้าแล้วมากกว่า 60% ของยอดจอง

decskong

14-12-2010, 16:00

ขอบคุณครับ ที่แบ่งปัน

Aeroklas

15-12-2010, 13:29

ข่าววันที่ 15 ธันวาคม 2553 //upic.me/i/94/h_1_1.jpg (//upic.me/show/19128378) เจ้าของรถที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจนไม่สามารถใช้งานได้รีบดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถ ก่อนวันครบกำหนดเสียภาษีรถ เพื่อไม่ต้องชำระภาษีรถในปีต่อไป!! นายอัฌษไธค์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เผยว่า "จากสถานการณ์อุทกภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้เจ้าของรถบางราย ที่ประสบเหตุรถถูกน้ำท่วมและได้รับความเสียหาย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมปรับปรุงเป็นเวลานาน หรืออาจไม่สามารถใช้งานได้ต่อไป ให้ดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถ เพื่อไม่ต้องชำระภาษีรถในปีต่อไป จนกว่าจะมีการแจ้งขอใช้รถใหม่" ซึ่งกรมการขนส่งทางบก ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของเจ้าของรถ ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากรถถูกน้ำท่วม และอาจต้องใช้ระยะเวลาในการซ่อมแซมปรับปรุงรถเป็นเวลานาน ให้รีบดำเนินการแจ้งไม่ใช้รถตลอดไป เพื่อจะได้ไม่ต้องชำระภาษีรถประจำปีในปีต่อไป โดยต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบคำขอ ได้แก่... • แบบคำขอ • ใบคู่มือจดทะเบียนรถ • แผ่นป้ายทะเบียนรถ • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (กรณีบุคคลธรรมดา) หรือ หนังสือรับรองบริษัท (กรณีเป็นนิติบุคคล) • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจลงนาม (ประทับตรายางพร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง) • หนังสือมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมิได้มาดำเนินการด้วยตนเอง) • ภาพถ่ายบัตรประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ (ปิดอากรแสตมป์ในหนังสือมอบอำนาจ จำนวน 10 บาท) • ค่าธรรมเนียมการแจ้งไม่ใช่รถเพียง 25 บาท ทั้งนี้ การยื่นแบบคำขอไม่ใช้รถ ควรยื่นก่อนที่จะครบกำหนดเสียภาษีรถประจำปีรอบต่อไป หากยื่นเลยกำหนดวันสิ้นอายุภาษี เจ้าของรถจะต้องเสียภาษีรถประจำปีที่ค้างชำระก่อน จึงจะสามารถดำเนินการแจ้งไม่ใช่รถได้ โดยยื่นคำขอได้ที่ สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 - 5 หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด หรือสาขาที่รถนั้นจดทะเบียนอยู่ และหากภายหลังมีความประสงค์นำรถที่ได้ซ่อมแซมดังกล่าวกลับมาใช้งานอีก ก็สามารถแจ้งขอใช้รถได้ตามปกติ โดยสอบถามรายละเอียดที่ สำนักงานขนส่งทุกแห่ง หรือ Call Center 1584

tan immature

16-12-2010, 05:42

ความรู้ใหม่...ขอบคุณครับ

Aeroklas

17-12-2010, 10:10

ข่าววันที่ 17 ธันวาคม 2553 Ford เปิดตัว Ranger Wildtrak ใหม่ รุ่น Limited Edition ฟอร์ด เปิดตัว ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition เพิ่มความเท่ครบครันด้วยล้อแม็ก 18 นิ้ว รายแรกในเมืองไทย พร้อมมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล และลวดลายบนตัวถังใหม่ ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition มาพร้อมสีพิเศษ คอปเปอร์ เรด (Copper Red) โดดเด่นเหนือใคร และสีขาวคูล ไวท์ (Cool White) สุดฮิต พิเศษเฉพาะโอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ราคา 739,000 บาท และดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ราคา 843,000 บาท ที่บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล 2.5 ลิตร ประหยัดน้ำมันแต่ไม่ประหยัดพลัง ฟอร์ด สร้างประสบการณ์ใหม่ “เติมเสน่ห์ให้ความแกร่ง” พร้อมปล่อยทีเด็ด ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition รถกระบะรายแรกในเมืองไทยที่มาพร้อมอุปกรณ์ชุดแต่งแบบเต็ม “แมกซ์” ด้วยล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว และมัลติมิเตอร์แบบดิจิตอล สติ๊กเกอร์ลวดลายพิเศษสไตล์เรนเจอร์แมกซ์ จำนวนจำกัดเพียง 200 คัน เท่านั้น นายสาโรช เกียรติเฟื่องฟู รองประธานอาวุโส ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า ฟอร์ด มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พร้อมตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า โดยพร้อมมอบประสบการณ์ ด้วยความแตกต่างของคุณภาพที่ได้มาตรฐานระดับโลก ดีไซน์ที่โดดเด่นมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนสโลแกนใหม่ Feel the difference ของฟอร์ด ได้อย่างชัดเจน ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของฟอร์ด ที่จะสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับวงการรถ กระบะขนาด 1 ตัน ของประเทศไทย ด้วยชุดแต่งไวลด์แทรค พร้อมล้อแม็กขนาด 18 นิ้ว สุดเท่สไตล์สปอร์ต มัลติมิเตอร์แบบดิจิตอลสุดล้ำที่จะให้ข้อมูลความเอียง ความลาดชันของพื้นถนน และเข็มทิศแบบดิจิตอล พร้อมไฟเรืองแสงสีแดงเพิ่มอารมณ์สปอร์ตในการขับขี่ยามค่ำคืน ตกแต่งลวดลายตัวถังแบบพิเศษโดดเด่นสะดุดตาในแบบ เรนเจอร์ แมกซ์ โชว์ทรัค พร้อมสีพิเศษใหม่ล่าสุด คอปเปอร์ เรด (Copper Red) โดดเด่นไม่ซ้ำใคร และสีขาวคูล ไวท์ (Cool White) สุดฮิต ฟอร์ด ได้เลือกทำตลาด ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition 2 รุ่นเ คือ โอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด ที่บรรจุขุมพลังเครื่องยนต์ดูราทอร์ค คอมมอนเรล 2.5 ลิตร แรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตรที่รอบต่ำ 1,800 รอบต่อนาที และมีกำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่รอบต่ำเพียง 3,500 รอบต่อนาที พร้อมอบความประหยัดน้ำมันแต่ไม่ประหยัดพลัง โดยฟอร์ดเลือกทำตลาดเฉพาะสองรุ่นนี้ เนื่องจากรถกระบะแบบยกสูงเป็นที่นิยมสูงสุด และลูกค้าของฟอร์ดต้องการรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแบบสปอร์ต แต่ต้องไม่ซ้ำใคร ซึ่งฟอร์ด พร้อมตอบโจทย์ของกลุ่มลูกค้าดังกล่าวด้วยความคุ้มค่าเกินราคา ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค รุ่น Limited Edition จะผลิตจำนวนจำกัดเพียง 200 คัน เท่านั้น โดยในรุ่นโอเพ่นแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ มีราคาเพียง 739,000 บาท และ ดับเบิ้ลแค็บ ไฮ-ไรเดอร์ มีราคาเพียง 834,000 บาท พร้อมด้วยข้อเสนอสุดพิเศษดอกเบี้ยต่ำ 1.99% ดาวน์ 25% ผ่อนนานสูงสุด 48 เดือน และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง //upic.me/i/j5/ford_ranger_wildtrak_limited_edition_1.jpg (//upic.me/show/19177496) //upic.me/i/at/ford_ranger_wildtrak_limited_edition_2.jpg (//upic.me/show/19177497) //upic.me/i/ar/ford_ranger_wildtrak_limited_edition_3.jpg (//upic.me/show/19177498) //upic.me/i/b4/ford_ranger_wildtrak_limited_edition_4.jpg (//upic.me/show/19177499) //upic.me/i/ha/ford_ranger_wildtrak_limited_edition_5.jpg (//upic.me/show/19177500) ที่มา : thaiautoshop.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=178568182162298&id=295233259527

Aeroklas

18-12-2010, 09:22

ข่าววันที่ 18 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า //upic.me/i/0r/pretty_motorexpo_2010_01.jpg (//upic.me/show/19200018) //upic.me/i/ec/553000017625901.jpg (//upic.me/show/18535377) มาดู 10 ค่ายรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในงาน Motor Expo 2010!! ปิดฉากลงแล้วสำหรับงาน Motor Expo 2010 งานแสดงรถยนต์ที่มีผู้คนให้การตอบรับเป็นอย่างดีทุกปี ในปีนี้ ค่ายรถที่มียอดขายสูงที่สุด ก็ไม่ผิดคาดซักเท่าไร นั่นคือ โตโยต้า ค่ายรถขวัญใจคนไทย ที่งานนี้ทำยอดขายได้ถึง 8,309 คัน ถ้าคิดเป็นสัดส่วนก็มากกว่า 1 ใน 4 ของรถทั้งหมดที่ขายได้ในงานเลยทีเดียว 10 ค่ายรถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดในงาน Motor Expo 2010 มีดังนี้ 1. Toyota จำนวน 8,309 คัน 2. Honda จำนวน 3,919 คัน 3. Isuzu จำนวน 2,902 คัน 4. Nissan จำนวน 2,879 คัน 5. Mazda จำนวน 2,727 คัน 6. Mitsubishi จำนวน 1,930 คัน 7. Chevrolet จำนวน 1,681 คัน 8. Ford จำนวน 1,232 คัน 9. Proton จำนวน 1,173 คัน 10. Hyundai จำนวน 832 คัน โดยยอดรวมทั้งหมดของรถที่มีการซื้อขายในงาน Motor Expo 2010 ตั้งแต่วันที่ 1 – 12 ธันวาคม 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 33,058 คัน ข้อมูลที่น่าสนใจอีกอย่างคือ วันสุดท้ายของงาน มียอดจองสูงที่สุดคือ 6,000 คัน ในส่วนของจำนวนผู้เข้าชมงาน มีจำนวนมากถึง 1,594,369 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 4.9% (ผู้เข้าชมงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 25 จำนวน 1,519,179 คน) และปิดท้ายที่ยอดเงินสะพัดภายในงาน มีจำนวนทั้งสิ้น (รวมรถใหม่ รถมือสอง รถเพื่อการพานิชย์ อุปกรณ์รถยนต์ เครื่องเสียงติดรถยนต์ ฯลฯ) ประมาณ 29,000 ล้านบาท ที่มา : thaiautoshop.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=178628088822974&id=295233259527#!/Aeroklasthailand

Aeroklas

20-12-2010, 10:53

ข่าววันที่ 20 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า //upic.me/i/wb/3127-001.jpg (//upic.me/show/19200537)

//upic.me/i/uw/3127-002.jpg (//upic.me/show/19200538) //upic.me/i/v0/3127-003.jpg (//upic.me/show/19200539) //upic.me/i/yc/3127-004.jpg (//upic.me/show/19200540) พบกับงาน Formula 1 ราชดำเนิน Red Bull Bangkok 2010!! งานนี้ผู้ที่ชื่นชอบความเร็วในเมืองไทยอย่าได้พลาด !!! ร่วมเตรียมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของการซิ่งรถฟอร์มูลา วัน บนถนนใจกลางกรุงเทพมหานคร ครั้งแรก ในเมืองไทย ซึ่งบริษัท กระทิงแดง จำกัด เตรียมนำรถแข่งฟอร์มูล่าวันของจริง RB6 ขุมกำลัง 2,400 ซีซี วี 8 เร่งรอบเครื่องได้ทะลุ 2 หมื่นรอบต่อนาที ของมาร์ค เว็บเบอร์ สุดยอดนักแข่งรถฟอร์มูล่า มาโชว์ความแรงบนเส้นทางถนนราชดำเนินมุ่งสู่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มาให้คนไทยได้ยลโฉมกันในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม บริษัท กระทิงแดง จำกัด ในฐานะบริษัทแม่ของผลิตภัณฑ์เรดบูลล์ (กระทิงแดง) ทั่วโลก ร่วมกับกรุงเทพมหานคร และสิงห์ คอร์ปอเรชัน เตรียมระเบิดความมันครั้งประวัติศาสตร์ภายใต้โครงการ "Red bull street of Bangkok 2010" ที่จะนำรถแข่งคันจริงที่เพิ่งคว้าแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งฤดูกาล 2010 มาลงวิ่งบนสตรีทเซอร์กิตในกรุงเทพมหานคร นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ผู้บริหารกระทิงแดงว่าโครงการนี้ถือเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา ในปี 2554 รวมถึงยังเป็นการนำทีมแข่งระดับโลกที่มีต้นกำเนิดของสินค้าจากประเทศไทยอย่างเรดบูลล์ เรซซิง มาให้คนไทยได้ชื่นชมในความสำเร็จในตำแหน่งแชมป์โลกฟอร์มูล่า วัน จริง ๆ แล้วในอดีตที่ผ่านมา นักแข่งรถชาวไทย "เจ้าดาราทอง" พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพีรพงศ์ภาณุเดช หรือพระองค์พีระ ที่เคยแข่งเอฟวันในยุคเดียวกับฮวน มานูเอล ฟานจิโอ ตำนานนักขับชาวอาร์เจนตินา แห่งทีมมาเซราติ ในยุคปี 1950-1954 รวมถึงเป็นแชมป์ที่โมนาโกในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เคยเตรียมที่จะจัดการแข่งขัน "แบงค็อก กรังด์ปรีซ์" ในรูปแบบปิดเมืองแข่งบริเวณสนามหลวง-ถนนราชดำเนินมา แล้ว แต่ต้องยกเลิกในวินาทีสุดท้าย เนื่องจากปัญหาสงครามโลกในปี 1939 สำหรับในงานครั้งนี้ที่จะเกิดขึ้นแน่นอน !! เส้นทางที่จะมีการปิดถนนราชดำเนินเพื่อนำรถ RB6 มาขับโชว์โดยมาร์ค เว็บเบอร์ ในวันเสาร์ที่ 18 ธันวาคมนี้ ทีมงาน เรด บูลล์ จะติดตั้งโรงรถเหมือนกับพิตในสนามแข่งบริเวณภูเขาทอง โดยจะนำรถออกจุดเริ่มต้นที่สะพานลีลาศ ทำความเร็วไปตามถนนราชดำเนินใน ผ่านอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนจะวนวงเวียนและวิ่งกลับมาสิ้นสุดที่สี่แยกคอกวัว หลังจากนั้นนักขับชาวออสเตรเลียสุดฮอตคนนี้ จะเดินทางไปทำกิจกรรม meet and greet พบปะแฟน ๆ เอฟวันที่ลานมรกต ห้างเซ็นทรัลชิดลมในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้นด้วย ที่มา : eventpro.in.th และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=178630235489426&id=295233259527

Aeroklas

20-12-2010, 13:12

ข่าววันที่ 20 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย //upic.me/i/db/bmw-5-series-hybrid-01.jpg (//upic.me/show/19253923) //upic.me/i/vl/bmw-5-series-hybrid-02.jpg (//upic.me/show/19253926) BMW 5 Series เตรียมเพิ่มรุ่นไฮบริด!! ไม่ใช่ความลับแต่อย่างใดในการพัฒนารุ่นไฮบริดใน บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ซีดาน รหัสตัวถัง F10 เพราะก่อนหน้านี้ มีการเผยถึงโครงการนี้ผ่านทางรถต้นแบบ Concept 5 Series ActiveHybrid และยืนยันอีกครั้ง ด้วยภาพแอบถ่ายคันจริงที่พื้นฐานจาก BMW 535i และติดสติ๊กเกอร์ Hybrid Test Vehicle ที่ฝากระโปรงหลัง ภาพชุด BMW 5 Series Hybrid นี้ถูกเผยแพร่ในเวบไซต์ Carscoop การตกแต่งภายนอกไม่แตกต่างจากรุ่นปกติ แต่คาดว่าเมื่อเป็นคันจริง จะต่างจากรุ่นพื้นฐานตามสไตล์รถไฮบริดทั่วไป เช่น กระจังหน้า และล้อแม็ก เครื่องยนต์คาดว่าจะเป็นเบนซิน 6 สูบ เทอร์โบแบบ TwinPower 300 แรงม้า กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า คาดว่าจะมีกำลังประมาณ 54 แรงม้า ส่งผลให้มีกำลังขับเคลื่อนรวม 340 แรงม้า ลดอัตราสิ้นเปลืองและลดมลพิษได้มากกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นปกติ และอาจมีโหมดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วนๆ ทำให้มีมลพิษเป็น 0 เมื่อขับด้วยความเร็วต่ำ การเปิดตัวน่าจะอยู่ในงานแสดงรถยนต์หลักๆ ระดับโลกงานในงานหนึ่ง ส่วนการทำตลาดคาดว่าจะมีขึ้นในช่วงปี 2012 ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=179285568757226&id=295233259527#!/Aeroklasthailand

Aeroklas

22-12-2010, 10:58

ข่าววันที่ 22 ธันวาคม 2553 เช้า ด่วน!! Honda สั่ง Recall JAZZ 2007-2008 งานมาอีกแล้ว honda สั่ง Recall Honda Jazz ตัวเก่าล๊อตใหญ่ หลังจากตรวจสอบพบว่า ระบบไฟหน้าของรถอาจมีปัญหาหากใช้ไปนานๆ CNN สำนักข่าวยักษ์ใหญ่ ได้เปิดเผยวันนี้ว่า honda ผู้ผลิครถยนต์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น สั่งเรียกคืนรถยนต์ Honda FIT หรือ JAZZ โฉมปี 2007-2008 จำนวนกว่า 143,083 คัน ที่ถูกผลิตในช่วงปีดังกล่าว อันเนื่องจากตรวจสอบพบว่า ระบบไฟหน้ารถนั้นอาจเสื่อมสภาพเมื่อมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ Honda ได้ออกแถลงการในเรื่องการรีคอลดังกล่าว และระบุว่า ต้นตอของปัญหาในการทำให้ระบบไฟส่องสว่างหน้ารถมีปัญหาในครั้งนี้นั้นเกิดจากปลั๊กไฟหน้าของรถสำหรับไฟหรี่ของชุดโคมไฟหน้า ที่จะเริ่มอุ่นและร้อนขึ้น หากมีการใช้งานเป็นระยะเวลานานๆ และท้ายสุดนั้น มันก็จะทำให้ฮีทและทำให้ปลั๊กดังกล่าวเสียหรือละลายจากความร้อนได้ ทั้งนี้ honda เตรียมที่จะส่งจดหมายไปยังเจ้าของรถที่เข้าข่ายในการเรียกคืนครั้งนี้ตามจำนวนดังกล่าวข้างต้น แต่ถ้าคุณกำลังเป็นห่วงว่า รถของคุณจะเข้าข่ายหรือไม่ก็สามารถนำรถเข้าไปยังศูนย์บริการ honda ใกล้บ้านได้ทันที โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ที่มา : auto.sanook.com, CNN และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=179285568757226&id=295233259527#!/Aeroklasthailand

Aeroklas

23-12-2010, 10:13

ข่าววันที่ 23 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า //upic.me/i/vg/3m-e-warranty-on-mobile-02.jpg (//upic.me/show/19335964) //upic.me/i/rm/3m-e-warranty-on-mobile-03.jpg (//upic.me/show/19335999) //upic.me/i/9y/3m-e-warranty-on-mobile-04.jpg (//upic.me/show/19336003) //upic.me/i/hj/3m-e-warranty-on-mobile-01.jpg (//upic.me/show/19336013) 3M ผนึกกำลัง AIS เปิดตัว e-warranty on mobile พลิกโฉมระบบประกันเจ้าแรกตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม (3M Auto Film) ร่วมกับ AIS เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ หรือ e-warranty on mobile ปฏิวัติวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ให้สามารถส่งข้อมูลการรับประกันฟิล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ 3R อันประกอบด้วย Reliable: เชื่อถือและวางใจได้ กับระบบรับประกันจาก 3เอ็ม Reachable: เข้าถึงข้อมูลการรับประกันด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ Real Time: การรับประกันมีผลอัตโนมัติทันที เมื่อส่งข้อมูล ซึ่งระบบรับประกันอัตโนมัติรูปแบบใหม่นี้ จะเริ่มใช้ในปี 2554 นี้ บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม จัดงานแถลงข่าวประกาศความร่วมมือระหว่าง 3เอ็ม และ เอไอเอส ในการสร้าง ระบบรับประกันอัตโนมัติบนมือถือ e-warranty on mobile เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้ครอบคลุมและเข้าถึง เนื่องจากฐานลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มกรองแสงของตน ได้ส่งเข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัท 3เอ็ม ลูกค้าจะยังได้รับการรับประกันตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ติดตั้ง แม้ว่าใบรับประกันจะสูญหาย โดยข้อมูลการรับประกันจะถูกส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ถือเป็นการนำแอพลิเคชั่นบนซิมการ์ด มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาระบบการบริการหลังการขาย และส่งเสริมกิจกรรมการตลาดเป็นครั้งแรกในวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท 3เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท 3เอ็ม มีความริเริ่มที่จะพัฒนาระบบการรับประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้มีโครงการนำร่องภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามองว่า ช่องทางที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว ในฐานะที่บริษัท 3เอ็ม เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท เอไอเอส ในด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กรอยู่แล้ว จึงได้มีการประสานความร่วมกันภายใต้แนวคิด 3R อันประกอบด้วย Reliable คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะต้องมั่นใจได้ว่า ข้อมูลการรับประกันของลูกค้า จะส่งกลับมาเก็บที่ฐานข้อมูลของเราโดยไม่สูญหาย เช่นเดียวกัน ระบบนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้กับลูกค้า ในระบบการรับประกันใหม่ของ 3เอ็มได้ Reachable คือ การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับประกันของตนได้ รวมทั้งบริษัท 3เอ็ม ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลที่มี ซึ่งจะทำให้การสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ มีความสะดวกและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น" "นอกจากนี้ ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายผู้ติดตั้งฟิล์ม ก็สามารถเข้าถึงระบบการรับประกันนี้ได้สะดวก ไม่ว่าจะส่วนไหนของประเทศ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ครอบคลุมทั่วไทย และสุดท้าย Real Time คือ ทันทีที่ร้านตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง กดปุ่มส่งข้อมูลการรับประกันผ่านโทรศัพท์มือถือ เอสเอ็มเอส (SMS) ยืนยันการรับประกัน ก็ส่งถึงลูกค้าในทันทีเช่นกัน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าฟิลม์กรองแสง 3เอ็มได้เป็นอย่างดี” ทางด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บทบาทของเอไอเอส นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์แล้ว เรายังพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อให้เกิดบริการใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ ดังเช่นความร่วมมือกับ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม ในครั้งนี้ ซึ่งระบบที่นำมาพัฒนานี้ เรียกว่า SSTK (Smart Sim Tool Kit) ในลักษณะเมนูพิเศษ เพื่อรองรับระบบการรับประกันฟิล์มกรองแสง ลงบนสมาร์ทซิม เพื่อให้ร้านค้าตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม นำไปใช้งาน "สำหรับการใช้งานนั้น เพียงใส่ข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการติดตั้งฟิล์มไปตามเมนูบนมือถือ และส่งไปที่ศูนย์ข้อมูลของ 3เอ็ม ก็จะช่วยให้การรับประกันมีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการจัดส่งใบรับประกันมาที่บริษัท รวมถึงช่วยลดต้นทุนการจัดพิมพ์ใบรับประกัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ที่มาใช้บริการว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มของตนจะส่งตรงมาถึงบริษัทอย่างแน่นอน ด้วยความครอบคลุมของเครือข่ายเอไอเอส ทำให้มั่นใจได้ว่า 3เอ็ม จะสามารถให้บริการได้อย่างไร้ข้อจำกัด" นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า "จุดประสงค์ที่เราพัฒนาระบบการรับประกันอัตโนมัติบนมือถือขึ้นมา ก็เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการบริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ทั้งนี้ ด้วยความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของเรา เราจึงมีระยะเวลารับประกันฟิล์มกรองแสง ถึง 7 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่นาน บางครั้งข้อมูลใบรับประกันที่อยู่กับลูกค้า อาจจะสูญหาย หรือ ลูกค้าจำไม่ได้ว่าติดตั้งฟิล์มที่ไหนอย่างไร เมื่อลูกค้าต้องการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกันของตน ก็สามารถเช็คข้อมูลได้กับบริษัท 3เอ็มได้ ซึ่งตรงจุดนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้กับลูกค้าได้" "นอกจากนี้ การที่เราเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผลิตภัณฑ์ วันเวลาที่ติดตั้ง ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของ ทีมงานผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อพัฒนารูปแบบการตลาดที่เหมาะสม โดยในอนาคต เราอาจใช้ฐานข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไปยังลูกค้าได้ ทั้งผ่านมือถือและอีเมล ลูกค้าจะได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จากทาง 3เอ็มได้ ทั้งนี้ เรายังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์ 3เอ็มกับลูกค้า ก่อให้เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และเป็นลูกค้าของเราต่อเนื่องต่อไป" นายโชติชัย กล่าวปิดท้าย ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=179285568757226&id=295233259527#!/Aeroklasthailand

Aeroklas

23-12-2010, 10:30

ข่าววันที่ 23 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า //upic.me/i/vg/3m-e-warranty-on-mobile-02.jpg (//upic.me/show/19335964) //upic.me/i/rm/3m-e-warranty-on-mobile-03.jpg (//upic.me/show/19335999) //upic.me/i/9y/3m-e-warranty-on-mobile-04.jpg (//upic.me/show/19336003) //upic.me/i/hj/3m-e-warranty-on-mobile-01.jpg (//upic.me/show/19336013) 3M ผนึกกำลัง AIS เปิดตัว e-warranty on mobile พลิกโฉมระบบประกันเจ้าแรกตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม (3M Auto Film) ร่วมกับ AIS เปิดตัว ระบบประกันอัตโนมัติบนมือถือ หรือ e-warranty on mobile ปฏิวัติวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ด้วยนวัตกรรมใหม่ ใช้สมาร์ทซิมเสริมศักยภาพตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ให้สามารถส่งข้อมูลการรับประกันฟิล์มให้ลูกค้าภายใต้คอนเซปต์ 3R อันประกอบด้วย Reliable: เชื่อถือและวางใจได้ กับระบบรับประกันจาก 3เอ็ม Reachable: เข้าถึงข้อมูลการรับประกันด้วยเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และ Real Time: การรับประกันมีผลอัตโนมัติทันที เมื่อส่งข้อมูล ซึ่งระบบรับประกันอัตโนมัติรูปแบบใหม่นี้ จะเริ่มใช้ในปี 2554 นี้ บริษัท 3เอ็ม ประเทศไทย จำกัด โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม จัดงานแถลงข่าวประกาศความร่วมมือระหว่าง 3เอ็ม และ เอไอเอส ในการสร้าง ระบบรับประกันอัตโนมัติบนมือถือ e-warranty on mobile เพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการบริการลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้ครอบคลุมและเข้าถึง เนื่องจากฐานลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มกรองแสงของตน ได้ส่งเข้าถึงฐานข้อมูลของบริษัท 3เอ็ม ลูกค้าจะยังได้รับการรับประกันตลอดระยะเวลา 7 ปี นับตั้งแต่ติดตั้ง แม้ว่าใบรับประกันจะสูญหาย โดยข้อมูลการรับประกันจะถูกส่งผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือของ เอไอเอส ถือเป็นการนำแอพลิเคชั่นบนซิมการ์ด มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาระบบการบริการหลังการขาย และส่งเสริมกิจกรรมการตลาดเป็นครั้งแรกในวงการฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ซึ่งลูกค้าจะได้รับประโยชน์สูงสุด ทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจยานยนต์ บริษัท 3เอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "บริษัท 3เอ็ม มีความริเริ่มที่จะพัฒนาระบบการรับประกันแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยได้มีโครงการนำร่องภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เรามองว่า ช่องทางที่ใช้ในการส่งและรับข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ เป็นสิ่งที่สะดวกและรวดเร็ว ในฐานะที่บริษัท 3เอ็ม เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท เอไอเอส ในด้านการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศภายในองค์กรอยู่แล้ว จึงได้มีการประสานความร่วมกันภายใต้แนวคิด 3R อันประกอบด้วย Reliable คือ ระบบที่พัฒนาขึ้นมานี้ จะต้องมั่นใจได้ว่า ข้อมูลการรับประกันของลูกค้า จะส่งกลับมาเก็บที่ฐานข้อมูลของเราโดยไม่สูญหาย เช่นเดียวกัน ระบบนี้ก็ต้องสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจให้กับลูกค้า ในระบบการรับประกันใหม่ของ 3เอ็มได้ Reachable คือ การที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลการรับประกันของตนได้ รวมทั้งบริษัท 3เอ็ม ก็สามารถเข้าถึงลูกค้าผ่านระบบฐานข้อมูลที่มี ซึ่งจะทำให้การสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ หรือ CRM (Customer Relationship Management) ที่จะมีขึ้นหลังจากนี้ มีความสะดวกและเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น" "นอกจากนี้ ในส่วนของตัวแทนจำหน่ายผู้ติดตั้งฟิล์ม ก็สามารถเข้าถึงระบบการรับประกันนี้ได้สะดวก ไม่ว่าจะส่วนไหนของประเทศ ผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ครอบคลุมทั่วไทย และสุดท้าย Real Time คือ ทันทีที่ร้านตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง กดปุ่มส่งข้อมูลการรับประกันผ่านโทรศัพท์มือถือ เอสเอ็มเอส (SMS) ยืนยันการรับประกัน ก็ส่งถึงลูกค้าในทันทีเช่นกัน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า จะสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าฟิลม์กรองแสง 3เอ็มได้เป็นอย่างดี” ทางด้าน นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ส่วนงานบริหารลูกค้าองค์กร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "บทบาทของเอไอเอส นอกเหนือจากการเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์แล้ว เรายังพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีสื่อสารไร้สาย มาพัฒนาเป็นโซลูชั่นเพื่อให้เกิดบริการใหม่ ที่ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรต่างๆ ดังเช่นความร่วมมือกับ 3เอ็ม ออโต้ฟิล์ม ในครั้งนี้ ซึ่งระบบที่นำมาพัฒนานี้ เรียกว่า SSTK (Smart Sim Tool Kit) ในลักษณะเมนูพิเศษ เพื่อรองรับระบบการรับประกันฟิล์มกรองแสง ลงบนสมาร์ทซิม เพื่อให้ร้านค้าตัวแทนติดตั้งฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม นำไปใช้งาน "สำหรับการใช้งานนั้น เพียงใส่ข้อมูลของลูกค้า และข้อมูลการติดตั้งฟิล์มไปตามเมนูบนมือถือ และส่งไปที่ศูนย์ข้อมูลของ 3เอ็ม ก็จะช่วยให้การรับประกันมีความสะดวกรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการจัดส่งใบรับประกันมาที่บริษัท รวมถึงช่วยลดต้นทุนการจัดพิมพ์ใบรับประกัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ที่มาใช้บริการว่า ข้อมูลการติดตั้งฟิล์มของตนจะส่งตรงมาถึงบริษัทอย่างแน่นอน ด้วยความครอบคลุมของเครือข่ายเอไอเอส ทำให้มั่นใจได้ว่า 3เอ็ม จะสามารถให้บริการได้อย่างไร้ข้อจำกัด" นายโชติชัย ปฏิภาณปรีชาวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า "จุดประสงค์ที่เราพัฒนาระบบการรับประกันอัตโนมัติบนมือถือขึ้นมา ก็เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการบริการหลังการขาย ให้กับลูกค้าฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ทั้งนี้ ด้วยความมั่นใจในคุณภาพสินค้าของเรา เราจึงมีระยะเวลารับประกันฟิล์มกรองแสง ถึง 7 ปี ซึ่งด้วยระยะเวลาที่นาน บางครั้งข้อมูลใบรับประกันที่อยู่กับลูกค้า อาจจะสูญหาย หรือ ลูกค้าจำไม่ได้ว่าติดตั้งฟิล์มที่ไหนอย่างไร เมื่อลูกค้าต้องการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกันของตน ก็สามารถเช็คข้อมูลได้กับบริษัท 3เอ็มได้ ซึ่งตรงจุดนี้ จะสร้างความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ให้กับลูกค้าได้" "นอกจากนี้ การที่เราเก็บฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลผลิตภัณฑ์ วันเวลาที่ติดตั้ง ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยส่งเสริมการทำงานของ ทีมงานผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง 3เอ็ม ในการวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า เพื่อพัฒนารูปแบบการตลาดที่เหมาะสม โดยในอนาคต เราอาจใช้ฐานข้อมูลนี้ในการส่งข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ไปยังลูกค้าได้ ทั้งผ่านมือถือและอีเมล ลูกค้าจะได้รับทราบข้อมูลใหม่ๆ รวมถึงสิทธิพิเศษต่างๆ จากทาง 3เอ็มได้ ทั้งนี้ เรายังสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่าง แบรนด์ 3เอ็มกับลูกค้า ก่อให้เกิดความศรัทธา เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และเป็นลูกค้าของเราต่อเนื่องต่อไป" นายโชติชัย กล่าวปิดท้าย ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=179285568757226&id=295233259527#!/Aeroklasthailand

Aeroklas

27-12-2010, 11:43

วันที่ 27 ธันวาคม 2553 เช้า //upic.me/i/ao/uij55.jpg (//upic.me/show/19459534) ช่วงนี้ก็ใกล้ปีใหม่ขึ้นทุกที และเป็นช่วงเวลาที่เราควรจะมานั่งคิดทบทวนในชีวิต และเหตุการณ์สำคัญๆ ว่า มีอะไรผ่านเข้ามาและทำให้เราเติบโตขึ้นบ้าง แน่นอน เช่นเดียวกับวงการรถยนต์ที่ในรอบปี 2010 ที่ผ่านก้มีหลากหลายเรื่องราว ทั้งดี และไม่ดี ในช่วงปี 2010 นี้ถือว่าเป็นปีแห่งวิบากกรรมของค่ายรถยนต์ เพราะต่างถูกจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะ เรื่องคุณภาพการผลิตที่เริ่มแดงออกมาทีละค่าย และมันทำให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งจะส่งผลกระทบที่ชัดเจนต่อแบรนด์สินค้า ทำให้ปีนี้เป็นปีที่ทั้งสวยงามและไม่สวยงาม แต่ก็กำลังจะผ่านพ้นไปด้วยดี

อันดับที่ 10 Pontiac ปิดกิจการ บ้านเรากับค่ายรถยนต์รายนี้อาจจะไม่คุ้นเคยเท่าไรนัก แต่แบรนด์ภายใต้เครือ GM นี้ ก็มาถึงวาระสุดท้าย และหลังจากปี 2010 ชื่อ Pontiac จะไม่มีอีกต่อไปในวงการรถยนต์ 84 ปี แห่งเส้นทางของค่ายรถยนต์รายนี้ถือว่าสวยงามมาก และมันทำให้คนหลายๆ คนในอเมริกา รู้สึกเสียดายที่ค่ายรถยนต์พันธุ์สปอร์ตรายนี้ต้องสูญหายไป จากการบริหารที่ผิดพลาดของเครือ GM

Aeroklas

28-12-2010, 08:56

วันที่ 28 ธันวาคม 2553 เช้า //upic.me/i/us/p5422.jpg (//upic.me/show/19486863) เจดีพาวเวอร์ เผยนักซื้อฉุกคิดไม่ปิ๊งโตโยต้า!! จากผลการศึกษาวิจัยเมื่อเร็วๆนี้ของ JD Power and Associated จากต่างประเทศเปิดผลวิจัยล่าสุดว่า ผูซื้อรุ่นใหม่หรือคนที่กำลังซื้อรถคันใหม่ มักจะไม่นิยมซื้อรถยนต์ยี่ห้อ Toyota โดยกว่า 19 เปอร์เซ็นของผลสำรวจดังกล่าว ผู้ซื้อระบุว่า พวกเขาคิดที่จะอยู่ห่างรถยนต์ยี่ห้อนี้มากกว่าซื้อมาขับขี่ เนื่องจากชื่อเสียงที่ย่ำแย่ของบริษัท ในขณะที่ปีที่แล้ว มีเพียงร้อยละ 3 ของผู้ซื้อที่คิดแบบนี้ นอกจากนี้ อีก 15 เปอร์เซ็นต์ของผู้ซื้อระบุว่า พวกเขาเคยมีประสบการณ์ที่ย่ำแย่จากรถยี่ห้อนี้ เช่นเดียวกับอีกกลุ่มผู้ซื้อที่มีอัตราส่วนเท่ากัน ที่ส่วนใหญ่ให้เหตุผลว่า พวกเขาเป็นห่วงอนาคตของบริษัทรถยนต์รายนี้ ซึ่งเพิ่มจากเมื่อปีที่แล้วถึง 12% เลยทีเดียว อย่างไรก็ดีจากผลการวิจัยของ JD Power พบว่า แม้โตโยต้าจะเจอปัญหาที่หนักหน่วงตลอดทั้งปี 2010 แต่ บริษัทนี้ก็อยู่ในตลาดในอันดับที่ 3 ตามหลังค่ายรถยนต์ BMW และ Honda ซึ่งก่อนหน้านี้ Kelly Blue book เว็บไซต์ชื่อดังได้เปิดเผยว่า Toyota ยังเป็นหนึ่งในใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ที่มา : auto.sanook.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

28-12-2010, 13:22

วันที่ 28 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย //upic.me/i/fz/63653_481754764527_295233259527_5610628_952938_n.jpg (//upic.me/show/19487002) คนใช้รถป่วนแก๊สโซฮอล์ขาด ชี้ต้นปี54วิกฤต-โรงงานขู่หยุดผลิตเอทานอล หวั่นปีหน้าเอทานอลขาดตลาด กระทบผู้ใช้แก๊สโซฮอล์ หลังหัวมันสด/มันเส้น โมลาส วัตถุดิบสำคัญราคาพุ่ง ส่งผลต้นทุนผลิตปาเข้าไปลิตรละ 26 บาท ขณะที่บริษัทน้ำมันบีบโรงงานรับซื้อมาผสม E10-E20-E85 แค่ลิตรละ 22 บาท ไม่ยอมให้ปรับราคาขึ้น อ้างสต๊อกเต็ม รง.สุดทน ประกาศหยุดผลิตชั่วคราว ราคาหัวมันสดและกากน้ำตาล (โมลาส) ที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ได้ส่งผลกระทบกับต้นทุนในการผลิตเอทานอลซึ่งใช้เป็นส่วนผสมสำคัญในน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91/95 E10 E20 E85 ถึงขั้นอาจจะขาดตลาด นายสุนัย สถาพร ประธานคณะอนุกรรมการเอทานอล สมาคมการค้า มันสำปะหลังไทย เปิดเผยกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ถึงสถานการณ์การผลิตเอทานอลของผู้ประกอบการในขณะนี้ว่า หัวมันสด/ มันเส้น และกากน้ำตาล ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญต่างปรับราคาสูงขึ้น โดยราคาหัวมันสดอยู่ระหว่าง 3.20-3.50 บาท/ก.ก. ราคามันเส้นอยู่ที่ 7.20-7.46 บาท/ก.ก. และราคากากน้ำตาลอยู่ที่ 5 บาท/ก.ก. ขณะที่ต้นทุนผลิตเอทานอลของโรงงานที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบคำนวณตามสูตรราคาของกระทรวงพลังงานอยู่ที่ 26.73 บาท/ ลิตร และต้นทุนโรงงานเอทานอล ที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบอยู่ที่ 26.43 บาท/ลิตร ยังไม่นับรวมกำไรของโรงงาน กลับถูกบริษัทผู้ค้าน้ำมันกำหนดราคารับซื้ออยู่ระหว่าง 22-23 บาท/ลิตร นั่นหมายความว่า ทุก ๆ ลิตรของเอทานอลที่ขายให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันโรงงานจะขาดทุนทันทีลิตรละ 3-4 บาท โดยที่โรงงานไม่สามารถปรับขึ้นราคาจำหน่ายเอทานอลให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงได้ "ในสภาพความเป็นจริงก็คือ ตลาดเอทานอลเป็นของผู้ซื้อ เพราะกำลังผลิตรวมของโรงงานเอทานอลล้นเกินความต้องการ ส่งผลให้แต่ละโรงงานผลิตไม่เต็มกำลังผลิต ซึ่งบริษัทผู้ค้าน้ำมันก็รู้ ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาบริษัทผู้ค้าน้ำมันจึงทำการ สต๊อกเอทานอลไว้เต็มที่ อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ยิ่งมาปีนี้โรงงานเอทานอลต้องเผชิญกับวัตถุดิบมีราคาแพงเป็นประวัติการณ์ จากการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูในมันสำปะหลัง และเป็นช่วงรอยต่อฤดูการเปิดหีบน้ำตาล ทำให้โรงงานเอทานอลไม่มีข้อต่อรอง สุดท้ายก็ต้องขายเอทานอลตามที่บริษัทผู้ค้าน้ำมันเป็นผู้กำหนด" นายสุนัยกล่าว ทั้งนี้โรงงานเอทานอลที่ใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 5 แห่ง กำลังผลิตรวม 780,000 ลิตร/วัน โรงงานเอทานอลที่ใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 11 แห่ง กำลังผลิตรวม 1,645,000 ลิตร/วัน และโรงงานเอทานอลที่สามารถใช้ทั้งมันสำปะหลัง/กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบมีจำนวน 3 แห่ง กำลังผลิตรวม 500,000 ลิตร/วัน รวมกำลังผลิตทั้งหมด 2,925,000 ลิตร/วัน แต่ผลิตจริงเฉลี่ย 1.1 ล้านลิตร/วัน ส่วนปริมาณเอทานอลในสต๊อกของบริษัทผู้ค้าน้ำมันคงเหลือ ณ วันที่ 13 ธันวาคม 2553 รวม 26.824 ล้านลิตร ประกอบไปด้วย บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) 7.488 ล้านลิตร, บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย 6.825 ล้านลิตร, บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 1.431 ล้านลิตร, บริษัทเชฟรอน (ไทย) 2.586 ล้านลิตร, บริษัทบางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 6.001 ล้านลิตร, บริษัทไทยออยล์ 0.433 ล้านลิตร, บริษัท IRPC 1.312 ล้านลิตร, บริษัทปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) 0.169 ล้านลิตร และบริษัทเพโทรกรีน 0.582 ล้านลิตร จากตัวเลขสต๊อกเอทานอลคงเหลือข้างต้นแสดงให้เห็นว่า บริษัทผู้ค้าน้ำมันที่น่าจะมีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคารับซื้อ เอทานอลก็คือ บริษัท ปตท.-บริษัทเชลล์-บริษัทบางจาก 3 บริษัทรวมกันมีสต๊อก เอทานอลประมาณ 20 ล้านลิตร จากปริมาณสต๊อกคงเหลือ 26 ล้านลิตร นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี นายกสมาคมผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า สมาคมได้ประเมินสถานการณ์เอทานอลไตรมาสแรกของปี 2554 จะตึงตัวมาก โดยจะสังเกตจากราคาประกาศของกระทรวงพลังงาน ในเดือนธันวาคมอยู่ที่ 27.15 บาท/ลิตร ขณะที่การเปิดหีบอ้อยในฤดูกาลใหม่ (27 พฤศจิกายน-13 ธันวาคม) จะมีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 69 ล้านตัน ผลิตกากน้ำตาล (โมลาส) ได้ประมาณ 3 ล้านตัน แต่กากน้ำตาลจำนวนนี้ได้มีการขายล่วงหน้าไปแล้ว 40-50% ในราคาประมาณ 4.7-5 บาท/ก.ก. หรือเท่ากับมีกากน้ำตาลเหลือเป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอลฤดูกาลใหม่เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น ด้านราคาหัวมันสดในปัจจุบันถือว่า "สูงมาก" จนโรงงานเอทานอลที่ใช้มัน สำปะหลังเป็นวัตถุดิบไม่สามารถรับราคาได้ ต้องหยุดซื้อหัวมันชั่วคราว จากปัจจุบันโรงงานเอทานอลมีสต๊อกรวมทั้งหมดประมาณ 35 ล้านลิตร เมื่อคิดจากปริมาณความต้องการใช้วันละ 1.1 ล้านลิตรแล้ว สามารถใช้ได้ไม่ถึง 1 เดือน "แม้กระทรวงพลังงานจะประกาศราคารับซื้อเอทานอลที่ 27.15 บาท/ลิตร แต่ไม่มีบริษัทผู้ค้าน้ำมันรายใดซื้อเอทานอลในราคานี้ แถมยังมีโรงงานเอทานอลบางโรงดัมพ์ราคาเพราะเก็งตลาดช่วงปลายปีผิด มีผลทำให้ราคาขายจริงไม่ถึง 22 บาท/ลิตร" นายสิริวุทธิ์กล่าว ล่าสุดมีรายงานข่าวจากผู้ประกอบการเอทานอลเปิดเผยว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาทางโรงงานพยายามที่จะเจรจาขอปรับขึ้นราคาจำหน่ายเอทานอล แต่ถูกบริษัท ผู้ค้าน้ำมันปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่โรงงานได้พยายามชี้ให้เห็นถึงต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับราคาสูงขึ้น แต่บริษัทผู้ค้าน้ำมันจะอ้างปริมาณสต๊อกคงเหลือ 3 เดือน ที่มีอยู่ถึง 26 ล้านลิตร "จึงไม่จำเป็นที่จะต้องปรับราคารับซื้อในช่วงนี้" เมื่อโรงงานเอทานอลถูกปฏิเสธการปรับขึ้นราคาจากบริษัทผู้ค้าน้ำมัน จึงมีการหารือเป็นการภายในว่า ในปี 2554 โรงงานเอทานอลจะมีทางเลือกเหลืออยู่เพียง 2 ทาง คือ ปิดโรงงานเป็นการชั่วคราว หรือนำวัตถุดิบ มันเส้น/กากน้ำตาล ส่งออก "โรงงานไม่มีทางเลือกมากนัก เพราะราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ไม่สามารถผลิตเอทานอลออกมาแล้วขายในราคาขาดทุนให้กับบริษัทผู้ค้าน้ำมันได้ เมื่อไม่ยอมขึ้นราคารับซื้อเอทานอล เราก็ต้องหันไปส่งออกมันเส้นหรือขายโมลาสแทน โดยราคาส่งออกมันเส้น FOB ขณะนี้อยู่ที่ 255 เหรียญ/ตัน ซึ่งจัดเป็นราคาที่ดีมาก ส่วนผลเสียที่จะตามมาก็คือ ไตรมาสแรกของปี 2554 ปริมาณเอทานอลอาจจะมีไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ของบริษัทผู้ค้าน้ำมัน เมื่อสต๊อกเก่าหมดลง" ที่มา : prachachat.net และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

29-12-2010, 09:08

วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า //upic.me/i/4a/2011accordex-lv6coupe.jpg (//upic.me/show/19514554) ปัญหายังไม่จบ Honda เรียกคืน Accord 2011 อีกแล้ว ล่าสุด Honda สั่งเรียกคืน รถ Honda Accord ทั้ง Sedan และ Coupe และ Honda Pilot รุ่นใหม่ล่าสุดอีกกว่า 10,800 คัน หลัง NHTSA ระบุว่า ระบบช่วงล่างทางด้านหน้าของรถทำงานผิดปกติ โดยมีสาเหตุที่เชื่อว่าน๊อตที่ยึดโช๊คกับเบ้าโช๊คถูกไขไม่แน่น จนอาจเป็นอันตรายก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ การเรียกคืนครั้งนี้จะส่งผลต่อ Honda Accord กว่า 10,823 คัน โดยไม่ได้มีการระบุว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ใดบ้าง ซึ่งเมื่อรวมกับการเรียกคืนในปัญหาน้ำมันเครื่องรั่วก่อนหน้านี้ที่มีกว่า 9,300 คัน นี่จะเป็นการเรียกคืนที่มีมูลค่ามากพอสมควรเลยทีเดียว ทั้งนี้สาเหตุที่น๊อตโช๊คไม่ได้รับการขันอย่างถูกต้องนั้น มจากการสืบสวนพบว่าโรงงานของ honda ประสบปัญหาระบบซอฟท์แวร์ขัดข้อง และมันทำให้การสั่งการผิดพลาดจนน๊อตขันไม่ถูกต้อง ซึ่งทางฮอนด้าเตรียมจะเรียกคืนรถในวันที่ 23 ธันวาคมนี้ โดยเราเชื่อว่าปัญหานี้คงจะไม่มีผลต่อรถในประเทศไทย ที่มา : auto.sanook.com

Aeroklas

29-12-2010, 14:51

วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย มาดูสุดยอดรถเลื่อนแซนต้าครอส ซึ่งค่ายรถต่างๆมาออกแบบให้ ค่ายรถหลายค่ายจินตนาการถึงเลื่อนวิเศษของแซนตาครอสยุคใหม่ที่มันจะดูสง่ากว่าเดิม ส่วนมันจะมีหน้าตาเป็นอย่างไรบ้างนั้น เราไปดูกันสิว่าไอเดียที่บรรเจิดของบรรดาดีไซน์เนอร์ หัวกระทินั้นมีอะไรกันบ้าง //upic.me/i/ve/santa-1.jpg (//upic.me/show/19520794) 1. Ferrari Design Santa 's Sleigh เรามาเริ่มกันที่ค่ายม้าลำพองที่งานนี้ของนำเสนอเลื่อนหิมะพันธุ์แรง ที่มันดูเหมือน 458 Italia ยังไงไม่รู้ งานนี้ไม่รู้ว่าค่ายม้าลำพองลืมไปว่าแซนต้าต้องมีของขวัญไปด้วยหรือไม่ แต่ดูเหมือนงานนี้ของขวัญจะถึงมือเร็วอย่างแน่นอน

//upic.me/i/4n/santa-2.jpg (//upic.me/show/19520799) 2. Audi Design Santa 's Sleigh อาจจะไม่ไฉไล แต่ถ้าลุงแซนต้าชอบดริฟท์และท้าทายบนหิมะ คงต้องชอบอันนี้แน่ เพราะเอาดี้ขอให้ฟรี Audi A1 ฉบับ 3 ประตู ที่พร้อมจะบรรทุกเลื่อนไว้บนหลังคาและกวางรูดอล์ฟที่สามารถนั่งเป็นเพื่อนช่วยบอกทางยามไถลไปบนหิมะได้

//upic.me/i/cq/santa-3.jpg (//upic.me/show/19520804) 3. Ford Design Santa 's Sleigh อาจจะดูเหมือนยานบินอวกาศหลุดออกมาจากภาพยนต์ แต่ค่ายรถยนต์ฟอร์ดนั้นอยากบอก แซนต้าว่า Kinetic Design ของเราที่อยู่ใน ford fiesta และ Focus รุ่นใหม่ พร้อมที่จะเป็นเรื่องของผู้ส่งความสุขที่สามารถปรับมันเป็นกระบะบรรทุกของขวัญได้ และไม่ต้องกังวลกับกวางจอมดื้อ เพราะขุมพลังเหลือเฟือ ทั้งไม่ต้องตากแดดตากลม

//upic.me/i/82/santa-4.jpg (//upic.me/show/19520806) 4. Jarguar Design Santa 's Sleigh ดูไม่เหมือนรถ น่าจะเป็นเครื่องบินมากกว่า นะ แต่เอาเหอะ เลือนแซนต้าติดใบพัดบินได้นี้ ก็ดูดี และดีไซน์ได้เฉียบ จากฝีมือของนักออกแบบภายนอกของรถ Thomas Smith ที่มันน่าสนใจ แต่แซนต้าท่านจะชอบหรือไม่นี่อีกเรื่องนะ

//upic.me/i/lz/santa-5.jpg (//upic.me/show/19520808) 5. Land Rover Design Santa 's Sleigh ถ้าคุณชอบลุย คุณคงต้องรู้จัก Land Rover ที่งานนี้คุณลุงผู้ใจดีของเด็กๆ จะได้พบกับ เลื่อนหิมะยุคอวกาศสุดๆ ที่สามารถผ่านได้ทุกพื้นที่บนโลกนี้ และแน่นอนว่าระบบนี้ไม่ต้องใช้กวางเรนเดียร์ในการขับเคลื่อน

//upic.me/i/nu/santa-6.jpg (//upic.me/show/19520809) 6. Peugeot Design Santa 's Sleigh ค่ายตราสิงห์โตจากเมืองน้ำหอมนี้ก็อยากให้แซนต้ามีพาหนะใหม่และไฉไลกว่าเดิมมาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมาแล้ว แต่ถ้าดีไซน์ยังไม่โดนใจงานนี้ค่ายนี้ขอแก้ไข ด้วยการออกแบบใหม่ที่ไฉไลกว่า เดิม และแน่นอนว่า เลื่อนหิมะนี้ดูดีจากการออกแบบและเทคโนโลยีล่าสุด ที่ไม่ได้ระบุสเป็ค

//upic.me/i/fn/santa-7.jpg (//upic.me/show/19520811) 7. Rolls-Royce Design Santa 's Sleigh ถ้าเรื่องความหรูสุดๆนี้ ต้องยกให้จากค่ายรถยนต์ rolls Royce ที่งานนี้ของอนุรักษ์นิยมเล็กน้อยในการใช้กวางเรนเดียร์ขับเคลื่อน แต่ตัวพาหนะนี้ดูหรูหราและใหญ่ขึ้น พร้อมกระโปรงหน้าที่คงออกแบบไว้เก็บของขวัญสำหรับเด็กๆ

//upic.me/i/pq/santa-8.jpg (//upic.me/show/19520813) 8. Vauxhull Design Santa 's Sleigh มาดูค่ายรถยนต์น้องใหม่อย่าง Vauxhull กันบ้างที่งานนี้แซนต้าจะได้ขับพาหนะที่ถือว่าสุดยอดจากยนตรกรรมค่ายนี้ และมันไม่ต้องพึ่งกวางในการขับเคลื่อนแม้แต่น้อย ส่วนทรวดทรงก็เป้นสปอร์ตสุดหรูตามแบบฉบับของรถยนต์เจ้านี้อยู่แล้ว

//upic.me/i/7m/santa-9.jpg (//upic.me/show/19520817) 9. Infinity Design Santa 's Sleigh ด้านค่ายรถยนต์ระดับพรีเมี่ยมของ nissan ดูจะเอากับเข้าด้วยและงานนี้เราแทบมองไม่ออกว่ามันคืออะไรบ้าง แต่จากที่ดูๆเลื่อนของแซนต้าค่ายนี้เหมือนเอา Essence supercar concept มาผสมกับ FX crossover ที่ดูอวกาศมากจนเราแทบมองไม่ออกกันเลยทีเดียว

//upic.me/i/kq/santa-10.jpg (//upic.me/show/19520819) 10. Aston Martin Design Santa 's Sleigh และแล้วในที่สุดเราก็มาถึงค่ายรถยนต์สปอร์ตสุดหรูจากยโรป ที่งานนนี้ aston Martin ขอนำเสนอเลือนหิมะรุ่นพิเศษ ที่ทั้งแรงและหรูตามแบบฉบับของค่ายนี้ แต่ดูๆแล้วมันเหมือนรูปทรงของจรวด แต่เอาเหอะ ก็ดูแปลกๆดีนะ เป็นอย่างไรกันบ้างกับเลื่อนหิมะเพื่อลุงแซนต้า จากหลากค่ายรถยนต์ ที่บ้างก็หลุดโลก บ้างก็ขายของกันจนเกินไป งานนี้ เราเข้าใจว่าของใหม่ย่อมมีเทคโนโลยีที่ดี แต่บางครั้งสิ่งเก่าๆ ก็สามารถชักชวนให้เห้นจิตวิญญาณของความบริสุทธิ์และเป้าหมายที่แท้จริงของสิ่งๆ นั้น ที่มา : automotto.org และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

30-12-2010, 08:46

วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ช่วงเช้า เปิด 13 เส้นทาง เลี่ยงรถติดปีใหม่ กทม.ฉลุยทั่วไทย ตามสูตรเลยกับช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่มีวันหยุดยาวติดต่อหลายวัน ปรากฏการณ์คนไทยแห่กลับบ้านและท่องเที่ยว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้น โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่มุ่งหน้าออกจากกรุงเทพฯ การจราจรมักติดขัดและใช้เวลาในการเดินทางมากกว่าปกติ ดังนั้น "ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์" จึงได้รวบรวมข้อมูลเส้นทางการจราจร ตั้งต้นกรุงเทพฯ ไปยังต่างจังหวัด จากทั้งตำรวจทางหลวง ตำรวจท้องที่ และกรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เสริมด้วยข้อมูลประสบการณ์ตรงของทีมข่าว เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนนำไปใช้ประโยชน์ ดังนี้ เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมี 6 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางถนนวงแหวนตะวัน ออก ลงช่วงต่างระดับธัญบุรีผ่าน อ.องครักษ์ถึงแยก อ.บ้านนา จ.นครนายก ไปยังอ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึงต่างระดับแก่งคอย จ.สระบุรี ใช้ถนนมิตรภาพ ผ่าน อ.มวกเหล็ก-อ.ปากช่อง มุ่งสู่ จ.นครราชสีมา 2. เส้นทางถนนรังสิต-นครนายก ผ่าน อ.ธัญบุรี อ.องครักษ์ อ.ปากพลี อ.ประจันตคาม อ.กบินทร์บุรี ใช้ถนนสายกบินทร์บุรี - นครราชสีมา ผ่าน อ.วังน้ำเขียว และ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา 3. เส้นทางถนนสุขุมวิท ผ่าน อ.บางบ่อ อ.บางปะกง ใช้ถนน กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ผ่าน อ.วัง น้ำเขียว อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา มุ่งหน้าภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 4. เส้นทางถนนพหลโยธิน บายพาส จ.สระบุรี ถนนพุแค-หล่มสัก มุ่งหน้าสู่ จ.ชัยภูมิ หรือ มุ่งหน้า จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก เพื่อเข้าสู่เส้นทางสายเหนือ 5. เส้นทางถนนพหลโยธิน อ.เมือง จ.สระบุรี ถนนพุแค-หล่มสัก มุ่งหน้า อ.ม่วงค่อม จ.ลพบุรี มุ่งหน้า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา หรือ จ.ชัยภูมิ ไป จ.ขอนแก่น อุดรธานี และหนอง คาย 6. เส้นทางถนนพหลโยธิน บายพาส จ.สระบุรีไปยัง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ถึงต่างระดับแก่งคอย ไปตามถนนมิตรภาพ ผ่านมวกเหล็ก-อ.ปากช่อง ถึงต่างระดับสีคิ้ว ไปตามถนนสาย 24 อ.โชคชัย อ.นองบุญมาก และอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ มี 2 เส้นทาง คือ 1. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐม ถนนวงแหวนตะวันตก ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี อ.หันคา-จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์ 2. เส้นทางถนนเพชรเกษม-นครปฐมถนนวงแหวนตะวันตก-ถนนรัตนาธิเบศร์ ขึ้นด่วนอุดรรัตยา-ลงด่วนบางปะหัน ใช้ถนนสาย 347 มุ่งออกถนนสายเอเชียที่ต่างระดับบางปะหัน หลักกิโลเมตรที่ 35 มุ่งหน้า จ.อ่างทอง จ.ชัยนาท จ.นครสวรรค์

สำหรับเส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาค ตะวันออก มี 3 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางขึ้นด่วนบางนา ขึ้นยกระดับบูรพาวิถี ผ่าน อ.บางพลี อ.บางปะกง จ.ชลบุรี มุ่งสู่ภาคตะวันออก 2. เส้นทางด่วนศรีนครินทร์ ถนนมอเตอร์เวย์ มุ่งหน้าสู่ภาคตะวันออกและ 3. เส้นทางถนนวงแหวนตะวันออก ถนนสุขุมวิท ไปวงแหวนตะวันตก อ.พระประแดง ถนนพระราม 2 แยกวังมะนาว ถนนเพชรเกษม

เส้นทางมุ่งหน้าสู่ภาคใต้มี 2 เส้นทาง ได้แก่ 1. เส้นทางถนนบรมราชชนนี ถนนพุทธมณฑล แยกนครชัยศรี ถนนเพชรเกษม มุ่งสู่ภาคใต้ 2. เส้นทางด่วนดาวคะนอง ถนนพระราม 2 มุ่ง จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม แยกวังมะนาว และถนนเพชรเกษมมุ่งหน้าภาคใต้ ล่าสุดพล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล. เปิด เผยว่าเพื่อรณรงค์แผนป้องกันและลดอุบัติเหตุ บนทางหลวง 76 จังหวัดทั่วไทยในช่วงปีใหม่ 2554 ตำรวจทางหลวง ร่วมกับกรมทางหลวง และบริษัท โททาออยล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดโครงการ “ถนนปลอดภัย ชาวไทยร่วม มือ ตำรวจถืออุดมคติ” ขึ้น นี้ โครงการดังกล่าว จะเน้นดูแลประชาชน ที่เดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ และป้องกันอุบัติ เหตุบนทางหลวง มีการเตรียมสถานีที่เป็นทั้ง จุดพักรถ ตรวจสภาพรถ และหน่วยหมอถนน ที่คอยช่วยเหลือระหว่างเดินทาง ขณะเดียวกัน จะมีการแจกใบสั่งให้มากที่สุด แต่เป็นใบสั่งผ้าเย็นไว้คอยบริการประชาชนผู้ขับขี่บนท้องถนนตามจุดพักรถต่างๆ และสถานีตำรวจทางหลวง 41 แห่งทั่วประเทศ. ที่มา : thairath.co.th และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

30-12-2010, 14:07

วันที่ 30 ธันวาคม 2553 ช่วงบ่าย //upic.me/i/8g/37075ab6f32d2790346f74544ec2c6cf.jpg (//upic.me/show/19539569) เตือน 15 เส้นทางอันตราย…ช่วงปีใหม่ กรมทางหลวงเปิดจุดเสี่ยง 15 เส้นทางอันตรายที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งในช่วงปีใหม่ พร้อมแนะเส้นทางเลี่ยงหนีรถติดสู่ทุกภาค นายวีระ เรืองสุขศรีวงศ์ อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงทั่วประเทศ ตรวจสภาพพื้นผิวจราจร และป้ายบอกทางต่างๆ รวมทั้งแสงไฟส่องสว่าง เพื่อรองรับประชาชนเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะจุดเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้เฝ้าระวังเป็นพิเศษ 15 เส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด สำหรับเส้นทางที่เกิดอุบัติสูงสุดคือ ทางหลวงหมายเลข 3 ตอนป่าเตียน - สี่แยกเข้าจันทบุรี ทางหลวงหมายเลข 306 ตอนแคราย - สะพานคลองบ้านใหม่ เกิดอุบัติเหตุพื้นที่ละ 10 ครั้ง ทางหลวงหมายเลข 1 ตอนคลองขุม - นครชุม ทางหลวงหมายเลข 3บางนา - สะพานคลองด่านฝั่งตะวันตก และคลองไผ่ - ต่อทางเทศบาลระยอง ทางหลวงหมายเลข 32 นครหลวง - ทางแยกต่างระดับอ่างทอง ทางหลวงหมายเลข 101 เวียงสา - ต่อเขตเทศบาลเมืองน่าน เกิดอุบัติเหตุพื้นที่ละ 7 ครั้ง รวมทั้งทางหลวงหมายเลข 1 นครชุม - วังเจ้า ทางหลวงหมายเลข 2 บ้านไผ่ - ทางพระ ทางหลวงหมายเลข 4 ตลาดเก่า - ทาง แยกเข้าลำทับ ทางหลวงหมายเลข 32 ทางแยกเข้าสิงห์บุรี - โพนางดำออก ทางหลวงหมายเลข 41 ท่าประจะ - บรรจบทางหลวงหมายเลข 4 พัทลุง ทางหลวงหมายเลข 101 กม.184 ต่อเขตแขวงแพร่ - เวียงสา ทางหลวงหมายเลข 340 สาลี ต่อเขตแขวงกาญจนบุรี - สุพรรณบุรี ทางหลวงหมายเลข 4133 แยกทางหลวงหมายเลข 401 พุนพิน- ควนสามัคคี นอกจากนี้ยังจัดทำแผนที่แนะนำเส้นทางลัดเส้นทางเลี่ยงไปยังภาคต่าง ๆ เพื่อแจกตามสถานที่ต่าง ๆ โดยประชาชนที่สนใจติดต่อได้ที่สายด่วน 1586 ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์ และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

11-01-2011, 10:26

ข่าววันที่ 11 มกราคม 2554 ช่วงเช้า //upic.me/i/sz/2008-honda-fit-02.jpg (//upic.me/show/19864320) Honda เตรียมเรียกรถคืน City ZX เข้าข่าย ผู้ใช้รอรับจดหมายฯกลางกุมภาพันธ์นี้ หลังจากที่มีข่าวการเรียกรถคืนกว่า 2.3 ล้านคันของ Toyota ในสหรัฐอเมริกาที่ลามไปถึงฝั่งยุโรปในสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังดูเหมือนไกลตัวเพราะ Toyota ประเทศไทยไม่ได้ออกมายืนยันหรือยอมรับว่ารถที่จำหน่ายในเมืองไทยมีปัญหาด้วยหรือไม่ อย่างไร ในทางทฤษฎีแล้วจึงถือว่ายังไม่มีปัญหาใดๆ ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะว่าใช้สายการผลิตต่างที่กัน ผลกระทบจึงเกิดขึ้นเฉพาะกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามล่าสุด Honda ออกมาประกาศเรียกรถคืนทั่วโลกทั้งหมด 646,000 คัน เป็นรถรุ่น Fit Hatchback ที่ใช้ชื่อรุ่นว่า Jazz และ City ในตลาดต่างๆรวมถึงในบ้านเรา ในจำนวนรถที่มีปัญหานี้ มี 140,000 คันที่ต้องเรียกคืนในสหรัฐอเมริกา ที่เหลือเป็นจำนวนที่ต้องเรียกคืนในอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกาใต้ และเอเชีย รวมถึงบ้านเราที่ Honda ประเทศไทยได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะมีจดหมายเรียกรถคืนประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เนื่องจากต้องรออะไหล่เพื่อทำการเปลี่ยนแปลงทดแทน โดยรุ่นที่มีปัญหาคือ Jazz รุ่นปี 2008 และอาจจะมีพ่วงด้วย City ZX อีกไม่ต่ำกว่า 2,000 คัน (จำนวนและรุ่นที่แน่นอนกรุณายืนยันกับทาง Honda ประเทศไทย) สาเหตุที่ต้องทำการเรียกคืนเนื่องจากกลไกของกระจกไฟฟ้าฝั่งคนขับมีปัญหาที่ทำให้น้ำฝนสามารถไหลเข้ามาได้ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนอาจจะทำให้รถเกิดเพลิงไหม้ได้ ซึ่งในแอฟริกาใต้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วหนึ่งราย จริงๆแล้วการเรียกรถคืนมีอยู่เรื่อยๆโดยเฉพาะในต่างประเทศ ส่วนจะเป็นข่าวดังมากแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของปัญหา ซึ่งในช่วงนี้ใครใช้รถรุ่นดังกล่าวก็ควรระมัดระวังในการขับขี่โดยเฉพาะการขับในช่วงที่มีฝนตก ยังไงก็ไม่ควรประมาทนะครับ ภาพประกอบคือ Honda Fit ปี 2008 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ครับ ที่มา : Reuters และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

11-01-2011, 14:54

วันที่ 11 มกราคม 2554 ช่วงบ่าย //upic.me/i/io/y9s01.jpg (//upic.me/show/19868034) 4เรื่องที่ควรรู้ก่อนรัฐตัดหามดีเซล B2 ทุกวันนี้ที่เราต่างกังวลกับพลังงานที่จะมาใช้ขับเคลื่อนรถยนต์นั้น พลังงานทางเลือกถือเป็นแนวทางใหม่ที่ดูจะปฏิเสธไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดในสิ้นสัปดาห์นี้ ภาครัฐเตรียมที่จะดีเดย์ให้ทุกปั้มยกเลิอกการจำหน่ายน้ำมันดีเซลหมุนเร็วหรือ ดีเซล B2 แล้วทดแทนด้วย B5 ทั่วประเทศ หลังจากที่เลลื่อนมาแล้วครั้งหนึ่ง คงถึงเวลาที่เราคนไทยต้องทำใจยอมรับ และเตรียมพร้อมให้ทันท่วงที มีคนจำนวนมากที่คิดว่ารถตัวเองไม่สามารถเติมน้ำมัน B5 ได้เนื่องจากคิดว่าจะมีผลเสียต่อเครื่องยนต์ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนคอช่างที่ชอบเปรียบเทียบกันต่างๆ นานา และนำมาบอกกล่าวโดยไม่ได้คำนึงถึงข้อเท็จจริง ซึ่งทำให้เข้าใจผิด และอันที่จริงน้ำมันทั้ง 2 ก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก การประกาศยกเลิกจำหน่ายน้ำมันดีเซล B2 ที่กำลังจะมาถึงในเร็วนั้น กลุ่มผุ้ใช้รถที่จะได้รับผลกระทบส่วนใหญ่นั้นคงไม่พ้นคอกระบะที่ฮอตฮิตอย่างมากในบ้าน เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิง่ที่หลายคนเข้ามาไถ่ถามเราเกี่ยวกับน้ำมัน B5 ว่า รถกระบะรุ่นใหม่อย่างคอมมอนเรลนี้สามารถใช้ได้หรือเปล่า ทำให้วันนี้เห็นทีเราต้องมาพูดคุยกันอย่างจริงจัง 1. เข้าใจธรรมชาติ ดีเซล B5 นี่เป็นเรื่องแรกที่สำคัญ เพราะก่อนคุณใช้งานสิ่งใด ก็ควรจะต้องรู้ลึกรู้จริงก่อนใช้งานจึงจะถูกต้อง หลายคนหวาดหวั่นกับน้ำมัน B5 ที่อาการนี้ก็คล้ายๆกับที่เคยเกิดตอนเมื่อ 5-6 ปีที่แล้วที่แก๊สโซฮอลเพิ่มเข้ามาสู่คลาดพลังงาน น้ำมันดีเซล B5 นั้นไม่ได้มีข้อแตกต่างอะไรจากน้ำมันดีเซล B2 ที่เราใช้งานอยู่กันปัจจุบัน นอกจากส่วนผสมทางด้านไบโอดีเซลที่มีปริมาตรเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐมีนโยบายให้ผู้ผลิตต้องผสมน้ำมันไบโอดีเซลในเนื้อน้ำมัน 2% หรือว่าง่ายๆ เราใช้ B2 กันมาสักพักใหญ่แล้ว ซึ่งในส่วนของ B5 จะมีส่วนผสมน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้นอีกจากปกติ 3% ทำให้ราคาจำหน่ายถูกลงกว่าเดิมอีกประมาณ 70 สตางค์ แต่ยังให้คุณสมบัติเหมือนเดิม และยังเพิ่มการหล่อลืนซึ่งมาจากคุณสมบัติขิงน้ำมันไบโอดีเซล 2. เครื่องดีเซลไหนๆ ไร้กังวล เราไม่ได้มาสร้างภาพ แต่จากประสบการณ์ของเราเองขอบอกว่า ดีเซลB5 ไม่ได้แตกต่างจากดีเซลธรรมดาทั่วไปนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ใช้รถใหม่แล้วกังวลว่า B5 จะไม่สามารถเติทได้นั้น ขอแนะนำว่าอย่าคิดเอาเอง ให้ทดลองใช้แล้วจะรู้ เพราะน้ำมันดีเซล B5 นั้นสามารถใช้ได้กับทุกเครื่องยนต์ดีเซล โดยไม่จำเป็นต้องปรับแต่งเครื่องยนต์ใดๆ หรือ ถ้าให้มั่นใจ ลองเข้าศูนย์บริการไปสอบถาม และตั้งข้อมูลระบบสั่งการและจุดระเบิด ก็สมควรอยู่ 3.หัวฉีด เรื่องสำคัญที่ต้องดูแล เราไม่ปฏิเสธว่าน้ำมันดีเซล B5 มีส่วนผสมที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะรถกลุ่มหัวฉีดไฟฟ้าหรือคอมมอนเรล ที่หลายคนกังวลกันนักหนา ความจริงแล้วโดยปกติเราจำเป็นที่จำต้องหมั่นทำความสะอาดหัวฉีดเป็นประจำ ดดยการเติมหัวเชื้อหรือน้ำยาทำความสะอาดหัวฉีดไปกับน้ำมันเชื้อเพลิง ที่จะช่วยชะล้างคราบเขม่าสกปรกในระบบได้ 4.รู้จักวิธีขับรถเครื่องยนต์ดีเซลที่ถูกต้อง เราไม่ได้อยากสอน แต่มีคนจำนวนมากไม่เข้าใจขับรถดีเซลแบบผิด ซึ่งทำให้มีการสิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ และเป้นต้นตอของความไม่เข้าใจ เครื่องยนต์ดีเซลแตกต่างจากดครื่องยนต์เบนซิน โดยสิ้นเชิง และเป็นเครื่องที่ให้แรงบิดดีในรอบต่ำ ทำให้ไม่จำเป็นต้องลากรอบสูงในการเร่ง โดยเฉพาะปัจจุบันที่ได้รับการติดตั้งระบบอัดอากาศหรือเทอร์โบมาด้วย ทำให้เครื่องดีเซลมีสมรรถนะที่ดีในการขับขี่ยิ่งขึ้น ซึ่งการขับขี่รถดีเซลนั้นไม่จำเป็นต้องเหยียบแบบแช่เพื่อเร่ง แต่เมื่อทำความเร็วได้ตามต้องการก็สามารถผ่อนและเลี้ยงคันเร่งได้ ทั้งหมดนี้ 4 ข้อนี้ เป้นเรื่องที่คุณควรรู้ก่อนที่รัฐกำลังจะเปลี่ยนดีเซลทั้งประเทศไปใช้ B5 ซึ่งเราหวังว่า การที่ทุกคนได้เข้าใจอะไรมากขึ้นอาจช่วยให้รู้ถึงการขับขี่ที่ถูกต้องกับพลังงานทางเลือกใหม่ที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เราคิด ที่มา : auto.sanook.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

12-01-2011, 11:53

ข่าววันที่ 12 มกราคม 2554 //upic.me/i/5f/mitsubishi-02.jpg (//upic.me/show/19888965)

Mitsubishi Motors เดือนธันวาคมยอดทะลุ 5 พันคัน ดันยอดปี 2553 ขายดีเป็นดับเบิ้ล มร.โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ทำยอดจำหน่ายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่สูงกว่า 5,000 คันเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2548 โดยมียอดจำหน่าย 5,424 คัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดจำหน่ายในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจำหน่ายรวมของปี 2553 สูงกว่าปีก่อนถึงสองเท่าตัว คือ 39,549 คัน บรรลุเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดที่ตั้งไว้ 5% ขณะที่ยอดการส่งออกก็เพิ่มขึ้น 66% อยู่ที่ระดับมากกว่า 180,000 คัน ปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดจำหน่ายในประเทศสูงขึ้นนี้ มร.มูราฮาชิ มองว่าเกิดจากการที่บริษัทฯ นำเสนอรถยนต์ที่มีความหลากหลาย ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะรุ่นที่เป็นพลังงานทางเลือกทั้ง CNG และ E85 รวมถึงความเชื่อมั่นของประชาชน ต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ยอดจำหน่ายในประเทศ กลุ่มรถยนต์ 2553 2552 เติบโต (%) รถยนต์นั่ง 8,333 4,229 97% ระกระบะ และ PPV 31,216 15,397 102.7% รวม 39,549 19,626 101.5% สำหรับการส่งออกของบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมาสามารถทำยอดได้มากกว่า 180,000 คัน (รวม BU และ CKD) หรือเติบโตขึ้น 66% จากปีก่อน (108,896 คัน) ซึ่งตลาดส่งออกที่ดีได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียนและยุโรป ในขณะที่ยอดการผลิตรวมตลอดปี อยู่ที่ระดับ 197,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 98% จากปีก่อน (99,208 คัน) มร. มูราฮาชิ ประมาณการว่า ในปีที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ของประเทศไทยน่าจะอยู่ที่ระดับ 780,000 คัน เพิ่มขึ้นถึง 47% จากปีก่อนหน้า (531,282 คัน) อันเนื่องมากจากการขยายตัวของเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางด้านการเมือง และความมั่นใจของผู้บริโภคในการจับจ่ายใช้สอย นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่าตลาดรถยนต์รวม จะขยายตัวต่อเนื่องในปี 2554 ด้วยอัตราเติบโตประมาณ 4-5% สอดคล้องกับระดับ GDP ซึ่งจะทำให้ตลาดรถยนต์ในประเทศจะมีขนาดประมาณ 820,000 คัน โดยมองเห็นปัจจัยสนับสนุนจาก การขึ้นเงินเดือนของข้าราชการ การขยายตัวของการลงทุนทางธุรกิจ รวมถึงการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ของหลายค่าย ที่กระตุ้นให้ตลาดมีความคึกคักยิ่งขึ้น ในส่วนของมิตซูบิชินั้น วางเป้าหมายส่วนแบ่งตลาดที่ 6% หรือประมาณ 50,000 คัน ที่มา : motortrivia.com และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

12-01-2011, 15:30

ข่าววันที่ 12 มกราคม 2554 ช่วงบ่าย //upic.me/i/6g/honda-fit-shuttle-01.jpg (//upic.me/show/19892663) //upic.me/i/3k/honda-fit-shuttle-02.jpg (//upic.me/show/19892667) //upic.me/i/nb/jazz5.jpg (//upic.me/show/19892674) Honda Fit Shuttle มุขใหม่ลุยตลาดรถเล็ก ช่วงนี้กระแสโลกไซเบอร์มาเร็วทันใจและล่าสุด Honda งัดมุขใหม่ เตรียมลงเค้นตลาดรถเล็กอีกครั้งกับ Honda Fit Shuttle ที่มันเป็นรุ่นใหม่ ที่มีความเชื่อว่าน่าจะเป็นตัว Station Wagon ของ Honda Fit ที่น่าจะลงตลาดในช่วงปลายปีนี้ หรืออย่างช้าคือในปีหน้า ที่ยังไม่มีการยืนยันว่าจะเข้ามาตีตลาดบ้านเราด้วยหรือไม่ ในขณะนี้ honda fit shuttle ยังไม่มีรายละเอียดมากมายนัก นอกจากภาพหลุดที่ได้รับการอ้างอิงจากเว็บไซต์เมืองญี่ปุ่นว่า นี่คือภาพจากโบว์ชัวร์ของรถ โดยแสดงถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งภายนอก และภายใน แต่ยังไม่มีรายละเอียดทางเทคนิค ที่จะให้เราได้ทราบกัน อย่างไรก็ดี จากภาพที่ได้มา เราเชื่อว่า Fit Station Wagon หรือ Fit Shuttle นี้ น่าจะได้รับการขยายสัดส่วนภายในห้องโดยสาร อีกเล็กน้อย ซึ่งน่าจะมีความยาวเพิ่มขึ้น และหลังคาที่สูงขึ้น ส่วนจำนวนที่นั่ง ยังไม่มีการยืนยัน อย่างชัดเจน การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญหนึ่ง คงๆไม่พ้น บั้นท้าย ที่ดูเหมือน Honda จะพยายามตอบโจทย์ รถนั่งสำหรับครอบครัวขนาดเล็กมายิ่งขึ้น ด้วยการเฉาะเสา C ลดลง และเพิ่มกระจกบานใหญ่มาแทน ซึ่งนอกจากนี้มีรายงานว่า เรื่องขุมพลังจะมาพร้อม 2 ทางเลือกตามต้องการตอบสนองลุกค้า ด้วยขุมพลังไฮบริด 1.3 ลิตร หรือถ้าชอบแบบธรรมดาก้มาพร้อมเครื่องยนต์ 1.3 และ 1.5 ลิตรให้เลือกใช้ได้ตามต้องการ ทั้งนี้ Honda fit Shuttle มีรายงานจากสื่อในประเทศญี่ปุ่นว่า รถรุ่นนี้จะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ส่วนเมืองไทยบริษัท ฮอนด้า ยังไม่ออกมาเปิดเผยถึงความเป้นไปได้ แต่มีบางดระแสกล่าวว่า Honda เตรียมที่จะส่ง Honda Jazz Minorchange ลงตลาดในช่วงเวลาเดียวกัน และสามารถติดตาข่าวสารรถยนต์อื่นๆได้ที่ facebook ของเราครับ //www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

18-01-2011, 15:23

ข่าววันที่ 18 มกราคม 2554 //upic.me/i/71/mitsubishi-pajero-sport-triton-01.jpg (//upic.me/show/20049672)

//upic.me/i/wm/mitsubishi-pajero-sport-triton-04.jpg (//upic.me/show/20049674)

//upic.me/i/75/mitsubishi-pajero-sport-triton-11.jpg (//upic.me/show/20049677)

//upic.me/i/z9/mitsu-pajero-triton-01-sm.jpg (//upic.me/show/20049678) เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต / มิตซูบิชิ ไทรทัน มาพร้อมเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แรงตั้งแต่ต้นปี เปิดตัว มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต และ มิตซูบิชิ ไทรทัน ชูจุดเด่นเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ เตรียมลงโชว์รูมมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ เริ่มจำหน่าย 15 มกราคม 2554 เป็นต้นไป พร้อมดึงนักร้องขวัญใจชาวร๊อค ตูน บอดี้สแลม หรือ อาทิตวราห์ คงมาลัย เป็นพรีเซ็นเตอร์ มิตซูบิชิ ไทรทัน ปาเจโร สปอร์ต และ ไทรทัน มาพร้อมสมรรถนะจากเครื่องยนต์ใหม่ 2.5 วีจี เทอร์โบ ที่มาพร้อมนิยาม 'แรงจัดประหยัดเหนือชั้น' โดยจะติดตั้งใน ปาเจโร สปอร์ต ทุกรุ่น ส่วน ไทรทัน จะติดตั้งในรุ่น ดับเบิ้ลแค็บ พลัส GLS เกียร์อัตโนมัติ และ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ GLS-Limited มีเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติให้เลือก ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ที่มีเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุดถึง 178 แรงม้า "บริษัทฯ เชื่อว่า ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ จะสามารถตอบสนองลูกค้า ทั้งด้านความหรูหราและประโยชน์ใช้สอยที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ ไทรทัน ใหม่ จะได้รับการตอบรับเพิ่มขึ้น ทั้งจากกลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถกระบะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเพื่อการพาณิชย์ ทั้งนี้บริษัทฯ ยังได้เตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายต่อเนื่อง พร้อมๆ ไปกับการยกระดับการดำเนินงานของผู้จำหน่าย ทั้งด้านงานขาย และการบริการหลังการขายควบคู่กันไป" มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต Absolute Riding-On-Demand ปาเจโร สปอร์ต รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ยังคงมาพร้อมแนวคิด More Utility on Demand ความสมบูรณ์แบบที่ตอบทุกไลฟ์สไตล์ เพิ่มความสะดวกสบาย และหรูหรายิ่งขึ้น ในขณะที่รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม เหมาะกับผู้ที่มองหารถที่ให้ทั้งกำลัง และสมรรถนะ เพื่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน และการเดินทางไปในทุกที่สำหรับวันพักผ่อน ตามแนวคิด Performance on Demand สมรรถนะที่ตอบทุกความต้องการ เครื่องยนต์ล่าสุด ดีเซล 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800-3,500 รอบต่อนาที ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการกำลังและความประหยัดในเวลาเดียวกัน ระบบ Super - Select 4WD (SS4) เลือกขับได้ทั้ง 4WD และ 2WD เทคโนโลยีที่ถูกถ่ายทอดมาจาก มิตซูบิชิ ปาเจโร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อมระบบ Sportronic ตอบสนองได้รวดเร็ว สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยรุ่น GT ขับเคลื่อน 4 ล้อ จะติดตั้งระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift มาให้ด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ตอบสนองความต้องการ สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและเพื่อการพาณิชย์ รุ่น ดับเบิ้ลแค็บ พลัส, รุ่น GLS เกียร์อัตโนมัติ, ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ รุ่น GLS-Limited ทั้งเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ มากับเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ มาพร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ ให้กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที รุ่นเกียร์ธรรมดาแรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000-2,800 รอบต่อนาที ในขณะที่เกียร์อัตโนมัติ แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร ที่ 1,800 - 3,500 รอบต่อนาที ตอบรับกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ต้องการรถที่ให้ทั้งพละกำลังและประหยัดน้ำมัน ไทรทัน รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ รุ่น GLS-Limited เกียร์อัตโนมัติ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัจฉริยะ 5 จังหวะ Sportronic เลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ ตามความต้องการ รุ่นดับเบิ้ลแค็บ กระบะท้ายดีไซน์ใหม่ แบบตัดตรง ยาวขึ้น 180 มิลลิเมตร สูงขึ้น 57 มิลลิเมตร ช่วยเพิ่มปริมาตรการบรรทุก ตอบโจทย์ลูกค้าที่ใช้รถเพื่อการพาณิชย์ได้มากยิ่งขึ้น เพราะนอกจากจะใช้เพื่อการบรรทุกได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังนำมาใช้งานในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว ไม่ต่างจากรถยนต์นั่งทั่วไป รุ่นซิงเกิ้ลแค็บ, เมกะแค็บ, ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 2 ล้อ และ เมกะแค็บ พลัส GLX ติดตั้งเครื่องเสียงใหม่ รองรับการเล่นไฟล์ MP3 มีช่อง AUX in และพอร์ท USB ส่วนรุ่น เมกะแค็บพลัส GLS และดับเบิ้ลแค็บพลัส สามารถเล่น DVD ได้ พร้อมจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว รุ่นเมกะแค็บพลัส, ดับเบิ้ลแค็บ พลัส และ ดับเบิ้ลแค็บ ขับเคลื่อน 4 ล้อ กระจกมองข้างปรับ - พับไฟฟ้า ส่วนกุญแจรีโมท (Keyless) ติดตั้งในไทรทันทุกรุ่น ยกเว้นรุ่นซิงเกิ้ลแค็บ และรุ่น GLS ขึ้นไป มีระบบอิมโมบิไลเซอร์ให้ นอกจากนี้ ไทรทัน ก็ผ่านมาตรฐานมลพิษระดับ 3 ในไทย และรองรับมาตรฐานมลพิษระดับ 4 ของยุโรป ด้วยระบบ EGR เช่นกัน ที่มา : motortrivia.com

Aeroklas

21-01-2011, 09:21

วันที่ 21 มกราคม 2554 ช่วงเช้า //upic.me/i/vq/166804_495793589527_295233259527_5852056_2088540_n.jpg (//upic.me/show/20118630) //upic.me/i/9e/167137_495794569527_295233259527_5852071_5483776_n.jpg (//upic.me/show/20118633) //upic.me/i/4r/168051_495793744527_295233259527_5852058_3369862_n.jpg (//upic.me/show/20118635) มหกรรมงานโชว์รถอันยิ่งใหญ่ "Tokyo Auto Salon" ที่ญี่ปุ่น เพิ่งจะจบงานไปเองสำหรับงาน Tokyo Auto Salon 2011 ซึ่งจะยิ่งใหญ่คล้ายๆกับงาน Motor Show ของบ้านเรา ซึ่งของเขาได้จัดที่ ศูนย์จัดงานแสดง Makuhari Messe ในเมือง Chiba ประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 14 มกราคม – 16 มกราคม 2554 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา งาน Tokyo Auto Salon นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังอันน่าตื่นตาตื่นใจกันอยู่ในหลายๆเรื่อง เรื่องแรกสุดเลยคือเทคโนโลยียานยนต์สุดเจ๋งที่มารวมตัวกันในงานมากมายหลายยี่ห้อ อย่างที่สองก็เป็นสีสันที่ไม่ว่าประเทศไหนก็มีคือน้องๆ “พริตตี้” นั่นเอง ถึงแม้ว่าแต่ละปีจะมีงานแสดงรถยนต์มากมายในโตเกียว แต่งาน Auto Salon นั้นเป็นงานที่นำพริตตี้สาวงามมาเป็นจำนวนมากกว่างานอื่นๆ จึงทำให้ตากล้องทั้งมือเก่า มือใหม่ มือคัน ชาวญี่ปุ่นเป็นจำนวนนับพันๆ ราย แห่กันออกมาเก็บภาพสาวพริตตี้กันโดยเฉพาะ แต่อย่าเพิ่งดูพริตตี้กันเพลินจนลืมดูรถที่มาโชว์ตัวกันในงานนี้ซะก่อน เพราะอีก Hilight สำคัญนอกจากจะมีรถเก่าสุดคลาสสิค รถแข่งสุดแรง และรถแต่งสุดจ๊าบแล้ว ในงานปีนี้ยังมีความพิเศษที่มีโชว์าการตกแต่งรถที่เพ้นท์ด้วยลวดลายการ์ตูนต่างๆที่จัดจ้านสไตล์ญี่ปุ่น ถือได้ว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผู้ที่รักรถอย่างแท้จริงครับ ที่มา : .hollyheadmag.com และสำหรับปีนี้เราได้ส่งทีมงานไปเก็บภาพบรรยากาศงาน Tokyo Auto Salon ถึงแดนปลาดิบกันเลยทีเดียว รอชมภาพบรรยากาศงานได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/mhkrrm-ngan-chow-rth-xan-ying-hiy-tokyo-auto-salon-thi-yipun/187527514599698 ของเรากันนะครับ _

Aeroklas

21-01-2011, 09:22

Aeroklas

24-01-2011, 10:28

วันที่ 24 มกราคม 2554 ช่วงเช้า //upic.me/i/08/toyota.jpg (//upic.me/show/20211953)

ตลาดรถยนต์ปี 2553 ยอดขายรวม 800,357 คัน เพิ่มขึ้น 45.8% โตโยต้า คาดปี 2554 เติบโตต่อเนื่อง ยอดขายรวม 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% มร.เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แถลงสถิติการจำหน่ายรถยนต์ประจำปี 2553 มีปริมาณการขาย 800,357 คัน เพิ่มขึ้น 45.8% คาดตลาดรถยนต์ไทยปี 2554 เติบโต มียอดขาย 860,000 คัน เพิ่มขึ้น 7.4% พร้อมตั้งเป้าหมายการขายรถยนต์โตโยต้าทุกรุ่น 360,000 คัน เพิ่มขึ้น 10.4% ครองส่วนแบ่งตลาด 42% มร.ทานาดะ กล่าวว่า “ปีที่ผ่านมานับเป็นปี แห่งการทำสถิติใหม่ของตลาดรถยนต์ จากยอดขายตลาดรวมที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 800,357คัน เพิ่มขึ้น 45.8% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยรถยนต์นั่ง เพิ่มขึ้น 50.7% และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ เพิ่มขึ้น 42.3% เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจ โดยรวม การไหลเข้าของเงินทุน ที่ทำให้มีปริมาณเงินในระบบมากขึ้นในขณะที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งส่งผลดีต่อการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ รวมถึงความนิยมในตลาดรถยนต์นั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถยนต์นั่งขนาดเล็ก การแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่ และรุ่นพิเศษ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี

โดยโตโยต้าได้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในทุกๆด้านเช่นกัน ทั้งจากยอดขายในประเทศรวมทั้งสิ้น 326,007 คัน ซึ่งเป็นสถิติยอดขายใหม่ ทั้งในตลาดรถยนต์นั่ง และรถกระบะขนาด 1 ตัน โดยรถยนต์นั่ง มียอดขาย 141,733 คัน รถกระบะขนาด 1 ตันมียอดขาย 164,795 คัน ซึ่งเป็นยอดขายสูงสุดต่อเนื่องเป็นปี ที่ 6ของทั้ง 3 ตลาด (Triple Crown) ทั้งจากการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้าได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป ด้วยยอดรวม ที่ 334,124 คัน เพิ่มขึ้นถึง 40% คิดเป็นมูลค่า 140,495 ล้านบาท ตลอดจนการส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 49,086 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 189,581 ล้านบาท” สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

31-01-2011, 13:31

ข่าววันที่ 31 มกราคม 2554 //upic.me/i/y6/167532_499482629527_295233259527_5901980_2451819_n.jpg (//upic.me/show/20406269)

//upic.me/i/cz/53untitled.jpg (//upic.me/show/20406272)

//upic.me/i/81/166680_499483279527_295233259527_5901984_7401911_n.jpg (//upic.me/show/20406267) มูลนิธิเด็กในสหรัฐใจปล้ำเปิดชั้นเรียนงัดแงะรถยนต์ !! ทีแรกก็เป็นเรื่องไม่น่าเชื่อ แต่นี่เป็นเรื่องจริง ที่กำลังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐอเมริกา เมื่อมูลนิธิไม่หวังผลกำไร ที่ชื่อ Machine Project กำลังมีหลักสูตรใหม่ที่ได้รับความสนใจกับการสอนเด็กให้รู้จัก "การขโมยรถยนต์" นี่เป็นเรื่องที่ชวนงงงวยว่าทุกวันนี้ไม่มีไรดีกว่านี้ที่จะสอน ทว่าหลักสูตรการขโมยรถที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงจังอย่างมาก ภายใต้ หัวข้อ "The Good Kids' Guide to Being a Bit Bad: Cars edition." ซึ่งจะมีการสอนให้เด็กๆที่สนใจเข้าร่วมการอบรม รู้จักวิธีการขโมยรถตั้งแต่ต้นจนจบ โดยในชั้นเรียนนั้น นอกจากจะมีเด็กแล้ว ยังอนุญาตให้ผู้ปกครองของเด็กๆสามารถเข้าร่วมรับฟังได้อีกด้วย โดยรับเพียงครั้งละ 7 ครอบครัวเท่านั้น สำหรับหลักสูตรที่จะสอนใรโครงการนี้ จะมีทุกกระบวนการในการขโมยรถ เริ่มตั้งแต่ ทำอย่างไรจะเข้าไปยังในรถ รวมถึงการสะเดาะกุญแจประตูรถ ต่อด้วยการเรียนรู้วิธีการต่อสายตรงสตาร์ทรถ (hotwire) และนอกจากนี้ในหลักสูตร ยังมีการเปิดฝากระโปรงท้ายรถได้ด้วยตัวเองเมื่อติดอยู่ในฝากระโปรงท้าย ทั้งนี้ในรายะเอียดไม่ได้มีการบ่งบอกถึงค่าใช้จ่ายในการเรียนหลักสูตร ดังกล่าวแต่ถ้าคุณอยากให้ลูกรู้เรื่องรถแบบที่ไม่เหมือนใคร บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่แปลกๆแต่ก็ดีที่พวกเขาจะได้เรียนรู้อย่างถูกทาง ที่มา : auto.sanook.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

31-01-2011, 15:19

ข่าววันที่ 31 มกราคม 2554 //upic.me/i/hy/sat2m.jpg (//upic.me/show/20406658) Toyota ประเดิมต้นปีเรียกคืน Lexus 1.7 ล้านคันทั่วโลก เริ่มกันตั้งแต่ช่วงปลายปีเลยทีเดียว สำหรับ สงครามรีคอลล่าสุดที่ครั้งนี้เป็นคิวของยอกค่ายรีคอลแห่งยุค toyota ที่ครั้งนี้ มาพร้อม ในแบรนด์รถหรูพรีเมี่ยม Lexus ครั้งนี้อาจจะเป็นคำพูดถึงคำว่าเรียกคืนอีกครั้ง แต่ดุเหมือนมันจะต่างออกไป เมื่อค่ายรถยนต์ toyota ออกมาอาสาเรียกคืนรถยนต์กลับไปแก้ไขเอง โดยไม่ได้มีคำสั่งเรียกคืนที่เกี่ยวข้องจากหน่าวยงานของรัฐบาลแต่อย่างใด การเรียกคืนครั้งล่าสุดนี้ toyota ระบุว่า ทางบริษัทได้พบปัญหาในรถยนต์หรูของค่าย Lexus ที่มีปัญหาในเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิงรั่ว เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานๆ ซึ่งมาจากขั้นตอนการประกอบเซนเซอร์แรงดันเข้ากับเครื่องยนต์ที่ได้รับการไขติดตั้งไม่แน่พอ ทำให้ เมื่อใช้ไปเป็นระยะเวลานานๆ จะก่อให้เกิดการรั่วไหลของน้ำมันเบนซินและยังส่งผลต่ออัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของรถอีกด้วย สำหรับการรีคอลครั้งใหม่นี้ มีรถที่จะต้องถูกเรียกคืนทั่วโลกจำนวนกว่า 1.5 ล้านคัน โดยมีรถทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกัน คือ Lexus GS350 และ GS300 โฉมปี 2006-2007 ,Lexus IS250 โฉม 2006-2009 และ Lexus IS 350 โฉม 2006-2008 ทั้งนี้ใครที่ใช้รถรุ่นดังกล่าวสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีคอลได้ที่ www.lexus.com/recall (//www.lexus.com/recall). หรือสอบถามไปยัง Lexus ประเทศไทยได้เลย ที่มา : auto.sanook.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

01-02-2011, 08:28

ข่าววันที่ 1 กุมภาพันธ์ ช่วงเช้า

//upic.me/i/oy/166368_500041954527_295233259527_5907752_578510_n.jpg (//upic.me/show/20406701) //upic.me/i/38/168970_500042119527_295233259527_5907754_3086554_n.jpg (//upic.me/show/20406702) //upic.me/i/vo/180541_500041609527_295233259527_5907745_5349743_n.jpg (//upic.me/show/20406704) //upic.me/i/q4/180645_500041879527_295233259527_5907750_7121351_n.jpg (//upic.me/show/20406707) ศึกชนช้างตลาดรถรถเล็ก ปี 2011 ที่ต้องจับตา ช่วงนี้กระแสรถยนต์ขนาดเล็กนั้นกลายเป็นกระแสที่กลับมาฮิตติดลมบนอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าตลาดอย่าง Honda ตัดใจนำแจ๊สมาขายและทำได้ดีเป็นเทน้ำเท่า จนค่ายคู่แข่งต้องรีบหวดเครื่องตามมาเต็มประดาและก็ฟัดเหวี่ยงกัน 2 ค่าย ก่อนที่เจ้าอื่นๆจะลงมาชิมลางแต่ก็ยังสู้ไม่ได้อย่างเต็มไม้เต็มมือนัก การออกมาทำเซอร์ไพร์สของค่ายรถยนต์อันดับ 3 อย่าง nissan เมื่อเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมานั้น นับว่าสร้างกระแสใหม่ให้กลุ่มรถเล็ก โดยเฉพาะเมื่อโครงการอีโค่คาร์ที่จากแนวทางของรัฐบาลที่ให้นมนานกลายเป็นจริง และมันก็ไม่ได้ขี้เหร่แต่กลับดีกว่าที่คิดจนถึงบัดนี้สามารถพิสุจน์ได้จากท้องถนนและยอดผลิตแบบ Made by order ของค่ายที่ต้องพาเอาพนักงานในโรงงานหวดกันเต็มเวลาทั้งกะดึกกะเช้าแต่ก็ยังไม่ทันส่งยอดที่รออยู่ของบรรดาผู้ซื้อทั้งในไทยและจากญี่ปุ่น ที่เรากลายเป็นฐานการผลิตสำคัญไปแล้ว งานนี้ค่าย Nissan เป็นปลิ้มมากๆ และน่าจะพูดได้เต็มปากว่าวันนี้นิสสันกลับมาผงาดอีกครั้งในฐานะค่ายรถยนตืรายใหญ่อีกหนุ่งม้านอกสายตาจากประเทศญี่ปุ่น ทว่าพายุใหญ่กำลังมาเมื่อ toyota ประกาศเตรียมชนด้วยรถต้นทุนต่ำ ส่วนฮอนด้า เตรียมนำอีโค่คาร์เข้ามาชนในไตรมาสแรก นี่ไม่นับรวมมาสด้า ที่มีน้อง 2 คอยสกัดดาวรุ่ง หรือจะเป็น fiesta ที่ออพชั่นกำลังดีที่สุดในตลาดขณะนี้ 5 ค่ายรถ 5 รุ่นแนะนำ ที่มาร์ชยังคงเป็นเจ้าตลาดที่รถตัวจริงเสียงจริงให้ขับไปใช้งานได้เลยทันทีที่ไฟแนนซ์ปั้มตราอนุมัติในการให้กู้ ทว่าในปีหน้านี้คงจะเป็นศึกหนักของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ต้องตัดสินใจดีๆว่าแบบไหนที่จะเป้นทางออกที่เหมาะสมที่สุด Etios ..รถต้นทุนต่ำอนาคตไกล งานนี้เราคงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณของรถที่มีอยู่แล้วในตลาด แต่อยากจะโฟกัสไปที่รถใหม่ที่ยังไม่เข้ามากัน ก่อนหน้านี้ โตโยต้าญี่ปุ่นออกมาประกาศกร้าว นำรถต้นทุนต่ำลุยประเทศกำลังพัฒนาแน่และเปิดตัวไปแล้วอย่างเป็นทางการที่อินเดีย ด้วยราคาที่รับได้ประมาณ 330,000 บาท ที่ไม่น่าเกลียดสำหรับรถขนาดเล็กกว่า Vios หน่อย แต่ออพชั่นและอื่นๆ ยังเท่าเดิม Nissan Sunny ตัวเก็งที่อาจจะมา ใครว่าค่ายนิสสันจะโดนรุกฆาต จากคู่แข่งงานนี้คงต้องดูใหม่ เพราะ ค่ายรถยนต์เจ้านี้เขาก้เตรียมหมากเกมเด็ดไว้แล้ว เหลือคำถามแค่จะใช่อย่างที่เราคิดหรือไม่กับ Nissan sunny ซีดานชื่อเด็กที่ไม่เล็กอย่างที่คิด ก่อนหน้านี้มีการแอบถ่ายมาอย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการรหัส L02B ที่น่าจะมีแววมาไทยแน่ๆ แต่คำถามคือราคาค่าตัว และฟังชั่น รวมถึงเครื่องยนต์ ที่คงจะใช้เครื่องเดียวกับมาร์ช หรือว่าง่ายๆ “มาร์ชซีดาน” ก็คงจะพอพูดได้ Honda Brio อีโค่คาร์ตัวเอ้ ที่หลายคนยอมรอ ในงาน Motor Expo 2010 รถที่กลายเป็นข่าวดังที่สุดนั้นคงไม่มีอะไรขจรชื่อเสียงไปไกลเท่า Honda Brio ต้นแบบอีโค่คาร์โฉมขายแน่แล้ว 95 % ส่วนที่เหลืออีก 5% เผื่อไว้ในการเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยจากฮอนด้า ที่ประกาศราคามาแรงถึง 4 แสนบาท ที่เราหวังว่ามันคงเป็นเครื่อง 1.2 วีเทค 90 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติเอกลักษณ์ของค่ายนี้ หลังจากเปิดตัวหลายคนเก็บตังค์รอรถที่จะมาในไตรมาสแรกปีหน้า ซึ่งบางคนก็ว่าสวยบ้างก็ว่าโอเค แต่ที่สังเกตไม่ใครว่าขี้เหร่เลยสักคนเดียว จนเซลล์ฮอนด้าคันไม้คันมืออยากเปิดใบจองรับให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลย งานนี้ปีหน้ากระแสรถเล็กยังคงอยู่และรับรองว่าสนุกแน่ เพราะสงครามตลาดเล็กครั้งนี้ไม่จบง่ายๆ อย่างที่หลายคนคิด ส่วนค่ายไหนจะมาเมื่อไรคงบอกไม่ได้ เพราะยังไม่มีข้อมูลมากนัก เราคงต้องรอไปจนกว่าช่วง Motor show 2011 กัน แค่ 3 รุ่นที่เราบอกนี้ก็ถือว่า เป็นมวยเด็ดที่ฟัดกันระห่ำสุดแล้ว ของตลาดรถเล็กที่พาเอารถกระบะดูหมองไปทันทีทันใด เกมในปีหน้าของค่ายรถยนต์นั้น เชื่อว่า ตลาดกลุ่มเล็กจะยังคงอยู่ แต่ถ้ามองมุมกลับกันรถเล็กนี่แหละพารถติด เฮ้อ...คิดแล้วก็กลุ้มใจแทน ข้อมูลจาก: auto.sanook.com / thailovecar.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

01-02-2011, 14:40

ข่าววันที่ 1 กุมภาพันธ์ ช่วงบ่าย //upic.me/i/gk/zipcar-toyota-phev-01.jpg (//upic.me/show/20406740) //upic.me/i/yf/zipcar-toyota-phev-03.jpg (//upic.me/show/20406746) //upic.me/i/yh/zipcar-toyota-phev-02.jpg (//upic.me/show/20406744) Zipcar เปิดให้เช่า Toyota Prius PHEV ขับก่อนตัวจริงจะทำตลาด Zipcar บริษัทบริการรถเช่า... ไม่ใช่สิ แชร์การใช้รถ ร่วมมือกับ Toyota Motor Sales อเมริกา เพิ่มรถใหม่ให้เป็นทางเลือกสำหรับสมาชิกอีก 8 คัน รถใหม่ที่ว่าคือ โตโยต้า พริอุส แบบเสียบปลั๊กชาร์จ (PHEV / PHV - plug-in hybrid electric vehicle) ตัว pre-production ซึ่งยังไม่มีจำหน่ายจนกว่าจะถึงปี 2012 ที่จริงเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในช่วงปลายปี 2008 ตอนที่ธุรกิจ Zipcar ได้รับความสนใจอย่างสูง Toyota และ Ford ก็เคยมีข่าวอยากร่วมกับ Zipcar ด้วยการอาศัยสมาชิกที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก เวียนเก็บข้อมูลทดสอบรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของตัวเอง ในรูปแบบของการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน จากนั้นช่วงต้นปี 2009 โตโยต้า ได้ส่ง Prius ที่ติดตั้งชุด conversion kit ของ A123 Systems (บริษัทผลิตแบตเตอรี่ ที่เคยร่วมงานกับโปรเจคท์ล้มยักษ์อย่าง TH!NK) มาให้ Zipcar ทดสอบในซานฟรานซิสโก ครั้งนั้นถือว่าเป็นการโปรโมทรถยนต์ PHEV ของ 3 ฝ่ายร่วมกัน คือ Zipcar, Toyota และ City of San Francisco โดย Prius PHEV ตัวต้นแบบนั้น สามารถวิ่งทำระยะทางได้ประมาณ 64 กิโลเมตรต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ด้วยระบบไฟฟ้าล้วน และมีเสาสถานีชาร์จไฟขนาดเล็กตั้งอยู่ในบริเวณ San Francisco City Hall ส่วน Prius PHEV ทั้ง 8 คันนี้ สมาชิกของ Zipcar จะได้เป็นผู้สัมผัสก่อนใคร แบ่งเป็น บอสตัน 3 คัน, ซานฟรานซิสโก 3 คัน และ พอร์ทแลนด์ 2 คัน โดย Zipcar จะช่วยโตโยต้าเก็บข้อมูลดิบ และวิเคราะห์การใช้งานจริง เพื่อให้โตโยต้าสามารถปรับไปใช้กับรถ Plug-in คันจริงที่จะเปิดตัวในปี 2012 ทั้งนี้ Zipcar จะปล่อย Prius PHV ให้แชร์ขับในเรทเดียวกับรถยนต์ไฮบริดที่มีอยู่ คือชั่วโมงละ 7 ดอลลาร์ หรือประมาณ 200 กว่าบาท สำหรับการใช้บริการของ Zipcar ก็เพียงแค่สมัครสมาชิก จากนั้นก็จะได้รับ Zipcard เพื่อนำไปปลดล๊อครถ เหมาะสำหรับคนที่อยากใช้รถใหม่ หรือใช้รถหลายแบบตามแต่กาละเทศะ โดยไม่ต้องดูแลเรื่องซ่อมบำรุงเอง อัตราค่าบริการ และระยะเวลาในการเช่า ขึ้นอยู่กับรุ่นรถ พื้นที่ๆ จะนำไปใช้ ปัจจุบัน Zipcar มีสมาชิกหลายแสนราย ทั้งในสหรัฐ, แคนาดา และอังกฤษ รวมถึงบริษัทต่างๆ เช่น Nike, GAP ไปจนถึงระดับยักษ์อย่าง Lockheed Martin ที่มา : motortrivia.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

07-02-2011, 10:07

ข่าววันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 ช่วงเช้า //upic.me/i/f2/106825406.jpg (//upic.me/show/20582862) //upic.me/i/iq/105127531.jpg (//upic.me/show/20582864) 2 บิ๊กเอกชนทุ่มงบ 2500 ล้าน เตรียมสร้างสนาม F1 ค่ายเครื่องดื่มชูกำลังยักษ์ใหญ่ เผยแผนเตรียมชงความระทึกสู่เมืองไทยทุ่มงบจับมือสิงห์สร้างสนาม formula 1 ยัน 2 ปี พร้อมลุย นาย เฉลิม อยู่วิทยา ประธานกรรมการ บริษัท เรดบูล ประเทศอังกฤษ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะที่ทางบริษัทมีแผนงานที่จะก่อสร้างสนามแข่งรถสูตร1 หรือ formula 1 ในประเทศไทย โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 2000-2500 ล้านบาท ในการแก่อสร้าง "หลังจากปีที่แล้ว เราได้นำรถฟอร์มูล่าร์วันมาวิ่งโชว์ และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีที่ถนนราชดำเนิน จึงเป้นแรงบันดาลในโครงการดังกล่าว โดยขณะนี้มีเราและสิงห์เป็นแกนนำ และจำดึงบริษัทยักษ์ใหญ่ของคนไทยเข้ามาร่วมในโครงการดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ในเรื่องของสถานที่ตั้งนั้น ตอนนี้เรากำลังมองพื้นที่ทางด้านถนนบางนา-ตราด เอาไว้ เนื่องจากมีการคมนาคมที่สะดวก ใกล้กรุงเทพมหานคร และยังใกล้สนามบินอีกด้วยอีกทั้งยังสาธารณูปโภคครบครันพร้อมรองรับต่อผู้ชมและการจัดต้อนรับทีมงานและนักแข่ง อย่างไรก็ดี แผนงานสร้างสนามแข่งนี้จะมีกำหนดการแล้วเสร็จภายใน 2 ปี เพราะขณะนี้ประเทศในเอเซีย หลายๆ ประเทศต่างก็สนใจที่จะจัดการแข่งขันรถสูตร 1 ในประเทศของตัวเอง ซึ่งล่าสุดประเทศอินเดีย ก็เพิ่งมีการเซ็นสัญญาเพื่อจัดแข่งขันไป ที่มา : auto.sanook.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

07-02-2011, 15:21

ข่าววันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2554 ช่วงบ่าย //upic.me/i/ls/dox61.jpg (//upic.me/show/20582914) //upic.me/i/0z/wt6s2.jpg (//upic.me/show/20582917) สรรพสามิตปรับใหญ่ภาษีรถยนต์ คลังลั่น ก.พ. จบแน่!! สรรพสามิตลั่นปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์จบเดือนนี้ แย้มพับปรับใหญ่ ค่ายรถแห่วอนขอความชัดเจน นายพงศ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ทางกรมสรรสามิตเตรียมนพดสนอโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ให้กับนาย มั่น พัธโนทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งแนวทางการเก็บภาษีรถยนต์ใหม่นี้จะเป"นธรรมต่อผู้ประกอบการ ทั้งยังสนับสนุนการผลิตรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แล้วยังไม่ทำให้รัฐสูญเสียรายได้อีกด้วย "ขณะนี้คณะทำงานปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ ที่มีทั้งกรมสรรพสามิต กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพลังงาน ได้หารือกันอย่างเคร่งเครียด ซึ่งคาดว่าผลออกมาจะไม่มีการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์มากตามที่คาดไว้ก่อนหน้า เนื่องจากผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ เพราะมีการลงทุนผลิตภายใต้โครงสร้างภาษีปัจจุบัน ส่วนการปรับโครงสร้างภาษีรถกระบะดัดแปลงนั้นต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ เพราะเป็นโปรดักแชมป์เปี้ยน แต่ในส่วนของรถยนต์พลังงานทางเลือก ต้องมีการทบทวนว่าการลดภาษีที่ผ่านมาสามารถประหยัดการใช้พลังงานได้จริงหรือไม่" นาย พงศ์ภาณุ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาทางกระทรวงอุตสาหกรรมได้เสนอโครงสร้างภาษีให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังต้องรอการพิจารณาจากส่วนของกระทรวงการคลังร่วมด้วย จึงจะได้ทราบว่า โครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่จะออกมาเป็นเช่นไร ด้าน นายนริศ ชัยสูตร ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายบริษัทต้องการหารือร่วมกับ สศค. เกี่ยวกับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ เพื่อให้ความมั่นใจว่าจะไม่กระทบต่อการพัฒนาและผลิตรถยนต์ อย่างไรก็ดี สศค. ได้ทำการวิเคราะห์โครงสร้างภาษีรถยนต์ แล้วเห็นว่าการจัดเก็บภาษีตามลักษณะการใช้สอยนั้นควรคงไว้เช่นเดิม แต่ในส่วนที่จัดเก็บตามปริมาตรของกระบอกสูบ ควรมีการปรับเปลี่ยน เป็นการคิดตามอัตราการสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิงต่อระยะทาง หรือค่าการปล่อยมลพิษต่อระยะทาง ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันอัตราภาษีรถยนต์นั่งที่มีขนาดซีซีไม่เกิน 2,000 ซีซี และแรงม้าไม่เกิน 220 แรงม้า จะมีอัตราภาษีต่ำที่สุดในประเภทรถยนต์นั่งโดยคิดภาษีในอัตรา 30% ที่มา : auto.sanook.com สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตแวดวงรถยนต์และข่าวสารทั่วไปได้อีกทางที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand ของเราครับ

Aeroklas

11-02-2011, 09:10

ข่าววันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2554 ช่วงเช้า ชมชัดๆ Honda Civic 2012 ใกล้พร้อมจำหน่ายในไทยแล้ว ช่วงนี้หลายคนที่กำลังมองหารถใหม่ คงกำลังพยายามรอลุ้นว่าตกลงค่ายรถยนต์ honda จะเอา Civic มาทัน ตามที่เคยได้คุยเอาไว้ โดยเฉพาะ เมื่อบิ๊กใหญ่ค่ายนี้ออกมาตอบรับการเดินหน้าสู้..สั่งลุยเต็มที่งานนี้จะมาทันหรือไม่ คงต้องจับตากัน เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/chm-chad-honda-civic-2012-kil-phrxm-cahnay-laew/191834410835675 ของเรานะคะ //upic.me/i/m3/novo-civic-2012-exclusivo-japao-6.jpg (//upic.me/show/20485446)

Aeroklas

14-02-2011, 09:30

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 ขงจื้อ : ข้อคิดดีๆ.... 3x8=23 ? เอี๋ยนหุยใฝ่ศึกษา มีคุณธรรมงดงาม เป็นศิษย์รักของขงจื้อ มีอยู่วันหนึ่งเอี๋ยนหุยออกไปทำธุระที่ตลาดเห็นผู้คนจำนวนมากห้อมล้อมอยู่ที่หน้าร้านขายผ้าจึงเข้าไปสอบถามดู จึงรู้ว่าเกิดการพิพาทระหว่างคนขายผ้ากับลูกค้า เอี๋ยนหุยได้ยินลูกค้าตะโกนเสียงดังโหวกเหวกว่า “3x8 ได้ 23 ทำไมท่านถึงให้ข้าจ่าย24เหรียญล่ะ!” เอี๋ยนหุยจึงเดินเข้าไปที่ร้าน หลังจากทำความเคารพแล้ว ก็กล่าวว่า “พี่ชาย 3x8 ได้ 24 จะเป็น 23 ได้ยังไง? พี่ชายคิดผิดแล้ว ไม่ต้องทะเลาะกันหรอก” คนซื้อผ้าไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง ชี้หน้าเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “ใครให้เจ้าเข้ามายุ่ง! เจ้าอายุเท่าไหร่กัน! จะตัดสินก็มีเพียงท่านขงจื้อเท่านั้น ผิดหรือถูกมีท่านผู้เดียวที่ข้าจะยอมรับ ไป ไปหาท่านขงจื้อกัน ” เอี่ยนหุยกล่าวว่า “ก็ดี หากท่านขงจื้อบอกว่าท่านผิด ท่านจะทำอย่างไร?” คนซื้อผ้ากล่าวว่า“หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมให้หัวหลุดจากบ่า! แล้วหากเจ้าผิดล่ะ?” เอี๋ยนหุยกล่าวว่า “หากท่านวินิจฉัยว่าข้าผิด ข้ายอมถูกปลดหมวก(ตำแหน่ง)” ดังนั้นทั้งสองจึงเกิดการเดิมพันขึ้น เมื่อขงจื้อสอบถามจนเกิดความกระจ่าง ก็ยิ้มให้กับเอี๋ยนหุยและกล่าวว่า “3x8ได้ 23 ถูกต้องแล้วเอี๋ยนหุย เธอแพ้แล้ว ถอดหมวกของเธอให้พี่ชายท่านนี้เสีย” เอี๋ยนหุยไม่โต้แย้ง ยอมรับในการวินิจฉัยของท่านอาจารย์ จึงถอดหมวกที่สวมให้แก่ชายคนนั้น ซึ่งชายผู้นั้นเมื่อได้รับหมวกก็ยิ้มสมหวังกลับไป คำวินิจฉัยของขงจื้อ ต่อหน้าแม้เอี๋ยนหุยจะยอมรับ แต่ในใจกลับไม่ได้คิดเช่นนั้น เอี๋ยนหุยคิดว่าท่านอาจารย์ชรามากแล้ว ความคิดคงเลอะเลือน จึงไม่อยากอยู่ศึกษากับขงจื้ออีกต่อไป เพื่อนๆสามารถอ่านเรื่องราวทั้งหมดรวมทั้งข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/khngcux-khxkhid-di-3x823-/193135624038887 ของเราครับ

Aeroklas

21-02-2011, 15:34

ข่าววันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2554 //upic.me/i/44/toyota_100170830_l.jpg (//upic.me/show/20960442) ไขปริศนา คันเร่งค้าง Toyota เรื่องจริงที่ไม่ชัดเจนแต่อาจเป็นไปได้ ช่วงนี้ค่ายรถยนต์ต่างๆทั่วโลก รวมถึงกระแสข่าวทั้งหลาย ต่างพุ่งเป้าไปที่งานในเจนีวาอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนี่ถือเป็นงานปฐมฤกษ์ต้นปี ที่จะแสดงศักยภาพของค่ายรถว่าค่ายนี้จะมีอะไรเป็นดาวเด่นในปีนี้ และแน่นอน ทุกคนต่างสนใจในของใหม่เช่นกัน แม้จะไม่มีความเกี่ยวข้อเลย แต่ดูเหมือนว่า ข่าวใหญ่ที่ดังตามมาเป็นอันดับ 2 ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ คือข่าวการออกมาประกาศผลการทดสอบระบบคันเร่งไฟฟ้าของโตโยต้า จาก หน่วยงานทางภาครัฐของสหรัฐ ที่ระบุว่า ระบบคันเร่งไฟฟ้าไม่มีปัญหาหลังจากตรวจสอบโดยร่วมมือกับ Nasa และแน่นอนนี่กลายเป็นเรื่องกลับตาลปัตร หลังก่อนหน้านี้มีรายงานอุบัติเหตุที่ระบุว่า คันเร่งสามารถเร่งได้เอง จนทำให้สหรัฐต้องออกประกาศเรียกคืน ตรวจ สอบ ก่อนจะมีการสั่งให้ปรับปรุงในส่วนของพรม และอุปกรณ์ค้างเคียงคันเร่งใหม่ แทบทั้งหมด เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/chm-chad-honda-civic-2012-kil-phrxm-cahnay-laew/191834410835675 ของเรานะคะ

Aeroklas

22-02-2011, 09:00

ข่าววันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554 ช่วงเช้า //upic.me/i/h8/mini-coupe-1.jpg (//upic.me/show/20960917) //upic.me/i/8h/mini-coupe-3.jpg (//upic.me/show/20960918) แอบถ่ายตัวเป็นๆ Mini Coupe เติมความสปอร์ต เพิ่งรับรางวัลไปหมาด สำหรับความสำเร็จของค่ายรถยนต์ Mini ที่สามารถก้าวสู้ใจในผู้บริโภคได้ เช่นเดียวกันกับ ความเป็นผู้นำตลาดรถเล็กที่หลายคนต่างเฝ้ารอกันอยู่ว่า Mini จะมีมุขใหม่อะไรออกมาอีก ล่าสุดค่ายตราพัดฟ้า ร่มโพธิ์ ของ Mini ดูเหมือนจะมีมุขใหม่ที่เตรียมจะปล่อยออกมาในเร็วๆนี้ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง เมื่อ Mini กำลังต้องการแตกไลน์ตามฉบับสปอร์ต โดยเฉพาะ อย่าง ในแบบตัวเล็ก 2 ประตู Coupe ที่มีกำหนดการลงตลาดในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ แม้ในทางการจะยังไม่มีความคืบหน้า แต่ดูเหมือนว่ารถคันจริงพร้อมที่จะเข้าสู่สายการผลิตแล้ว หลังมีคนพบ New! Mini Coupe ออกมาเริ่งร่าทดสอบแถวๆ สำนักงานใหญ่ค่ายรถยนต์ BMW ที่ เยอรมัน พร้อมลวดลายพรางตัวที่เป็นเอกลักษณ์เด่นชัด ว่านี่เป้นรถรุ่นใหม่ที่พร้อมจะวางตลาดในเร็วๆนี้ เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/chm-chad-honda-civic-2012-kil-phrxm-cahnay-laew/191834410835675 ของเรานะคะ

Aeroklas

23-02-2011, 16:15

ข่าววันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2554 ช่วงบ่าย //upic.me/i/1c/fit-hybrid.jpg (//upic.me/show/20960942) //upic.me/i/50/prius1.jpg (//upic.me/show/20960956) ชาวปลาดิบปลื้ม Fit Hybrid ยอดขายพุ่งคว้าตำแหน่งเจ้าตลาด ผลสำรวจในประเทศญี่ปุ่นชี้ Honda Fit Hybrid ขายดี มีชัยเหนือเจ้าตลาด หลังออกวางจำหน่ายตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ค่ายรถยนต์ honda เป็นปลื้มอีกครั้ง หลังผลสำรวจในญี่ปุ่นระบุ Honda Fit Hybrid ได้รับความสนใจอย่างมาก จนขายดีเป้นเทน้ำเทท่า และล่าสุดเมื่อช่วงเดือกนมกราคาที่ผ่านมาก็สามารถเสียบแซงคู่แข่ง Toyota Prius ที่ครองตลาดไฮบริดติดต่อกันกว่า 20 เดือน ไปได้ เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/chm-chad-honda-civic-2012-kil-phrxm-cahnay-laew/191834410835675 ของเรานะคะ

Aeroklas

02-03-2011, 14:42

ข่าววันที่ 2 มีนาคม 2554 ยอดขาย Tata Motors ทั่วโลกเดือน ม.ค. 2554 เพิ่มขึ้น 16% //upic.me/i/1d/tata-sales-report-01.jpg (//upic.me/show/21272245) ทาทา มอเตอร์ส กรุ๊ป รายงาน มกราคม 2554 ยอดจำหน่ายรถยนต์ทั่วโลกของ ทาทา รวมถึง Jaguar และ Land Rover มีจำนวนทั้งสิ้น 98,998 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 จากเดือนเดียวกันของปีก่อน โดยยอดจำหน่ายรวมตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ถึงเดือนมกราคม 2554 มีจำนวน 868,583 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ในเดือนมกราคม 2554 ทาทา จำหน่ายรถเพื่อการพาณิชย์ของ ทาทา, ทาทา แดวู (Tata Daewoo) และ ทาทา ฮิสปาโน คาร์โรเซรา (Tata Hispano Carrocera) ได้ทั้งหมด 45,815 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 14 โดยยอดจำหน่ายสะสมตั้งแต่เดือนเมษายน 2553 ถึงเดือนมกราคม 2554 อยู่ที่ 408,761 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27 ส่วนรถยนต์นั่งมียอดจำหน่ายทั่วโลก 53,183 คันในเดือนดังกล่าว เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 และมียอดจำหน่ายสะสม 459,822 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/ยอดขาย-tata-motors-ทั่วโลกเดือน-มค-2554-/198014303551019 ของเรานะคะ

Aeroklas

03-03-2011, 11:52

ข่าววันที่ 3 มีนาคม 2554 Honda Civic เจน 9 เผยโฉมแล้ว //upic.me/i/2t/honda-civic-my-2012-9th-generation-01.jpg (//upic.me/show/21299404)

//upic.me/i/i9/honda-civic-my-2012-9th-generation-03.jpg (//upic.me/show/21299409) Honda Civic 2012 หลากหลายทางเลือกของความประหยัด กับ เจนเนอเรชั่นที่ 9 ฮอนด้า เผยโฉมภาพออฟฟิเชียลของ Honda Civic ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่จะทำตลาดในอเมริกาเหนือ พร้อมให้ข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับทางเลือกของรุ่นที่จะใช้จำหน่ายเล็กน้อย โดยเค้าโครงเส้นสายภายนอก เป็นอย่างที่ ฮอนด้า เคยประกาศไว้ คือแทบจะไม่ต่างจากตัวต้นแบบ Honda Civic Concept ที่โชว์ตัวไปในงาน ดีทรอยต์ ออโต โชว์ 2011 ที่ผ่านมา เพียงแต่ลบความคมของเส้น สัน ต่างๆ รอบตัวออกไปเล็กน้อย จากข้อมูล ณ เวลานี้ ฮอนด้า ค่อนข้างชูจุดเด่นในเรื่องของความประหยัด มากกว่าจะโชว์สมรรถนะความแรงของรถ ซึ่งถือว่าเหมาะสมกับยุคสมัย แต่ ซีวิค ก็ยังคงเป็น ซีวิค รูปทรงโดยรวมมีความสปอร์ตอยู่ในตัวเสมอ ภายในยังคงดีไซน์แดชบอร์ดแบบ 2 ชั้น ลดความอ่อนช้อยลง ดูบึกบึนทั้งในส่วนของมาตรวัด และพวงมาลัย แต่ได้รับการปรับปรุงให้ดูมีลูกเล่นมากขึ้นด้วยเส้นเฉียง ตำแหน่งการจัดวางอุปกรณ์ดูคล้ายเจนเนอเรชั่นที่ เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //www.facebook.com/notes/aeroklas-thailand/ยอดขาย-tata-motors-ทั่วโลกเดือน-มค-2554-/198014303551019 ของเรานะคะ

Aeroklas

07-03-2011, 10:07

ข่าววันที่ 7 มีนาคม 2554 //upic.me/i/w2/prius-630.jpg (//upic.me/show/21303052) โตโยต้าได้ชื่อพหูพจน์ Prius โหวตแล้วใช้ Prii ค่ายรถยนต์โตโยต้าได้ชิ่อสำหรับพลพรรค Prius หลังขยายรุ่นเปิดโหวต คนชอบให้เรียก Prii (Pri-i) เฉือนชนะ Prius ไปเพียง 1% หลังจากเป็นผู้นำในตลาดรถไอบริดมานาน กับการจำหน่ายอย่างต่อเนื่องของสุดยอดเจ้าตำนานรถยนต์นั่งไฮบริด toyota Prius ที่สืบทายาทต่อมาเป้นเจนเนอร์เรชั่นที่ 3 และเพิ่งเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนที่ค่ายรถยนต์ toyta จะมีการแนะนำ Prius โฉม MPV หรือ Prius +(plus) และยังมีอีก 2 -3 รุ่น ที่รอการนำเข้าสู่สายการผลิตรวมถึงในเวอร์ชั่นกระบะที่อาจมีความเป็นไปได้ด้วย แม้การคิดค้นและสร้างรถจะไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ Prius ที่มีมากมายหลายรุ่นก็สร้างปัญหาให้ค่ายรถยนต์สามห่วงในการเรียกชื่อที่ล่าสุดก็เปิดให้คนโหวตในหัวข้อ Pural of Prius ว่าสรุป ถ้ารถรุ่นนี้มีหลายรุ่นมันน่าจะมีชื่อต้นตระกูลว่าอย่างไรได้ เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //on.fb.me/hS3ZCP ของเรานะคะ

Aeroklas

09-03-2011, 10:20

ข่าววันที่ 9 มีนาคม 2554 //upic.me/i/9u/017...jpg (//upic.me/show/21303124) Spyshot!!! Nissan almera ที่นี่ในไทย ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรตื่นเต้นนักกับการมาของรถยนต์รายใหม่ แต่เมื่อไม่นานมานี้มันก้มีเรื่องตื่นเต้นที่ทำให้เรารู้สึกดี มากๆ และ ในไม่ช้าเราหวังว่าจะได้เห็นภาพตัวเป็นกันจริงๆ ภาพที่จะให้ดูนี้เป็นภาพที่สมาชิกท่านหนึ่งในเว็บไซต์คอมมิวนิตี้ในไทยไทยชื่อดังสามารถถ่ายภาพไว้ได้ และมันชัดเจนยิ่งกว่าอะไรว่า นี่อาจจะเป็น Nissan Almera ที่น่าจะกำลังอยู่ในช่วง Spytest หลังก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่า รถรยนต์รุ่นดังกล่าวจะเปิดตัวในบ้านเราในช่วงไตรมาสที่ 3 หรืออย่างช้า คือไตรมาสที่ 4 ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //on.fb.me/hoSStd ของเรานะคะ

Aeroklas

10-03-2011, 10:19

ข่าววันที่ 10 มีนาคม 2554 //upic.me/i/ks/ex18...jpg (//upic.me/show/21303157) Spyshot!! Proton Exora รุ่นปรับโฉมที่อาจมาไทย บ้านเราในตอนนี้ค่ายรถยนต์หลายเจ้าต่างเงียบๆ แม้จจะมีความเคลื่อนไหวกันบ้าง แต่ดูเหมือนว่าหลายค่ายจะรอที่จะออกตัวกันในเดือนหน้า ก่อนช่วงงานมอเตอร์โชว์มากกว่า ที่ผ่านมาค่ายรถยน์น้องใหม่ อย่าง Proton จะเข้ามาทำตลาดและครองใจคนไทยบางส่วนไปได้ โดยเฉพาะใครที่มองหารถใหม่แต่ไม่อยากได้รถเล็กแต่มีราคาที่คุ้มค่าและราคาเมื่อต้องจ่ายเงินซื้อที่ดูเหมือนว่า ล่าสุดนี้ค่ายรถยนต์เสือเหลืองเตรียมที่จะแนะนำรถ MPV ที่ปรับแต่งเพิ่มในบ้านเกิดและมีมือดีแอบถ่ายไว้ได้ที่มาเลเซีย เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //on.fb.me/i6QldR ของเรานะคะ

Aeroklas

11-03-2011, 09:42

ข่าววันที่ 11 มีนาคม 2554 //upic.me/i/bg/v39...jpg (//upic.me/show/21303204) Toyota อ่วม Recall อีกกว่า 2.17 ล้านคัน ใน 6 รุ่น แม้จะรอดไปได้อย่างหวุดหวิดหลังผลพิสูจน์กรณีคันเร่งค้างกับ Nasa ได้ข้อสรุปที่ไม่พบความผิดปกติของระบบไฟฟ้า ทว่านั่นก็ไม่ได้ทำให้ค่ายรถยนต์ toyota รอดชะตากรรม หลังล่าสุfออกมาประกาศรีคอลรถ 6 ลุ่น กว่า 2.17 ล้านคัน ทั่วโลก รายงานข่าวนี้อาจจะล่าช้าไปบ้าง(ต้องขออภัย) แต่ล่าสุดค่ายรถยนต์ toyota ประกาศ เรียกคืนรถยนต์กว่า 6 รุ่นทั่วโลก ที่คาดการณ์กันว่าการเรียกคืนรถครั้งนี้จะมีจำนวนถึง 2.17 ล้าน ตั้งแต่ระดับ SUV ไปจนถึง พรีเมี่ยมคาร์ ที่ค่ายรถยนต์รายใหญ่ระบุว่า พบปัญหาคันเร่งค้างเช่นกันหลังพบว่า พรมปูพื้นอาจทำให้คันเร่งติดค้างได้ จนอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รถรุ่นดังกล่าวสามารถประสบอุบัติเหตุได้ เพื่อนๆสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //on.fb.me/eW5lUO ของเรานะคะ

Aeroklas

15-03-2011, 13:55

Honda สั่งลุยอีโค่คาร์ เปิดตัว Brio 17 มี.ค.นี้ //upic.me/i/cv/2qfff.jpg (//upic.me/show/21784153) ค่ายรถยนต์ยอดนิยมได้ฤกษ์เปิดผ้าคลุมอีโค่คาร์ลำใหม่ส่ตลาดไทยอย่างเป็นทางการ เคาะระฆัง 17 มีนาคม นี้ พร้อมทุกรายละเอียดที่อยากรู้ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ ฮอนด้า ได้ฤกษ์ดี เตรียมเปิดรถยนต์รุ่นใหม่ของค่าย Honda Brio ภายในวันที่ 17 มีนาคมที่จะถึงนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาเปิดเผยว่า อีโค่คาร์รุ่นใหม่ของค่ายจะเปิดตัวในช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้อย่างแน่นอน เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=199796206706162&id=295233259527 ของเรานะคะ

Aeroklas

17-03-2011, 14:34

ข่าววันที่ 17 มีนาคม 2554 เว็บจีนเปรี้ยว ...แฉสเป็คบางส่วน New! Civic 2012 //upic.me/i/qc/u77kk.jpg (//upic.me/show/21531436) ช่วงนี้หลายคนดูจะให้ความสนใจเป็นพิเศษกับคอมแพ็คคาร์รุ่นใหม่ ที่ทั้งไทยและทั่วโลกต่างได้เห็นภาพกันไปทุกมุมจนเปลือกแล้ว เหลือเพียงตัวจริงกับลองขับที่จะทำให้ได้รู้ว่า รถที่สืบสายมาอย่างยาวนาน Honda Civic นั้น จะมีสมรรถนะสมราคาหรือไม่ ในระหว่างเราหลายคนกำลังเฝ้ารอว่ารถรุ่นใหม่นี้จะมีอะไรให้เราได้สัมผัสบ้าง แต่ถ้าพูดถึงสมรรถนะแล้ว เรื่องช่วงตัวและเครื่องยนต์ดูจะเป็นอะไรที่เราสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อล่าสุดเว็บจีนจอมแฉ auto.163.com ได้เปิดเผยว่าพวกเขามีข้อมูล New! Civic บางส่วน ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นขายจีน ซึ่งก็มีกำหนดลงตลาดในเร็วๆนี้เช่นกัน Auto.163. Com ได้เปิดเผยว่า New! Honda civic ใหม่นี้ จะมีขนาดทางด้านมิติตัวถังลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับรุ่นปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความยาวที่สั้นเพียง 4535 มิลลิเมตร ซึ่งต่างจากรุ่นปัจจุบันเพียง 5 มิลลเมตร แต่มีการเพิ่มความสูงให้โปร่งขึ้นอีก 15 มิลลเมตร มาอยู่ที่ 1450 มิลลิเมตร ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่เหนือศีรษะมากขึ้น ในขณะที่ความกว้างเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง คือ 1755 มิลลเมตร เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=200054136680369&id=295233259527 ของเรานะคะ

Aeroklas

18-03-2011, 15:31

ข่าววันที่ 18 มีนาคม 2554 ยามาฮ่า คว้า “ซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี” มั่นใจปีนี้สร้างยอดขาย 5.2 แสนคัน ส่วนแบ่งตลาด 27% //upic.me/i/7o/news_img_380009_1.jpg (//upic.me/show/21891949) นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยามาฮ่า ประสบความสำเร็จอีกครั้ง จากการเป็นผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์เพียงค่ายเดียวที่ได้รางวัล “ซุปเปอร์แบรนด์แห่งปี 2011” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ซุปเปอร์แบรนด์ เป็นรางวัลที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2537 ที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นองค์กรอิสระ ทำหน้าที่ประเมินคุณค่าแบรนด์สินค้าในสายตาผู้บริโภค และทำงานด้านการประเมินความสำเร็จในการสร้างแบรนด์ โดยใช้เกณฑ์ในการคัดเลือก 3 หลักเกณฑ์ คือ BRAND QUALITY (คุณภาพของแบรนด์) BRAND AFFINITY (ความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค) BRAND PERSONALITY (เอกลักษณ์ของแบรนด์) เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/note.php?created&¬e_id=201803076505475&id=295233259527 ของเรานะคะ

Aeroklas

22-03-2011, 08:55

ข่าววันที่ 22 มีนาคม 2554 อุตฯยานยนต์ไทยเนื้อหอม อินเดียเล็งหาพันธมิตรลงทุน //upic.me/i/hz/news_img_379419_1.jpg (//upic.me/show/22027817) อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอยู่ในช่วงขาขึ้น และมีการเติบโตที่น่าสนใจตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และยังส่งแรงต่อเนื่องมายังต้นปีนี้ ที่ผ่านไป 1 เดือน ยอดขายยังคงขยายตัว 38% แต่ไม่เพียงเท่านั้นที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรม เพราะในด้านการส่งออกก็ยังคงเติบโตด้วยเช่นกัน ขณะที่ภาคการผลิต ค่ายรถต่างๆกำลังเดินหน้ากันอย่างเต็มที่ ทั้งด้านการขยายกำลังการผลิต รวมไปถึงการสร้างโรงงานใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกหลายแห่งในเร็วๆนี้ การเติบโต การมีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง การอยู่ในทำเลที่เหมาะสม ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายๆชาติที่ต่างก็ต้องการเข้ามาสร้างฐานการผลิต การค้า และล่าสุดอินเดียก็ให้ความสนใจและเตรียมการที่จะเข้ามาหาลู่ทางขยายธุรกิจ เพื่อนๆสามารถอ่านรายละเอียดข่าวสารอันนี้และข่าวสารทั่วไปได้ที่ //www.facebook.com/note.php?saved&¬e_id=201804809838635&id=295233259527#!/note.php?note_id=201804809838635 ของเรานะคะ

Aeroklas

30-03-2011, 15:24

ข่าววันที่ 30 มีนาคม 2554 แอร์โรคลาสออกบูธโชว์สินค้าในงาน Bangkok Motor Show 2011 //upic.me/i/hv/p1080540_resize.jpg (//upic.me/show/22153599) บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ร่วมออกบูธแสดงสินค้าในงาน Bangkok Motor Show 2011 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอล อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 25 มี.ค.54 – 5 เม.ย. 54 โดยบูธของแอร์โรคลาสได้นำสินค้าใหม่ล่าสุด และได้นำเข้ารถ VOLKSWAGEN AMAROK โดยติดตั้งสินค้า AEROKLAS CANOPY (หลังคากระบะ) มาโชว์ให้กับผู้ที่มาร่วมงานได้ชมและทดสอบสินค้ากันอย่างใกล้ชิด //upic.me/i/6x/p1080333_resize_1.jpg (//upic.me/show/22358470) โดยในวันที่ 24 มี.ค.54 คุณตฤณ เยี่ยมยงชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ได้ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวสินค้าใหม่ “AEROKLAS LOCK” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพน้องใหม่โดยเป็นชุดล๊อคเบรคและครัชเพื่อป้องกันรถยนต์ที่คุณรักจากการขโมยทุกรูปแบบ และร่วมให้สัมภาษณ์ประชาสัมพันธ์ข่าวสารต่างๆกับสื่อมวลชนทุกแขนงเกี่ยวกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าต่างๆ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพทุกสินค้าภายใต้แบรนด์ “AEROKLAS” เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคได้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุด และตอบสนองการใช้งานได้ทุกรูปแบบอีกด้วย สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมสำหรับสินค้าและกิจกรรมที่บูธแอร์โรคลาสได้ที่ www.aeroklas.com (//www.aeroklas.com) นะคะ _

Aeroklas

19-12-2011, 16:38

สามารถชมภาพ Pretty งาน motor expo 2011 ได้ตาม link

//www.thaitritonclub.com/forum/showthread.php?t=36651&p=617680

Aeroklas

15-02-2012, 09:45

All-New Mazda BT-50 Pro กระแสตอบรับฮีโร่กำลังมาแรง เปิดตัว 2 สัปดาห์ ยอดทะลุ 4,000 คัน บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าหลังจาก เปิดตัวแนะนำรถปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ อย่างเป็นทางการ ที่ลบภาพความเป็นปิกอัพแบบเดิมๆ จนหมดสิ้น พร้อมการวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น 'ปิกอัพสไตล์เก๋ง' พร้อมสื่อสารด้วยคอนเซ็ปต์แบบฮีโร่ ผ่านพรีเซนเตอร์ที่เป็นสุดยอดฮีโร่ในดวงใจของคนไทย พันโท วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์จากฮีโร่ในประวัติศาสตร์ให้เป็นฮีโร่ของครอบครัวและคนรอบข้าง ภายใต้สโลแกน 'ขับเคลื่อนทุกสิ่ง...ให้เป็นจริงได้' หลังจากลูกค้าได้ยลโฉมตัวจริงเสียงจริงได้เพียง 2 สัปดาห์ ต่างหลั่งไหลต่อคิวจองซื้ออย่างล้นหลาม โดยมียอดจองสะสมจากทั่วประเทศเกิน 4,000 คันแล้ว ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการจำหน่ายต่อเดือนถึงเกือบ 3 เท่า พร้อมกันนี้ เตรียมเดินหน้าเร่งผลิต และส่งมอบให้ทันกับความต้องการของลูกค้า มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาในทันที หลังจากที่มาสด้าเปิดตัวรถปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา และเพียง 2 สัปดาห์นั้น ปรากฏว่าลูกค้าให้การต้อนรับอย่างท่วมท้น กระแสตอบรับดีมากๆ มีลูกค้าสั่งจองซื้อเข้ามาผ่านทางดีลเลอร์เป็นจำนวนมากกว่า 4,000 คัน ซึ่งบางส่วนก็ได้เริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าไปบ้างแล้ว สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมและร่วมเล่นกิจกรรมต่างๆที่หน้าแฟนเพจของเราที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand?sk=notes#!/note.php?note_id=365433306809117 (//www.facebook.com/Aeroklasthailand?sk=notes#!/note.php?note_id=365433306809117) ได้นะคะ

Aeroklas

15-02-2012, 10:18

All-New Mazda BT-50 Pro กระแสตอบรับฮีโร่กำลังมาแรง เปิดตัว 2 สัปดาห์ ยอดทะลุ 4,000 คัน บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าหลังจาก เปิดตัวแนะนำรถปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ อย่างเป็นทางการ ที่ลบภาพความเป็นปิกอัพแบบเดิมๆ จนหมดสิ้น พร้อมการวางตำแหน่งทางการตลาดเป็น 'ปิกอัพสไตล์เก๋ง' พร้อมสื่อสารด้วยคอนเซ็ปต์แบบฮีโร่ ผ่านพรีเซนเตอร์ที่เป็นสุดยอดฮีโร่ในดวงใจของคนไทย พันโท วันชนะ สวัสดี หรือ ผู้พันเบิร์ด ที่เปลี่ยนภาพลักษณ์จากฮีโร่ในประวัติศาสตร์ให้เป็นฮีโร่ของครอบครัวและคนรอบข้าง ภายใต้สโลแกน 'ขับเคลื่อนทุกสิ่ง...ให้เป็นจริงได้' หลังจากลูกค้าได้ยลโฉมตัวจริงเสียงจริงได้เพียง 2 สัปดาห์ ต่างหลั่งไหลต่อคิวจองซื้ออย่างล้นหลาม โดยมียอดจองสะสมจากทั่วประเทศเกิน 4,000 คันแล้ว ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายการจำหน่ายต่อเดือนถึงเกือบ 3 เท่า พร้อมกันนี้ เตรียมเดินหน้าเร่งผลิต และส่งมอบให้ทันกับความต้องการของลูกค้า มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า กลายเป็นทอล์คออฟเดอะทาวน์ขึ้นมาในทันที หลังจากที่มาสด้าเปิดตัวรถปิกอัพสไตล์เก๋ง มาสด้า บีที-50 โปร ใหม่ เมื่อวันที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา และเพียง 2 สัปดาห์นั้น ปรากฏว่าลูกค้าให้การต้อนรับอย่างท่วมท้น กระแสตอบรับดีมากๆ มีลูกค้าสั่งจองซื้อเข้ามาผ่านทางดีลเลอร์เป็นจำนวนมากกว่า 4,000 คัน ซึ่งบางส่วนก็ได้เริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าไปบ้างแล้ว สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมและร่วมเล่นกิจกรรมต่างๆที่หน้าแฟนเพจของเราที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand?sk=notes#!/note.php?note_id=365433306809117 (//www.facebook.com/Aeroklasthailand?sk=notes#!/note.php?note_id=365433306809117) ได้นะคะ

2อาทิตย์4000 คัน โอ้วววววววว

Aeroklas

08-03-2012, 11:51

//upic.me/i/05/car-save-gas-lg.jpg (//upic.me/show/33624243) ที่ผ่านมาเราก็พูดถึงเทคนิคการขับประหยัดไปหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้เราจะมากล่าวถึงเทคนิดในขั้นที่สูงขึ้นจากเดิม ซึ่งหากวันนี้คุณกำลังมองหาวิธีประหยัด ก็ลองนำไปทำดู และค่อยๆลองปรับ จนชินในท้ายที่สุด 1.ดับเครื่องยนต์เมื่อรถไม่เคลื่อน น้อยคนนักที่จะเห็นว่าเขาดับเครื่องยนต์ ที่เห็นชัดนั้นก็ไม่พ้นรถตุ๊กๆ ทั้งหลาย แต่เทคนิคนี้อาจจะไม่ขั้นสูงมากนัก ทว่าก็มีการศึกษาวิจัยมาแล้วว่าการดับเครื่องยนต์ช่วยให้ประหยัดเงินในกระเป๋ามากขึ้น จนรถยนต์รุ่นใหม่หลายรุ่นมีระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติช่วยสนับสนุนในเรื่องการประหยัดน้ำมัน 2.หลีกเลี่ยงหลุมบ่อ ต่างๆ ไม่เชื่อก็ต้อง ว่าการขับรถให้ประหยัดนั้น สิ่งหนึ่งนอกจากการเดินคันเร่งเรื่อยๆ ขับชิวๆ ช้าๆ แล้ว สภาพพื้นถนนที่เป็นหลุมบ่อ ถือเป็นอุปสรรคสำคัญในการขับรถให้มีความประหยัดมากยิ่งขึ้น ดังนั้น ถ้าเป็นได้ควรหลีกลี่ยงหลุมต่างๆหรือผิวจราจรที่ไม่ราบเรียบ แต่หากต้องใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นประจำ อาจจะลองหาเส้นทางเลี่ยงที่ไกลกว่าเดิมไม่มากนัก สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมและข่าวสารอื่นๆได้ที่ //on.fb.me/xou0Vk

Aeroklas

27-03-2012, 15:02

//www.picza.net/save/20120327vlFdvlIdFOdxv17002_sv1/pic/2012_03_27-032-20120327vlFdvlIdFOdxv17002.jpg

Thanks: ฝากรูป[/url] //www.picza.net/save/20120327vlFdvlIdFOdxv14330_sv1/pic/2012_03_27-032-20120327vlFdvlIdFOdxv14330.jpg (//www.picza.net) Thanks: ฝากรูป

รู้หรือไม่ 10 อันดับประเทศ ที่น้ำมันราคาถูกสุดในโลก มีประเทศอะไรบ้าง?? บริษัทประกันจากอังกฤษ “สเตฟลีย์ เฮด” จัดอันดับ 10 ประเทศน้ำมันราคาถูกสุดในโลก ซึ่งแทบทั้งหมดเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมัน แต่จะมีประเทศอะไรบ้าง แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นประเทศเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะมีราคาน้ำมันถูกที่สุดในโลก แต่หากเทียบกับอัตราค่าครองชีพแล้ว ประชากรภายในประเทศอาจจะคิดว่าราคาน้ำมันเหล่านี้อาจจะแพงก็ได้ 10 แอลจีเรีย อันดับ 10 “แอลจีเรีย” ที่ขายน้ำมันราคาเท่ากับโอมาน 1.20 ดอลลาร์ ประเทศนี้ มีน้ำมันสำรองมากสุดเป็นอันดับ 3 ในทวีปแอฟริกา รองจากลิเบีย และไนจีเรีย แต่ผลิตน้ำมันมากเป็นอันดับ 4 ของกาฬทวีป และสหภาพยุโรป (อียู) พึ่งพาน้ำมันจากแอลจีเรียมาก เพราะมีสารซัลเฟอร์ต่ำ ขณะที่แอลจีเรีย มีรายได้ 60% จากการผลิตน้ำมัน 9 โอมาน อันดับ 9 คือ “โอมาน” ราคาน้ำมันขายแกลลอนละ 1.20 ดอลลาร์ โอมานเป็นชาตินอกกลุ่มโอเปกที่มีแหล่งน้ำมันสำรองมากสุด 5.5 พันล้านบาร์เรล ส่งออกน้ำมันและก๊าซคิดเป็น 47% ของจีดีพีปี 2553 แต่โอมาน พยายามเพิ่มความหลากหลาย ให้ระบบเศรษฐกิจไปที่ภาคเกษตรและบริการด้านสุขภาพ แทนที่จะพึ่งพาพลังงานอย่างเดียว 8 อียิปต์ อันดับ 8 “อียิปต์” ราคาน้ำมันขายในบ้านแกลลอนละ 1.14 ดอลลาร์ ทั้งที่อียิปต์ เป็นผู้ผลิตและกลั่นน้ำมันรายใหญ่ แต่ความต้องการบริโภคในประเทศเพิ่มขึ้นมาก ทำให้ต้องนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมบางส่วน ขณะที่ผลพวงจากปรากฏการณ์ปฏิวัติโลกอาหรับ ในปีที่ผ่านมา ส่งผลต่อหลายๆภาคส่วนของอุตสาหกรรม แต่รายได้หลักของอียิปต์ในช่วงบ้านเมืองวุ่นวาย ยังมาจากการลงทุนน้ำมันและก๊าซ รวมถึงรายได้จากคลองสุเอซ ที่เป็นเส้นทางเดินเรือสำคัญ 7 กาตาร์ อันดับ 7 “กาตาร์” ราคาน้ำมันอยู่ที่ 0.90 ดอลลาร์ต่อแกลลอน กาตาร์เป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวรายใหญ่สุดของโลก และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบอันดับ 16 ขณะที่คนในประเทศบริโภคน้ำมันเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากเมื่อปี 2543 เพราะเศรษฐกิจที่เติบโตและน้ำมันราคาถูกจากการอุดหนุนของรัฐ กาตาร์ มีปริมาณน้ำมันสำรองที่พิสูจน์แล้วราว 2.54 หมื่นล้านบาร์เรล ขณะที่รายได้จากน้ำมันและก๊าซมีสัดส่วน 50% ของจีดีพี แต่กาตาร์ พยายามเพิ่มความหลากหลายให้กับเศรษฐกิจและสร้างชื่อจากการลงทุนด้านวิจัยและพัฒนา 6 คูเวต อันดับ 6 “คูเวต” ขาย น้ำมันแกลลอนละ 0.84 ดอลลาร์ คูเวต เป็นประเทศที่มีแหล่งน้ำมันสำรองใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก และส่งออกเป็นอันดับต้นๆ ในกลุ่มโอเปก รายได้จากน้ำมันมีสัดส่วนราว 95% ของรายได้ทั้งหมด และคิดเป็นครึ่งหนึ่งของจีดีพี คูเวต มีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 4 ล้านบาร์เรลต่อวันภายในปี 2563 แต่ชาวคูเวตบริโภคน้ำมันที่ผลิตเองในสัดส่วนที่น้อยมาก เพราะส่งออกถึง 87% ของที่ผลิตได้ในปีที่แล้ว และเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงของคูเวตสูงสุดที่ 2,800 ดอลลาร์ต่อคน ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และกาตาร์อุดหนุนราว 2,500 ดอลลาร์ต่อคน 5 บาห์เรน อันดับ 5 “บาห์เรน” มี ราคาน้ำมันที่ 0.78 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ประเทศนี้ กำลังเพิ่มความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมีน้ำมันไม่มากเท่าประเทศอื่นๆ โดยเปลี่ยนไปเน้นจุดขายเรื่องศูนย์กลางการธนาคารในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ค้าปลีก และท่องเที่ยวแทน แต่บาห์เรน เผชิญกับความท้าทายเนื่องจากประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง หากไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่บาห์เรนจะยกเลิกการอุดหนุน

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่[URL="//on.fb.me/H8ZCHu"]//on.fb.me/H8ZCHu (//www.picza.net) นะคะ

Aeroklas

02-04-2012, 09:21

//image.free.in.th/z/io/news_img_410309_1.jpg (//pic.free.in.th/id/d4550eb1371a29369eb57318b26e02f0)

เปิดหลักเกณฑ์ รถคันแรก คืนภาษีให้ประชาชน

ในที่สุดมหกรรมยานยนต์งานใหญ่ของปี ก็เวียนมาถึงกันอีกแล้ว สำหรับงาน "บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ครั้งที่ 33" หรืองาน มอเตอร์โชว์ 2012 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม - 8 เมษายน 2555 ซึ่งในปีนี้มีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่กว่า 30 รุ่น รถจักรยานยนต์อีก 60 รุ่น และรถต้นแบบประหยัดพลังงานอีก 7 คัน แต่ที่ทำเอาฮือฮาไม่น้อย นั่นคือ การเปิดตัวรถยนต์อีโคคาร์อีก 2 รุ่นใหม่ คือ มิตซูบิชิ mirage และ ซูซูกิ swift ที่เข้าข่ายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาลด้วย นอกจากนี้ ค่ายรถยนต์อย่างฟอร์ด ก็ได้ส่ง ฟอร์ด เฟียสต้า ขนาดใหม่ 1.5 ลิตร มาประลองตลาดด้วยเช่นกัน จึงทำให้มีการคาดการณ์กันว่า ยอดจองรถ มอเตอร์โชว์ 2012 น่าจะคึกคักไม่น้อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะรถในกลุ่มที่เข้าหลักเกณฑ์ คืนภาษีรถคันแรก

แต่ก่อนที่จะเลือกซื้อรถยนต์ เพื่อรับสิทธิ์คืนภาษีได้นั้น ผู้ซื้อต้องตรวจสอบคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ของนโยบายรถคันแรกให้แน่ชัดเสียก่อน เราจึงได้นำหลักเกณฑ์การคืนภาษีรถคันแรก มาย้ำเตือนกันอีกครั้ง ดังนี้...

1. ต้องเป็นรถยนต์คันแรกของผู้ซื้อ

2. ต้องทำสัญญาซื้อขายรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน พ.ศ.2554-31 ธันวาคม พ.ศ.2555

3. เป็นรถยนต์ราคาขายปลีกไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อคัน

4. เป็นรถยนต์นั่ง ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 1,500 ลูกบาศก์เซนติเมตร/รถกระบะ (Pick up)/รถยนต์นั่งกึ่งบรรทุก (Double Cab)

5.เป็นรถยนต์ที่ผลิตขึ้นในประเทศ ไม่รวมถึงรถยนต์ที่ประกอบจากชิ้นส่วนนำเข้าใช้แล้วจากต่างประเทศ (รถยนต์จดประกอบ)

6. คืนเงินเท่ากับค่าภาษีตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อคัน

7. ผู้ซื้อต้องมีอายุ 21 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป

8. ผู้ซื้อต้องครอบครองรถยนต์ไม่น้อยกว่า 5 ปี หากผู้ซื้อรถไม่สามารถผ่อนต่อได้ หรือมีเหตุอย่างอื่น จะต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับให้กรมสรรพสามิต หากไม่ดำเนินการ ทางกรมสรรพสามิตจะใช้วิธีการทางศาล เพื่อให้สั่งให้คืนทะเบียนรถยนต์

9. การคืนเงินจะคืนเมื่อครอบครองรถยนต์ 1 ปีไปแล้ว โดยจะเริ่มจ่ายคืนให้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เป็นต้นไป ซึ่งกรมสรรพสามิตจะจ่ายผ่านทางเช็คเงินสดครั้งเดียวเต็มจำนวน

10. สามารถซื้อรถแบบเงินผ่อนผ่านไฟแนนซ์ หรือเงินสดก็ได้

11. รถมือสองไม่สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ เนื่องจากรถมือสองไม่มีภาษีสรรพสามิตในการซื้อ-ขาย

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Aeroklasthailnad (//www.facebook.com/Aeroklasthailnad) นะคะ

Aeroklas

02-04-2012, 16:41

//image.free.in.th/z/il/527912_10150699393819528_295233259527_9156919_903453503_n.jpg (//pic.free.in.th/id/0f75d5d90569e9561575cd116631f574)

การเลือกซื้อรถในงานโชว์ต่างๆอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครคุ้นเคย เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่ไปเดินในงานจะมีเพียงส่วนน้อยที่ตัดสินใจในการซื้อรถ แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก มาดู 5 วิธีในการช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อรถที่ถูกใจได้แบบไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง

1. เลือกดูตามความชอบ สำหรับงาน"มอเตอร์โชว์" หรืองานแสดงรถต่างๆ มีข้อดีเอื้ออำนวยต่อการซื้อรถเป็นอย่างยิ่ง คือการเปรียบเทียบกันของรถรุ่นต่างๆที่ทำให้คุณสามารถเลือกได้จนกว่าจะเป็นที่พอใจ ซึ่งหลายคนมักมีรถที่สนใจอยู่มากกว่า 1 รุ่น แต่การจะรู้ว่ารถคันไหนที่เหมาะกับเรานั้นจำเป็นต้องอาศัยการศึกษาจากสภาพจริง ด้วยการเข้าไปดู ทดลอง โดยอย่างที่เขาว่า สิบปากกว่าไม่เท่าตาเห็น สิบตาเห็นไม่เท่ามือคลำ ดังนั้นนวิธีการเลือกดูรถนั้นให้คุณพยายามเปรียบเทียบระหว่างรุ่น โดยเฉพาะในเรื่องของความคุ้มค่าด้านออพชั่น ที่จะได้จากรถยนต์แต่ละคันและราคาที่ต้องจ่าย โดยในขั้นตอนนี้อย่างเพิ่งตัดสินใจคุยกับเซลล์แต่ให้ลองดูราคาจากเอกสาร แล้วไปเดินเปรียบเทียบกับรถที่คุณชอบอีกรุ่นเพื่อหาข้อสรุปในเบื้องต้นก่อน

2. เลือกเซลล์ที่ควรคุย เมื่อได้รถที่ต้องการและตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าเราจะตกร่องปล่องชิ้นกับรถยนต์คันใดคันหนึ่ง ก็ถึงเวลาที่จะต้องคุยกับพนักงานขายเพื่อทราบรายละเอียดเพิ่มขึ้น อันที่จริงพนักงานขายมักจะเดินลี่เข้าหาคุณเองอยู่แล้วภายในงานมอเตอร์โชว์ เพราะเป็นหน้าที่และงานของเขา แต่อย่าลืมว่าคุณเองก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกพนักงานขายได้ โดยเฉพาะในงานเหล่านี้จะมีเซลล์จากโชว์รูมสาขาต่างๆมากมายเข้ามาร่วมงาน ซึ่งคุณควรจะหาเซลล์ที่มาจากโชว์รูมที่ใกล้กับบ้านคุณมากที่สุดเพื่อการรับบริการหลังการขายที่ดีที่สุด

3. โปรโมชั่น เรื่องต้องรู้ บ่อยครั้งเราพบว่าเซลล์มักจะไม่พูดถึงโปรโมชั่นนอกจากเราถามไถ่กัน และนั่นคือสาเหตุที่คุณจำเป็นต้องศึกษาโปรโมชั่นจากสื่อต่างๆก่อน เพื่อจะได้เท่าทันข้อเสนอของเซลล์โดยเฉพาะค่ายที่เราสนใจ ซึ่งนอกจากโปรโมชั่นของรถแล้ว เราต้องทราบโปรโมชั่นของบรรดาสถาบันการเงินด้วย ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการช่วยอำนวยความสะดวกในการซื้อรถ

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //on.fb.me/HNLAXW (//on.fb.me/HNLAXW) นะคะ

ดีจริงๆครับสำหรับข้อมูลดีๆ

Aeroklas

08-05-2012, 09:30

Aeroklas ร่วมงาน Thailand Auto Parts & Accessories 2012

บริษัท แอรืโรคลาส จำกัด ผู้ผลิตแบะจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์มาตราฐานระดับโลกแบรนด์ Aeroklas (แอร์โรคลาส) ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้ายานยนต์และอุปกรณ์ตกแต่งแห่งอาเซียน Thailand Auto Parts & Accessories 2012 (TAPA 2012) และได้นำเสนอนวัตกรรมสินค้าที่ได้รับการยอมรับจากค่ายรถชั้นนำทั่วโลก อาทิ ฝาครอบกระบะ(Aeroklas Deck Cover) และหลังคากระบะ (Aeroklas Canopy) ซึ่งภายในงานเต็มไปด้วยบูธของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ ทั้งของไทยและต่างชาติ ณ ไบเทค บางนา เมื่อวันที่ 26-28 เมษายน และวันที่ 29 เมษายน 2555 ที่ผ่านมา

//www.picza.net/save/20120508vlFdvlIdlFIdvPO49048_sv1/pic/2012_05_08-050-20120508vlFdvlIdlFIdvPO49048.jpg (//www.picza.net/show.php?id=20120508vlFdvlIdlFIdvPO49048) Thanks: ฝากรูป (//www.picza.net)

//www.picza.net/save/20120508vlFdvlIdlFIdvPO51688_sv1/pic/2012_05_08-050-20120508vlFdvlIdlFIdvPO51688.jpg (//www.picza.net/show.php?id=20120508vlFdvlIdlFIdvPO51688) Thanks: ฝากรูป (//www.picza.net)

Aeroklas

18-06-2012, 10:43

Toyota Camatte Concept ยกระดับรถไฟฟ้าสำหรับคุณหนูขึ้นไปอีกขั้น

โตโยต้า เปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Camatte Concept ในงาน 2012 International Tokyo Toy Show วันที่ 14 - 17 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมและจัดแสดงนิทรรศการ Tokyo Big Sight ฝั่งตะวันออก โดยมีไอเดียเด่นอยู่ที่การแยกส่วนตัวถังออกจากกันเป็นส่วนๆ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง สี และสไตล์ได้โดยง่ายบนโครงสร้างเดิม

Camatte Concept มากับที่นั่งแบบ 1+2 ที่นั่งแถวหลังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของเด็กเล็ก การเข้าออกตัวรถใช้วิธีโยกส่วนหลังคาและบังลมไปข้างหน้า ตำแหน่งของคุณแม่ (หรือคุณพ่อก็ได้) อยู่ระหว่างกลางของที่นั่งแถวหลัง ซึ่งเบาะหลังทั้ง 2 ตำแหน่ง สามารถมองเห็นทัศนวิสัยข้างหน้าได้อย่างชัดเจน จุดนี้คือแนวคิดหลักของ Camatte Concept หรือการสร้างประสบการณ์ร่วมของเด็กในการขับรถ

นอกจากนี้ ที่นั่งด้านหน้าและแป้นเหยียบ สามารถปรับระดับเพื่อให้เด็กๆ สามารถนั่งขับได้อย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ ทั้งนี้เบาะหลังด้านขวาจะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับบังคับพวงมาลัยและเบรคในกรณีฉุกเฉินให้ด้วย เสียดายที่ไม่มีภาพประกอบชัดๆ ว่ารูปร่างหน้าตาของตัวช่วยทางด้านหลังเป็นอย่างไร... น่าเสียดายที่พวงมาลัยหลักทางด้านหน้า ซึ่งเป็นทรงสปอร์ต 3 ก้าน กลับดูทันสมัยเกินไปสักหน่อยเมื่ออยู่ในรถรูปทรงย้อนยุค

ขนาดตัวมากับความยาวเพียง 2,700 มม. กว้าง 1,300 มม. รวมแล้วตัวเล็กกว่า Toyota iQ รุ่นใหม่พอสมควร (3,051 และ 1,680 มม.) ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า รายละเอียดทางเทคนิคยังไม่เปิดเผย มีเพียงตัวเลขความเร็วสูงสุด ที่ทำได้ในระดับเหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน คือ 70 กม./ชม.

โตโยต้า ยังไม่มีแผนการผลิต Camatte ออกมาจำหน่าย และแน่นอนว่าใช้วิ่งบนถนนหลวงไม่ได้ นอกจากวิ่งขำๆ สนุกๆ ในสนามโก-คาร์ท หรือที่ส่วนบุคคลสำหรับให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการขับรถนั่นเอง

เห็นเป็นแค่ของเล่นอย่างนี้ แต่ไอเดียในการเปลี่ยนรูปแบบตัวถังบนแชสซีส์เดิมไม่ธรรมดาจริงๆ

//image.free.in.th/z/iy/toyotacamatteconcept01.jpg (//pic.free.in.th/id/1699a4f376d0f819cf5f9a37308bbf63) //image.free.in.th/z/in/toyotacamatteconcept09.jpg (//pic.free.in.th/id/57f282e4b87ffdb240184a09ac3fa294)

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Aeroklasthailand (//www.facebook.com/Aeroklasthailand) Credit By://www.motortrivia.com/

Toyota Camatte Concept ยกระดับรถไฟฟ้าสำหรับคุณหนูขึ้นไปอีกขั้น

โตโยต้า เปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ Camatte Concept ในงาน 2012 International Tokyo Toy Show วันที่ 14 - 17 มิถุนายนนี้ ที่ศูนย์การประชุมและจัดแสดงนิทรรศการ Tokyo Big Sight ฝั่งตะวันออก โดยมีไอเดียเด่นอยู่ที่การแยกส่วนตัวถังออกจากกันเป็นส่วนๆ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนรูปร่าง สี และสไตล์ได้โดยง่ายบนโครงสร้างเดิม

Camatte Concept มากับที่นั่งแบบ 1+2 ที่นั่งแถวหลังถูกออกแบบมาให้เหมาะกับสรีระของเด็กเล็ก การเข้าออกตัวรถใช้วิธีโยกส่วนหลังคาและบังลมไปข้างหน้า ตำแหน่งของคุณแม่ (หรือคุณพ่อก็ได้) อยู่ระหว่างกลางของที่นั่งแถวหลัง ซึ่งเบาะหลังทั้ง 2 ตำแหน่ง สามารถมองเห็นทัศนวิสัยข้างหน้าได้อย่างชัดเจน จุดนี้คือแนวคิดหลักของ Camatte Concept หรือการสร้างประสบการณ์ร่วมของเด็กในการขับรถ

นอกจากนี้ ที่นั่งด้านหน้าและแป้นเหยียบ สามารถปรับระดับเพื่อให้เด็กๆ สามารถนั่งขับได้อย่างถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์ ทั้งนี้เบาะหลังด้านขวาจะมีอุปกรณ์เสริมสำหรับบังคับพวงมาลัยและเบรคในกรณีฉุกเฉินให้ด้วย เสียดายที่ไม่มีภาพประกอบชัดๆ ว่ารูปร่างหน้าตาของตัวช่วยทางด้านหลังเป็นอย่างไร... น่าเสียดายที่พวงมาลัยหลักทางด้านหน้า ซึ่งเป็นทรงสปอร์ต 3 ก้าน กลับดูทันสมัยเกินไปสักหน่อยเมื่ออยู่ในรถรูปทรงย้อนยุค

ขนาดตัวมากับความยาวเพียง 2,700 มม. กว้าง 1,300 มม. รวมแล้วตัวเล็กกว่า Toyota iQ รุ่นใหม่พอสมควร (3,051 และ 1,680 มม.) ขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า รายละเอียดทางเทคนิคยังไม่เปิดเผย มีเพียงตัวเลขความเร็วสูงสุด ที่ทำได้ในระดับเหมาะสมกับจุดประสงค์การใช้งาน คือ 70 กม./ชม.

โตโยต้า ยังไม่มีแผนการผลิต Camatte ออกมาจำหน่าย และแน่นอนว่าใช้วิ่งบนถนนหลวงไม่ได้ นอกจากวิ่งขำๆ สนุกๆ ในสนามโก-คาร์ท หรือที่ส่วนบุคคลสำหรับให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ในการขับรถนั่นเอง

เห็นเป็นแค่ของเล่นอย่างนี้ แต่ไอเดียในการเปลี่ยนรูปแบบตัวถังบนแชสซีส์เดิมไม่ธรรมดาจริงๆ

//image.free.in.th/z/iy/toyotacamatteconcept01.jpg (//pic.free.in.th/id/1699a4f376d0f819cf5f9a37308bbf63) //image.free.in.th/z/in/toyotacamatteconcept09.jpg (//pic.free.in.th/id/57f282e4b87ffdb240184a09ac3fa294)

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/Aeroklasthailand (//www.facebook.com/Aeroklasthailand) Credit By://www.motortrivia.com/

เท่ห์มากเลยครับ

Aeroklas

25-06-2012, 10:39

Update: Mercedes-Benz SLS AMG GT เร็วกว่ารุ่นเดิมในเดอะริง

//image.free.in.th/z/ih/2013mercedesbenzslsamggt01.jpg (//pic.free.in.th/id/5328cdf3f84369869b3f6cb5fd631c78)

หลังเปิดตัวเป็นทางการไปได้ไม่นาน เมอร์เซเดส-เบนซ์ ก็นำ SLS AMG GT ตัวถังคูเป้ไปทดลองขับในนูร์บูร์กริง ปรากฎว่าทำเวลาเร็วกว่ารุ่นก่อนปรับโฉมถึง 5 วินาที (7:30 และ 7:35 วินาที) เนื่องจากในรุ่นปรับโฉม มีการปรับปรุงเครื่องยนต์เพิ่มกำลังสูงสุดขึ้นอีก 20 แรงม้า รวมเป็น 591 แรงม้า (PS) ที่ 6,800 รอบต่อนาที ส่วนแรงบิดสูงสุดเท่าเดิม 66.23 กก.-ม. ที่ 4,750 รอบต่อนาที

อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.7 วินาที เร็วกว่าเดิม 0.1 วินาที 0-200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 11.2 วินาที และท๊อปสปีด 317 กิโลเมตรต่อชั่วโมง นอกจากเครื่องยนต์แล้วยังมีการปรับแต่งในส่วนของระบบส่งกำลังแบบ 7 จังหวะ AMG SPEEDSHIFT DCT และระบบกันสะเทือน AMG RIDE CONTROL อีกด้วย

2013 SLS AMG GT ทั้งคูเป้และโรดสเตอร์ พร้อมทำตลาดในยุโรปเดือนตุลาคม ตามด้วยสหรัฐอเมริกาเดือนพฤศจิกายนนี้

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //goo.gl/AwxGL

Aeroklas

27-06-2012, 10:50

Isuzu D-MAX เปิดตัวในออสเตรเลียแล้ว แม้ปีที่ผ่านมาจะมียอดขายในออสเตรเลียเพียง 6,000 คัน แต่ อีซูซุ ก็ยังเดินหน้าเปิดตัว ดี-แม็กซ์ ใหม่ ลงตลาดออสเตรเลีย โดยคาดหวังว่าปีนี้จะสร้างยอดขายได้เพิ่มเป็น 8,000 คัน ไม่ต้องตกใจ... ที่ขายได้ไม่เยอะก็เพราะรถกระบะที่ออสเตรเลียไม่ได้มีราคาถูกนัก ดี-แม็กซ์ รุ่นล่าสุดนี้ มีราคาเริ่มต้นที่ 27,200 ลากยาวไปจนถึง 51,700 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 8.7 แสน - 1.6 ล้านบาท) เรียกว่าหรูกันสุดๆ ไม่แพ้รถเก๋งเลยทีเดียว เพราะมีให้ทั้งระบบเครื่องเสียงระดับฟ้าประทานที่ อีซูซุ เรียกว่า Sky Sound ติดตั้งบนหลังคา เพื่อสร้างสรรค์เสียงให้ออกมาได้รอบทิศทางจริงๆ โดยอุปกรณ์อย่าง GPS เครื่องเล่นมัลติมีเดีย จอทัชสกรีน Bluetooth และพอร์ท iPod ก็ให้มาให้อย่างไม่ขาด ออปชั่นเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนจัดเต็มเป็นอุปกรณ์มาตรฐานคล้ายๆ บ้านเรา ทั้ง anti-lock braking system (ABS) ที่มาพร้อมกับระบบ electronic brakeforce distribution (EBD), ระบบ electronic stability control (ESC), traction control and brake assist (TCS) รวมถึงแอร์แบ็ค 6 ลูก ระบบก้านพวงมาลัยและแป้นเบรกแบบยุบตัวเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ส่วนในรุ่นท๊อปจะมีไฟหน้าโปรเจคเตอร์ และกล้องถอยหลังเพิ่มมาให้ สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ //www.facebook.com/Aeroklasthailand Credit By: www.motortrivia.com //image.free.in.th/z/ie/010079newgenerationisuzudmaxlaunchesthailand.1lg.jpg (//pic.free.in.th/id/fd04e7936c3f49c90d31e759ca29afe6)

Aeroklas

03-07-2012, 16:49

Mazda MX-5 GT Concept ต้นแบบที่อาจผลิตจริง ...

//image.free.in.th/z/ii/553154_10150992536289528_2020579940_n.jpg (//pic.free.in.th/id/07b94f82cd79eeda48378c7fe935f4ed)

ในงาน Goodwood Festival Speed ซึ่งจะจัดขึ้นในอาทิตย์หน้า มาสด้า ได้เตรียมรถต้นแบบ MX-5 GT Concept มาจัดแสดงด้วย ซึ่งรถรุ่นนี้อาจเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน Hillclimb ในประเภท 'First Glance' อีกด้วย พัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านรถแข่ง Jota Sport

ภายนอกพ่นสีส้มตัดกับสีดำของการตกแต่งในรายละเอียด เช่น หลังคา, โป่งล้อ, กระจกมองข้าง และส่วนล่างของตัวรถ ชุดแอโรไดนามิกผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ประกอบด้วย Splitter ด้านหน้า Diffuser ด้านหลัง และสปอยเลอร์บนฝากระโปรงท้าย ล้อแม็กสีดำพร้อมยาง Falken

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

05-07-2012, 09:19

url=//pic.free.in.th/id/9152f73174143da1bc92b0aeb6a8c18c]//image.free.in.th/z/iy/mitsubishipajerosportv6mivec3liter01.jpg[/url]

Mitsubishi Motors เพิ่มรุ่นให้ Pajero Sport และ Triton เสริมทัพไตรมาส 3

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่ง MItsubishi Pajero Sport เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 MIVEC กำลังสูงสุด 219 แรงม้า และ Triton Mega Cab Plus 178 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ พร้อมเสริมทัพให้ Triton ด้วยเครื่องยนต์เบนซินในรุ่น Mega Cab Plus และ Double Cab หวังกระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง เริ่มขายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปที่โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "บริษัทฯ ได้เตรียมจำหน่าย ปาเจโร สปอร์ต เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 MIVEC อย่างเป็นทางการ ที่โชว์รูมทั่วประเทศ ด้วยราคาขายเพียง 1,295,000 บาท หลังจัดแสดงครั้งแรกในงาน มอเตอร์โชว์ ที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจากลูกค้าที่เข้าร่วมชมงาน พร้อมถือโอกาสนี้แนะนำ ไทรทัน เมกะแค็บ พลัส 2.5 วีจี เทอร์โบ 5 AT ที่มาพร้อมสมรรถนะ และการประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น อัตราเร่งดีกว่าด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อม Sportronic เลือกปรับเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ"

Mitsubishi Pajero Sport

เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร V6 สูบ MIVEC 24 วาล์ว กำลังสูงสุด 219 แรงม้าที่ 6,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 281 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที พร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ควบคุมการเปิด-ปิดวาล์วไอดี เพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ในรอบสูง อัตราเร่งที่ฉับไว ประหยัดน้ำมันเมื่อใช้ความเร็วในรอบต่ำ เสื้อสูบอลูมิเนียมอัลลอย น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ INVECS II พร้อม Sportronic ระบบเกียร์อัจฉริยะ ตอบสนองได้รวดเร็วทันใจ สามารถเรียนรู้และจดจำรูปแบบการขับขี่ ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นไปอย่างเหมาะสม และทำให้ประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น

ภายนอกหรูหราและลงตัว ด้วยไฟหน้าแบบ HID ให้ความสว่างมากยิ่งขึ้น พร้อมระบบปรับระดับลำแสงอัตโนมัติ ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ตามสภาพแสงภายนอก และการติดตั้งระบบน้ำฉีดล้างไฟหน้ารถ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการส่องสว่างของไฟหน้ารถ รวมถึงระบบที่ปัดน้ำฝนอัตโนมัติ

กระจกมองข้างแบบโครเมียมพร้อมไฟเลี้ยว ให้ความลงตัว และเสริมสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น คิ้วประตูหลังแบบสีเดียวกับตัวรถ และโครเมียมเพิ่มความหรูหราลงตัว สปอยเลอร์หลังดีไซน์เฉพาะ เสริมความโฉบเฉี่ยวสไตล์สปอร์ต พร้อมกล้องมองหลังขณะถอยจอด เพิ่มทัศนวิสัยของผู้ขับขี่และความปลอดภัยยิ่งขึ้น ลงตัวกับล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว

สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand) Credit By : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)[url=//pic.free.in.th/id/efd85f00de5dcbc4395f5fae49f45f2b][img]//image.free.in.th/z/im/mitsubishipajerosportv6mivec3liter

Aeroklas

06-07-2012, 09:46

//image.free.in.th/z/ie/kgbmw.jpg (//pic.free.in.th/id/927984c257ca07bbb1b8a38d55068d5b)

Kelleners แต่ง M5 แรงได้อีก

Kelleners เป็นอีกหนึ่งสำนักแต่งที่นำ บีเอ็มดับเบิลยู M5 รหัสตัวถัง F10 มาโมดิฟาย โดยใช้ชื่อรุ่น KS5-5 เครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบชาร์จ 4,400 ซีซีได้รับการปรับแต่งให้มีกำลังสูงสุดเพิ่มจาก 560 เป็น 660 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุดเพิ่มจาก 69.26 เป็น 80.5 กก.-ม. ปลดระบบล็อกความเร็ว ส่งผลให้มีท๊อปสปีดอยู่ที่ 330 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบกันสะเทือนปรับสูง-ต่ำได้ และสามารถปรับความหนืดของช๊อคฯ ได้ทั้งจังหวะยุบและยืด

ภายนอกแต่งเพิ่มเล็กน้อยด้วยสปอยเลอร์หน้า, สปอยเลอร์บนหลังคา, กรอบกระจกมองข้าง, สเกิร์ตข้าง และ Diffuser ด้านหลัง ทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ มาพร้อมล้อแม็ก 20 นิ้ว เลือกสีได้ 3 แบบ คือ เทากราไฟต์, สีเงินปัดเงา และสีดำด้าน ภายในตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ โชว์ตะเข็บด้ายสีเทาตัดกับหนังสีเข้ม

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

09-07-2012, 09:09

//image.free.in.th/z/iz/2013mercedesbenzaclass01.jpg (//pic.free.in.th/id/ecbd5ca6ce3bfca415092a811626711f)

2013 Mercedes-Benz A-Class เปลี่ยนโฉมใหม่หมด บุกตลาดคอมแพคท์

เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Mercedes-Benz A-Class รหัสตัวถัง W176 ตัวถังแฮทช์แบค 5 ประตู พร้อมทำตลาดแล้ว รูปทรงโดยรวมถอดแบบเส้นสายอันแสนหวือหวาจาก Concept A-Classที่เปิดตัวใน 2011 ออโต้ เซี่ยงไฮ้ มาแบบเกือบครบ คู่แข่งโดยตรงในคลาสคือ BMW 1 Series และ Audi A3 โดย เมอร์เซเดส เตรียมใช้ A-Class รุ่นใหม่เจาะกลุ่มลูกค้าที่อายุน้อยลง เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้าภายในเน้นความหรูหราและสะดวกสบายอย่างถึงที่สุด ตามแบบฉบับรถหรูฟูลไซส์ของ เมอร์เซเดส Mr. Jan Kaul ผู้รับผิดชอบการออกแบบ A-Class ใหม่กล่าวว่า ถ้าคุณเข้าไปนั่งใน A-Class พร้อมกับหลับตา คุณจะไม่รู้สึกเลยว่ากำลังนั่งอยู่ในรถยนต์คลาสคอมแพคท์

รุ่นเครื่องยนต์แบ่งเป็นเบนซิน 5 รุ่นย่อย ติดตั้งใน A 180 BlueEFFICIENCY, A 200 BlueEFFICIENCY, A 250 BlueEFFICIENCY, A 250 Sport และ A 45 AMG ส่วนดีเซลแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย A 180 CDI BlueEFFICIENCY (แยกเป็นเครื่องยนต์รหัส OM 607 และ 651), A 200 CDI BlueEFFICIENCY และ A 220 CDI BlueEFFICIENCY

//image.free.in.th/z/if/2013mercedesbenzaclass02.jpg (//pic.free.in.th/id/596443c8f2b23538df26d1bb0e7e45a8)

การทำตลาดแบ่งเป็น 3 ชุดการตกแต่ง Style, Urban โดยมีไฮไลท์อยู่ที่รุ่น AMG Sport ที่จะตามออกมา เพิ่มพาร์ทรอบคัน ล้ออัลลอย 18 นิ้ว และยาง 225/40 ช่วงล่างเซ็ทแบบสปอร์ต ชุดเบรคประสิทธิภาพสูง คาลิเปอร์สลักตัวอักษร Mercedes-Benz แรงด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 354 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 45.8 กก.-ม.

ราคาจำหน่ายในเยอรมัน รุ่นพื้นฐานเริ่มต้นที่ 23,978 ยูโร หรือประมาณ 9.4 แสนบาท บ้านเราเก็บเงินรอกันได้

Credit By: www.Motortrivia.com (//www.Motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

13-07-2012, 10:30

Aston Martin V12 Vantage Roadster เปลือยหลังคาต่อจากรุ่น V8

//image.free.in.th/z/ik/2013astonmartinv12vantageroadster01.jpg (//pic.free.in.th/id/e95da659ed09859ac4fdb8bed33e9f0e)

ต่อเนื่องจากการเปิดตัวรุ่นรับลมของ Vantage เครื่องยนต์ V8 ในชื่อ V8 Vantage S Roadster แอสตัน มาร์ติน ก็จับรุ่นเครื่องยนต์ V12 มาเปลือยหลังคาเป็นรุ่นปี 2013 เตรียมทำตลาดในแบบจำกัดจำนวนด้วยชื่อ Aston Martin V12 Vantage Roadster ซึ่งเดิมทีแกรนด์ทัวเรอร์รุ่นนี้ก็ใช้พื้นฐานของ V8 มาปรับปรุง โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปคือเครื่องยนต์ V12 ความจุ 6.0 ลิตร ที่ยกมาจาก Aston Martin DBS

V12 Vantage Roadster ยังคงใช้งานเครื่องยนต์ 6.0 ลิตร หายใจธรรมดา กำลังสูงสุด 517 แรงม้า (ps) จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ภายนอกปรับปรุงระบบแอโรไดนามิคใหม่ เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้ความเร็วในขณะเปิดหลังคา โดยมีจุดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยบริเวณฝากระโปรงหลัง ยกสปอยเลอร์สูงขึ้น รวมทั้งลดตำแหน่งช่อง air intake ให้ต่ำลง

Credit By :www.motortrivia.com

สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.Facebook.com/Aeroklasthailand (//www.Facebook.com/Aeroklasthailand)

Aeroklas

14-07-2012, 10:38

Update: Nissan e-NV200 เตรียมเริ่มสายการผลิตในปี 2014

//image.free.in.th/z/in/nissannv200evfedex01.jpg (//pic.free.in.th/id/25123738d73f6cfa40cf673d511f3206)

FedEx Express และ นิสสัน ขยับขยายโปรแกรมทดสอบ NV200 EV prototype ที่เวลานี้ได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า e-NV200 โดยคราวนี้จะข้ามฝั่งกลับมาทดสอบกันในแถบโยโกฮาม่า ประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 1 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้ นิสสัน ก็ทำการทดสอบ e-NV200 ร่วมกับ AEON Retail Co. ในแถบชิบะอยู่ก่อนหน้า

กำหนดการผลิตคร่าวๆ สำหรับรถเพื่อการพาณิชย์พลังไฟฟ้ารุ่นนี้ น่าจะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม 2014 ระบบขับเคลื่อนยังคงเป็นชุดเดิมของ Nissan Leaf และอาจได้รับการปรับปรุงบางส่วนให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับการใช้งานอย่างต่อเนื่องในเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ตาม นิสสัน ยังไม่เผยข้อมูลสำคัญอย่างการจัดการกับน้ำหนักตัว + น้ำหนักบรรทุก ว่าต้องมีการเพิ่มขนาดความจุของแบตเตอรี่แพคให้ e-NV200 ตัวจริงหรือไม่ นอกจากนี้ นิสสัน ยังเตรียมลงทุนเพิ่มเติมอีกประมาณ 125 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อปรับปรุงสายการผลิตให้โรงงานในบาร์เซโลน่า ให้สามารถเปิดสายการผลิต e-NV200 ได้สะดวกขึ้นในอนาคต

//image.free.in.th/z/iu/nissannv200evfedex02.jpg (//pic.free.in.th/id/29c524db9211159c1b8867ee52110a24)

Credit By : www.motortrivia.com ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

17-07-2012, 10:00

Toyota ต่อสัญญา Cristiano Ronaldo เป็นพรีเซนเตอร์ Hilux Vigo Champ //image.free.in.th/z/in/ronaldorenewingcontracthiluxvigo02.jpg (//pic.free.in.th/id/cce081f9d459dcd0860849a00467d302) มร. เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ลงนามในสัญญาร่วมกับนักฟุตบอลระดับโลก คริสเตียโน โรนัลโด กัปตันทีมชาติโปรตุเกส และแชมป์การแข่งขันฟุตบอลลาลีก้าสเปนในทีม Real Madrid เพื่อเป็นพรีเซนเตอร์โฆษณาชุดใหม่ ให้กับรถกระบะยอดนิยมคุณภาพระดับโลก Toyota Hilux Vigo Champ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 ที่ ห้องลอนดอน โรงแรมพลาซาแอทธินี ถนนวิทยุ

นับเป็นความสำเร็จของ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ในการนำพรีเซนเตอร์ระดับโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด เข้ามาเสริมภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้กับ ไฮลักซ์ วีโก้ สำหรับการปรับปรุงโฉมครั้งใหญ่ พร้อมกับชื่อใหม่ ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554 ทำให้ประสบความสำเร็จ เป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าอย่างแพร่หลาย ครองตำแหน่งแชมป์ยอดขายอย่างต่อเนื่องถึง 6 ปีซ้อน ด้วยยอดจำหน่าย 121,887 คัน ครองส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 37.2% ในปี 2554

มร. เคียวอิจิ ทานาดะ กล่าวว่า "ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ เป็นรถกระบะที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในระดับสากล และประสบความสำเร็จครองตำแหน่งแชมป์ยอดขาย 6 ปีซ้อน สำหรับตลาดภายในประเทศ จึงนับว่าเป็นความเหมาะสมอย่างยิ่ง ที่ได้นักฟุตบอลระดับโลกอย่างคริสเตียโน โรนัลโด มาเป็นพรีเซนเตอร์ เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของการเป็น 'รถกระบะคุณภาพระดับโลก' รวมทั้งภาพลักษณ์ของความคล่องแคล่ว เกาะถนน เช่นเดียวกับความสามารถในการเล่นฟุตบอลของคริสเตียโน โรนัลโด ที่ได้รับการยอมรับในระดับ World class

//image.free.in.th/z/ij/ronaldorenewingcontracthiluxvigo03.jpg (//pic.free.in.th/id/8a8d5ff2f285bb6b73ca0f6ad2443c0a) เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย www.motortrivia.com สามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ (//www.motortrivia.comสามารถอ่านข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่) www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

24-07-2012, 10:15

Lamina ยอดขายโตเกินคาดในปีนี้ คาดส่วนแบ่งตลาดฟิล์มทดแทนทะลุ 35%

นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ และฟิล์มกรองแสงอาคาร ลามิน่า ฟิล์มกลุ่มพิเศษ ลูม่าร์ ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ สหรัฐอเมริกา มาตรฐาน ISO 9001 รวมถึงอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ THULE จากสวีเดน เผยว่าภาพรวมตลาดฟิล์มกรองแสงทดแทนในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง

ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์มือสองที่ปกติแล้วมีขนาดของตลาดราว 3 เท่าของตลาดรถยนต์ใหม่นั้น ปีนี้ยังมีแนวโน้มที่สดใส จากผลกระทบการส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่คาดว่าจะชะลอ หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา และถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดรถยนต์มือสอง ที่น่าจะเติบโตอย่างมากในปีนี้

การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง จะทำให้ธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ได้รับอานิสงส์ที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ที่ผู้บริโภคมักนำรถยนต์มือสองที่ซื้อมา ทำการตกแต่งด้วยการติดฟิล์มกรองแสงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าคุณภาพดี ที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรอง ทำให้ ลามิน่า เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มนี้

"เราเชื่อว่ากลุ่มลูกค้ารถยนต์มือสอง มีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับลูกค้ารถยนต์ใหม่ ซึ่งลามิน่ามีสินค้าที่หลากหลาย ให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ทำให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับรางวัลยืนยันความสำเร็จมาอย่างมากมาย"

การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้ จะทำให้สัดส่วนฟิล์มกรองแสงทดแทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนฟิล์มของผู้ใช้รถนั้น ปรับเพิ่มมากขึ้นเป็น 35% ของยอดจำหน่ายของ ลามิน่า จากปกติที่อยู่ที่ระดับ 30% ซึ่งเป็นการเติบโตตามการคาดการณ์การขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสอง และตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย

//image.free.in.th/z/ij/laminasalesreport201201.jpg (//pic.free.in.th/id/d2e98bc84c9f4308e44af86bbbe7b527)

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ (//www.motortrivia.comสามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่) www.facebook.com/Aeroklasthailand (//www.facebook.com/Aeroklasthailand)

Aeroklas

27-07-2012, 09:45

Honda Jazz Hybrid ... ไฮบริดรุ่นแรกในรถคลาสซับคอมแพคท์

ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว Honda Jazz เวอร์ชั่นไฮบริด ซึ่งนับเป็นรถไฮบริดรุ่นแรกในกลุ่มรถคลาส ซับคอมแพคท์ ในประเทศไทย ทำตลาดภายใต้คอนเซปท์ 'เรียบ' และ 'ล้ำสมัย' กระจังหน้า ไฟหน้า และไฟท้าย ออกแบบใหม่ จุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีอัจฉริยะ Eco Assist ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัด พร้อมมาตรวัดแสดงผลการขับขี่แบบประหยัด ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 768,000 บาท

คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "แจ๊ซ ไฮบริด ที่เปิดตัวในประเทศไทยวันนี้ นับเป็นหนึ่งในนวัตกรรมของฮอนด้าที่ใช้เทคโนโลยีไฮบริด ผสานการทำงานร่วมกับเครื่องยนต์อัจฉริยะ i-VTEC ขนาด 1.3 ลิตร ทำให้มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และถือเป็นยนตรกรรมไฮบริดในรถซับคอมแพคท์รุ่นแรก และรุ่นเดียวที่มีจำหน่ายในประเทศไทยในปัจจุบัน"

"ฮอนด้าเชื่อมั่นว่า แจ๊ซ ไฮบริด จะได้รับการตอบรับอย่างอบอุ่นจากลูกค้าชาวไทย ที่กำลังมองหารถยนต์ไฮบริดที่มีความลงตัวสำหรับการใช้งาน เปี่ยมด้วยสมรรถนะ ขับสนุก ควบคุมได้ดั่งใจ ประหยัดน้ำมัน ใช้งานได้หลากหลาย มีพื้นที่ห้องโดยสารใหญ่กว่ารถในระดับเดียวกัน และประการสำคัญ ยังเป็นรถไฮบริดที่ทุกคนก็สามารถเป็นเจ้าของได้

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ (//www.motortrivia.comสามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่) www.facebook.com/Aeroklasthailand

(//www.facebook.com/Aeroklasthailand)//image.free.in.th/z/il/hondajazzhybrid06.jpg (//pic.free.in.th/id/e06feabc60df6f599281016e8386b311)

Aeroklas

27-07-2012, 14:36

แอร์โรคลาสสยายปีกบุกตลาดโลก

นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท ตะวันออกโปลิเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์ที่ผลิตจากพลาสติกภายใต้แบรนด์ "แอร์โรคลาส" เปิดเผย ถึงแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปีนี้ว่า บริษัทมีแผนงานที่จะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น โดยมุ่งเน้นการลงทุนอุตสาหกรรมยานยนต์ที่มีการเติบโต ค่อนข้างสูง

โดยปีนี้ได้เตรียมงบประมาณสำหรับการลงทุนไว้ที่มูลค่า 400-500 ล้านบาท แบ่งเป็นการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตไลเนอร์ หรือพื้นปูกระบะที่ประเทศตุรกี ให้กับค่าย "ฟอร์ด" ซึ่งจะลงทุนมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท แบ่งเป็นเฟส 1 มูลค่ากว่า 150 ล้านบาท และในเฟสที่ 2 อีกมูลค่า 200 ล้านบาท โดยในช่วงแรกของการลงทุนนั้น บริษัทจะเข้าไปเช่าโรงงาน เพื่อผลิตและประกอบไลเนอร์ก่อน โดยคาดว่าจะมีรายได้อยู่ที่ 6-7 ล้านยูโร หรือประมาณ 200 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าการเติบโตในปี 2556 ไว้อีก 10% และการลงทุน เพื่อขยายโรงงานที่มีอยู่เดิมในส่วนของประเทศจีน, อินเดีย และอเมริกา

//image.free.in.th/z/ir/turkey_china_flags_110412.jpg (//pic.free.in.th/id/aae3aacbcca3b0d36ec447b8fbd85be2)

ส่วนการลงทุนในประเทศนั้น บริษัทจะมีการขยายการลงทุนในส่วนของการผลิต พ่นพลาสติก สำหรับปูบ่อ ขนาดกว้าง 7 เมตรด้วย สำหรับผลประกอบการของปี 2554 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ 7-8% หรือจากเดิมที่ 11,000 ล้านบาท โดยทำได้ที่ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจรถยนต์ 2,500 ล้านบาท, ธุรกิจฉนวนกันความร้อน 3,200 ล้านบาท รายได้จากบริษัทร่วมทุน 3,200 ล้านบาท, ธุรกิจชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เครื่องถ่ายเอกสาร 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ

สาเหตุที่ทำให้รายได้ของกลุ่มบริษัทต่ำกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ มีสาเหตุหลักมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในประเทศไทย เมื่อช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรถยนต์ และชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ต้องหยุดชะงัก หลังจากในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี ภาคอุตสาหกรรมมีแนวโน้มสดใส

ส่วนปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นที่ 10-15% เนื่องจากบริษัทมั่นใจว่า อุตสาหกรรมยานยนต์จะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง หลังจากปีที่ผ่านมายังมีความต้องการค่อนข้างสูง แต่ไม่มีสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยปีนี้คาดว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจะมีการผลิตรถยนต์อยู่ในระดับ 1.8-2 ล้านคัน และยังมีความต้องการ หรือดีมานด์จากปี 2554 ที่หายไปอีกเกือบ 200,000-300,000 คันด้วย ทำให้เชื่อว่าความต้องการใช้รถยนต์ของปีนี้จะมีความต้องการค่อนข้างสูง

ขณะที่ปัจจัยที่ยังต้องจับตาเป็นพิเศษ คือ เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในยุโรปที่ค่อนข้างน่าเป็นห่วง ขณะที่อเมริกาเริ่มฟื้น ส่วนประเทศไทยเองเชื่อว่า หากการเมืองมีเสถียรภาพ ทุกอย่างน่าจะขับเคลื่อนไปได้ดี "ปีนี้จะเป็นปีที่ดีของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย และอุตสาหกรรมยานยนต์โลก ซึ่งเราเองก็จะเกาะกลุ่มและโตตามอุตสาหกรรมยานยนต์ จะเห็นได้ว่าเราลงทุนที่ตุรกีเพื่อรองรับฟอร์ด หรืออย่างในจีนเอง เราก็มีการลงทุนต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองลูกค้าหลัก อย่างจีเอ็มและโฟล์ก รวมทั้งรถยนต์แบรนด์ของเมืองจีนอีกหลายยี่ห้อ ส่วนประเทศไทยเชื่อว่า ตัวพื้นปูกระบะและฝาปิดท้ายจะเป็นตัวทำตลาดได้ดีเช่นเดียวกัน" นายภวัฒน์กล่าว (ฉบับประจำวันที่ 19-22 ม.ค.55)

Credit By :www.prachachat.net //image.free.in.th/z/iy/gmain.jpg (//pic.free.in.th/id/e2774fe0a4d40dbe41f543ee06df5b67)

Aeroklas

10-08-2012, 11:11

//image.free.in.th/z/ib/volvo.jpg (//pic.free.in.th/id/346b29982221311db35757ee61b2710a)

Volvo S40 เปิดโปรโมชั่น ปลอดดาวน์ ปลอดดอก ปลอดภัย

Volvo S40 ซีดานขนาดกลางยอดนิยม อัดโปรโมชั่นแรง บุกตลาดไตรมาส 3 'ปลอดเงินดาวน์ ปลอดดอกเบี้ย' แต่ยังคงปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐาน วอลโว่ ที่ได้รับการยกย่องและยอมรับทั่วโลก เปิดให้ลูกค้าเป็นเจ้าของ S40 ได้ง่ายๆ เพียงแวะมาชมและตัดสินใจเป็นเจ้าของ พร้อมรับรถได้ทันที ที่ผู้แทนจำหน่าย วอลโว่ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ถึง 28 กันยายน 2555 นี้เท่านั้น

วอลโว่ S40 เป็นซีดานหรูขนาดกระทัดรัด ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์หรู เรียบ ทันสมัย สไตล์สแกนดิเนเวียน เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร พร้อมระบบเกียร์เพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด ที่ให้ความเร็วต่อเนื่องในทุกรอบเครื่อง ให้พลังแรงแต่ประหยัดเชื้อเพลิง มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับโลกตามมาตรฐาน วอลโว่ อาทิ ระบบกล้องและสัญญาณเตือนมุมอับสายตา - Blind Spot Information System: BLIS, ระบบปกป้องจากการบาดเจ็บจากการสะบัดของศีรษะ - Whiplash protection system : WHIPS และระบบการกระจายแรงกระแทกจากการชนด้านข้าง Side Impact Protection System : SIPS

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ (//www.motortrivia.comสามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่) www.aeroklasthailand.com (//www.aeroklasthailand.com)

Aeroklas

22-08-2012, 09:24

Mazda ยอดขายเดือน 7 ทะลุ 7 พันคัน มาสด้า เผยตัวเลขยอดขายเดือนกรกฎาคม ผ่าน 7,000 คันเป็นครั้งแรก Mazda2 ยอดขายสูงสุด 3,340 คัน ส่วน BT-50 PRO เกือบ 3,000 คัน มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แม้ว่าตลาดจะเข้าสู่ช่วงของโลว์ซีซั่น แต่ มาสด้า ยังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดจำหน่ายเฉพาะเดือนกรกฎาคม 2555 ที่ผ่านมา Mazda2 ทั้ง 4 และ 5 ประตู รวม 3,340 คัน เพิ่มขึ้น 52% Mazda3 763 คัน เพิ่มขึ้น 14% และ Mazda BT-50 PRO เติบโตสูงสุด 273% ยอดขาย 2,959 คัน เดือนกรกฎาคมถือเป็นเดือนที่ มาสด้า ทำลายทุกสถิติของตัวเองด้วยตัวเลขยอดขายสูงสุดถึง 7,065 คัน สูงสุดในประวัติศาสตร์การขายรถของ มาสด้า ในประเทศไทย และมีอัตราการเติบโต 93% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดขายรถยนต์รวมของประเทศไทยในเดือนกรกฎาคมเพิ่มสูงขึ้นถึง 130,766 คัน มาสด้า สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดในปีนี้ 5.4% แบ่งเป็น Mazda2 11% ในตลาดบีคาร์ Mazda BT-50 PRO 5.7% จากยอดรวมของตลาดปิกอัพ 52,085 คัน และ Mazda3 6.1% จากยอดขายรวมของตลาดซีคาร์ 12,561 คัน "การที่เราสามารถทำสถิติยอดขายเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากระดับ 3,000 คัน มาจนถึง 7,000 คัน ในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ของมาสด้า นอกจากการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดแล้ว การบริการหลังขายเป็นสิ่งสำคัญที่มาสด้ายึดมั่นมาโดยตลอด เราให้ความสำคัญอย่างมากกับการขยายเครือข่ายของศูนย์บริการทั่วประเทศ รวมทั้งคุณภาพของการบริการที่ต้องเป็นเลิศ และเหนือกว่าความคาดหวังของลูกค้า" //image.free.in.th/z/il/mazdasalesreport2012july01.jpg (//pic.free.in.th/id/b6922cd8f9bfffbbe894a9b34bcdbec4) Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

23-08-2012, 08:40

2013 Lexus LS 4 รุ่นใหม่ตระกูล LS พร้อมไฮไลท์จากแผนก Lexus F

//image.free.in.th/z/ic/2013lexusls01.jpg (//pic.free.in.th/id/07e64402779e9a391e9d306afe4bd1d0)

เลกซัส เปิดตัวรถธงตระกูล LS รุ่นปี 2013 ซึ่งเป็นการปรับปรุงจาก LS ตัวถังซีรี่ส์ XF40 ที่ใช้งานมาตั้งแต่ช่วงปี 2006 ประกอบไปด้วย Lexus LS 460, LS 460L, LS 600hL hybrid และถือเป็นครั้งแรกกับการเปิดตัวรุ่นแรงของแผนก Lexus F ในไลน์ LS ด้วยรุ่นไฮไลท์ Lexus LS 460 F Sport

LS 460 และ LS 460L จะมีทางเลือกระบบขับเคลื่อนให้ทั้งแบบ RWD และ AWD ส่วน LS 600hL hybrid จะมากับระบบขับเคลื่อน AWD แบบฟูล-ไทม์ และแน่นอนว่าทุกรุ่นมากับเอกลักษณ์ใหม่อย่างกระจังหน้าทรงบิดเกลียว spindle grill ที่เริ่มใช้ในต้นแบบ GS และถือเป็นตัวแทนยุคใหม่ของ เลกซัส ฝีมือของ มร.คัทสึฮิโกะ อินาโทมิ หัวหน้าทีมออกแบบ GS ที่มีจุดกำเนิดมาจากการปั้นแบบด้วยดินเหนียวเล่นๆ ในสตูดิโอที่ Toyota City

LS 460 F Sport ซึ่งเป็นรุ่นไฮไลท์ มีรูปลักษณ์ที่ดุดันกว่า 460 รุ่นพื้นฐาน ภายในตกแต่งด้วยเบาะสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแพดเดิลชิฟท์ ช่วงล่างปรับระดับด้วยถุงลม หรือ Air Suspension จูนแบบสปอร์ต ลดความสูงลงได้ 0.4 นิ้ว รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมีลิมิเต็ดสลิป แบบ Torsen ให้ใช้งาน พร้อมทั้งเพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถด้วยชุดเบรค Brembo คาลิเปอร์ 6 สูบ เสริมเท่ด้วยล้อขนาด 19 นิ้ว ขึ้นรูปแบบฟอร์จ

//image.free.in.th/z/ig/2013lexusls02.jpg (//pic.free.in.th/id/5b5d3161ce33bf92c3ec58d5a9052dab)

Credit By : www.motortrivia.com

สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

24-08-2012, 08:40

//image.free.in.th/z/iv/2012minidieseldsd04.jpg (//pic.free.in.th/id/e8d8cb6c9bd6b47239d29e3f3138ca32)

INI Diesel D/SD 400 กิโลเมตร กับมินิดีเซล

ทิ้งช่วงหลัง การเปิดตัว ประมาณ 1 เดือน ม ินิ ก็จัดการทดสอบ มินิ ดีเซล แบบกรุ๊ปเทสต์ในระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคมที่ผ่านมา มีรถให้ทดลองขับทั้งหมด 7 คัน แบ่งเป็น คูเปอร์ D 2 คัน SD 1 คัน, คูเป้ ซึ่งมีเฉพาะรุ่น SD 1 คัน, คันทรีแมน D 1 คัน และ SD 2 คันแต่ละคันนั่ง 2 คนเพื่อสลับกันขับ มีวิทยุสื่อสารและจีพีเอสประจำรถ

นัดหมายกันที่ All Season Place ถนนวิทยุในช่วงเช้าโดยได้รับเกียรติจาก คุณจตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทยก ล่าวต้อนรับ แต่ไม่ได้เดินทางไปด้วยเนื่องจากติดภาระกิจ และ คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยูกรุ๊ป ประเทศไทย บรรยายสรุปและร่วมเดินทางไปด้วย

ช่วงแรกของการเดินทางเป็นการวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง มีจุดบันทึกข้อมูล2 จุด คือ ปั๊ม ปตท. กบินทร์บุรี และ โรงแรมคันทารี ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นจุดสิ้นสุดการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและทานอาหารกลางวัน ช่วงแรกนี้ไม่ต้องขับเป็นขบวนและไม่มีรถนำ ทุกคันต้องบริหารเวลาเอง เพื่อให้ถึงโรงแรมคันทารีก่อนเที่ยง ระยะทางประมาณ 175 กิโลเมตร กับเวลากว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง ใช้ทางด่วนเป็นหลักจึงไม่น่ามีปัญหาไปไม่ทัน ถ้าไม่ขับช้าเกินไปหรือหลงทาง

คูเปอร์ D เกินพอกับการใช้งานทั่วไป เปอร์ D แม้แรงม้าจะดูน้อยไปนิด โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่น คูเปอร์ เครื่องยนต์เบนซิน 1,600 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ ที่ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แต่ก็ชดเชยด้วยแรงบิดสูงในรอบต่ำ เหนือว่ารุ่นเบนซินที่มีเพียง 16.3 กก.-ม. ที่ 4,250 รอบต่อนาที ถ้าดูจากสเปคจะพบว่าระหว่าง คูเปอร์ D และ คูเปอร์ เบนซิน มีอัตราเร่งและความเร็วปลายที่ไม่ต่างกันนัก แต่ในการใช้งานจริง เครื่องยนต์ดีเซลที่มีแรงบิดสูงกว่า ที่รอบเครื่องยนต์ต่ำกว่า และเป็นแบบ Flat Torque ทำให้การขับใช้งานทั่วไปมีความยืดหยุ่นสูง การเพิ่มความเร็วไม่จำเป็นต้องกดคันเร่งมิดเพื่อคิ๊กดาวน์หรือลากรอบ แค่เพิ่มน้ำหนักเท้าขวาลงไปก็จะได้อัตราเร่งที่ทันใจ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ

ข้อได้เปรียบสำคัญของเครื่องยนต์ดีเซลคือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าเครื่องยนต์เบนซินในระดับสมรรถนะเดียวกัน โดยเฉพาะการขับเดินทางไกล เครื่องยนต์ดีเซลจะประหยัดกว่าเบนซินอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ค่าเชื้อเพลิงก็ยังถูกกว่าอีกด้วย ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อกิโลเมตรต่างกันมาก และเมื่อใช้น้ำมันเชื้อเพลิงน้อยกว่า การปล่อยมลพิษจึงน้อยกว่าด้วย โดยมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ 135 กรัมต่อกิโลเมตร (คูเปอร์ เบนซิน 150 กรัมต่อกิโลเมตร)

Credit By : www.motortrivia.com

สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

//image.free.in.th/z/ie/2012minidieseldsd02.jpg (//pic.free.in.th/id/ad0dce1e85a666dfb776d5eab0cc4d15)

Aeroklas

29-08-2012, 09:02

Honda City CNG

ซีเอ็นจี จากโรงงานรุ่นแรกของฮอนด้า

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว Honda City CNG รถซีเอ็นจีจากโรงงานรุ่นแรกของ ฮอนด้า มาตรฐานใหม่ของชีวิตฉลาดเลือก กับความคุ้มค่าด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร รองรับทั้งระบบน้ำมันเชื้อเพลิง และระบบก๊าซ CNG พร้อมระบบการจ่ายก๊าซแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ และระบบกันสะเทือนที่ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะ มั่นใจกับระบบความปลอดภัยด้วยกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ และคานเสริมความแข็งแกร่ง เพิ่มเสถียรภาพในการทรงตัว

ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี ได้รับการประกอบสำเร็จจากโรงงาน เพื่อให้มั่นใจในมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มาตรฐาน Euro4 รับประกันคุณภาพสูงสุด 3 ปีหรือ 100,000 กม. พร้อมรับสิทธิประโยชน์คืนภาษีรถยนต์คันแรกสูงสุด 100,000 บาท ราคาเริ่มต้น 659,000 - 706,000 บาท พร้อมจำหน่ายแล้วที่โชว์รูม ฮอนด้า ทั่วประเทศ

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "จากความมุ่งมั่นในการคิดค้นยนตรกรรมพลังงานสะอาด และการใช้พลังงานทางเลือก เพื่อตอบสนองนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม Blue Skies for Our Children ซึ่งฮอนด้าทั่วโลกต่างมุ่งมั่นในการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลง 30% (เมื่อเทียบกับปี 2543) ในทุกผลิตภัณฑ์ให้ได้ภายในปี 2563 สอดคล้องกับปัญหาด้านราคาพลังงานเชื้อเพลิงที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา"

"ฮอนด้าตระหนักถึงภาระค่าใช้จ่ายของผู้ใช้รถ ควบคู่กับการคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัย จึงได้นำฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของฮอนด้า เข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ และความต้องการของลูกค้าชาวไทย ที่กำลังมองหารถยนต์พลังงานทางเลือก ให้สมรรถนะสูง ให้การประหยัดอย่างคุ้มค่า มาพัฒนาต่อยอดให้สามารถรองรับระบบก๊าซ CNG อย่างปลอดภัย ควบคู่ไปกับการรักษาจุดเด่นของรถซิตี้ไว้อย่างครบถ้วน ทั้งรูปลักษณ์ พื้นที่จัดเก็บสัมภาระที่คงความกว้างขวาง ความแข็งแกร่งและสมรรถนะที่เป็นเยี่ยม นับเป็นรถยนต์รุ่นแรกในกลุ่มรถยนต์ซับคอมแพคท์ ขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ที่สามารถใช้ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง และก๊าซ CNG เพื่อให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่ให้ความคุ้มค่าสูงสุด นอกจากนี้ ซิตี้ ซีเอ็นจี ยังเป็นรถยนต์ที่ได้รับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรกสูงสุด 100,000 บาท"

ฮอนด้า ซิตี้ ซีเอ็นจี มากับเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 102 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 12.9 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบต่อนาที รองรับพลังงาน 2 ระบบ ทั้งน้ำมันและก๊าซ CNG ได้มาตรฐานมลพิษระดับ Euro 4 ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ การเลือกใช้พลังงานสะดวก และง่ายดาย เพียงปรับเปลี่ยนสวิตช์เลือกใช้ชนิดเชื้อเพลิง จะมีไฟแสดงสถานะการใช้เชื้อเพลิง และไฟแสดงปริมาณก๊าซ ควบคุมการทำงานด้วยกล่องควบคุมอิเล็กทรอนิกส์ (ECU) ประมวลผลอย่างแม่นยำในการจ่ายก๊าซอย่างเหมาะสม และตัดการจ่ายก๊าซในกรณีฉุกเฉิน

ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์คุณภาพสูง และท่อนำก๊าซแรงดันสูง ผลิตจากสแตนเลสที่มีความทนทาน และอุปกรณ์ลดแรงดันก๊าซ ทำหน้าที่ปรับลดแรงดันก๊าซให้เหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด การติดตั้งหัวรับเชื้อเพลิง CNG ใกล้จุดเติมน้ำมัน พร้อมลิ้นป้องกันการไหลย้อนกลับของก๊าซ ถังก๊าซความจุ 65 ลิตร พร้อมแผงกั้นแบ่งพื้นที่ติดตั้งถังก๊าซ และห้องสัมภาระด้านท้าย เพื่อความสวยงาม และป้องกันการกระแทกบริเวณห้องสัมภาระด้านท้าย

Credit By : www.motortrivia.com

รับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

//image.free.in.th/z/ik/2012hondacitycng01.jpg (//pic.free.in.th/id/65063e61620f7225e6a9ea73d7b6d6a5) //image.free.in.th/z/id/2012hondacitycng02.jpg (//pic.free.in.th/id/680185dcd4b0a90138e4c9b93d0d11e3) //image.free.in.th/z/if/2012hondacitycng03.jpg (//pic.free.in.th/id/e6f5e33e65f954fc774484ef9e38530f)

Aeroklas

01-09-2012, 09:38

Chevrolet เพิ่มรถ 3 รุ่น เตรียมเปิดตัวในปารีส หลังการเปิดตัว Trax เอสยูวีขนาดเล็กเป็น ครั้งแรกของโลก เชฟโรเลต เตรียมบุกต่อเนื่องในปารีส มอเตอร์โชว์ 29 กันยายน - 14 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ด้วยการเตรียมเปิดตัวรถใหม่ 3 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นปรับโฉมของ Spark รวมทั้งการเพิ่มเครื่องยนต์ใหม่ให้เอ็มพีวีรุ่น Orlando และซีดาน Malibu Spark ปรับโฉมในส่วนของกระจังหน้า Dual-Port และกันชนหน้า รวมทั้งการปรับชุดกรอบไฟหน้าและสปอตไลต์ ล้อแม็กลายใหม่ขนาด 14 และ 15 นิ้ว สปอยเลอร์หลังติดตั้งไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ภายในปรับการตกแต่งและปรับคอนโซลกลางใหม่โดยเพิ่มที่เก็บของ ในยุโรปจะทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1,000 ซีซี 68 แรงม้า และ 1,200 ซีซี 82 แรงม้า จิบน้ำมันเฉลี่ย 20 กิโลเมตรต่อลิตร และปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ 118 กรัมต่อกิโลเมตร เอ็มพีวี Malibu เพิ่มรุ่นเบนซินเทอร์โบ 1,400 ซีซี 140 แรงม้า (PS) แรงบิด 20.38 กก.-ม. ทำตลาดควบคู่กับเครื่องยนต์ 4 สูบเดิม ทั้งเบนซิน 1,800 ซีซี และดีเซล 2,000 ซีซี มาพร้อมฟังก์ชั่น Start/Stop และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.12 กิโลเมตรต่อลิตรในรุ่นดีเซล เพิ่มพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า Electric Power Steering (EPS) และฟังก์ชั่น Start/Stop ซึ่ง เชฟโรเลต ระบุว่าช่วยประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซ็นต์ ส่วนออฟชั่นเสริมของ Orlando จะมีกล้องมองหลัง และเบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับเอนราบได้ ปิดท้ายด้วย Malibu เพิ่มเครื่องยนต์ใหม่ดีเซล 2,000 ซีซี 160 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 35.66 กก.-ม. ที่ 1,750 รอบต่อนาที Credit By : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)//image.free.in.th/z/iq/chevroletsparkmalibuorlandoparis201201.jpg (//pic.free.in.th/id/30215f5247ea7af94e47eb94bce677fa)

Aeroklas

04-09-2012, 09:25

Chevrolet Cruze 2.0 LTZ เครื่องยนต์ใหม่ในบอดี้เดิม

เชฟโรเลต แสดงความมุ่งมั่นในการทำตลาดรถไซส์คอมแพกต์เครื่องยนต์ดีเซล ด้วยการเปลี่ยนเค รื่องยนต์ใหม่ให้ Cruze รุ่นสูงสุด 2.0 LTZ เป็นบล็อกเดียวกับ แคปติวา ไมเนอร์เชนจ์ ดีเซล ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน 163 แรงม้า สมรรถนะ และอัตราสิ้นเปลืองจะเป็นอย่างไร และเมื่อถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของราคา จะสามารถจัดการกับจุดด้อยของเครื่องยนต์ดีเซลได้ดีแค่ไหน ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย มีคำตอบ

รูปลักษณ์ไม่เปลี่ยนแปลง baภายนอกยังคงเหมือนรุ่นเครื่องยนต์เดิมทุกประการ เป็นสปอร์ตซีดานที่เน้นความเฉียบคมของเหลี่ยมสันและเส้นสาย ด้านหน้าโชว์เอกลักษณ์กระจัง Dual Port พื้นกระจังลายรังผึ้งสปอร์ต ประกบด้วยโคมไฟหน้าทรงเหลี่ยมเฉียงให้ความรู้สึกดุดัน ด้านล่างมีสปอตไลต์ทรงกลม ฝากระโปรงหน้ายกสันและออกแบบขอบให้มีความหนาช่วยให้ดูแข็งแกร่ง

ด้านข้างดูปราดเปรียวด้วยเส้นคาดเหนือที่เปิดประตูจรดไฟท้าย รับกับเส้นโค้งบริเวณซุ้มล้อหน้า กระจกมองข้างทรงเพรียว ไฟเลี้ยวแยกไปติดตั้งบนตัวถัง ทะมัดทะแมงด้วยล้อแม็กลาย 5 ก้านขนาด 7x17 นิ้ว พร้อมยาง 225/50 R17

ชุดไฟท้ายทรงพริ้วโคมไฟภายในทรงกลม โดยส่วนที่ติดตั้งบนฝากระโปรงหลังเป็นไฟตัดหมอก ลองเปิดตอนกลางวันเพื่อถ่ายรูปยังรู้สึกว่าแยงตา จึงควรเปิดในสถานการณ์ที่เหมาะสม เชื่อมต่อชุดไฟท้ายด้วยคิ้วโครเมียมเหนือช่องใส่ป้ายทะเบียน กันชนท้ายดูเรียบไปนิดโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับกันชนหน้า

มิติตัวถังมีความยาว 4,600 มิลลิเมตร กว้าง 1,790 มิลลิเมตร สูง 1,475 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,685 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,545/1,560 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,455 กิโลกรัม

เครื่องยนต์ใหม่ไฮไลต์ของรุ่น เครื่องยนต์เดิมของ ครูซ ดีเซลรุ่นก่อน เป็นแบบ 4 สูบ SOHC 16 วาล์ว 1,991 ซีซี 150 แรงม้า แรงบิด 32.7 กก.-ม. ส่วนในรุ่นปัจจุบันใช้ฝาสูบแบบ DOHC 16 วาล์ว 1,998 ซีซี แรงดันในการส่งเชื้อเพลิง 1,800 บาร์ แต่งพอร์ตไอดีเพิ่มประสิทธิภาพการนำอากาศเข้าเครื่องยนต์ ปรับเพลาถ่วงสมดุลเพื่อลดเสียงและความสั่นสะเทือน มีกำลังสูงสุด 163 แรงม้า ที่ 3,800 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 36.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที ผ่านมาตรฐานยูโร 4 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ Driver Shift Control พร้อมโหมด +/-

การทำงานของเครื่องยนต์ลื่นไหลและราบเรียบ ใกล้เคียงรถยุโรปราคาแพง อัตราเร่งมาแบบนุ่มนวลและต่อเนื่องตั้งแต่รอบต่ำ จึงช่วยให้ขับง่าย ไม่จำเป็นต้องลากรอบสูงก็มีแรงบิดเกินพอที่จะสร้างความกระฉับกระเฉง ส่งผลให้มีความคล่องตัวขณะใช้งานในเมือง ส่วนการขับทางไกลด้วยความเร็วตามกฎหมายประมาณ 110 - 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้รอบระหว่าง 1,700 - 1,900 รอบต่อนาที จึงให้ความประหยัด และมีการสึกหรอต่ำ หรือถ้านึกสนุกแค่เร่งไปที่ 2,200 รอบต่อนาที ก็จะได้ความเร็วตามชุดมาตรวัดที่ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Credit By : www.motortrivia.com

สามารถอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/Aeroklasthailand

//image.free.in.th/z/is/chevroletcruzediesel1998ccltz02.jpg (//pic.free.in.th/id/49dc622c9ce7f5fc45e24a792f3f43ac)

//image.free.in.th/z/il/chevroletcruzediesel1998ccltz03.jpg (//pic.free.in.th/id/3a6e41cb0725eb6d93350222caf20451)

//image.free.in.th/z/iw/chevroletcruzediesel1998ccltz05.jpg (//pic.free.in.th/id/30d26b4fd015719b7d8801e5e49aef09)

//image.free.in.th/z/iv/chevroletcruzediesel1998ccltz06.jpg (//pic.free.in.th/id/3ef48889bf44751f06f04177508855f6)

Aeroklas

10-09-2012, 10:43

2013 Ford Fiesta เวอร์ชั่นยุโรปทั้ง 3 และ 5 ประตู ปรับโฉม เพิ่มเทคโนโลยี

//image.free.in.th/z/id/2011fordfiesta1.jpg (//pic.free.in.th/id/5dd2c725a5c090b9373f12541bb0ee6e)

ฟอร์ด ปรับโฉมให้ซับคอมแพคท์รุ่นเด่นเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของค่าย ทั้งตัวถัง 3 และ 5 ประตู ด้วยกระจังหน้าใหม่ลายขวาง มองดูคล้ายสไตล์ของ Aston Martin ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ใช้ใน Ford Fusion/Modeo รุ่นใหม่ หรือ Ford Focus Electric โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงาน 2012 Paris Motor Show ปลายเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้นจะตีตราจำหน่ายเป็นรุ่นปี 2013

นอกจากกระจังหน้าใหม่แล้ว Fiesta 2013 ยังได้รับการปรับเปลี่ยนฝากระโปรงหน้าใหม่ ติดตั้งไฟ LED day time ใหม่ โดยรวมเข้าไปอยู่ในชุดโคมไฟหน้า ส่วนไฟท้ายก็ได้รับการเปลี่ยนลวดลายเพื่อให้ได้ความรู้สึกสดใหม่รอบคันด้วย

ในส่วนเทคโนโลยีเพิ่มเติม Fiesta 2013 จะติดตั้งแพคเกจระบบ Ford SYNC, ระบบช่วยหยุดรถที่ความเร็วต่ำ Active City Stop และระบบรักษาความปลอดภัย MyKey ที่อนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดของรถไว้ที่ 128 กม./ชม. จำกัดระดับความดังของวิทยุ และเปิดระบบเสียงเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยใน 5 นาทีแรกหลังจากสตาร์ท โดยทุกๆ 1 นาที จะหยุดเสียงเพลง หรือวิทยุอัตโนมัติ และมีเสียงเตือน 6 วินาที

Credit By : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิมเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

12-09-2012, 09:36

BMW 760iL รุ่นพิเศษฉลอง 25 ปี เครื่องยนต์ V12

//image.free.in.th/z/ii/bmwv1225yearsedition01.jpg (//pic.free.in.th/id/d7e06f66f3a6c652cb3a87b7c338dbdc)

ในปี 1987 บีเอ็มดับเบิลยู เริ่มต้นก้าวสำคัญอีกครั้งด้วยการเปิดตัวเครื่องยนต์ V12 เป็นครั้งแรก ประเดิมด้วยรถรุ่น 750iL รหัสตัวถัง E32 จากนั้นไม่นานก็ตามมาด้วยรุ่น 850i ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เครื่องยนต์รุ่นนี้ใช้ร่วมกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะในรถบ้านไม่ใช่รถแข่ง โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้มีความจุ 5,000 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ กำลังสูงสุด 300 แรงม้า (PS) ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 45.85 กก.-ม. ที่ 4,100 รอบต่อนาที

//image.free.in.th/z/iz/bmwv1225yearsedition02.jpg (//pic.free.in.th/id/a2a6e67ad0b776585965603408f31788)

ในโอกาสครบรอบ 25 ปีของเครื่องยนต์ V12 บีเอ็มดับเบิลยู จึงผลิตรถรุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลอง โดยเลือกรถซาลูนสุดหรูอย่าง ซีรีส์ 7 ในรุ่น 760iL V-12 25 Years Edition ต้องสั่งเป็นพิเศษพร้อมส่งมอบต้นปี 2013 ราคาในสหรัฐอเมริกาประมาณ 4.9 ล้านบาท มีเพียง 15 คันเท่านั้น ภายนอกพ่นสีพิเศษ Citrine Black เมทัลลิก พร้อมล้อแม็ก 20 นิ้ว ภายในตกแต่งด้วยหนังแท้เนื้อละเอียดและพรมปูพื้น กาบบันได หมอนรองศีรษะ และปุ่ม iDrive เพิ่มโลโก้ V-12 25 Years Edition

เครื่องยนต์เป็นแบบ V12 ทวินเทอร์โบ 6,000 ซีซี 535 แรงม้า แรงบิด 75.9 กก.-ม. เร่ง 0-96 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.5 วินาที ท๊อปสปีดจำกัดไว้ที่ 209 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และถ้าติดตั้ง M Sport Package จะปลดล็อกเพิ่มเป็น 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ : www.facebook.com/aeroklasthailand

//image.free.in.th/z/ia/bmwv1225yearsedition03.jpg (//pic.free.in.th/id/c2ef0d9c27e2bd3ee0ce189d29f647db)

Aeroklas

14-09-2012, 08:46

ข่าวประจำวันที่ 14 กันยายน 2555

Mitsubishi Mirage ยอดขาย มิ.ย.-สค. ขยับขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งอีโค คาร์ 5 เดือนกวาดยอดจองกว่า 36,000 คัน

//image.free.in.th/z/iq/mitsubishimiragefirstshipmenttojapan01.jpg (//pic.free.in.th/id/929f46530c259eff7f0759bf45d6ed9d)

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่ง Mitsubishi Mirage ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งกลุ่มรถอีโค คาร์ ประจำเดือนมิถุนายน ถึงสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดจองรวม 5 เดือนสูงกว่า 36,000 คัน เร่งเพิ่มกำลังการผลิตรองรับตลาดโต ในขณะที่ยอดขาย มิตซูบิชิ รวมทุกรุ่นเดือนสิงหาคมทะลุ 1 หมื่นคัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม

มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงกระแสการตอบรับ Mitsubishi Mirage ว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จอย่างดี โดยในระยะ 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ขยับมาเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มรถยนต์อีโค คาร์ ด้วยยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 4,000 คัน และมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% ในขณะที่ยอดจองรวม ณ ปัจจุบัน มีมากกว่า 36,000 คัน ซึ่งสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าแล้วประมาณ 13,000 คัน

"นับตั้งแต่เปิดตัวในเมืองไทยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยอดขายมิตซูบิชิ มิราจใหม่ ก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันเราสามารถพูดได้ว่า มิราจ ใหม่ คือรถยนต์อีโค คาร์ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้า เห็นได้จากการมีตัวเลขยอดขายสูงสุดในกลุ่มรถยนต์อีโค คาร์ ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยลูกค้าส่วนใหญ่พึงพอใจในความสะดวกสบาย การประหยัดน้ำมัน ความคุ้มค่า และความคล่องตัวในการขับขี่ของมิราจใหม่ ประกอบกับปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งลูกค้าจะได้รับได้สิทธ์คืนภาษีรถยนต์คันแรกสูงสุดถึง 77,000 บาท ตลอดจนการจัดกิจกรรมโรดโชว์ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าและผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามและทดสอบสมรรถนะ รวมทั้งเป็นเจ้าของมิราจ ได้ง่ายขึ้น"

"ทั้งนี้ในปัจจุบัน บริษัทฯ สามารถผลิตรถมิตซูบิชิ มิราจ สำหรับตลาดประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 4,000 คันต่อเดือน ทำให้ลูกค้าต้องรอรับรถประมาณ 4 เดือน สำหรับรุ่นเกียร์อัตโนมัติ ในขณะที่รุ่นเกียร์ธรรมดาจะได้รับรถเร็วกว่านั้น ซึ่งเรากำลังพยายามจะเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 5,000 - 6,000 คัน เพื่อรองรับกับยอดขายที่เติบโตขึ้นดังกล่าวแล้ว"

"ในส่วนของการประกาศ เซอร์วิส แคมเปญ สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ จำนวน 10,300 คัน หลังตรวจพบเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในรถบางคัน แสดงผลปริมาณน้ำมันคงเหลือคลาดเคลื่อนนั้น ตอนนี้เรากำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการเรียบร้อยได้ในเวลาอันใกล้นี้ ทั้งนี้ภายหลังจากการประกาศเซอร์วิสแคมเปญดังกล่าวไป ปรากฎว่าผลตอบรับกลับเป็นที่น่าพอใจ โดยลูกค้าพึงพอใจในการแสดงความรับผิดชอบ และการดำเนินการแก้ไขของบริษัทฯ และไม่ได้มีผลกระทบกับกิจกรรมการขาย หรือยอดจองแต่อย่างใด ซึ่งผมต้องถือโอกาสนี้ขอบคุณลูกค้าชาวไทยทุกท่าน ที่ยังคงไว้วางใจ และเชื่อมั่นในคุณภาพของรถยนต์ของมิตซูบิชิ รวมทั้งเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราในการนำเสนอรถยนต์ที่มีคุณภาพต่อผู้บริโภค"

"สำหรับกระแสการตอบรับมิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งบริษัทฯ ได้เริ่มส่งออกไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเปิดรับจองรถรุ่นดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม โดย ณ วันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมานั้น ปรากฎว่ามียอดจองสูงทั้งสิ้น 9,270 คัน และยอดขาย 1,792 คัน นับเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงการได้รับการยอมรับในคุณภาพของมิตซูบิชิ มิราจ ที่ผลิตขึ้นจากฐานการผลิตในประเทศไทยได้เป็นอย่างดี"

//image.free.in.th/z/is/mitsubishimiragefirstshipmenttojapan02.jpg (//pic.free.in.th/id/ab30ec7aeb6821ca60e887cb1e8935e0)

ทั้งนี้ มร. มูราฮาชิ ยังได้กล่าวเสริมถึงยอดขายรถยนต์ มิตซูบิชิ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่า มิตซูบิชิ มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,653 คัน เติบโตขึ้น 77.1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา และถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่า 10,000 คัน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่ง ซึ่งได้แก่ Mitsubishi Mirage, Mitsubishi Lancer และ Mitsubishi Lacer EX มียอดขายรวมอยู่ที่ 4,131 คัน หรือเพิ่มขึ้น 580.6% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการแนะนำรถยนต์อีโค คาร์ Mirage ใหม่ในปีนี้

ทั้งนี้หากพิจารณาจากสัดส่วนการขายรถยนต์ของบริษัทฯ จะเห็นได้ว่า Mirage มีสัดส่วนการขายที่สูงถึง 33.46 % จึงถือเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลัก ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์รวมของ มิตซูบิชิ ได้เป็นอย่างดี ในขณะที่รถกระบะ Mitsubishi Triton มียอดขายอยู่ที่ 4,895 คัน หรือเพิ่มขึ้น 17.4% จากปีก่อน โดยปัจจุบันยอดจำหน่าย Triton ได้เพิ่มขึ้นจากเดือนละ 4,000 คันมาเป็น 5,000 คัน และในปีนี้ ทางบริษัทฯ ยังได้ตั้งเป้าจะเพิ่มยอดจำหน่ายของ Triton ขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของกลุ่มรถยนต์พีพีวี คือ Mitsubishi Pajero Sport นั้น มียอดขายอยู่ที่ 2,627 คัน หรือเพิ่มขึ้น 45.6% จากปีก่อน สะท้อนความต้องการในตลาดที่ยังคงสูงอยู่อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้เพิ่มทางเลือกให้ผู้บริโภคด้วยการแนะนำ Pajero Sport เครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบ MIVEC กับพละกำลังสูงสุด 219 แรงม้า สำหรับลูกค้าที่ชอบรถยนต์ที่มาพร้อมสมรรถนะ และความสะดวกสบายครบครัน

Credit By : www.motortrivia.com และสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ (//www.motortrivia.comและสามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่) www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

14-09-2012, 16:55

ข่าวสารช่วงบ่าย วันที่ 14/9/2555

Aeroklas เข้าร่วมงาน Automechanika 2012, Frankfurt, Germany

//image.free.in.th/z/if/automechanika2012.jpg (//pic.free.in.th/id/96a9031ac8b7021a21f9627b0d771464)

บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ประดับยนต์มาตราฐานระดับโลกแบรนด์ Aeroklas (แอร์โรคลาส) ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าอันดับหนึ่งทางด้าน ชิ้นส่วนยานยนต์ ผู้ผลิตรถยนต์ อุปกรณ์เสริม อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ และธุรกิจซ่อมบำรุงในงาน "Automechanika 2012" ณ เมือง แฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี ตั้งแต่วันที่ 11-16 กันยายน 2555 ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้ประกอบการณ์อุตสาหกรรมยายนต์เข้าร่วมงานมากกว่า 4000 รายจาก 76 ประเทศ และจะมีผู้เข้าชมงานแฟร์ มากกว่า 150,000 คนจากกว่า 180 ประเทศ สำหรับสินค้าไฮไลท์ที่ บริษัท แอร์โรคลาส จำกัด ได้จัดแสดงภายในงานได้แก่ ฝาครอบกระบะแอร์โรคลาส (Aeroklas Deck Cover) หลังคากระบะแอร์โรคลาส (Aeroklas Canopy) พื้นปูกระบะแอร์โรคลาส (Aeroklas Bed Liner) และยังมีสินค้าอืนๆจากทางบริษัทอีกมากมาย มาร่วมจัดแสดงเช่นกัน

//image.free.in.th/z/io/90photo.jpg (//pic.free.in.th/id/095e062de95bcd44f0df6d0258cea871) //image.free.in.th/z/ik/65photo1.jpg (//pic.free.in.th/id/429d312a046aa71622872032cb57928d) //image.free.in.th/z/ir/46photo2.jpg (//pic.free.in.th/id/4909aed18dd4dd8830cda767f64e0571) //image.free.in.th/z/iw/2photo32.jpg (//pic.free.in.th/id/379540a144baa7baa697b53e72781b0e)

Aeroklas

17-09-2012, 08:48

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 17 กันยายน 2555

Honda เปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซล 1.6 ลิตร

//image.free.in.th/z/iq/hondanew16literdieselidtec01.jpg (//pic.free.in.th/id/c56f553fc1c2dedf8ef2ade747bc9588)

หลังแนะนำเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ 1,600 ซีซี ดีเซลเทอร์ โบ ในเจนีวา มอเตอร์โชว์ ล่าสุด ฮอนด้า พร้อมเปิดตัวอีกหนึ่งเครื่องยนต์บล็อกเล็กเพื่อใช้ใน ซีวิค แฮทช์แบ็ก โดยเป็นแบบ 1,600 ซีซี i-DTEC ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นแรกของโครงการ Honda's Earth Dreams Technology ในยุโรป มีกำลังสูงสุด 120 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 30.57 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที เมื่อวางในซีวิค จะมีอัตราสิ้นเปลือง 27.77 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 94 กรัมต่อกิโลเมตร (ในรุ่นล้อ 16 นิ้ว)

นอกจากการโชว์เครื่องยนต์ใหม่แล้ว ในปารีส มอเตอร์โชว์ ฮอนด้า ยังเตรียมนำรถมาจัดแสดงอีกหลายรุ่น เช่น รุ่นปรับโฉมของ CR-Z รวมทั้งต้นแบบพลังไฟฟ้า EV-Ster

Credit By : www.motortrivia.com และสามารถรับชมข่าวสารอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

18-09-2012, 16:17

ข่าวสารช่วงบ่ายวันที่ 18 กันยายน 2555 //image.free.in.th/z/ie/landroveremporium01.jpg (//pic.free.in.th/id/610e8ae3081604978c981e8cc7e743d1) Land Rover ยกขบวนรถหรูกลับมาอวดโฉมอีกครั้ง ณ ดิ เอ็มโพเรี่ยม 19 - 25 กันยายน 2555 แลนด์โรเวอร์ ยกขบวนรถหรูมาเอาใจผู้ที่ชื่นชอบรถ SUV อีกครั้ง หลังได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยเตรียมจัดแสดงยานยนต์ระดับลักชูรี่ สมรรถนะเหนือชั้น ที่การันตีด้วยรางวัลระดับโลกอย่างมากมาย ระหว่างวันที่ 19 - 25 กันยายน 2555 บริเวณชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม นำทัพโดย Range Rover Evoque รถโฟร์วีลสุดฮอตที่คว้ารางวัลทั้งประเภทยานยนต์และงานดีไซน์มาแล้วกว่า 100 รางวัลทั่วโลก รวมถึง Range Rover Sport ยานยนต์เหนือระดับที่ได้รับการยกย่องในฐานะแบรนด์ 'รถโฟร์วีลที่ดีที่สุด' ซึ่งมาพร้อมกับข้อเสนอพิเศษสุดอีกครั้ง สำหรับลูกค้าที่สั่งจองรถยนต์ แลนด์โรเวอร์ ภายในงานเท่านั้น สิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้าที่ซื้อรถยนต์ แลนด์โรเวอร์ ในงานนี้ ได้แก่ บริการซ่อมบำรุงฟรีนาน 3 ปี, บริการรถยกฉุกเฉิน 3 ปี, รับประกันตัวรถ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมรับของขวัญพรีเมี่ยมล้ำค่า ปากกา ปาร์คเกอร์ รุ่น แลนด์โรเวอร์ และไวน์ชั้นเลิศ พิเศษเพื่อลูกค้าของยานยนต์อเนกประสงค์ชั้นหรูระดับโลกโดยเฉพาะ วิศรุต โลจนานนท์ ผู้จัดการทั่วไป บริการหลังการขาย บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด กล่าวว่า "บริษัท ซิตี้ ออโต้โมบิล จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แลนด์โรเวอร์อย่างเป็นทางการเพียงรายเดียวในประเทศไทย เตรียมนำ เรนจ์โรเวอร์ อีโวค และ เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต กลับมาให้ผู้ชื่นชอบสัมผัสอย่างใกล้ชิดอีกครั้ง หลังกระแสตอบรับดีเยี่ยมจากการจัดงานครั้งล่าสุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีทั้งกลุ่มลูกค้าเก่าและใหม่เข้ามาสอบถามข้อมูลอย่างมากมาย โดยครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีอีกครั้งหนึ่ง ในการนำเสนอรถยนต์ระดับลักชูรี่จากแลนด์โรเวอร์ ที่กวาดรางวัลและคำชื่นชมจากสถาบันยานยนต์มากมายทั่วโลก ให้แก่ผู้บริโภคชาวไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น" หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อโชว์รูมและศูนย์บริการ แลนด์โรเวอร์ ถนนวิทยุ โทรศัพท์ 02-651-4545 หรือดูข้อมูลรถยนต์ แลนด์โรเวอร์ และ เรนจ์โรเวอร์ ได้ที่เว็บไซต์ www.landroverthailand.com • Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-09-2012, 13:26

ข่าวสารช่วงบ่ายวันที่ 19 กันยายน 2555

//image.free.in.th/z/ii/2012hondacrv04.jpg (//pic.free.in.th/id/06ad35cfb1cb74a5a2888a51868e14e6)

Honda CR-V ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 4

CR-V ใหม่ ออกแบบภายใต้แนวคิด Premium Smart SUV เน้นความลงตัวทั้งในด้านความห...รูหรา ความแข็งแกร่งในแบบรถ SUV และให้ความสะดวกสบายแบบเดียวกับรถซีดาน โดยให้ความสำคัญทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก คือ รูปลักษณ์ภายนอก, การออกแบบภายใน, เทคโนโลยีล้ำสมัย และ ระบบความปลอดภัย ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ดีไซน์ใหม่ กันชนหน้าแบบ 3 ชั้นพร้อมคิ้วโครเมียม ผสานเส้นสายบนกันชนให้มีความต่อเนื่องและลื่นไหล ออกแบบโดยคำนึงถึงหลักอากาศพลศาสตร์เป็นหลัก ไฟตัดหมอกวงรีแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ (ยกเว้นรุ่น 2.0S) ไฟท้ายและไฟเบรกแบบมัลติรีเฟล็กเตอร์ วางเป็นแนวตั้งขนานกับแนวเสาหลังคา

//image.free.in.th/z/in/scrv2.jpg (//pic.free.in.th/id/49aba2ef9cdb2723556d2470a75441bc)

การออกแบบภายใน ห้องโดยสารของ CR-V ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิดให้เป็นรถ SUV ที่ผู้ขับเหมือนนั่งอยู่ในรถซีดาน โดยมีห้องโดยสารที่ใหญ่ที่สุด ให้ความสะดวกในการใช้งานมากที่สุด ไฮไลท์คือหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบอัจฉริยะ i-MID ระบบช่วยการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน Eco Assist และโหมดการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน ECON Mode ส่วนระบบนำทางจะมีติดตั้งเฉพาะรุ่น 2.4EL 2WD และ 2.4EL เบาะนั่งด้านหลังพับจังหวะเดียว หรือ One Motion Seat ออกแบบให้พนักพิงหลังของเบาะนั่งด้านหลัง สามารถพับด้วยคันโยกที่ติดตั้งอยู่ใกล้กับฝากระโปรงท้ายเพียงจังหวะเดียว หรือดึงสายที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านข้างของเบาะนั่งด้านหลัง ก็จะสามารถพับพนักพิงหลัง ซึ่งแยกด้านเป็นแบบ 60:40 ให้พับเก็บลงโดยอัตโนมัติ และพับลงมาเกือบแบนราบ เป็นระนาบเดียวกับพื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของรถ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการบรรทุกสัมภาระ และง่ายต่อการใช้งาน

//image.free.in.th/z/io/kcrv3.jpg (//pic.free.in.th/id/3de2cc46e059d810b57b1bd968bd5d30)

2 ทางเลือกเครื่องยนต์ใหม่

CR-V ใหม่ มากับ 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ บล็อคแรกคือ 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ SOHC i-VTEC ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.4 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบ/นาที ระบบขับเคลื่อนมีให้ทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ และขับเคลื่อน 4 ล้อ บล๊อคถัดมาคือ 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ DOHC i-VTEC ความจุ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 170 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 22.4 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบ/นาที ซึ่งมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกทั้งแบบ 2 ล้อและ 4 ล้อ เช่นกัน ทั้ง 2 รุ่น ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเปิด - ปิดลิ้นปีกผีเสื้อแบบอิเลคทรอนิคส์ DBW ในการควบคุมการถ่ายทอดกำลังระหว่างเกียร์ในตำแหน่งต่างๆ ให้มีความต่อเนื่อ งและนุ่มนวล ระบบ Grade Logic Control ช่วยควบคุมการทำงานของเกียร์ ทำหน้าที่ในการรักษาตำแหน่งเกียร์ที่เหมาะสมที่สุดในระหว่างการขับขี่บนเขาหรือทางชัน เพื่อลดการเปลี่ยนเกียร์โดยไม่จำเป็น

//image.free.in.th/z/ie/5crv4.jpg (//pic.free.in.th/id/1f241406d3d6075f5977264535c4c656)

เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัย

CR-V ติดตั้งระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย หรือ MA-EPS: Motion Adaptive EPS) ทำงานร่วมกับระบบควบคุมการทรงตัว VSA และระบบผ่อนแรงด้วยไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ขับสามารถบังคับเลี้ยวได้อย่างแม่นยำในขณะที่เข้าโค้ง หรือขณะที่ขับบนเส้นทางที่เปียกลื่น CR-V ทุกคันมีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยติดตั้งเป็นมาตรฐาน เช่น ระบบควบคุมการทรงตัว VSA ระบบป้องกันล้อล็อก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบช่วยออกตัวเมื่ออยู่บนทางลาดชัน Hill Start Assist ซึ่งนับเป็นระบบใหม่ใน CR-V ป้องกันไม่ให้รถไหลขณะที่ถอนเท้าออกจากแป้นเบรคเพื่อกดคันเร่ง เวลาที่จอดติดอยู่บนทางลาดชัน นอกจากนี้ยังมีถุงลมป้องกันการกระแทกด้านข้างสำหรับเบาะคู่หน้า พร้อมระบบตรวจสอบตำแหน่งท่านั่งของผู้โดยสารด้านหน้า หรือ OPDS: Occupant Position Detection System ด้วย Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

20-09-2012, 10:20

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 20 กันยายน 2555

เบนซ์อมรรัชดา ฉลอง 47 ปี อัดแคมเปญ - แจก Vespa ฝีมือ 'โลเล'

//image.free.in.th/z/iz/benzamornvespa01.jpg (//pic.free.in.th/id/2c04d22bcf1c19d8847ddc6745651ea0)

เบนซ์อมรรัชดา จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 47 ปี อัดแคมเปญ ดาวน์น้อย - ผ่อนนาน - ดอกเบี้ยถูก หรือรับเงินสดคืนหนึ่งแสนบาท ให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น แถมการรับประกันอะไหล่ 43 รายการฟรีหนึ่งปี รวมค่าแรง และไฮไลน์ของงานคือ Vespa Lx 125 ie Limited Edition ลายกราฟฟิคบนตัวรถจากฝีมือของศิลปิน - นักวาดภาพประกอบ โลเล - ทวีศักดิ์ ศรีทองดี เมื่อซื้อรถเบนซ์ภายในงาน มีสิทธิลุ้นเป็นเจ้าของ Vespa หนึ่งเดียวในโลกทันที

นางสาววรรณภา ตั้งบรรยงค์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เบนซ์อมรรัชดา กรุ๊ป เผยว่า "จากธุรกิจขายรถมือสองเล็กๆ ภายใต้ชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรบริการ จนก่อเกิดเป็นธุรกิจเต็มตัวในทุกวันนี้ เบนซ์อมรรัชดาต้องใช้ความพยายามในขับเคลื่อน ความภักดี ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า จนทำให้กิจการของบริษัทเติบโต แตกหน่อธุรกิจ และกลายเป็นผู้นำตลาดรถเบนซ์มือสองในไทย ดังนั้นเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้า บริษัทเบนซ์อมรรัชดาจึงจัดงานครบรอบ 47 ปี เบนซ์อมรรัชดา ระหว่างวันที่ 20 - 30 กันยายน ศกนี้"

"สำหรับแคมเปญที่บริษัทฯ เตรียมไว้ให้กับลูกค้าในวาระพิเศษนี้ มีทั้งการนำเบนซ์มือสองกว่า 50 คัน ที่ผ่านการคัดเลือกทั้งในแง่คุณภาพ และประสิทธิภาพการใช้งานอย่างดี มานำเสนอในราคาที่ลูกค้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก อาทิ C 200 CGI ปี 2012 ราคา 2.29 ล้านบาท, E300 ปี 2010 ราคา 3.25 ล้านบาท, E250 CGI Estate 11 เดือน 3.75 ล้านบาท, E250 AMG Coupe ปี 2011 ราคา 3.49 ล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายภายในงานไว้ 20 คัน"

//image.free.in.th/z/ix/benzamornvespa02.jpg (//pic.free.in.th/id/3d9fd44aa285eaf79dfcfd2f343042d4)

"ปัจจุบัน ตลาดรถมือสองยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถเบนซ์ของบริษัทฯ ทั้งนี้เนื่องจากเรื่องของราคา ยังคงเป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค ดังนั้นบริษัทจึงเน้นเรื่องของราคาเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อหาและเป็นเจ้าของเบนซ์ทีมีสภาพดีได้ง่ายขึ้น"

"นอกจากนี้ ลูกค้าที่ซื้อภายในงาน จะได้รับการประกันอะไหล่ 43 รายการ เป็นเวลาหนึ่งปี รวมถึงการรับประกันค่าแรงฟรีตลอดอายุการใช้งาน ขณะเดียวกันยังจัดเตรียมโปรโมชั่นพิเศษสุดมากมาย เช่น จอง 100,000 บาท เลือกรับดอกเบี้ย 1.99% ผ่อนนาน 36 เดือน โดยไม่ต้องมีผู้ค้ำประกันกับ กรุงศรีฯ ออโต้ หรือเลือกรับเงินสดคืน 100,000 บาท แถมยังยืนหยัดการรับประกันอะไหล่ฟรีทุกชิ้น 3 เดือน หรือ 1,000 กิโลเมตร"

"เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของรถ และการบริการ เรามีการดูแลลูกค้าด้วยการจัดกิจกรรมเพื่อให้ลูกค้าเข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นสอนการออกกำลังกายอย่างถูกวิธี, นวดเพื่อสุขภาพ และฟังธรรมมะทุกเสาร์แรกของเดือน รวมถึงร่วมใจบริจาคโลหิตทุก 3 เดือน ซึ่งกิจกรรมอย่างหลัง ในวันงานจะมีการฉลองการบริจาคโลหิตที่ได้รับจากผู้ใจบุญ 1,700,400 ยูนิต"

//image.free.in.th/z/iz/benzamornvespa03.jpg (//pic.free.in.th/id/84ad946d383db0c5dc3099d7dad972dc)

สำหรับยอดขายในปีนี้ เบนซ์อมรรัชดา ตั้งเป้าเอาไว้ที่ 360 คัน หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 580 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา สามารถทำยอดขายได้ 185 คัน

งานฉลองครบรอบ 47 ปี จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 30 กันยายน 2555 วันจันทร์ - เสาร์ เวลา 9.00 - 18.00 น. และเสาร์ - อาทิตย์ เวลา 10.00 - 17.00 น. ณ ที่ทำการสำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก สำหรับการจับรางวัลผู้โชคดี Vespa Limited Edition จะมีขึ้นในวันที่ 3 ตุลาคม 2555 เวลา 14.00 - 15.00 น.

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

21-09-2012, 09:42

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 21 กันยายน 2555

//image.free.in.th/z/im/2012lexuslfccconcept01.jpg (//pic.free.in.th/id/caa45a64b3481a597eb7e47a9d6e3bda)

2012 Lexus LF-CC Concept ต้นแบบคูเป้ 2+2 รุ่นใหม่เตรียมเยือนปารีสฯ

เลกซัส เตรียมเปิดตัวต้นแบบรุ่นใหม่ LF-CC ใน 2012 ปารีส มอเตอร์โชว์ โดยมากับขนาดตัวในคลาสของรถคูเป้ขนาดกลาง 2+2 ที่นั่ง รูปลักษณ์คลี่คลายมาจากต้นแบบรุ่นก่อนหน้า LF-LC ที่ใช้การดีไซน์เฉพาะตัวของ เลกซัส หรือ L-finesse design language เช่นเดียวกัน ทว่าเทียบกันแล้ว LF-CC ดูมีชีวิตชีวา ใกล้เคียงความเป็นโปรดัคชั่นคาร์มากกว่า

จุดเด่นยังคงเป็นกระจังหน้าแบบเกลียวหมุน หรือ spindle grille ซึ่งคราวนี้ให้ภาพลักษณ์ที่ดุดันกว่า LF-LC อย่างมาก มองดูแล้วราวกับเป็น LF-LC ที่สวมชุดแต่งสปอร์ตจากโรงงาน เอกลักษณ์อย่างไฟ LED โปรเจคเตอร์ 3 ดวงยังคงมีอยู่เช่นเดิม แต่ถูกจับมาวางเรียงเป็นแนวในชุดโคม โดยมีแนวไฟ day time แยกส่วนออกมาอยู่เหนือกันชน ซึ่งจุดนี้ เลกซัส ให้ข้อมูลว่าเป็นการออกแบบที่สดใหม่ที่สุด

สำหรับเครื่องยนต์ เลกซัส ระบุว่าชุดขับเคลื่อนพลังไฮบริดชุดนี้ เป็นชุดที่จะถูกใช้งานกับรถรุ่นอื่นๆ ในอนาคต โดยเป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร DOHC พร้อมเทคโนโลยีหัวฉีดไดเรคอินเจคชั่น D-4S กับมอเตอร์ไฟฟ้าแรงสูงแบบแม่เหล็กถาวร ระบายความร้อนด้วยน้ำ

อย่างไรก็ตาม แม้จะแลดูเป็นสปอร์ตพลังแรง แต่ เลกซัส ก็ยังให้คำมั่นว่าชุดระบบขับเคลื่อนไฮบริดชุดนี้ ไม่ได้มีให้เฉพาะกำลังอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีความประหยัดตามสไตล์รถไฮบริดด้วย

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

24-09-2012, 17:18

ข่าวสารช่วงบ่ายวันที่ 24 กันยายน 2555 //image.free.in.th/z/it/fordfiesta15ecodrive01.jpg (//pic.free.in.th/id/fcba15f3d7a51564defb7c5f48720e00) Ford Fiesta 1.5 พิสูจน์ความประหยัดน้ำมัน ได้ผลทดสอบ 23.14 กม./ลิตร

Ford Fiesta ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านการประหยัดน้ำมันในประเทศไทย โดย Fiesta รุ่นสปอร์ตแบบ 4 ประตู เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ 6 จังหวะ ใช้น้ำมันสุดประหยัดที่ 23.14 กิโลเมตร/ลิตร บนเส้นทาง 1,050 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ - สกลนคร ด้วยการเติมน้ำมันเพียงถังเดียว การทดสอบประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันของ Ford Fiesta รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ในประเทศไทย นับเป็นบทพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของ ฟอร์ด ในการนำเสนอรถยนต์ที่มีอัตราการประหยัดน้ำมันอย่างเหนือชั้นในทุกเซ็กเม้นต์ ที่บริษัทแข่งขันในตลาด ในการทดสอบครั้งนี้ ฟอร์ด เชิญผู้สื่อข่าวที่ได้รับการยอมรับจำนวน 12 ท่านร่วมการทดสอบขับ ภายใต้สภาพแวดล้อมที่บริษัทกำหนดขึ้น โดยได้รับเกียรติจาก ดร. สายประสิทธิ์ เกิดนิยม อาจารย์ประจำบัณฑิตวิทยาลัยวิศวกรรมศาสตร์นานาชาติสิรินธร ไทย - เยอรมัน พร้อมคณะร่วมสังเกตการณ์และประเมินผล ฟอร์ด แบ่งผู้สื่อข่าวออกเป็น 6 ทีม ทีมละ 2 คน โดย 3 ทีมแรกขับ Ford Fiesta รุ่นสปอร์ต แฮทช์แบค 5 ประตู และอีก 3 ทีมขับฟอร์ด เฟียสต้า รุ่นสปอร์ต ซีดาน 4 ประตู โดยผู้ขับและผู้โดยสารในรถทั้งสองคันจะสลับหน้าที่กันขับในช่วงใดก็ได้ โดยความเร็วเฉลี่ยตลอดการขับขี่จะต้องไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง หลังจากเติมน้ำมันจนเต็มถัง ณ จุดเริ่มต้นการเดินทางจากกรุงเทพฯ ถังน้ำมันของรถได้ถูกปิดผนึกอย่างหนาแน่น ระบบปรับอากาศตั้งค่าความเย็นไว้ที่ระดับกึ่งกลางและตั้งค่าพัดลมที่หมายเลข 1 ก่อนจะล็อกไว้ที่ตำแหน่งดังกล่าวตลอดการเดินทาง เส้นทางการทดสอบขับครั้งนี้เป็นแบบผสมผสาน ทั้งการขับท่ามกลางกลางจราจรหนาแน่นในเมือง การขับบนทางหลวง และขับขึ้นเขา โดยออกตัวที่กรุงเทพฯ ผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ ศรีษะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม และสิ้นสุดการเดินทางที่จังหวัดสกลนคร "ผลการทดสอบอย่างเป็นอิสระในครั้งนี้เน้นย้ำถึงประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมันที่เหนือชั้นของฟอร์ด เฟียสต้า ได้อย่างแท้จริง” คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว “ความประหยัดน้ำมันของฟอร์ด เฟียสต้า นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้ลูกค้าซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ในประเทศไทยสนใจรถรุ่นนี้ และความประหยัดน้ำมันนี่เองทำให้เฟียสต้าเป็นรถที่มอบความคุ้มค่าอย่างเหนือชั้น"

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

25-09-2012, 09:03

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 25 กันยายน 2555

//image.free.in.th/z/iw/pttatamotorsindonesia01.jpg (//pic.free.in.th/id/1190488059f5b715405ea19124ff9020)

TATA Motors เตรียมบุกตลาดอินโดนีเซียในปี 2013

ทาทา มอเตอร์ส เตรียมบุกตลาดรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียนอย่างอินโดนีเซีย ตั้งบริษัทลูก PT Tata Motors Indonesia ในกรุงจาการ์ต้า โดยจะเป็นผู้ดำเนินการเต็มรูปแบบทั้งในส่วนของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถเพื่อการพาณิชย์

อินโดนีเซียนับเป็นอีกหนึ่งในตลาดที่สำคัญของ ทาทา มอเตอร์ส ซึ่งสามารถขยายผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ตั้งแต่รถยนต์นั่งขนาดเล็ก ไปจนถึงรถโดยสาร และในส่วนของรถเพื่อการพาณิชย์ ตั้งแต่รถบรรทุกขนาดเล็ก 0.5 ตัน ไปจนถึงรถบรรทุกหนักขนาดใหญ่ 49 ตัน ซึ่งทาง ทาทา มอเตอร์ส เตรียมที่จะเปิดตัวในตลาดอินโดนีเซียปี 2013

Mr. Karl Slym กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มาเปิดตลาดในอินโดนีเซีย และเช่นเดียวกันกับวิถีปฏิบัติของทาทา มอเตอร์ส ในทุกพื้นที่ทั่วโลก การดำเนินธุรกิจของทาทา มอเตอร์ส ในอินโดนีเซียครั้งนี้ จะเป็นการดำเนินงานในฐานะที่เป็นบริษัทอินโดนีเซีย ที่จะสามารถตอบสนอง และดำเนินงานให้เป็นไปตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าชาวอินโดนีเซีย รวมถึงตอบแทนสังคมของคนในพื้นที่ ที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจด้วยเช่นกัน เราจะสร้างรากฐานในระดับท้องถิ่น พร้อมร่วมเติบโตควบคู่ไปกับความเจริญรุ่งเรืองของประเทศ และประชาชนอินโดนีเซีย"

Mr. Ravi Pisharody กรรมการบริหาร ส่วนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส ให้ความเห็นว่า "ผลงานของเราคือ การสร้างเกณฑ์มาตรฐานระดับโลก เราจึงมีความมั่นใจว่า รถยนต์ของเราจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับลูกค้า ที่มีวิจารณญาณในการเลือกของอินโดนีเซีย จากความคิดเห็นของลูกค้าที่เราได้รับมา เราจะค่อยๆ แนะนำผลิตภัณฑ์ ทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ตามความเหมาะสม ควบคู่ไปกับการมอบความพร้อมในด้านโครงสร้างการให้บริการต่างๆ ซึ่งจะทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างใกล้ชิดกับลูกค้ามากที่สุด"

Mr. Biswadev Sengupta ประธานกรรมการ บริษัท พีที ทาทา มอเตอร์ส อินโดนีเซีย กล่าวสรุปว่า "จากผลการวิจัยของเรา แสดงให้เห็นว่าทาทา มอเตอร์ส มีโอกาสสูงมากในการทำตลาดรถยนต์ในอินโดนีเซีย ด้านการจัดการ และความต้องการของลูกค้าในอินโดนีเซียนั้น มีความคล้ายคลึงกับความต้องการของลูกค้าในอินเดีย เรามีความมั่นใจมากว่า จะตอบสนองความต้องการทุกด้านเกี่ยวกับรถยนต์ให้กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันเรายังมุ่งเน้นไปในส่วนของการให้บริการที่มีประสิทธิภาพ และการสร้างเครือข่ายของการสนับสนุนอะไหล่และชิ้นส่วนต่างๆ"

บริษัท พีที ทาทา มอเตอร์ส อินโดนีเซีย จะมีศูนย์จำหน่ายและบริการรองรับในขั้นต้น 10 - 15 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะให้บริการทั้งในด้านการขาย บริการหลังการขาย รวมทั้งชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆ โดยภายในระยะเวลา 3 ปี บริษัท พีที ทาทา มอเตอร์ส อินโดนีเซีย พร้อมจะขยายเครือข่ายการทำงานทั่วประเทศ ทั้งผู้จำหน่ายเต็มรูปแบบ 60 แห่ง ศูนย์บริการ 100 แห่ง และผู้จำหน่ายอะไหล่อีก 300 แห่ง เพื่อรองรับการบริการให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ ทาทา มอเตอร์ส ยังประเมินความเป็นไปได้ในการจัดตั้งฐานการผลิตในอินโดนีเซีย เพื่อรองรับความต้องการในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งรวมถึงการลงทุนที่จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ กับการวางแผนในการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ภายในประเทศในของแต่ละพื้นที่ ล่าสุด ทาทา มอเตอร์ส เพิ่งเข้าร่วมงาน อินโดนีเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 20 ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่ง ทาทา มอเตอร์ส นำทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มาจัดแสดงจำนวน 14 คัน เพื่อเป็นการแนะนำตัวในอินโดนีเซีย และในบูธยังมีการจัดโซน green pavilion เพื่อจัดแสดงรถพลังงานสะอาดอย่าง TATA CNG ซึ่งเป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมากในประเทศอินโดนีเซีย

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

26-09-2012, 09:05

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 26 กันยายน 2555

Honda เตรียมเปิดตัวซีดาน 4 ประตูรุ่นใหม่ เพิ่มไลน์รถยนต์ที่ได้รับสิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรกเป็น 6 รุ่น

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่น ในการนำเสนอยนตรกรรมเพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ พร้อมสนับสนุนนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาล โดยปัจจุบัน ฮอนด้า มีรถยนต์ 5 รุ่น ที่ได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรก ของกรมสรรพสามิต กระทรวงการคลัง ประกอบด้วย Honda Brio, Honda Jazz, Honda Jazz Hybrid, Honda City และ Honda City CNG ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถจองเพื่อขอรับสิทธิ์ได้ภายใน 31 ธันวาคม 2555

ฮอนด้า เตรียมสร้างประวัติศาสตร์ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอีกครั้งเร็วๆ นี้ ด้วยการเตรียมการเปิดตัวรถยนต์ซีดาน 4 ประตูรุ่นใหม่ล่าสุด โดยรถยนต์รุ่นใหม่นี้ จะมีขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า ดีไซน์โดดเด่น ล้ำสมัย ทั้งภายนอกและภายใน พื้นที่ห้องโดยสารสะดวกสบายกว้างขวาง พร้อมพื้นที่ห้องสัมภาระด้านหลังที่สามารถบรรจุถุงกอล์ฟได้ถึง 2 ใบ

ครบครันด้วยอุปกรณ์ความปลอดภัย ด้วยระบบเบรกป้องกันล้อล็อก ABS, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า Dual SRS ในทุกเกรด เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้ารถยนต์คันแรกในไตรมาส 4 ก่อนปิดโครงการ และเมื่อเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่นี้แล้ว จะส่งผลให้ ฮอนด้า มีรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการรถยนต์คันแรกถึง 6 รุ่น

สำหรับลูกค้าที่สนใจข้อมูลของรถยนต์รุ่นใหม่นี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม ฮอนด้า ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

//image.free.in.th/z/id/hondaplanstounveilnewmodel01.jpg (//pic.free.in.th/id/3ed376e067b8d0300fd923db1744b6f2) Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

28-09-2012, 09:20

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 28 กันยายน 2555

Ford Fiesta เพิ่มเครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ

//image.free.in.th/z/ie/fordfiestaecoboost1luk01.jpg (//pic.free.in.th/id/3f8ebd65432b97f5927023dca17346d3)

หลัง ปรับรูปลักษณ์ ได้ไม่นาน ฟอร์ด ก็เพิ่มทางเลือกให้ เฟียสต้า ไมเนอร์เชนจ์ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ เตรียมเปิดตัวในปารีส ออโต้โชว์ กับขุมพลังที่ได้รับรางวัล International Engine of the Year ปี 2012 เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่น 3 สูบ 1,000 ซีซี EcoBoost 100 และ 125 แรงม้า (PS) รวมทั้งเบนซิน 1,250 ซีซี 60-82 แรงม้า (PS), เบนซิน 4 สูบ 1,600 ซีซี Ti-VCT 105 แรงม้า (PS)

นอกจากนี้ยังมีรุ่นดีเซล TDCi 1,500 และ 1,600 ซีซี 74-94 แรงม้า (PS) แรงบิด 20.38 กก.-ม. ให้เลือกสั่งได้ด้วย ส่วนรุ่นแรงสุด Fiesta ST เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ EcoBoost 1,600 ซีซี 182 แรงม้า (PS) จะเริ่มทำตลาดในช่วงต้นปี 2013 ระบบประหยัดเชื้อเพลิง Start/Stop จะติดตั้งในรุ่น 1,000 ซีซี EcoBoost และรุ่นดีเซล TDCi ECOnetic 1,600 ซีซี และจะประเดิมติดตั้งเกียร์ PowerShift รุ่นใหม่แบบดูอัล-คลัตช์ 6 จังหวะอีกด้วย

รุ่นที่ติดตั้ง ECOnetic Technology มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 30.3 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ 87 กรัมต่อกิโลเมตร รุ่นย่อย Titanium X จะทำตลาดในสหราชอาณาจักรด้วยอุปกรณ์มาตรฐาน เช่น ระบบ Keyfree, เครื่องเสียง Sony DAB พร้อมระบบ SYNC และภายในตกแต่งด้วยหนังแท้ ราคาในอังกฤษเริ่มต้น 500,000 บาท และรุ่นสูงสุด 880,000 บาท •

Credit By: www.motortrivia.com

สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

01-10-2012, 09:42

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 1 ตุลาคม 2555

2014 Mercedes-Benz SLS AMG Coupe Electric Drive ก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยซูเปอร์สปอร์ตคาร์พลังไฟฟ้า

แผนก AMG ของ เมอร์เซเดส เปิดศักราชใหม่ด้วยการนำเสนอความแรงแบบไฟฟ้าล้วน Mercedes SLS AMG Coupe Electric Drive เวอร์ชั่นพร้อมจำหน่าย เปิดตัวอย่างเป็นทางการใน 2012 ปารีส มอเตอร์โชว์

ถ้ายังจำกันได้ เมอร์เซเดส เคยโชว์เทคโนโลยีไฟฟ้าในร่างของ SLS AMG มาก่อนในชื่อ Mercedes-Benz SLS AMG E-Cell Prototype ตั้งแต่ต้นปี 2011 มี SK Innovation เป็นซัพพลายเออร์ รับหน้าที่หลักดูแลเรื่องแบตเตอรี่แพค ซึ่งในขณะนั้น SK เป็นบริษัทที่ตั้งขึ้นเพื่อแชร์ส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดอย่าง LG Chem โดยเฉพาะ

เวอร์ชั่นจริงยังคงใช้วิธีติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าซิงโครนัส 4 ตัว สำหรับแยกขับ 4 ล้อ พละกำลังอัพเกรดขึ้นมาจาก E-Cell แบบไม่เห็นฝุ่น กำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 552 กิโลวัตต์ หรือเทียบเท่า 750 แรงม้า ps (E-Cell 526 แรงม้า hp) แรงบิดสูงสุดยิ่งกว่ามหาศาล 101.9 กก.-ม. มอเตอร์แต่ละตัวรอบสูงสุดที่ 13,000 รอบ/นาที อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดด้วยระบบอิเลคทรอนิคเอาไว้ที่ 250 กม./ชม.

ชุดแบตเตอรี่แพค เมอร์เซเดส ใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ในระบบ KERS ของรถ F1 ออกแบบใหม่โดยความร่วมมือของ Mercedes-AMG และ Mercedes AMG High Performance Powertrains Ltd. โดยยังคงเป็นแบบลิเธียม-ไอออน 400 โวลท์ รับโหลดได้ถึง 600 กิโลวัตต์ ระบายความร้อนด้วยของเหลว สเปคใกล้เคียงกับเวอร์ชั่นทดลองที่ใช้ใน E-Cell เพียงแต่เพิ่มความจุจาก 48 เป็น 60 กิโลวัตต์-ชั่วโมง น้ำหนักทั้งแพค 548 กิโลกรัม ประกอบไปด้วยเซลล์ลิเธียม-ไอออน 864 เซลล์ แบ่งเป็น 12 โมดูลๆ ละ 72 เซลล์

ชุดช่วงล่างหน้ายังคงคอนเซปท์เดิมที่ใช้ใน E-Cell เพื่อความเหมาะสม คือปีกนก 2 ชั้น Push-rod Strut หรือ แบบมีแกนเชื่อมปีกนกและสตรัทแบบรถ F-1

กำหนดการจำหน่าย หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แฟนๆ (ที่ต้องกระเป๋าหนักมาก) จะได้สัมผัสกันภายในเดือนมิถุนายน 2013 ด้วยราคาจำหน่ายที่สูงทะลุเพดาน 538,500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16.6 ล้านบาท ดุกว่ารุ่นพื้นฐานปี 2012 สันดาปภายใน เครื่องยนต์ V8 เกือบ 2 เท่าตัว

//image.free.in.th/z/ik/2014mercedesbenzslsamgcoupeelectricdrive01.jpg (//pic.free.in.th/id/e455ebf9a0f69ab7d4ea79c39e9ceaac)

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

03-10-2012, 09:36

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 3 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/ir/2012hondasummaryofceospeech99.jpg (//pic.free.in.th/id/79ac29866047b7710fd271a24213d5dd)

Honda ตั้งเป้ายอดขายรวมทั่วโลกกว่า 6 ล้านคันภายในปี 2017 พร้อมพัฒนายานยนต์ที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

//image.free.in.th/z/iw/2012hondasummaryofceospeech01.jpg (//pic.free.in.th/id/7dca09966cfdc60932a1f448d63c302d)

มร. ทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหารและซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ประกาศวิสัยทัศน์ และทิศทางการดำเนินงาน ตอกย้ำแนวคิด ทิศทางในอีก 10 ปี ข้างหน้า หรือ Direction for the next 10 years ที่ประกาศไปเมื่อปี 2010 ในการที่จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มอบความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าด้วยความรวดเร็ว ในราคาที่ย่อมเยา และมีค่า CO2 ต่ำ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ฮอนด้า มุ่งมั่นคิดค้นเทคโนโลยีอันทันสมัยที่มีไอเดียสร้างสรรค์ และนำเสนอผลิตภัณฑ์นั้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า นอกจากนี้ ในฐานะผู้ผลิตยานยนต์ ฮอนด้า พยายามริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อลดการปล่อย CO2 เสมอมา

"ในปี 2011 ฮอนด้า เผชิญกับอุปสรรคมากมาย อาทิ เงินเยนที่แข็งค่าขึ้น การหยุดการผลิตในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปัญหาพลังงานไฟฟ้าขาดแคลนจากเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิ รวมถึงอุทกภัยในประเทศไทย อย่างไรก็ตาม ฮอนด้า ขอขอบคุณในความร่วมมือร่วมใจของซัพพลายเออร์ หุ้นส่วนทางธุรกิจ และความพยายามของพนักงาน ฮอนด้า ทุกคน ที่ทำให้เราสามารถฟื้นฟูธุรกิจได้ในเวลาอันรวดเร็ว และวันนี้ เราพร้อมที่จะกลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม"

ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ ฮอนด้า ได้ส่งมอบผลิตภัณฑ์หลากหลายรุ่นที่มีเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้คนสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้น ทำงานได้ง่ายขึ้น เพิ่มความคล่องตัว และความสะดวกสบายให้กับลูกค้าเสมอมา ในปีงบประมาณ 2011 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2012) ผลิตภัณฑ์ของ ฮอนด้า ได้ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกกว่า 23.9 ล้านคน ซึ่งประกอบไปด้วยลูกค้าผู้ใช้รถจักรยานยนต์ 15 ล้านคน ลูกค้าผู้ใช้เครื่องยนต์อเนกประสงค์ 5.8 ล้านคน และลูกค้าผู้ใช้รถยนต์ 3.1 ล้านคน

ในปี 2017 ฮอนด้า ตั้งเป้าหมายในการส่งต่อความสุขให้กับลูกค้าทั่วโลกมากถึง 39 ล้านคน รวมผลิตภัณฑ์ทุกประเภท

//image.free.in.th/z/ia/2012hondasummaryofceospeech05.jpg (//pic.free.in.th/id/9bbc48c7e3fcb5c92db24bcbeaa158a0)

ทิศทางการดำเนินงานในธุรกิจรถยนต์

ในธุรกิจยานยนต์ ฮอนด้า เร่งตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั่วโลก ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานในระดับโลก เพื่อให้ ฮอนด้า สามารถสร้างสรรค์ยานยนต์ที่ดีที่สุด ในต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ โดยมีการปรับเปลี่ยนการดำเนินงานใน 3 ประเด็นหลัก ได้แก่...

1 - การพัฒนาไปพร้อมๆ กันใน 6 ภูมิภาคทั่วโลก 2 - ประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับแต่ละพื้นที่ 3 - พัฒนาประสิทธิภาพในการผลิต

ในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น ฮอนด้า จะตอบสนองความต้องการของตลาดที่หลากหลายด้วยความรวดเร็ว เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว พร้อมทั้งพัฒนารถยนต์แต่ละรุ่น ให้สอดคล้องกับโครงสร้างอุตสาหกรรมของทุกประเทศในแต่ละภูมิภาค ตามแนวทางการดำเนินงาน การพัฒนาไปพร้อมๆ กันใน 6 ภูมิภาค โดยแต่ละภูมิภาคจะมีส่วนในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ตั้งแต่ในขั้นตอนแรกของการพัฒนา

การแนะนำรถยนต์รุ่นเดียวกันในทุกภูมิภาคในเวลาไล่เลี่ยกัน จะช่วยให้ ฮอนด้า สามารถกำหนดภาพรวมของกำลังการผลิตในระดับโลกได้ ตั้งแต่เริ่มแนะนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด นอกจากนี้ การผลิตชิ้นส่วนจำนวนมากครั้งเดียวในประเทศที่มีความสามารถในการแข่งขันสูง จะสามารถช่วยลดต้นทุนการจัดหาชิ้นส่วนรถยนต์ได้อีกด้วย

ในขณะเดียวกัน เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งเพื่อใช้วัตถุดิบ และโครงสร้างการผลิตที่มีอยู่ในแต่ละท้องถิ่นให้มากที่สุด ฮอนด้า จึงประยุกต์การออกแบบให้เข้ากับแต่ละพื้นที่

ด้วยแนวความคิดใหม่นี้ ฮอนด้า จะเพิ่มยอดขายรถยนต์ในตลาดกลุ่มภูมิภาคหลัก เช่น ญี่ปุ่น, สหรัฐอเมริกา และยุโรป จาก 2.06 ล้านคันในปีงบประมาณ 2012 เป็นกว่า 3 ล้านคันในปีงบประมาณ 2017 และจะเริ่มขยายธุรกิจ ในตลาดของประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่น โดยจะสร้างยอดขายรถยนต์ให้ได้มากกว่า 3 ล้านคัน ในปี 2017 ซึ่งนับเป็น 2 เท่าของปีงบประมาณ 2012 (สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2012) ด้วยการตั้งเป้ายอดการขายที่แข็งแกร่งในกลุ่มภูมิภาคหลัก และการรุกตลาดในประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างโดดเด่นนี้ ฮอนด้า ตั้งเป้าการขายรถยนต์รวมทั่วโลกให้ได้กว่า 6 ล้านคัน ภายในปีงบประมาณ 2017

//image.free.in.th/z/id/2012hondasummaryofceospeech04.jpg (//pic.free.in.th/id/a1bb895ee5ce0406a8cd94b5e7823a90)

เทคโนโลยียานยนต์อันทันสมัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ฮอนด้า ยังคงพัฒนาเทคโนโลยี Earth Dreams ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนในอนาคต เพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ และเพิ่มประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันสูงสุด ด้วยการพัฒนาองค์ประกอบของการสันดาปภายใน เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าที่นำมาใช้กับมอเตอร์ และส่วนประกอบอื่นๆ

สำหรับยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งยังคงเป็นที่นิยมใช้ในหลายประเทศทั่วโลก ฮอนด้า จะพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ช่วยประหยัดน้ำมันสูงสุด โดยจะเริ่มติดตั้งเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ใน Honda Accord รุ่นปี 2013 และจะนำมาติดตั้งในรถยนต์รุ่นอื่นๆ เป็นลำดับต่อไป

สำหรับรถไฮบริด ฮอนด้า จะประยุกต์ใช้เครื่องยนต์ไฮบริด 3 ระบบ ซึ่งมีคุณลักษณะอันโดดเด่น เพื่อเติมเต็มความต้องการให้กับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น

ระบบไฮบริดมอเตอร์เดี่ยวที่มีน้ำหนักเบา จะถูกพัฒนาให้ range ของ EV มีช่วงเวลาที่นานยิ่งขึ้น (เมื่ออยู่ใน EV range รถจะไม่มีการปล่อยก๊าซ CO2 ออกมาเลย) โดยจะพัฒนาสมรรถนะของมอเตอร์ และแบตเตอรี่ ควบคู่ไปกับการพัฒนาระบบเกียร์แบบใหม่ ยิ่งไปกว่านั้น ฮอนด้า มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำยานยนต์พลังงานไฮบริด ที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดเป็นอันดับ 1 ด้วยการพัฒนาประสิทธิภาพของการนำพลังงานไฟฟ้าที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่กลับมาหมุนเวียนใช้ใหม่

สำหรับรถยนต์ขนาดกลาง หลังจากที่ ฮอนด้า เปิดตัว Honda Accord PHEV ในสหรัฐอเมริกาช่วงต้นปี 2013 แล้ว รถยนต์ไฮบริดรุ่นใหม่ จะได้รับการติดตั้งระบบไฮบริดมอเตอร์คู่ ซึ่งหลังจากเปิดตัวในสหรัฐอเมริกา รถยนต์รุ่นนี้จะเปิดตัวในประเทศญี่ปุ่น และภูมิภาคอื่นๆ เป็นลำดับต่อมา รถยนต์ไฮบริด ปลั๊ก-อิน ที่จะเริ่มจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่น จะได้รับการติดตั้งเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า หรือ inverter ที่สามารถใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานภายนอกได้ ซึ่งเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้านี้ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าของ ฮอนด้า นั่นเอง

ฮอนด้า มุ่งสร้างสรรค์สมรรถนะในการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จึงคิดค้นระบบไฮบริด 3 มอเตอร์ หรือระบบสปอร์ตไฮบริด SH-AWD (Super Handling All Wheel Drive) ที่สามารถให้การขับขี่สไตล์สปอร์ต และประหยัดน้ำมันไปพร้อมกัน ซึ่งระบบนี้จะได้รับการติดตั้งใน Honda NSX, รถสปอร์ตไฮบริด Acura RLX และ Honda Legend ใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวที่ญี่ปุ่นในปี 2014

สำหรับรถ EV ฮอนด้า จะเริ่มเปิดให้เช่าซื้อ Honda Fit EV ในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากสถานการณ์ด้านพลังงานในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป ฮอนด้า พยายามพัฒนารถ EV อย่างต่อเนื่อง เพื่อเจาะตลาดกลุ่มรถ EV ให้มากขึ้น

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-10-2012, 09:54

ปิดไตรมาส 3 ยอดขายทะลุ 5 หมื่นคัน

//image.free.in.th/z/io/mazdasalesreport2012september01.jpg (//pic.free.in.th/id/4ad7d63984e8d02a0ed55922ecc1b59e)

บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปืดไตรมาส 3 ทำยอดจำหน่ายได้กว่า 52,000 คัน พร้อมยังมียอดจองสะสมอีกจำนวนมาก ซึ่ง มาสด้า ได้เตรียมความพร้อมอุดช่องว่างทุกทางในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีน และวางแผนงานจัดการกับปริมาณจอดจองอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ลูกค้าไม่พลาดสิทธิ์ในการรับเงินคืนจากโครงการรถยนต์คันแรก

ยอดจำหน่ายของมาสด้าปีนี้ (มกราคม - กันยายน) ทะลุถึง 52,170 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูง 64% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายรวมทั้งสิ้น 31,847 คัน Mazda2 สามารถกวาดยอดขายไปได้มากที่สุดถึง 28,474 คัน หรือเพิ่มขึ้น 43% ตามมาด้วย Mazda BT-50 PRO 19,308 เพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 156% และ Mazda3 ที่เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยยอดขายรวมทั้งสิ้น 4,367 คัน สำหรับในส่วนของรถยนต์พรีเมี่ยมคาร์ Mazda MX-5 และ Mazda CX-9 มียอดขายถึง 21 คัน

มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ยอดขายรถยนต์มาสด้าในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องแม้ว่าจะอยู่ช่วงของฤดูฝน ที่ประชาชนต่างวิตกกังวลในเรื่องของน้ำท่วม แต่ตลาดรถยนต์กลับไม่มีทีท่าจะแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์มาสด้าทะลุเกิน 7,000 คันเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยมียอดขายสูงถึง 7,237 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 82% แบ่งเป็น Mazda2 3,580 คัน เพิ่มขึ้น 32% Mazda BT-50 PRO 3,065 คัน เติบโตสูงสุดถึง 242% Mazda3 เครื่องยนต์ 1.6 และ 2.0 ลิตรใหม่ 591 คัน เพิ่มขึ้น 57% และรถยนต์ประเภทพรีเมี่ยมคาร์ จำนวน 1 คัน ส่งผลให้ยอดขายรวม 9 เดือนทะลุถึง 52,170 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 64 เปอร์เซ็นต์"

"หากเปรียบเทียบเป็นในแต่ละไตรมาส จะเห็นว่ามาสด้ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสแรก (Q1) มียอดขายรวมทั้งสิ้น 14,264 มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 43% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และในไตรมาสที่สอง (Q2) ยังมีอัตราการเติบเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้น 16,313 คัน มีอัตราการเติบโตสูงถึง 58% และในไตรมาสที่สามของปีนี้มีอัตราการเติบโตสูงถึง 87% หรือยอดขายรวมทั้งสิ้นสูงถึง 21,593 คัน และคาดว่าในไตรมาสด้าสุดท้ายของปีนี้ (Q4) คาดว่าจะมียอดขายมากกว่า 20,000 คัน หรือรวมทั้งปีมากกว่า 70,000 คัน ทะลุเกินเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

//image.free.in.th/z/ib/mazdasalesreport2012september02.jpg (//pic.free.in.th/id/1091d91831fa54a4b830f6821bc9e712)

ทางด้านผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี กล่าวว่า "ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ คาดว่าตลาดรถยนต์จะมีความคึกคักมากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคที่มีอยู่จำนวนมาก ประกอบกับโครงการรถคันแรกของรัฐบาลกำลังจะสิ้นสุดลง และค่ายรถยนต์ทุกค่ายต่างต้องช่วงชิงความได้เปรียบ และต้องเก็บยอดจองมาให้ได้มากที่สุด เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ์จากโครงการดังกล่าว"

"มาสด้าได้เตรียมแผนงานและมอบนโยบายไปยังผู้จำหน่ายอย่างชัดเจน คือ ต้องให้คำแนะนำกับลูกค้า เกี่ยวกับโครงการนี้ให้ละเอียดรอบคอบ และเช็ครายชื่อให้ชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง ซึ่งในขณะนี้มาสด้ามียอดจองสะสมอยู่จำนวนมาก และจะสามารถส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งถ้าลูกค้าจองในตอนนี้ จะได้รับรถประมาณเดือนมกราคม ฉะนั้นมาสด้าขอแนะนำให้ลูกค้ารีบจองเร็วขึ้นกว่าปกติ และเตรียมยื่นเอกสารก่อนถึงสิ้นปี เนื่องจากถึงตอนนั้นจะมีคนยื่นเข้ามามาก อาจก่อให้เกิดความวุ่นวาย และอาจยื่นเอกสารไม่ทัน และจะทำให้เสียโอกาสดีๆ นั้นไป"

"สำหรับลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์คันแรก นอกจากจะได้รับสิทธิ์ในการคืนภาษีเต็มจำนวน 100,000 บาท สำหรับ Mazda2 แล้ว มาสด้ายังมอบสิทธิพิเศษ ด้วยเงินดาวน์เพียง 25% ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.35% ผ่านนานสูงสุด 72 เดือน สำหรับ Mazda BT-50 PRO รับเงินคืนสูงสุด 96,000 บาท ดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.45% ผ่อนนานสูงสุด 72 เดือน"

"มาสด้าทุกรุ่นยังมอบประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี 1 ปี และรับประกันคุณภาพนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และบริการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมงนาน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร นอกจากนี้ Mazda3 ทั้งเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร จองซื้อวันนี้สามารถรับรถได้ทันที"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

08-10-2012, 11:03

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 8 ตุลาคม 2555

Honda CR-V 2.4 EL 4WD 500 กิโลเมตร กรุงเทพ-เขาใหญ่

//image.free.in.th/z/it/testdrivehondacrv4wd201202.jpg (//pic.free.in.th/id/b9dd5a803e67aed3499b6bfedd24924e)

หลังเปิดตัว ประมาณครึ่งเดือน บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ก็จัดทดสอบแบบกลุ่ม ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ มาครบทั้ง 4 รุ่นย่อยด้วยรถทดสอบ 10 คัน และสื่อมวลชนกว่า 40 คน เส้นทางทดสอบจาก ช็อกโกแล็ต วิลล์ ปลายทาง เวลาเวียน รีสอร์ท เขาใหญ่ ระยะทางรวมประมาณ 500 กิโลเมตร ผลัดกันขับคันละ 4 คน ผมและเพื่อนได้ขับรุ่นสูงสุด 2.4 EL 4WD น้ำหนักรวมสัมภาระประมาณ 300 กิโลกรัม โดยทีมงานของ ฮอนด้า แจ้งว่าเติมแก๊สโซฮอล์ E10

//image.free.in.th/z/iv/testdrivehondacrv4wd201203.jpg (//pic.free.in.th/id/5a06a432884403e2568884953437bb26)

รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวล้ำสมัย แม้จะถูกบังคับด้วยรูปทรงหลักแบบ 5 ประตู แต่ ฮอนด้า ก็สามารถสร้างความแตกต่างจากรุ่นเดิมได้ดี ด้านหน้าดูสปอร์ตดุดันด้วยชุดไฟหน้าทรงเฉียง มีลูกเล่นซ้อนอยู่กับกระจังหน้าซึ่งกินพื้นที่ส่วนกลางของกันชนที่ปาดรับมุมเอียงของโคมไฟหน้า ด้านล่างของกันชนตกแต่งด้วยพลาสติกสีดำด้านต่อเนื่องไปถึงโป่งล้อหน้า-หลัง สเกิร์ตข้าง และกันชนหลัง เฉพาะรุ่น 2.0 S ขับ 2 ล้อเท่านั้น ที่ไม่มีสปอตไลต์

ด้านข้างเสริมความหรูด้วยที่เปิดประตูโครเมียม เข้าชุดกับคิ้วโครเมียมล้อมกรอบพื้นที่กระจกข้าง กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยวในตัว เสริมความรู้สึกแข็งแรงด้วยลายเส้นบนตัวถังด้านข้าง ล้อแม็กพร้อมรุ่น 2.0 มีขนาด 6.5x17 นิ้ว ยาง 225/65 R17 ลวดลายของล้อแม็กต่างกันในรุ่น 2.0 S ขับ 2 ล้อ และ 2.0 E ขับ 4 ล้อ ส่วนรุ่น 2.4 ทั้งแบบขับ 2 ล้อ EL 2WD และ EL 4WD ใช้ล้อแม็กขนาด 7x18 นิ้ว ยาง 225/60 R18

ด้านท้ายยังคงยึดมั่นกับชุดไฟท้ายทรงตั้งเอกลักษณ์ของ CR-V ประตูท้ายแบบเดี่ยวเปิดขึ้นบน มีสปอยเลอร์ชิ้นเล็กกับไฟเบรกดวงที่ 3 มุมมองด้านท้ายถ้าไม่มีตัวอักษรระบุ 4WD ก็แทบแยกไม่ออกระหว่างรุ่น 2.0 หรือ 2.4 (ยกเว้น 2.0 S ไม่มีกล้องมองหลังซ่อนอยู่ใต้คิ้วโครเมียมเหนือป้ายทะเบียน)

มิติตัวถังมีความยาว 4,534 มิลลิเมตร กว้าง 1,820 มิลลิเมตร สูง 1,685 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,620 มิลลิเมตร น้ำหนักรุ่นที่ทดลองขับ 1,585 มิลลิเมตร

//image.free.in.th/z/iz/testdrivehondacrv4wd201205.jpg (//pic.free.in.th/id/2d78cdc87348dc58a8cd75c75bac8bde)

ภายในเรียบหรูกว้างขวาง การตกแต่งภายในขึ้นอยู่กับสีภายนอก ถ้าเป็นสีน้ำตาลเออร์เบิน ไทเทเนียม, เทาโพลิซเมทัล และดำคริสตัล ภายในจะเป็นสีเบจ ถ้าอยากได้ภายในสีดำล้วน ต้องเลือกสีภายนอก น้ำเงินทไวไลท์ ขาวออร์คิด หรือเงินอลาบาสเตอร์ คันที่ผมขับเป็นสีดำภายในสีเบจ รถเพิ่งใช้งานมาแค่ 700 กว่ากิโลเมตร ยอมรับว่าภายในสีเบจให้ความรู้สึกโปร่งโล่งและหรูหราจริงๆ ส่วนแผงประตูเป็นพลาสติกล้วน น่าจะเน้นความทนทนและดูแลรักษาง่าย เพราะรถประเภทนี้มักใช้งานสมบุกสมบันกว่าเก๋ง ส่วนที่เท้าแขนบนแผงประตูหุ้มหนังบุด้วยวัสดุอ่อนนุ่ม

แผงคอนโซลออกแบบเรียบๆ เน้นความสะอาดตา พวงมาลัย 3 ก้านใช้ร่วมกับซีวิค คันที่ขับเป็นรุ่นสูงสุด มีฟังก์ชั่นการทำงานครบครับทั้งปุ่มควบคุมจอ i-MID ที่คอนโซลกลางด้านบน ปุ่มควบคุมครูสคอนโทรล และปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์ ชุดมาตรวัดออกแบบใหม่ทิ้งสไตล์เดิม เน้นแบบล้ำยุค 3 มิติ ตรงกลางเป็นมาตรวัดความเร็ว มีจอดิจิตอลแสดงข้อมูลการขับตรงกลาง ประกบด้วยแถบไฟสำหรับระบบ Eco Coaching โดยจะสว่างเป็นสีเขียวเมื่ออยู่ในช่วงที่ปะหยัดเชื้อเพลิงสูงสุด ใต้แผงคอนโซลฝั่งขวามีปุ่ม ECON และฝั่งซ้ายมีปุ่ม Start/Stop ใช้ร่วมกับ Honda Smart Key System

คอนโซลกลางนอกจากจอ i-MID แล้วยังมีจอสัมผัสแสดงผลเครื่องเสียง ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และกล้องมองหลังพร้อมเส้นกราฟิกกะระยะ ถัดลงมาเป็นสวิตช์แอร์ดิจิตอลแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ต่อเนื่องด้วยคอนโซลเกียร์หน้าตาเรียบๆ มีตำแหน่ง S ให้ผู้ขับควบคุมจังหวะเปลี่ยนเกียร์ด้วยแป้น +/- หลังพวงมาลัย พร้อมตัวเลขดิจิตอลบอกตำแหน่งเกียร์ในชุดมาตรวัด

เบาะคู่หน้าปรับทิศทางด้วยไฟฟ้า ฝั่งผู้ขับมีที่ดันหลังไฟฟ้าเพิ่มเติมมาให้ ปรับให้เข้ากับสรีระได้อย่างพอเหมาะ ที่เท้าแขนตรงกลางมีช่องเสียบ USB อยู่ด้านใน ตำแหน่งของที่เท้าแขนต่ำไปนิด ถ้าติดตั้งไว้กับเบาะแบบ ฮอนด้า โอดิสซีย์ น่าจะใช้งานได้ถนัดกว่านี้ แต่คงเป็นไปได้ยากเพราะด้านหลังของที่เท้าแขนมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังด้วย

เบาะหลังแยกพับได้แบบ 60:40 ติดตั้งระบบพับแบบกลไก One Motion มีคันโยกอยู่ที่ผนังห้องเก็บสัมภาระด้านท้าย เมื่อดีงคันโยกเบาะนั่งจะพลิกไปด้านหน้าและพนักพิงจะพับลง เพิ่มพื้นที่บรรจุของด้านหลัง พนักพิงปรับความเอนได้ 2 ระดับ แต่เท่าที่ทดลองนั่ง ทุกคนอยากให้เอนได้มากกว่านี้อีกนิด ผู้โดยสารด้านหลังปลอดภัยด้วยหมอนรองศีรษะ 3 ตำแหน่ง ตรงกลางพับเก็บได้ ผู้โดยสารด้านหลังตำแหน่งกลางส่วนใหญ่จะมีเข็มขัดนิรภัยแบบ 2 จุดคาดเอว แต่สำหรับ ซีอาร์-วี ใหม่เป็นแบบ 3 จุดโดยตัวเข็มขัดจะม้วนเก็บอยู่บนเพดานด้านหลังเบาะหลัง

เร่งได้ดีถ้ามีรอบ รุ่นที่ทดสอบใช้เครื่องยนต์ความจุค่อนข้างเยอะ แบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว i-VTEC ความจุ 2,354 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 125 กิโลวัตต์ หรือ 170 แรงม้า (PS) ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 22.4 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบต่อนาที รองรับแก๊สโซฮอล์สูงสุด E85 ออกเทน 91 ขึ้นไป ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ

ช่วงแรกที่ผมขับแบบใช้งานทั่วไปพบว่า ถ้าต้องการเร่งแซงแบบทันใจ ต้องใช้การคิ๊กดาวน์เปลี่ยนเกียร์ลงต่ำ การแซงแบบกดคันเร่งค่อยๆ ไล่รอบในเกียร์เดิมพบว่าความเร็วจะเพิ่มขึ้นช้ามาก โดยเฉพาะจากรอบประมาณ 2,000-2,500 รอบต่อนาทีขึ้นไป แต่ก็ยังดีที่รอบเครื่องยนต์ตวัดขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลลื่นเมื่อคิ๊กดาวน์ แต่ก็แน่นอนว่าต้องสึกหรอและสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้น

ช่วงที่เพื่อนขับแบบสปอร์ตแต่เปิดใช้ ECON Mode พบว่าอัตราสิ้นเปลืองลดลงไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับลักษณะการขับที่ค่อนข้างดุดัน คิ๊กดาวน์ลากรอบสูงบ่อยครั้ง ผมนั่งสังเกตการณ์อยู่เบาะหลังฝั่งผู้ขับรู้สึกว่ารถยังไม่พุ่งทันใจสักเท่าไรแม้จะคิ๊กดาวน์แล้ว เพื่อนที่เป็นผู้ขับจึงลองปิด ECON Mode ไม่แน่ใจว่าเป็นอุปทานหรือเปล่า แต่รู้สึกเหมือนว่ารถเบาลง เร่งทันใจมากขึ้น ถ้าได้ทดสอบเดี่ยวเมื่อไรจะลองอีกครั้งให้แน่ใจ

//image.free.in.th/z/iq/testdrivehondacrv4wd201210.jpg (//pic.free.in.th/id/eb8be80b791e54cdc9b8cac29e960312)

อัตราสิ้นเปลืองดีกว่าที่คิด ผมรับหน้าที่ขับเป็นคนแรกเผื่อช่วงหลังๆ จะมีโอกาสถ่ายรูป ก่อนออกจาก ช็อคโกแล็ต วิลล์ สังเกตว่าทีมงาน ฮอนด้า เซต 0 ระยะทางและอัตราสิ้นเปลืองไว้ให้แล้ว แถมยังเซต GPS ไว้ให้ด้วย เดินทางโดยใช้ทางหลวงกาญจนาภิเษก ต่อด้วยวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ถนนช่วงนี้รถค่อนข้างโล่ง แต่ก็ไม่ได้ใช้ความเร็วสูงจัดเพราะกลัวโดนตำรวจจับ และตั้งใจจะลองขับใช้งานทั่วไปแบบเน้นประหยัดนิดๆ ว่าจะได้อัตราสิ้นเปลืองประมาณไหน

ในการขับใช้ความเร็วประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีบางช่วงเท่านั้นที่เร่งขึ้นไปถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะต้องเกาะกลุ่มตามคันอื่นเนื่องจากกลัวหลงทาง ขับยาวไปจนสุดทางจากนั้นวนออกถนนพหลโยธิน ใช้เส้นบายพาสตัดไปออกถนนมิตรภาพ ก่อนจะแวะปั๊มที่นัดแนะไว้ ระยะทางในช่วงนี้ประมาณ 113 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.3 กิโลเมตรต่อลิตร

จากนั้นเปลี่ยนคนขับ มุ่งหน้าทานอาหารกลางวันที่เวลาเวียน ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองลดลงเหลือ 9.8 กิโลเมตรต่อลิตร อิ่มแล้วเปลี่ยนคนขับอีกครั้ง สไตล์การขับค่อนข้างสปอร์ตมีการลากรอบสูงเพื่อเร่งแซงบ่อยๆ ส่วนใหญ่เปิด ECON Mode มีแค่บางช่วงเท่านั้นที่ลองปิดระบบ แวะพักที่ปั๊มบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี อัตราสิ้นเปลืองลดลงเล็กน้อย เหลือ 9.6 กิโลเมตรต่อลิตร

จากนั้นเปลี่ยนคนขับคนสุดท้ายมุ่งหน้ากลับจุดสตาร์ตเมื่อเช้า คนนี้ขับไม่เร็วมากและมีการคิ๊กดาวน์ไม่บ่อยนัก ขับแบบไหลๆ ไปตามสภาพการจราจรช่วง 5 โมงเย็นซึ่งยังไม่ติดขัดมากนัก กลับถึงจุดหมายด้วยอัตราสิ้นเปลืองที่ขยับขึ้นอีกนิดเป็น 10.1 กิโลเมตรต่อลิตร

หลังจากทดลองขับแล้ว วิศวกรของ ฮอนด้า ถึงจะเฉลยว่ารถที่ใช้ทดสอบเติมแก๊สโซฮอล์ E10 แม้รถจะรองรับได้ถึง E85 ก็ตาม และแสดงแผนภูมิข้อมูลว่าในรุ่นใหม่แบบ 4WD ประหยัดน้ำมันขึ้นจากเดิม 10.0 กิโลเมตรต่อลิตร เป็น 11.4 กิโลเมตรต่อลิตร ทดสอบโดยทีม R&D และใช้แก๊สโซลีน ส่วนคันที่ทดสอบนั่ง 4 คน โดยเฉลี่ยขับค่อนข้างเร็ว และเติมแก๊สโซฮอล์ E10 ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 10.1 กิโลเมตรต่อลิตรนับว่าน่าพอใจอย่างยิ่ง เพราะรถสูงต้านลมและต้องแบกน้ำหนักรวมกว่า 1,800 กิโลกรัม

//image.free.in.th/z/it/testdrivehondacrv4wd201208.jpg (//pic.free.in.th/id/74b7b6515dfc971589de6582baa00d21)

ช่วงล่างต้องลองเอง คันที่ทดลองขับเป็นรุ่นสูงสุด ใส่ยางขนาด 225/60 R18 มาจากโรงงาน ระบุให้เติมลม 30 ปอนด์ต่อตารางนิ้วทั้ง 4 ล้อ สอบถามทีมพีอาร์ก็บอกว่าเติมตามที่สเปกกำหนด ช่วงที่ผมขับและนั่งเมื่อขับผ่านถนนขรุขระ รู้สึกว่ามีความแข็งกระแทกที่มาจากยางมากไปนิด ส่วนเพื่อนที่นั่งไปด้วยยังวัยรุ่นอยู่กลับบอกว่านุ่มดี ของแบบนี้ต้องลองเอง เพราะความชอบส่วนตัวและความคาดหวังของแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ในส่วนของระบบกันสะเทือนอิสระพร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต ด้านหลังปีกนก 2 ชั้น พร้อมระบบควบคุมการทรงตัว VSA-Vehicle Stability Assist ให้ความนุ่มนวลและหนึบหนับพอตัวที่ความเร็วต่ำ-ปานกลาง ส่วนที่ความเร็วสูงเป็นช่วงที่เพื่อนเริ่มขับขากลับเป็นคนแรก เส้นทางคดเคี้ยวลาดชัน แม้จะใช้ความเร็วเกินปกติไปบ้างบนโค้งแคบๆ แต่ก็ยังควบคุมรถได้ มีเพียงบางจังหวะที่ออกอาการหน้าดื้อบ้าง และมีอาการท้ายยวบเกือบจะปัดเมื่อใช้ความเร็วค่อนข้างสูงในโค้งลงเนิน แต่ก็ไม่ถึงกับปัดหรือน่ากลัวแต่อย่างใด เพื่อนที่นั่งเบาะหลังคู่กันยังหลับพริ้มแถมด้วยเสียงกรนเบาๆ เป็นระยะ ยืนยันว่าหลับจริง

ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ ให้ความรู้สึกที่ดีทั้งในแง่ของแรงเบรกที่ดึงรถคันสูงใหญ่ให้ชลอความเร็วลงได้อย่างมั่นคงและฉับไว รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างแรงเหยียบของเท้ากับแรงเบรก ช่วยควบคุมการเบรกทั้งแบบนุ่มนวลหรือแบบกะทันหันได้ตามต้องการ โดยเมื่อเบรกกะทันหันมีอาการหน้าทิ่มท้ายยกไม่มากนัก

พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้ามีระบบช่วยควบคุมการบังคับพวงมาลัย MA-EPS หรือ Motion Adaptive Electric Power Steering System ทำงานร่วมกับ VSA และพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า จึงมีเฉพาะในรุ่น 2.4 เท่านั้น (รุ่น 2.0 ไม่มี VSA) เพิ่มความแม่นยำขณะเข้าโค้งหรือบนทางเปียก ลองขับแล้วรู้สึกว่าการทำงานของพวงมาลัยยังคงเป็นธรรมชาติ เหมือนพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าทั่วไปที่ไม่มีระบบ Motion Adaptive อีกระบบที่ไม่ได้ลอง คือ HSA หรือ Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน

ยังเหลืออีก 2 ส่วนที่ต้องรอทดสอบเดี่ยว คือ อัตราเร่งทั้งแบบเปิดและปิด ECON Mode รวมทั้งอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบขับยาวๆ ด้วยความเร็วนิ่งๆ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ฮอนด้า ซีอาร์-วี ใหม่ รุ่นสูงสุด 2.4 EL 4WD รูปลักษณ์ล้ำสมัยโฉบเฉี่ยว ภายในเรียบร้อยสะอาดตา อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ตั้งราคาไว้ 1,524,000 บาทพอๆ กับรถเก๋งระดับหรูพิกัดเครื่องยนต์ใกล้เคียงกัน เด่นกว่าด้วยห้องโดยสารโปร่งโล่งกว้างขวางนั่งสบาย ช่วงล่างสูงกว่าเก๋ง ลุยทางวิบากเล็กๆ หรือน้ำท่วมประมาณ 1 คืบได้อย่างสบายใจ เป็นทางเลือกที่สดใหม่ที่สุดในกลุ่ม ณ เวลานี้

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

09-10-2012, 09:12

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 9 ตุลาคม 2555 กระจกไฟฟ้าเจ้าปัญหาทำ Honda CR-V Gen 2 ต้องเรียกคืนกว่า 489,000 คัน!!! //image.free.in.th/z/ik/23bd31f1f04a8b9d847f2ba437f1a774_1349713581.jpgrwidth580staticstatic_autofiledc111a.jpg (//pic.free.in.th/id/d43fc94d3091e005585903e994728ae6) บ้านเราอาจจะเพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ อย่างเป็นทางการสำหรับรถยนต์อเนกประสงค์ Honda CR -V ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาด แต่ในต่างประเทศชื่อเดียวกันนี้ก็กำลงัวุ่นวาย ใน ยุโรป สหรัฐ รวมถึง แอฟริกา หลังต้องเรียกคืนรถยนต์รุ่นนี้ในโฉมปี 2002-2006 กันยกใหญ่ การเรียกคืนรถยนต์ Honda CR-V ใหม่นี้เป็นการเรียกคืน โดยสำนักงานความปลอดภัยทางหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา หลังมีการสืบสวนในกรณีกระจกไฟฟ้าของรถยนต์ Honda CR-V ใหม่ ซึ่งการเรียกคืนครั้งนี้เป็นด้วยความสมัครใจของ Honda ในอเมริกา และ มีรายงานว่า รถคันนี้ถูกเรียกคืนในยุโรปด้วยตามรายงานของ Wall Street Journal กว่า 220,000 คัน รวมถึงอีกว่า 98 คันในทวีปแอฟฟริกา ต้นเหตุจองการเรียกคืนนี้ก็เนื่องมาจากการสืบสวนในเร็วๆนี้ ที่ระบุว่าสวิทช์กระจกไฟฟ้าหลักอาจเสื่อมสภาพจากการใช้งานและทำให้แรงต้านทานในสวิทช์ด้อยประสิทธฺภาพลงจนอาจจะเกิดการช๊อตได้ และสามารถเป็นต้นเหตุของไฟไหม้ได้ในที่สุด อย่างไรก็ดี ในการเรียกคืนครั้งนี้ไม่ได้มีการระบุถึงการเรียงคืนในทวีปเอเซียด้วย ซึ่งหากมีความเคลื่อนไหวใดๆ เราจะติดตามมานำเสนอกันต่อไป Credit By: Auto.sanook.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

10-10-2012, 23:18

ข่าวสารช่วงค่ำวันที่ 10 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/ii/mitsucampaign01.jpg (//pic.free.in.th/id/4b1a8ba285ca974b8158717568f89ab1)

Mitsubishi Motors ส่งข้อเสนอพิเศษ มิตซูบิชิ 'จัดให้' ไม่ต้องรอ Motor Expo 2012

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย จัดหนัก จัดเต็ม ส่งข้อเสนอเด็ด 'มิตซูบิชิ จัดให้' จัดไปไม่ยั้ง ทั้งฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีค่าบำรุงรักษาสูงสุด 30,000 กิโลเมตร ฟรีค่าแรง 100,000 กิโลเมตร สำหรับลูกค้าที่จอง มิตซูบิชิ ทุกรุ่น พร้อมเงื่อนไขพิเศษ ทั้งดาวน์ต่ำ ผ่อนน้อย เพิ่มมูลค่านำรถเก่าแลกรถใหม่ หรือรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยเริ่มต้นที่ 1.79% * และรับคืนเงินภาษีรถคันแรกสูงสุดถึง 91,000 บาท เมื่อซื้อ มิตซูบิชิ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้ ที่โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ

มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยยอดขายในเดือนกันยายนที่ผ่านมาว่า บริษัทฯ มียอดขายรวมอยู่ที่ 11,494 คัน เติบโตขึ้น 103.54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ถือเป็นการทำยอดขายที่สูงกว่า 10,000 คันต่อเดือน ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ยอดจำหน่ายแบ่งออกเป็น Mitsubishi Triton 4,358 คัน เพิ่มขึ้น 20.92% จากปีก่อน กลุ่ม PPV คือ Mitsubishi Pajero Sport ยอดขาย 2,186 คัน เพิ่มขึ้น 41.86 % จากปีก่อน แบ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินทั้ง 2.4 และ 3.0 ลิตร ประมาณ 400 คัน

กลุ่มรถยนต์นั่ง Mitsubishi Mirage, Mitsubishi Lancer และ Mitsubishi Lancer EX มีอัตราการเติบโตสูงสุด ยอดขายรวมอยู่ที่ 4,950 คัน เพิ่มขึ้น 886.06% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเปิดตัว Mirage ใหม่ในปีนี้ และได้กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลัก ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์รวมของ มิตซูบิชิ โดยรวม

"ลูกค้าส่วนใหญ่พึงพอใจในความประหยัดน้ำมัน ความคุ้มค่า และความคล่องตัวในการขับขี่ของมิราจใหม่ ซึ่งล่าสุด ทางบริษัทได้มีการจัดกิจกรรมทดสอบอัตราการบริโภคน้ำมันของรถรุ่นดังกล่าว โดยสื่อมวลชนสายรถยนต์บนเส้นทางก รุงเทพ-เชียงราย และ เชียงราย-กรุงเทพ โดยใช้ชื่อกิจกรรม 'ถังเล็กถังเดียวเที่ยวเชียงราย' ซึ่งจากการขับด้วยความเร็วเฉลี่ย 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผลปรากฎว่า มิราจซึ่งมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 35 ลิตร สามารถไปถึงเชียงรายโดยใช้น้ำมันไม่ถึง 1 ถัง โดยรุ่นเกียร์ธรรมดา มีอัตราการบริโภคน้ำมันเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 32.81 กิโลเมตรต่อลิตร ในขณะที่รุ่นเกียร์อัตโนมัติ CVT มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ยสูงสุดอยู่ที่ 28.51 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งผมเชื่อว่า น่าจะมีส่วนสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าในเรื่องของการประหยัดน้ำมันของรถมิราจได้เป็นอย่างดี"

มร. มูราฮาชิ กล่าวเสริมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายของบริษัทฯ เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนตุลาคม ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนนี้ว่า...

"มิตซูบิชิได้เตรียมจัดแคมเปญภายใต้ชื่อ 'มิตซูบิชิ จัดให้' ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ สำหรับลูกค้าที่ตัดสินใจจองรถยนต์มิตซูบิชิในช่วงนี้ โดยภายใต้แคมเปญดังกล่าว ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นจะได้รับทั้งฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษาสูงสุด 30,000 กิโลเมตรแรก และฟรีค่าแรง 100,000 กิโลเมตร พร้อมกันนี้ยังมีข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์มิตซูบิชิแต่ละรุ่น ครอบคลุมทั้ง มิราจ, ไทรทัน, ปาเจโร สปอร์ต และ แลนเซอร์ อีเอ็กซ์ ซึ่งมีให้เลือกทั้งดาวน์ต่ำ ผ่อนน้อย เพิ่มมูลค่านำรถเก่าแลกรถใหม่ หรือรับบัตรเติมน้ำมันมูลค่า 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยต่ำเริ่มต้นที่ 1.79% * ในขณะที่ลูกค้าที่ซื้อไทรทัน และมิราจ ยังได้รับสิทธิ์คืนเงินภาษีรถคันแรกสูงสุดถึง 91,000 บาทด้วย"

แคมเปญ 'มิตซูบิชิ จัดให้' สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มิตซูบิชิ ทุกรุ่น ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 นี้

• ฟรี…ประกันภัยชั้นหนึ่ง Diamond Insurance นาน 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง • ฟรี...ค่าบำรุงรักษาสูงสุด 30,000 กิโลเมตรแรก หรือระยะไม่เกิน 18 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน • ฟรี...ค่าแรง 100,000 กิโลเมตร หรือ 36 เดือน แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน (เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุในสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ)

ข้อเสนอพิเศษสำหรับรถยนต์มิตซูบิชิมี รุ่น

Mirage - ดาวน์ต่ำเริ่มต้นที่ 38,000 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 10%) - ผ่อนเริ่มต้นที่ 3,999 บาท (เงื่อนไขเงินดาวน์ 30% ผ่อน 84 เดือน) - รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด 77,000 บาท (รายละเอียดตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรก)

Triton - รุ่นเมกะแค็บ ข้อเสนอรถเก่าแลกรถใหม่ เพิ่มมูลค่า 30,000 บาท หรือฟรีบัตรเติมน้ำมัน 30,000 บาท ยกเว้นเมกะแค็บ CNG - ดับเบิ้ลแค็บ รับข้อเสนอดอกเบี้ยต่ำ 1.79% * (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) - รับส่วนลดเงินคืนภาษีรถคันแรกสูงสุด 91,000 บาท (รายละเอียดตามเงื่อนไขของโครงการรถยนต์คันแรก)

Pajero Sport - ดอกเบี้ยต่ำ 1.99%* (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน) ยกเว้นรุ่น เครื่องยนต์เบนซิน

Lancer EX - ดอกเบี้ยต่ำ 1.99% *(ดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน)

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

11-10-2012, 09:25

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 11 ตุลาคม 2555

GM & Ford ร่วมลงทุนผลิตเกียร์รุ่นใหม่

ปัจจุบันเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะได้กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับรถยนต์ระดับหรูไปแล้ว และกำลังจะเริ่มใช้ในรถยนต์ระดับรองลงมาด้วย ล่าสุดมีข่าวว่า จีเอ็ม และ ฟอร์ด เตรียมประกาศความร่วมมือในการพัฒนาเกียร์อัตโนมัติรุ่นใหม่ ดีไซน์พิเศษเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้

ความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่ใช่ความร่วมมือครั้งแรกของ 2 ยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ เพราะย้อนหลังไปประมาณ 10 ปีที่แล้ว ทั้ง 2 บริษัทเคยร่วมมือกันในการผลิตเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยการแชร์ดีไซน์และการผลิตกัน ทำให้ ฟอร์ด ได้เกียร์รุ่น 6F และ จีเอ็ม ได้เกียร์ 6T70 ใช้ชิ้นส่วนกลไกร่วมกัน แต่แยกกันทำในส่วนของชุดอิเล็กทรอนิกส์ควบคุมเกียร์

การร่วมมือกันของทั้ง 2 บริษัท จะช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่งบริษัทรถยนต์ส่วนใหญ่จะลดความเสี่ยงด้วยการจ้างบริษัทอื่นทำเกียร์ อย่างเช่น ZF และจ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้ไป ส่งผลให้ต้นทุนในการผลิตรถยนต์สูงขึ้น ส่วนเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ จะช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานอยู่ในช่วงรอบที่มีการใช้เชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอยู่เสมอ จึงลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง และลดคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ในไอเสีย

หมายเหตุ: ภาพประกอบ เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ รหัส 8HP45 ของ ZF

//image.free.in.th/z/ia/8speedzf8hpautomatictransmission01.jpg (//pic.free.in.th/id/f679fa6edf0c9f2344eb52182d39b820)

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

12-10-2012, 08:45

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 12 ตุลาคม 2555

Toyota ชี้แจงกรณีเรียก Camry, Altis, Vios และ Yaris ที่ผลิตในประเทศไทยกลับมาตรวจสอบ

//image.free.in.th/z/iy/467500926.jpg (//pic.free.in.th/id/536f63f5a659ccfa261ab40b4c81339a)

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ชี้แจงถึงกรณีการเรียกรถยนต์ Toyota Camry, Toyota Altis, Toyota Vios และ Toyota Yaris ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อนำกลับมาตรวจสอบสวิตซ์หลักที่ควบคุมกระจกไฟฟ้าด้านคนขับในรถรุ่นดังกล่าว เพื่อแสดงถึงความเอาใจใส่ และความรับผิดชอบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า "จากกรณีการเรียกรถดังกล่าวกลับมาทำการตรวจสอบและแก้ไขนั้น เกิดจากการที่เราได้รับแจ้งจากลูกค้าบางรายว่า สวิตซ์หลักที่ควบคุมกระจกไฟฟ้าด้านคนขับในรถยนต์รุ่นดังกล่าว บางครั้งเกิดความรู้สึกติดขัดในระหว่างการใช้งาน บริษัทฯ จึงได้ทำการตรวจสอบรถยนต์ และพบว่ามีอาการฝืดตัวของสวิตซ์หลักที่ควบคุมกระจกไฟฟ้าด้านคนขับในบางครั้งตามที่ลูกค้าแจ้ง ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่สารหล่อลื่นพิเศษ ที่อยู่ภายในสวิตซ์หลักที่ควบคุมกระจกไฟฟ้าของรถยนต์คันที่พบอาการฝืดตัวนั้น มีปริมาณน้อยเกินไป"

baจากการตรวจสอบครั้งนี้ พบว่า โตโยต้า ที่ผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย และเข้าข่ายต้องเข้ารับการตรวจสอบปัญหาดังกล่าวนั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 160,907 คัน ได้แก่

1 Toyota Camry 2.0L 830 คัน ที่ผลิตตั้งแต่ มีนาคม 2549 - ธันวาคม 2551

2 Toyota Corolla Altis 33,048 คัน ที่ผลิตตั้งแต่ กันยายน 2550 - ธันวาคม 2551

3 Toyota Vios 87,753 คัน ที่ผลิตตั้งแต่ ตุลาคม 2549 - ธันวาคม 2551

4 Toyota Yaris 39,276 คัน ที่ผลิตตั้งแต่ กุมภาพันธ์ 2549 - ธันวาคม 2551

"สำหรับกรณีนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในด้านคุณภาพของรถยนต์โตโยต้า บริษัทฯ จะดำเนินการออกจดหมายเรียนเชิญไปยังลูกค้า เพื่อให้นำรถกลับเข้ามาตรวจสอบและแก้ไข โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป ซึ่งการเรียกรถกลับเพื่อมาตรวจสอบในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อคุณภาพผลิตภัณฑ์ อันเป็นมาตรฐานของบริษัทโตโยต้าในการเอาใจใส่ และรับผิดชอบต่อลูกค้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจในการใช้รถยนต์" นายวิเชียร กล่าวในที่สุด

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-10-2012, 08:55

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/if/hondadaylivenightracepress04.jpg (//pic.free.in.th/id/ed02dac303c1715e13d64b96c00ad181)

Honda Day Live Night Race: Bossa Ska Racing เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน ณ ริมทะเลสาบเมืองทองธานี 17 พฤศจิกายนนี้

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับ บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และ บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด ประกาศจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่ ที่รวมเอาความตื่นเต้นในการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ สนามกลางคืน และมหกรรมคอนเสิร์ตเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้ชื่องาน Honda Day Live Night Race: Bossa Ska Racing ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน ณ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี

กิจกรรมดังกล่าวเป็นการรวมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่ ฮอนด้า เคยจัด ภายใต้ชื่อ Honda Racing Fest' ที่ได้รับความสนใจจากนักแข่ง และผู้ชมมากมาย ผสานกับกิจกรรมดนตรี ทั้ง Honda Winter Fest' ต้นแบบเทศกาลดนตรีฤดูหนาวท่ามกลางขุนเขา และงาน Honda Summer Fest' เทศกาลดนตรีฤดูร้อนริมชายหาด ที่มีผู้เข้าร่วมงานมากเป็นประวัติการณ์กว่า 3 แสนคนเข้าไว้ด้วยกัน รวมเป็นจังหวะของความสนุกเร้าใจแนวใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน

ฮอนด้า สานต่อกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยการเนรมิตดินแดนแห่งความตื่นเต้นสนุกสนาน ผสานความเร็วเร้าใจในสนามกับการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบ ด้วยจำนวนรถแข่งกว่า 70 คันบนสนามกลางคืน หรือ Night Race ที่ได้มาตรฐานเต็มรูปแบบ บวกกับมหกรรมคอนเสิร์ตจากนักร้อง นักดนตรี อาทิ ปาล์มมี่, ทีโบน, ก้านคอคลับ, เจ เจตริน, ลุลา, Mocca Garden, Teddyska Band และอื่นๆ อีกมากมายตลอด 1 วันเต็ม นับเป็นครั้งแรกที่เสียงเชียร์ในสนามแข่งรถ จะดังกึกก้องหลอมรวมกับจังหวะสนุกทุกบีทในเวทีคอนเสิร์ต

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "ฮอนด้าต้องการมอบความสนุกรูปแบบใหม่ ที่ผสานสุดยอดความท้าทายที่ทุกสายตาจับจ้อง การเป็นเจ้าแห่งความเร็วในสนามแข่งรถ และสุดยอดเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ทั้ง 2 งาน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานมากมาย เพื่อหลอมรวมเป็นความยิ่งใหญ่ในสไตล์ที่แตกต่าง ภายใต้ชื่อ Honda Day Live Night Race: Bossa Ska Racing ซึ่งฮอนด้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมนี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ กีฬามอเตอร์สปอร์ต และผู้ที่ติดตามเทศกาลดนตรีของฮอนด้ามาโดยตลอด ขอเชิญชวนทุกคนมาร่วมสนุก ด้วยกันให้เต็มที่ในงานนี้ครับ"

ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้ข้อมูลด้านการจัดแข่งขันในรูปแบบไนท์เรซในครั้งนี้ว่า "การแข่งขันรถยนต์ทางเรียบในครั้งนี้ ยังคงแบ่งเป็น 3 รุ่น ได้แก่รุ่น Production Car, Pro Cup 1500 - 1600 และ Pro Cup 2000 ซึ่งนับเป็นการแข่งขันในสนามกลางคืนเป็นครั้งแรก ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยเต็มรูปแบบ จึงน่าสนุก น่าตื่นเต้น และน่าติดตามกว่าทุกๆ ครั้ง ที่ผ่านมา"

นายวินิจ เลิศรัตนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรชแอร์ เฟสติวัล จำกัด กล่าวเกี่ยวกับการจัดคอนเสิร์ตว่า "Honda Day Live Night Race: Bossa Ska Racing ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนนี้ เป็นงานที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีศิลปินนักร้องมากมายที่จะมามอบความสนุกที่สุด และความประทับใจที่สุด ท่ามกลางแสง สี เสียง เต็มรูปแบบ บรรยากาศสนุกสนาน และสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เข้าชมทุกท่าน ในรูปแบบที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน งานนี้ไม่ควรพลาดครับ"

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น

• Honda Hot Laps ร่วมนั่งรถแข่งจริงในสนามการแข่งขันจริง โดยมีนักแข่งเป็นผู้ขับ สร้างความเร้าใจเหมือนการแข่งขันจริง • Honda Pit Tour สัมผัสชีวิตจริงในการทำงานของทีมแข่งชั้นนำ และกระทบไหล่นักแข่งตัวจริง พร้อมรับของที่ระลึกจากทีมแข่ง • Honda Performance Show ชมการขับขี่แบบผาดโผน โดยนักแข่งมืออาชีพ ที่ฝึกฝนมาอย่างชำนาญ • Honda Car Club Village การรวมตัวของผู้ที่ชื่นชอบรถยนต์ฮอนด้ามากที่สุดในประเทศไทยกว่า 400 คัน

ท่านใดที่สนใจสามารถไปร่วมงานได้นะครับในวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 11.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณริมทะเลสาบเมืองทองธานี เข้าชมงานฟรี!

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

25-10-2012, 08:51

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 25 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/ix/toyotasalesreport02.jpg (//pic.free.in.th/id/6bd5196312d0fab2065a88a7e39b7614)

Toyota รายงานตลาดรถยนต์เดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 52.7% 9 เดือนขาย 1,000,577 คัน

นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์เดือนกันยายน 2555 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 132,874 คัน เพิ่มขึ้น 52.7% ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 68,282 คัน เพิ่มขึ้น 67.8% รถเพื่อการพาณิชย์ 64,592 คัน เพิ่มขึ้น 39.4% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 56,282 คัน เพิ่มขึ้น 40.4%

ตลาดรถยนต์เดือนกันยายน มีปริมาณการขาย 132,874 คัน มีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้น 52.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 68,282 คัน มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 67.8% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีปริมาณการขาย 64,592 คัน เพิ่มขึ้น 39.4% เป็นผลจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดที่สูงขึ้นจากนโยบายภาครัฐ

ตลาดรถยนต์สะสม 9 เดือน มีปริมาณการขาย 1,000,577 คัน เพิ่มขึ้น 71.3% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นครั้งแรกที่ตลาดรถยนต์ในประเทศมียอดขายมากกว่า 1 ล้านคัน ตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 72.7% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 70.3% เป็นผลจากความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่มีอยู่สูง ประกอบกับกำลังการผลิตที่มากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดรถยนต์

ตลาดรถยนต์ในเดือนตุลาคม ยังคงเติบโตต่อเนื่อง เป็นผลจากยอดค้างจองสะสม และความต้องการของตลาดที่เติบโตต่อเนื่อง ในขณะที่ค่ายรถยนต์ทุกค่ายได้เพิ่มกำลังการผลิต ส่งผลทำให้สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับการเร่งใช้สิทธิจากนโยบายรถยนต์คันแรก

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

26-10-2012, 09:11

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 26 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/in/2013fordfiestafacelift02.jpg (//pic.free.in.th/id/2faf6887b3238ddc4481abdda8af1065)

Update: 2013 Ford Fiesta โชว์ตัวรุ่นปรับโฉมตัวถังซีดานที่บราซิล

2012 Sao Paulo Motor Show กลายเป็นงานเด่นที่รวบรวมของใหม่ทั้งแบบโมเดล และไมเนอร์เชนจ์ ฟอร์ด ก็เปิดตัวรถใหม่กับเขาเหมือนกัน โดยเอารุ่นปรับโฉมของ Fiesta เวอร์ชั่นซีดานมาสัมผัสแสงไฟในงานนี้

การปรับโฉมหลักๆ เหมือนรุ่น 5 ประตูแฮทช์แบค คือกระจังหน้าใหม่ ฝากระโปรงหน้าทรง powerdome ที่ทำให้มุมมองด้านหน้าดูทรงพลังขึ้น แนวไฟท้ายปรับเปลี่ยนให้ทรงให้กินพื้นที่เข้าไปในฝากระโปรงหลังมากขึ้น ดูเฉี่ยวและลงตัวกว่ารุ่นปัจจุบันมาก ภายในแม้จะยังไม่มีภาพออกมาให้เห็น แต่ก็คงไม่แตกต่างจากรุ่นแฮทช์แบค

รายละเอียดอื่นๆ ฟอร์ด ยังไม่ปล่อยออกมาในเวลานี้ ทว่าสิ่งที่ต้องมีเพิ่มเติมเข้ามาแน่ๆ คือ ระบบ Active City Stop และเครื่องยนต์ 3 สูบ EcoBoost 1.0 ลิตร โดยในบราซิล ฟอร์ด จะเอาใจแฟนๆ ด้วยการจำหน่าย Fiesta ซีดาน พร้อมเครื่องยนต์ flex fuel ความจุ 1.6 ลิตร

//image.free.in.th/z/is/2013fordfiestafacelifteuro01.jpg (//pic.free.in.th/id/7c1d9b566ff6e42be205ce71659ae9b0)

2013 Ford Fiesta เวอร์ชั่นยุโรปทั้ง 3 และ 5 ประตู ปรับโฉม เพิ่มเทคโนโลยี

ฟอร์ด ปรับโฉมให้ซับคอมแพคท์รุ่นเด่นเจนเนอเรชั่นที่ 6 ของค่าย ทั้งตัวถัง 3 และ 5 ประตู ด้วยกระจังหน้าใหม่ลายขวาง มองดูคล้ายสไตล์ของ Aston Martin ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับที่ใช้ใน Ford Fusion/Modeo รุ่นใหม่ หรือ Ford Focus Electric โดยการเปิดตัวอย่างเป็นทางการจะมีขึ้นในงาน 2012 Paris Motor Show ปลายเดือนกันยายนนี้ หลังจากนั้นจะตีตราจำหน่ายเป็นรุ่นปี 2013

นอกจากกระจังหน้าใหม่แล้ว Fiesta 2013 ยังได้รับการปรับเปลี่ยนฝากระโปรงหน้าใหม่ ติดตั้งไฟ LED day time ใหม่ โดยรวมเข้าไปอยู่ในชุดโคมไฟหน้า ส่วนไฟท้ายก็ได้รับการเปลี่ยนลวดลายเพื่อให้ได้ความรู้สึกสดใหม่รอบคันด้วย

ในส่วนเทคโนโลยีเพิ่มเติม Fiesta 2013 จะติดตั้งแพคเกจระบบ Ford SYNC, ระบบช่วยหยุดรถที่ความเร็วต่ำ Active City Stop และระบบรักษาความปลอดภัย My-Key ที่อนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถตั้งค่าจำกัดความเร็วสูงสุดของรถไว้ที่ 128 กม./ชม. จำกัดระดับความดังของวิทยุ และเปิดระบบเสียงเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยใน 5 นาทีแรกหลังจากสตาร์ท โดยทุกๆ 1 นาที จะหยุดเสียงเพลง หรือวิทยุอัตโนมัติ และมีเสียงเตือน 6 วินาที

แน่นอนว่าไฮไลท์สำคัญที่หลายคนรอคอยอยู่ที่การติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ EcoBoost 1.0 ลิตร อันทรงประสิทธิภาพ ที่คว้า 2 รางวัลใหญ่ International Engine of the Year 2012 และ Best New Engine มาครองได้ โดยล้มแชมป์อย่าง TwinAir ของ เฟียต ไปแบบไร้ข้อกังขา

อย่างไรก็ตาม สเปคข้างต้นนี้เป็นของ Fiesta เวอร์ชั่นยุโรปเท่านั้น ส่วนตลาดในภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งประเทศไทย ต้องติดตามกันต่อไปว่าจะมีอะไรแตกต่างออกไปบ้าง

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas บอกได้คำเดียว "ห่วย"

Aeroklas

29-10-2012, 08:55

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 29 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/ij/bmw1seriesmcoupeatttec.jpg (//pic.free.in.th/id/0233cd3171bc6f3627506686474f9a20)

BMW 1-Series M Coupe ปรับแต่งเพิ่ม เติมสไตล์ โดย ATT-TEC!!!

ATT-TEC จากเยอรมนีโชว์ฝีมือการโมดิฟายด์ BMW 1-Series M Coupe แบบเรียบหรูดูดีมีสไตล์ ซึ่งน่าจะถูกคอนักเลงรถชาวไทย ภายนอกโดดเด่นสะดุดตาด้วยล้ออัลลอย ADV1 5.0 TF ขนาดใหญ่ถึง 20 นิ้วหุ้มด้วยยางเกรดสูง Michelin Pilot Super Sport ทำงานคู่กับชุดช่วงล่าง KW Dynamic Damping Control ที่โหลดตัวรถให้เตี้ยลงเล็กน้อยให้พอดีกับขอบล้อ โดยสามารถเลือกโหมดขับขี่ได้สามแบบคือ Comfort, Sport และ Sport+

ในอนาคต ATT-TEC มีแผนการติดตั้งชุดแอโรพาร์ทคาร์บอนไฟเบอร์เพิ่มเติม ทั้งสปอยเลอร์หน้า ดิฟฟิวเซอร์และสปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหน้าตาเรียบๆเช่นนี้ก็ดูหล่อเหลาไปอีกแบบ

สำหรับขุมพลังขับเคลื่อน ATT-TEC ปรับเซ็ทกล่อง ECU ใหม่ รีดพละกำลังอยู่ที่ 395 แรงม้า หากลูกค้าต้องการเรี่ยวแรงมากกว่านี้ก็สามารถเลือกติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์ขนาดใหญ่ขึ้นซึ่งจะทำให้แรงม้าเพิ่มขึ้นเป็น 454 ตัว ขณะเดียวกัน ยังสามารถติดท่อไอเสีย Akrapovic และเซ็ทกล่องปลดล็อกท็อปสปีด V-Max ทำให้ความเร็วสูงสุดไหลได้มากกว่า 250 กม./ชม.ได้อีกด้วย

Credit By: www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

30-10-2012, 08:53

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 30 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/id/fordrangerdoublecab32wildtrak01.jpg (//pic.free.in.th/id/f90c31d9139d9c855186cb195dcae204)

Ford Ranger Double Cab 3.2 Wildtrak ปิกอัพพันธุ์ดุ ราคาทะลุล้าน

หลังมีโอกาสได้ทดลองขับรุ่น Double Cab 2.2 Hi-rider Wildtrak ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย ก็ได้สัมผัสรุ่นสูงสุดของปิกอัพ เรนเจอร์ กับรุ่นย่อย Double Cab 3.2 Wildtrak ขับเคลื่อน 4 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ราคา 1.099 ล้านบาท คุ้มหรือไม่ที่จะจ่ายเงินเพิ่ม เครื่องยนต์ 5 สูบ 200 แรงม้าจะกินน้ำมันดุหรือไม่ อัตราเร่งเป็นอย่างไร คอลัมน์นี้มีคำตอบครับ

//image.free.in.th/z/il/fordrangerdoublecab32wildtrak03.jpg (//pic.free.in.th/id/5e614e2a0e5bc524a7b656b7f044648b)

รูปลักษณ์ยังไงก็ Wildtrak ในรุ่นตกแต่งพิเศษ Wildtrak ของเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,200 ซีซี และ 5 สูบ 3,200 ซีซี มีความแตกต่างกันเพียงไม่กี่จุด เช่น แถบพลาสติกบริเวณบานพับประตู ที่ระบุรุ่น 3.2, ขยับขนาดล้อแม็กเป็น 18 นิ้ว พร้อมยาง 265/60 R18 และกล้องมองหลังติดตั้งที่โลโก้ ฟอร์ด บนฝากระบะท้าย มิติตัวถังมีความยาว 5,359 มิลลิเมตร กว้าง 1,850 มิลลิเมตร สูง 1,815 มิลลิเมตร ฐานล้อ 3,220 มิลลิเมตร

เช่นเดียวกับรูปลักษณ์ภายนอก ห้องโดยสารของรถรุ่นนี้ได้รับการตกแต่งในสไตล์ Wildtrak เหมือนรุ่น 2.2 ความแตกต่างหลักๆ อยู่ที่สวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศของรุ่น 3.2 ที่เป็นแบบดิจิตอล ด้านข้างของคอนโซลกลางเพิ่มสวิตช์เปิด-ปิดระบบช่วยการทรงตัว, ระบบบล็อกเฟืองท้าย Real Locking Differential และระบบช่วยขับลงเนิน ข้างคอนโซลเกียร์มีสวิตช์หมุนเลือกระบบขับเคลื่อน 2H, 4H และ 4L

เบาะผู้ขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พวงมาลัยเพาเวอร์ปรับสูง-ต่ำได้ แปลกใจตรงก้านบนคอพวงมาลัยที่กลับไปเป็นแบบยุโรป ฝั่งซ้ายควบคุมไฟเลี้ยวและไฟหน้า ฝั่งขวาควบคุมที่ปัดน้ำฝน ชอบใจเป็นพิเศษกับระบบกล้องมองหลังมุมกว้าง ถ่ายทอดภาพมาบนกระจกส่องหลัง มีเส้นกราฟิกกะระยะพร้อมเซ็นเซอร์กะระยะ แถมด้วยภาพกราฟิกบนจอที่คอนโซลกลางอีกด้วย ได้ประโยชน์มากกับรถคันสูงใหญ่ที่มีจุดบอดด้านหลังค่อนข้างมาก

//image.free.in.th/z/ik/fordrangerdoublecab32wildtrak04.jpg (//pic.free.in.th/id/06b7afc967e785aafee090e4af7bc716)

เครื่องยนต์เร่งทันใจ กินไม่ดุ (มาก) รุ่นท๊อปของเครื่องยนต์ 2,200 ซีซี Double Cab 2.2L 4x4 Wildtrak ราคา 999,000 บาท ได้ส่วนลดภาษีรถคันแรก 95,000 บาท เหลือ 904,000 บาท ส่วนรุ่นที่ทดลองขับครั้งนี้ ราคา 1,099,000 บาท แพงกว่า 195,000 บาท แม้จะเป็นจำนวนเงินไม่น้อย แต่ก็นับว่าคุ้มเมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์ที่ได้เพิ่มประมาณ 13 รายการ สิ่งที่เป็นตัวแปรลำดับต่อไปในการตัดสินใจซื้อ นอกจากค่าภาษีประจำปีของรุ่น 3.2 ที่แพงกว่าแล้วก็คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่หลายคนหวั่นใจกับตัวเลข 5 สูบ 3,200 ซีซี และ 200 แรงม้า

เริ่มทดสอบอัตราสิ้นเปลืองตั้งแต่รับรถช่วงบ่ายของวันเสาร์ โดยอ้างอิงตัวเลขจากชุดมาตรวัดเป็นหลัก เซต 0 ออกจากจุดรับรถที่สุขุมวิท 22 ขับไปทางพระราม 4 เพื่อขึ้นทางด่วนท่าเรือ มาลงที่ด่านถนนงามวงศ์วานต่อเนื่องถนนรัตนาธิเบศร์ สภาพการจราจรปานกลาง ไม่โล่งมากแต่ก็ไม่ติดหนึบ ระยะทาง 28.7 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ย 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง 11.11 กิโลเมตรต่อลิตร

วันรุ่งขึ้นขับไปถ่ายรูปต่างจังหวัด ออกจากบ้านขึ้นทางด่วนเพื่อเลี่ยงรถติด การจราจรตลอดเส้นทางค่อนข้างโล่ง ใช้ความเร็วระหว่าง 100-120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีเร่งไปถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็นบางครั้ง ระยะทางเพิ่มขึ้นเป็น 168.4 กิโลเมตร ความเร็วเฉลี่ยเพิ่มเป็น 54 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองลดลงเหลือ 10.4 กิโลเมตรต่อลิตร

ระหว่างถ่ายรูปมีการสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อขยับรถบ่อยครั้ง และคิดว่าต้องนำรถไปทดสอบอัตราสิ้นเปลืองอย่างจริงจังอยู่แล้ว เมื่อถ่ายรูปเสร็จจึงไม่ได้สนใจอัตราสิ้นเปลืองนัก จำได้คร่าวๆ ว่าเห็นตัวเลข 10.4 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 9.6 กิโลเมตรต่อลิตร ขับออกจากจุดถ่ายรูปช่วงพลบค่ำ ขับตามสภาพการจราจรด้วยความเร็ว 70-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ย้อนเส้นทางเดิมและขึ้นทางด่วนกลับบ้าน ได้อัตราสิ้นเปลืองที่ทำให้แปลกใจ 7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 14.28 กิโลเมตรต่อลิตร ที่ได้ตัวเลขค่อนข้างดีเพราะใช้ความเร็วไม่สูง และไม่เปลี่ยนความเร็วบ่อยๆ

ช่วงดึกออกไปทดสอบอัตราสิ้นเปลืองอย่างเป็นทางการ โดยเซต 0 ใหม่ ขับขึ้นทางด่วนและเมื่อทางโล่งก็เร่งความเร็วไปถึง 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นอู้งานด้วยการใช้ครูสคอนโทรล ข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซลคือ ไม่ค่อยอ่อนไหวกับสภาพเส้นทางขึ้นเนิน ลองปล่อยให้รถไต่ขึ้นทางที่ค่อนข้างชันด้วยครูสคอนโทรล เกียร์ก็ไม่เปลี่ยนลงต่ำให้แบบรถเบนซิน จึงช่วยให้ประหยัดเพิ่มขึ้นอีกนิด

เมื่อได้ขับด้วยความเร็วคงที่ อัตราสิ้นเปลืองลดลงค่อนข้างเร็วในช่วงแรก และเริ่มนิ่งเมื่อผ่าน 8.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ก่อนหมดระยะทางที่ใช้ในการทดสอบ ได้อัตราสิ้นเปลือง 8.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือประมาณ 12.19 กิโลเมตรต่อลิตร ถ้าเป็นการขับใช้งานทั่วไป ใช้ความเร็วตามกฎหมายและไม่บรรทุกหนักมาก เฉลี่ยนอกเมืองคาดหวังได้ 10-11 กิโลเมตรต่อลิตร

//image.free.in.th/z/ih/fordrangerdoublecab32wildtrak05.jpg (//pic.free.in.th/id/064b1ae6ebf49c806cab6cb2b4f7399e)

ความเร็วบนมาตรวัด 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนเครื่องวัดอัตราเร่งแสดง 97 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วสูงสุดบนมาตรวัดประมาณ 181-182 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่รอบเครื่องยนต์ 3,100-3,200 รอบต่อนาที ไม่แน่ใจว่าถูกจำกัดความเร็วไว้เพื่อความปลอดภัยหรือไม่ เพราะดูจากกำลังของเครื่องยนต์แล้วน่าจะไปต่อได้อีกพอสมควร

สังเกตว่าอัตราเร่งของรุ่น 3.2 จะค่อนข้างต่อเนื่องแม้ในความเร็วปลายๆ เปรียบเทียบกับรุ่น 2.2 ที่เมื่อถึงความเร็วสูงๆ ต้องใช้ทั้งเวลาและระยะทางมากในการไต่ความเร็ว

//image.free.in.th/z/im/fordrangerdoublecab32wildtrak06.jpg (//pic.free.in.th/id/0ca6df19b29bb71fc03a1d21a1a6bc5d)

เกียร์โหมด D และ Ds เมื่อเหยียบคันเร่งสุดจะเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงที่ประมาณ 3,700-3,800 รอบต่อนาที ต่างกันที่ถ้าเหยียบคันเร่งไม่สุด หรือเหยียบแล้วยก เกียร์ Ds จะยังไม่เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงให้ เมื่อดึงคันเกียร์มาทางขวาเพื่อใช้โหมด +/- จะไม่สามารถคิ๊กดาวน์ได้ เมื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูงแล้วลดความเร็วลงมากๆ เกียร์จะเปลี่ยนลงให้เอง และถ้าความเร็วยังไม่เหมาะสม ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงได้ โดยระบบจะเตือนด้วยตัวเลขบอกตำแหน่งเกียร์กระพริบ

ลากรอบได้สูงสุดประมาณ 4,700 - 4,800 รอบต่อนาที ระบบจะไม่ตัดรอบจึงไม่มีอาการสะดุด แต่รอบจะคาอยู่ตรงนั้น ซึ่งในการใช้งานทั่วไปไม่มีความจำเป็นต้องลากรอบสูงขนาดนั้น แค่เปลี่ยนเกียร์ที่ประมาณ 2,500 รอบต่อนาที ก็ให้อัตราเร่งที่ทันใจมากแล้ว เครื่องยนต์ทำงานนุ่มนวล แทบไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนบริเวณพวงมาลัย, หัวเกียร์, พื้นรถ และเบาะนั่ง เสียงเครื่องยนต์ค่อนข้างเงียบเมื่อเข้ามานั่งในห้องโดยสาร

ช่วงล่างไม่แตกต่าง ยังคงเป็นจุดเด่นของรถรุ่นนี้ กับช่วงล่างที่ให้ความนุ่มนวล ไม่ดีดหรือกระแทกมากนัก ให้สัมผัสที่ละเอียดเกินประเภทรถ การขับใช้งานทั่วไปจึงให้ความสบายพอตัว ขับยาวๆ ได้โดยไม่เหนื่อย และยังคงความหนักแน่นตามสไตล์รถ สามารถลุยได้อย่างมั่นคงและมั่นใจ มาพร้อมออฟชั่นเสริมอย่างระบบล็อกเฟืองท้าย ที่น่าจะถูกใจชาวออฟโรดพันธุ์แท้

ฟอร์ด เรนเจอร์ Double Cab 3.2 Wildtrak แต่งสวยดุจากโรงงาน เครื่องยนต์แรงเหลือเฟือ แต่กินไม่ดุอย่างที่คิด ช่วงล่างนุ่มหนึบหนักแน่น ออฟชั่นครบครันสมราคาเกินล้านบาท ถ้าเพิ่มความเชื่อมั่นด้านบริการหลังการขายได้อีกอย่าง น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

31-10-2012, 11:08

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 31 ตุลาคม 2555

//image.free.in.th/z/iv/selfdrivingvolvo.jpg (//pic.free.in.th/id/1e4eebb8540a56f55ffa520d99c6447c)

Volvo เตรียมใช้เทคโนโลยีไร้คนขับในรถรุ่นปี 2014 เป็นต้นไป!!!

เทคโนโลยียานยนต์ขับขี่อัตโนมัติไม่ใช่เรื่องไกลตัวหรือจำกัดเฉพาะในภาพยนตร์ฮอลล ีวูดล้ำอนาคตอีกต่อไปแล้ว เมื่อ Volvo ประกาศแผนการติดตั้งเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติแบบไร้คนขับในรถยนต์รุ่นใหม่ เริ่มตั้งแต่รุ่นปี 2014 เป็นต้นไป

เทคโนโลยีดังกล่าวมีชื่อว่า Traffic Jam Assistance ถูกพัฒนามาเพื่อใช้งานในช่วงการขับขี่ความเร็วต่ำ โดยผู้ขับไม่ต้องควบคุมตัวรถใดๆทั้งสิ้น แค่นั่งจิบกาแฟและอ่านหนังสือพิมพ์ ปล่อยให้ระบบควบคุมทั้งพวงมาลัย คันเร่งและเบรกอย่างอัตโนมัติที่ความเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. หากผู้ขับขี่ต้องการควบคุมรถด้วยตนเองก็เพียงแค่กดคันเร่งหรือเบรกเท่านั้น

“เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การขับขี่ในชีวิตประจำวันมีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องฝ่าการจราจรอันติดขัดในเมืองใหญ่ ช่วยให้เกิดความปลอดภัยและสะดวกสบายในการขับขี่ความเร็วต่ำ” Peter Mertens รองประธานอาวุโสฝ่ายวิจัยและพัฒนาของ Volvo กล่าว

Volvo ระบุด้วยว่า เทคโนโลยี Traffic Jam Assistance เป็นการปฏิวัติและผสมผสานระบบการใช้เรดาร์ เทคโนโลยีกล้องตรวจจับ ระบบ Adaptive Cruise Control และ Lane Keeping Aid เข้าไว้ด้วยกัน แม้ยักษ์ใหญ่จากสวีเดนจะไม่เปิดเผยว่าจะริเริ่มใช้เทคโนโลยีนี้ในประเทศใด แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าลูกค้าชาวอเมริกันจะได้ใช้เป็นกลุ่มแรก

Credit By: www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

01-11-2012, 08:57

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 1 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/iv/2013lexusls46005.jpg (//pic.free.in.th/id/b5438ccd2baf70e00d185caa58713593)

2013 Lexus LS เปิดตัว LS ใหม่ปรับโฉมใหญ่ พร้อมรุ่นไฮไลท์จากแผนก Lexus F

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมกับ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดตัวรถหรู เลกซัส ตระกูล LS ใหม่ รุ่นปี 2013 ที่ได้รับการปรับปรุงรายละเอียดใหม่มากกว่า 3,000 จุด โดยมี 5 ทางเลือกรุ่นคือ LS460, LS460L แบบ 4 - 5 ที่นั่ง, LS600hL พลังไฮบริด และพิเศษสุดกับรุ่น LS460 F Sport ซึ่งเป็นการเปิดตัวเวอร์ชั่น F จากแผนก Lexus F เป็นครั้งแรกในไลน์ LS Series ระดับราคาตั้งแต่ 9.85 - 13.58 ล้านบาท

LS Series พัฒนาขึ้นภายใต้ปรัชญา 'การแสวงหาความสมบูรณ์แบบ' หรือ 'The Pirsuit of Perfection' โดยตลอดทั้ง 4 เจนเนอเรชั่น LS มียอดจำหน่ายทั่วโลกแล้วกว่า 7.3 แสนคัน

//image.free.in.th/z/ix/2013lexusls46007.jpg (//pic.free.in.th/id/fab3507016bc4bb5f36fe509143c43da)

การออกแบบภายนอก

การปรับโฉมใหญ่ครั้งนี้ อยู่บนพื้นฐานของ LS เจนเนอเรชั่น 4 รหัส XF40 โดยใช้จุดเด่นของ เลกซัส ยุคใหม่เป็นหลัก คือ กระจังหน้าทรงเกลียว หรือ spindle grill ที่เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในรถต้นแบบ Lexus GS และถือเป็นดีไซน์หลักของ เลกซัส รุ่นใหม่ๆ ในอนาคต ผลงานการสร้างสรรค์ของ มร. คัทสึฮิโกะ อินาโทมิ หัวหน้าทีมออกแบบ GS ซึ่งถูกนำไปใช้ในรถต้นแบบใหม่ของ เลกซัส อย่าง Lexus LF-LC Sports Coupe Concept หรือ Lexus LF-CC Concept รุ่นล่าสุดด้วย

LS ใหม่ใช้หลอด LED ในทุกจุด รวมทั้งไฟตัดหมอกที่ถูกจัดวางในแนวตั้ง พร้อมเลนส์ PES หรือ Poly Ellipsoid System ที่มีขนาดเล็กที่สุด ณ ปัจจุบัน เส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 30 มม. เท่านั้น ส่วนไฟ daytime running lights ออกแบบเป็นรูปรูปทรงตัว L ด้านในทำมุมเป็นแนวเดียวกับกระจังหน้าส่วนบน ขับเน้นเอกลักษณ์ของ spindle grill ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

รุ่น F Sport มากับรูปลักษณ์ที่ดุดันกว่าด้วยกระจังหน้าลายตาข่าย (น่าเสียดายที่วันนี้ตัวจริงไม่มา) ภายในตกแต่งด้วยเบาะสปอร์ต พวงมาลัยหุ้มหนังพร้อมแพดเดิลชิฟท์ ช่วงล่างปรับระดับด้วยถุงลม หรือ Air Suspension ลดความสูงลงได้ 0.4 นิ้ว มีลิมิเต็ดสลิปแบบ Torsen ให้ใช้งาน เพิ่มความมั่นใจในการหยุดรถด้วยชุดเบรค Brembo คาลิเปอร์หน้า 6 สูบ ล้อขนาด 19 นิ้ว ขึ้นรูปแบบฟอร์จ

ภายใน

ยังคงเน้นที่ความสะดวกสบาย และความเงียบในห้องโดยสาร ติดตั้งระบบปรับอุณหภูมิอัตโนมัติ Multi-Zone ที่ เลกซัส เรียกว่า Lexus Climate Concierge ใช้เซนเซอร์มากกว่า 13 ตัววัดอุณหภูมิในห้องโดยสาร พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิของเบาะและพวงมาลัยอัตโนมัติ เพิ่มคุณภาพอากาศด้วย Nano-e ปล่อยประจุลบของน้ำเพื่อดักจับและทำลายแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับ และเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ

เพิ่มความหรูด้วยระบบ Advanced Illumination มีไฟ LED สี Champagne White บริเวณคอนโซลหน้าเรืองแสงต้อนรับเมื่อเข้าใกล้ตัวรถ การให้ข้อมูลแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ Display Zone ผ่านจอ LCD ขนาด 12.3 นิ้ว และโซนควบคุม หรือ Operation Zone ทำงานผ่านปุ่มควบคุมที่ออกแบบในลักษณะเดียวกับเมาส์ หรือ RTI - Remote Touch Interface เจนเนอเรชั่น 2 แผงหน้าปัดติดตั้งจอเรืองแสง Optitron พร้อมจอแสดงผลแบบ TFT ขนาด 5.8 นิ้ว

ชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์จาก Mark Levinson พร้อมระบบ Rear Seat Entertainment System ให้ความบันเทิงเต็มรูปแบบด้วยเครื่องเล่น Blu-ray โดยงานออกแบบทั้งหมดเน้นความสะดวกสบายในการใช้งานที่สุด ภายใต้แนวคิด Human-Centered Engineering

//image.free.in.th/z/it/2013lexusls46008.jpg (//pic.free.in.th/id/5565a2f8959c000888c36641a33febc5)

เต็มประสิทธิภาพด้วย V8 4.6 และ 5.0 ลิตร

LS ทุกรุ่นย่อย ทำตลาดด้วยเครื่องยนต์ V8 รหัส 1UR-FSE ความจุ 4.6 ลิตร พร้อมระบบวาล์วแปรผัน Dual VVT-iE กำลังสูงสุด 380 แรงม้า hp ที่ 6,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 50.2 กก.-ม. ที่ 4,100 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. รุ่นพื้นฐานและรุ่น F Sport เท่ากัน 5.7 วินาที ส่วน LS460L ทั้งแบบ 4 และ 5 ที่นั่ง รวมทั้งรุ่นไฮบริด 6.3 วินาที ความเร็วสูงสุดเท่ากันทุกรุ่น 250 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 9 กม./ลิตร ส่วนรุ่นไฮบริด 10.8 กม./ลิตร

รุ่นไฮบริด หรือ LS600hL จัดกำลังมาให้เยอะกว่าด้วยเครื่อง V8 รหัส 2UR-FSE ความจุ 5.0 ลิตร 394 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้า 224 กิโลวัตต์ ทั้งระบบผลิตกำลังได้ 445 แรงม้า hp ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT แบตเตอรี่ยังเป็นชุดเดิม คือ Ni-MH หรือนิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์ อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 219 กรัม/กม. (รุ่นพื้นฐาน 261 กรัม/กม.) ทุกรุ่นผ่านมาตรฐาน Euro 5

ระบบความปลอดภัย และตัวช่วยอำนวยความสะดวก

LS460 ใหม่มากับระบบควบคุมการขับขี่อัจฉริยะ หรือ VDIM - Vehicle Dynamics Integrated Management รวบรวมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันเป็นองค์เดียว เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วย ระบบกันสะเทือนแบบแปรผัน Adaptive Variable Suspension และ พวงมาลัยไฟฟ้า พร้อมอัตราทดเฟืองพวงมาลัยแปรผัน Variable Gear Ratio Steering รวมทั้งจัดการการทำงานของระบบเบรคด้วย

นอกจากนี้ยังมีระบบ Pre-Crash Safety ใช้เซนเซอร์ตรวจสอบความเปิดไปได้ในกรณีที่การเกิดการชน ระบบจะทำการส่งสัญญาณเตือนมายังหน้าจอ พร้อมสั่งการเข็มขัดนิรภัยให้รั้งผู้ขับและผู้โดยสารแนบเบาะโดยอัตโนมัติ ป้องกันการกระแทกอย่างรุนแรงจากพวงมาลัย คอนโซล หรือถุงลม ทั้งยังมีระบบ Active Headrests ช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บของกระดูกต้นคอในกรณีที่เกิดการชนทางด้านท้ายอีกด้วย

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

05-11-2012, 09:32

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 5 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ip/fordrangertorquetransformer01.jpg (//pic.free.in.th/id/5d7badad04c2a7001d3fc33f319224c0)

Ford Ranger แปลงร่างเป็น Torque ในเกม Transformer

หลังจาก ฟอร์ด ออสเตรเลีย นำรถรุ่น Falcon XR6 มาแปลงร่างเป็น Falcatron ในวีดิโอเกม Transfor mer: Fall of Cybertron มาแล้ว และประสบความสำเร็จพอสมควร พร้อมกับเปิดให้แฟนเพจเฟสบุ๊คโหวดว่า อยากเห็นรถรุ่นไหนแปลงร่างอีก ล่าสุดผลโหวดออกมาเป็นรถที่ฝรั่งเรียกว่า Compact Pickup Truck รุ่น Ranger Wildtrak ซึ่งไม่มีจำหน่ายในอเมริกาเหนือ ถูกแปลงร่างเป็นหุ่นยนต์ชื่อ Torque เพื่อเป็นตัวละครในเกมเดียวกับ Falcatron ออกแบบโดยสตูดิโอแห่งเดิม High Moon Studios นั่นเอง

Transformers: Fall of Cybertron เป็นเกมเดินหน้าลุยแบบมุมมองบุคคลที่ 3 เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จัดจำหน่ายโดยค่ายชื่อดังที่คอเกมคุ้นกันดีอย่าง Activision เล่นได้ทั้งเวอร์ชั่น PC, PlayStation 3 และ Xbox 360

ตัวเกมไม่ต่อเนื่องกับแฟรนไชส์ Transformers ฉบับภาพยนตร์ แต่เดินเส้นเรื่องตามฉบับคอมมิค ซึ่งเป็นเหตุการณ์ในช่วงสงครามของบรรดา Autobots และ Decepticon บนดาว Cybertron นั่นเอง โดยตัวเกมภาคนี้เป็นภาคต่อของ Transformers: War For Cybertron ในปี 2010 จากนั้นจึงจะเป็นเหตุการณ์ในฉบับภาพยนตร์ที่ดาว Cybertron ล่มสลาย จนเหล่าหุ่นทั้งหลายต้องลงมาบนโลกมนุษย์

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-11-2012, 08:42

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 6 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/if/2013nissangtr01.jpg (//pic.free.in.th/id/15288039538ebc9c3dc42f3322c4c1b6)

2013 Nissan GT-R เติมสมรรถนะเพิ่มความสปอร์ต

นิสสัน มอเตอร์ เปิดตัว GT-R รุ่นปี 2013 พร้อมทำตลาดในญี่ปุ่น 19 พฤศจิกายนนี้ ปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะเครื่อ งยนต์ เพิ่มความสนุกในการขับ และมีแฮนด์ลิ่งที่ดีกว่าเดิมด้วยการเพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างตัวถังบริเวณแผงคอนโซลและแผงหน้าปัด เปลี่ยนช๊อคแอ็บซอร์เบอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เปลี่ยนสปริงและเหล็กกันโคลงหน้า ลดความสูงตัวถังลงเล็กน้อยเพื่อลดจุดศูนย์ถ่วงและลดอาการโคลง ช่วยเพิ่มความสนุกในการขับ เพิ่มความมั่นคงเมื่อใช้ความเร็วสูง ให้คุณภาพการขับที่ดีขึ้น

ระบบกันสะเทือนหน้าเพิ่มนอตลูกเบี้ยว เพื่อให้สามารถปรับมุมแคมเบอร์ได้ละเอียดยิ่งขึ้น ดุมล้อได้รับการปรับปรุงให้มีการทำงานที่เชื่อถือได้มากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อต้องรับแรงบิดสูงๆ จากเพลาขับขณะขับในสนามแข่ง

เครื่องยนต์ วี6 3,800 ซีซี ทวินเทอร์โบ 550 แรงม้า ได้รับการปรับปรุงให้มีการตอบสนองที่ดีทั้งในรอบกลางและรอบสูง เพิ่มอัตราเร่งช่วงความเร็วปลายให้ดีขึ้นด้วยการเปลี่ยนหัวฉีดใหญ่ขึ้น พร้อมชุดควบคุมที่มีความแม่นยำ เพิ่มวาล์วลดแรงดันที่ชุดบายพาสของตัวเทอร์โบ ช่วยลดแรงดันที่จะไปรบกวนการทำงานของหัวฉีด ส่งผลให้อัตราเร่งในช่วงรอบสูงๆ มีความสม่ำเสมอยิ่งขึ้น รวมทั้งเพิ่มอุปกรณ์รักษาแรงดันน้ำมันเครื่องติดตั้งในอ่างน้ำมันเครื่อง ช่วยให้แรงดันน้ำมันเครื่องคงที่แม้ขับสไตล์สปอร์ต

GT-R แบ่งเป็น 2 รุ่นหลัก คือ Black Edition พวงมาลัยตกแต่งด้วยสีดำ-แดง เบาะ เรคาโร รุ่นคาร์บอนไฟเบอร์มีให้เลือกเป็นออฟชั่น ส่วนรุ่น Premium Edition มาพร้อมการตกแต่งด้วยหนังแท้ Semiarinin เย็บด้วยมือ และการตกแต่งภายในที่สามารถเลือกสีได้

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

NN mobile

06-11-2012, 09:07

ที่โคราชใครเปนตัวแทนจำหน่ายคร้าบบบบบ มีโปรพิเศษบ้างใมคร้าบบบบ

Aeroklas

07-11-2012, 08:59

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 7 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ia/2013volkswagenamarok01.jpg (//pic.free.in.th/id/3b858d95680452b6cc0a6f78bc41b00c)

2013 Volkswagen Amarok ขยับสมรรถนะ เพิ่มเทคโนโลยี BlueMotion

โฟล์คสวาเก้น อมาร็อค รุ่นปี 2013 เปิดตัวไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พร้อมให้ออเดอร์แล้วในสหราชอาณาจักรด้วยราคาเริ่มต้น 1.168 ล้านบาท สำหรับรุ่นพื้นฐาน 2.0 TDI 122 แรงม้า (PS) 4Motion และรุ่นสูงสุด 2.0 BiTDI 180 แรงม้า (PS) ราคา 1.55 ล้านบาท 4Motion พร้อมเทคโนโลยี BlueMotion เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ โดยรถทุกรุ่นย่อยที่ทำตลาดในสหราชอาณาจักรและยุโรป จะผลิตที่โรงงานที่ฮานโนเวอร์ประเทศเยอรมนี จากเดิมที่เคยนำเข้าจากโรงงานในอาร์เจนตินา

การเปลี่ยนแปลงอื่นเช่น เพิ่มเทคโนโลยี BlueMotion ซึ่งประกอบด้วยยางลดแรงต้านการหมุน ระบบ Start/Stop และระบบชาร์จไฟเมื่อเบรก เพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงและลดมลพิษ นอกจากนี้ยังปรับปรุงเครื่องยนต์ในรุ่น 2.0 BiTDI เพิ่มกำลังสูงสุดจากเดิม 163 เป็น 180 แรงม้า (PS) ส่วนเกียร์อัตโนมัติลูกใหม่แบบ 8 จังหวะ เป็นออฟชั่นให้เลือก

เครื่องยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่ติดตั้งระบบ BlueMotion ส่งผลให้ประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น 3.9 เปอร์เซ็นต์ ด้วยอัตตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 13.16 กิโลเมตรต่อลิตร เทียบกับ เครื่องยนต์รุ่นก่อน ปรับปรุงที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 12.67 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสียก็ลดลง 10 กรัมต่อกิโลเมตร เหลือ 199 กรัมต่อกิโลเมตร

นอกจากนี้ยังเพิ่มขีดความสามารถในการลากจูงจากเดิม 2,800 กิโลกรัม เป็น 3,000 กิโลกรัมในรุ่นเกียร์ธรรมดา และ 3,200 กิโลกรัมในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเช่น เซ็นเซอร์ช่วยถอยหลัง, หัวฉีดน้ำอุ่นล้างกระจกหน้า, ไฟตัดหมอก และล้อแม็ก 19 นิ้ว

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

08-11-2012, 09:12

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 8 พฤษจิกายน 2555

Ford รุกหน้าขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ มุ่งยกระดับการให้บริการเหนือระดับแก่ลูกค้า

//image.free.in.th/z/is/fordshowroomaftersalesexpansion04.jpg (//pic.free.in.th/id/220bde328d621ddc954e757ad68562dc)

บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศแผนรุกขยายเครือข่ายโชว ์รูมและศูนย์ให้บริการทั่วประเทศ ตั้งเป้าขยายเครือข่ายให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี 2556 พร้อมเดินหน้าปรับปรุงภาพลักษณ์ของโชว์รูมของตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อสร้างความพึงพอใจในการบริการที่ได้มาตรฐานระดับโลกให้แก่ลูกค้า

คุณยุคนธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด ฝ่ายขายและบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า "เราใส่ใจและให้ความสำคัญในคุณภาพของการให้บริการ เทียบเท่ากับคุณภาพของรถยนต์ฟอร์ดทุกคัน เรามีความตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์อีกหลากหลายรุ่น ทั้งรถยนต์โดยสาร และรถกระบะสู่ตลาดประเทศไทย ฐานลูกค้าของเราขยายตัวอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังนั้นเราจึงมุ่งมั่นในการพัฒนา และขยายเครือข่ายศูนย์บริการที่ดี มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อรองรับฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้นนี้ด้วย"

นอกเหนือจากการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศได้อย่างทั่วถึง และอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าแล้ว ฟอร์ด ยังสานต่อในการพัฒนา และปรับปรุงภาพลักษณ์โชว์รูมให้ได้มาตรฐานระดับโลก ภายใต้คอนเซ็ปท์ Brand@Retail ซึ่งมีการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ๆ ให้ความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง สำหรับลูกค้าที่เข้ามารับบริการของเรา

ส่วนหนึ่งของการยกระดับมาตรฐานโชว์รูม คือการที่ ฟอร์ด จะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับตัวแทนจำหน่ายและศูนย์บริการในแต่ละที่ เพื่อพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปพร้อมกับพัฒนาคุณภาพของพนักงาน เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในโชว์รูม และศูนย์บริการ ฟอร์ด ทุกแห่งทั่วประเทศ

คุณณรงค์ สีตลายน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่ายบริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าวว่า "โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ดทุกสาขาทั่วประเทศ จะได้รับการพัฒนา ปรับปรุงภาพลักษณ์ให้อยู่ในมาตรฐาน และให้ความรู้สึกเดียวกันในแบบของ One Ford ทุกที่ภายในสิ้นปี พ.ศ. 2556"

//image.free.in.th/z/iq/fordshowroomaftersalesexpansion05.jpg (//pic.free.in.th/id/56430516d074818a5cff24ff1e2c7fd9)

ค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุดในตลาด ความสำเร็จของ ฟอร์ด ในการขยายตลาดในประเทศไทยมาจาก Ford Fiesta และ Ford Ranger ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Ford Focus ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้

ฟอร์ด แต่ละรุ่นเป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในบำรุงรักษาตามระยะที่ประหยัดที่สุด เมื่อเทียบกับรถในรุ่นเดียวกัน ซึ่งทำให้ ฟอร์ด เป็นรถที่มีความน่าสนใจสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่ของ ฟอร์ด ที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ฟอร์ด เฟียสต้า เป็นรถที่มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทุกๆ 15,000 กิโลเมตรที่ประหยัดกว่าคู่แข่งในตลาดรถขนาดเล็ก รวมถึงราคาของชิ้นส่วนอะไหล่ที่ถูกกว่าคู่แข่งในตลาดร้อยละ 20 โดยเฉลี่ย

นอกจากนี้ ค่าบำรุงรักษาตามรักษาตามระยะของรถ ฟอร์ด ในระยะ 100,000 กิโลเมตร หรือ 5 ปี ก็ประหยัดกว่าคู่แข่งโดยทั่วไปสูงถึงร้อยละ 76 สำหรับ Ford Fiesta, ร้อยละ 43 สำหรับ Ford Focus และ ร้อยละ 10 สำหรับ Ford Ranger ใหม่ (Ford Fiesta 1.6 ลิตร, Ford Focus 1.6 ลิตร และ Ford Ranger Hi-Rider 1.6 ลิตร)

"ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศเริ่มรับรู้ว่า ฟอร์ดได้สร้างมาตรฐานใหม่ในการบริการ และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา โดยที่ลูกค้าสามารถรักษารถให้อยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยมด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่า และช่วยประหยัดได้มากในระยะยาว" คุณยุคนธร กล่าวเสริม

บริการหลังการขายระดับโลก พร้อมแคมเปญใหม่อันหลากหลาย baรถของ ฟอร์ด ทุกคัน ได้รับการส่งเสริมด้วยบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม และแคมเปญใหม่ๆ มากมาย ที่เพิ่งเปิดตัวไปก็คือ Ford Mobile Service Units หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ เป็นบริการล่าสุดที่ ฟอร์ด ได้แนะนำเพื่อเพิ่มคุณภาพของโปรแกรมการดูแลลูกค้าในประเทศไทย

ฟอร์ด ได้เปิดตัวบริการ โมบาย เซอร์วิส ยูนิต ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยโปรแกรมนี้ ระกอบไปด้วย รถให้บริการเคลื่อนที่จำนวน 84 คัน ที่พร้อมให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้า ฟอร์ด ในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงการใช้เพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน หรือ Emergency Roadside Assistance แก่ลูกค้า ฟอร์ด

นอกจากนั้น ฝ่ายบริการลูกค้าของ ฟอร์ด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการบริการที่สร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็น โปรแกรมการบำรุงรักษารถยนต์ตามระยะ - Scheduled Maintenance Service หรือ SSP และ โปรแกรมขับขี่อุ่นใจ - Premium Protection Plus หรือ PPP ที่แนะนำให้ลูกค้านำรถเข้าตรวจเช็คสภาพตามมาตรฐาน และแผนการบริการของ ฟอร์ด ซึ่งจะช่วยลดค่าบำรุงรักษาตามระยะยาวได้ และมอบความอุ่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นนออฟชั่น ส่วนรุ่น Premium Edition มาพร้อมการตกแต่งด้วยหนังแท้ Semiarinin เย็บด้วยมือ และการตกแต่งภายในที่สามารถเลือกสีได้

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

09-11-2012, 09:05

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 9 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/id/fordsalesreport2012october01.jpg (//pic.free.in.th/id/fac30caf07d9216d8a4a95ba349165fa)

Ford ยอดจำหน่ายเดือนตุลาคมในประเทศไทย พุ่ง 62 เปอร์เซ็นต์

ฟอร์ด ประเทศไทย ยังคงประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างดีเยี่ยมในเดือนตุลาคม ด้วยยอดค้าปลีกรวม 4,334 คัน เพิ่มขึ้น 62 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว จากการที่ Ford Fiesta, Ford Focus และ Ford Ranger ใหม่ มียอดขายเพิ่มขึ้น โดยยอดขาย ฟอร์ด รวมตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 42,433 คัน เพิ่มขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

Ford Fiesta ยังคงได้รับความนิยมมอย่างต่อเนื่อง ด้วยยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคมที่ 2,415 คัน เพิ่มขึ้น 49 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว นับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มีการแข่งขันสูงมากในประเทศไทย และยังคงได้รับความนิยมจากผู้ขับขีที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจรถยนต์ที่ทันสมัยรุ่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เป็นผลมาจากการกระแสความนิยม Ford Fiesta รุ่นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ซึ่งอยู่ภายใต้นโยบายส่งเสริมการเป็นเจ้าของรถคันแรกของรัฐบาล นอกจากนี้ Ford Fiesta รุ่นสูงสุด เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร Ti-VCT พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติพาวเวอร์ชิฟท์ ยังเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากลูกค้า ที่ต้องการอุปกรณ์ที่หรูหราเหนือระดับ เมื่อเทียบกับรถยนตูรุ่นอื่นๆ ในตลาดรถยนต์นั่งขนาดเล็ก

"ลูกค้าในประเทศไทย ยังคงแสดงออกถึงความชื่นชอบในรถฟอร์ด เฟียสต้า ด้วยเหตุผลต่างๆ ที่ล้วนน่าสนใจ" คุณยุคลธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย กล่าว "เราได้วางแผนรับยอดจองฟอร์ด เฟียสต้า ใหม่ ที่คาดว่าจะเทเข้ามาอย่างล้นหลามไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม ซึ่งเกิดจากแรงกระตุ้นสองส่วนคือ การจัดงาน มหกรรมยานยนต์ มอเตอร์ เอ็กซ์โป ในเดือนนี้ และการที่นโยบายรถคันแรกจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายปี"

ยอดขายในเดือนตุลาคมของ ฟอร์ด ยังได้รับแรงหนุนจากยอดขายที่แข็งแกร่งของ Ford Focus ใหม่ ที่มียอดค้าปลีก 757 คัน เพิ่มขึ้นถึง 284 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขาย Focus รุ่นก่อนหน้าในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยหลังจาก เปิดตัวในประเทศไทย อย่างเป็นทางการได้เพียง 3 เดือน มียอดจองเกือบ 4,500 คัน

Ford Ranger ใหม่ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ด้วยยอดค้าปลีกในเดือนตุลาคมที่ 957 คัน เพิ่มขึ้น 28 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับยอดขาย Ranger รุ่นก่อนหน้าในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว นอกจากนี้ยอดขาย Ranger ใหม่ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงสิ้นเดือนตุลาคม ยังมีจำนวนรวมถึง 15,477 คัน หรือพุ่งขึ้นกว่า 132 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

"ยอดขายที่แข็งแกร่งของฟอร์ด เฟียสต้า, ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ และฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ ช่วยผลักดันให้เรามียอดขายตลอดทั้งปี ในระดับที่แข็งแกร่งมาอย่างต่อเนื่อง และจะยังคงเป็นรถรุ่นสำคัญที่จะช่วยให้ฟอร์ดทำสถิติยอดขายในประเทศไทย ได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งในปีนี้" คุณยุคลธร กล่าว

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

10-11-2012, 09:23

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 10 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ie/hondabrioamazenews01.jpg (//pic.free.in.th/id/2d980a0fc62b3386a5256de2b748c006)

Honda Brio Amaze ประกาศชื่อซีดาน 1.2 ลิตรใหม่ ดึงสุกฤษฏิ์ วิเศษแก้ว เป็นพรีเซนเตอร์ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมินิคอนเสิร์ต 23 พฤศจิกายนนี้

ฮอนด้า ประกาศชื่อ รถยนต์ซีดาน ขนาด 1.2 ลิตรใหม่ ในชื่อ บริโอ้ อเมซ ซึ่งจะเปิดตัวในไทยเป็นประเทศแรก พร้อมด้วยพรีเซนเตอร์สุดฮอต บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว โดยมีกำหนดเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมมินิคอนเสิร์ต เปิดสมการความสุขโดยบี้ สุกฤษฎิ์ ในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน นี้ ณ เพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "หลังจากที่ฮอนด้าประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวรถยนต์ในปีนี้ไปแล้วถึง 9 รุ่น เพื่อตอบสนองทุกความต้องการ และไลฟ์สไตล์ของลูกค้าอย่างครบครัน การเปิดตัว บริโอ้ อเมซ ในครั้งนี้ นับเป็นรถยนต์รุ่นที่ 10 ซึ่งฮอนด้าจะแนะนำออกสู่ตลาดในปีนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ากลุ่ม entry-car"

"บริโอ้ อเมซ เป็นรถยนต์ซีดานขนาดเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร ที่พัฒนาขึ้นสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ และจะเปิดตัวในประเทศไทยเป็นประเทศแรก บริโอ้ อเมซ พัฒนาด้วยแนวคิด 'สมาร์ท ไมโคร ลีมูซีน' คือการออกแบบภายนอกที่มีสไตล์โฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว คล่องตัว แต่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบาย ตามหลักการออกแบบยนตรกรรมของฮอนด้า นั่นคือ Man Maximum Machine Minimum ที่เน้นให้ความสำคัญสูงสูดต่อผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร"

"บริโอ้ อเมซ ยังให้การขับขี่อย่างสนุกในทุกอารมณ์ ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว 90 แรงม้า แต่ให้การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงที่ดีเยี่ยม รถยนต์ซีดาน 1.2 ลิตรใหม่นี้ สามารถตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย และแตกต่างได้อย่างลงตัว จึงเป็นที่มาของชื่อ บริโอ้ อเมซ"

เพื่อเป็นการสื่อสารภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์อันโดดเด่น ฮอนด้า ได้ดึงซุปเปอร์สตาร์ บี้ - สุกฤษฎิ์ วิเศษแก้ว นักร้องและนักแสดงขวัญใจคนไทย มาเป็นพรีเซนเตอร์ของ บริโอ้ อเมซ ซึ่ง บี้ นับเป็นศิลปินนักร้อง นักแสดง มากความสามารถ ทั้งยังมีบุคลิกของคนรุ่นใหม่ที่คล่องแคล่ว ทันสมัย ส่งผลให้บี้ครองใจแฟนๆ ชาวไทยในทุกเพศ ทุกวัย ทั่วประเทศ โดยคุณสมบัติเหล่านี้ สามารถสะท้อนบุคลิกของ บริโอ้ อเมซ ได้เป็นอย่างดี

ฮอนด้า มีกำหนดเปิดตัว บริโอ้ อเมซ อย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน นี้ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะเริ่มเปิดตัวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในเวลา 13:00 - 15:00 น. และหลังจากนั้น ฮอนด้า จะเปิดมินิมอเตอร์โชว์ เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจได้ร่วมสัมผัส บริโอ้ อเมซ เป็นครั้งแรกด้วย ตั้งแต่เวลา 15:00 - 20:00 น.

และพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง บริโอ้ อเมซ ภายในงาน รับสิทธิชมมินิคอนเสิร์ต เปิดสมการความสุขโดยบี้ สุกฤษฎิ์ รอบการแสดงวันที่ 23 พฤศจิกายน เวลา 19:00 - 21:00 น. ที่นั่งจำนวนจำกัด สำหรับผู้จองรถในงานเท่านั้น หนึ่งสิทธิ์รับบัตรชมมินิคอนเสิร์ต 2 ใบ

ทั้งนี้ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ยังเป็นหนึ่งในรถที่ได้รับสิทธิ์คืนภาษีรถยนต์คันแรก ทำให้ปัจจุบัน ฮอนด้า มีรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการฯ มากถึง 6 รุ่น คือ Honda Brio, Honda Jazz, Honda Jazz Hybrid, Honda City, Honda City CNG และ Honda Brio Amaze ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูม ฮอนด้า ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

12-11-2012, 08:34

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 12 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ig/mitsubishisalesreport2012october02.jpg (//pic.free.in.th/id/e5f8139e0bd4d5f1f1d59e83188ed829)

Mitsubishi ยอดขายเดือนตุลาคมสูงสุด 13,640 คัน ยอดขายรถยนต์รวม 10 เดือน ทะลุ 100,000 คัน พร้อมจัด Mitsubishi Happy Day สร้างความสุขให้ลูกค้าทั่วประเทศ

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย แจ้งยอดขายรถยนต์เดือนตุลาคม สร้างสถิติใหม่อีกครั้งด้วยยอดขายสูงสุด 13,640 คัน เติบโตขึ้น 268.55% ปลื้ม มิราจ ใหม่ ยอดขายยังแรงต่อเนื่อง ช่วยหนุนยอดขาย มิตซูบิชิ รวมทะลุ 100,000 คันภายใน 10 เดือน พร้อมเชิญลูกค้าและผู้สนใจร่วมสัมผัสความสุข ความสนุกในกิจกรรม Mitsubishi Happy Day ที่โชว์รูมรถยนต์มิตซูบิชิ 80 แห่งทั่วประเทศ ไปจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า

มร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งยอดขายรถยนต์ มิตซูบิชิ ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า มิตซูบิชิมียอดขายรวมอยู่ที่ 13,640 คัน เติบโตขึ้นถึง 268.55% ซึ่งถือเป็นสถิติยอดขายสูงสุดของบริษัท โดยเป็นผลมาจากกระแสตอบรับในรถยนต์ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ที่มียอดขายอยู่ที่ 6,740 คัน คิดเป็น 49.41% ของยอดขายรวมของในเดือนตุลาคม ตามมาด้วย มิตซูบิชิ ไทรทัน 4,713 คัน เติบโตขึ้นถึง 102.36% ในขณะที่ ปาเจโร สปอร์ต มียอดขายอยู่ที่ 1,989 คัน เติบโตขึ้น 79.19%% ทั้งนี้ยอดที่สูงขึ้นดังกล่าว ยังส่งผลให้บริษัทฯ มียอดขายรวมตั้งแต่เดือน มกราคม - ตุลาคม อยู่ที่ 100,235 คัน ซึ่งถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

"ยอดขายของมิตซูบิชิ เติบโตขึ้นอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแนะนำรถยนต์มิตซูบิ มิราจ ใหม่ ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า จนทำให้กลายเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์หลักที่สร้างการเติบโตให้กับบริษัท และทำให้เรามียอดขายรวมจนถึงเดือนตุลาคมกว่า 100,000 คัน ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ ทั้งนี้ผมเชื่อว่า ยอดขายรถยนต์มิตซูบิชิจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในระยะสองเดือนที่เหลือ ซึ่งถือเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์มีความคึกคักเป็นพิเศษ และจะทำให้ยอดขายรถยนต์รวมของเราเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ 126,000 คัน ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน"

มร. มูราฮาชิ กล่าวเสริมถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ในช่วงนี้ว่า บริษัทฯ ได้ร่วมกับผู้จำหน่าย เชิญลูกค้าและผู้ที่สนใจมาร่วมงาน Mitsubishi Happy Day ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ไว้วางใจ เลือกใช้รถยนต์มิตซูบิชิ รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าในพื้นที่

"ภายในงานนอกจากจะได้สัมผัสสมรรถนะของรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น พร้อมรับสาระความรู้จากการอบรมการใช้รถเบื้องต้น และสัมผัสประสบการณ์ทดสอบรถขับขี่ประหยัดและปลอดภัยกับ มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิทุกรุ่นแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมบันเทิงมากมายในบรรยากาศเทศกาลญี่ปุ่น อาทิ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ร่วมพบปะพูดคุยกับดารานักแสดงมากความสามารถ พร้อมโชว์สุดประทับใจจาก Thailand's got Talent และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

13-11-2012, 09:47

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 13 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/iv/2013maseratiquattroporte6thgen01.jpg (//pic.free.in.th/id/085900542fbf9c7eae68f862a21cab1b)

2013 Maserati Quattroporte เจนเนอเรชั่นใหม่เตรียมเปิดตัวต้นปี 2013

ทำตลาดเจนเนอเรชั่นที่ 5 มาอย่างยาวนานถึง 8 ปี โดยมีการปรับโฉมเล็กๆ 1 ครั้งในป ี 2009 มาเซราติ เตรียมเปิดตัวรถธง ซีดานหรูฟูลไซส์ 4 ประตู Quattroporte เจนเนอเรชั่นที่ 6 ในช่วงกลางเดือนมกราคม 2013 ที่งาน - American International Auto Show หรือ ดีทรอยท์ 2013 ตามข้อมูลเบื้องต้น Quattroporte จะเปิดตัวด้วยรุ่นเครื่องยนต์ V8 กำลังสูงสุดมากกว่า 500 แรงม้า hp พร้อมจับคู่เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะลูกใหม่ของ ZF โดยยังไม่มีการยืนยันว่าจะมีรุ่น V6 ในอนาคตหรือไม่ หน้าตาขอยืมรูปแบบมาจาก GranTurismo อย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะชุดกระจังหน้าและกันชน

มาเซราติ ให้ข้อมูลว่า ระบบขับเคลื่อนสำหรับ Quattroporte ใหม่นั้น เป็นชุดระบบขับเคลื่อนเจนเนอเรชั่นใหม่ ที่ออกแบบและพัฒนาโดยความร่วมมือของวิศวกร มาเซราติ - เฟอร์รารี่ และสร้างขึ้นที่โรงงานในมาราเนลโล

Mr. Harald Wester ซีอีโอของ มาเซราติ กล่าวว่า Quattroporte เจนเนอเรชั่น 6 เป็น 1 ใน 3 ของรถหรูที่ มาเซราติ เตรียมเปิดตัวในอนาคต โดยอีกอีก 2 รุ่นที่เหลือคือซีดานขนาดกลาง Maserati Ghibli ซึ่งเป็นการนำชื่อ Ghibli กลับมาอีกครั้งหลังยุค 70 เพื่อใช้แทนที่ชื่อ Maserati GranTurismo และ SUV ครอสโอเวอร์ Maserati Levante

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

14-11-2012, 09:32

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 14 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ix/2012toyotacorollaaltise8506.jpg (//pic.free.in.th/id/d8294f1bd2040d7400db950fba6f2497)

2012 Toyota Corolla Altis E85 เปิดตัวรุ่น 1.8 ลิตร E85 ปรับราคาลงจากการได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

โตโยต้า เปิดตัว Toyota Corolla Altis ปรับโฉมใหม่ โดยรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ พร้อมราคาใหม่ที่ปรับลดลง จากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากอัตราภาษีรถยนต์ E85 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสายยานยนต์ได้พิสูจน์สมรรถนะ ณ ลานอเนกประสงค์ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เผยว่า "โคโรลล่า อัลติส ใหม่ เป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญที่สุดอีกรุ่นหนึ่งในกลุ่มรถยนต์นั่งของโตโยต้า ซึ่งแนะนำเข้าสู่ตลาดประเทศไทยมาเป็นเวลากว่า 46 ปี และได้รับการตอบรับจากลูกค้าในฐานะรถยนต์นั่งยอดนิยมของคนไทย ด้วยยอดขายรวมกว่า 813,000 คัน (ยอดขายถึงเดือนกันยายน 2555) ซึ่งความสำเร็จทางด้านการขายมากมายเช่นนี้ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า โคโรลล่าได้รับการยอมรับเป็นอย่างดี ทั้งด้านคุณภาพ และความคุ้มค่า สามารถครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน"

"จากการที่โตโยต้าได้ตระหนักถึงเรื่องการอนุรักษ์พลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม เราจึงได้ทำการพัฒนา โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร โดยได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุ และชนิดสารเคลือบของอุปกรณ์ต่างๆ อาทิเช่น แหวนลูกสูบและลูกสูบ ท่อส่งน้ำมันเข้าหัวฉีดวาล์วและบ่าวาล์ว ของทั้งไอดีและไอเสีย หัวเทียน รวมทั้ง PCV วาล์ว เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้อย่างมั่นใจ ตามมาตรฐานจากโรงงานของโตโยต้า พร้อมกับได้รับสิทธิประโยชน์จากอัตราภาษีรถยนต์ที่ลดลง ทำให้เราได้มีการปรับราคาเพื่อให้ลูกค้าสามารถจับจองเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น"

โตโยต้า ทำการปรับเปลี่ยนรายละเอียด Aitis ใหม่เพิ่มเติม ผลิตภัณฑ์ โดยรุ่น 1.8 ลิตร มีการเพิ่มรุ่น 1.8G Navi กระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ภายในโทนสีเทา-ดำ ระบบนำทาง In-Car Navigator พร้อมกล้องมองหลัง

รุ่น 2.0 ลิตร เพิ่มกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ แสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางกระจกได้ ส่วนรุ่น 1.6 ลิตร (1.6E CNG A/T, 1.6J M/T, CNG M/T (Color) และ CNG M/T) เพิ่มถุงลมและเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบรั้งกลับอัตโนมัติ นอกจากนี้ทั้งรุ่น 2.0 ลิตร และ 1.8 ลิตร ทุกรุ่น ยังติดตั้งเครื่องยนต์ Dual VVT-i ส่งกำลังด้วยเกียร์ Super CVT-i 7speed ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม และประหยัดน้ำมันอีกด้วย

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

15-11-2012, 09:11

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 15 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/id/2013toyotaavalon01.jpg (//pic.free.in.th/id/c5b7320af966b79b1cca86a88dff2449)

Update: 2013 Toyota Avalon รุ่น 2.5 ไฮบริด 16.9 กม./ลิตร

อัพเดทกันอีกครั้ง โตโยต้า ปล่อยข้อมูลจำเพาะและราคาของ Avalon เจนเนอเรชั่นที่ 4 ออกมาแล้ว การทำตลาดในสหรัฐฯ จะเริ่มขึ้นในเดือนธันวาคม 2012 โดยก่อนหน้านี้ EPA ได้ประกาศผลอัตราสิ้นเปลืองของรุ่นไฮบริดอย่างเป็นทางการ แบบรวมและในเมืองออกมาที่ 16.9 กม./ลิตร เท่ากัน ส่วนไฮเวย์ตกลงไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น 16.6 กม./ลิตร

จุดเด่นภายนอกของ Avalon ใหม่คือโคมไฟหน้าที่ โตโยต้า เรียกว่า Quadrabeam ไฟต่ำใช้หลอด LED พร้อมเลนส์ PES หรือ Poly Ellipsoid System ทรงเหลี่ยมด้านละ 2 ดวง เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน Lexus LS รุ่นปี 2013 ส่วนไฟวิ่งกลางวัน Daytime Running Lights ใช้หลอด LED ฝั่งละ 3 ดวง รุ่นพื้นฐานสีภายนอกมีสีใหม่ 2 สีคือ Moulin Rouge Mica และ Champagne Mica พร้อมล้ออลูมิเนียม 17 - 18 นิ้ว ส่วนรุ่นไฮบริดติดตั้งล้อ 17 นิ้ว พร้อมยางลดแรงต้านการหมุนของ Michelin

รุ่นไฮบริดนั้น เป็นการต่อยอดมาจากระบบ Hybrid Synergy Drive ที่ใช้ใน Camry Hybrid ใหม่ อาศัยกำลังจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร 2AR-FXE แบบ Atkinson cycle กำลังสูงสุด 154 แรงม้า hp จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังรวม 105 กิโลวัตต์ (140 แรงม้า) ส่งกำลังด้วยเกียร์ CVT น่าเสียดายที่แบตเตอรี่แพคยังไม่อัพเกรดมาเป็นลิเธียม-ไอออนเหมือนรถรุ่นปี 2013 แบบผู้ผลิตอื่นๆ โดยยังคงใช้งานชุดแบตเตอรี่นิคเกิล-เมทัล ไฮไดรด์เหมือน Camry กำลังรวมทั้งระบบ 200 แรงม้า hp แบ่งโหมดการขับเป็น 3 แบบคือ EV, ECO และ SPORT

รุ่นพื้นฐานเหมือนข่าวเดิมทางด้านล่าง คือยังคงใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ V6 Dual VVT-i ความจุ 3.5 ลิตร 2GR-FE เหมือนเจนเนอเรชั่น 3 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 268 แรงม้า hp ที่ 2,600 รอบ/นาที แรงบิด 34.2 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที อัตราทดเกียร์ถูกปรับปรุงใหม่ให้มีความกระฉับกระเฉงขึ้น อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ต่ำกว่า 7 วินาที ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองไม่สูงเกินไปนัก โดยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจากการทดสอบของ EPA อยู่ที่ 10.6 กม./ลิตร

ราคาจำหน่าย Avalon รุ่นไฮบริดเริ่มต้นที่ 35,555 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท รุ่นท๊อปขยับไปที่ 41,400 ดอลลาร์ หรือราว 1.27 ล้านบาท ส่วนรุ่นพื้นฐานเบนซิน V6 เริ่มต้นที่ 33,195 ดอลลาร์ หรือราว 1 ล้านบาท

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

16-11-2012, 09:24

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 16 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/in/nissansalesreport201201.jpg (//pic.free.in.th/id/8bd88ab5d34551261c7572fb7e423881)

Nissan ยอดขายประจำเดือนตุลาคม 2555 ทุบสถิติอีกครั้ง Eco Car ยังคงนำ

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศยอดขายประจำเดือนตุลาคม 2555 มีจำนวนทั้งสิ้น 12,701 คัน นับเป็นยอดขายประจำเดือนสูงสุดในรอบ 60 ปีที่บริษัทฯ ดำเนินกิจการมา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ถึง 288 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงระยะเวลาเดียวกัน และมากกว่าเดือนที่ผ่านมา 8.5 เปอร์เซ็นต์

"ปีนี้นับเป็นปีที่ดีมากสำหรับตลาดรถยนต์ในประเทศไทย โดยยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากการที่บริษัทฯ สามารถฟื้นตัวได้เร็ว และกลับมาผลิตได้อย่างเต็มกำลังอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ พร้อมการสนับสนุนที่ดีจากรัฐบาลในเรื่องนโยบายคืนภาษีรถคันแรก ที่ช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อเพิ่มขึ้นด้วย" คุณประพัฒน์ เชยชม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสการตลาดและขาย กล่าว

"รถยนต์อีโค คาร์ ยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของบริษัทฯ และเราก็ยังคงครองความเป็นผู้นำตลาดอยู่ โดย Nissan March มียอดขายในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 3,444 คัน, Nissan Almera อยู่ที่ 5,896 คัน ส่วน Nissan Sylphy ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา มียอดขายรวมอยู่ที่ 5,000 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่น่าพึงพอใจสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดของรถยนต์ระดับกลาง"

ยอดขายเดือนตุลาคมนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นในการเดินหน้าตามแผนธุรกิจ NMT Power Up 2016 ตามที่ได้ประกาศไปเมื่อปีที่ผ่านมาว่า เราจะเพิ่มความได้เปรียบทางด้านผลิตภัณฑ์ ด้วยการแนะนำรถรุ่นใหม่อย่างน้อย 2 รุ่นต่อปี ควบคู่ไปกับการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่ายและการบริการหลังการขาย เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

ในปีงบประมาณ 2555 นี้ นิสสัน ประกาศตั้งเป้าการขายใหม่อยู่ที่ 132,000 คัน หรือส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 10 เปอร์เซ็นต์ โดยปัจจุบันนี้ มีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 8.6 เปอร์เซนต์

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-11-2012, 10:02

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/id/nissansylphyecotestdrive07.jpg (//pic.free.in.th/id/aad6a2669e50f00fc990929c2758a36d)

Nissan Slyphy 1.6 Eco Test Drive ขับประหยัดสบายๆ สไตล์ท่องเที่ยว

ในช่วงนี้ การทดสอบรถแบบขับประหยัดกำลังได้รับความนิยมจากค่ายรถยนต์ต่างๆ เพราะแต่ละบริษัทก็ต้องการโชว์ประสิทธิภาพในด้านการประหยัดเชื้อเพลิง เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ผู้บริโภคในยุคน้ำมันแพง ล่าสุดเป็นคิวของ นิสสัน ที่จัดขับประหยัดบนเส้นทางกรุงเทพฯ - เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี ด้วยรถยนต์รุ่นใหม่ ซิลฟี เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี เน้นการขับท่องเที่ยวสบายๆ ระยะทางที่ใช้ในการทดสอบอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 120 กิโลเมตร จำกัดเวลาไว้แบบหลวมๆ และไม่มีข้อห้ามใดๆ ระบุเพียงว่าเติมลมยางหน้า/หลัง 31/33 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

จุดปล่อยตัวอยู่ที่โชว์รูม นิสสัน บนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด เริ่มต้นด้วยการกล่าวต้อนรับสื่อมวลชนโดย คุณชนกนันท์ เตชะภัทรพร ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด และสรุปข้อมูลผลิตภัณฑ์โดย คุณภควัฏ ตาปสนันทน์ Assistant General Manager Commercial Car Product Marketing ซึ่งปัจจุบันดูแลในส่วนของรถยนต์นั่งด้วย นอกจากนี้ได้รับเกียรติจาก คุณกิติสร ปุณณะหิตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวต้อนรับสื่อมวลชน

นิสสัน เชื่อว่าผู้ขับทุกคนสามารถขับรถให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ เพียงแต่ต้องเรียนรู้วิธีการขับ ซึ่งไม่ได้ยุ่งยากซับซ้อน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับให้เหมาะสมกับสภาพการจราจร ก่อนการทดสอบจะเริ่มขึ้นจึงได้เชิญวิศวกรของ นิสสัน มาให้ข้อมูลว่า ต้องขับอย่างไรถึงจะประหยัดเชื้อเพลิง รวมถึงการใช้มาตรวัดอัตราสิ้นเปลือง และมาตรวัดแสดงความประหยัด ที่มีใน นิสสัน ซิลฟี ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ตอนลงทะเบียนก็เจอกับข่าวร้ายว่างานนี้ผมต้องขับคนเดียว เพราะเพื่อนที่ขับคู่กันติดธุระด่วน ไม่สามารถมาร่วมงานได้ แต่ก็มีทีมประชาสัมพันธ์ คุณวิชาญ ศิลปลิขิตพร มานั่งเป็นเพื่อนพร้อมทำหน้าที่เป็นผู้นำทางให้ด้วย รถที่ใช้ในการทดสอบมีทั้งรุ่นสูงสุด 1.6V และรุ่นรอง 1.6E ก่อนออกเดินทางผู้ขับรถแต่ละคันจะต้องดูแลรถของตัวเองว่า ทีมงานของ นิสสัน ได้เติมน้ำมันเชื้อเพลิงให้ถึงจุดที่กำหนดหรือยัง โดยในการเติมให้เต็มจะไม่ใช้การเขย่า แต่จะเติมแล้วรอให้น้ำมันยุบตัวลงไป และเติมเพิ่มกระทั่งน้ำมันไม่ยุบตัว จากนั้นจึงให้ คุณกิติสร ปุณณะหิตานนท์ เซ็นชื่อบนสติ๊กเกอร์ที่ปิดทับบนฝาปิดที่เติมน้ำมัน เซ็ต 0 ข้อมูลการขับบนชุดมาตรวัด และลงบันทึกเวลาออกเดินทาง

การเดินทางช่วงแรกจาก บริษัท สยามกลการ เทรดดิ้ง จำกัด ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ไปยังร้านแม็คโดนัลที่จุดพักรถบนมอเตอร์เวย์ ระยะทางไม่ไกลแค่ 60.5 กิโลเมตร แต่ให้เวลามากถึง 80 นาที เพราะเผื่อสภาพการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากไม่ได้ขึ้นทางด่วน ให้ใช้เส้นทางพื้นราบต่อเนื่องมอเตอร์เวย์ โชคดีที่ตอนปล่อยตัวเวลา 9.17 น. รถไม่ติดมาก คำนวณเวลาแล้วน่าจะถึงก่อน 10.37 น. พอสมควร (9.17 น. บวกกับ ?1.20 ชั่วโมง)

แม้จะไม่ได้บังคับเรื่องการเปิดแอร์ แต่ผมก็ต้องเปิดแค่แผ่วๆ และตั้งอุณหภูมิไว้ค่อนข้างสูง ไม่ใช่เพราะคาดหวังเรื่องความประหยัด แต่เพราะไม่ค่อยสบาย ถ้าเปิดแอร์เย็นมากจะคันคอและไอ แต่ด้วยความเกรงใจพีอาร์ที่นั่งไปด้วย เนื่องจากอากาศค่อนข้างร้อนและรถไม่มีฟิล์ม จึงเปิดพอให้เย็นๆ และปรับช่องแอร์ไปทางอื่น ส่วนผมก็ขับแบบเหงื่อซึมไปตลอดทาง และเนื่องจากบอกว่าขับแบบสบายๆ ผมจึงไม่ได้ขับแบบเน้นประหยัดเต็มที่ แค่ขับด้วยความนุ่มนวล รักษาความเร็วให้คงที่ และไม่คิ๊กดาวน์ แต่ใช้ความเร็วไม่ต่ำมาก 100 - 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เมื่อเข้ามอเตอร์เวย์การจราจรค่อนข้างโล่ง สามารถใช้ความเร็วนิ่งๆ ได้ ลองคำนวณอีกครั้งพบว่าด้วยระยะเวลาที่กำหนดกับระยะทางที่เหลือ สามารถขับด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ จึงลองลดวามเร็วลงมาเหลือ 60 - 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่ารถพ่วงหรือรถเทรลเลอร์ซึ่งเป็นรถที่ช้าที่สุดบนถนน ยังพยายามจะแซงรถผมที่วิ่งอยู่เลนซ้ายสุด จะหลบออกไปเลนกลางก็เจอกับรถที่เร็วกว่า สุดท้ายถึงตัดสินใจใช้ความเร็วมากกว่ารถพ่วงเล็กน้อย ประมาณ 80 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อมีช่วงที่โล่งจริงๆ จึงลดความเร็วลงเพื่อความประหยัด

เกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT นอกจากมีการทำงานที่นุ่มนวลต่อเนื่องแล้ว ยังมีส่วนช่วยเรื่องความประหยัด ด้วยอัตราทดที่แปรผันต่อเนื่อง และมีช่วงกว้าง ช่วงออกตัวใช้อัตราทดสูงให้การตอบสนองที่ดี และเมื่อใช้ความเร็วนิ่งๆ เกียร์จะปรับอัตราทดให้ต่ำลง โดยที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้รอบแค่ประมาณ 2,100 รอบต่อนาทีเท่านั้น ส่วนการเร่งแซงจะไม่มีช่วงรอบตกเมื่อเปลี่ยนเกียร์ขึ้นสูง ช่วยให้เร่งได้อย่างรวดเร็วและทันใจพอสมควร แม้จะเป็นเครื่องยนต์ขนาดกลางๆ 1,600 ซีซี 116 แรงม้า

แม้จะพยายามขับแบบดึงๆ แล้ว สุดท้ายก็ยังถึงจุดหมายแรกด้วยเวลาที่เร็วกว่ากำหนดถึง 9 นาที ความเร็วเฉลี่ย 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหมือนจะช้าแล้ว แต่ก็ยังถือว่าเร็วเมื่อเปรียบเทียบกับคันอื่นที่ได้ความเร็วเฉลี่ย 35 - 38 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แน่นอนว่าส่งผลถึงอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในชุดมาตรวัดด้วย คันที่ผมขับได้ 19.2 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนคันอื่นเลข 2 นำหน้ากันหมด ทำเอาผมเครียดไปเหมือนกัน เพราะช่วงที่ 2 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของการทดสอบ มีระยะทางให้แก้ตัวเพียง 58.3 กิโลเมตรเท่านั้น แถมสภาพการจราจรแถวนั้นจะค่อนข้างหนาแน่น เพราะรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งกันเยอะ เนื่องจากอยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง

ออกจากจุดพักรถในเวลา 11.00 น. เวลาที่กำหนดในช่วงนี้ คือ 1.10 ชั่วโมง ต้องถึงปั๊มที่อยู่ห่างออกไป 58.3 กิโลเมตร ในเวลา 12.10 น. เวลาอยู่ในขั้นหลวมๆ สบายๆ ใช้ความเร็วเฉลี่ย 72 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะถึงปลายทางตามเวลาที่กำหนด แต่ก็ต้องเผื่อรถติดด้วย

ช่วงแรกที่ยังอยู่บนมอเตอร์เวย์ ผมเริ่มขับแบบปั้นตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองบ้าง เมื่อลดความเร็วเดินทางลง อัตราสิ้นเปลืองก็ขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง คำนวณแล้วว่ายังไงก็ถึงปลายทางก่อนกำหนดแน่ แต่ก็ไม่สามารถใช้ความเร็วแบบคลานๆ ได้ เนื่องจากรถบรรทุกขนาดใหญ่หลายคัน ต้องใช้ความเร็วในการเร่งส่งรถเพื่อขึ้นเนินชันในบางช่วง จึงต้องใช้ความเร็วเท่าๆ กับรถที่ขับช้าที่สุดบนถนน และก็เป็นไปตามคาด คือ เส้นทางช่วงนี้ไม่สามารถรักษาความเร็วคงที่ได้ เพราะเมื่อรถใหญ่แซงกันเอง ก็ต้องขับตามหลังด้วยความเร็วต่ำมาก เมื่อรถบรรทุกหลบซ้าย ก็ต้องเพิ่มความเร็วเพื่อแซงแล้วหลบเข้าซ้ายด้านหน้ารถบรรทุก เพื่อเปิดทางให้รถด้านหลังที่ขับเร็วกว่าแซงขึ้นไป

ในรถ นิสสัน ซิลฟี มีมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time ที่มาพร้อมมาตรวัดความประหยัด ถ้าเลี้ยงคันเร่งให้อยู่ในโซนประหยัดได้อย่างต่อเนื่อง อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงก็จะลดลง นอกจากนี้ยังสามารถแสดงผลอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time เปรียบเทียบกับอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย เพื่อดูว่าขณะนั้นอัตราสิ้นเปลือง Real-Time ต่ำกว่าหรือสูงกว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ถ้าอัตราสิ้นเปลือง Real-Time ต่ำกว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย ก็มีแนวโน้มว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจะลดลงได้อีก

ในส่วนของมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองแบบ Real-Time มีประโยชน์มากในด้านการปรับน้ำหนักเท้าที่ใช้กดคันเร่ง ถ้าไม่มีมาตรวัดนี้ เมื่อกดคันเร่งได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว ผู้ขับส่วนใหญ่ก็จะคงน้ำหนักในการกดไว้ แต่ใน นิสสัน ซิลฟี ที่มีมาตรวัดแบบ Real-Time ทำให้เมื่อได้ความเร็วที่ต้องการแล้ว สามารถผ่อนคันเร่งได้อีกนิดโดยที่ความเร็วไม่ลดลง แต่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบ Real-Time เพิ่มขึ้นมาก สามารถใช้ความเร็วที่ต้องการโดยที่เครื่องยนต์มีความประหยัดสูงสุด แต่ก็อย่าลืมเรื่องความปลอดภัยด้วย ไม่ใช่เพ่งแต่มาตรวัดจนเกิดอุบัติเหตุ

ผมใช้วิธีการขับแบบนี้จนถึงปั๊มน้ำมันปลายทาง ที่จะต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มเพื่อคำนวณอัตราสิ้นเปลือง เมื่อถึงปั๊มก็ดับเครื่องยนต์แล้วจอดรถคิว เพราะรถทุกคันจะต้องเติมที่หัวจ่ายเดียวกัน ผมถึงปั๊มก่อนเวลาประมาณ 9 นาที บันทึกข้อมูลการขับ ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 22.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระยะทาง 121.7 กิโลเมตร ที่เหลือคือลุ้นว่าจะเติมเพิ่มกี่ลิตร และจะขยับจากตำแหน่งบ๊วยได้หรือเปล่า

หัวจ่ายที่ใช้เติมมีลูกเล่นด้วยการนำกระดาษแข็งมาปิดช่องบอกจำนวนลิตรที่เติมเพิ่ม การเติมใช้วิธีเดิม คือ หยอดแล้วรอให้น้ำมันยุบตัว คันที่ผมขับหยอดนานมาก จนเพื่อนแซวว่าเติมเยอะเพราะขับเร็ว แซงเพื่อนคันอื่นที่ออกเดินทางไปก่อน เมื่อน้ำมันไม่ยุบแล้วจึงเปิดกระดาษแข็งขึ้น พบว่าเติมน้ำมันเพิ่ม 3.369 ลิตร เป็นเงิน 123.6 บาท อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประหยัดเหลือเชื่อ 36.12 กิโลเมตรต่อลิตร คิดเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 1.01 บาทต่อกิโลเมตร

เฉลี่ยรถทั้ง 7 คันที่ทดสอบ ได้อัตราสิ้นเปลือง 34.58 กิโลเมตรต่อลิตร ระยะทาง 121.7 กิโลเมตร เวลาเฉลี่ย 133 นาที ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 3.53 ลิตร โดยมีรถที่ประหยัดสูงสุดถึง 40.16 กิโลเมตรต่อลิตร

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

20-11-2012, 08:42

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 20 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/iy/tslpavilion02.jpg (//pic.free.in.th/id/f4653e24b4c1da07ea61b3e4b83ee1ff)

TSL Auto Corporation ทุ่มงบกว่า 25 ล้าน เนรมิต TSL Pavilion ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29

ทีเอสแอล ออโต้ ร่วมฉลองความสุขส่งท้ายปีมังกรทอง ทุ่มงบกว่า 25 ล้านบาท เนรมิต ทีเอสแอล พาวิลเลียน ยกทัพยนตรกรรมระดับพรีเมียมจากฝั่งยุโรปและญี่ปุ่น มาประชันโฉมให้ได้สัมผัสและจับจองกันอย่างใกล้ชิด พร้อมโปรโมชั่นอลังการ เป็นของขวัญพิเศษให้แก่ลูกค้าในงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29

นางสาวสุรีย์ภรณ์ อุดมผลวณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายยนตรกรรมชั้นนำจากต่างประเทศแบบครบวงจร เผยว่า "สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 หรือ Thailand International Motor Expo 2012 ในครั้งนี้ ทีเอสแอลได้ทุ่มงบประมาณกว่า 25 ล้านบาท เพื่อเนรมิตพื้นที่กว่า 880 ตารางเมตร จัดสร้าง 'ทีเอสแอล พาวิลเลียน' ขึ้นภายใต้แนวคิด 'The Endless Road...อิสระเกินใคร ไกลเกินจินตนาการ' โดยเน้นให้เห็นถึงความผูกพันระหว่างทีเอสแอลกับกลุ่มลูกค้า ที่มีให้กันมายาวนานกว่า 30 ปี และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของทีเอสแอล ในฐานะผู้นำเข้ารถยนต์อิสระอันดับ 1 ที่เพียบพร้อมด้วยยนตรกรรมอันล้ำสมัย และการบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม"

รูปแบบของ ทีเอสแอล พาวิลเลียน เน้นความโดดเด่นและสะดุดตาด้วยโทนสีขาวบริสุทธิ์ พร้อมด้วยลานขนาดใหญ่ ที่ผสมผสานระหว่างความล้ำสมัยกับความคลาสสิคไว้ด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมจัดแสดงยนตรกรรมระดับพรีเมียม 19 รุ่น รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ทีเอสแอล ยังได้ถือโอกาสนี้ เปิดตัวชุดแต่ง VATH จากประเทศเยอรมันเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเอาใจสาวกรถดาวสามแฉกที่ชื่นชอบความสปอร์ตและความเร้าใจโดยเฉพาะ นอกจากนี้ ทีเอสแอล ยังได้เตรียมโปรโมชั่นสุดอลังการเพื่อมอบเป็นของขวัญสุดพิเศษให้แก่ลูกค้ามากมาย อาทิ ส่วนลดสูงสุดถึง 1 ล้านบาท หรือการรับ Warranty นานถึง 3 ปีแบบไม่จำกัดระยะทางโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

พบกับความอลังการระดับพรีเมียมเหล่านี้ได้ที่ ทีเอสแอล พาวิลเลียน ในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ณ อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายน - 10 ธันวาคม 2555

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

22-11-2012, 08:53

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 22 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ik/hikoolmotorexpo01.jpg (//pic.free.in.th/id/896f3b100c416661f87ed3c9b4063637)

Hi-Kool เตรียมความพร้อมรับงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2012

Hi-Kool เตรียมโชว์ศักยภาพในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 โชว์สุดยอดนวัตกรรม ตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ พร้อมอัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายส่งท้ายปลายปี มั่นใจส่งผลให้ยอดติดตั้งฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ Hi-Kool ปีนี้ทะลุ 5 แสนคันอย่างแน่นอน

นางสาวชลิฏา วณิชชากรพงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีวณิชย์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสง Hi-Kool และ Super Hi-Kool เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ของวงการรถยนต์เมืองไทย ในงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29 พ.ย. - 10 ธ.ค.2555 ณ อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี โดยจะขนกองทัพฟิล์มกรองแสงทุกรุ่นมาจัดแสดงภายในงาน ตั้งแต่ฟิล์ม Original Series Hi-Kool ที่มีชื่อเสียง และได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดมายาวนานกว่า 30 ปี จนถึงฟิล์มรุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งนำเข้ามาทำตลาด มาให้ทดสอบประสิทธิภาพการกันความร้อนให้เห็นกับตา

สำหรับฟิล์มกรองแสงที่ถือเป็นไฮไลท์ของบูธ Hi-Kool ในปีนี้ ได้แก่ Super Hi-Kool รุ่น Black Pearl Series ฟิล์มระดับพรีเมี่ยม ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ผ่านกรรมวิธีการผลิตที่ดีที่สุดจากโรงงานที่ดีที่สุดในอเมริกา เพื่อให้มั่นใจได้ว่า เมื่อติดฟิล์มแล้วรถของลูกค้าจะดูหรูหราขึ้น แต่ยังคงทัศนวิสัยในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ด้วยความโดดเด่นในการเป็นฟิล์มโทนดำ สะท้อนด้านเดียว เข้ากับรถได้เกือบทุกรุ่น ทุกยี่ห้อ เสริมความหรูหรา เนื้อฟิล์มกึ่งนิรภัย หนา 2 มิว ถือได้ว่าเป็นฟิล์มรุ่นแรก ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นหลายข้อรวมไว้ด้วยกัน ซึ่งตรงกับสโลแกนที่บริษัทวางไว้ คือ 'ที่สุดแห่งฟิล์มกรองแสง'

นอกจากนี้ยังมี Hi-Kool Handle Guard ฟิล์มใสป้องกันรอยมือจับประตูรถ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อปกป้องสีรถไม่ให้เกิดรอยขูดขีด เพราะผลิตจากโพลียูรีเทน หนา 200 ไมครอน มีความเหนียวนุ่ม ไม่ฉีกขาดง่าย ใช้ติดตั้งบริเวณที่ต้องการปกป้อง โดยไม่ทำให้สีรถเปลี่ยน แต่กลับทำให้รถมีประกายเงางาม

"จุดเด่นที่เรานำมาเสนอในงานนี้ก็คือ การโชว์ประสิทธิภาพของฟิล์มรุ่นต่างๆ ที่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย สามารถกันความร้อน และรังสียูวีได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะจากการสำรวจพบว่า ปัจจัยที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อฟิล์มติดรถยนต์ นอกจากกันยูวีแล้วยังต้องสามารถกันความร้อนได้ดีด้วย"

"ขณะเดียวกัน ตลาดรถยนต์ในยุคนี้ก็มีการดีไซน์รูปลักษณ์ของตัวรถได้โฉบเฉียวมากขึ้น มีหลายสีหลายแบบให้เลือก ดังนั้นการตัดสินใจซื้อฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์ก็เป็นเสมือนเครื่องประดับที่สำคัญชิ้นหนึ่งของรถ ที่จะส่งผลให้รถดูสวยยิ่งขึ้น"

นางสาวชลิฏา กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการนำเสนอฟิล์มกรองแสงที่มีหลากหลายรุ่นแล้ว บริษัทยังเตรียมเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฟิล์มกรองแสง เรื่องพลังงานความร้อน และวิธีการเลือกฟิล์มกรองแสงที่ถูกต้องให้กับผู้บริโภค รวมทั้งโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ซื้อฟิล์มกรองแสงภายในงาน ด้วยส่วนลดสูงสุดถึง 40% โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายจากงาน มอเตอร์เอ็กซ์โป 2012 ในครั้งนี้ประมาณ 600 คัน และคาดว่าจากโปรโมชั่นที่จะมีอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี น่าจะผลักดันให้ยอดติดตั้งฟิล์มกรองแสง Hi-Kool ในปีนี้ ทะลุ 5 แสนคันอย่างแน่นอน

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

23-11-2012, 08:48

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 23 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/id/fordfiestaecoboost02.jpg (//pic.free.in.th/id/8e9eab91623e20050d96a8ab4c1e3c2b)

2014 Ford Fiesta EcoBoost เฟียสต้าปรับโฉมพร้อมเครื่องยนต์ใหม่

ตามกรอบเวลาจากข่าวเดิมทางด้านล่าง ถึงกำหนดการบุกตลาดสหรัฐอเมริกาของ ฟอร์ด ด้วยรุ่นปรับโฉมของ เฟียสต้า ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 3 สูบ 1,000 ซีซี แบ่งเป็น 2 ระดับความแรง คือ 100 และ 125 แรงม้า (PS) แรงบิด20.42 กก.-ม. เปรียบเทียบกับรุ่นก่อนปรับโฉมที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ 1,600 ซีซี ไม่มีระบบอัดอากาศ 120 แรงม้า แรงบิด 15.45 กก.-ม.

Mr. Joe Bakaj รองประธานฝ่ายวิศวกรรมเครื่องยนต์กล่าวว่า "ลูกค้าส่วนใหญ่ที่ได้ทดลองขับรถรุ่นนี้ จะรู้สึกแปลกใจว่าเครื่องยนต์ 3 สูบเทอร์โบ สามารถให้การตอบสนองได้ดีกว่าที่คิด และไม่ได้สนใจว่าเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ เพราะได้รับความพอใจในด้านความลื่นไหล ความเงียบขณะเดินเบา อัตราเร่งที่ทันใจ เสียงที่เร้าใจ และที่สำคัญคือ ความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง"

น่าเสียดายที่ ฟอร์ด ไม่ได้ระบุตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองของรุ่น 100 แรงม้า เผยเพียงตัวเลขสมรรถนะในรุ่น 125 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 9.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 196 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.25 กิโลเมตรต่อลิตร •ประสบการณ์ทดสอบรถขับขี่ประหยัดและปลอดภัยกับ มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิทุกรุ่นแล้ว ผู้เข้าร่วมกิจกรรมยังได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมบันเทิงมากมายในบรรยากาศเทศกาลญี่ปุ่น อาทิ มินิคอนเสิร์ตจากศิลปินชั้นนำ ร่วมพบปะพูดคุยกับดารานักแสดงมากความสามารถ พร้อมโชว์สุดประทับใจจาก Thailand's got Talent และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

27-11-2012, 08:23

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 27 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/iw/2012toyotacorollaaltise8501.jpg (//pic.free.in.th/id/6728938d5e34977a719b89ab9e68aa72)

Corolla Altis คุณภาพที่เหนือกว่าเดิม กับเทคโนโลยี E85

หากจะพูดถึงรถยนต์ที่ครองใจพี่น้องชาวไทยมาอย่างยาวนาน แน่นอนครับ คงจะหนีไม่พ้น โตโยต้า เพราะ โตโยต้า เป็นแบรนด์รถยนต์ที่อยู่เคียงข้างกับผู้ใช้รถชาวไทยมานานถึง 50 ปี

รถยนต์หลายต่อหลายรุ่นจาก โตโยต้า ได้รับกระแสตอบรับและความนิยมอย่างสูงจากผู้ใช้รถ ไม่ว่าจะเป็นรถเก๋ง รถกระบะ หรือแม้กระทั่งรถตู้ ต่างเป็นที่ชื่นชอบของผู้ใช้รถมาแล้วทั้งนั้น โดยเฉพาะรถเก๋ง อย่าง Toyota Corolla Altis ก็เป็นรถอีกรุ่นหนึ่งที่ถูกจับตามอง และได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้ใช้รถเสมอมา ไม่ว่าจะถูกพัฒนามาแล้วกี่รุ่น กี่เวอร์ชั่นก็ตาม

ล่าสุด โตโยต้า ได้พัฒนา Corolla Altis รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์อันทรงพลัง ความงามของรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายใน รวมทั้งความล้ำสมัยของเทคโนโลยีต่างๆ ซึ่ง Corolla Altis ตัวนี้ได้ปรับปรุงและพัฒนาในทุกด้านให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะในรุ่น 1.8 ลิตร ที่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้ กับราคาใหม่ที่ปรับลดลง จากสิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากอัตราภาษีรถยนต์ E85 ทำให้ Corolla Altis E85 เป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า Corolla Altis โดดเด่นในเรื่องของเครื่องยนต์มานาน และครั้งนี้ก็เช่นกัน Altis ยังคงไม่ทำให้บรรดาคอคนรักรถผิดหวัง ด้วยเครื่องยนต์ 2ZR-FBE พร้อมใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ความจุ 1,800 ซีซี แบบ 4 สูบแถวเรียง DOHC ระบบวาล์วอัจฉริยะ Dual VVT-i (Variable Valve Timing-intelligent) ปรับจังหวะเปิด-ปิดลิ้นไอดีและไอเสียแบบแปรผัน โดยสอดคล้องกับการทำงานของเครื่องยนต์ เครื่องยนต์จึงทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ และมีประสิทธิภาพสูงสุด อัตราเร่งดี ขับขี่ได้ราบรื่น ช่วยลดมลพิษ และประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีเยี่ยม

ในรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรนี้ ได้มีการปรับเปลี่ยนวัสดุ และชนิดสารเคลือบของอุปกรณ์หลายอย่าง เพื่อตอบสนองเทคโนโลยีใหม่ของ โตโยต้า อาทิเช่น แหวนลูกสูบและลูกสูบ ท่อส่งน้ำมันเข้าหัวฉีดวาล์วและบ่าวาล์วของทั้งไอดีและไอเสีย หัวเทียน รวมทั้ง PCV วาล์ว เพื่อให้สามารถรองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล E85 ได้อย่างมั่นใจตามมาตรฐานของโรงงาน โตโยต้า

ในส่วนของระบบเกียร์ ครั้งนี้ Corolla Altis ยังคงโดดเด่นเหนือใคร ด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i7 สปีด ซึ่งระบบเกียร์ตัวนี้เป็นแบบ Gate-Type พร้อม Sequential เป็นอีกขั้นของเทคโนโลยีที่ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องมีจังหวะพักเพื่อส่งกำลังขณะเปลี่ยนเกียร์ ทุกสปีดจึงนุ่มนวล ไม่สะดุด ส่งความแรงอย่างต่อเนื่อง และเร้าใจยิ่งขึ้น ตอบสนองทันใจอย่างเกียร์อัตโนมัติ แต่ขับสนุกอย่างเกียร์ธรรมดา และได้อารมณ์แบบสปอร์ต เพียงขยับคันเกียร์ไปที่ + หรือ – ได้ถึง 7 ตำแหน่ง เราก็สามารถเลือกระดับความเร็วได้อย่างแม่นยำ ตอบสนองการขับขี่ของเราได้อย่างยอดเยี่ยม

ความพิเศษยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะ โตโยต้า ยังใส่ลูกเล่น และเพิ่มเติมในส่วนของรายละเอียดของ อุปกรณ์ตกแต่งลงไปอีกมากมาย โดยเฉพาะเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกในรุ่น 1.8 ลิตร ที่มาพร้อมกับกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ทำให้รถดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้นไปอีก

ส่วนภายในก็ไม่เคยผิดหวัง ครั้งนี้ Corolla Altis มาในโทนสีเทา-ดำ ทั้งเบาะที่นั่ง แผงประตู คอนโซล พวงมาลัยและหัวเกียร์ ที่ให้อารมณ์สปอร์ต อีกทั้งยังเพิ่มในส่วนระบบนำทางในรถยนต์ In-Car Navigator พร้อมกล้องมองหลัง ทำให้คนขับอย่างเราๆ ปลอดภัย และสะดวกมากยิ่งขึ้น ในการเห็นสิ่งกีดขวางด้านหลัง หรือกระทั่งการถอยหลังเข้าจอด เรียกได้ว่าตอบสนองทั้งความสะดวกสบาย ความสวยงาม และมาพร้อมกับความปลอดภัยอีกต่างหาก

คราวนี้ เราเขยิบมาที่รุ่น 2.0 ลิตร กันบ้าง รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ๆ เช่นกัน เพราะได้มีการเพิ่มกระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติเข้ามาในรุ่น 2.0V NAVI ขณะที่ในรุ่น 2.0V และ 2.0G ยังสามารถแสดงภาพจากกล้องมองหลังผ่านทางมุมล่างของกระจกได้ เรียกว่าเจ๋งมากๆ

ด้านน้องเล็ก ในรุ่น 1.6 ลิตร ก็ไม่ธรรมดาครับ เพราะทาง โตโยต้า ได้เพิมถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า SRS ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยสามารถช่วยลดแรงกระแทกจากการชน และยังมีเข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ผู้ขับขี่อีกด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมด แน่นอนว่า Toyota Corolla Altis เป็นรถที่ครองใจผู้ใช้มาอย่างต่อเนื่อง และเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถยนต์ซีดาน และยิ่งเป็นรุ่นใหม่ 1.8 ลิตร E85 ที่มาพร้อมสมรรถนะของเครื่องยนต์ ให้การขับขี่ราบรื่นไว้ใจได้ แถมยังประหยัดน้ำมันสุดๆ ไม่ต้องสงสัยเลยครับว่า Toyota Corolla Altis เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากแค่ไหน ถ้าไม่เชื่อคงต้องลองพิสูจน์กันแล้วละครับ

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

28-11-2012, 08:57

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 28 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ii/2012isuzudmaxxseries01.jpg (//pic.free.in.th/id/b5f335309ad1025382d60c795b9ee9a3)

2012 Isuzu D-MAX X-Series รุ่นพิเศษฉลองยอดผลิต 3 ล้านคันในประเทศไทย

อีซูซุ ฉลองยอดผลิตครบ 3 ล้านคันในประเทศไทยด้วยการเปิดตัว เปิดตัว Isuzu D-MAX X-Series รุ่นพิเศษ ตกแต่งใหม่ทั้งภายนอกและภายใน โดยยังคงใช้ธีมแบบ X-Series รุ่นก่อนหน้า ใช้โทนสีแดง-ดำ พร้อมตราสัญลักษณ์ Isuzu สีแดง

มร. ฮิโรชิ นาคางาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เผยว่า "ตลอด 55 ปีที่อีซูซุอยู่คู่สังคมไทย อีซูซุคันแรกได้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2500 และเริ่มผลิตรถอีซูซุคันแรกในประเทศไทยเมื่อ พ.ศ.2 506 นับเป็นเวลาถึง 40 ปี หลังการจำหน่ายรถคันแรก เราจึงได้ฉลองยอดผลิต 1 ล้านคันแรก"

"แต่เพียง 10 ปีถัดมา อีซูซุฉลอง 50 ปีของการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยยอดผลิตครบ 2 ล้านคัน และ ณ วันนี้ เพียง 5 ปีถัดมาเท่านั้น อีซูซุสามารถทำสถิติยอดผลิตครบ 3 ล้านคันได้แบบก้าวกระโดด นับเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดของอีซูซุทั่วโลก ซึ่งเป็นผลจากที่อีซูซุเป็นผู้นำในการสร้างนวัตกรรมให้แก่วงการรถยนต์เมืองไทยมาโดยตลอด อาทิ การนำเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้กับรถบรรทุกขนาดใหญ่เป็นครั้งแรก จนอีซูซุได้ชื่อว่าเป็น 'เจ้าถนน' ในยุคนั้น"

"การนำเครื่องยนต์ดีเซลมาใช้กับรถปิกอัพเป็นครั้งแรกในเมืองไทยเมื่อปี พ.ศ. 2521 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการรถยนต์ ทำให้ตลาดรถปิกอัพขยายตัวอย่างรวดเร็ว และเป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยจนถึงปัจจุบัน และการนำรถบรรทุกขนาดกลาง Isuzu Elf ออกจำหน่ายเป็นครั้งแรก และสามารถครองอันดับ 1 ไว้ได้อย่างมั่นคง และด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทย บริษัท อีซูซุมอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น จึงตัดสินใจย้ายฐานการผลิตรถปิกอัพจากประเทศญี่ปุ่นมายังประเทศไทย เพื่อส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ ทั่วโลกในปี พ.ศ. 2545 พร้อมเปิดตัว Isuzu D-MAX เป็นครั้งแรกในโลกที่เมืองไทย และป็นรถที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์วงการรถยนต์เมืองไทย ด้วยยอดจำหน่าย 1 ล้านคัน ภายในระยะเวลาเพียง 7 ปีเศษ อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดจำหน่ายอีซูซุ ก้าวทะยานสู่ 2 ล้านคัน ในระยะเวลาอันรวดเร็ว"

"การเปิดตัว All-New D-MAX ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2554 ทำให้เกิดกระแสตอบรับครั้งใหม่อย่างยิ่งใหญ่กว่าเดิม ด้วยยอดขายสูงสุดกว่า 15,000 คัน ในเวลาเพียง 3 วัน และยังคงเดินหน้าสร้างสถิติยอดจำหน่ายและยอดค้างส่งมากกว่า 2 แสนคัน ภายใน 1 ปี สูงสุดในประวัติศาสตร์ 55 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจอีซูซุในประเทศไทย"

D-MAX X-Series ใหม่ แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ D-MAX X-Series Hi-Lander ยกสูงพร้อมชุดพาร์ทรอบคัน และ D-MAX X-Series Speed ตกแต่งสไตล์สปอร์ต เน้นความปราดเปรียว คิดตั้งตราสัญลักษณ์ Isuzu สีแดงที่กระจังหน้ารถ ป้ายชื่อรุ่น Hi-Lander และ Speed ตราสัญลักษณ์ X-Series ที่กระบะท้าย พร้อมลายคาดคู่หน้า - หลัง

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

29-11-2012, 09:15

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 29 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/ih/2012motorexpobmw01.jpg (//pic.free.in.th/id/482436026cc5c97b009f1b2d75175066)

2012 Motor Expo: BMW/MINI เพิ่มทางเลือกให้ 3 Series และเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ X1, X6 และ 740Li

บีเอ็มดับเบิลยู ถือว่าไม่มีรุ่นใหม่แบบแกะกล่อง เพราะเปิดตัว BMW 640i Gran Coupe ไปก่อนแล้วในงาน BMW Xpo 2012 งานนี้จึงเปิดบูธเพิ่มทางเลือกให้ BMW 3 Series ด้วยการเพิ่มรุ่นเบนซิน 320i ในทุกรุ่นย่อย Sport, Modern และ Luxury เสริมด้วย 328i Sport ส่วนรุ่นดีเซลมากับชุดแต่ง M Sport Package ในรุ่น 320d Touring M Sport

BMW 320i มากับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 184 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.9 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 138 กรัม/กม. ส่วน BMW 328i และรุ่นเพิ่มชุดแต่ง Sport มีกำลังให้ใช้มากกว่าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo 218 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ แต่ต้องแลกด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นเป็น 15.9 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 147 กรัม/กม.

ส่วนรุ่นไฮไลท์ของ 3 Series อย่าง BMW 320d Touring M Sport มาพร้อมชุดแต่ง M Sport Package เพิ่มพาร์ทแอโรไดนามิครอบคัน, เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังเดินท้ายสีน้ำเงิน, paddle shift, กาบบันได M

รุ่นปรับโฉมในงานนี้ เริ่มที่ BMW X1 แบ่งเป็น BMW X1 sDrive18i Sport ล้ออัลลอย V-Spoke 318 ขนาด 17 นิ้ว, เบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแท้, พอร์ท USB ส่วน BMW X1 sDrive18i xLine ล้ออัลลอย Y-Spoke 322 ขนาด 18 นิ้ว, ราวหลังคาอลูมิเนียม, ตกแต่งภายในด้วยลายไม้ Fineline Bay Matt, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง และมีพอร์ท USB

รุ่นดีเซล BMW X1 sDrive20d xLine มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPower Turbo ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อมฟังก์ชั่น ECO PRO อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 20 กม./ลิตร และอัตราการคายคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 132 กรัม/กม.

ล้ออัลลอย Y-Spoke 322 ขนาด 18 นิ้ว, พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง, ระบบ Comfort Access, iDrive พร้อมจอ 8.8 นิ้ว, Navigation system Professional, ชุดระบบเสียงแบบไฮไฟ แอมป์ฯ 180 วัตต์ ลำโพง 8 ตัว และแอพพลิเคชั่น BMW เล่น Facebook, Twitter พร้อมฟังก์ชั่น Web radio สำหรับ iPhone

BMW X6 xDrive30d M Sport Edition ตกแต่งด้วยชุด M Sport ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังพร้อม paddle shift ติดตั้งไฟหน้าแบบ Adaptive LED ไฟท้าย LED ใหม่

ปิดท้ายด้วย BMW 740Li เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ความจุ 3.0 ลิตร TwinPower Turbo เกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ พร้อม steptronic เน้นความสะดวกสบายด้วย Rear-seat entertainment Professional สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง โหมดการขับขี่แบ่งเป็น ECO PRO, Comfort, Comfort+, Sport และ Sport+ มาตรวัดดิจิตอลปรับเปลี่ยนสีตามโหมด เช่น สีส้มในโหมด Sport หรือสีฟ้าในโหมด ECO PRO ชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ Bang & Olufsen กำลัง 1,200 วัตต์ มาพร้อมลำโพง 16 ตัว

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

30-11-2012, 09:14

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 30 พฤษจิกายน 2555

//image.free.in.th/z/iv/2012motorexpoisuzu01.jpg (//pic.free.in.th/id/f9dc5a30b71ae824b77b649781be68f7)

2012 Motor Expo: Isuzu เปิดตัวรุ่นพิเศษฉลองยอด 3 ล้านคัน D-MAX X-Series Hi-Lander และ Speed

หลังจากเปิดตัวรุ่นพิเศษของ D-MAX X-Ser ies ฉลองยอดการผลิตในประเทศไทยครบ 3 ล้านคัน ไปไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็ถึงเวลาโชว์ตัวต่อสาธารณชนในงาน Motor Expo 2012 โดยได้รับการตกแต่งใหม่ให้ทั้งภายนอกและภายใน เปลี่ยนชุดระบบอินโฟเทนเเมนท์ใหม่ กล้องมองหลังใหม่ พาร์ทรอบคันชุดใหม่ โดยไม่แตะต้องสมรรถนะเดิม

และเหมือนงานโชว์ทุกครั้ง อีซูซุ ต้องมีรุ่นแต่งพิเศษมาจัดแสดง ซึ่งงานนี้มี D-MAX V Cross ที่ได้รับการปรับปรุงช่วงล่างด้วยช๊อคฯ ยอดนิยมสำหรับชาวปิคอัพ Race Runner ตกแต่งด้วยสติกเกอร์เคฟลาร์รอบคัน ด้านหน้าติดตั้งสปอตไลท์คู่ของ PIAA ล้ออัลลอย Weld ขนาด 20 นิ้ว จับคู่ยาง BF Goodrich แบบ All Terrain ขนาด 325/60 R20 และติดตั้งชุดยึดจักรยานที่กระบะหลัง

//image.free.in.th/z/iv/2012motorexpoisuzu02.jpg (//pic.free.in.th/id/f1b47e1ddeba413c5162b95b32a35fff)

อีกหนึ่งคันที่น่าไปชมคือ D-MAX V Cross ตัวแข่งรายการ Australasian Safari 2012 ของ คุณวรพจน์ บุญช่วยเหลือ และ คุณพิทักษ์ ปราดเปรื่อง ที่เพิ่งไปคว้าชัยในคลาส A2.3 Modified Production Diesel ในรายการนี้มาสดๆ ร้อนๆ บนคอร์สโหด 9 วัน กว่า 5,000 กิโลเมตร และตัวแข่งทางเรียบรายการ NITTO 3K ISUZU ONE MAKE RACE 2012 พื้นฐาน D-MAX Space Cab

นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมอย่างโชว์กราฟฟิตี้ของ MAMAFAKA, แฟชั่นโชว์ของ Allure Girls, อัพเดทความเคลื่อนไหวผ่าน Facebook Register, เกมสนุกๆ ในบูธอีซูซุ และการประกวดภาพถ่าย All-new Isuzu D-Max Photo Contest 2012 ส่งภาพที่ถ่ายจากกล้อง Digital หรืออัพโหลดขึ้น Instagram ผ่าน Hashtag

isuzuinstagram มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลกว่า 100,000 บาท โดยโชว์ในข้างต้นนี้จะสลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไป ใครสนใจลองเช็คเวลาที่ facebook ของ อีซูซุ ดูครับ

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

03-12-2012, 09:08

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 3 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/iz/motorexpossangyong01.jpg (//pic.free.in.th/id/64cf576f5c34e5832641ff575e0b680b)

2012 Motor Expo: SsangYong เปิดตัว Rexton เจนเนอเรชั่น 3 พร้อมรหัส W ต่อท้าย

Motor Expo ปีนี้ ซังยอง ไม่น้อยหน้าใคร เพราะมีรถ SUV ขน าด 7 ที่นั่งใหม่เอี่ยมที่เพิ่งเปิดตัวในตลาดโลกมาโชว์ตัว 1 รุ่น นั่นคือ SsangYong Rexton W เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Rexton โดยตอนที่ Mahindra เปิดตัวในอินเดียเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั้น Mahindra ให้ข้อมูลว่ารหัส W ที่ต่อท้ายเป็นตัวย่อของวลี Work of art

Rexton W มากับเครื่องยนต์เทอร์โบ ดีเซล คอมมอนเรล ความจุ 2.7 ลิตร กำลังสูงสุด 165 แรงม้า bhp แรงบิดสูงสุด 34.6 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ T-Tronic ความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Permanent AWD พวงมาลัยเพาเวอร์แปรผันตามความเร็วของรถ เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบ Easy Access เบาะจะปรับระดับลงต่ำ และถอยหลังไปจนสุดโดยอัตโนมัติเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการวาดขาเวลาเข้า - ออก

และเหมือนกับเจนเนอเรชั่นแรก Rexton พัฒนาขึ้นบนแพลทฟอร์มของ Mercedes-Benz M-Class แต่รุ่นใหม่นี้มีการโมดิฟายเพิ่มในหลายๆ จุดเพื่อความเหมาะสม การออกแบบภายนอกลงตัวสวยงาม ล้ออัลลอย 18 นิ้ว กระจังหน้าใหม่ให้ความรู้สึกหรูหรา ดูร่วมสมัยกว่าเจนเนอเรชั่นที่ 2 มาก

นอกจากนี้ ซังยอง ยังมีรุ่นปรับปรุงสมรรถนะของ MPV 11 ที่นั่งอย่าง Stavic เครื่องยนต์ใหม่ เทอร์โบดีเซล คอมมอนเรล 2.0 ลิตร 155 แรงม้า แรงบิด 36.6 กก.-ม. มาตรฐาน Euro 5 อัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 157 กรัม/กม. แบ่งการจำหน่ายเป็น 2 ทางเลือกตามการตกแต่ง คือ Stavic SV 2.0 Entry Version และ Stavic Standard Version

Stavic SV 2.0 Entry ตกแต่งภายในด้วยเบาะหนัง ควบคุมด้วยไฟฟ้า มีระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ เรนเซ็นเซอร์ ราคาในช่วงเปิดตัวเฉพาะใน Motor Expo 1.29 ล้านบาท ส่วน Stavic Standard เพิ่มชุดเครื่องเสียงไฮเอนด์ พร้อมจอเพดานสำหรับที่นั่งตอนหลัง ราคาในงาน 1.58 ล้านบาท

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

04-12-2012, 08:37

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/iz/2013toyotarav401.jpg (//pic.free.in.th/id/b9107a3b824d8cf175a3e5dfbc630635)

2013 Toyota RAV4 เปิดตัวโฉมใหม่เจนเนอเรชั่น 4 ที่ ลอส แองเจลิส

ในขณะที่การเตรียมทำตลาดของ เวอร์ชั่นไฟฟ้า มีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง RAV4 รุ่นพื้นฐานโมเดล 2013 เ จนเนอเรชั่นที่ 4 กลับเปิดตัวแบบตูมเดียวที่ 2012 LA Auto Show ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หลังทำตลาดเจนฯ 3 มา 7 ปีเต็มๆ โดยก่อนหน้านี้มีเพียงภาพทีเซอร์ให้เห็นกันนิดหน่อยเท่านั้นเอง

RAV4 เป็นหนึ่งในรถที่ทำตลาดได้ดีในตลาดโลก และเป็นครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์รุ่นสำคัญของ โตโยต้า รุ่นใหม่มากับขนาดความยาว 4,569 มม. กว้าง 1,844 มม. สูง 1,661 มม. วางอยู่บนฐานล้อขนาด 2,659 มม. โดยรวมแล้วขนาดตัวใหญ่กว่า RAV4 รุ่นก่อนหน้านิดหน่อย และเล็กกว่ารุ่นฐานฐานล้อยาวเล็กน้อย

ในตลาดสหรัฐฯ RAV4 จะถูกทำตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 176 แรงม้า hp แรงบิดสูงสุด 23.7 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะแบบซีเควนเชียล ให้อัตราเร่งที่ดีในรอบต่ำและประหยัดเชื้อเพลิง ส่วนเครื่องยนต์ V6 น่าจะถูกถอดออกไปจากสารบบค่อนข้างแน่ เพราะใหญ่โตและสิ้นเปลืองเกินไปสำหรับยุคปัจจุบัน

ในยุโรปทางเลือกจะหลากหลายกว่าด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร 149 แรงม้า bhp ส่วนดีเซลแบ่งเป็น 2 รุ่นคือ 2.0 ลิตร 122 แรงม้า bhp และ 2.2 ลิตร 148 แรงม้า bhp ระบบขับเคลื่อนเหมือนกันทุกตลาด มีทั้งขับ 2 ล้อหน้า และขับ 4 AWD โดยรุ่นขับหน้า EPA ประกาศออกมาแล้วว่า อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมืองอยู่ที่ 10.2 กม./ลิตร ไฮเวย์ 13.1 กม./ลิตร ส่วนรุ่น AWD ในเมือง 9.3 กม./ลิตร ไฮเวย์ 12.3 กม./ลิตร ถือว่าดุพอสมควรเลยทีเดียว

รุ่น AWD จะมีระบบ Dynamic Torque Control ให้ใช้งาน แบ่งการทำงานเป็น 3 โหมด ใช้ระบบตรวจจับการหมุนของพวงมาลัย เพื่อปรับการตอบสนองของตัวรถในขณะใช้งานโดยอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดแรก คือ Auto นั้น ระบบจะส่งกำลังไปที่เพลาหน้า และจะเปลี่ยนเป็นการใช้งานแบบ AWD ในยามที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อช่วยให้เกิดความประหยัดสูงสุด และลดการสึกหรอสำหรับการใช้งานในแบบปกติทั่วไปนั่นเอง

//image.free.in.th/z/ix/2013toyotarav402.jpg (//pic.free.in.th/id/0b8478f62bba808513a5ccb090268108)

ในโหมด Sport ระบบ AWD จะถูกเรียกใช้งานร่วมกับระบบ VSC มีเซนเซอร์จับอาการของพวงมาลัยและทิศทางของรถ เพื่อกระจายกำลังไปยังเพลาหน้า-หลังให้เหมาะสมที่สุดตามสถานการณ์ เช่นขณะเข้าโค้ง ระบบจะถ่ายกำลังไปยังล้อหลังเพื่อการยึดเกาะทีดี ปิดท้ายด้วยโหมด Lock ทำงานที่ความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ระบบจะเข้าสู่การทำงานแบบ full-time AWD โดยในขณะต้องการกำลังในการปีน 50% ของแรงบิดจะถูกส่งไปยังล้อหลัง เพื่อให้ผู้ขับสามารถผ่านอุปสรรคอย่างหลุมทรายหรือโคลนไปได้ (แต่ต้องไม่โหดมากนักแบบเส้นทาง 4WD แท้ๆ) ทั้งนี้โหมด Lock จะถูกเปลี่ยนเป็นโหมด Auto ให้อัตโนมัติ เมื่อความเร็วของรถเกิน 40 กม./ชม. ขึ้นไป

ห้องโดยสารถูกออกแบบภายใต้แนวคิดไม่สมมาตร (asymmetrical) ใช้ผู้ขับเป็นศูนย์กลางในการออกแบบจัดวางปุ่มควบคุมต่างๆ ตกแต่งด้วยหนังสีน้ำตาลสลับดำเดินด้ายสีขาว ให้ความรู้สึกหรูหราเมื่อแรกเห็น รุ่นพื้นฐาน RAV4 LE มากับเครื่องเสียงและจอ LCD ทัชสกรีนขนาด 6.1 นิ้ว ใครอยากสะดวกขึ้นด้วยเนวิเกเตอร์พร้อมระบบมัลติมีเดีย Entune ของ โตโยต้า ต้องขยับขึ้นไปเล่นรุ่นกลาง RAV4 XLE ขึ้นไป ซึ่งระบบจะทำงานผ่านชุดเครื่องเสียงพรีเมี่ยมของ JBL กำลัง 576 วัตต์ พร้อมเทคโนโลยี GreenEdge ช่วยลดการใช้กำลังไฟ

น่าเสียดายที่ระบบอิเลคทรอนิคสำคัญๆ ยังไม่ถึงยุคของการเป็นอุปกรณ์พื้นฐานติดรถ ดังนั้นใครที่อยากได้ระบบ (ซึ่งควรจะเป็นระบบพื้นฐานเสียที) อย่าง BSM - Blind Spot Monitor system เตือนจุดอับสายตาด้านข้างเวลาเปลี่ยนเลน และ RCTA - Rear Cross Traffic Alert เตือนให้ระวังพาหนะที่จะวิ่งตัดมาทางด้านหลังขณะถอย จะต้องจ่ายเงินเพิ่มสำหรับรุ่นท๊อป RAV4 Limited

ราคาและกำหนดการจำหน่ายที่แน่นอน โตโยต้า ยังไม่ระบุในเวลานี้ครับ สำนักข่าวต่างประเทศคาดกันว่า RAV4 น่าจะติดในลิสท์ของรถขายดีประจำปี 2013 แน่ ส่วนรุ่นฐานล้อยาวแบบเจนเนอเรชั่น 3 นั้น ต้องติดตามกันต่อไปว่ามีออกมาหรือไม่

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-12-2012, 08:17

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 6 ธันวาคม 2555

//upic.me/i/qv/2014-lamborghini-aventador-lp700-4-roadster-01.jpg (//upic.me/show/41684189)

2014 Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster นิชคาร์พร้อมจำหน่ายในไทย

ในตลาดโลก Lamborghini Aventador LP700-4 Roadster เพิ่งเริ่มจำหน่ายไปเมื่อเดือนมิถุนายน เพียง 4 เดือนถัดมา นิชคาร์ ก็พร้อมจำหน่าย Aventador Roadster เปิดประทุนในบ้านเราแล้ว โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โชว์รูม ลัมเบอร์กินี สยาม พารากอน

Aventador Roadster ติดตั้งหลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ 2 ชิ้น ผลิตแบบ RTM - Resin Transfer Moulding น้ำหนักน้อยกว่า 6 กก. ถอดเก็บด้วยมือ ออกแบบให้สามารถซ่อนไว้ในห้องสัมภาระด้านหน้าได้ เสาหลังออกแบบใหม่ให้รับกับชิ้นหลังคา กระจกบังลมชิ้นหลังเป็นแบบไฟฟ้า ฝาปิดห้องเครื่องยนต์เปลี่ยนมาเป็นแบบ 6 เหลี่ยมคู่ 2 ฝั่งวางซ้อนกัน เพื่อให้หยดน้ำฝนไหลออกไปทางด้านหลัง โดยยังสามารถโชว์ความสวยงามของเครื่องยนต์ V12 ได้ ล้อแม็กชุดใหม่ น้ำหนักเบาลง 10 กก. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3 วินาทีเท่าเดิม ความเร็วสูงสุด 350 กม./ชม.

ปิดท้ายความเปลี่ยนแปลงด้วย 3 เทคโนโลยีประหยัดน้ำมัน ซึ่ง ลัมเบอร์กินี รุ่นปี 2013 เป็นต้นไปจะได้ใช้งานทั้งหมด นั่นคือ 1.) ระบบ CDS - Cylinder Deactivation System หยุดการทำงานของบางสูบ ทำให้เครื่องยนต์ V12 ทำงานเท่ากับเครื่องยนต์ 6 สูบ ที่ความเร็วไม่เกิน 135 กม./ชม. ช่วยให้ประหยัดขึ้น 7% อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอยู่ที่ 6.2 กม./ลิตร จากเดิม 5.8 กม./ลิตร ลดอัตราการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในเสีย 20% จาก 398 เหลือ 370 กรัม/กม. แต่ต้องใช้งานที่ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 130 กม./ชม.

2.) ระบบ stop-start และ 3.) เพิ่มการจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ เช่น แอร์ ไฟหน้า วิทยุ หรืออื่นๆ ในขณะที่ระบบ stop-start ทำงานด้วยคาปาซิเตอร์ที่ ลัมเบอร์กินี ตั้งชื่อเฉพาะว่า supercaps ลดน้ำหนักจากการใช้แบตเตอรี่แบบเดิมๆ ได้ 3 กก. (ช้ากว่า i-ELOOP ของ Mazda6 ไปหนึ่งก้าว)

ใครสนใจสอบถามกันได้ที่ นิชคาร์ ครับ สยามพารากอน 02-610-9922-5 และ ศรีนครินทร์ 02-379-4422, 02-379-5111 ราคาจำหน่ายเปิดออกมาที่ 39.5 ล้านบาท

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

07-12-2012, 09:03

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 7 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/if/hondamotorexpo201201.jpg (//pic.free.in.th/id/38efe132c3bad135d528a3208510f931)

Motor Expo 2012 ผ่านครึ่งทาง ยอดขายเกือบ 40,000 คัน

ผ่านครึ่งทางของงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ยอดผู้เข้าชมงาน 979,891 คน ยอดจองรถรวม 38,633 คัน Honda ขึ้นนำ 9,110 คัน ตามด้วย Toyota 8,174 คัน และ Nissan 3,891 คัน ทีมผู้จัดมั่นใจจบงานยอดรวมทะลุเป้าที่วางไว้แน่นอน

นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 เผยว่า ยอดจองรถภายในงานครึ่งทาง (7 วัน) 38,633 คันนี้ ได้ทำลายสถิติยอดจองรถตลอดทั้งงานที่เคยทำไว้สูงสุดเมื่อปี 2553 จำนวน 33,053 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 220% เมื่อเทียบกับจำนวนวันเท่ากันของปีที่ผ่านมา (12,054 คัน) โดยเป็นรถเล็กราว 61% ของยอดจองทั้งหมด

"เราตั้งเป้ายอดจองรถในงานเอาไว้ที่ 50,000 คัน แต่ดูจากแนวโน้มที่ผ่านครึ่งทางของการจัดงาน มั่นใจว่าทะลุเป้าแน่นอน สำหรับยอดขายที่ถล่มทลายในครั้งนี้ ปัจจัยหลักมาจากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งประชาชนให้ความสนใจจองรถก่อนสิ้นสุดโครงการในวันที่ 31 ธันวาคมศกนี้"

"ค่ายรถยนต์รายใหญ่อย่างฮอนด้า ปีที่แล้วโรงงานได้รับความเสียหายหนักจากมหาอุทกภัย แต่เมื่อสถานการณ์เข้าสู่สภาวะปกติ ฮอนด้าก็กลับมาได้รับความนิยมเช่นเคย โดยล่าสุดเพิ่งเปิดตัวรถโฉมใหม่อย่าง Brio Amaze ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ทำให้ฮอนด้ามียอดจองสูงสุดในขณะนี้ ส่วนตลาดบิกไบค์ก็ขายดีไม่แพ้กัน ผ่านครึ่งทางทำยอดขายถึง 925 คัน"

ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในช่วงครึ่งทาง (29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม) มีดังนี้

• อันดับที่ 1 Honda ยอดจองรวมทั้งสิ้น 9,110 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 23.6 • อันดับที่ 2 Toyota ยอดจองรวมทั้งสิ้น 8,174 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 21.2 • อันดับที่ 3 Nissan ยอดจองรวมทั้งสิ้น 3,891 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 10.1 • อันดับที่ 4 Isuzu ยอดจองรวมทั้งสิ้น 3,114 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 8.1 • อันดับที่ 5 Mazda ยอดจองรวมทั้งสิ้น 2,574 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งร้อยละ 6.7

ในส่วนรถหรู ยอดจองก็ยังนับว่าน่าพอใจ โดย Mercedes-Benz มียอดทั้งสิ้น 803 คัน ตามด้วย BMW 668 คัน ขณะที่ฝั่งของผู้นำเข้าอิสระ ล่าสุดมียอดจองกว่า 200 คัน ด้านจักรยานยนต์ระดับพรีเมียม Honda ขายไปแล้วกว่า 233 คัน Kawasaki 231 คัน และ Ducati 191 คัน

สำหรับจำนวนผู้ชมเมื่อผ่านช่วงครึ่งทางของงาน ซึ่งประกอบด้วยวันทำงาน 4 วัน และวันหยุด 3 วัน มีประชาชนเข้าชมแล้วถึง 979,891 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงครึ่งทางของปีก่อนถึงร้อยละ 23.7 จึงคาดว่ายอดผู้ชมตลอดงานน่าจะทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1.6 ล้านคนอย่างแน่นอน •

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

10-12-2012, 09:04

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 10 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/im/chevysalesreport2012november01.jpg (//pic.free.in.th/id/31d0214be7efa070b83517f1bf01f2db)

Chevrolet เดินหน้าสร้างสถิติยอดขายสูงสุดอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2012

เชฟโรเลต ประเทศไทย ทุบสถิติยอดขายสูงสุดครั้งที่ 4 ในรอบปี 2555 ด้วยการกวาดตัวเลขมากเป็นประวัติการณ์ ที่ 7,360 คันในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเคยทำสถิติยอดขายครั้งล่าสุดไว้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

สถิติยอดขายสูงสุดของ เชฟโรเลต ในเดือนพฤศจิกายน เติบโตขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีที่แล้วถึง 212 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดขายสะสมตั้งแต่ต้นปีถึงเดือนพฤศจิกายน มีอัตราเติบโตอยู่ที่ 146 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2554 โดย Chevrolet Colorado ยังคงมียอดขายสูงสุดด้วยตัวเลข 2,986 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ยอดขาย Trailblazer อยู่ที่ 883 คัน เพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว

"โคโลราโด ยังคงนำยอดขายรถเชฟโรเลต ในตลาดเมืองไทย มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 6.4 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นรถกระบะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไทย เพราะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้มากที่สุดในกลุ่มรถรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปีนี้" มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวระหว่างงานแถลงข่าวเปิด บูธเชฟโรเลต ในงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2012

Chevrolet Sonic มีลูกค้าจับจอง 2,019 คันในเดือนพฤศจิกายน ส่วน Captiva ยังคงเดินหน้าสร้างยอดขาย และเพิ่มส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง มีอัตราเติบโตถึง 14 เปอร์เซ็นต์ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าคู่แข่งจะเปิดตัวรถในระดับเดียวกันออกสู่ตลาดก็ตาม

ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชฟโรเลต มีอัตราขยายตัวต่อเนื่อง ยอดขายในเดือนพฤศจิกายนรวมทั้งสิ้น 8,493 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 3 เปอร์เซ็นต์ เชฟโรเลต ยังเตรียมดำเนินแผนการสร้างการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ ด้วยการเปิดตัวศูนย์ผู้แทนจำหน่ายในประเทศลาว ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ พร้อมกับจะเปิดตัว Sonic และ Orlando รุ่นใหม่ในมาเลเซีย เพื่อพัฒนาสายผลิตภัณฑ์ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น

//image.free.in.th/z/ie/2012motorexpochevrolet04.jpg (//pic.free.in.th/id/572b394e9a5129317b3d6a9509875bb6)

การเติบโตของ เชฟโรเลต ในปี 2555 โดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งมียอดขายรวมตั้งแต่ต้นปี 67,012 คัน ไม่ได้เป็นผลลัพธ์จากผลิตภัณฑ์อันแข็งแกร่ง และการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังได้แรงเกื้อหนุนจากการบริการที่ดีเยี่ยม พิสูจน์ได้จากการได้รับยกย่องในผลสำรวจดัชนีความพึงพอใจลูกค้าในด้านการขาย และการบริการของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำปี 2555

เชฟโรเลต ยังคว้าสองรางวัลธุรกิจยานยนต์ยอดนิยมในด้านภาพลักษณ์หรือ Thailand Automotive Quality Awards(TAQA) - Outstanding Image 2012ในประเภท การขับขี่สนุกและควบคุมการขับขี่ได้แม่นยำ จากผลสำรวจความพึงพอใจของลูกค้าทั่วประเทศ ซึ่งจัดทำขึ้นโดยความร่วมมือของ บริษัท คัสต้อม เอเซีย จำกัด, บริษัท สื่อสากล จำกัด ผู้จัดงานมอเตอร์เอ็กซ์โป หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ และสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ โดยริเริ่มทำการสำรวจตั้งแต่ปี 2545 เป็นต้นมา

สองรางวัลล่าสุดที่ เชฟโรเลต ได้รับนั้น ตอกย้ำคุณภาพการขับขี่ในสไตล์ยุโรป และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เชฟโรเลต ในการผลิตรถที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะและการควบคุมอันแม่นยำ

"เราได้รับทั้งหมดสี่รางวัลแล้วในปีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพอันยอดเยี่ยมทั้งในด้านการดูแลลูกค้าและผลิตภัณฑ์ของเรา" มร. อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

"สี่รางวัลที่เราได้รับ เป็นการต่อยอดความสำเร็จในการสร้างสถิติยอดขายสูงสุดประจำเดือนถึงสี่ครั้งในปี 2555 เราเชื่อมั่นเต็มที่ว่า จะประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องภายในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป และสามารถส่งท้ายปีด้วยการทำยอดขายสูงสุด"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

12-12-2012, 08:29

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 12 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/im/testdrivehondacitycng01.jpg (//pic.free.in.th/id/1bccf38775adb0803e1ddd48443b1f8d)

2012 Motor Expo สรุปยอดจองรถตลอดงาน 85,904 คัน ยอดผู้ชมกว่า 1.65 ล้าน

baปิดฉากแล้วสำหรับงาน มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 29 ยอดจองกว่า 8.5 หมื่นคัน ยอดผู้ชมกว่า 1.65 ล้านคน พร้อมสร้างตัวเลขเงินสะพัดในงานกว่า 7.6 หมื่นล้านบาท โดยนาย ขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานเผยว่า

ba"งานในปีนี้ประสบความสำเร็จตามความคาดหมาย มีจำนวนผู้เข้าชมงานสูงถึง 1,650,124 คน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 25.6% ยอดจองรถตลอด 12 วัน รวม 85,904 คัน ซึ่งเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ 50,000 คัน สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานได้กว่า 76,000 ล้านบาท รวมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ รถมือสอง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง"

ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน 5 อันดับแรก • อันดับ 1 Honda มียอดจองทั้งสิ้น 19,299 คัน • อันดับ 2 Toyota มียอดจองทั้งสิ้น 18,878 คัน • อันดับ 3 Nissan มียอดจองทั้งสิ้น 8,819 คัน • อันดับ 4 Isuzu มียอดจองทั้งสิ้น 6,448 คัน • อันดับ 5 Mazda มียอดจองทั้งสิ้น 6,155 คัน หมายเหตุ: ลำดับตำแหน่งไม่เปลี่ยนแปลงจากช่วงตึ่งทางของงาน

รถยนต์หรู - พรีเมี่ยม - รถนำเข้า • อันดับ 1 Mercedes-Benz มียอดจองทั้งสิ้น 1,580 คัน • อันดับ 2 BMW มียอดจองทั้งสิ้น 1,299 คัน หมายเหตุ: ผู้นำเข้าอิสระ มียอดจองรวม 242 คัน

สำหรับข้อมูลย่อยอื่นๆ ทางผู้จัดได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ร่วมรายการ ซื้อรถ ชิงรถ ในปีนี้ พบว่ารถยนต์นั่งมียอดจองคิดเป็นสัดส่วน 74.0% ของยอดจองทั้งหมด ตามมาด้วยรถปิคอัพ 14.1% และรถประเภทอื่น 11.9%

ทั้งนี้ยอดจองทั้งหมดเป็นยอดจองรถที่ได้สิทธิ์คืนภาษีรถคันแรก 75.1% รถรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุด ได้แก่ Honda City, Suzuki Swift และ Nissan Almera ด้านจักรยานยนต์ประเภทบิ๊กไบค์/พรีเมี่ยม มียอดจองรวม 1,805 คัน นำโดย Kawasaki ขายได้ 498 คัน, Honda 431 คัน และ Ducati 319 คัน •

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-12-2012, 09:05

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 ธันวาคม 2555

New Toyota Vios ได้รับการอนุมัติสิทธิภาษีรถคันแรกแล้ว

โตโยต้า ประเทศไทย ประกาศ Toyota Vios ใหม่ ได้รับสิทธิภาษีรถยนต์คันแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทาง โตโยต้า ได้ดำเนินการทุกอย่างตามข้อกำหนดของกรมสรรพสามิตอย่างครบถ้วน ในการยื่นขอสิทธิ์ภาษีรถยนต์คันแรก โดยรถที่จะได้สิทธิรถคันตามตามเงื่อนไขของกรมสรรพสามิต ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท เครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตร เป็นรถที่ประกอบในประเทศ มีการประกอบรถจริงบนสายพานการผลิต พร้อมทั้งได้มีการเสียภาษีในปี 2555 ซึ่ง Vios ใหม่ได้ผ่านการตรวจสอบ และได้รับการอนุมัติจากกรมสรรพสามิตเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยลูกค้าที่ซื้อ Vios ใหม่ สามารถตรวจสอบการได้รับสิทธิคืนภาษีรถยนต์คันแรกได้ที่เว็บไซต์ของกรมสรรพสามิต //firstcar.excise.go.th/

//image.free.in.th/z/ib/newtoyotaviosfirstcarbuyertax01.jpg (//pic.free.in.th/id/234ab4129073b53d463da2d0c4a68a27)

นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ให้ข้อมูลว่า "การที่เรายังไม่สามารถเผยโฉมรถวีออส ใหม่ สู่สาธารณชนได้ในช่วงเวลานี้ เนื่องจากรถยนต์วีออสนั้น มีจำหน่ายอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ ซึ่งในการผลิตรถยนต์แต่ละโมเดลของโตโยต้า จะมีการกำหนดแผนการดำเนินงานในระยะยาวไว้ล่วงหน้าแล้ว ทำให้การดำเนินงานทุกอย่างต้องเป็นไปตามแผนที่วางเอาไว้"

"การเผยโฉมรถยนต์วีออสรุ่นใหม่ในช่วงเวลานี้ อาจจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน ตลอดจนการจำหน่ายรถยนต์วีออสรุ่นปัจจุบัน ที่ยังคงมีการจำหน่ายอยู่ในประเทศอื่นๆ ได้"

"สำหรับการที่ทางโตโยต้าเปิดรับจองรถยนต์วีออสรุ่นใหม่ให้แก่ลูกค้าในเวลานี้นั้น เนื่องจาก วีออส เป็นรถยนต์รุ่นยอดนิยมของคนไทย โดยมียอดค้างจองที่สูงมาก ดังนั้นเพื่อเป็นการดูแลลูกค้าโตโยต้า ที่มีความต้องการจะซื้อรถวีออสจริงๆ เราจึงได้เปิดรับจองรุ่นใหม่เพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า อย่างไรก็ตาม ทางโตโยต้าก็ได้จัดทำข้อมูลผลิตภัณฑ์พร้อมราคาโดยละเอียดของรถยนต์ วีออส ใหม่ ให้กับลูกค้าที่สนใจ โดยสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลรายละเอียดได้ที่ โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า 352 แห่ง ทั่วประเทศ"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

20-12-2012, 10:01

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 20 ธันวาคม 2555

//image.free.in.th/z/in/mazdatoexpanddealersnetwork01.jpg (//pic.free.in.th/id/b7b4ba07b56f938a8ae415892cd05658)

Mazda เดินหน้าขยายเครือข่าย เปิดศูนย์ต่อเนื่องคลุมทุกจังหวัดและเขตหลักในกรุงเทพ

มาสด้า เปิดโชว์รูมและศูนย์บริการแห่งใหม่ ขยายธุรกิจเข้าไปยังแหล่งชุมชนที่มีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะย่านเอกมัย ทองหล่อ แต่งตั้ง บิซ มอเตอร์ รวมทั้งรุกจังหวัดที่ใหญ่สุด และเป็นแหล่งรวมเศรษฐกิจของอีสานตอนล่าง คือ มาสด้า อุบลพิจิตรเพชร เป็นผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรายใหม่ล่าสุด พร้อมเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ มาสด้า

มร. โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "การขยายเครือข่ายโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการของมาสด้าที่เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ จะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไป ด้วยความเชื่อมั่นอย่างสูงของพันธมิตรที่พร้อมร่วมมือทางธุรกิจ และพร้อมเติบโตไปกับมาสด้า โดยเฉพาะในเขตชุมชน และแหล่งรวมของเศรษฐกิจที่มาสด้ากำลังรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ด้วยนโยบายการวางแผนการลงทุน และการดำเนินธุรกิจที่เป็นรูปธรรม รวมถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดรถยนต์ ส่งผลให้มาสด้าสามารถแสดงศักยภาพ เตรียมขยายโชว์รูมให้ครอบคลุมในทุกพื้นที่ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ"

"เป้าหมายที่สำคัญของมาสด้าคือ การขยายเครือข่ายไปสู่อำเภอและหัวเมืองหลักๆ ในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และบนถนนสายหลักสำคัญๆ ที่เรากำลังจะรุกเข้าเจาะในแต่ละพื้นที่ และจำกัดขอบเขตการบริการให้กระชับมากขึ้น เพื่อล้อมกรอบการบริการให้กินพื้นที่แคบลง ซึ่งจะส่งผลให้เราสามารถให้บริการลูกค้าเพิ่มสูงขึ้น ภายใต้นโยบายการสร้างความเป็นปึกแผ่นเดียวกัน หรือ One Mazda เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศไทย"

สำหรับการพิธีเปิดตัวโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการมาสด้าแห่งใหม่ทั้ง 2 แห่ง อย่างเป็นทางการในครั้งนี้ อยู่ภายใต้คอนเซ็ปต์รูปแบบโชว์รูมใหม่ภายใต้ชื่อ MCI หรือ Mazda Corporate Identity ซึ่งเป็นภาพลักษณ์โฉมใหม่ของโชว์รูม มาสด้า เน้นการสื่อสารแบรนด์ และความทันสมัยในการออกแบบเป็นหลัก เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ ซูม-ซูม แบบยั่งยืนของ มาสด้า ทั่วโลก (Sustainable Zoom-Zoom)

การเปิดโชว์รูม มาสด้า ย่านเอกมัยและที่จังหวัดอุบลราชธานีใหม่ในครั้งนี้ อยู่ในแผนนโยบายการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายของ มาสด้า อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ครบทั้งหมด 155 แห่ง ภายในหน้า ทั้งนี้เพื่อเป็นการรองรับการให้บริการด้านการขาย และการบริการหลังการขายที่ได้มาตรฐาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่ง มาสด้า ตระหนักดีในการให้บริการที่เป็นเลิศ และการสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า

นางแก้วใจ แมคโดนัล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทไทยรุ่ง เทรดดิ้ง จำกัด กล่าวว่า ด้วยทำเลที่ตั้งที่มีความสำคัญ มาสด้า บิซ มอเตอร์ ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 65 ซึ่งเป็นย่านใจกลางเมืองแหล่งรวมธุรกิจที่สำคัญของกรุงเทพฯ เป็นโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นอาคารขนาดใหญ่ 2 ชั้น มีพื้นที่เกือบ 2 ไร่ ที่เพียบพร้อมไปด้วยทีมงานที่บริหารงานแบบมืออาชีพ ทั้งด้านการขาย การบริการ ที่ปรึกษาการขาย ช่างเทคนิค พร้อมศูนย์บริการที่สามารถให้บริการแบบครบวงจรครอบคลุมพื้นที่ทั้งย่านเอกมัย พระโขนง คลองตัน พระราม 4 ทองหล่อ มุ่งเน้นคุณภาพด้านการบริการพร้อมเอาใจใส่ดูแลลูกค้าด้วยความเป็นเลิศ รวมทั้งทีมงานที่ใส่ใจในคุณภาพของการบริการ เตรียมรับประชาคมอาเซียน หรือ AEC สร้างความพร้อมด้านคุณภาพของบุคลากรก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ในประเทศ และก้าวสู่เวทีระดับสากล เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจรถยนต์ที่กำลังเบ่งบาน โดยเปิดให้บริการทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตั้งแต่เช้า และปิดบริการถึง 3 ทุ่ม เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มพนักงานออฟฟิศและนักธุรกิจ

มร. ยูกิ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะบุกใจกลางเมืองหลวงแล้ว มาสด้า ยังเดินหน้าขยายเครือข่ายสู่ภาคอีสาน ด้วยการเปิดตัวแนะนำผู้จำหน่ายแห่งใหม่ล่าสุดของภาคอีสานตอนล่าง และถือเป็นโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ มาสด้า จังหวัดอุบลราชธานี ภายใต้ชื่อ อุบลพิจิตรเพชร มอเตอร์คาร์ จำกัด บริหารงานภายใต้การกำกับดูแลของ คุณสมชาย และ คุณไพวรรณ สร้างถาวร ซึ่งเป็นนักธุรกิจที่มีสายสัมพันธ์อย่างแน่นหนากับชาวอุบลฯ และเป็นผู้คลุกคลีอยู่กับลูกค้ายาวนาน ได้รับความไว้วางใจเป็นอย่างสูงจากชาวอุบลฯ และชาวอำนาจเจริญ

การเปิดโชว์รูมแห่งใหม่นี้ ถือเป็นโชว์รูมที่มีขนาดใหญ่ มีพื้นที่ให้บริการมากที่สุดในประเทศไทย และยังก้าวขึ้นมาเป็นผู้จำหน่ายที่มียอดขายติดอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉลี่ยต่อเดือนมากกว่า 100 คัน ด้วยความรู้ความสามารถ ผนวกกับการทำงานแบบเข้าถึงลูกค้า บริการประทับใจ เข้าไปในทุกหย่อมหญ้า ช่วยให้ มาสด้าอุบลฯ และ มาสด้า อำนาจเจริญ กลายเป็นโชว์รูมที่อยู่ในใจของชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำโขง

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasth

Aeroklas

21-12-2012, 08:33

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2555

//upic.me/i/eq/honda.jpg (//upic.me/show/42104946)

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย - มอบรถแพทย์ดัดแปลงให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ รวมมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท - สานต่อพันธกิจในการมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติ

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิ ฮอนด้า ประเทศไทย สานต่อพันธกิจในการมอบความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติ พร้อมส่งมอบนวัตกรรมยานยนต์ดัดแปลงจากรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของ ฮอนด้า ที่ผลิตขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อใช้ในการปฏิบัติภารกิจของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน รวม 3 รุ่น ได้แก่ รถพยาบาล, รถจักรยานยนต์พยาบาล และรถอำนวยการสื่อสาร รวมเป็นมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท แก่ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อสนับสนุนในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

รถยนต์ฮอนด้า 3 รุ่น รวมทั้งสิ้น 21 คัน ประกอบด้วยรถพยาบาล ดัดแปลงจาก Honda Stepwgn Spada จำนวน 10 คัน ซึ่งฮอนด้าได้และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้ร่วมกันพัฒนาขึ้น รถจักรยานยนต์พยาบาล หรือ Motorlance ดัดแปลงจาก Honda CBR 250R จำนวน 10 คัน เป็นรถที่มีสมรรถนะสูง ปราดเปรียวคล่องตัว และสามารถเข้าถึงผู้บาดเจ็บได้อย่างทันท่วงที ในภาวะการจราจรติดขัดหรือในพื้นที่คับแคบ และรถตรวจการณ์ติดอุปกรณ์สื่อสาร ดัดแปลงจาก Honda CR-V ใหม่ จำนวน 1 คัน ซึ่งเป็นรถตรวจการณ์พร้อมติดตั้งอุปกรณ์สื่อสาร สัญญาณไฟไซเรนและอุปกรณ์อื่นๆ อย่างครบครัน

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการผู้จัดการ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย และรองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากการบรรลุข้อตกลง ร่วมเป็นเครือข่ายขับเคลื่อนภารกิจ เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามเกิดภัยพิบัติ ร่วมกับสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่จะขอส่งมอบยานยนต์ทั้งรถพยาบาล รถจักรยานยนต์พยาบาล และรถอำนวยการ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารให้กับสถาบันฯ โดยมุ่งหวังว่า ยานยนต์ทั้งหมดนี้จะช่วยเสริมให้การปฏิบัติภารกิจของระบบการแพทย์ฉุกเฉิน เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุด"

"ในเบื้องต้นจะใช้กับโรงพยาบาลเครือข่ายในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต และบรรเทาความรุนแรง จากการประสบอุบัติภัยของประชาชนชาวไทยให้ได้มากที่สุด สมดังเจตนารมณ์ของกองทุนฮอนด้าฯ ที่จัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย เพื่อร่วมกันช่วยเหลือประชาชนชาวไทย ในยามประสบภัยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที"

นายแพทย์ประจักษวิช เล็บนาค รักษาการเลขาธิการ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กล่าวว่า "เป็นเรื่องน่ายินดี ที่กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทยตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมระบบการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศ พร้อมมอบรถพยาบาล รถจักรยานยนต์พยาบาล และรถอำนวยการสื่อสารเพื่อสนับสนุนการทำงานของสถาบันฯ ซึ่งรถพยาบาลฉุกเฉินของฮอนด้า จะกระจายไปประจำการในพื้นที่ที่รถพยาบาลยังไม่เพียงพอต่อจำนวนประชากร และความต้องการ และรถจักรยานยนต์พยาบาล จะนำไปใช้ปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด"

"จากสถิติปี 2555 พบว่า มีการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินภายในระยะเวลา 10 นาที (Response time) เป็นจำนวนถึง 1,052,784 ครั้ง คิดเป็น 84.5% ของการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินทั้งหมด 1,245,858 ครั้ง การสนับสนุนรถพยาบาลและรถจักรยานยนต์พยาบาลของฮอนด้า จึงเป็นการเพิ่มอัตราการช่วยเหลือผู้เจ็บป่วยฉุกเฉินภายในระยะเวลา 10 นาทีได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ และยังเป็นการลดอัตราการสูญเสียชีวิตและพิการได้"

"ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่มีคุณภาพ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ควบคู่กับการตอบแทนสิ่งดีๆ เพื่อคนไทย เพื่อสังคมไทย ดังเจตนารมณ์ของฮอนด้าในการสร้างสรรค์คุณค่า เพื่อเป็นองค์กรที่สังคมไทยต้องการให้ดำรงอยู่ตลอดไป" นายพิทักษ์ กล่าวเพิ่มเติม

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย

กลุ่มบริษัทฮอนด้าในประเทศไทย ประกอบด้วย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด, บริษัท ไทยฮอนด้า แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด และ บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด ได้ร่วมกันประกาศจัดตั้ง กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้การดำเนินงานของ มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2555 ซึ่งเป็นวันเปิดเดินสายการผลิตอีกครั้งที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ

กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเตรียมความพร้อมในการมอบความช่วยเหลือฉุกเฉินให้กับประชาชนไทย ในยามที่ประเทศไทยอาจเกิดเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง ตลอดจนกิจกรรมต่างๆ ที่ดำเนินงานภายใต้กองทุนดังกล่าวได้อย่างทันท่วงที โดยมอบเงินสมทบ 1,000 บาท ต่อการขายรถยนต์หนึ่งคัน, 100 บาทต่อการขายรถจักรยานยนต์หนึ่งคัน และ 10 บาทต่อการขายเครื่องยนต์อเนกประสงค์ 1 เครื่อง ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 คาดว่า กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย จะมีเงินสะสมซึ่งได้จากเงินสมทบจากการขายผลิตภัณฑ์รวม 291 ล้านบาท

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

24-12-2012, 09:57

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 24 ธันวาคม 2555

[img=//images.temppic.com/24-12-2012/images_vertis/1356317826_0.49369500.jpg] (//www.temppic.com/img.php?24-12-2012:1356317826_0.49369500.jpg)

2013 Qoros GQ3 ซีดานหรูจากจีนเตรียมลุยยุโรป

โครอส ออโต้ บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายล่าสุดจากเซี่ยงไฮ้ เผยภาพชุดแรกของรถยนต์ซีดานขนาดคอมแพคท์รุ่นแรกของค่ายในชื่อ Qoros GQ3 เตรียมทำตลาดภายในประเทศ และจะส่งไปลุยตลาด C-segment ยุโรปภายในช่วงปี 2013 ด้วย

โครอส ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยเป็นบริษัทร่วมทุนแบบ 50:50 ระหว่าง Chery Automobile และบริษัทประเภท holding company จากอิสราเอล Israel Corporation ชื่อ โครอส นำมาจากภาษากรีก (khoros) ตามข้อมูลมีความเดียวกับคำว่า 'Chorus' แต่กินความหมายกว้างกว่าการร้องประสานสานเสียง โดยรวมถึงกลุ่มนักเต้นรำและคณะนักดนตรีด้วย

ช่วงแรก โครอส ใช้ชื่อบริษัทว่า CQAC หรือ Chery Quantum Automotive Corporation แต่ภายหลังได้ตัดสินใจยกชื่อ เชรี่ ออกไป แล้วเปลี่ยนชื่อเป็น Qoros Auto Co., Ltd. ในปี 2011 โดยตัวอักษร 'Q' ที่ใช้ออกเสียงแทน 'โค' นั้นหมายถึง Quality

GQ3 ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้อยู่ในระดับเดียวกับ Volkswagen Jetta และ Ford Focus การออกแบบอยู่ภายใต้การควบคุมของ Mr. Gert Volker Hildebrand อดีตผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ บีเอ็มดับเบิลยู หนึ่งในผู้ดูแลการออกแบบ MINI แฮทช์แบคยุคใหม่ในปี 2001 ซึ่งให้ความเห็นเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า งานออกแบบรถยนต์เป็นหนึ่งในงานที่ดีที่สุดในโลก แต่น้อยคนนักที่จะมีโอกาสได้ออกแบบสัญลักษณ์ของแบรนด์ ได้ถ่ายทอดมุมมองและความฝัน ผ่านการออกแบบรถยนต์คันแรก และเป็นรุ่นแรกของตระกูล

ชื่อ โครอส มีปัญหามาก่อนหน้านี้พอสมควร เพราะ เกีย เตรียมเปิดตัวซีดานขับหลังรุ่นใหม่ Kia Quoris ในยุโรป ซึ่ง เกีย บอกว่าชื่อ ควอริส นั้นเป็นการรวมคำระหว่าง Core กับ Quality แต่ โครอส กังวลว่าชื่อนี้ใกล้เคียงกันเกินไป และอาจสร้างความสับสนในตลาดต่างประเทศได้ โดยเฉพาะกับการเปิดตัวเป็นครั้งแรกซึ่งต้องสร้างการจดจำให้ดีที่สุด โครอส จึงยื่นเรื่องนี้กับศาลเยอรมันและชนะคดีนี้ไป... ผู้แปลคิดว่าชื่อรุ่นที่เป็นรหัสนั่นแหละที่จำยาก ซึ่งรถยนต์จากประเทศจีนชอบใช้กันนัก

ที่แน่ๆ การขึ้นโรงขึ้นศาลก็ถือว่าช่วยให้ชื่อแบรนด์ Qoros ได้รับความสนใจในวงกว้างขึ้นมาระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม เรายังไม่รู้ข้อมูลทางเทคนิคที่แน่ชัดของซีดานคันนี้ แต่หากดูจากภาพจะเห็นว่า การออกแบบเน้นความเรียบหรูเป็นหลักทั้งภายนอกและภายใน ไฟท้ายต้องจินตนาการเอาจากภาพสเกทช์ไปก่อน เบื้องต้นจะทำคตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ส่วนมาตรฐานความปลอดภัย โครอส เคลมว่า GQ3 อยู่ในระดับ 'สูงสุด'

รายละเอียดเพิ่มเติม กลับมาอัพเดทกันอีกครั้งหลังเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน 2013 Geneva Motor Show เดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ และ 2013 Shanghai Auto Show ครับ

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

25-12-2012, 09:13

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 25 ธันวาคม 2555

//upic.me/i/42/toyota-botanical-garden-observatory-01.jpg (//upic.me/show/42220052)

Toyota มอบสวนพฤกษศาสตร์หอดูดาวฯ มูลค่า 18 ล้านบาท เพิ่มแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แห่งใหม่แก่จังหวัดฉะเชิงเทรา

นายนินนาท ไชยธีรภิญโญ รองประธานกรรมการ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เป็นผู้แทนองค์กรในการส่งมอบ 'สวนพฤกษศาสตร์หอดูดาว พันธุ์พืชกินยอด กินใบ พันธุ์พืชในพระพุทธศาสนาและพืชกินผลหายาก' โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นแหล่งศึกษาข้อมูลพันธุ์พืชกินได้ และพันธุ์พืชที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นสถานที่พักผ่อนแก่ประชาชนทั่วไป รวมมูลค่า 18 ล้านบาท

ภายในงานได้รับเกียรติจาก นายเริงศักดิ์ มหาวินิจฉัยมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา และ นายประพนธ์ อิสสริยะกุล ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) เป็นผู้รับมอบ ณ บริเวณ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ตำบลวังเย็น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2555

สวนพฤกษศาสตร์หอดูดาว พันธุ์พืชกินยอด กินใบ พันธุ์พืชในพระพุทธศาสนาและพืชกินผลหายาก ตั้งอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ณ บริเวณโดยรอบหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ซึ่งเป็นหอดูดาวส่วนภูมิภาค ในเขตภาคกลางตอนล่าง และภาคตะวันออก โดย โตโยต้า ได้สนับสนุนการจัดสร้างสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ด้วยงบประมาณจำนวน 18 ล้านบาท ครอบคลุมพื้นที่ 18 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงภูมิทัศน์ภายในบริเวณหอดูดาวส่วนภูมิภาค ให้มีความสวยงาม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ รวมถึงเป็นแหล่งศึกษาองค์ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์พืชกินได้ และพันธุ์พืชที่มีความเกี่ยวโยงกับพระพุทธศาสนา จากการรวบรวมข้อมูลจากทุกภูมิภาคของประเทศไทย จำนวนรวมกว่า 300 ชนิด เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เข้าศึกษาต่อไป

นายนินนาท กล่าวว่า "ตลอด 50 ปี ที่โตโยต้าได้เข้ามาดำเนินงานในประเทศไทย เราได้ยึดนโยบาย ที่ว่าด้วยการร่วมเติบโตเคียงข้างกับทุกชุมชนที่เราได้ไปดำเนินธุรกิจ และจากการที่จังหวัดฉะเชิงเทรามีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ในการสนับสนุนให้โตโยต้าได้มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ เรามุ่งมั่นที่จะพัฒนาทั้งในด้านเศรษฐกิจภายในชุมชน พัฒนาทักษะแรงงานเพื่อสร้างอาชีพ และคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรอบโรงงาน ตลอดจนการสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ เพื่อเพิ่มความสุขแก่พี่น้องชาวฉะเชิงเทราไปพร้อมๆ กัน"

"โตโยต้าหวังว่า สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้จะเป็นประโยชน์แก่จังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งในด้านการพัฒนาองค์ความรู้ด้านพันธุ์พืช การพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนมีส่วนร่วมในการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดต่อไป"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

02-01-2013, 08:48

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 2 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/ii/datsunbackwithladaplatform01.jpg (//pic.free.in.th/id/14153af4174bd6cbef3e0700cdb4390b)

DATSUN เตรียมคืนสู่ตลาดโลกอีกครั้งในฐานะแบรนด์ราคาประหยัด

หลังยุติสายการผลิตไปกว่า 30 ปี นิสสัน เตรียมนำชื่อ ดัทสัน กลับมาทำตลาดโลกอีกครั้งในฐานะแบรนด์รถราคาประหยัด โดยจะใช้แพลทฟอร์ม Lada ของรัสเซียเป็นพื้นฐานการผลิต เนื่องจากในเดือนพฤษภาคม 2012 Renault-Nissan Alliance ได้ซื้อหุ้นเพิ่มเติมจากบริษัทร่วมทุนรายใหญ่ของรัสเซีย ซึ่งทำให้ตัวเลขกรรมสิทธิ์ใน AvtoVAZ ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ Lada เพิ่มขึ้นเป็น 51.01% โดยแผนงานในครั้งนี้ เรโนลท์-นิสสัน เตรียมเทเงินลงทุนปรับปรุงสายการผลิตเพิ่มอีกราว 750 ล้านดอลลาร์

Mr. Colin Dodge รองประธานบริหาร นิสสัน ยุโรป ให้ข่าวกับ Automotive News Europe ว่า ดัทสัน 2 รุ่นใหม่ ที่เตรียมเผยโฉมในช่วงกลางปี 2014 จะใช้แพลทฟอร์มของรถแฮทช์แบค 5 ประตู Lada Kalina รุ่นปี 2013 เป็นพิ้นฐานในการผลิต แม้จะใช้ชิ้นส่วนและระบบต่างๆ ร่วมกันเกิน 50% ก็ตาม ทว่ารูปแบบตัวถังและการออกแบบภายในที่แตกต่าง จะทำให้ลูกค้า (ในรัสเซีย) ไม่รู้สึกว่ากำลังขับ Lada อยู่เลย

ทั้งนี้ ดัทสัน รุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่นจะเริ่มจำหน่ายในรัสเซีย, อินเดีย และอินโดนีเซีย ราวกลางปี 2014 ส่วนรุ่นที่ 3 จะเผยโฉมในปี 2015 พร้อมทั้งเตรียมขยายขอบเขตการจำหน่ายไปยังตลาดอื่นๆ ด้วย

ด้านราคาจำหน่าย Mr. Carlos Ghosn ซีอีโอคนสำคัญของ นิสสัน ให้ข้อมูลกับ Wall Street Journal ว่า ราคาเริ่มต้นของ ดัทสัน ใหม่ อาจจะเริ่มต้นที่ราวๆ 2,300 ยูโร หรือประมาณ 9.2 หมื่นบาท เท่านั้น โดยราคานี้ ดัทสัน ตั้งเอาไว้เพื่อแข่งขันกับรถราคาประหยัดจากประเทศจีนโดยเฉพาะ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เรโนลท์-นิสสันก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดมาไว้ในมือ เพราะชื่อชั้นของ 'ดัทสัน' สามารถขายได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว โดยการการันตีของแบรนด์แม่อย่าง นิสสัน

Mr. Ghosn เจาะจงแผนการตั้งไลน์ผลิต ดัทสัน ในเอเซียไปที่อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดที่มีอัตราการเติบโตอย่างมั่นคงที่สุดตลาดหนึ่งในภูมิภาคนี้ และสอดรับกับโครงการ LCGC หรือ low-cost and green car program ของรัฐบาลอินโดนีเซียพอดี โดยมีตัวเลขเงินลงทุนเพิ่มเติมประมาณ 396 ล้านดอลลาร์

จาก DAT สู่ Datson และการปรากฏนามของ Datsun

หลังการก่อตั้งบริษัท Kaishinsha Motor Car Works ของ มร. มาสุจิโระ ฮาชิโมโตะ ในปี 1911 บริษัท ไคชินฉะ ได้ผลิตรถยนต์คันแรกในชื่อ DAT โดยเป็นการรวมตัวอักษรของ 3 ผู้ลงทุนหลัก คือ D - มร. เดน เคนจิโระ, A - มร. อาโอยามะ โรขุโระ และ T - มร. ทาเคอุจิ ไมทาโระ

Kaishinsha Motor Car Works ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Kaishinsha Motorcar Co., Ltd. ในปี 1918 จากนั้นจึงเปลี่ยนมาเป็น DAT Motorcar Co. ในปี 1925

ชื่อ ดัทสัน หรือเดิมคือ Datson ที่สะกดด้วย 'son' ถูกใช้เป็นครั้งแรกในปี 1931 มีความหมายโดยนัยว่า 'Son of DAT' เพื่อแยกการทำตลาดรถรุ่นใหม่ที่มีขนาดตัวเล็กลงกว่า DAT รุ่นปกติ จากนั้น Nissan Motor Co., Ltd. ซึ่งเข้าครอบครองกิจการของ DAT Motorcar ในปี 1934 ได้เปลี่ยนตัวสะกดจาก Datson มาเป็น Datsun เนื่องจากคำว่า son ไปออกเสียงตรงกับคำที่มีความหมายว่า สูญเสีย หรือ ขาดทุน ( 損 ) ในภาษาญี่ปุ่น อีกทั้งการเปลี่ยนเป็นคำว่า sun ซึ่งหมายถึงดวงอาทิตย์ ยังตรงกับสัญลักษณ์ที่ถูกใช้ในธงชาติของญี่ปุ่นด้วย

รถยนต์รุ่นสุดท้ายที่ใช้ชื่อ ดัทสัน จำหน่ายในญี่ปุ่นคือ ปิคอัพ 1 ตัน Nissan Datsun หรือ D22 Series เจนเนอเรชั่นแรก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ Nissan Big M Frontier ในปี 1997 นั่นเอง

ในบ้านเรา นิสสัน เพิ่งประกาศแผนลงทุน 11,000 ล้านบาท สำหรับเปิดโรงงานใหม่ เพื่อเพิ่มกำลังการผลิต โดยจะเริ่มเดินเครื่องในเดือนสิงหาคม 2557 ตรงตามกรอบเวลาของ ดัทสัน 2014 พอดี งานนี้ต้องรอดูกันต่อไปว่า ในแผนการทำตลาดโลกของ นิสสัน/ดัทสัน ปี 2015 จะมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยหรือไม่

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

03-01-2013, 10:11

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 3 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/iw/626584topicix0.jpg (//pic.free.in.th/id/b4b4785b31de39f5c0da9b0d36cebdd8)

ปิดโครงการรถคันแรกทะลุ 1.3 ล้านราย !!!

นายสมชายพูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการรถคันแรกที่ได้ดำเนินโครงการตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 54-31 ธ.ค. 55 มีผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิ1.25 ล้านราย เป็นรถยนต์นั่ง 739,861 คัน กระบะ 258,544 คัน รถยนต์นั่งที่มีกระบะหรือดับเบิลแค็บ 257,278 คันโดยคาดว่าตัวเลขหลังจากสิ้นสุดโครงการดังกล่าว เมื่อรวมกับผู้ที่ยื่นผ่านอินเตอร์เน็ตซึ่งจะปิดยอดเวลา 24.00 น.ของคืนวันที่ 31 ธ.ค.นี้ จะอยู่ที่ 1.3 ล้านราย คิดเป็นเงินที่ต้องคืน 90,000 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่าตั้งเป้าหมายที่ตั้งไว้จากเดิมที่ 500,000 ราย คิดเป็นเงิน 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตได้จ่ายเงินให้ผู้ที่ครอบครองรถยนต์ครบ 1 ปีไปแล้ว 47,018 ราย คิดเป็นเงิน 3,481 ล้านบาท และคาดว่าปีงบประมาณ 56 จะต้องตั้งงบคืนภาษีรถยนต์คันแรก

Credit : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

สอบถามราคาฝาปิดกระบะ ได้ไหมครับwebsite aeroklas.com&dack-cover.com มีปัญหาอะครับ surachethk@gmail.com ตัวแทนติดตั้งแถวรามอินทรา บางเขน เกษตร-นวมินทร์ มีที่ไหนบ้างครับ จะไปดูช่วงเสาร์อาทิตย์นี้ครับ รบกวนด้วยครับ

:Banane31::bananapartyhat::Banane31::bananapartyhat:

Aeroklas

10-01-2013, 09:57

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 10 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/iz/toyotalexusactivesafetyresearchvehicle01.jpg (//pic.free.in.th/id/98a5d4627c960c16429e8f35971d720e)

Toyota-Lexus เริ่มพัฒนาหน่วยย่อยของระบบขนส่งอัจฉริยะ

โตโยต้า และ เลกซัส เผยผลงานการพัฒนายานยนต์ที่เน้นความปลอดภัยสูงสุดในงาน Consumer Electronics Show หรือ CES ประจำปี 2013 ที่ลาสเวกัส โดยนำเสนอภายใต้แนวคิด Integrated Safety Management Concept หรือ การจัดการความปลอดภัยแบบบูรณาการ ผสมผสานความสามารถของรถยนต์ การสังเกตุสภาพแวดล้อม และตัวผู้ขับเข้าไว้ด้วยกันเป็นหน่วยเดียว

แน่นอนว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เราได้เห็นโครงการที่เหนือกว่านี้มาแล้วหลากหลายโครงการ อาทิ Driverless Cars ของ Google, Highly-Automated Driving ของ ม. Carnegie Mellon - GM และ Continental หรือโครงการล่าสุดของ วอลโว่ อย่าง SARTRE project ดังนั้นสิ่งที่แตกต่างในโครงการเหล่านี้คือ เทคโนโลยีที่ใช้เสริมความสามารถของรถ และแนวคิดย่อยของระบบนั่นเอง

โตโยต้า/เลกซัส ซอยแนวคิดย่อยในโครงการ SRV-Safety Research Vehicle ออกเป็นพื้นฐานง่ายๆ 5 ส่วน คือ

1 - การเริ่มต้นเดินทางแบบร่วมกันของผู้ขับและรถยนต์จากที่จอดรถ หรือจุดหยุดนิ่ง 2 - การทำงานของระบบ Active safety ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อหลีกเลี่ยงการชน 3 - การเตรียมพร้อมของระบบ Pre-crash เพื่อรับการปะทะที่อาจเกิดขึ้นได้ 4 - การเตรียมพร้อมของระบบ Passive safety ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ 5 - การช่วยเหลือและการตอบสนองหลังเกิดอุบัติเหตุ

กึ่งอัตโนมัติ ความต่างของระบบ

การทำงานแบบกึ่งอัตโนมัติของระบบที่ โตโยต้า/เลกซัส พัฒนาขึ้นนั้น แทบจะเหมือนกับยานยนต์ไร้คนขับของ Google คือใช้เซนเซอร์รอบคันในการสังเกตุสภาวะรอบข้างของตัวรถ ผ่านการตรวจจับที่อาศัยความสามารถของ GPS, กล้องจับภาพ 3 มิติแบบ high-def หรือ stereo camera 3 ตัว ซึ่งสามารถกวาดตามองได้ในระยะ 150 เมตร ทำงานร่วมกับกล้องปกติด้านหน้า - ด้านข้าง และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี LIDAR หรือ Light Detection and Ranging

เทคโนโลยี LIDAR ทำงานในลักษณะเดียวกับ Radar คือ ยิง และ สะท้อนกลับ เพื่อวัด 'ระยะเวลา' ในการเดินทางของแสงเลเซอร์ เช่น ขอบฟุตพาธอยู่ห่างตัวรถ 1.5 เมตร ในขณะที่ต้นไม้บนฟุทพาธอยู่ห่างออกไปอีก 0.5 เมตร ระยะเวลาที่แสงเลเซอร์เดินทางไป-กลับจึงไม่เท่ากัน นั่นคือเกณฑ์หลักในการวัดระยะของระบบ LIDAR ซึ่งปกติถูกใช้งานในการสำรวจพื้นผิวภูมิประเทศ

LIDAR สามารถวัด และสร้างการคำนวณโครงสร้างของวัตถุที่แวดล้อมตัวรถได้ตั้งแต่ หิน ต้นไม้ ผู้คน ไปจนถึงอาคารบ้านเรือน โดยสามารถสำรวจภูมิประเทศรอบข้างได้แบบ 360 องศา ในระยะ 70 เมตร

การทดสอบมีขึ้นในสนามปิดขนาด 8.6 เอเคอร์ ITS Proving Grounds ซึ่งสร้างขึ้นเฉพาะกิจใน Higashi-Fuji Technical Center ประเทศญี่ปุ่น อุปกรณ์ทั้งหมดถูกติดตั้งเอาไว้ใน Lexus LS ตัวถังซีดาน ซึ่งโครงการนี้นอกจากจะเน้นในเรื่องของการช่วยผู้ขับ ในการสังเกตุสิ่งรอบด้าน การตอบสนองของระบบ Active และ Passive safety แล้ว ยังมีการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างรถกับรถ และรถกับสาธารณูปโภคข้างทางด้วยคลื่นสั้น เพื่อขยายขอบเขตการเตื่อนภัย ลดการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่ควรเกิด เช่น การแจ้งเตือนให้ผู้ขับหยุดรถเมื่อพบจุดอับสายตาในการใช้ทางแยก

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

14-01-2013, 08:38

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 14 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/is/general_motors.jpg (//pic.free.in.th/id/ca3743e69ef930e37d55e3a093254452)

จีเอ็มทุ่ม1.5พันล.ดันยอดแสนคัน

บริษัท เจนเนอรัลมอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทเชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัดเปิดเผยว่า ในไทยปีที่ผ่านมาถือเป็นปีแห่งความสำเร็จ สามารถทำสถิติยอดขายรถยนต์เชฟโรเลตสูงสุดต่อเนื่อง โดยปิดตัวเลขการขายตลอดปีที่กว่า 7.5 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 39% ครองส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์ 5.3% และในภูมิภาคอาเซียนสามารถทำยอดขายรวมกว่า 9.17 หมื่นคัน เทียบกับปีก่อนหน้าเติบโต 8% ในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรถยนต์เชฟโรเลตในไทยมากกว่า 1 แสนคัน หรือครองส่วนแบ่งการตลาดเกิน 8% และเมื่อรวมยอดขายในภูมิภาคอาเซียนจำนวนไม่ต่ำกว่า 1.25 แสนคัน เดินหน้าทำสถิติ ดันยอดขายในไทยทะลุแสนคัน สนับสนุนดีลเลอร์ลงทุนกว่า 1.5 พันล้านบาท ปรับภาพลักษณ์และมาตรฐาน ตลอดจนขยายเครือข่ายรองรับการเติบโต รวมถึงสยายปีกบุกทั่วภูมิภาคอาเซียน พร้อมเปิดตัวรถใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง

Credit By: หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

15-01-2013, 17:10

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 15 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/im/2014lexusis1.jpg (//pic.free.in.th/id/e924792af214f2d04239ed83f3703c6a)

เผยโฉม 2014 Lexus IS เวอร์ชั่น F Sport ดวลเดือดเซกเมนท์คอมแพกต์ซีดานกับ 3-Series, C-Class และ A4

Lexus เปิดเผยภาพรถคอมแพกต์ซีดานตระกูล IS รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2014 โชว์สัดส่วนทรวดทรงที่เน้นความสปอร์ตเต็มพิกัด ก่อนส่งออกโชว์ตัวภายในงานดีทรอยท์ ออโต้โชว์ 2013 ที่จะเริ่มขึ้นในสัปดาห์หน้า

ภาพชุดนี้เผยให้เห็นดีไซน์รอบคันของ IS เวอร์ชั่น F Sport ที่จะออกแข่งขันในเซกเมนท์ที่มีคู่แข่งระดับพระกาฬจากเยอรมนีไม่ว่าจะเป็น BMW 3-Series, Mercedes-Benz C-Class และ Audi A4 มาพร้อมกับชุดแอโรพาร์ทแอโรไดนามิกรอบคัน ล้ออัลลอยที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม กระจังหน้าดีไซน์ใหม่และช่วงล่างแบบโหลดเตี้ยลงเล็กน้อย นอกจากสไตล์ตัวถังที่ถ่ายทอดมาจากรถต้นแบบ LF-CC แล้ว สื่อมวลชนหลายสำนักรายงานว่า IS จะถูกขยายฐานล้อให้ยาวขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารสำหรับการทำตลาดอเมริกาเหนือ

การออกแบบในห้องโดยสารได้แรงบันดาลใจจากซูเปอร์คาร์ LFA ที่ยุติสายการผลิตไปแล้ว ใช้วัสดุและการตกแต่งที่ประณีตและมีคุณภาพสูง เน้นโทนสีดำสลับแดง เบาะหนังชั้นดีเดินด้านสีแดงเพิ่มความสปอร์ต ไฮเทคด้วยสวิทช์ระบบสัมผัสแบบ electrostatic ที่ควบคุมการทำงานของตัวรถเพียงปลายนิ้ว ขณะที่ตำแหน่งเบาะนั่งถูกปรับให้เตี้ยลงเพื่อเน้นอารมณ์ความรู้สึกแบบสปอร์ต รวมถึงตำแหน่งพวงมาลัยก็ถูกปรับใหม่ด้วยเช่นกัน ขุมพลังขับเคลื่อนยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่คาดว่าจะมีทั้งบล็อก V6 ความจุ 2.5 ลิตร ให้แรงม้ากว่า 200 ตัวและความจุ 3.5 ลิตรแรงม้ามากกว่า 300 ตัว

Credit By: www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

18-01-2013, 08:59

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 18 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/im/2013fordatlasconcept01.jpg (//pic.free.in.th/id/64e2fe5028cdb2b5ba2360ca0c65efb3)

2013 FORD ATLAS CONCEPT ต้นแบบปิคอัพไฮ-เทครุ่นใหม่เผยเค้าโครงของ F-150 รุ่นต่อไป

เจนเนอรัล มอเตอร์ส เติมเต็มความต้องการของแฟนๆ ปิคอัพด้วย 2 รุ่นใหม่ Chevrolet Silverado/GMC Sierra ใน 2013 ดีทรอยท์ออโต้โชว์ ฟอร์ด ในฐานะที่มี F-Series ครองแชมป์ยอดจำหน่าย ปิคอัพฟูลไซส์ในสหรัฐฯ ปีล่าสุด จึงต้องมีของดีมาฝากกับเขาบ้าง โดยเผยโฉมเจนเนอเรชั่นต่อไปของ F-150 ผ่านต้นแบบรุ่นล่าสุด Ford Atlas Concept ซึ่ง Mr. Raj Nair รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ ฟอร์ด ให้ความเห็นว่า Atlas Concept คือตัวอย่างนวัตวกรรมที่จะเปลี่ยนความคาดหวังของผู้คนที่มีต่อรถปิคอัพ

ฟอร์ด ตั้งคอนเซปท์ความประหยัดสูงสุดให้ Atlas ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ที่ทรงประสิทธิภาพ เสริมด้วยตัวช่วยด้านความประหยัดเชื้อเพลิง และพัฒนาระบบแอโรไดนามิคใหม่สำหรับรถปิคอัพโดยเฉพาะ

เครื่องยนต์ที่ Atlas ใช้คือเบนซิน EcoBoost เจนเนอเรชั่นใหม่ จ่ายเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น พร้อมระบบ Auto Start-Stop ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงขึ้น 20% ลดคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียได้อีก 15% เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ที่มีความจุมากกว่า... ทว่าในข่าวไม่ได้บอกไว้ ว่า EcoBoost 'เจนเนอเรชั่นใหม่' มีความจุกระบอกสูบเท่าไหร่ และเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์กี่ซีซี

สำหรับระบบแอโรไดนามิค ฟอร์ด นำเสนอไอเดียใหม่ด้วย 3 เทคโนโลยีล่าสุด คือ หนึ่ง: Drop-Down Front Air Dam ระบบสปอยเลอร์ล่างด้านหน้าแบบแอคทีฟ ทำงานในขณะใช้ความเร็วสูงเพื่อจัดระเบียบอากาศใต้ท้องรถ และพับเก็บในขณะใช้ความเร็วต่ำ หรือใช้งานแบบออฟ-โรด เพื่อไม่ให้สูญเสียระยะเคลียร์ใต้ท้องรถ

สอง: Active Grille Shutters ระบบเปิด - ปิดบานพับอัตโนมัติบริเวณกระจังหน้า ซึ่งจะเปิดในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ หรือในสภาพอากาศที่ร้อนจัด เพื่อช่วยระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์ และจะปิดโดยอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วสูงบนไฮเวย์ เพื่อผลทางอากาศพลศาสตร์ที่ดีที่สุด

ทว่าระบบนี้ผู้แปลต้องหมายเหตุเอาไว้สักนิดว่า 'ไม่ใหม่' แบบเอี่ยมๆ เพราะ เชฟโรเลต มีระบบที่ใช้แนวคิดในลักษณะนี้มาแล้วในโปรดัคชั่นคาร์ โดยติดตั้งให้กับ Chevrolet Cruze เวอร์ชั่น Eco ในปี 2010

และ สาม: Active Wheel Shutters ระบบแอโรไดนามิคแบบยิงปืนนัดเดียวได้นก 2 ตัว คือยังคงความสวยงามแบบโชว์ก้านล้อแม็กเอาไว้ได้ โดยไม่ต้องออกแบบให้มีลักษณะหน้าแปลนตันๆ แบบรถไฮบริด ทำงานอัตโนมัติด้วยการปิดตัวในขณะใช้ความเร็วสูงเพื่อลดการวนของอากาศบริเวณล้อ

การเปิด - ปิดของม่านชัทเตอร์จะอาศัยพลังงานการการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยตัวเองในขณะที่ล้อมีการเคลื่อนไหว... อันนี้ก็ไม่ใหม่นัก เพราะ เปอโยต์ เคยใช้แนวคิดนี้ในต้นแบบ Peugeot HX1 Concept ในปี 2011 แต่ ฟอร์ด อาจจะล้ำกว่าด้วยระบบรีชาร์จพลังงานไฟฟ้าจากการหมุนของล้อ

นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นเด่นๆ สำหรับคอปิคอัพโดยเฉพาะ อาทิ ระบบ Power Running Boards บันไดข้างพับเก็บอัตโนมัติ, Hidden Cargo Ramps แรมพ์หรือบันไดพาดแบบซ่อนตัวสำหรับให้มอเตอร์ไซค์หรือ ATV สามารถขับขึ้นไปได้, Dual-Purpose Tailgate Step and Cargo Cradle ระบบซ่อนขาหยั่งเอาไว้ในฝาปิดกระบะท้าย ยกตัวให้เสมอระดับหลังคาด้วยระบบไฟฟ้า เพื่อใช้รองรับการขนของที่มีความยาวเกินตัวรถ เช่นบันได/ต้นไม้ หรือระบบ Trailer Backup Assist และ Dynamic Hitch Assist ช่วยไกด์ให้ผู้ขับเชื่อมหัวลากกับรถพ่วงได้ง่ายขึ้น เป็นต้น

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

22-01-2013, 08:59

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 22 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/ij/toyota2012salesreport01.jpg (//pic.free.in.th/id/49756fce4c4f0842935d5e956869b2b3)

TOYOTA ตั้งเป้าขาย 5 แสนคันในปี 2556 คาดตลาดรวมมากกว่า 1.2 ล้านคัน

โตโยต้า จัดงานแถลงข่าวสถิติการจำหน่ายรถยนต์ปี 2555 หรือ 2013 Toyota Annual Press Conference พร้อมคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 2556 จะมียอดรวมสูงถึงกว่า 1.2 ล้านคัน ซึ่งในจำนวนนี้ โตโยต้า ตั้งเป้าหมายเอาไว้ที่ 5 แสนคัน โดยงานนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มกราคม 2556 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโอกุระ กรุงเทพฯ

มร. เคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า "ยอดขายในปี 2555 ได้สร้างสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์ในประเทศไทย ด้วยตัวเลขรวม 1,436,335 คัน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยอดขายรถยนต์ของไทย ทั้งนี้ความต้องการของตลาดรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นมากในปีที่ผ่านมา เป็นผลจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กระตุ้นการบริโภคภายใน นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐในโครงการรถยนต์คันแรก และปริมาณความต้องการสะสม อันเป็นผลต่อเนื่องมาจากผลกระทบของภัยธรรมชาติในปี 2554 ประกอบกับกำลังการผลิตรถยนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้น ทำให้สามารถ ตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น"

สถิติในปี 2555

ในปีที่ผ่านมา โตโยต้า ประเทศไทย มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 516,086 คัน หรือคิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 77.9% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 224,816 คัน เพิ่มขึ้น 62.8% รถเพื่อการพาณิชย์ 291,270 คัน เพิ่มขึ้น 91.7% และรถกระบะ 1 ตัน (รวมรถกระบะดัดแปลง) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของยอดขายรถเพื่อการพาณิชย์ 269,722 คัน เพิ่มขึ้น 99.8%

ด้านการส่งออกในปีที่ผ่านมา โตโยต้า ได้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปจำนวน 405,892 คัน เพิ่มขึ้น 61.8% คิดเป็นมูลค่า 179,572 ล้านบาท การส่งออกชิ้นส่วน มูลค่า 63,023 ล้านบาท รวมเป็นมูลค่าการส่งออกที่นำรายได้กลับสู่ประเทศไทยเป็นเงินทั้งสิ้น 242,595 ล้านบาท

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

23-01-2013, 11:03

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 23 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/iz/265095_10151351490429528_839635036_n.jpg (//pic.free.in.th/id/4dcaa8df59b74d8818829da1b4e2d083)

2013 VIA X-TRUCK ปิคอัพไฟฟ้า 800 แรงม้า แรงบิดดุจมอนสเตอร์ทรัคแต่จิบน้ำมันพอๆ กับ Prius

Bob Lutz นำทีม VIA Motors Inc. เปิดตัวปิคอัพระบบ range-extended เวอร์ชั่นจำหน่ายจริงใน 2013 ดีทรอยท์ ออโต้โชว์ โดยมากับรูปลักษณ์ที่ดุดันกว่า เวอร์ชั่นทดลองใช้ของ PG&E หรือชื่อเดิม VTRUX ด้วยกระจังหน้าสีดำทรง X เน้นภาพลักษณ์การใช้งานแบบจอมลุยด้วยการยกสูง 5 นิ้ว สวมยางยอดนิยมแบบ Mud-Terrain ของ BF Goodrich ซึ่งเวอร์ชั่นที่เห็นนี้ผู้แปลไม่แน่ใจว่าเป็นรุ่นพื้นฐานเลย หรือเป็นตัวแต่งสำเร็จจากโรงงาน

X-Truck ใหม่ยังคงใช้พื้นฐานของ Silverado ตัวถัง 4 ประตู Crew Cab เมื่อย้อนไปเทียบสมรรถนะกับ VTRUX ปรากฏว่า VIA ไม่พอใจกับชุดขับเคลื่อนเดิม เลยยกเครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.4 ลิตรทิ้งไป แล้ววางบล๊อคใหม่ V8 ความจุ 5.3 ลิตร ของ GM ลงไปแทนที่ เนื่องจากวิศวกรของ VIA คิดว่าเครื่อง V6 อาจรับภาระเกินตัวไปหน่อย ซึ่งผลที่ได้นั้น Bob Lutz ได้ให้นิยามของ X-Truck ใหม่ว่า "ให้แรงบิดราวกับมอนสเตอร์ทรัค ในขณะที่จิบน้ำมันพอๆ กับ Toyota Prius"

ภายในติดตั้ง iPad แบบบิลท์อิน ใช้เป็นหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ VIA ให้ข้อมูลว่า ระบบที่ทำงานผ่าน iPad นี้ ไม่เพียงแต่ให้ข้อมูลผู้ขับเท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อโดยตรงไปยังคอลล์เซนเตอร์ เพื่อให้คำแนะนำในกรณีที่เกิดปัญหาได้ด้วย

ระบบขับเคลื่อนของ VIA หรือ eREVs: extended-range electric vehicles อาศัยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ตัวละ 402 แรงม้า HP ผลิตกำลังรวมได้ 800 แรงม้า HP ใช้เครื่องยนต์ทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์ ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ความจุ 24 กิโลวัตต์-ชม. ระบายความร้อนด้วยของเหลว สตาร์ทและวิ่งด้วยไฟฟ้าได้ราว 64 กม. หรือจนกว่าแบตเตอรี่จะถูกใช้งานเกิน 80% ของความจุ เครื่องยนต์จึงจะทำงานโดยอัตโนมัติ เพื่อรับไม้ต่อในการรีชาร์จแบตเตอรี่ (ด้วยน้ำมัน)

จุดสำคัญอยู่ที่การประหยัดเชื้อเพลิงของเครื่องยนต์ให้ได้มากที่สุด ระบบ eREVs ของ VIA จะตัดการทำงานของเครื่องอีกครั้ง เมื่อระดับความจุของแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นมาเป็น 25% จากจำนวนเต็ม ซึ่ง ณ ปัจจุบัน VIA ยังไม่ได้ให้ตัวเลขระยะทางในการวิ่ง (แบตฯ เต็ม + น้ำมัน 1 ถัง) แต่คาดว่าน่าจะมีตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 42.5 กม./ลิตร... น่าสนใจว่าเมื่อถูก EPA ทดสอบจะเหลือตัวเลขเท่าไหร่?

VIA มั่นใจว่าจังหวะการสตาร์ทหรือดับเครื่องยนต์ในระหว่างสลับโหมดเพื่อชาร์จแบตฯ จะนุ่มนวลจนผู้ขับไม่สามารถจับสังเกตุได้ "ทางเดียวที่คุณจะรู้ว่าเครื่องยนต์ทำงานหรือไม่ทำงาน ก็คือการเหลือบตาไปมองการแสดงผลสถานะที่ iPad" Mr. George Prokos ผู้จัดการฝ่ายการบริการและรับประกันของ VIA กล่าว

VIA ยังไม่เปิดเผยราคาจำหน่าย และกำหนดการสัมผัสโชว์รูมในเวลานี้ ที่แน่ๆ ราคาน่าจะสูงพอสมควรเมื่อเทียบกับ Chevrolet Silverado ใหม่ รวมทั้ง VTRUX เวอร์ชั่นเดิม ที่ก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า ราคาจำหน่ายเริ่มต้นอาจจะอยู่ที่ประมาณ 79,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท

นอกจาก X-Truck แล้ว ในงานเดียวกันนี้ VIA ยังเปิดตัวเอสยูวีรุ่นปรับปรุงของ VTRUX Suburban ในชื่อใหม่ VIA Presidential ซึ่งใช้พื้นฐานของ Chevrolet Suburban และใช้ระบบขับเคลื่อน eREVs ด้วย ขาดไปก็แต่เพียง VTRUX Van หรือรถแวนไฟฟ้าเพียงรุ่นเดียว ซึ่งตามหมายกำหนดการเดิมจะเปิดตัวพร้อมกัน

"เท่าที่ผมรู้ ยังไม่มีใครมีรถปิคอัพขับเคลื่อน 4 ล้อแบบเสียบปลั๊กในตอนนี้" Bob Lutz กล่าว "ไอเดียของเราก็คือ การนำเสนออะไรบางอย่างที่แตกต่างจากรถ extended-range ที่มีอยู่ในตลาด"

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

28-01-2013, 10:00

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 28 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/iu/mercedesbenzengine.jpg (//pic.free.in.th/id/d68592cbc42131d2336235febae51450)

เครื่องยนต์ญี่ปุ่นครองแชมป์น่าใช้งานมากที่สุด หลายแบรนด์เยอรมันรั้งท้าย!!!

บริษัทวิจัยตลาดของประเทศอังกฤษ Warranty Direct เปิดเผยผลสำรวจบริษัทรถยนต์ที่สามารถผลิตเครื่องยนต์ที่มีคุณภาพน่าเชื่อถือมากที่สุด ผลปรากฏว่าขุมพลังของ Honda ได้รับการยกย่องว่ามีความทนทานมากที่สุด โดยมีเปอร์เซ็นต์ความล้มเหลวหรือ failure rate เพียง 0.29% เท่านั้น

Toyota และ Mercedes-Benz ตามมาไม่ไกลนักโดยมีอัตราส่วนความล้มเหลวเพียง 0.58% และ 0.84% ตามลำดับ ขณะที่ Volvo อยู่อันดับสี่ที่ 0.90% และอันดับห้า Jaguar 0.98%

สำหรับค่ายรถที่ติดอันดับสุดท้ายได้แก่ MG Rover ซึ่งผลิตเครื่องยนต์คุณภาพต่ำที่สุด มีคะแนนความล้มเหลว 7.88% Audi และ MINI อยู่ในกลุ่มท้ายเช่นกันโดยมีอัตราส่วนความล้มเหลวที่ 3.71% และ 2.51% ตามลำดับ ขณะที่ Saab 2.49% และ Vauxhal 2.46% ก็ถูกจัดอันดับให้อยู่ในกลุ่มเครื่องยนต์คุณภาพน้อยเช่นกัน

Warranty Direct บอกว่า การสำรวจข้อมูลดังกล่าวใช้ความเห็นจากผู้บริโภคและประมวลค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมเปรียบเทียบกันด้วย ยิ่งมีเสียงวิจารณ์ในด้านลบและค่าบำรุงรักษาแพงก็จะมีความล้มเหลวมากขึ้นเป็นเงาตามตัว

Credit By : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

29-01-2013, 09:47

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 29 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/ib/nissannavarasportsversion4x45at08.jpg (//pic.free.in.th/id/ddb00fe28ef6fc0ebb2ca009fcb55c27)

NISSAN MOTOR THAILAND ประกาศความสำเร็จผลิตรถทะลุ 2 ล้านคัน

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศความสำเร็จ ยอดการผลิตจากโรงงาน นิสสัน บางนา ครบจำนวน 2 ล้านคันในเดือนมกราคม 2556 นี้

มร. ทาคายูกิ คิมูระ ประธานกรรมการ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เราต้องขอขอบคุณลูกค้าที่เชื่อมั่น และเลือกใช้แบรนด์นิสสัน จนทำให้เกิดสถิติใหม่ของการผลิตรถยนต์ของนิสสัน"

"เศรษฐกิจในประเทศไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยนิสสันก็นับเป็นหนึ่งในส่วนที่ช่วยผลักดัน และการที่เราสามารถบรรลุยอดการผลิตนี้ได้ นับเป็นผลสำเร็จที่น่ายินดีของชาวนิสสันอีกด้วย และเพื่อเป็นการตอกย้ำในพันธสัญญาที่มีต่อการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย เรายังได้ประกาศการลงทุนเพิ่มอีก 11,000 พันล้านบาท เพื่อสร้าง โรงงานแห่งที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ ณ กม 22 บางนา-ตราด จ.สมุทรปราการ"

"ช่วงเริ่มต้นของการเปิดดำเนินการในเดือนสิงหาคม 2557 กำลังการผลิตของนิสสันจะเพิ่มขึ้น 75,000 คัน และจะเพิ่มเป็น 150,000 คันต่อปี โดยปัจจุบัน นิสสัน มีกำลังการผลิตที่ 220,000 คันต่อปี และเมื่อรวมกับกำลังการผลิตของโรงงานแห่งใหม่ ที่จะพร้อมเปิดดำเนินการในอีกไม่กี่ปีนี้ นิสสันจะมีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 370,000 คันต่อปี"

นิสสันเริ่มดำเนินการผลิตครั้งแรกในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2506 โดยปัจจุบัน นิสสัน มีรถยนต์และรถกระบะทำตลาดในประเทศทั้งหมด 7 รุ่น และได้ทำการผลิตเพื่อส่งออก นอกจากนี้ นิสสัน ยังคงความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์อีโค คาร์ ในตลาดอย่างต่อเนื่อง

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

01-02-2013, 08:24

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/io/mazdaskyactiv03.jpg (//pic.free.in.th/id/e3db38263f529a03e03525f0bd254100)

MAZDA เตรียมเปิดโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติ SkyActiv-Drive ในประเทศไทย

มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเพิ่มการลงทุนครั้งใหญ่ในประเทศไทย เตรียมสร้างโรงงานแห่งใหม่เพื่อทำการผลิตชุดเกียร์อัตโนมัติเป็นแห่งที่ 2 ของ มาสด้า ที่ใหญ่สุด และทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ณ จังหวัดชลบุรี ด้วยเงินลงทุน 26,000 ล้านเยน หรือกว่า 10,000 ล้านบาท เพื่อทำการผลิตเกียร์อัตโนมัติ SKYATIV-DRIVE ด้วยกำลังการผลิตที่สูงถึง 400,000 ยูนิต ซึ่งการผลิตเกียร์ในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ มาสด้า หรือ SKYATIV TECNOLOGY โดยจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ และเริ่มสายการผลิตได้ในช่วงปลายของปีงบประมาณ 2559 หรือประมาณเดือนมีนาคม

โรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติแห่งใหม่นี้ เป็นการลงทุนโดย บริษัท มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น 100% ตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับโรงงาน ออโต้อัลลายแอนซ์ (AutoAlliance (Thailand) Co., Ltd.) หรือ เอเอที ซึ่งเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ มาสด้า ร่วมกับพันธมิตร โดยอยู่ห่างออกไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 5 กิโลเมตร

โรงงานแห่งใหม่จะทำการผลิตเกียร์อัตโนมัติ SKYACTIV-DRIVE ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ พื่อป้อนเข้าสู่โรงงาน เอเอที และสำหรับส่งออกสู่ตลาดทั่วโลก

มร. ทาคาชิ ยามานูชิ ประธานคณะกรรมการบอร์ด, ประธานและเจ้าหน้าที่บริหาร มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า มาสด้า ใช้กลยุทธ์การสร้างและขยายฐานการผลิตให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อรองรับตลาดทั่วโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อให้บรรลุยอดขาย 1.7 ล้านคัน ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2559 หรือภายในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2559

โรงงาน โฮฟุ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เมืองนาคาโนะเซกิ ประเทศญี่ปุ่น ยังคงเป็นโรงงานหลักสำหรับการผลิตเกียร์อัตโนมัติ แต่เนื่องจากความต้องการของรถยนต์ มาสด้า ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟในตลาดเพิ่มสูงขึ้นมากอย่างรวดเร็ว มาสด้า จึงตัดสินใจเพิ่มการลงทุนเพื่อสร้างโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแห่ง ณ จังหวัดชลบุรี ในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติหลักเป็นแห่งที่ 2 เพื่อรองรับความต้องการ และเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต รวมถึงการบริหารจัดการการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการในตลาด ที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

"เราจะใช้ความรู้ความชำนาญ และประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จาก โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เพื่อให้แน่ใจถึงความสำเร็จของการตั้งโรงงานแห่งใหม่ของเราในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทย" •

ข้อมูลสำหรับโรงงานแห่งใหม่ของ Mazda ในประเทศไทย ชื่อบริษัท Mazda Powertrain Manufacturing (Thailand) Co., Ltd. (MPMT) สถานที่ตั้ง จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย จำนวนเงินลงทุน 26,000 ล้านเยน หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท ผู้ถือหุ้น มาสด้า 100% ธุรกิจหลัก ผลิตเกียร์อัตโนมัติสำหรับรถยนต์มาสด้า จำนวนพนักงาน ประมาณ 500 คน

Credit By: www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

05-02-2013, 10:11

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 5 มกราคม 2556

//image.free.in.th/z/ie/fiesta7_610.jpg (//image.free.in.th/show.php?id=cbb8df53c64d9bc6f0051fb22208114b) Thanks: ฝากรูป (//www.myuppic.com)

Ford Fiesta และ Honda City คว้า 5 ดาวการทดสอบความปลอดภัย ASEAN NCAP

สถาบันวิจัยความปลอดภัยบนถนนแห่งชาติมาเลเซีย (MIROS) เปิดเผยผลการทดสอบความปลอดภัยยานยนต์รุ่นใหม่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ ASEAN NCAP (ASEAN New Car Assessment Programme) โดยมีรถใหม่ที่จำหน่ายในตลาดปัจจุบันทั้งหมด 8 คันถูกทดสอบการชนด้านหน้าแบบเยื้องที่ความเร็ว 64 กม./ชม. ผลการทดสอบถูกแบ่งออกเป็นระดับตั้งแต่หนึ่งถึงห้าดาว

สำหรับรถรุ่นใหม่ที่คว้าห้าดาวเต็มได่แก่ Ford Fiesta และ Honda City ตามมาด้วยระดับสี่ดาวคือ Toyota Vios และ Nissan March

Proton Saga FLX และ Perodua Myvi SX ได้คะแนนสามดาว Hyundai i10 คว้าสองดาว ส่วนที่ได้ดาวเดียวซึ่งถือว่ามีความปลอดภัยต่ำมากคือ Proton Saga Standard

รถทั้งหมดถูกทดสอบระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 ถึงช่วงสิ้นเดือนมกราคม 2556 โดยรถส่วนใหญ่ผลิตในมาเลเซีย ยกเว้น Ford Fiesta และ Nissan March ที่ขึ้นสายการผลิตในประเทศไทย

สำหรับรถที่ได้คะแนนสูงสุดห้าดาวนั้นจะต้องมีถุงลมนิรภัยอย่างน้อยสองลูก มีระบบรักษาเสถียรภาพการทรงตัวและระบบแจ้งเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัย เพราะหากไม่มีฟีเจอร์เหล่านี้ก็จะได้เพียงแค่สี่ดาวเท่านั้น

Credit By: www.Autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-02-2013, 08:33

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/iz/toyotaemblem.jpg (//pic.free.in.th/id/3a2c6ab95cb288b5dede7c4c8fbec9bc)

Toyota เบียด GM คืนบัลลังก์เบอร์หนึ่งโลกอย่างเป็นทางการ Volkswagen รั้งอันดับสาม

เวบไซต์ข่าวยานยนต์ TheDetroitBureau.com รายงานว่า Toyota ได้ทวงบังลังก์ค่ายรถยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกในด้านยอดขายกลับคืนมาอย่างเป็นทางการแล้ว โดยสามารถขายรถได้มากถึง 9.75 ล้านคันในปี 2012 ที่ผ่านมา นำหน้า General Motors ที่มีตัวเลขยอดขาย 9.29 ล้านคัน ขณะที่อันดับสามคือ Volkswagen มียอดขาย 9.1 ล้านคันเมื่อปีที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นยังคงพลาดเป้ายอดขายที่กำหนดไว้เมื่อต้นปี 2012 สาเหตุหลักมาจากข้อพิพาทการเมืองกับประเทศจีน ทำให้ลูกค้าแดนมังกรบอยคอต ลดการซื้อสินค้าทุกประเภทจากญี่ปุ่น ส่งผลต่อธุรกิจแทบทุกประเภท

Toyota เคยตกไปอยู่อันดับสามเมื่อปี 2011 หลังประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและสึนามิครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายสิบปี ทำให้ต้องปิดโรงงานผลิตไปถึงเจ็ดแห่งในเวลานั้น สำหรับในตลาดบ้านเกิดประเทศญี่ปุ่น Toyota กวาดยอดขายถล่มทลายปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2011 ถึง 35% โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 2.4 ล้านคัน ขณะที่ยอดขายทั่วโลกขยายตัว 23% อยู่ที่ 7.3 ล้านคัน ผลพวงจากยอดขายที่ก้าวกระโดดของรถไฮบริดอย่าง Prius

ยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ Toyota ยังมีที่มาจากความต้องการซื้อของลูกค้าในสหรัฐอเมริกาที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินเยนที่อ่อนตัวลงด้วย

ขณะที่ในปี 2013 นี้ Toyota คาดการณ์ยอดขายไว้ที่ 9.91 ล้านคัน ขณะที่ GM และ Volkswagen ยังไม่เปิดเผยเป้าจำหน่ายแต่อย่างใด

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

08-02-2013, 09:31

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/ic/chevroletsalesreport2013january01.jpg (//pic.free.in.th/id/8bf659c0af1f10c36cda396b2591e644)

CHEVROLET เริ่มต้นปี 2556 ด้วยยอดขายอันแข็งแกร่ง เติบโต 59 เปอร์เซ็นต์

บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ทำยอดขายเดือนแรกของปี 2556 อย่างแข็งแกร่งด้วยตัวเลข 6,039 คัน เพิ่มขึ้น 59 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปี 2555 ซึ่งเป็นปีที่มียอดขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์

Chevrolet Colorado ยังคงเป็นรถที่มียอดขายสูงสุด ด้วยตัวเลขที่ 2,476 คัน ตามมาด้วย Chevrolet Sonic (1,689 คัน) Chevrolet Trailblazer (694 คัน) Chevrolet Captiva (618 คัน) Chevrolet Cruze (504 คัน) และ Chevrolet Aveo (58 คัน)

สำหรับในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เชฟโรเลต สามารถสร้างยอดขายอันแข็งแกร่งเช่นกันในทุกประเทศ ในอินโดนีเซีย เชฟโรเลต มียอดขาย 452 คัน (เพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์) มาเลเซีย มียอดขาย 155 คัน (เพิ่มขึ้น 29 เปอร์เซ็นต์) ฟิลิปปินส์ ยอดขาย 377 คัน (เพิ่มขึ้น 48 เปอร์เซ็นต์) และสิงคโปร์ 187 คัน (เพิ่มขึ้น 36 เปอร์เซ็นต์) รวมทั้งหมดแล้ว เชฟโรเลต มียอดขายทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่ 7,424 คัน ขยายตัวสูงขึ้น 60 เปอร์เซ็นต์จากเดือนมกราคม 2555

เพื่อรักษาอัตราการเติบโตเช่นนี้ในปี 2556 เชฟโรเลต จะมุ่งเน้นที่การพัฒนามาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์และการบริการ ขณะเดียวกันยังเดินหน้าแผนการขยายเครือข่ายผู้แทนจำหน่ายให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย และมอบการบริการลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป นอกจากนี้ยังเตรียมการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่อย่าง Chevrolet Spin ในงาน มอเตอร์โชว์ 2556 ที่กำลังมาถึง

สำหรับในประเทศไทย เชฟโรเลต เตรียมเปิดศูนย์ผู้แทนจำหน่ายใหม่อีก 2 แห่งในจังหวัดนครปฐม (อำเภอเมือง และอำเภออ้อมใหญ่) และอีกหนึ่งแห่งในจังหวัดบึงกาฬ

มร. กุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและบริการหลังการขายประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้คนใหม่ของบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นับเป็นการเริ่มต้นปีด้วยยอดขายที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะการสานต่อความสำเร็จจากปี 2555 แต่เรายังมีงานต้องทำอีกมากมาย ไม่ใช่เพียงในประเทศไทย แต่รวมถึงทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าเราจะต่อยอดการเติบโตให้สูงยิ่งขึ้นไปอีก"

"ในขณะที่เราพยายามรักษาอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง เรายังมุ่งเน้นที่การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ และการดูแลลูกค้า ซึ่งจะต้องมีมาตรฐานสูงตลอดเวลา"

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

18-02-2013, 09:03

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/ic/hondacivichybrid201305.jpg (//pic.free.in.th/id/36dce676d0a4325c6044abd669f9ab16)

2013 Honda Civic Hybrid เพิ่มประสิทธิภาพด้วยแบตเตอรี่แพคแบบ ลิเธียม-ไอออน ขยายประกันแบตฯ เป็น 10 ปี

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ขยายทางเลือกให้คนรักความกรีนต่อเนื่องจาก Jazz Hybrid ด้วยการเปิดตัว Honda Civic Hybrid พร้อมจบยุคแบตเตอรี่ NiMH: นิคเกิล เมทัล ไฮไดรด์ ด้วยการเปลี่ยนมาใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ตาม Honda CR-Z รุ่นปรับโฉมที่ เปิดตัวในอินโดนีเซีย โดยจะแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 รุ่น คือ Civic Hybrid รุ่นพิ้นฐาน 1,035,000 บาท และ Civic Hybrid Navi ราคา 1,095,000 บาท มีให้เลือก 3 สี คือ ขาวออร์คิด (มุก), ขาวฟรอสตี้ (เมทัลลิก) และ เงินอลาบาสเตอร์ (เมทัลลิก) ภายในเป็นสีเทาทั้ง 2 รุ่น พร้อมรับประกันระบบไฮบริด 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

งานนี้ ฮอนด้า เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าด้วยการขยายเวลารับประกันแบตเตอรี่เพิ่มอีก 5 ปี เป็น 10 ปี พร้อมประกาศขยายอายุการรับประกันแบตเตอรี่ให้กับ Honda CR-Z และ Honda Jazz Hybrid จาก 5 ปีเป็น 10 ปีด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งโปรแกรมขยายเวลารับประกันนี้ ครอบคลุมถึงลูกค้าที่ทั้ง 2 รุ่นไปก่อนหน้านี้ด้วย

Honda Civic Hybrid baCivic Hybrid มากับระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน หรือ Parallel Hybrid ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 8 วาล์ว i-VTEC ความจุ 1.5 ลิตร SOHC ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Motor Assist หรือ IMA ของ ฮอนด้า เครื่องยนต์ผลิตกำลังสูงสุดได้ 91 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 13.4 กก.-ม. ที่ 2,800 รอบ/นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดเทียบเท่า 23 แรงม้า ที่ 1,546 - 3,000 รอบ/นาที ให้แรงบิดสูงสุด 10.8 กก.-ม. เริ่มที่ 500 - 1,546 รอบต่อนาที

baเครื่องยนต์รับหน้าที่ในการขับเคลื่อน เสริมแรงด้วยพลังงานจากมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกตัวและเร่งแซง เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วต่ำคงที่ เครื่องยนต์จะหยุดทำงานและเข้าสู่โหมดไฟฟ้าล้วน หรือ EV Mode มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่ในการขับเคลื่อนเพียงอย่างเดียว โดยในขณะที่ใช้งาน EV Mode นี้ จะไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียออกมาเลย

นอกจากนี้ ยังมีระบบชาร์จพลังงานไฟฟ้ากลับเข้าไปยังแบตเตอรี่ในขณะเบรค หรือยกคันเร่ง เพื่อนำพลังงานที่สูญเสียไปมาเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับเก็บพลังงานไว้ใช้ต่อไป และเมื่อหยุดรถ เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าจะหยุดทำงานโดยอัตโนมัติ และเข้าสู่โหมด Idling Stop เพื่อช่วยประหยัดน้ำมัน และลดมลพิษ

baสำหรับเทคโนโลยีอัจฉริยะใน Civic Hybrid ประกอบไปด้วยระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ One Push Ignition System, Smart Key System, จอแสดงข้อมูลอัจฉริยะ หรือ i-MID: Intelligent Multi-Information Display ซึ่งเป็นแบบ Smart Interface สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ ตามความต้องการของผู้ขับขี่ รวมไปถึงระบบ Eco Assist สำหรับช่วยเหลือในการขับขี่แบบประหยัด

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-02-2013, 08:30

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/if/bridgestonegreenyounginvestigatorproject01.jpg (//pic.free.in.th/id/2ec2f83acdf1f1a806ecebb93eb63b8d)

Bridgestone ปลูกฝังจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมให้แก่เยาวชนผ่านกระบวนการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง

บริษัท ไทยบริดจสโตน จำกัด ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ, WWF ประเทศไทย และมูลนิธิสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ประเทศไทย) ในการสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ และส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย ภายใต้โครงการ นักสำรวจแห่งท้องทุ่ง พร้อมจัดกิจกรรมการมอบรางวัล นักสำรวจแห่งท้องทุ่งปีที่ 4 เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2556 ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและระบบนิเวศเกษตร * จังหวัดปทุมธานี โดยมีน้องๆ เยาวชนนักสำรวจ 471 คน เข้าร่วมโครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่งตลอดปีที่ผ่านมา เข้ารับรางวัลแห่งความยินดีและความสำเร็จร่วมกัน

บริดจสโตนได้กำหนดประเด็นในการศึกษาค้นคว้าใน 5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย 1. ระบบนิเวศในท้องถิ่น 2. ความหลากหลายทางชีวภาพ 3. การศึกษาชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ 4. การศึกษาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และสถานการณ์โลกร้อน และ 5. วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างจิตสำนึกให้กับเยาวชน ได้ร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมร่วมกัน

โครงการนักสำรวจแห่งท้องทุ่ง เริ่มขึ้นเมื่อปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเสริมสร้างสำนึกและห่วงใย ในปัญหาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ส่งเสริมให้เป็นโรงเรียนที่มีวัฒนธรรมรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม และช่วยปลูกฝังจิตสำนึกให้เยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมของ บริดจสโตน โดยมีเป้าหมาย เพื่อช่วยรักษาและเสริมสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้คงอยู่ และสืบทอดสู่รุ่นต่อไปในอนาคต

Credit By : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

20-02-2013, 09:07

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/io/accord_ledheadlight.jpg (//pic.free.in.th/id/6ffa7f8b7c38647f31d1280befe18b34)

เตรียมพบกับ Honda Accord ใหม่ ซึ่งพร้อมเปิดตัวในไทยช่วงเดือนมีนาคมนี้

สำหรับข่าวคราวของ Honda Accord ใหม่ โมเดลปี 2013 ในเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่กำลังเป็นกระแสและมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งล่าสุดทางทีมข่าว AutoSpinn ได้รับรายงานมาว่า Accord ใหม่ มีกำหนดการที่จะเปิดตัวในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้อย่างแน่นอน และคาดว่าเวอร์ชั่นบ้านเราน่าจะเป็นสเป็คเดียวกันหรือใกล้เคียงกันที่จำหน่ายในตลาดอเมริกา

Honda Accord ใหม่ นั้นมาพร้อมกับนิยามที่ว่า “Completely Redesigned. Completely Stylish.” ซึ่งเป็นการต่อยอดงานดีไซน์จาก Accord ในรุ่นปัจจุบันโดยเน้นรายละเอียดที่สะท้อนบุคลิกที่หรูหราสไตล์สปอร์ตให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายที่เฉียบคมขึ้นรับกับกันชนหน้าและกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ พร้อมไฟหน้าแบบ LED Projector และล้ออัลลอยที่มีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 16 ไปจนถึง 18 นิ้วดีไซน์สปอร์ต (เฉพาะรุ่น Sport Trim) ที่หล่อมากๆถ้าเป็นแบบเดียวกับสเป็ก US. รวมถึงฟังชั่นเด็ดๆอีกเพียบทีี่คาดว่าน่าจะหลุดมาให้คนไทยได้ใช้บ้างไม่มาก็น้อย โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยที่มีตั้งแต่ระบบ Honda LaneWatch™ system ที่ช่วยลบจุดบอดในการมองเห็นของกระจกมองข้าง พร้อมระบบ Lane Departure Warning ซึ่งจะคอยเตือนผู้ขับขี่ที่มีการขับรถเฉออกจากเลนแบบผิดปกติระบบก็จะเตือนด้วยเสียงและภาพ นอกจากนี้ยังมีระบบ Forward Collision Warning ที่ช่วยเตือนให้ผู้ขับขี่นั้นรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า ให้อยู่ในระยะที่สามารถควบคุมรถได้ รวมถึงฟังชั่นเอนเทอร์เทนเม้นท์ต่างๆและฟังชั่นเชื่อมต่อกับ Social Network มาให้อีกด้วย

ส่วนทางด้านขุมพลังนั้นน่าจะมีอยู่ด้วยกัน 2 ขนาดแบบเดียวกับที่จำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาในรุ่น 4 ประตู โดยจะมากับเครื่องยนต์แบบ i-VTEC เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Earth Dreams ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ให้ทำงานได้ดียิ่่งขึ้นและประหยัดเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดความจุ 2.4 ลิตร ที่มี 2 รุ่นคือรุ่น Standard ที่ให้พละกำลังสูงสุด 185 แรงม้า และรุ่น Sport ในตัวท็อปที่มีพละกำลังเพิ่มขึ้นเป็น 189 แรงม้า พร้อมส่งถ่ายกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT ซึ่งบ้านเราน่าจะมีจำหน่ายแต่รุ่นเกียร์อัตโนมัติเท่านั้น นอกจากนี้ทางฝั่งอเมริกายังมีตัวแรงบล็อก V6 ความจุ 3.5 ลิตรที่มาพร้อมระบบเกียร์ อัตโนมัติ 6 สปีดอีกหนึ่งรุ่น ที่ไม่แน่อาจจะมีจำหน่ายในบ้านเราก็ได้ ส่วนในรุ่น Plug-in Hybrid (PHEV) นั้นยังไม่มีข่าวว่าจะมาพร้อมกันแต่อย่างใด

รวมถึงออฟชั่นต่างๆที่น่าสนใจอีกหลายรายการ เช่น กล้องมองหลัง กระจกข้างที่เพิ่มระยะการมองเห็นด้วยระบบ Honda LaneWatch ระบบ HondaLink ที่สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ รวมถึงระบบเครื่องเสียงที่กระหึ่มถึง 160 วัตต์ และแอร์อัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา ซึ่งตรงนี้เราคงต้องลุ้นกันว่าเมื่อเป็นเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในเมืองไทยแล้วจะมีออฟชั่นอะไรที่ยังพอเหลืออยู่บ้าง

ส่วนราคาค่าตัวนั้นคงต้องรอกันในวันเปิดตัวอีกทีว่าจะเคาะออกมาที่เท่าไหร่ ซึ่งเราได้นำราคาจำหน่ายทางฝั่งอเมริกามาให้ดูเผื่อว่าใครจะเอาไปคำนวณเล่นๆ เพื่ออุ่นเครื่องก่อนวันเปิดตัวกันไปพรางๆก่อน

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

:emo020hu8::emo020hu8::emo020hu8:

Aeroklas

26-02-2013, 09:47

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/il/2013chevroletcaptivafacelift01.jpg (//pic.free.in.th/id/14106300a00110b1c981c1b5f8469009)

2013 Chevrolet Captiva ปรับโฉมเฉพาะด้านท้าย

หลังทำตลาดมาประมาณ 7 ปี และมีการปรับโฉมมาแล้วในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ล่าสุด เชฟโรเลต เติมความสดให้เอสยูวีรุ่น แค็ปติว่า อีกครั้ง เป็นรุ่นปี 2013 ด้วยการปรับโฉมเล็กน้อยเน้นที่ด้านท้ายกับไฟ LED และท่อไอเสียทรงสี่เหลี่ยมคางหมู พร้อมปรับโฉมกันชนท้ายเล็กน้อย ส่วนด้านหน้าซึ่งยังไม่มีภาพประกอบ ทาง เชฟโรเลต ระบุว่ามีการเปลี่ยนแปลงทั้งในส่วนของกันชนหน้าส่วนล่าง กระจังหน้าทรงใหม่ และสปอตไลต์ทรงใหม่

baภายในยังคงรองรับได้ 7 ที่นั่ง เพิ่มความสดของสีสันเบาะนั่ง เปลี่ยนการตกแต่งใหม่ให้มีคุณภาพดีขึ้น ปรับชุดควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานเช่น ระบบ Keyless และระบบ Start/Stop, ระบบปรับอากาศแยกโซน ไฟหรี่ส่องสว่างภายใน และระบบอุ่นเบาะหลัง

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

27-02-2013, 09:28

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/ip/mazdarotary.jpg (//pic.free.in.th/id/df24aa5fb4a0d8f69df572691a5ab767)

Mazda ยืนยันเดินหน้าพัฒนาขุมพลังโรตารี่ หวังติดตั้งในรถรุ่นใหม่ในอีกห้าปีข้างหน้า

Mazda ประกาศยืนยันว่ากำลังเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องยนต์โรตารี่อย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะหยุดผลิตไปตั้งแต่ยกเลิกการทำตลาดรถสปอร์ต RX-8 แล้วก็ตาม

ขุมพลังโรตารี่ของ Mazda ถูกยกเลิกสายการผลิตเนื่องจากกินน้ำมันค่อนข้างมากและยังเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมอัตราปล่อยมลพิษให้สอดคล้องกับมาตรฐานที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในยุโรป ขณะเดียวกัน หากอัพเกรดแรงม้าให้สูงขึ้น การกินน้ำมันจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัวเลยทีเดียว

การมาถึงของเทคโนโลยี SkyActiv ที่เอื้อต่อการพัฒนาด้านอัตราบริโภคน้ำมัน ยังทำให้ Mazda มุ่งเน้นไปที่เครื่องยนต์ลูกสูบทั่วไปมากกว่า อย่างไรก็ตาม ค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้ระบุว่า ความเชี่ยวชาญที่ได้จากการพัฒนาเทคโนโลยี SkyActiv อาจจะถูกนำมาใช้ปรับปรุงพละกำลังและความประหยัดของเครื่องยนต์โรตารี่ก็เป็นได้

ทีมวิศวกรของ Mazda ระบุว่า เครื่องยนต์โรตารี่อาจจะขับเคลื่อนอยู่ในรถโปรดักชั่นรุ่นใดรุ่นหนึ่งในอีกห้าปีข้างหน้า โดยจะมาในรูปแบบขุมพลังไร้ระบบอัดอากาศในเบื้องต้น ก่อนตามมาด้วยแบบพ่วงเทอร์โบ แต่ยังไม่การยืนยันแต่อย่างใด

ด้าน Takashi Yamanouchi หัวเรือใหญ่ของ Mazda กล่าวว่า การวิจัยและพัฒนาเครื่องยนต์โรตารี่ยังคงเดินหน้าต่อไป ตราบใดที่เขายังกุมบังเหียนบริษัทอยู่ “จิตวิญญาณแห่งความท้าทายที่ทำให้เราเป็นผู้นำในโลกเครื่องยนต์โรตารี่ยังมีอยู่ในตัวทีมงาน Mazda อย่างเต็มเปี่ยม”

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

28-02-2013, 09:50

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2556

//image.free.in.th/z/ir/131008259877780003.jpg (//pic.free.in.th/id/e2c8d86dfdf444d032b8a6d456ae2f46)

Lamborghini Nitro 2013 รถแทร็กเตอร์ผสานความแกร่งและสไตล์สุดเท่

Lamborghini Trattori แผนกพัฒนารถแทร็กเตอร์ของค่ายซูเปอร์คาร์จากอิตาเลียน เปิดตัว “Nitro” รถแทร็กเตอร์รุ่นใหม่ปี 2013 พร้อมคำนิยามว่า “เป็นการผสมผสานสไตล์สุดเท่และความแข็งแกร่งทรงพลังเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว”

แน่นอนว่า “สไตล์” ย่อมเป็นความต้องการลำดับท้ายๆเมื่อจะซื้อรถแทร็กเตอร์สำหรับลุยงานหนักสักคัน แต่สำหรับคนที่มองหาความเท่ขณะทำงานก็สามารถเลือกเจ้า Nitro ได้อย่างไม่ต้องอายใคร โดยดีไซเนอร์ชื่อดัง Giugiaro เป็นผู้รับผิดชอบการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยกรอบไฟท้าย LED และส่วนหน้ารถที่ลาดต่ำราวกับเป็นรถซูเปอร์คาร์

ในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย มองเห็นทัศนวิสัยรอบคันแบบ 360 องศาจากการใช้กระจกบานใหญ่ ขุมพลังขับเคลื่อนเป็นเครื่องยนต์ Deutz Tier 4i ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์กลไกแบบ 5 สปีดหรือแบบ Powershift 3 สปีด

Lamborghini Nitro คันนี้ใช้ระบบดิสก์เบรกน้ำมันแบบอิสระ พร้อมระบบเซอร์โวช่วยในการเบรกอีกแรงหนึ่ง นอกจากนี้ยังมาพร้อมอ็อปชั่นพิเศษ Steering Double Displacement เป็นปั๊มควบคุมระบบบังคับเลี้ยวที่ช่วยให้การควบคุมตัวรถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

05-03-2013, 11:21

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 5 มีนาคม 2556

//image.free.in.th/z/iy/mitsubishiconceptg401.jpg (//pic.free.in.th/id/fbb25f8baac653e76cefb29ca08b2313)

2013 Mitsubishi Concept G4/GR-HEV ต้นแบบอีโค คาร์ ซีดาน และปิคอัพดีเซลไฮบริด เตรียมเผยโฉมในงานมอเตอร์โชว์ 2013

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวต้นแบบอีโค คาร์ ซีดาน รุ่นใหม่ Mitsubishi Concept G4 แบบเวิลด์พรีเมียร์ ในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ 2013 ครั้งที่ 34 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 7 เมษายน 2556 ณ อาคารชาเลนเชอร์ฮฮล์ เมืองทองธานี โดยในงานนี้ยังมีคอนเซปท์คาร์ ดีเซล ไฮบริด ให้ชมกันอีก 1 รุ่น คือ Mitsubishi Concept GR-HEV

baMitsubishi Concept G4 หรือ Global 4–door sedan เป็นต้นแบบอีโคคาร์รุ่นใหม่ของ มิตซูบิชิ ที่เตรียมขึ้นสายการผลิตสำหรับจำหน่ายไปทั่วโลก ชุดกระจังหน้าออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก ความสว่างสดใสของเพชร ด้านหน้าถูกปรับให้สั้นลง เพื่อช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับขี่ และเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสารให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ใช้โครงสร้างตัวถังแบบ RISE body ใช้เหล็ก High tensile steel เพื่อความแข็งแกร่ง ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร MIVEC ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT

baส่วนต้นแบบ Mitsubishi Concept GR-HEV เป็นต้นแบบปิคอัพที่ มิตซูบิชิ เรียกว่า SUT หรือ sport utility truck เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยระบบฟูลไฮบริด จับคู่เครื่องยนต์ดีเซลกับมอเตอร์ไฟฟ้า ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อเจนเนอเรชั่นใหม่ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างระบบ Super Select 4WD ที่ใช้งานอยู่ในซีรี่ส์ของ Pajero และระบบ S-AWC หรือ Super All Wheel Control ที่เตรียมใช้งานใน Mitsubishi Evo XI Hybrid นั่นเอง โดยอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย คาดว่าจะต่ำกว่า 149 กรัม/กม.

baนอกจากนี้ Concept GR-HEV จะเป็นรถปิคอัพที่ใช้รูปแบบ เลย์เอาท์แบบ FR หรือ Front engine Rear wheel drive เครื่องยนต์วางด้านหน้าและขับเคลื่อนล้อหลังอีกด้วย

baมร. โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า นอกจาก 2 ต้นแบบรุ่นใหม่ล่าสุดแล้ว ภายในงานยังมี Mitsubishi Mirage รุ่นตกแต่งพิเศษ, Mitsubishi Lancer EX และ Mitsubishi Triton/Pajero Sport MY2013 เครื่องยนต์ 2.5 VG Turbo 178 แรงม้า มาจัดแสดงพร้อมเปิดจองอีกด้วย

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-03-2013, 09:50

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 6 มีนาคม 2556

//image.free.in.th/z/iy/toyotairoadconcept201301.jpg (//pic.free.in.th/id/12fd3ad1ec3c4f3459f150af0055517c)ceptg401.jpg[/img][/url]

2013 Toyota i-Road Concept พาหนะส่วนบุคคลที่นั่งเดี่ยว โชว์แนวคิดระบบเลี้ยวแบบเอนตัว

baในงาน 2013 เจนีวา มอเตอร์โชว์ โตโยต้า เปิดตัวรถ PMV หรือ Personal Mobility Vehicle พาหนะส่วนบุคคลที่นั่งเดี่ยวในชื่อ i-Road โดยมีจุดเด่นอยู่ที่เทคโนโลยีใหม่ ระบบเลี้ยวแบบเอนตัว หรือ Active Lean ปรับตำแหน่งการเลี้ยวด้วยการโยกตำแหน่งล้อขึ้น - ลงในแนวดิ่ง โดยไม่มีการบิดตัวของล้อในแนวนอนซ้าย - ขวาเลย

bai-Road Concept พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดพื้นฐาน คือ ต้องเป็นรถไฟฟ้าขนาดเล็ก ใช้งานในเมืองระยะสั้น ปลอดภัยกว่ารถ 2 ล้อ ไม่ว่าจะเป็นสกูทเตอร์หรือมอเตอร์ไซค์ กันแดดกันฝนได้ดีในระดับหนึ่งด้วยคอคพิทปิด และต้องมีค่าบำรุงรักษาต่ำ โดยบทสรุปที่ออกมาคือ รถไฟฟ้าที่นั่งเดี่ยวทรง Y ล้อหน้า 2 ล้อหลัง 1 หรือที่เรียกกันอย่างเป็นทางการทั่วไปว่ารถ Reverse Trikes

baระบบเอนตัวเลี้ยว หรือ Active Lean นี้ มีหลักการง่ายๆ คือ เมื่อเลี้ยวซ้าย ล้อขวาจะกดตัวลงต่ำและหมุนด้วยจำนวนรอบที่มากกว่า จากนั้นล้อซ้ายที่ยกตัวสูงขึ้นจะหมุนด้วยรอบที่น้อยลงโดยอัตโนมัติ หรือกลายเป็นจุดหมุนนั่นเอง ขณะเดียวกันเมื่อใช้ในงานในทางตรง ล้อทั้งซ้าย - ขวาที่ปรับระดับขึ้น - ลงในแนวดิ่ง จะเป็นตัวช่วยรักษาสมดุลย์ให้ห้องโดยสารเมื่อวิ่งผ่านทางต่างระดับซ้าย - ขวาที่ไม่เท่ากันด้วย ทั้งนี้องศาในการเอนตัวรถ (หรือการสั่งเลี้ยว) ระบบจะตีความจากองศาของการหมุนพวงมาลัยเป็นหลัก

bai-Road มากับขนาดตัวที่เล็กจิ๋ว ความยาวรวมเพียง 2,350 มม. กว้าง 850 มม. สูง 1,445 มม. ฐานล้อ 1,700 มม. วงเลี้ยวแคบสุด 3 เมตร พื้นที่จอดรถขนาดมาตรฐาน 1 ช่องจอด สามารถจอด i-Road เรียงกันได้ถึง 4 คัน

baพละกำลังมาจากมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2 กิโลวัตต์ หรือประมาณ 2.6 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ชาร์จ 1 ครั้งวิ่งได้ระยะทางประมาณ 50 กม. รีชาร์จได้ด้วยไฟบ้านภายใน 3 ชม. โตโยต้า ให้ข้อมูลว่าข้อดีของการเป็นรถ 3 ล้อ คอคพิทปิด คือ สามารถขึ้นลงได้สะดวกกว่ามอเตอร์ไซค์ ติดตั้งระบบอำนวยอำนวยความสะดวกได้ครบแบบรถยนต์นั่ง ไม่ว่าจะเป็น แอร์ ฮีทเตอร์ ชุดเครื่องเสียง ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานไปแล้ว

baแน่นอนว่าเราคงยังไม่ได้เห็นการผลิตจริงในเร็ววัน แต่อย่างน้อยเราก็ได้รับรู้ข่าวสารกันอย่างต่อเนื่องแล้วว่า หลายผู้ผลิตเริ่มพัฒนายานพาหนะส่วนบุคคลที่มีขนาดเล็กจิ๋วกว่ารถคลาสซูเปอร์มินิ สำหรับใช้งานในเมืองกันมากขึ้น เช่น EN-V Concept ของ เจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือ SIMPLE & CLEVER ของ บีเอ็มดับเบิลยู นั่นหมายถึงรถที่เราเห็นเป็นคอนเซปท์คาร์ในทุกวันนี้ ลูกหลานในอนาคตมีสิทธิ์ได้ใช้งานจริงแน่ๆ เช่นกันครับ

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

07-03-2013, 08:53

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 7 มีนาคม 2556 //image.free.in.th/z/io/mitsubishigrhevconcept201301.jpg (//pic.free.in.th/id/e1e2e3496528906e73a5d50999f8e7a6) 2013 Mitsubishi GR-HEV Concept ต้นแบบคร่าวๆ ของ L200 หรือ Triton รุ่นใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 5 หลังจากได้เห็น ทีเซอร์แรก จาก มิตซูบิชิ ประเทศไทย ไปเมื่อวาน ล่าสุด Mitsubishi Motors Corporation ได้ปล่อยภาพชุดและรายละเอียดของต้นแบบรุ่นใหม่ GR-HEV Concept ออกมาแล้ว โดยได้รับการคาดการณ์กันว่า เมื่อหั่นพาร์ทในลักษณะคอนเซปท์คาร์บางส่วนทิ้งไป นี่คือแบบคร่าวๆ ของ Mitsubishi L200 ใหม่ในตลาดโลก หรือ Triton เจนเนอเรชั่นที่ 5 ในบ้านเรานั่นเอง baชื่อ GR-HEV หมายถึง Grand Runner และ Hybrid Electric Vehicle การออกแบบอยู่บนพื้นฐานของปิคอัพ 1 ตัน ที่มีความเป็นมายาวนานอย่าง Mitsubishi L200 ระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ใช้สาธิตในต้นแบบคันนี้ คือการจับคู่ของเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตร กับมอเตอร์ไฟฟ้า ตำแหน่งในการจัดวางอยู่ทางด้านหน้า เชื่อมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ ชุดแบตเตอรี่แพควางอยู่ในแชสซีส์แบบขั้นบันได เสริมความปลอดภัยด้วยคานขวาง เป้าหมายหลักคือลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียให้ต่ำกว่า 149 กรัม/กม. baระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ยังเหมือนข่าวเดิม คือจะมีระบบ Super Select 4WD ของ Pajero ทำงานร่วมกับระบบ S-AWC หรือ Super All Wheel Control ซึ่งมีระบบย่อยหลายแบบรวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นแพค เช่น ทรานสเฟอร์ ACD - Active Center Differential กระจายอัตราส่วนล้อหน้า/หลัง 50/50, AYC - Active Yaw Control ควบคุมอาการของรถ หรือ ASC - Active Stability Control ควบคุมแรงดันเบรคของล้อทั้ง 4 ตามลักษณะการยึดเกาะของล้อแต่ละข้าง เป็นต้น baระบบ S-AWC จะมีโหมดให้เลือก 4 แบบ ตามความเหมาะสมของพื้นผิวภูมิประเทศ คือ 2L, 4H, 4HL และ 4LL สำหรับใช้งานบนพื้นทราย โคลน หรือหิมะ และจะตอบสนองการทำงานแบบอิสระตามแต่ละอาการของล้อทั้ง 4 ba"นี่ไม่ใช่ Triton รุ่นต่อไป" Mr. Caitlin Beale โฆษกของ มิตซูบิชิ ออสเตรเลีย กล่าว "แต่มันแสดงถึงความเป็นไปได้ของทิศทางสำหรับรถปิคอัพเจนเนอเรชั่นต่อไปในอนาคต ทั้งในแง่ของการออกแบบและเทคโนโลยี" baแม้จะแปลความออกมาในเชิงปฏิเสธ แต่ก็เป็นอันรู้กันว่ารูปลักษณ์ภายนอกที่เห็นนี้ อย่างไรเสียก็ต้องมีเค้าโครงของ Triton/L200 แน่ๆ ส่วนการสาธิตระบบขับเคลื่อนนั้นมีเพื่อบอกความนัยว่า รถขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นต่างๆ ของ มิตซูบิชิ มีสิทธิ์ใช้ระบบไฮบริดดีเซล ซึ่งตรงกับข่าวของ Evo XI Hybrid ในปี 2011 baและจุดสำคัญของการแสดงต้นแบบในครั้งนี้ อยู่ที่ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ S-AWC เจนเนอเรชั่นใหม่นั่นเอง เพราะสามารถจะถอดไปใช้ในรถรุ่นใดก็ได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Mitsubishi Triton, Pajero, Outlander หรือแม้แต่สปอร์ทขับ 4 อย่าง Lancer Evolution baแฟนๆ มิตซูบิชิ ในบ้านเราเตรียมสัมผัสตัวจริงของ GR-HEV กันได้ใน มอเตอร์โชว์ 2013 ครับ Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

08-03-2013, 09:21

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 8 มีนาคม 2556

//image.free.in.th/z/ij/fordsalesreport2013february01.jpg (//pic.free.in.th/id/b8f66f81150ee2795cab15534273dcde)

Ford Ranger ดันยอดขายประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2556 ทะยานทำสถิติใหม่

ฟอร์ด ประเทศไทย ประกาศยอดขายที่เปิดตัวแรงตั้งแต่เริ่มปีใหม่ และยังคงรักษาความแรงอย่างต่อเนื่องในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยทำสถิติยอดขายต่อเดือนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ยอดค้าปลีกของฟอร์ดในเดือนเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ที่ 4,493 คัน ด้วยความฮิตของรถยนต์ 3 รุ่นหลัก ฟอร์ด เรนเจอร์, โฟกัส และ เฟียสต้า

baรุ่นที่มาแรงที่สุด และส่งผลให้ยอดค้าปลีกในเดือนกุมภาพันธ์พุ่งสูงขึ้นก็คือ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ รถกระบะมากความสามารถผู้สร้างนิยามใหม่ให้แก่ตลาดรถกระบะขนาด 1 ตันในประเทศไทย ที่ทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 84 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีก่อนหน้าที่ 2,063 คัน

baเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มผู้นิยมกระบะพันธุ์แกร่ง ฟอร์ด ประเทศไทย จึงได้มีการเพิ่มตัวเลือกรุ่นใหม่ๆ สำหรับ ฟอร์ด เรนเจอร์ เพื่อจับกลุ่มลูกค้าที่ใช้รถกระบะเพื่องานเชิงพาณิชย์

baความนิยมใน ฟอร์ด เฟียสต้า ก็ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยยอดค้าปลีกของ ฟอร์ด เฟียสต้า ซึ่งเป็นรถยนต์รุ่นที่ขายดีที่สุดในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาของฟอร์ดในประเทศไทย ทำยอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ได้ที่ 1,836 คัน

baฟอร์ด โฟกัส ยังคงรักษากระแสรถยนต์ที่เต็มเปี่ยมด้วยเทคโนโลยี โดยมียอดขายในเดือนกุมภาพันธ์ที่ 514 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 194 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับยอดขายโฟกัสรุ่นเดิมในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า

ba"โฟกัส 2.0 ได้ยกระดับมาตรฐานตลาดรถยนต์นั่งขนาดคอมแพ็กขึ้นอย่างมาก ในขณะที่ โฟกัส 1.6 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีฟอร์ด ซิงค์ ซึ่งได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย ได้ขยับขึ้นมาเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับลูกค้าชาวไทยเช่นกัน" นางสาวยุคนธร วิเศษโกสิน กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทยกล่าว

ba"ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา เรามีการเติบโตอย่างมหาศาลโดยยอดจองของ ฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ และฟอร์ด เฟียสต้า เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ทางบริษัทต้องขอขอบคุณในความเข้าใจ และความอดทนรอการส่งมอบสินค้าของลูกค้าทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง ฟอร์ด ประเทศไทย ขอยืนยันว่า เราทุกคนมุ่งมั่นทำงานกันอย่างเต็มความสามารถ เพื่อที่จะส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าทุกท่านอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

12-03-2013, 10:09

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 12 มีนาคม 2556

//image.free.in.th/z/ih/hondaaccord201306.jpg (//pic.free.in.th/id/212c0a992ddf7cbac4be52df523829a6)

All-New Honda Accord เปิดตัวAccordใหม่ เจนเนอเรชั่น 9

baหลังจากจัดกิจกรรมพาสื่อมวลไป สัมผัส Accord ใหม่ ในระยะเวลาสั้นๆ ที่สนาม Twin Ring Motegi ก็ถึงเวลาที่ ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว Honda Accord ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 9 อย่างเป็นทางการ โดยการเปิดตัวต่อสาธารณชนจะมีขึ้นในงาน บางกอก มอเตอร์โชว์ ที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ และตั้งเป้ายอดจำหน่ายเอาไว้ที่ 20,000 คันต่อปี

คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "นับตั้งแต่ ฮอนด้า แอคคอร์ด เจนเนอเรชั่นที่หนึ่ง ได้เปิดตัวสู่ตลาดเป็นครั้งแรกในปี 2519 และสามารถครองใจผู้ขับขี่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง จวบจนปัจจุบัน แอคคอร์ดมียอดขายสะสมถึงสิ้นปี 2555 รวมทั้งสิ้นมากกว่า 19 ล้านคันใน 160 ประเทศทั่วโลก สำหรับประเทศไทย มียอดขายสะสมตั้งแต่ปี 2527 จนถึงปลายปี 2555 รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 138,229 คัน"

ba"ตลอดระยะเวลา 37 ปี ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับนำเสนอนวัตกรรมแห่งโลกยานยนต์อันล้ำสมัย ในแต่ละช่วงเวลา จึงทำให้ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นสุดยอดยนตรกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์อันโดดเด่น และส่งมอบความสุขในการขับขี่ให้กับลูกค้าทั่วโลก ในทุกยุคทุกสมัย สำหรับฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 9 ที่มีดีไซน์สะท้อนถึงความหรูหรา สง่างามเหนือระดับ และสะดวกสบายมากที่สุดที่เคยมีมา ทั้งยังครบครันด้วยเทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ และความคุ้มค่าสูงสุด"

งานออกแบบภายนอก

baAccord ใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 9 ยังคงออกแบบด้วยการเน้นความหรูหรา แต่แฝงไว้ด้วยความเฉียบคมของเส้นสาย ชุดกระจังหน้าใหม่ถูกประกบด้วยไฟหน้า LED เสากลางให้ความรู้สึกเคร่งขรึมด้วยสีดำเปียโนแบล็ค ไฟท้ายก็เป็นแบบ LED เช่นกัน นอกจากนี้ Accord ใหม่ยังใช้โครงสร้างเหล็กกล้าพิเศษคุณภาพสูง และมีความยืดหยุ่นที่ดี นอกจากจะทำให้ตัวถังมีความแข็งแกร่งแล้ว ยังสามารถลดน้ำหนักตัวรถลงไปได้ด้วย

ห้องโดยสารเน้นความสะดวกสบาย baAccord ใหม่มากับระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ งานออกแบบภายในห้องโดยสาร ตอบสนองความสะดวกสบายของผู้ขับและผู้โดยสารเป็นหลัก ขนาดห้องโดยสารกว้างขึ้นกว่าเดิม พื้นที่วางขาตอนหลังเพิ่มขึ้นกว่า 1 นิ้ว ที่นั่งทั้งตอนหน้าและตอนหลังมีพนักพิงที่กว้างขึ้นเป็นพิเศษ พื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายจุเพิ่มขึ้นกว่า 1 ลูกบาศก์ฟุต

baแผงคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง ตกแต่งด้วยลายไม้ ให้ความรู้สึกหรูหราเมื่อแรกเห็น มีฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยมมากมาย อาทิ เบาะผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง, เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ Memory Seat, ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ One Push Ignition System ที่สำคัญ ฮอนด้า ยังปรับปรุงเรื่องการเก็บเสียงให้ดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม ด้วยการติดตั้งระบบควบคุมเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร หรือ Active Noise Control

baชุดระบบเครื่องเสียงมีวิทยุและเครื่องเล่น CD สามารถรองรับแผ่น CD-R ที่บันทึกไฟล์ MP3 ได้ ทำงานผ่านจอแสดงผล TFT ขนาด 8 นิ้ว พร้อมฮาร์ดไดร์ฟสำหรับบันทึกไฟล์เพลง (HDD Audio) และเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สายด้วย Bluetooth

เครื่องยนต์ตระกูล Earth Dreams

baAccord ใหม่มาพร้อมเครื่องยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Honda Earth Dreams Technology โดย Accord รุ่นใหม่นี้จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกของ ฮอนด้า ในเมืองไทยที่ได้ใช้งานเครื่องยนต์ตระกูล Earth Dreams

baEarth Dreams Technology คือแนวคิดอันหลากหลายของ ฮอนด้า ที่มุ่งพัฒนาเทคโนโลยีมากมาย เพื่อให้รถยนต์ 1 คันมีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด ประหยัดน้ำมันสูงสุด และปล่อยมลพิษให้ต่ำที่สุด ซึ่งเครื่องยนต์ Earth Dreams นี้ เป็นเพียงหนึ่งในหลากหลายเทคโนโลยีใหม่ของ ฮอนด้า ซึ่งจะตามออกมาในอนาคต Accord

baAccord ใหม่แบ่งรุ่นเครื่องยนต์ออกเป็น 5 ทางเลือก โดยมี 2 ความจุกระบอกสูบ ประกบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ ได้แก่:

• Honda Accord 2.4EL, Honda Accord 2.4EL (Navi) และ Honda Accord 2.4 TECH: มากับเครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ DOHC i-VTEC ความจุ 2.4 ลิตร ผนวกเทคโนโลยี Earth Dreams เพิ่มระบบไดเรคอินเจคชั่น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ประหยัดน้ำมัน กำลังสูงสุด 174 แรงม้า ที่ 6,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 23.0 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที • Honda Accord 2.0EL และ Honda Accord 2.0EL (Navi): เครื่องยนต์ 4 สูบ 16 วาล์ว แบบ SOHC i-VTEC ความจุ 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 155 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดที่ 19.4 กก.-ม. ที่ 4,300 รอบต่อนาที

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

21-03-2013, 08:51

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 21 มีนาคม 2556

//image.free.in.th/z/if/mmth2millionscarsexported01.jpg (//pic.free.in.th/id/181a38b1d4c54a81154a1bb6ec7b08e3)

Mitsubishi Motors ส่งออกรถยนต์ที่ผลิตโดยคนไทยครบ 2 ล้านคัน เตรียมเสริมความแข็งแกร่งด้าน R&D เพื่อก้าวสู่ตลาด AEC

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ประกาศความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ บรรลุยอดการส่งออกรถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทยไปยังตลาดทั่วโลกครบ 2 ล้านคัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้ มีทั้งรถยนต์ประกอบสำเร็จรูป (CBU) แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง Lancer และ Mirage 95,726 คัน รถปิคอัพ Strada, L200 และ Triton 1,436,146 คัน และรถ พีพีวี Pajero Sport 181,464 คัน รวมทั้งชิ้นส่วนสำเร็จรูป (CKD) ประมาณ 300,000 คัน

baปัจจุบันตลาดส่งออกหลักของรถยนต์สำเร็จรูป ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน, ตะวันออกกลาง, ยุโรป, แอฟริกา และ ออสเตรเลีย ขณะที่ตลาดส่งออกชิ้นส่วนสำเร็จรูป ได้แก่ แถบอเมริกาใต้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถปิคอัพ

baมร. โอซามุ มาสุโกะ ประธาน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น เดินทางมาร่วมแสดงความยินดีในโอกาสฉลองการส่งออกรถยนต์ ที่ผลิตโดย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ทุกรุ่น ครบ 2 ล้านคัน พร้อมกล่าวแสดงความชื่นชมว่า:

ba"นับตั้งแต่ปี 2531 ที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ในประเทศไทย และเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรก ที่มุ่งมั่นพัฒนาการผลิตไปจนถึงขั้นการส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ ด้วยการผลิตฝีมือของคนไทย เราได้เปิดหน้าแรกของประวัติศาสตร์การส่งออกรถยนต์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2531 โดยการส่ง Mitsubishi Lancer Champ จำนวน 420 คัน ไปจำหน่ายยังประเทศแคนาดา ซึ่งนับเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของไทย ที่ส่งไปจำหน่ายยังต่างประเทศ"

ba"ล่าสุดในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ได้บันทึกความสำเร็จอีกครั้ง ด้วยการส่งออกรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยครบ 2 ล้านคัน สะท้อนการเป็นฐานการผลิตที่มีคุณภาพสูง และได้มาตรฐานของโลก ซึ่งทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ตัดสินใจที่จะเสริมความแข็งแกร่งของหน่วยงานวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย ภายใต้ภารกิจหลัก 3 ประการ"

ba"ประการแรก มุ่งพัฒนาคุณภาพของรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทย ให้ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างรวดเร็ว ประการที่สอง เพิ่มบทบาทในการพัฒนารุ่นไมเนอร์ เชนจ์ สำหรับตลาดเมืองไทย ด้วยการยกระดับการสรรหาชิ้นส่วน และประการที่สาม ค้นคว้าข้อมูลแนวโน้มการตลาดและเทคโนโลยีในตลาดกลุ่มอาเซียน"

ba"แนวทางในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งครั้งนี้ จะนำมาซึ่งการถ่ายโอนงานด้านวิจัยและพัฒนาบางส่วนจากบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น มายังมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย โดยมีแผนงานจะเพิ่มจำนวนวิศวกรทั้งไทยและญี่ปุ่นในสังกัดฝ่าย R&D จากปัจจุบัน 40 คนให้เป็น 120 คนในอนาคต รวมถึงการเพิ่มเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆ และสนามทดสอบรถยนต์ด้วย"

"ตลอดระยะเวลา 25 ปีที่มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ส่งออกรถยนต์ไปยังประเทศต่างๆ กว่า 140 ประเทศทั่วโลกนั้น มาตรฐานการผลิต และฝีมือแรงงานของคนไทย ได้รับความเชื่อถือและไว้วางใจเสมอมา แม้กระทั่งที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ ก็ยังได้นำ Mitsubishi Mirage ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทยไปจำหน่าย และได้รับความนิยมเช่นเดียวกัน"

ba"ส่วนหนึ่งของความสำเร็จนี้ เกิดขึ้นจากการวางแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมีวิสัยทัศน์ของรัฐบาลไทย ไม่ว่าจะเป็นมาตรการส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอ โครงการสร้างรถกระบะให้เป็นโปรดักแชมเปี้ยนรุ่นที่หนึ่ง และโครงการสร้างรถยนต์อีโค คาร์ ให้เป็นโปรดักแชมเปี้ยนรุ่นที่สอง ความสนับสนุนเหล่านี้มีบทบาทสำคัญยิ่งที่ทำให้มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประสบความสำเร็จในการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศไทยครบ 1 ล้านคัน และการผลิตเพื่อส่งออกครบ 2 ล้านคัน ผมขอขอบคุณในการสนับสนุนของทุกหน่วยงานไว้ ณ ที่นี้ และเราเชื่อมั่นว่าจะก้าวไปสู่หลักล้านต่อๆ ไปได้ในเวลาอันใกล้"

ba"ปัจจุบันโรงงานผลิตรถยนต์ทั้ง 3 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องยนต์อีกหนึ่งแห่งในนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ประเทศไทย ได้เป็นฐานการผลิตที่สำคัญที่สุดของกลุ่มมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยกำลังการผลิต (Capacity) ปีละ 460,000 คัน ซึ่งมากเป็นอันดับสองรองจากโรงงานที่มิซูชิมา ประเทศญี่ปุ่น และมีจำนวนการผลิตจริง (Utilization) สูงที่สุดในบรรดาโรงงานมิตซูบิชิทั่วโลก ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มาร่วมแสดงความยินดี และขอบคุณในความทุ่มเททำงานของพนักงานชาวไทย ตลอดเวลาที่ผ่านมา และต่อไปในอนาคต"

baในปี 2555 ที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้ลงทุน 16,000 ล้านบาท เปิดโรงงานผลิตรถยนต์แห่งที่ 3 ในประเทศไทย เพื่อผลิตรถยนต์ขนาดเล็กตามโครงการโกลบอล สมอลล์ ซึ่งตรงกับแนวทางการส่งเสริม การผลิตรถยนต์ประหยัดพลังงานขนาดเล็กของรัฐบาลไทย โดยเริ่มต้นที่การผลิต Mitsubishi Mirage ด้วยกำลังการผลิตเบื้องต้น 150,000 คันต่อปี และเตรียมจะขยายการผลิตเพิ่มเป็น 200,000 คัน ภายในปีงบประมาณ 2556 นี้ โดยมีแผนงานจะใช้ประเทศไทยเป็นฐานผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก ส่งไปจำหน่ายทั่วโลก

baสำหรับนโยบายการสร้างความแข็งแกร่งให้หน่วยวิจัยและพัฒนาในประเทศไทย สะท้อนถึงความเชื่อมั่นระดับสูงที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มีต่อ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย และทีมงานวิศวกรชาวไทย นับเป็นหน่วยงานวิจัยและพัฒนาแห่งแรกของ มิตซูบิชิ ในทวีปเอเชีย •

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

02-04-2013, 08:39

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 2 เมษายน 2556

//image.free.in.th/z/iu/dsc_0101_resize.jpg (//pic.free.in.th/id/30b7f30ac97bda776e15fe6ad98ee139)

วันที่ 22 มีนาคม 2556 Nissan Motors ประเทศไทย ได้ฤกษ์ เปิด Nissan March ใหม่ หลังจาก ทำตลาด Eco car คันแรกในบ้านเรา ครบ 3 ปี โดยได้ เปลี่ยนแปลงภายนอกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า, ไฟตัดหมอก, ไฟท้าย LED และไฟเบรกดวงที่สาม LED, ล้ออัลลอยลายใหม่ รวมถึงกระจังหน้าแบบใหม่ และกันชนหลังใหม่

ภายในเปลี่ยนแปลงทั้ง มาตรวัด, มือจับประตู, พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงแผงคอนโซลใหม่ แถมท้ายด้วยการเพิ่มสีใหม่ อีก 2 สีให้เลือกสรร ได้แก่ เขียว Olive และ ชมพู Sweet Pink ราคาเริ่มต้น 3.88 แสน เกียร์ MT และ 4.78 แสน เกียร์ CVT ไปจนตัวท๊อป 5.55 แสนบาท

ราคาทั้ง 6 รุ่นย่อย มีดังนี้ S MT ราคา 388,000 บาท E MT ราคา 444,000 บาท E CVT ราคา 478,000 บาท EL CVT ราคา 506,000 บาท V CVT ราคา 525,000 บาท VL CVT ราคา 555,000 บาท

Credit : www.Autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-04-2013, 09:40

ข่าวสารรถยนต์ประจำวันที่ 19 เมษายน 2013

//image.free.in.th/z/iz/2014chevroletsilveradogmcsierra23.jpg (//pic.free.in.th/id/fe3db449c76064b0886bc3f7115822a7)

Chevrolet and GMC เตรียมเปิดตัวกระบะไซส์กลางรุ่นใหม่

baเจนเนอรัล มอเตอร์ส เตรียมบุกตลาดปิกอัพในสหรัฐอเมริกา ด้วยรถปิกอัพขนาดกลางใหม่ 2 รุ่น ที่มีสมรรถนะในการบรรทุกและลากจูงใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่กว่าอย่าง เชฟโรเลต ซิลเวอร์ราโด และ จีเอ็มซี เซียร์ร่า คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงปลายปีนี้ และทำตลาดในปี 2014

baการที่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส เตรียมพัฒนาปิกอัพรุ่นใหม่นี้ นับเป็นแนวคิดที่ดี หลังจากพยายามปรับปรุงเครื่องยนต์ของปิกอัพรุ่นใหญ่ ให้ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น และสำหรับปิกอัพรุ่นใหม่นี้ จีเอ็ม ก็แยกออกเป็น 2 รุ่นเพื่อให้ครอบคลุมตลาดได้มากขึ้น

baสำหรับแบรนด์ เชฟโรเลต จะเน้นไปทางไลฟ์สไตล์และแนวสปอร์ต ส่วน จีเอ็มซี เน้นไปทางการใช้งานหนักสมบุกสมบัน โดยทางผู้บริหารของ จีเอ็ม มั่นใจว่าปิกอัพใหม่ทั้ง 2 รุ่นจะประสบความสำเร็จ แม้ในขณะนี้ยังไม่มีชื่อสำหรับทั้ง 2 รุ่นก็ตาม

baประธาน จีเอ็ม อเมริกาเหนือ Mr. Mark Reuss กล่าวทิ้งท้ายว่า "ปี 2013 และ 2014 จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญของบริษัท เพราะจะมีรถทั้งรุ่นใหม่และปรับโฉมกว่า 30 รุ่นรอการเปิดตัว ซึ่งจะเป็นการสร้างความแปลกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์"

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

24-04-2013, 14:07

ข่าวสารวันที่ 24 เมษายน 2013

//image.free.in.th/z/ic/toyotasalesreport2013march02.jpg (//pic.free.in.th/id/21566cc6441daa33c23bde84182e75ee) Toyota

รายงานตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม 2556 ขาย 157,527 คัน เพิ่มขึ้น 41.9%

baนายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด รายงานสถิติการขายรถยนต์ประจำเดือนมีนาคม 2556 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น 157,527 คัน เพิ่มขึ้น 41.9% แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 78,816 คัน เพิ่มขึ้น 93.4% รถเพื่อการพาณิชย์ 78,711 คัน เพิ่มขึ้น 12.1% รวมทั้งรถกระบะขนาด 1 ตัน ในเซกเมนท์นี้ จำนวน 66,336 คัน เพิ่มขึ้น 7.4%

baตลาดรถยนต์เดือนมีนาคม มียอดขายต่อเดือนสูงสุดเป็นสถิติใหม่ของยอดขายรถยนต์ในประเทศไทยทุกเซกเมนท์ โดยมียอดขายตลาดรวม 157,527 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 41.9% โดยตลาดรถยนต์นั่งมีปริมาณการขาย 78,816 คัน เพิ่มขึ้น 93.4% ด้านตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ มีปริมาณการขาย 78,711 คัน เพิ่มขึ้น 12.1% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถในโครงการรถยนต์คันแรก ประกอบกับการจัดงาน มอเตอร์โชว์ ในช่วงปลายเดือนที่ผ่านมา เป็นปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์

baส่วนตลาดรถยนต์ไตรมาสแรก มีปริมาณการขาย 413,256 คัน เพิ่มขึ้น 48.0% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยตลาดรถยนต์นั่งมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 97.2% ตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 19.4% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ในโครงการรถยนต์คันแรกเช่นกัน เนื่องจากยังคงมีปริมาณยอดค้างจองสะสมอยู่จำนวนหนึ่ง ประกอบกับการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ รุ่นปรับโฉม และรุ่นพิเศษเข้าสู่ตลาด รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี

baตลาดรถยนต์ในเดือนเมษายน ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากความนิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ที่แนะนำเข้าสู่ตลาด และการจัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่องของบริษัทรถยนต์ต่างๆ ตั้งแต่ต้นปี รวมถึงปัจจัยกระตุ้นการเติบโตของตลาดรถยนต์ จากการจัดงานมอเตอร์โชว์ในช่วงปลายเดือนมีนาคม ประกอบกับสถานการณ์ของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศปรับตัวในทิศทางที่ดี

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-05-2013, 14:00

ข่าวสารประจำวันที่ 6 พฤษภาคม 2556

//image.free.in.th/z/iq/gmreportsfirstouarternetincome201301.jpg (//pic.free.in.th/id/fe1ae812966c8d3dd6bd77bdcc7163ce)

General Motors เผยรายได้สุทธิไตรมาสแรก 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ

baเจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสแรกของปี 2556 อยู่ที่ 900 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.58 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด ผลประกอบการดังกล่าวครอบคลุมการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ ทำให้รายได้สุทธิลดลงราว 200 ล้านเหรียญฯ หรือ 0.09 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด

baในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555 รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของ จีเอ็ม มีตัวเลขอยู่ที่ 1.0 พันล้านเหรียญฯ หรือ 0.60 เหรียญฯ ต่อหุ้นปรับลด ครบคลุมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษที่ 600 ล้านเหรียญฯหรือ 0.33 เหรียญฯต่อหุ้น

baขณะที่รายได้สุทธิในไตรมาสแรกของปีนี้อยู่ที่ 36.9 พันล้านเหรียญฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 37.8 พันล้านเหรียญฯ ส่วนรายได้ก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 1.8 พันล้านเหรียญฯ เทียบกับสามเดือนแรกของปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 2.2 พันล้านเหรียญฯ กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีไตรมาสแรกของปีนี้ รวมถึงผลกระทบจากค่าปรับโครงสร้าง 100 ล้านเหรียญฯ

ba"เราเริ่มต้นปีนี้ได้อย่างมั่นคงด้วยการเพิ่มยอดขายในระดับโลก พร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพเยี่ยมที่ดึงดูดลูกค้าจากทั่วโลก" Mr. Dan Akerson ประธานใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ จีเอ็ม กล่าว "นอกจากนี้ ยุโรปยังมีพัฒนาการที่ดี ด้วยการดำเนินการด้านต้นทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเปิดตัวรถที่มีความยอดเยี่ยมอย่าง Opel Adam และ Mokka"

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

13-05-2013, 08:51

ข่าวสารประจำวันที่ 13/5/2013

//image.free.in.th/z/ii/2062873957105306096.jpg (//pic.free.in.th/id/1b98e3f186308793ce9f82ba3287b6fd)

Terrafugia TF-X รถไฮบริดบินได้ สำหรับหนีรถติดในอีก 10 ปีข้างหน้า

Terrafugia บริษัทผู้ผลิต “อากาศยานยนต์” เปิดเผยข้อมูลชุดแรกของ “TF-X” รถไฮบริดบินได้ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาอย่างเข้มข้นในเวลานี้

TF-X เป็นยานยนต์ขุมพลังไฮบริดไฟฟ้าที่บินขึ้น-ลงในแนวดิ่ง มาพร้อมเทคโนโลยีอันก้าวล้ำหน้าและใช้ระบบควบคุมการบินด้วยไฟฟ้าหรือ fly-by-wire ซึ่ง Terrafugia ระบุว่า ผู้ขับสามารถเรียนรู้วิธีใช้งาน TF-X ภายในเวลาเพียงห้าชั่วโมงเท่านั้น ง่ายดายไม่แตกต่างจากการขับรถยนต์เลยทีเดียว ขณะเดียวกัน ยังมาพร้อมกับระบบบินขึ้นและลงจอดอัตโนมัติอีกด้วย

รายละเอียดทางเทคนิคอื่นๆ ไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ TF-X จะใช้เครื่องยนต์ที่ผลิตแรงม้า 300 ตัว พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 600 แรงม้าอีกสองตัวซึ่งจะทำหน้าที่บินขึ้นและลงจอด สำหรับความเร็วสูงสุดในอากาศคาดว่าจะไปได้ถึง 322 กม./ชม.ด้วยระยะทางขับขี่สูงสุด 805 กม.

TF-X จะมีระบบความปลอดภัยเชิงรุกด้วยการให้ผู้ขับขี่เลือกสถานที่ลงจอดไว้ล่วงหน้า พร้อมกับต้องเลือกสถานที่ลงจอดสำรองกรณีฉุกเฉินอีกหนึ่งแห่ง หากระบบภายใน TF-X ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีพลังงานเพียงพอที่จะไปถึงสถานที่ลงจอดทั้งสองแห่งที่กำหนดไว้ ระบบจะค้นหาสถานที่ลงจอดแห่งที่สามที่ใกล้ที่สุดโดยอัตโนมัติ

สำหรับระบบเพื่อความปลอดภัยอื่นๆ ยังรวมถึงร่มชูชีพสำรองและระบบจอดฉุกเฉิน ซึ่งจะบังคับให้ตัวรถลงจอดอัตโนมัติหากผู้ขับขี่ไม่ตอบสนองต่อการควบคุม ซึ่งนั่นหมายถึงกรณีที่ผู้ขับขี่อาจหมดสติกะทันหัน

Terrafugia ระบุว่ายังเร็วเกินไปที่จะกำหนดราคาจำหน่าย แต่ก็เผยว่า บริษัทฯ มีแผนการผลิตเป็นจำนวนมาก เพื่อดึงให้มีราคาถูกลงโดยอาจอยู่ในเซกเมนท์เดียวกับรถสุดหรูระดับไฮเอนด์ หากทุกอย่างเป็นไปตามแผนเราจะได้เห็น TF-X ตัวจริงเสียงจริงในอีกราว 8-12 ปีข้างหน้า

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

17-05-2013, 08:38

ข่าวสารประจำวันที่ 17 พฤษภาคม 2013

//image.free.in.th/z/ie/2012hondabrioamaze08.jpg (//pic.free.in.th/id/40502028e767ce188ffdad5cf61102a9)

Honda ยังครองยอดขายอันดับหนึ่งเดือนเมษายน 2556 และเป็นผู้นำต่อเนื่องจากไตรมาสแรก

ฮอนด้า ประเทศไทย ประกาศยอดขายเดือนเมษายน 2556 ยังคงครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ด้วยยอดรวมทั้งสิ้น 20,202 คัน และมียอดขายสะสมรวม 4 เดือนแรกของปี (มกราคม - เมษายน) เป็นอันดับหนึ่งด้วยเช่นกัน มียอดรวมสูงถึง 92,404 คัน ตอกย้ำความเป็นผู้นำของตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ต่อเนื่องจากไตรมาสแรกของปี

ทั้งนี้ ฮอนด้า ยังสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในปีงบประมาณ 2555 (1 เมษายน 2555 - 31 มีนาคม 2556) ที่ผ่านมา ด้วยยอดจำหน่ายสะสมสูงถึง 240,675 คัน การครองยอดขายอันดับหนึ่งในเดือนเมษายนนี้ จึงนับเป็นการเริ่มต้นปีงบประมาณ 2556 ของบริษัทฯได้อย่างแข็งแกร่งอีกครั้งหนึ่ง

นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า "ยอดจำหน่ายรถยนต์ของฮอนด้าที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนเมษายนนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทยอยส่งมอบรถยนต์ของลูกค้าในโครงการคืนภาษีรถคันแรก ที่ฮอนด้ามีรถยนต์เข้าร่วมโครงการมากถึง 6 รุ่น ได้แก่ Honda Brio, Brio Amaze, City, City CNG, Jazz และ Jazz Hybrid โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Brio Amaze ที่เปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันมียอดจองรวมทั้งสิ้นกว่า 25,000 คัน"

"ล่าสุด Honda Accord ใหม่ ซึ่งเพิ่ง เปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา และนับเป็นยนตรกรรมที่ครบครัน ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานระดับพรีเมี่ยม พร้อมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีอัจฉริยะ ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ความปลอดภัยสูงสุด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า ทำให้มียอดจองมากกว่า 8,000 คัน ภายหลังการเปิดตัวได้เพียง 2 เดือนเท่านั้น"

"ด้วยความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า การผลิตที่มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการสร้างสรรค์กิจกรรมดีๆ ให้กับสังคม เพื่อตอกย้ำพันธสัญญาของฮอนด้าในการเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างสังคมไทย เรามั่นใจว่า จะสามารถทำยอดขายทั้งปีได้กว่า 200,000 คันตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน" นายพิทักษ์ กล่าวปิดท้าย •

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

30-05-2013, 09:41

ข่าวสารประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2013

//image.free.in.th/z/ie/chevycodetruusafair201301.jpg (//pic.free.in.th/id/b6b34be05b0a71adf5688ad9971a9fe9)

Chevrolet เตรียมโชว์ 2 ต้นแบบ Code 130R และ Tru 140S ที่งาน USA Fair 2013

เชฟโรเลต ประเทศไทย เตรียมเข้าร่วมงาน ยูเอสเอ แฟร์ 2013 ซึ่งในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด 'สองประเทศ หนึ่งมิตรภาพ 180 ปีความสัมพันธ์อเมริกา-ไทย' ในฐานะที่ เชฟโรเลต เป็นบริษัทอเมริกันที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีในประเทศไทย และถือเป็นส่วนหนึ่งของการร่วมฉลองการดำเนินงานครบรอบ 20 ปีเต็มในเมืองไทย

ภายในบูธของเชฟโรเลต จะมีการจัดแสดงรถต้นแบบ โค๊ด 130 อาร์ และ ทรู 140 เอส พร้อมด้วยรถรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวสู่สาธารณชนอย่าง สปิน รถอเนกประสงค์คอมแพ็กต์เอ็มพีวี ครูซ ซีดานโฉมใหม่ และ แคปติวา รถเอสยูวีอันล้ำสมัย บนพื้นที่ 185 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนภายในบริเวณลานอีเดน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์

นอกจากการจัดแสดงยานยนต์แล้ว บูธของเชฟโรเลต ยังมีเกมปริศนาให้เล่นผ่านหน้าจอแอลอีดีขนาดใหญ่ ชิงของรางวัลที่น่าสนใจอีกมากมาย ขณะเดียวกัน ผู้เข้าเยี่ยมชมงานยังมีโอกาสได้ทำเข็มกลัดแบบพิเศษ ที่มีภาพถ่ายของผู้เยี่ยมชมประดับอยู่ได้

สำหรับผู้เข้าชมงานในช่วงเย็นของวันศุกร์ 31 พฤษภาคม และวันเสาร์ที่ 1 มิถุนายน จะได้รับชมการแสดงของศิลปินฮิป ฮอป Epiphany และการแสดงจากกลุ่มนักเต้น โอเค โอเค กู๊ด กู๊ด บนเวทีของเซ็นทรัล คอร์ส ไฮไลท์ภายในงานยังรวมถึงการประกวดการแสดงต่างๆ และมีโอกาสลุ้นรับรางวัล iPad Mini และตั๋วเครื่องบินเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกา 2 ที่นั่ง นอกเหนือจากรางวัลพิเศษอันน่าตื่นเต้นอีกมากมาย

จีเอ็ม ดำเนินธุรกิจครบรอบ 20 ปีในประเทศไทย ปัจจุบันมีพนักงานทั้งหมด 5,700 คนที่ ศูนย์การผลิตยานยนต์และเครื่องยนต์ ในจังหวัดระยอง จีเอ็มมีการลงทุนในประเทศไทยไปแล้วทั้งหมด 1,400 ล้านเหรียญสหรัฐสหรัฐฯ และมีการจัดซื้อชิ้นส่วนและการบริการจากซัพพลายเออร์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่ารวมทั้งหมด 2,000 ล้านเหรียญฯ โดยในจำนวนนี้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์เป็นบริษัทในประเทศไทย

"เราเดินหน้าสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้ามากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์อันแข็งแกร่งที่ตอบสนองกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุม ยานยนต์ของเราเป็นตัวแทนของแบรนด์อเมริกันที่สืบทอดมาอย่างยาวนาน ดำเนินการผลิตในประเทศไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย พร้อมกับส่งออกสู่ตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และตลาดอื่นๆ ทั่วโลก" มร. มาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

นอกจากการส่งเสริมเศรษฐกิจระดับชุมชนและระดับประเทศ จีเอ็ม และ เชฟโรเลต ยังมีสวนช่วยสังคมอย่างจริงจัง ด้วยการดำเนินโครงการความรับผิดชอบต่อสังคม จีเอ็มและเชฟโรเลตมีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการศึกษา เพิ่มความรู้และความเป็นอยู่ของคนไทย ผ่านหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการศูนย์การศึกษาเทคโนโลยียานยนต์ (ASEP) โครงการมอบห้องสมุด และล่าสุดคือโครงการ วัน เวิลด์ ฟุตบอล รวมถึงโครงการเพื่อชุมชนอื่นๆ

ในปี 2555 บริษัทฯ ได้รับรางวัล องค์กรรับผิดชอบต่อสังคมดีเด่น จากหอการค้าอเมริกันในประเทศไทย นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ได้รับการยกย่องจากความยึดมั่นการดำเนินธุรกิจที่โปร่งใส มีธรรมาภิบาล และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนอีกด้วย (รางวัล Creative Partnership Designation)

งาน ยูเอสเอ แฟร์ เป็นงานแสดงสินค้าประจำปี จัดโดย หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย และ สถานทูตสหรัฐอเมริกา มุ่งสนับสนุนผลิตภัณฑ์ และการบริการของแบรนด์สินค้าอเมริกัน รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวในสหรัฐฯ สำหรับงานในปีนี้ จัดขึ้นที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 31 พฤษภาคมถึง 2 มิถุนายน 2556

Credit : www.motortrivia.com สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

dongz772

30-05-2013, 20:06

:kapook-17324-3522::kapook-17324-3522::kapook-17324-3522:

Aeroklas

12-06-2013, 08:45

ข่าวสารประจำวันที่ 12 มิถุนายน 2013

//image.free.in.th/z/ib/toyotacorollaaltis201401.jpg (//pic.free.in.th/id/91a26cfd64b948068a60b0e7861d0c67) 2014 Toyota Corolla

โฉมใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 11 พร้อมทำตลาดโลก

เป็นไปตามคิว ที่สุด Furia Concept ที่เปิดตัวไปใน 2013 ดีทรอยท์ ออโต้โชว์ ก็กลายเป็น Toyota Corolla หรือ Altis รุ่นใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 11 เตรียมทำตลาดโลกในเวลาอันใกล้ และนอกจากรูปลักษณ์ใหม่ที่ดูเยาว์ขึ้น โตโยต้า ยังหวังผลในด้านความประหยัดด้วยการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่ LE Eco โดยคาดว่าอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงแบบไฮเวย์จะอยู่ในระดับที่มากกว่า 17 กม./ลิตร

งานออกแบบภายนอกแยกขาดจาก Toyota Corolla Axio เจนเนอเรชั่น 11 ที่จำหน่ายในญี่ปุ่นช่วงกลางปี 2012 โดยใช้เค้าโครงของ Furia Concept แบบเกือบครบ ขาดไปก็แต่เพียงดวงตาเล็กเรียวสุดสปอร์ตที่อย่างไรก็จำเป็นต้องตัดออกไปเมื่อเป็นคันจริง เทียบกับรุ่นปัจจุบันขนาดตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมทุกมิติ กว้าง 1,776 มม. (+16 มม.) ยาว 4,639 มม. (+99 มม.) ฐานล้อ 2,700 มม. (+100 มม.) มีเพียงความสูงเท่านั้นที่ลดลงเหลือ 1,455 มม. (-10 มม.)

นอกจากงานออกแบบภายนอกที่ดูสปอร์ตขึ้นแล้ว งานออกแบบภายในห้องโดยสารน่าจะถูกใจแฟน โตโยต้า เป็นอย่างยิ่ง เพราะถอดแบบความเรียบหรูมาจาก Toyota Auris แทบจะทุกส่วน ต่างกันที่การตกแต่งเพียงบางจุดเท่านั้น

ในตลาดโลก Corolla ใหม่แบ่งการจำหน่ายเป็น 4 รุ่นย่อย คือ L, LE, S และ LE Eco ซึ่งนับเป็นรุ่นย่อยใหม่ เน้นไปที่อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเป็นหลัก ติดตั้งแผ่นปิดใต้ท้องรถเพื่อช่วยในเรื่องอากาศพลศาสตร์ ใช้ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้วจับคู่ยางลดแรงต้านการหมุน low rolling resistance แต่ถ้าอยากให้ล้อเต็มซุ้มขึ้น โตโยต้า ก็ยังมีล้ออัลลอย 16 นิ้วที่ออกแบบลวดลายเป็นพิเศษลดลมวนบริเวณล้อให้ด้วย

รุ่นพิ้นฐานใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์อลูมิเนียม 4 สูบ ความจุ 1.8 ลิตร VVT-i กำลังสูงสุด 132 แรงม้า ส่วนรุ่น LE Eco เป็นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร 140 แรงม้า พร้อมเทคโนโลยี Valvematic ควบคุมช่วงเวลาของการเปิด/ปิดวาล์วแบบแปรผันให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องยนต์ตลอดเวลา ซึ่ง โตโยต้า พัฒนามาตั้งแต่ปี 2007 ในเครื่องยนต์ตระกูล ZR ที่ใช้ในตลาดยุโรป เช่น Avensis หรือ Auris โดยครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ Corolla ในตลาดอเมริกาเหนือจะได้ใช้งานระบบ Valvematic

ระบบส่งกำลังในรุ่น LE Eco เป็นแบบ 7 จังหวะ CVTi-S ส่วนรุ่นพื้นฐาน L ยังคงใช้งานเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และมีเกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะเป็นทางเลือกเพิ่มเติม

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

19-06-2013, 09:25

ข่าวสารช่วงเช้าวันที่ 19 มิถุนายน 2013

//image.free.in.th/z/io/fordusingrobotstoimprovedurabilitytest01.jpg (//pic.free.in.th/id/21f1b78e6aba93f9879df5876634e336)

Ford เริ่มใช้หุ่นยนต์ทดสอบความทนทานของ Transit ด้วยการขับอย่างต่อเนื่องในสนามปิด

ในการทดสอบความทนทานแบบต่อเนื่อง หรือ durability test สำหรับรถพาณิชย์อย่าง Transit ฟอร์ด เริ่มใช้งานหุ่นยนต์เข้ามาแทนที่มนุษย์อย่างจริงจัง ด้วยการติดตั้งระบบควบคุมรถอัตโนมัติ เพื่อให้การทดสอบมีความปลอดภัยมากขึ้น ต่อเนื่องมากขึ้น และทำกิจกรรมซ้ำๆ ได้อย่างเที่ยงตรง โดยการทดสอบในครั้งนี้มีขึ้นที่ศูนย์ทดสอบ Michigan Proving Grounds

เรียนไว้เพื่อความเข้าใจให้ตรงกันก่อนครับ คำว่า robot นั้น ไม่จำเป็นต้องหมายถึงหุ่นยนต์ที่อยู่ในรูปแบบของมนุษย์แบบ ASIMO ของ ฮอนด้า หรือ Robonaut 2 ของ จีเอ็ม ซึ่งเรียกว่า humanoid robot แต่อาจจะอยู่ในฟอร์มของแขนกลอย่างในโรงงานประกอบรถยนต์ก็ได้ ขอเพียงให้มีการใช้งานแบบการควบคุมเสมือน ดูแลการทำงานด้วยระบบอิเลคทรอนิค ไม่ว่าจะเป็นแบบอัตโนมัติ 100% หรือกึ่งอัตโนมัติก็ตาม แต่บ้านเรานั้นใช้คำว่า 'หุ่นยนต์' แทนคำว่า robot จึงมีภาพของหุ่นมนุษย์ติดอยู่เสียส่วนใหญ่

ระบบควบคุมนี้พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ASI - Autonomous Solutions, Inc. ทำงานคล้ายๆ กับรถไร้คนขับของ Google เพียงแต่ไม่มีโปรแกรมที่ซับซ้อนเท่าการใช้งานในสถานการณ์จริง เช่น การหลบหลีกรถหรือคนเดินเท้า เพราะสิ่งที่ ฟอร์ด ต้องการคือการกำหนดคอร์สวิ่งต่อเนื่องที่แน่นอนในสนามปิด ดังนั้นระบบของ ASI จึงมีเพียงการกำหนดเส้นทางด้วย GPS ใช้กล้องควบคุมการทำงานจากคอนโทรลรูม จากนั้นโมดูลที่ทำการควบคุมจะดูแลองศาพวงมาลัย คันเร่ง และเบรค ซึ่งเปลี่ยนแปลงได้ตามโปรแกรมที่วางเอาไว้

การเก็บข้อมูลสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามต้องการ ขึ้นอยู่กับการกำหนดปัจจัยของสภาพสนามทดสอบ เช่น กำหนดให้สนามบางส่วนเป็นพื้นคอนกรีต ดิน โคลน หรือพื้นผิวขรุขระ กำหนดน้ำหนักบรรทุกเพื่อให้มีสภาวะใกล้เคียงกับการใช้งานจริงที่สุด ไปจนถึงจำลองการขับแบบไม่ระมัดระวัง เช่น การขับเกยฟุทพาธ

"เป้าหมายของเราไม่ใช่การพัฒนายานยนต์อัตโนมัติที่ขับได้เองบนท้องถนน" Mr. Dave Payne ผู้จัดการหน่วยงานพัฒนายานยนต์ของฟอร์ดกล่าว "จุดประสงค์หลักของเราคือ สร้างโซลูชั่นสำหรับการทดสอบอันหนักหน่วง ที่ทำให้วิศวกรสามารถดึงสมรรถนะของรถออกมาให้ได้ถึงขีดสุด ในขณะที่มั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัยของผู้ที่เกี่ยวข้อง"

ปัจจุบัน เครื่องมือในการทดสอบแบบ durability test มีใช้งานกันมาอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมรถยนต์ เช่น แขนกลสำหรับทดสอบการเปิด-ปิดประตู, ชุดยึดแกนล้อสำหรับเขย่าตัวรถเพื่อทดสอบระบบกันสะเทือน หรือแม้แต่ชุดหักพวงมาลัยสำหรับการทดสอบระบบควบคุมการทรงตัวของ EuroNCAP ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีการนำมาใช้กับการขับแบบต่อเนื่องในสนามปิด ที่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

24-06-2013, 11:31

ข่าวสารประจำวันที่ 24 มิถุนายน 2013

//image.free.in.th/z/ic/chevroeltsonic1.6.jpg (//pic.free.in.th/id/a3c41e105b51bcedc51c6629faed8965)

เผยโฉม Chevrolet Sonic 1.6 E85 ยังไม่มีราคาแต่ขายเดือนหน้าแน่นอน

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่ายโบว์ไทน์ ที่ได้เวลาในการแนะนำรถยนต์น้องเล็ก Chevrolet sonic 1.6 ใหม่ ออกมาวางจำหน่ายกันเสียที

แม้ต้องแสดงความเสียใจ ที่การเปิดตัว Chevrolet Sonic 1.6 ใหม่ ยังไม่มีราคาจำหน่ายเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการแต่การกลับมา ก็สร้างความน่าสนใจมาก มาย โดยเฉพาะเมื่อมันมาพร้อมความสามารถที่ไม่ว่าใครก็นตื่นตะลึงกับ E85 ที่ถือว่าเป็นรถยนต์รุ่นแรกในกลุ่มที่มีความสามารถดังกล่าว

นอกจากความสามารถของเครื่องยนต์ ที่พัฒนาให้ตอบรับยุคน้ำมันแพงแล้ว Chevroelt sonic 1.6 E85 ยังมาพร้อมระบบความบันเทิงในห้องโดยสารใหม่ล่าสุด กับ ระบบอินโฟเทนเมนท์ เชฟโรเลต มายลิงค์ (Chevrolet MyLink) แสดงผลผ่านหน้าจอทัชสกรีนขนาดเจ็ดนิ้ว เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดผ่านสมาร์ทโฟน ถือเป็นระบบอินโฟเทนเมนท์รุ่นล่าสุดของเชฟโรเลต และเป็นรถรุ่นแรกในประเทศ ที่ได้รับระบบดังกล่าว

นาย กุสตาโว โคลอซซี รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า นอกจากความสนุกสนาน ทันสมัยและมีสไตล์ เราได้เพิ่มความทรงพลังให้โซนิค เวอร์ชั่นใหม่ เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร E85 ถือเป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการเทคโนโลยีขั้นสูงและพละกำลังที่มากขึ้น โซนิค 1.6 ลิตร E85 แสดงให้เห็นถึงคำมั่นสัญญา‘Find New Roads’ ของแบรนด์เราอย่างชัดเจน

“โซนิค ประสบความสำเร็จอย่างมากในประเทศไทย โดยมียอดขายติดอันดับห้าของโลกในไตรมาสแรกของปีนี้ ตามหลังสหรัฐอเมริกา รัสเซีย จีน และเม็กซิโก ผมเชื่อว่า โซนิค 1.6 ลิตรที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.6ลิตร E85 และระบบมายลิงค์จะประสบความสำเร็จทัดเทียมกับที่ผ่านมา”

สำหรับ Chevrolet Sonic 1.6 E85 ใหม่ นี้จะมีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป โดยพร้อมกันนี้ ยังแนะนำพร้อม 2 สี ใหม่ คือ ส้ม Orange Rock และขาว White Metallic โดยยังมีทั้งรุ่นแฮทช์แบ็กและซีดาน ให้คบหาเช่นเคย

Credit : www.autospinn.com.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

26-06-2013, 09:23

ข่าวสารประจำวันที่ 26 มิถุนายน 2013

//image.free.in.th/z/ii/hondaaccordhybrid2014jdm01.jpg (//pic.free.in.th/id/4ca1621c6f8388142209274a7dd7221e)

2014 Honda Accord Hybrid เวอร์ชั่นสหรัฐฯ เตรียมจำหน่ายตุลาคม 2013

ฮอนด้า ปล่อยภาพออฟฟิเชียลชุดแรกของ Accord เวอร์ชั่นไฮบริด เตรียมขยายทางเลือกให้ลูกค้าในสหรัฐอเมริกาช่วงฤดูใบไม้ร่วง พร้อมรับเรทอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างเป็นทางการจาก EPA ด้วยตัวเลข 49 ไมล์/แกลลอน หรือประมาณ 20.8 กม./ลิตร รูปลักษณ์ไม่ต่างจาก Accord เวอร์ชั่นพื้นฐานมากนัก มีเพียงบาร์สีฟ้าบนกระจังหน้า ชุดไฟ daytime สปอยเลอร์หลังแบบ decklid ล้ออัลลอยลายใหม่ และสัญลักษณ์ไฮบริดเฉพาะรุ่น

Accord Hybrid จะได้ใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าใหม่ 2 ตัว ซึ่งเป็นชุดเดียวกับที่ใช้ใน Accord PHEV เก็บประจุไฟฟ้าด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน เลือกโหมดในการขับได้ 3 แบบ คือ EV Drive วิ่งแบบไฟฟ้าล้วนที่ความเร็วต่ำ หรือปานกลางแบบคงที่, Engine Drive ใช้กำลังจากเครื่องยนต์ส่งตรงไปยังล้อคู่หน้า และ Hybrid Drive ผสานกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2.0 ลิตร i-VTEC แอทกินสัน-ไซเคิล และมอเตอร์ไฟฟ้า 124 กิโลวัตต์

baอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยจาก EPA ในเมือง 20.8 กม./ลิตร ไฮเวย์ 19.1 กม./ลิตร และแบบผสม 19.9 กม./ลิตร

ฮอนด้า จะทำการผลิต Accord Hybrid ที่โรงงานในโอไฮโอ รถลอทแรกจะเริ่มถึงมือดีลเลอร์ทั่วสหรัฐฯ ในช่วงเดือนตุลาคม 2013 เป็นต้นไป ส่วนราคาจำหน่ายเวอร์ชั่น US ยังไม่เปิดเผย

ในญี่ปุ่นราคาจำหน่าย Accord Hybrid เริ่มต้นที่ 3.65 ล้านเยน หรือประมาณ 1.1 ล้านบาท แพงกว่าคู่แข่งอย่าง Toyota Camry Hybrid ราว 6.1 แสนเยน หรือราว 1.9 แสนบาท เนื่องจากในญี่ปุ่น ฮอนด้า วางตัว Accord Hybrid ให้อยู่ในกลุ่มรถพรีเมี่ยม อย่างไรก็ตาม ในตลาดสหรัฐฯ ฮอนด้า อาจจะต้องใช้กลยุทธ์ทางการตลาดที่ต่างกัน เนื่องจากต้องช่วงชิงพื้นที่กับรถหรูอย่าง เลกซัส โดยตรง

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

01-07-2013, 10:40

ข่าวสารประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2556

//image.free.in.th/z/ig/2014mazda315.jpg (//pic.free.in.th/id/5bddf5703fa7491b871cd996148b07a2)

ภาพชุดแรก All-New 2014 Mazda3 มาพร้อมขุมพลัง Skyactiv เบนซินและดีเซล!!!

ภาพแรกของ All-New Mazda3 รถคอมแพกต์เจนเนอเรชั่นใหม่หลุดเผยแพร่อยู่ในเวบไซต์ Autoforum ของสาธารณรัฐเชค ก่อนหน้าการเปิดตัวในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

2014 Mazda3 รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับแนวคิดการดีไซน์ KODO แบบเดียวกับ Mazda6 ซึ่งได้เสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม โดยเฉพาะซุ้มล้อที่ปราดเปรียวและเส้นสายที่ไหลลื่น ตลอดจนกระจังหน้า กรอบไฟและฝากระโปรงที่มีดีไซน์เข้ากันอย่างลงตัว

ในห้องโดยสารได้รับการตกแต่งแผงแดชบอร์ดแนวเรียบหรู minimalist ที่ชวนให้นึกถึง Audi A3 หน้าจอทัชสกรีนแบบพับเก็บได้ พร้อมตอบสนองการใช้งานอย่างเต็มที่

มิติตัวถังมีขนาดกว้างกว่ารุ่นเดิม 10 มม. เตี้ยกว่าเดิม 20 มม. ขณะที่ความยาวใกล้เคียงกันอยู่ที่ 4,465 มม. ส่วนระยะฐานล้อยาวขึ้น 60 มม.ซึ่งช่วยให้พื้นที่ผู้โดยสารตอนหลังมีกว้างขวางมากขึ้น ส่วนฝากระโปรงท้ายมีเนื้อที่ 350 ลิตร มากกว่าเดิม 10 ลิตร แต่เล็กกว่า Volkswagen Golf 30 ลิตร

2014 Mazda3 เวอร์ชั่นยุโรปจะขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินสามรุ่นและดีเซลอีกหนึ่งรุ่น โดยเป็นเทคโนโลยี Skyactiv ทั้งหมด รุ่นเริ่มต้นมีขนาด 1.5 ลิตร ให้พละกำลัง 100 แรงม้า (PS) แรงบิด 150 นิวตันเมตร ตามมาด้วยรุ่น 2.0 ลิตร 120 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร และ 2.0 ลิตร 165 แรงม้า แรงบิด 210 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นดีเซลให้พละกำลัง 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตร

Credit : www.autospinn.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

26-07-2013, 08:22

ข่าวสารวันที่ 26 กรกฎาคม 2013

//image.free.in.th/v/2013/iv/130726083630.jpg (//pic.free.in.th/id/5f203f8e19a386a6d46b97ae1015ef97)

Update: Nissan Navara X-TRA CNG กระบะพันธุ์แกร่งในแบบพลังงานทางเลือก

บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว นิสสัน นาวารา ในรุ่น ซีเอ็นจี ใหม่ กระบะพันธุ์แกร่งในแบบพลังงานทางเลือก ที่ได้รับการติดตั้งตัวระบบซีเอ็นจีภายใต้มาตรฐานการผลิตจากนิสสัน ทำให้ นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี ใหม่ ยังคงสมรรถนะในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม แต่ประหยัดน้ำมันมากขึ้น จากการเลือกใช้พลังงานได้ 2 รูปแบบ และยังได้รับการรับประกันคุณภาพตามมาตรฐานของนิสสันอีกด้วย

baนิสสัน นาวารา เอ็กซ์ตรา ซีเอ็นจี มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 2.5 ลิตร รหัส QR25DE ให้กำลังสูงสุด 154 แรงม้า ที่ 5,200 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 242 นิวตันเมตรที่ 4,400 รอบต่อนาที ล้ำหน้าด้วยระบบหัวฉีดก๊าซแบบ Floating Type หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ประสิทธิภาพสูง จ่ายก๊าซได้อย่างแม่นยำในทุกจังหวะการทำงาน ทนทาน พร้อมลดระดับเสียงรบกวน ควบคุมการปล่อยก๊าซได้อย่างแม่นยำด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ประสิทธิภาพสูง

baนิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี ใหม่ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้งานได้ถึง 2 ใน 3 เมื่อเทียบกับระบบเบนซินทั่วไป

baนอกจากนี้ถังเชื้อเพลิงของ นิสสัน นาวารา ซีเอ็นจี ใหม่ ให้ความจุก๊าซมากสุดจำนวน 140 ลิตร และยังได้รับการออกแบบเป็นพิเศษ ช่วยปกป้องจากแรงกระแทกและทุกสภาพอากาศ รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยที่ดีขึ้น เหมาะกับทุกสภาพการใช้งาน

ba"นิสสัน นาวารา ได้รับการยอมรับจากตลาดเป็นเวลายาวนาน ในฐานะกระบะสมรรถนะเยี่ยมและไว้วางใจได้ การแนะนำนาวารา ซีเอ็นจี ใหม่นี้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับกลุ่มลูกค้าในตลาด ที่มีการแข่งขันสูงมากในตลาดในประเทศไทย ผมเชื่อมั่นว่า รถกระบะรุ่นนี้จะตอบสนองความต้องการในการใช้งานของกลุ่มลูกค้าที่จะเพิ่มมากขึ้น ของกลุ่มรถกระบะประเภทนี้ได้เป็นอย่างดี" มร. ทากายูกิ คิมูระ ประธาน บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ba"เราตระหนักถึงความต้องการของรถยนต์ที่ใช้พลังงานซีเอ็นจีในประเทศ และได้วางแผนที่จะเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่ใช้พลังงานทางเลือกนี้ในรุ่นอื่นๆ อีก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่มนี้"

baนิสสัน นาวารา เอ็กซ์ตรา ซีเอ็นจี มีให้เลือก 5 สีในรุ่น คิงส์ แคบ คือสีเงินบริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์, สีขาว ไวท์ เพิร์ล, สีน้ำตาล เกรย์ยิ บรอนซ์, สีดำ แบล็ก สตาร์ และสีเทาทไวไลท์ เกรย์

baส่วนในรุ่น ซิงเกิ้ล แคบ มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี คือ สีเงินบริลเลี่ยนท์ ซิลเวอร์, สีขาว ไวท์ โซลิด และน้ำตาล เกรย์ยิช บรอนซ์ ราคาจำหน่ายอยู่ที่ 535,500 - 641,000 บาท สนใจติดต่อโชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศ หรือที่ www.nissan.co.th

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

05-08-2013, 08:28

ข่าวสารประจำวันที่ 5 สิงหาคม 2013

//image.free.in.th/v/2013/ib/130805084351.jpg (//pic.free.in.th/id/85d8b450a12818919024ed1095b3b9ed)

General Motors แต่งตั้ง Mr.Tim Lee ดำรงตำแหน่งประธานใหญ่จีเอ็ม ประเทศจีน แต่งตั้ง Mr.Stefan Jacoby เป็นผู้นำกลุ่มบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์

baเจนเนอรัลมอเตอร์ส ประกาศปรับทีมผู้บริหารในกลุ่ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ในประเทศจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก

baมร. ทิม ลี จะดำรงตำแหน่งประธานใหญ่ จีเอ็ม ประเทศจีน ดูแลรับผิดชอบ 12 กิจการร่วมค้า (joint ventures) องค์กรที่ลงทุนในต่างประเทศ 2 แห่งและพนักงานอีกมากกว่า 55,000 คน ก่อนหน้านี้ มร. ลี เป็นผู้นำ จีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ มาเกือบ 4 ปี เขายังคงดำรงตำแหน่งรองประธานบริหารฝ่ายการผลิตระดับโลกต่อไป โดย มร. บ็อบ โซเซีย (Bob Socia) ประธานกรรมการ จีเอ็ม ประเทศจีน จะยังคงรายงานตรงต่อ มร. ลี

baมร. สเตฟาน จาค็อบบี ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ วอลโว่ คาร์ส จะมาดำรงตำแหน่งรองประธานบริหาร กลุ่มบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล โอเปอเรชั่นส์ (Consolidated International Operations) เป็นผู้นำการปฏิบัติงานในกว่า 100 ประเทศ ครอบคลุมภูมิภาคแอฟริกา เอเชียแปซิฟิก ยุโรป และตะวันออกกลาง

ba"สเตฟานจะยกระดับทีมผู้บริหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก" มร. แดน เอเคอร์สัน (Dan Akerson) ประธานใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ จีเอ็ม กล่าว "เราคาดหวังให้เขาสร้างความสำเร็จเหมือนที่เคยทำมาแล้วในหลายตลาดทั่วโลก"

อกจากเป็นผู้นำ วอลโว่ คาร์ส แล้ว มร. จาค็อบบี้ ยังสั่งสมประสบการณ์เกือบ 30 ปีในหลากหลายตำแหน่งที่ มิตซูบิชิ และ โฟล์กสวาเกน โดย มร. จาค็อบบี้ จะรายงานตรงต่อ มร. เอเคอร์สัน และจะเริ่มงานในวันที่ 5 สิงหาคมนี้

baมร. จาค็อบบี้ เผยว่า พลังขับเคลื่อนและความมุ่งมั่นเพื่อลูกค้า คือ 2 เหตุผลที่เขาตัดสินใจมาร่วมงานกับ จีเอ็ม "ผมมีความยินดีที่ได้ร่วมงานกับบริษัทที่นำเสนอยานยนต์ที่สวยงาม มีคุณภาพ และน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมกับมีความมุ่งมั่นที่จะยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น" มร. จาค็อบบี กล่าว "ทีมจีเอ็มมีแผนงานในการสร้างความสำเร็จในทุกตลาด ผมมีความกระตือรือร้นที่จะนำพาองค์กรก้าวสู่เป้าหมาย"

baสำหรับ มร. ลี ในบทบาทการเป็นรองประธานฝ่ายการผลิตระดับโลก จะรับผิดชอบด้านการผลิต แรงงานและวิศวกรรมการผลิต ซึ่ง จีเอ็ม และพันธมิตรกิจการร่วมค้า มีการผลิตรถยนต์ เครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังและชิ้นส่วนในโรงงาน 168 แห่งในมากกว่า 30 ประเทศ ครอบคลุมหกทวีปทั่วโลก

ba"จีเอ็มเป็นผู้นำในสหรัฐอเมริกาและจีน ซึ่งเป็นสองตลาดรถยนต์ที่มีความสำคัญที่สุดในโลก" มร. เอเคอร์สัน กล่าว "เรายังอยู่ในช่วงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จำนวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของเรา ทิมมีบทบาทสำคัญ ในการสานต่อความสำเร็จในประเทศจีน และเพิ่มความเชื่อมั่นว่าเราจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ทั่วโลกได้อย่างไร้ที่ติ"

baจีเอ็ม จะเปิดตัวรถมากกว่า 60 รุ่นทั่วโลกในปี 2556 - 2557 ความเป็นผู้นำของ มร. ลี ได้ยกระดับคุณภาพของ จีเอ็ม ในทุกด้าน โดยเฉพาะการคว้ารางวัลมากกว่าบริษัทรถยนต์รายอื่นในการสำรวจคุณภาพรถใหม่ของสถาบัน เจ.ดี. พาวเวอร์ ในปี 2556 นี้ ขณะที่ เชฟโรเลต อิมพาลา สามารถคว้ารางวัล รถซีดานขนาดใหญ่ยอดเยี่ยม ในอเมริกามาครองได้

Credit : www.motortrivia.com สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

06-08-2013, 10:27

ข่าวสารประจำวันที่ 6 สิงหาคม 2556

//image.free.in.th/v/2013/ii/130806085855.jpg (//pic.free.in.th/id/7d731a47929138f59f83a60db4c1352f)

เปิดตัวแล้ววันนี้ 2013 The New Porsche Panamera Diesel วันนี้ 30 กค. 2556 AAS ได้เปิดตัว 2013 The New Porsche Panamera Diesel ใหม่ ซึ่งถือเป็น Panamera Diesel Gen2 ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเป็นแชมป์เดินทางไกล ด้วยน้ำมันถังเดียวไปได้ไกลถึง 1,270 กม. (ถังน้ำมันมีความจุ 80 ลิตร) มีอัตราสิ้นเปลือง เฉลี่ย 15.8 กม./ลิตร Porsche New Panamera Diesel ใหม่นี้ ใช้ขุมพลังความจุ 3 ลิตร บล๊อก V6 เครื่องยนต์วางอยู่ใต้ฝากระโปรงหน้า มีพละกำลัง 250 แรงม้า 3,800-4,400 rpm แรงบิด 550 Nm 1,750-2,750 rpm ทะยาน 0-100 กม./ชม. ได้ใน 6.8 วินาที และมี Top Speed อยู่ที่ 242 กม./ชม. ส่งผ่านกำลัง ด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง ด้วยเกียร์ 8 Speed Tiptonic S สร้างความแตกต่างของรูปลักษณ์ด้วยอุปกรณ์เสริมใหม่ล่าสุด: ไฟหน้าแบบ LED ด้านหน้ารถมีความกระชับและโดดเด่นมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่องดักอากาศด้านหน้าที่ใหญ่ขึ้น และการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นของไฟหน้า หากมองจากด้านในจะพบว่ากระจกหน้าลู่มากขึ้น ทำให้ตัวรถกว้าง หากมองจากด้านข้างจะพบ Panamera ใหม่ล่าสุดนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ขอบประตูที่ได้รับการออกแบบให้เห็นเด่นชัดจากทางด้านนอก และยังสะท้อนผ่านกระจกได้อย่างชัดเจน

Credit by: www.autospinn.com (//www.autospinn.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

08-08-2013, 08:35

ข่าวสารประจำวันที่ 8 สิงหาคม 2556

//image.free.in.th/v/2013/im/130808084813.jpg (//pic.free.in.th/id/4a726e70a3390d9bf94dc70c2c0f41e3) 2013 Toyota Hybrid R Sports Concept สปอร์ตไฮบริดพลังแรงรุ่นใหม่ เตรียมเผยโฉมที่แฟรงค์เฟิร์ท โตโยต้า เตรียมเผยโฉมสปอร์ตต้นแบบพลังแรงรุ่นใหม่ที่งาน 2013 แฟรงค์เฟิร์ท มอเตอร์โชว์ ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ โดยใช้ชื่อว่า Hybrid R Concept ซึ่งเป็นรถสปอร์ตที่ โตโยต้า ให้รายละเอียดสั้นๆ ว่า 'นำเทคโนโลยี Toyota Hybrid System ผนวกกับ Racing technology สู่ท้องถนน' พร้อมแนบโลโก้ Hybrid R มาให้ดูกันก่อนเป็นทีเซอร์แรก ถ้ายังจำกันได้ ช่วงต้นปีที่ผ่านมามีข่าวว่า โตโยต้า และ บีเอ็มดับเบิลยู ได้ลงนามร่วมกันพัฒนาสปอร์ตขนาดกลาง พร้อมพัฒนาแบตเตอรี่แพคชุดใหม่ เรายังไม่อาจแน่ใจได้ว่า Hybrid R Concept จะเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ไม่? เพราะอย่าลืมว่า 'Racing technology' (แบบไฮบริด) ที่ โตโยต้า กล่าวถึงนั้น ปัจจุบันเราได้เห็นกันแล้วผ่านตัวแข่ง Toyota TS030 Hybrid ที่ต่อกรกับ ออดี้ อย่างน่าดูชมในรายการเอนดูรานซ์หลายสนามที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังมีความเป็นได้เช่นกัน ที่ Hybrid R Concept อาจจะกลายเป็นตัวแทน Supra ในอนาคต ซึ่งเราจะกลับมาอัพเดทความเคลื่อนไหวกันที่ไฟล์นี้อีกครั้งครับ

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

09-08-2013, 08:57

ข่าวสารประจำวันที่ 9 สิงหาคม 2556 เผยข้อมูลทางเทคนิค 2014 BMW i8 รถสปอร์ตพลังปลั๊กอินไฮบริด

//image.free.in.th/v/2013/iu/130809090818.jpg (//pic.free.in.th/id/7c9adf233918bcdcab34aac7901667e8)

BMW เปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคของ 2014 i8 รถสปอร์ตขุมพลังปลั๊กอินไฮบริด ก่อนหน้าการโชว์ตัวจริงที่งานแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนหน้า 2014 i8 ได้รับคำนิยามว่าเป็น “รถสปอร์ตที่มีความก้าวหน้าที่สุดในปัจจุบัน” มีสัดส่วนตัวถังที่ลู่ลมตามหลักแอโรไดนามิก มีระยะโอเวอร์แฮงที่สั้น ใช้ล้ออัลลอยเนื้อฟอร์จแข็งแกร่งและเบาหวิวขนาด 20 นิ้ว สำหรับตัวเลขค่าแรงเสียดทานอากาศอยู่ที่เพียง 0.26 เท่านั้น ยักษ์เยอรมันยังไม่เปิดเผยภาพในห้องโดยสาร แต่ก็ระบุว่า i8 มีโครงสร้างแบบ 2+2 ที่นั่ง ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยหนังสีน้ำตาล สำหรับขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์ TwinPower Turbo บล็อก 3 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ผลิตพละกำลัง 231 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าพลัง 131 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตันเมตร โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้า ส่วนเครื่องยนต์จะส่งกำลังสู่ล้อคู่หลัง ขุมพลังทั้งสองระบบสามารถทำงานแยกส่วนกันหรือทำงานร่วมกันได้ซึ่งจะทำให้พละกำลังรวมสูงสุดอยู่ที่ 362 แรงม้า แรงบิด 570 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ในเวลาไม่ถึง 4.5 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. นอกจากนี้ยังมีโหมดควบคุมแรงบิดขณะขับเคลื่อนสี่ล้ออีกด้วย 2014 i8 สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยพลังงานไฟฟ้าล้วนๆ ในระยะทาง 35 กม.ที่ความเร็ว 120 กม./ชม. เมื่อกำลังไฟในแบตเตอรี่หมดลงก็สามารถชาร์จกลับได้ในเวลาไม่ถึงสองชั่วโมงโดยใช้ชุด BMW i Wallbox หรือสามชั่วโมงหากใช้ปลั๊กทั่วไป BMW ระบุว่า i8 มีอัตราบริโภคน้ำมันประหยัดถึงระดับ 39.9 กม./ลิตร แถมยังปล่อยไอเสียต่ำสุดๆ 59 กรัม/กม.เท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่า i8 มีน้ำหนักตัวถังเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ BMW จึงใช้โครงสร้าง LifeDrive และโครงห้องโดยสารทำด้วยพลาสติกเสริมคาร์บอนไฟเบอร์และแม็กนีเซียม ผสานด้วยน็อตต่างๆทำด้วยอลูมิเนียมซึ่งทำให้โครงสร้างมีน้ำหนักเบากว่าเหล็กทั่วไปถึง 45% และทำให้น้ำหนักตัวของ i8 อยู่ที่เพียง 1,490 กก.เท่านั้น

Credit By: www.autospinn.com (//www.autospinn.com). สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

10-08-2013, 08:44

ข่าวสารประจำวันที่ 10 สิงหาคม 2556 Toyota Corolla Hybrid ประหยัดสุด 33 กม./ลิตร

//image.free.in.th/v/2013/im/130810085442.jpg (//pic.free.in.th/id/b2fb2a1e0609ab4ae0655813ded1cf3b)

โตโยต้า เสริมแนวรุกให้ โคโรลล่า เจนเนอเรชั่นที่ 11 เตรียมบุกตลาดภายในประเทศด้วยรุ่นย่อยไฮบริด โดยจะมีทั้งรุ่นซีดาน Axio และ สเตชั่นแวกอน Fielder ใช้ระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด Toyota Hybrid System II ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน Atkinson Cycle 1,500 ซีซี 74 แรงม้า (PS) ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 61 แรงม้า (PS) ให้กำลังขับเคลื่อนรวม 100 แรงม้า (PS) ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้ใต้เบาะหลัง ขับเคลื่อนล้อหน้า โดยทั้ง 2 รุ่นตัวถัง มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 33 กิโลเมตรต่อลิตร สิ่งที่แตกต่างจากรุ่นมาตรฐานคือ กระจังหน้าและโลโก้สีน้ำเงิน, ตัวถังสีฟ้าซึ่งเป็นสีพิเศษเฉพาะรุ่น, มาตรวัดตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน หน้าจอสี TFT-Thin Film Transistor ขนาด 4.2 นิ้ว แสดงข้อมูลระบบไฮบริด และเบาะนั่งแบบใหม่ โตโยต้า ตั้งเป้ายอดจำหน่าย โคโรลล่า ไฮบริด ไว้ที่ 1,000 คันต่อเดือนสำหรับรุ่นซีดาน และ 1,500 คันสำหรับรุ่นแวกอน ราคาเริ่มต้น 1,925,000 เยน หรือประมาณ 610,000 บาทในญี่ปุ่น

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com). สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

13-08-2013, 08:27

ข่าวสารประจำวันที่ 13 สิงหาคม 2556 2014 Toyota Hilux Invincible ไฮลักซ์ที่อยู่เหนือไฮลักซ์ทั้งมวล

//image.free.in.th/v/2013/ik/130813084250.jpg (//pic.free.in.th/id/49858afda50cdf4a57b01cf7163991bd)

ในสหรัฐฯ Tundra และ Tacoma ขยับตัวเป็นรุ่นปี 2014 ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนในตลาดฝั่งยุโรปนั้น ปัจจุบัน โตโยต้า ทำตลาด Hilux โดยแบ่งเป็น 4 รุ่นย่อย คือ รุ่นพื้นฐาน Hilux DLX, Hilux DLX+, Hilux SR และรุ่นท๊อป Hilux SR+ ในที่สุด โตโยต้า ก็เห็นว่า Hilux ควรจะมีรุ่น top-of-the-range เป็นของตัวเองเสียที จึงเตรียมส่งรุ่นย่อยใหม่แบบสูงสุดในไลน์ผลิต ใช้ชื่อรุ่นว่า Hilux Invincible พร้อมปรับรุ่นปีเป็น 2014 Toyota Hilux Invincible ยังคงอยู่ในไลน์ของเจนเนอเรชั่นที่ 7 ซึ่งผ่านการปรับโฉมมาแล้ว 2 ครั้งในปี 2008 และ 2011 โดยรุ่นใหม่ Hilux Invincible จะแบ่งการจำหน่ายเป็น 2 ทางเลือก คือ Toyota Hilux Invincible Active เพิ่มการ์ดหน้าสีเงิน, ช่องรับอากาศ ไฟตัดหมอก และไฟท้ายตกแต่งด้วยกรอบโครเมี่ยม, ภายในตกแต่งด้วยธีมสีดำ ใช้วัสดุที่นุ่มนวลขึ้นในบางจุด เบรคมือหุ้มหนัง บุหลังคาด้วยสีเทา light grey และประทับตรา Invincible ที่กาบบันได อีกหนึ่งรุ่นคือ Toyota Hilux Invincible Sport ที่เติมความสปอร์ตด้วย hi-bars (หรือสปอร์ตบาร์) หลังห้องโดยสาร, ติดตั้ง side bars โครเมี่ยมทรงเข้ารูป, ล้ออัลลอยลายใหม่สีทูโทนขนาด 17 นิ้ว ภายในมากับเบาะหนังเดินด้ายขาวทุกตำแหน่งแบบเต็มแพคเกจ ทั้งคู่มีสีภายนอกให้เลือก 8 สี ส่วนสมรรถนะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีระบบขับเคลื่อนให้เลือก 4 แบบ เริ่มที่รุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร D-4D จับคู่เกียร์ธรรมดา แบ่งเป็นรุ่น 2WD หรือ 4WD อีก 2 ทางเลือกคือ ขยับความจุขึ้นไปเป็น 3.0 ลิตร D-4D ขับเคลื่อนแบบ 4WD แบ่งเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดาหรืออัตโนมัติ รูปแบบตัวถังมีทั้ง Extra Cab และ Double Cab โตโยต้า จะส่ง Hilux Invincible ลงโชว์รูมทั่วยุโรปภายในปี 2013 ผู้แปลลองเข้าไปรื้อค้นในเว็บไซท์ของ โตโยต้า ยุโรป พบว่ามีชุดแต่งภายนอกหน้าตาคล้ายๆ แบบนี้จำหน่ายอยู่ก่อนแล้วเกือบทุกชิ้น ดังนั้นผู้ที่ครอบครอง SR+ รุ่นปัจจุบันคงไม่ต้องเครียดมากนัก เว้นเสียแต่ว่าจะอยากได้ตราสัญลักษณ์ 'Invincible' มาแสดงความเป็นรุ่นใหม่แบบแกะกล่องจริงๆ

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com). สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

14-08-2013, 08:44

ข่าวสารประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2556 Update: 2013 Toyota Hybrid R Sports Concept คอนเฟิร์ม...ใช้ระบบของ TS030

//image.free.in.th/v/2013/io/130814085808.jpg (//pic.free.in.th/id/abe53917092ca0b21dcbc046296145ff)

กลับมาอัพเดทกันอีกครั้งครับ โตโยต้า ปล่อยข้อมูลพร้อมทีเซอร์ออกมาเพิ่มเติมว่า Hybrid-R จะพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของโปรดัคชั่นคาร์ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เพื่อเป็นการ 'สาธิต' การนำระบบขับเคลื่อนไฮบริดของตัวแข่ง TS030 Hybrid มาลงในรถบ้าน ซึ่งบังเอิญตรงตามที่ผู้แปลเหวี่ยงแหเดาสุ่มเอาไว้ว่า โปรเจคท์นี้น่าจะเป็นของ โตโยต้า ล้วนๆ ไม่เกี่ยวกับ Toyota+BMW เหมือนครั้งที่ Toyota+Subaru = 86/BRZ โตโยต้า คาดว่าระบบไฮบริดชุดนี้จะผลิตกำลังสูงสุดให้ Hybrid-R ได้มากกว่า 400 แรงม้า bhp ซึ่งมากพอที่ทำให้ต้นแบบสปอร์ตคันนี้ สามารถใช้งานได้ทั้งในสนามแข่งและบนถนนหลวง ในเมื่อ โตโยต้า คอนเฟิร์มว่าระบบไฮบริดชุดนี้ใช้เทคโนโลยีของ TS030 เราลองมาดูว่าสเปคจะตรงกันหรือไม่ น้่นคือ เครื่อง V8 แบบ N/A + มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ส่งกำลังด้วยเกียร์ซีเควนเชียล 6 จังหวะ เก็บประจุไฟฟ้าด้วยคาปาซิเตอร์ Double Layer และมี KERS ให้ยิงกำลังเพิ่มในบางจังหวะ โดยระบบขับเคลื่อนชุดใหม่นี้มีชื่อว่า THS-R หรือ Toyota Hybrid System - Racing การเปิดตัวเป็นทางการจะมีขึ้นในวันที่ 10 กันยายนนี้ครับ... โปรดรออัพเดทข้อมูลที่ถูกต้องอีกครั้ง Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com). สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

15-08-2013, 08:40

ข่าวสารประจำวันที่ 15 สิงหาคม 2556 Ford Focus 1.0 EcoBoost ลงตัวทั้งสมรรถนะ ความประหยัด และความสะอาด

//image.free.in.th/v/2013/ii/130815085314.jpg (//pic.free.in.th/id/1d80ab17c05b54f805de36f55a2c6766)

ฟอร์ด โฟกัส รุ่นย่อยใหม่ 1.0 EcoBoost รถครอบครัวรุ่นแรกในยุโรปที่ปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ต่ำกว่า 100 กรัมต่อกิโลเมตร และมีอัตราสิ้นเปลือง 23.92 กิโลเมตรต่อลิตร แบ่งเป็น 2 รุ่นย่อยคือ 100 แรงม้า (PS) ได้รับรางวัล เครื่องยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี และ 125 แรงม้า (PS) เตรียมทำตลาดพร้อมกันช่วงต้นปี 2014 ฟอร์ด โฟกัส มาพร้อมเทคโนโลยี Ford ECOnetic ประกอบด้วยยางลดแรงต้านการหมุของ มิชลิน, ระบบแอโรไดนามิกใต้ท้องรถ และการปรับปรุงจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ใหม่ ส่วนเครื่องยนต์เป็นแบบเบนซิน 3 สูบ 1,000 ซีซี เทอร์โบแรงเฉื่อยต่ำ ซึ่งแยกระบบหล่อเย็นออกมาต่างหาก จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงแบบตรงเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ติดตั้งระบบ Start/Stop ระบบชาร์จไฟเมื่อเบรก Smart Regenerative Charging, ครีบหลังกระจังหน้าแบบปรับได้ และ Ford EcoMode ช่วยเพิ่มความประหยัดและลดมลพิษ นอกเหนือจากเครื่องยนต์รุ่นนี้แล้ว ฟอร์ด ยังมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ECOnetic ที่ลดการปล่อยมลพิษลงเหลือ 88 กรัมต่อกิโลเมตร รวมทั้ง โฟกัส Electric ไร้มลพิษขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าอีกด้วย ส่วนเครื่องยนต์เบนซิน EcoBoost ก็ถูกใช้ในรถหลายรุ่นเช่น เฟียสต้า, B-MAX, C-MAX และ Grand C-MAX 7 ที่นั่ง ซึ่งเปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว นอกจากนี้จะขยายไปใช้ในรถรุ่นอื่นอีกเช่น เอสยูวีรุ่น EcoSport, Transit Connect และรถเพื่อการพาณิชย์ Transit Courier รวมถึงรถตู้ Tourneo Connect และรถเก๋งอย่าง มอนดิโอ อีกด้วย ราคาของ ฟอร์ด โฟกัส 1.0 EcoBoost อยู่ที่ประมาณ 854,000 - 1,030,000 บาท ในสหราชอาณาจักร

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com). สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

16-08-2013, 08:43

ข่าวสารประจำวันที่ 16 สิงหาคม 2556 2014 Honda Civic Tourer เผยโฉมแล้ว พร้อมเนื้อที่บรรทุกสัมภาระที่กว้างสุดในคลาส

//image.free.in.th/v/2013/iw/130816085853.jpg (//pic.free.in.th/id/edfa5956fedfc488b00107c77a229ad6)

Honda เผยโฉม 2014 Civic Tourer อย่างเป็นทางการแล้ว ก่อนที่จะนำออกโชว์ตัวบนเวทีแฟรงก์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ต้นเดือนกันยายนนี้ 2014 Civic Tourer พัฒนาบนพื้นฐานของรุ่นแฮทช์แบ็ก รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับรถต้นแบบที่เปิดตัวเมื่อต้นปี โดดเด่นด้วยความโฉบเฉี่ยวตั้งแต่ด้านหน้าจรดท้ายรถ กรอบไฟดีไซน์สะดุดตามาพร้อมเดย์ไลท์ LED ซุ้มล้อแฝงความบึกบึนมีเส้นสายที่ไหลลื่นเข้ากับกันชนหน้า ขณะที่แผงหลังคาที่ลาดเอียงไปถึงท้ายรถดูปราดเปรียวรับกับกรอบไฟท้ายที่มีขนาดยาว ในห้องโดยสารยังคงโครงสร้างแบบเดียวกับ Civic สเปกยุโรป ทาง Honda บอกว่าเนื้อที่ในห้องโดยสารของ 2014 Civic Tourer มีมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน โดยอยู่ที่ 1,668 ลิตร ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งระดับพระกาฬอย่าง VW Golf Variant นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Magic Seats พับเบาะได้อย่างง่ายดายด้วยการเคลื่อนไหวครั้งเดียว ยักษ์ญี่ปุ่นรายนี้มุ่งเน้นที่การใช้งานในห้องโดยสารอย่างมาก โดยระบุว่า 2014 Civic Tourer สามารถขนจักรยานเมาท์เทนไบค์ได้ 2 คันและกระเป๋าแซมโซไนท์ขนาดใหญ่ได้ถึง 3 ใบแบบสบายๆ ใต้ฝากระโปรงมีเครื่องยนต์สองบล็อกให้เลือกใช้ เริ่มจากรุ่นดีเซลขนาด 1.6 i-DTEC ที่คาดว่าจะให้พละกำลัง 120 แรงม้า แรงบิด 300 นิวตันเมตร ส่วนรุ่นเบนซิน 1.8 i-VTEC ให้พลัง 142 แรงม้า แรงบิด 174 นิวตันเมตร สำหรับเทคโนโลยีการขับขี่ Honda ยังติดตั้งระบบ Adaptive Damper System (ADS) ซึ่งช่วยควบคุมเสถียรภาพและความสะดวกสบาย รองรับการบรรทุกของหนักและสภาวะการขับขี่ที่แตกต่างกันอีกด้วย 2014 Honda Civic Tourer จะขึ้นสายการผลิตในประเทศอังกฤษ ก่อนทำตลาดยุโรปในช่วงต้นปีหน้า

Credit By: www.autospinn.com (//www.autospinn.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

19-08-2013, 08:38

ข่าวสารประจำวันที่ 19 สิงหาคม 2556 Drive-E เครื่องยนต์ 4 สูบตระกูลใหม่ของ Volvo ให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าเครื่องยนต์ 6 สูบในปัจจุบัน

//image.free.in.th/v/2013/id/130819084904.jpg (//pic.free.in.th/id/eb30f1d649d9977e916fad790a055005)

- ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา วอลโว่ ปล่อยข่าว การพัฒนาเครื่องยนต์ 4 สูบตระกูลใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ VEA หรือ Volvo Engine Architecture ล่าสุด วอลโว่ เตรียมเปิดตัวไลน์อัพของเครื่องยนต์ตระกูลนี้ โดยใช้ชื่อทางการตลาดอย่างเป็นทางการว่า Drive-E - Drive-E นับเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบดาวน์ไซส์ซิ่งยุคใหม่ของ วอลโว่ มีทั้งแบบ เบนซิน ไดเรคอินเจคชั่น และ ดีเซล คอมมอนเรล โดยรุ่นเบนซินมีช่วงกำลังระหว่าง 140 - 300 แรงม้าขึ้นไป ส่วนรุ่นดีเซลอยู่ในช่วง 120 - 230 แรงม้า เทียบกับเครื่องยนต์ 6 สูบในปัจจุบัน จะมีขนาดที่เล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า และใช้เชื้อเพลิงน้อยลงเฉลี่ย 13 - 26% ในขณะที่ให้พละกำลังเท่ากัน - ในเบื้องต้น Drive-E จะถูกติดตั้งใน Volvo S60, V60 และ XC60 ด้วย 3 รหัสรุ่นเครื่องยนต์คือ T6 เบนซิน 2.0 ลิตร เทอร์โบ 302 แรงม้า แรงบิด 399 กก.-ม., T5 เบนซิน 2.0 ลิตร 240 แรงม้า แรงบิด 349 กก.-ม. และ D4 เทอร์โบ ดีเซล 181 แรงม้า ทุกรุ่นจับคู่กับระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 8 จังหวะรุ่นใหม่ หรือ อัตโนมัติ 6 จังหวะที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพใหม่ ทั้งนี้เครื่อง T5 และ D4 จะถูกทยอยติดตั้งในรถรุ่นอื่นๆ ตามจังหวะรอบของการเปลี่ยน/ปรับโฉม เช่น Volvo V70, XC70 และ S80 - นอกจากขนาดและน้ำหนักที่ลดลงแล้ว ในรุ่นเครื่องยนต์เบนซินบางรุ่นจะได้รับการพ่วงซูเปอร์ชาร์จโดยจะเริ่มทำงานทันที่ที่รอบต่ำ ก่อนที่จะเรียกใช้งานเทอร์โบชาร์จต่อในรอบสูง ด้านงานด้านวิศวกรรมมีการลดความฝืดของชิ้นส่วนที่มีการเคลื่อนไหว เพิ่มความเร็วของระบบวาล์วแปรผัน เพิ่มศักยภาพในการประมวลผลของระบบจัดการความร้อน และใช้งานปั๊มไฟฟ้าแบบแปรผัน - ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลนั้น ในแต่ละหัวฉีดจะมีเซนเซอร์และไมโครโปรเซสเซอร์ขนาดจิ๋วติดตั้งเอาไว้ เพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบแรงดันในแต่ละหัวฉีดแบบรีลไทม์ การประมวลผลในเบื้องต้นเป็นหน้าที่ของ CPU ย่อย จากนั้นจะส่งข้อมูลต่อไปยัง ECM (Engine Control Module) เพื่อส่งคำสั่งที่เหมาะสมกลับไปยังหัวฉีด ให้สัมพันธ์กับการทำงานของเครื่องยนต์ในทุกช่วง โดย วอลโว่ เรียกระบบย่อยนี้ว่า i-ART technology - เครื่องยนต์ในไลน์ Drive-E ทั้งหมด จะถูกพ่วงเข้ากับระบบ Start-Stop และระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค/ยกคันเร่ง Brake Regeneration เป็นมาตรฐานทุกบล็อค - นอกจากนี้ วอลโว่ ยังเตรียมใช้งานเครื่องยนต์ Drive-E กับชุดขับเคลื่อนไฟฟ้าหรือไฮบริดในอนาคตด้วย โดยทำการเพิ่มสตาร์ทเตอร์ เจนเนอเรเตอร์เข้าไป ซึ่งขนาดตัวที่เล็กลงของเครื่องยนต์ Drive-E ทำให้วิศวกรของ วอลโว่ สามารถติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นขับหน้าหรือขับหลัง และไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่ในการวางแบตเตอรี่แพคที่พื้นห้องโดยสาร - เทคโนโลยีอันล้ำสมัยของ Drive-E จะทำให้ลูกค้าของเราได้สัมผัสกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยม ประหยัดเชื้อเพลิง มลพิษต่ำ และให้เสียงคำรามที่ทรงพลัง" Mr. Derek Crabb รองประธานส่วนงานวิศวกรรมระบบขับเคลื่อนของ วอลโว่ กรุ๊ป กล่าว "เครื่องยนต์ 4 สูบรุ่นใหม่ของเราจะมอบประสิทธิภาพที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ 6 สูบที่ใช้กันในปัจจุบัน และให้ความประหยัดมากกว่าเครื่องยนต์ 4 สูบเจนเนอเรชั่นเดิมด้วย

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

20-08-2013, 08:56

ข่าวสารประจำวันที่ 20 สิงหาคม 2556 Ram 1500 Rumble Bee Concept ต้นแบบเพื่อการรำลึกถึง Dodge Super Bee ด้วย 'Bee' ตัวจริง

//image.free.in.th/v/2013/io/130820091101.jpg (//pic.free.in.th/id/94357a1efe11d5454839b0578ccd3d2c)

แรม ทรัค ในยุคที่ยังเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ ดอดจ์ เคยผลิตปิคอัพรุ่นพิเศษโดยใช้แรงบันดาลใจจากมัสเซิลคาร์ในอดีตอย่าง Dodge Super Bee พร้อมจำหน่ายแบบจำกัดจำนวนในปี 2004 และเมื่อนับระยะเวลาจากการเปิดตัวในปี 2003 ต้นแบบ Ram 1500 Rumble Bee Concept รุ่นใหม่ที่เห็นนี้ จึงต้องรับหน้าที่เป็นรุ่นฉลองครบรอบ 10 ปีของ Dodge Ram 1500 SLT Rumble Bee รุ่นโปรดัคชั่นไปด้วยในตัว โดยอยู่ภายใต้แบรนด์ แรม ทรัค เนื่องจากการ แยกตัวออกมาเป็นเอกเทศ จาก ดอดจ์ ในปี 2009 การเปิดตัวมีขึ้นที่เทศกาลรวมพลคนรักรถคลาสสิค, มัสเซิลคาร์ ไปจนถึง Hot rod อย่าง 2013 Woodward Dream Cruise ซึ่งจัดทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนสิงหาคมเป็นประจำทุกปีที่ เมโทร ดีทรอยท์ รัฐมิชิแกน พร้อมพาเรดขบวนรถไปบนถนนวู๊ดวาร์ด ตัวรถใช้พื้นฐานของ Ram 1500 รุ่นปี 2014 ตัวถัง Regular Cab กระบะสั้นในการพัฒนา ภายนอกยังคงใช้โทนสีเหลืองสดใสเหมือน Rumble Bee รุ่นปี 2004 เพียงแต่เปลี่ยนจากสีเหลือง Solar Yellow มาเป็นเหลืองด้าน Drone Yellow และเปลี่ยนคู่สีจากเงิน, เมทัลลิค มาเป็นสีดำล้วน ตราสัญลักษณ์ 'Speed Bee' ได้รับการออกแบบใหม่ให้หวือหวามากขึ้น ภายนอกตกแต่งเพิ่มเติมด้วยครอบกระจกมองข้างและฝาถังน้ำมันสีดำ สวมชุดกราวนด์เอฟเฟคท์ดีไซน์ใหม่ของ Mopar ที่ไม่ถึงกับเรี่ยพื้นนัก การลดความสูงตัวรถเป็นหน้าที่ของชุดโหลด 2 นิ้วจาก King Suspension ปิดท้ายด้วยการเรียกใช้บริการล้อฟอร์จของ Vellano รุ่น VRH สีดำมัน ขนาดใหญ่สาแก่ใจ 24 นิ้ว ไฮไลท์อยู่ที่งานตกแต่งภายใน ซึ่งมอบความสปอร์ตด้วยโทนสีเทาดำ งานหนังที่เบาะ แผงหน้าปัด และชุดพรมเข้ารูปเดินด้ายเหลือง โดดเด่นสุดๆ ด้วยปุ่มโรตารี่สำหรับเลือกเกียร์ที่มีการนำผึ้งตัวจริงเสียงจริงมาประดับในอำพัน โดยมีแบคกราวด์เป็นลายรังผึ้งเรืองแสงช่วยขับความเด่น เครื่องยนต์จะเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจาก V8 HEMI บล๊อคยักษ์ความจุ 5.7 ลิตร กำลังสูงสุด 395 แรงม้า แรงบิด 551.8 กก.-ม. ส่งกำลังไปขับล้อคู่หลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ TorqueFlite แบบ 8 จังหวะของ ไครสเลอร์ เสริมความดุดันด้วยชุดระบายไอเสียของ Mopar

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

21-08-2013, 08:43

ข่าวสารประจำวันที่ 21 สิงหาคม 2556 Update: 2013 Toyota Yaris Hybrid-R Concept ใกล้คันจริงเข้าไปอีกนิด

//image.free.in.th/v/2013/ip/130821085439.jpg (//pic.free.in.th/id/c3a9de2d613c03b26acc98d90e4787d3)

ลุ้นกันมาหลายวัน ในที่สุด โตโยต้า ก็เผยทีเซอร์ใหม่ออกมาอีก 1 ภาพให้คลายสงสัย โดยต้นแบบสปอร์ตไฮบริดลึกลับได้ใช้แฮทช์แบคไซส์เล็กอย่าง Toyota Yaris มาเป็นตัวสาธิตระบบขับเคลื่อน ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้แปลแอบตั้งธงในใจว่าน่าจะเป็นซีดานรุ่นใดรุ่นหนึ่งมากกว่า และไม่มีภาพของ Yaris หลุดเข้ามาในหัวเลย จุดสำคัญคือ... ระบบขับเคลื่อนชุดนี้จะไปลงคันจริงในรุ่นใด? และรถแบบไหนที่เหมาะกับสเปคไฮบริด ขับเคลื่อน 4 ล้อ กำลังสูงสุด 'มากกว่า' 400 แรงม้า? เพราะคู่แข่งร่วมชาติอย่าง 2015 NSX เผยเสปคระบบไฮบริดขับ 4 เบื้องต้นออกมาแล้วในแบบหมดหน้าตัก ส่วน Mitsubishi Evolution XI ที่มีสิทธิ์เป็นดีเซลไฮบริดขับ 4 ก็นับว่าเป็นการหงายไพ่ที่น่าตื่นเต้นเช่นกัน สำหรับข้อมูลล่าสุด Yaris รุ่นสาธิตนี้จะใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร GRE (Global Race Engine) พัฒนาภายใต้การควบคุมของ Toyota Motorsport GmbH จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง 2 ตัว ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ all-wheel drive ซึ่งถอดแบบมาจากตัวแข่ง TS030 Hybrid รวมใช้ใช้คาปาซิเตอร์เก็บประจุไฟฟ้าแทนที่แบตเตอรี่แพค หลังการเผยโฉมคันจริงของ Yaris Hybrid-R Concept ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ สิ่งที่บรรดาแฟนๆ โตโยต้า ต้องลุ้นกันต่อไปคือ สปอร์ตรุ่นใด (หรือชื่อใด) จะได้ครอบครองระบบขับเคลื่อนชุดนี้?

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

22-08-2013, 08:23

ข่าวสารประจำวันที่ 22 สิงหาคม 2556 Honda CR-V 1.6 i-DTEC ดีเซล 22.22 กม./ลิตร

//image.free.in.th/v/2013/ix/130822083823.jpg (//pic.free.in.th/id/76b63e8ba9c9793d945ee07393adc31c)

ผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกค่าย หากต้องการส่วนแบ่งในตลาดยุโรป ต้องมีทางเลือกหลักเป็นเครื่องยนต์ดีเซล เพราะได้รับการยอมรับและมีความนิยมสูง เนื่องจากให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะที่ดี โดยไม่ต้องมีความจุสูงๆ ล่าสุดหลังจากเปิดตัว ซีวิค แฮทช์แบ็ค รุ่น 1.6 i-DTEC ไปเมื่อช่วงต้นปี ฮอนด้า ในสหราชอาณาจักรก็นำเครื่องยนต์รุ่นเดียวกันมาปรับใช้กับเอสยูวีรุ่น ซีอาร์-วี พร้อมส่งถึงตัวแทนจำหน่ายตุลาคมนี้ ด้วยราคา 1.135 ล้านบาท สำหรับรุ่นย่อย S ส่วนรุ่นกลาง SE ราคา 1.227 ล้านบาท และรุ่นสูงสุด SR ราคา 1.338 ล้านบาท (ราคาในสหราชอาณาจักร) เครื่องยนต์รุ่นนี้มีความจุ 1,600 ซีซี กำลังสูงสุด 120 แรงม้า (PS) ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิด 30.57 กก.-ม. ที่ 2,000 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนล้อหน้าด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 22.22 กิโลเมตรต่อลิตร น้ำมัน 1 ถัง สามารถขับได้ประมาณ 1,290 กิโลเมตร และปล่อยคาร์บอนไดอ๊อกไซด์ในไอเสีย 119 กรัมต่อกิโลเมตร ส่งผลให้ไม่ต้องเสียภาษีการใช้ถนนในปีแรก และลดลงอีกประมาณ 1,500 บาทในปีต่อๆ ไป

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

23-08-2013, 08:37

ข่าวสารประจำวันที่ 23 สิงหาคม 2556 2015 Land Rover Range Rover Hybrid แลนด์โรเวอร์เปิดตัวเอสยูวีไฮบริด 2 รุ่น

//image.free.in.th/v/2013/ik/130823084722.jpg (//pic.free.in.th/id/434ba9dde58007084042e39bf850ea69)

แลนด์โรเวอร์ เปิดตัวรถไฮบริดเป็นครั้งแรกโดยแบ่งเป็น 2 รุ่นคือ Range Rover Hybrid และ Range Rover Sport Hybrid มีจุดเด่นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิง, มีมลพิษต่ำ โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะและประสิทธิภาพในการบุกตะลุย เด่นด้วยตัวถังและโครงสร้างอะลูมิเนียมหรือ Premium Lightweight Architecture นอกจากนี้ยังเป็นเอสยูวีไฮบริดระดับหรูรุ่นแรก ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เตรียมเปิดจองในสหราชอาณาจักรกันยายนนี้ และพร้อมส่งมอบรถ 10 คันแรกช่วงต้นปี 2014 พิสูจน์ความแข็งแกร่งทนทาน สร้างความมั่นใจให้ลูกค้า ด้วยการส่ง แลนด์โรเวอร์ ไฮบริด จำนวน 3 คัน เข้าร่วมการเดินทางไกล Silk Trail 2013 จากเมือง Solihull ในสหราชอาณาจักร ไปยังบริษัทในเครืออย่าง ทาทา ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมุมไบ ประเทศอินเดีย ระยะทางรวมกว่า 16,000 กิโลเมตร ผ่านประเทศฝรั่งเศส, เบลเยียม, เยอรมนี, โปแลนด์, ยูเครน, รัสเซีย, อุซเบกิสถาน, คีร์กีซสถาน, จีน และอินเดีย รวมกับระยะทางอีกประมาณ 6,400 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางสายไหมที่เชื่อมต่อระหว่างเอเชียกับเมดิเตอเรเนียน นับเป็นครั้งแรกของรถไฮบริดกับเส้นทางที่มีความท้าทายเช่นนี้ เรนจ์โรเวอร์ ไฮบริด ใช้เครื่องยนต์ดีเซลรหัส SDV6 ความจุ 3,000 ซีซี ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 35 กิโลวัตต์ หรือ 56.32 แรงม้า แรงบิด 17.32 กก.-ม. มีกำลังขับเคลื่อนรวม 340 แรงม้า (PS) แรงบิด 71.33 กก.-ม. ที่ 1,500 - 3,000 รอบต่อนาที ชิ้นส่วนของระบบไฮบริดรวมทั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ตัวแปลงไฟ และมอเตอร์ไฟฟ้า มีน้ำหนักรวมกันต่ำกว่า 120 กิโลกรัม ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะของ ZF มอเตอร์ไฟฟ้าจะช่วยเสริมอัตราเร่งและขับเคลื่อนรถเมื่ออยู่ใน EV Mode และมอเตอร์ยังทำหน้าที่ชาร์จไฟฟ้าเมื่อเบรกหรือลดความเร็ว ในโหมด EV ทำความเร็วได้สูงสุด 48 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับได้ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร และเมื่อไฟฟ้าในแบตเตอรี่หมด เครื่องยนต์ดีเซลก็จะทำการขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง อัตราเร่ง 0 - 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต่ำกว่า 7 วินาที ความเร็วสูงสุด 218 กิโลเมตรต่อชั่วโมบง มีมลพิษต่ำลง 26 เปอร์เซ็นต์ ด้วยการปล่อยคาร์บอนไดอ๊อคไซด์ในไอเสีย 169 กรัมต่อกิโลเมตร อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 15.63 กิโลเมตรต่อลิตร แบตเตอรี่ไฮบริดพร้อมระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวติดตั้งใต้พื้นรถ พร้อมกับมีแผ่นเหล็กป้องกันการกระแทก และไม่เบียดบังพื้นที่ห้องโดยสารหรือที่เก็บสัมภาระ ภายในยังคงมี 5 ที่นั่งพร้อมที่เก็บของด้านท้ายและยางอะไหล่แบบ Full-size ส่วน เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ก็ยังคงเบาะนั่งแบบ 5 + 2 ที่นั่งเหมือนรุ่นมาตรฐาน พร้อมลุยด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบ Terrain Response 2

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

24-08-2013, 10:25

ข่าวสารประจำวันที่ 24 สิงหาคม 2556 2014 Silverado/Sierra ทุกรุ่นครบไลน์รับ 5 ดาวในทุกหมวดจาก NHTSA

//image.free.in.th/v/2013/iv/130824103721.jpg (//pic.free.in.th/id/938d0ae7dfe7dba6141551f076498de0)

NHTSA หรือ National Highway Traffic Safety Administration สานักงานบริหารทางหลวง และความปลอดภัยทางการจราจรของสหรัฐอเมริกา เผยผลทดสอบชนปิคอัพฟูลไซส์ของ จีเอ็ม ซึ่งเปิดตัวไปในช่วงปีที่แล้ว ทั้งไลน์ของ Chevrolet Silverado และ GMC Sierra รวมทั้งรุ่นท๊อปออฟเดอะไลน์ของทั้งคู่ คือ High Country และ Sierra Denali โดยทั้งหมดผ่านมาตรฐานความปลอดภัยในระดับ 5 ดาวทุกหมวดย่อย จีเอ็ม ส่งรถที่เป็นรุ่นท๊อป ตัวถัง 4 ประตู crew cab ไปทดสอบ เนื่องจากคาดว่าความต้องการของตลาดปิคอัพแบบฟูลไซส์ในปี 2014 นั้น 60% จะมาจากยอดจำหน่ายของรุ่นตัวถัง crew cab เป็นหลัก การทดสอบในครั้งนี้อยู่ภายใต้การอัพเกรดกฏใหม่ที่เข้มงวดขึ้น โดยเริ่มใช้ในปี 2011 แบ่งเป็น 3 หมวดใหญ่ ก่อนจะรวมคะแนนเป็นเรท Overall ได้แก่ การชนด้านหน้า Frontal Crash, การชนด้านข้าง Side Crash และแบบพลิกคว่ำ Rollover ซึ่ง จีเอ็ม เป็นผู้ผลิตรายแรกที่รับผลการทดสอบในระดับ 5 ดาวทุกหมวด ทั้ง Silverado และ Sierra ใช้แชสซีส์แบบเดียวกัน คือเป็นแบบทรงกล่องเต็มรูป หรือ fully boxed frames ผลิตจากเหล็ก high-strength steel มีคานขวางเสริมแรงหลายจุด ทนแรงบิดตัวสูง (Colorado และ Trailblazer ซึ่งใช้พื้นฐานแบบเดียวกันก็ใช้แชสซีส์ boxed frames เช่นกัน ทว่าอาจมีความแตกต่างทางโครงสร้างบ้าง) อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ารอดูชมจริงๆ คือผลทดสอบของ IIHS แบบ Small overlap มากกว่า ซึ่งในปัจจุบันข้อมูลของ Silverado 1500 เพิ่งอัพเดทถึงรุ่นปี 2007 เท่านั้น และในบรรดาปิคอัพขนาดใหญ่ทั้งหมด ยังไม่มีใครลองทดสอบในรูปแบบนี้ แม้แต่ Ford F-150 และ Toyota Tundra รุ่นปี 2013 ก็ตาม

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

26-08-2013, 08:22

ข่าวสารประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2556 2014 Audi A8/Audi S8 ปรับโฉมพร้อมขยับสมรรถนะ

//image.free.in.th/v/2013/ii/130826083707.jpg (//pic.free.in.th/id/522d319880d80c690d2882ecb7c54af2)

ออดี้ เปิดตัวรุ่นไมเนอร์เชนจ์ของรถธงรุ่น A8 และรุ่นแรง S8 รูปลักษณ์ไม่ต่างจากภาพหลุดที่เผยออกมาก่อนหน้านี้ นอกจากปรับโฉมแล้วยังมีการปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะ เพิ่มระบบช่วยเหลือ และการเพิ่มลูกเล่นให้ไฟหน้า LED ภายนอกปรับใหม่รอบคันด้วยการปรับรายละเอียดไฟหน้าและไฟท้ายใหม่ โดยไฟหน้าแบบ LED เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับรุ่นเครื่องยนต์ V8 ด้านหน้าเปลี่ยนฝากระโปรงหน้า, กระจังหน้า และกันชนหน้าทรงใหม่ เน้นการเพิ่มเส้นสายให้มากขึ้น ส่วนไฟท้าย LED ออกแบบให้แบนราบลงและเพิ่มคิ้วโครเมียมในชุดโคม ภายในปรับปรุงทั้งในส่วนของวัสดุและสีที่ใช้ในการตกแต่ง เช่น ลายไม้เนื้อละเอียด เบาะหนังคุณภาพสูง คู่หน้ามีระบบหมุนเวียนอากาศและเป็นเบาะนวด ส่วนรุ่น L-Long Wheel Base เพิ่มความผ่อนคลายด้วยที่พักเท้าไฟฟ้า แอร์อัตโนมัติแบ่ง 4 โซน และประตูไฟฟ้าช่วยให้ปิดนุ่มนวลขึ้น เครื่องยนต์ของรุ่น 3.0 TFSI กำลังสูงสุด 306 แรงม้า (HP) เพิ่มขึ้น 20 HP ส่วนรุ่น 4.0 TFSI มีกำลังสูงสุด 429 แรงม้า (HP) เพิ่มขึ้น 9 HP รุ่นดีเซลก็ปรับปรุงเพิ่มสมรรถนะทั้ง 2 บล็อก 3.0 TDI มีกำลัง 254 แรงม้า (HP) เพิ่มขึ้น 4 HP และรุ่นใหญ่ 4.2 TDI มีกำลัง 380 แรงม้า (HP) เพิ่มขึ้น 30 HP และแรงบิด 86.61 กก.-ม. เพิ่มขึ้น 5.09 กก.-ม. ทุกรุ่นเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสีย ยูโร 6 ประหยุดสุดในรุ่นดีเซล 3.0 TDI ที่มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 16.94 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนรุ่นแรง 4.0 TFSI ขับเคลื่อน 4 ล้อ Quattro สามารถเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลา 4.5 วินาที ส่วนรุ่นย่อยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงประกอบด้วย A8 L W12 Quattro เบนซิน 6,300 ซีซี 500 แรงม้า (PS) และรุ่นแรง S8 ที่ปรับปรุงเครื่องยนต์ 4.0 TFSI ให้มีกำลังสูงสุด 520 แรงม้า (PS) และ A8 Hybrid ที่ใช้เครื่องยนต์ 2.0 TFSI กับมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังขับเคลื่อนรวม 245 แรงม้า (PS) และแรงบิด 48.91 กก.-ม. โดยรุ่นที่เร่งได้เร็วที่สุดคือ S8 Quattro 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 4.2 วินาที ทุกรุ่นเครื่องยนต์ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Tiptromic

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

27-08-2013, 08:31

ข่าวสารประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2556

2014 Lexus GX 460 ปรับโฉมพร้อม Land Cruiser Prado

//image.free.in.th/v/2013/iu/130827084658.jpg (//pic.free.in.th/id/6e92add40a76ef4842a8dcbce991695e)

เหมือนจะมีแต้มต่อเหนือ Land Cruiser 2014 จากภาพร่างที่หลุดออกมา แต่เมื่อภาพคันจริงถูกเผยโฉมบนโลกออนไลน์ เสียงตอบรับกลับไม่ต่างกันนัก เพราะกระจังหน้าแบบ spindle grille ทำให้ด้านหน้าดูสปอร์ตจริง ทว่าเมื่อรวมกับด้านหลังที่ยังเฉี่ยวไม่พอ จึงทำให้ Lexus GX ใหม่ไม่โดนใจแฟนๆ ในต่างประเทศนัก การปรับโฉมของ เลกซัส ในครั้งนี้ยังอยู่ใน GX เจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2009 โดยเป็นรถเอสยูวีรุ่นที่ 3 ของ เลกซัส พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Land Cruiser Prado รหัส J120 ส่วนรุ่นที่ 2 นั้น J150 มากับออปชั่นที่เต็มกว่า โตโยต้า โดยดิฟฯ ล็อค แบบทอร์เซน และระบบช่วงล่าง KDSS - Kinetic Dynamic Suspension System ถูกติดตั้งมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเป็นออปชั่น เลกซัส เพิ่มความน่าสนใจด้วยการหั่นราคาลง 9% ในรุ่นพื้นฐาน เมื่อเทียบกับรุ่นปี 2013 ราคาหน้าโรงงานเริ่มต้นที่ประมาณ 49,085 ดอลลาร์ หรือราว 1.5 ล้านบาท แต่รุ่นท๊อปแบบอุปกรณ์ครบ เริ่มต้นที่ 60,715 ดอลลาร์ หรือราว 1.9 ล้านบาท แพงกว่ารุ่นก่อนหน้าราว 6.7 หมื่นบาท แต่ก็นับว่ากำลังดีเมื่อเทียบกับอุปกรณ์ที่เพิ่มเติมขึ้นมาจากรุ่นพื้นฐาน ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ยังคงเป็น V8 ความจุ 4.6 ลิตร 301 แรงม้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ all-wheel drive รุ่นท๊อป GX Luxury จะมากับล้ออัลลอย 18 นิ้ว, ระบบ KDSS, ช่วงล่างแบบ Adaptable Air Suspension, ระบบนำทาง, ระบบ Blind Spot Monitor พร้อมฟังก์ชั่น Rear Cross Traffic Alert, ระบบ Parking Assist รวมถึงระบบ APCS - Advanced Pre Collision ซึ่งโดยพื้นฐานระบบนี้ทำงานเหมือนระบบ PCS ใน Land Cruiser ทุกประการ คือตรวจจับวัตถุข้างหน้าด้วยเรดาห์ และเตรียมการทำงานของระบบต่างๆ ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เพิ่มแรงเบรค หรือจัดสรรการทำงานของแทรคชั่นคอนโทรล จุดแตกต่างของระบบ PCS และ APCS คือ ระบบ APCS จะเพิ่มกล้องอินฟาเรดขนาดเล็กหลังพวงมาลัย ใช้สำหรับตรวจสอบตำแหน่งศีรษะของผู้ขับ เช่น ในกรณีที่เรดาห์ของ PCS ตรวจพบว่าอาจเกิดการปะทะทางด้านหน้า ผู้ขับกำลังหันหน้าไปทางอื่นหรือไม่? จากนั้นระบบจะแจ้งเตือนผู้ขับ พร้อมกับเตรียมเพิ่มแรงเบรค หรือเตรียมกระชับเข็มขัดนิรภัยให้ตัวแนบกับเบาะ หากจำเป็นต้องมีการปะทะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เป็นต้น กำหนดการจำหน่าย GX 460 ใหม่จะเริ่มขึ้นในช่วงเดือนกันยายน 2013

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

28-08-2013, 08:41

ข่าวสารประจำวันที่ 28 สิงหาคม 2556

Update: 2013 Toyota Yaris Hybrid-R Concept 420 แรงม้า 1 เครื่องยนต์และ 3 มอเตอร์ไฟฟ้าทำงานประสานกันอย่างไร

//image.free.in.th/v/2013/ie/130828085710.jpg (//pic.free.in.th/id/127f8b9de8d6dbbb87f0aa79fdeb84b9)

- โตโยต้า ปล่อยเสปคอย่างเป็นทางการของเทคโนโลยีที่ติดตั้งใน Yaris Hybrid R Concept โดยข้อมูลที่เผยออกมาล่าสุดนี้ ทำให้ Yaris GRMN Turbo Edition กลายเป็นรถที่ล้าสมัยและตกยุคไปในทันที - Yaris Hybrid-R Concept ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบรุ่นใหม่รหัส GRE หรือ Global Race Engine ความจุ 1.6 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า สำหรับขับเคลื่อนล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 60 แรงม้า ของ Yaris Hybrid ที่ใช้กับชุดระบบดาวน์ไซส์ของ Auris Hybrid มาติดตั้งสำหรับขับล้อคู่หลังข้างละ 1 ตัว เมื่อรวมกำลังทั้งระบบในลักษณะขับ 4 จะเท่ากับ หน้า 300 + หลัง 60 x 2 = 420 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ 6 จังหวะ ซีเควนเชียล - มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์สำหรับชาร์จไฟกลับขณะเบรค/ยกคันเร่ง และช่วยเติมประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ในขณะที่ต้องการอัตราเร่ง โดยระดับของพละกำลังเสริมจะแยกตามลักษณะการใช้งานเป็นหลัก เช่น ในโหมดการใช้งานปกติบนท้องถนน มอเตอร์ไฟฟ้าจะจำกัดกำลังสูงสุดเอาไว้ที่ 40 แรงม้า (หน้า 300 + หลัง 40 x 2 = 380 แรงม้า) และสามารถกดคันเร่งเรียกใช้งานอัตราเร่งได้ต่อเนื่อง 10 วินาที/รีชาร์จ คือ กด 10 วินาที...รอรีชาร์จด้วย regenerative braking sys เต็มแล้วใช้ได้อีก 10 วินาที - หากใช้งานในแบบ track mode บนสนามแข่ง เวลาในการเรียกใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าคู่จะลดลงเหลือ 5 วินาที/รีชาร์จ จากการใช้งานอย่างเต็มที่ 120 แรงม้า - นอกจากนี้ โตโยต้า ยังพัฒนาการจัดสรรกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า ให้สามารถส่งกำลังไปยังล้อคู่หลังในแบบไม่สมมาตร โดยทำงานคล้ายๆ ระบบกระจายแรงบิดแบบ torque vectoring นั่นเอง ยกตัวอย่างกรณีเข้าโค้ง ล้อด้านในโค้งจะหมุนด้วยจำนวนรอบที่น้อยกว่าล้อด้านนอก มอเตอร์ไฟฟ้าตัวที่ส่งกำลังให้ล้อด้านนอกจะส่งกำลังหมุนล้อในแบบปกติ ในขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้าด้านที่ติดตั้งอยู่กับล้อในโค้ง จะสลับการทำงานไปเป็นเจนเนอเรเตอร์ชั่วคราว ช่วยลดอาการท้ายปัดและเข้าโค้งได้ดีขึ้น - ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า 60 แรงม้าตัวที่ 3 ที่ติดตั้งเอาไว้ระหว่างเครื่องยนต์และเกียร์ จะรับหน้าที่ในการทำงาน 2 ลักษณะ แบบแรกคือชาร์จกระแสไฟฟ้าให้ซูเปอร์คาปาซิเตอร์ (ใช้เก็บประจุไฟฟ้าแทนแบตเตอรี่แพค คุณสมบัติเด่นคือ เก็บและคายประจุไฟฟ้าได้รวดเร็วกว่า) ส่วนแบบที่ 2 คือ ช่วยยิงกระแสไฟฟ้าไปปั่นมอเตอร์ไฟฟ้าตัวหลัง (ด้านที่อยู่นอกโค้ง) โดยตรงขณะเรียกอัตราเร่งในโค้ง - อย่างไรก็ตาม โตโยต้า ยังไม่มีการคอนเฟิร์มว่าชุดระบบขับเคลื่อนไฮบริดชุดนี้จะถูกใช้งานจริงในรถแข่งรุ่นต่อไป หรือจะมีโปรดัคชั่นคาร์รุ่นใดได้ใช้งานบนท้องถนน

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

29-08-2013, 09:13

ข่าวสารประจำวันที่ 29 สิงหาคม 2556

Chevrolet Colorado/GMC Canyon เตรียมกลับไปลุยตลาดปิคอัพขนาดกลางในสหรัฐฯ

//image.free.in.th/v/2013/is/130829092748.jpg (//pic.free.in.th/id/4ef69c929958dfa5833f91edf79adb1e)

- จาก ข่าวเดิม ในช่วงต้นปี ปิคอัพ 2 รุ่นใหม่ของ จีเอ็ม ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นแฝดร่วมแพลทฟอร์มอย่าง Chevrolet Colorado และ GMC Canyon เจนเนอเรชั่นที่ 2 นั่นเอง และแน่นอนว่าทั้งคู่จะลงสู้สึกดีเซลในสหรัฐฯ ด้วยเครื่องยนต์ 4 สูบ Duramax เทอร์โบดีเซล เพื่อตัดกำลังของปิคอัพขนาดกลางอย่าง Nissan Frontier และ Toyota Tacoma ซึ่งอยู่ในตลาดปิคอัพขนาดกลางเหมือนกัน - การต่อสู้ในครั้งนี้เป็นเรื่องของความประหยัดล้วนๆ ในตลาดปิคอัพฟูลไซส์ นิสสัน เตรียมนำเครื่อง V8 ดีเซลของ Cummins Inc. มาวางใน Titan รุ่นปี 2015 ส่วน RAM 1500 รุ่นล่าสุด MY2014 ใช้บริการเครื่องยนต์ V6 ดีเซล คอมมอนเรล ของ VM Motori ซึ่งบล๊อคใหญ่อย่าง V8 ในอนาคตต้องพึ่งพาความประหยัดด้วยเกียร์ 8 จังหวะ, ระบบ stop-start ไปจนถึงระบบหยุดการทำงานของบางสูบอย่าง cylinder deactivation แน่นอน - กลับกัน ปิคอัพขนาดกลางอย่าง Colorado/Canyon ซึ่งเป็นตลาด non-HD ที่ไม่ใช่รถสำหรับใช้งานหนักแบบเฮฟวี่-ดิวตี้เหมือน Ford F-150, RAM 1500 HD, Toyota Tundra หรือ Nissan Titan จีเอ็ม พยายามแยกกลุ่มตลาดโดยมองไปยังลูกค้าที่ใช้รถแบบกึ่งๆ สันทนาการ และต้องการความประหยัดเป็นหลัก เครื่องดีเซล 4 สูบ 2.5 หรือ 2.8 ลิตร ซึ่งมีต้นทุนที่ถูกกว่าเครื่องเบนซิน V6 เหมือนที่ Tacoma และ Frontier มีให้เลือกนอกเหนือไปจากเครื่องเบนซิน 4 สูบ จะทำให้ จีเอ็ม เป็นปิคอัพแบบ non-HD รุ่นเดียวในตลาดสหรัฐฯ ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเป็นจุดขาย - จีเอ็ม ผลิต Colorado/Canyon รุ่นก่อนหน้าที่โรงงานในลุยส์เซียนาตลอดช่วงปี 2011 โดยนับรุ่นปีเป็น MY2012 และจะเริ่มสายการผลิต Colorado/Canyon ใหม่ในช่วงปี 2014 ที่โรงงานในเวนซ์วิลล์ รัฐมิสซูรี - ก่อนหน้านี้ จีเอ็ม ได้ทำการขยับขยายโรงงานแห่งนี้ด้วยเงินลงทุนถึง 380 ล้านดอลลาร์ สำหรับการปรับปรุง/เพิ่มเติมเครื่องจักร และมีการเตรียมการจ้างงานถึง 1,260 อัตราในช่วงปลายปี 2011 ซึ่งเดิมทีโรงงงานแห่งนี้ทำการผลิตรถเพียง 2 รุ่น คือ Chevrolet Express และ GMC Savana ซึ่งเป็นรถแวนเพื่อการพาณิชย์แพลทฟอร์มเดียวกัน

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

30-08-2013, 09:00

ข่าวสารประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2556

Toyota Hilux Vigo Champ 2013 ปรับปรุงใหม่ เพิ่ม 2 รุ่นใหม่ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยใหม่

//image.free.in.th/v/2013/im/130830090629.jpg (//pic.free.in.th/id/26147aba2e3ead2b260cb32e23db3788)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปรับปรุงใหม่ มาพร้อมมาตรฐานใหม่ของรถกระบะ ติดตั้งถุงลมนิรภัยเสริมความปลอดภัยคู่หน้า พร้อมเข็ดขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับในทุกรุ่น รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสีย ยูโร 4 โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะทั้งด้านการทรงตัว อัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์ D-4D เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และระบบช่วงล่าง DTS - DIAMOND TECH SUSPENSION ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2556 • เพิ่ม 2 รุ่นใหม่* เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจลูกค้า • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ 2.5G A/T Navi • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ 2.5E A/T ABS • ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า และเข็มขัดนิรภัยระบบดึงรั้งกลับ มาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น • เครื่องยนต์ใหม่รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสีย ยูโร 4 ทุกรุ่น เพิ่มแรงม้าในเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาจำหน่าย - ราคารวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner 2.5G A/T Navi ราคา 819,000 บาท • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner 2.5E A/T ABS ราคา 779,000 บาท

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

30-08-2013, 09:01

ข่าวสารประจำวันที่ 30 สิงหาคม 2556

Toyota Hilux Vigo Champ 2013 ปรับปรุงใหม่ เพิ่ม 2 รุ่นใหม่ พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยใหม่

//image.free.in.th/v/2013/im/130830090629.jpg (//pic.free.in.th/id/26147aba2e3ead2b260cb32e23db3788)

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด แนะนำรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปรับปรุงใหม่ มาพร้อมมาตรฐานใหม่ของรถกระบะ ติดตั้งถุงลมนิรภัยเสริมความปลอดภัยคู่หน้า พร้อมเข็ดขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับในทุกรุ่น รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสีย ยูโร 4 โดยยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะทั้งด้านการทรงตัว อัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันจากเครื่องยนต์ D-4D เกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด และระบบช่วงล่าง DTS - DIAMOND TECH SUSPENSION ไฮลักซ์ วีโก้ แชมป์ รุ่นปรับปรุงใหม่ปี 2556 • เพิ่ม 2 รุ่นใหม่* เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจลูกค้า • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ 2.5G A/T Navi • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ 2.5E A/T ABS • ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า และเข็มขัดนิรภัยระบบดึงรั้งกลับ มาตรฐานความปลอดภัยในทุกรุ่น • เครื่องยนต์ใหม่รองรับมาตรฐานมลพิษไอเสีย ยูโร 4 ทุกรุ่น เพิ่มแรงม้าในเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร รุ่นเกียร์ธรรมดา ราคาจำหน่าย - ราคารวมเครื่องปรับอากาศและภาษีมูลค่าเพิ่ม • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner 2.5G A/T Navi ราคา 819,000 บาท • Toyota Hilux Vigo Champ Smart Cab Prerunner 2.5E A/T ABS ราคา 779,000 บาท

Credit By: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com) สามารถรับชมข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand (//www.facebook.com/aeroklasthailand)

Aeroklas

18-09-2013, 11:30

ข่าวสารประจำวันที่ 18 กันยายน 2556

//image.free.in.th/v/2013/ig/130918114527.jpg (//pic.free.in.th/id/17ebade50b7e581d8eb064c80adb8ba4)

2013 Tata Xenon Tuff Truck Concept ต้นแบบเวอร์ชั่นดุ พื้นฐาน Xenon Double Cab

ต่อเนื่องจากการ เปิดตลาดในออสเตรเลีย ผ่านเครือข่าย Fusion Automotive ทาทา ลองหยั่งเสียงตอบรับเพิ่มเติม ด้วยการเปิดตัวต้นแบบเวอร์ชั่นดุของ Xenon กับ Tata Xenon Tuff Truck Concept ในงาน National 4x4 & Outdoors Show and Fishing & Boating Expo ที่เมลเบิร์นช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดปิคอัพขนาดกลางในออสเตรเลียนั้น ใหญ่ไม่เป็นสองรองใครในภูมิภาค โดยเฉพาะการใช้งานในเชิงสันทนาการ

Tuff Truck Concept ตกแต่งรอบคันในแบบออฟ-โรดเต็มรูปแบบ ซ่อนวินช์ไว้ในการ์ดหน้า โชว์เฉพาะแผงแฟร์ลีด, ติดตั้งหูลากหน้า-หลังขนาดจิ๋ว, ล้ออัลลอย 20 นิ้วสวมยาง all-terrain เสริมความอเนกประสงค์ด้วยสปอร์ทบาร์ รูฟเรล สปอทไลท์ LED และสนอร์คเกิลทรงแนบหลังคา ทาทา มอเตอร์ ออสเตรเลีย ใช้พื้นฐานของ Tata Xenon รุ่น 4 ประตู Double Cab เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล 2.2 ลิตร 150 แรงม้า แรงบิด 32.6 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อมีฟังก์ชั่น shift-on-the-fly

ผลงานที่เห็นนี้อยู่ภายใต้การดูแลของ Mr. Julian Quincey หัวหน้าทีมออกแบบของ HSV หรือ Holden Special Vehicles พาร์ทเนอร์ของ จีเอ็ม ในออสเตรเลียที่ผลิตรถรุ่นพิเศษพลังแรงให้ โฮลเด้น มากว่า 20 ปี อย่างไรก็ตาม ทาทา ไม่มีแผนการผลิต Tuff Truck Concept เป็นรุ่นจำหน่ายจริง การโชว์ตัวในครั้งนี้เป็นเพียงการเสนอทางเลือกให้คอออฟ-โรดในออสเตรเลียเห็นว่า Xenon สามารถแต่งได้ตามต้องการ และน่าจะได้เปรียบในเรื่องส่วนต่างราคาของรถ

การเจาะตลาดปิคอัพ หรือที่แฟนๆ ในออสเตรเลียเรียกเหมารวมว่ารถ 'Ute' ไม่ใช่เรื่องง่าย ดูจากสถิติในปี 2012 ที่ผ่านมา รถระดับท๊อปไฟฟ์ที่ครองความนิยมในตลาดคือ Toyota Hilux ต่อด้วย Nissan Navara, Mitsubishi Triton, Ford Ranger และ Mazda BT-50 ส่วนเจ้าตลาดบ้านเราอย่าง Isuzu D-MAX ตามมาห่างๆ ในอันดับที่ 9

Credit By : www.motortrivia.com สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

02-10-2013, 08:47

ข่าวสารประจำวันที่ 2 ตุลาคม 2556

//image.free.in.th/v/2013/ip/131002085922.jpg (//pic.free.in.th/id/ee2490584fa34d2c3b5a5a5a0d4ef86f)

เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2556 ที่ผ่านมา ทางกลุ่มตะวันออก โพลีเมอร์ ได้ทำการส่งมอบเรือให้กับมูลนิธิ เพื่อนพึ่ง(ภา) ยามยาก สภากาชาติไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,000 ลำ มูลค่า 3,000,000 บาท เพื่อช่วยเหลือผู้ที่กำลังประสบอุกทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยนี้ ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทได้มีแผนการที่จะบริจาคเรือไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่อื่นๆอีก

สำหรับท่านที่ต้องการจะร่วมบริจาคเรือกับบริษัทแอร์โรคลาส สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมและแสดงความคิดเห็นกันได้ผ่านทาง www.facebook.com/Aeroklasthailand

Aeroklas

07-11-2013, 14:26

//image.free.in.th/v/2013/ix/131107023933.jpg (//pic.free.in.th/id/af7ae8a401d9a6a061c22e1963467692)

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้แอดมินมีข่าวเปิดตัว Isuzu MU-X มาฝากกันนะครับ

"2014 Isuzu MU-X" โฉมใหม่ของรถอเนกประสงค์จากตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดตัวรถอเนกประสงค์ MU-7 โฉมใหม่ในชื่อ MU-X เตรียมทำตลาดภายใต้แนวคิด 'เอกสิทธิ์แห่งผู้นำ: Privilege od the Leader'

--เครื่องยนต์ 2 ความจุ 2.5 และ 3.0-- พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ Ddi Super Commonrail เวอร์ชั่นใหม่ มาตรฐาน EURO 4 อัดอากาศด้วยเทอร์โบแปรผัน VGS Turbo แบบ Zero Gap ลดช่องว่างระหว่างใบพัดกับเสื้อเทอร์โบ เพิ่มประสิทธิภาพการอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ REV Tronic พร้อมระบบ safety mode ป้องกันระบบส่งกำลังเสียหายจากการเข้าเกียร์ผิด เสริมด้วยระบบ Lock-Up Torque Converter เพิ่มการส่งถ่ายกำลังตั้งแต่รอบต่ำ

รุ่นเครื่องยนต์แบ่งเป็น 2 รุ่นคือ Ddi 3.0 VGS Turbo กำลังสูงสุด 177 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. เริ่มที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที อีกหนึ่งรุ่นคือ Ddi 2.5 VGS Turbo กำลังสูงสุด 136 แรงม้า ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. เริ่มที่ 1,800-2,800 รอบ/นาที เท่ากัน

--ช่วงล่างใหม่-- MU-X คิดตั้งคอยล์สปริง 4 ล้อ ช่วงล่างด้านหลัง 5-Link Suspension พร้อม Stabilizer Bar เหล็กกันโคลงขนาดใหญ่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time 4WD พร้อมสวิทช์ควบคุมแบบ Terrain Command สะดวกในการปรับเปลี่ยนทั้งแบบ 2WD และ 4WD

อีซูซุ ให้รายละเอียดว่า การพัฒนาช่วงล่างชุดนี้อยู่ภายใต้แนวคิด 2 ด้าน คือ Linear Handling เน้นเสถียรภาพการทรงตัว และการบังคับควบคุมที่แม่นยำ ผสานกับแนวคิด Flat Riding เน้นประสิทธิภาพในการรับแรงสะเทือน เพื่อความนิ่งของตัวรถ แม้ผ่านสภาพทางขรุขระ

--ระบบความปลอดภัย-- MU-X ใช้ดิสก์เบรกแบบมีครีบระบายความร้อนทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบ ABS ป้องกันล้อล็อก ควบคุมด้วย Dual G-Sensor พร้อมระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยระบบควบคุมการทรงตัว ESC และระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TCS ป้องกันการลื่นไถลขณะออกตัว ส่วนกล้องมองภาพด้านหลังแบบ built-in เสรืมความมั่นใจด้วยเส้นกะระยะ Lane Guide

โครงสร้างห้องโดยสารเสริมเหล็กกล้า High Tensile Strength Steel ผลิตด้วยเทคโนโลยี Tailor Welded Blank ใช้เหล็กหนาพิเศษเสริมจุดที่ดูดซับแรงกระแทก และยังมีเหล็กกันกระแทกด้านข้าง หรือ Side Door Beam รองรับการชนด้านข้าง

เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 7 ที่นั่ง พร้อมกลไกแบบดึงกลับอัตโนมัติ ทำงานร่วมกับแอร์แบคคู่ Dual SRS แกนพวงมาลัยและแป้นเบรกแบบยุบตัว ได้ ช่วยลดความรุนแรงขณะเกิดอุบัติเหตุ

Isuzu MU-X พร้อมลงโชว์รูมทั่วประเทศ 6 พฤศจิกายน 2556 นะครับ.

credit By: www.motortrivia.com สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/aeroklasthailand

Aeroklas

08-11-2013, 08:28

ข่าวเช้าวันที่ 8 พฤศจิกายน 2013

//image.free.in.th/v/2013/it/131108083210.jpg (//pic.free.in.th/id/26bedcc66a7f900f4a9cf3aa58a5f74d)

เช้านี้แอดมินขอเอาข่าวคราวของค่ายรถ Chevrolet มาอัพเดทกันสักหน่อยนะครับ ทาง Chevrolet เผยยอดขายภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เดือนตุลาคม 2013

ยอดขายของ เชฟโรเลต ฟิลิปปินส์ ในเดือนตุลาคม เติบโต 38 เปอร์เซ็นต์ หรือเพิ่มขึ้น 66 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 499 คัน ซึ่งถือเป็นยอดขายรายเดือนที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ของ เชฟโรเลต ในฟิลิปปินส์ นำโดย Trailblazer ด้วยยอดขาย 274 คัน และถือเป็นหนึ่งในรถเอสยูวีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

เชฟโรเลต อินโดนีเซีย มียอดขาย 2,351 คันในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์ จากเดือนกันยายนหรือ 490 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว Spin ยังคงมียอดขายสูงสุดด้วยตัวเลข 1,680 คันในเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า 20 เปอร์เซ็นต์

สำหรับ เชฟโรเลต ประเทศไทย ทำยอดขาย 4,231 คันในเดือนตุลาคม นำโดย Colorado 1,956 คันและ Sonic ที่มียอดขาย 1,204 คัน ขณะที่รถ เชฟโรเลต รุ่นอื่นๆ ก็มียอดขายที่เติบโตอย่างมั่นคง ทั้ง Trailblazer (ยอดขาย 406 คัน) Captiva (343 คัน) Cruze (180 คัน) และ Spin (130 คัน)

"เรายังคงมองเห็นถึงแนวโน้มที่ดีในการขยายส่วนแบ่งตลาดของเชฟโรเลต ทั่วทั้งภูมิภาคนี้ ท่ามกลางการแข่งขันที่มีความดุเดือดที่สุดในรอบหลายปี" มร. กุสตาโว โคลอซซี รองประธานกรรมการ ฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยแ ละเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ซึ่งก่อนหน้านี้ เชฟโรเลต เพิ่งประกาศเปิดตัวแคมเปญ Five-Year Worry Free ฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปีสำหรับ Chevrolet Cruze เน้นย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ เชฟโรเลต ในการบริการลูกค้าให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด

Credit : www.motortrivia.com

Aeroklas

11-11-2013, 08:11

ข่าวเช้าประจำวันที่ 11 พฤสจิกายน 2556

Ford รุกขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสู่หัวเมืองใหญ่ รองรับลูกค้าทั่วประเทศ

ฟอร์ด ประเทศไทย รุกขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ โดยเปิดโชว์รูมผู้จำหน่าย ฟอร์ด อนุภาษ พังงา และ ฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก อย่างเป็นทางการเมื่อเร็วๆนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขายและมอบประสบการณ์การบริการที่เป็นเลิศแก่ลูกค้าฟอร์ดทั่วประเทศ

การเปิดโชว์รูมและศูนย์บริการใหม่ทั้งสองแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในความมุ่งมั่นของฟอร์ด ที่จะอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ด้วยการขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศไทย

โชว์รูมและศูนย์บริการ ฟอร์ด อนุภาษ พังงา นับเป็นโชว์รูมแห่งที่ 3 ของฟอร์ดที่เปิดตัวอย่างต่อเนื่องในภาคใต้ในปีนี้ หลังจากการเปิดโชว์รูม ฟอร์ด ปัตตานี และ ฟอร์ด มิตรแท้ ระนอง ทั้ง 2 แห่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อเป็นไปตามแผนการขยายเครือข่ายเข้าสู่หัวเมืองใหญ่ของฟอร์ด และเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในภาคใต้ ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ฟอร์ด อนุภาษ พังงา ยังเป็นเจ้าของโชว์รูมฟอร์ดอีก 3 แห่ง ในกลุ่ม ฟอร์ด อนุภาษ ในภาคใต้ฝั่งตะวันตก ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ และตรัง

ฟอร์ด อนุภาษ พังงา เป็นโชว์รูมและศูนย์บริการที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยและครบวงจร เพื่อยกระดับคุณภาพการบริการหลังการขาย และมอบประสบการณ์การบริการให้แก่ลูกค้าอีกด้วย และนอกจากการขยายโชว์รูมและศูนย์บริการสู่หัวเมืองใหญ่ในภาคใต้แล้ว ฟอร์ดก็ยังขยายเครือข่ายเข้าสู่ภาคกลาง ด้วยการเปิดโชว์รูมฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก ในวันเดียวกัน

ฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก เป็นโชว์รูมแห่งแรกที่เปิดตัวในห้างสรรพสินค้า และเป็นต้นแบบของโชว์รูมมาตรฐานใหม่ที่เน้นด้านการขาย โชว์รูมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยกระดับประสบการณ์ลูกค้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าในการเข้าถึงสินค้า และบริการของฟอร์ดได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ปรึกษาด้านการขายประจำสาขาฟอร์ด อนุภาษ พังงา และฟอร์ด สองแคว พิษณุโลก ยังได้ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานเดียวกับโชว์รูมหลักของฟอร์ด เพื่อให้ได้คุณภาพการบริการตามมาตรฐานการบริการระดับโลก ที่เรียกว่า Quality Care อีกด้วย

เพื่อรองรับกับการเปิดตัวรถฟอร์ดรุ่นใหม่ในอนาคต พร้อมขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ฟอร์ดจึงได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องด้วยการรุกขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ ไปสู่หัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิดของการเป็น Smart Brand โดยฟอร์ดได้ทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับผู้จำหน่าย และศูนย์บริการในแต่ละพื้นที่ ในการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ไปพร้อมกับพัฒนาคุณภาพของพนักงาน เพื่อพร้อมนำเสนอการบริการแบบ Smart Service ให้กับลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับบริการที่เป็นมาตรฐานเดียวกันในโชว์รูม และศูนย์บริการของฟอร์ดทุกแห่งทั่วประเทศ

//image.free.in.th/v/2013/il/131111080731.jpg (//pic.free.in.th/id/c33d08e4d7052f1dd2166f71d8decf5d)

Credit : www.motortrivia.com

Aeroklas

18-11-2013, 09:13

ข่าวเช้าประจำวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 //image.ohozaa.com/i/2c4/Vc8ulf.jpg (//image.ohozaa.com/view2/xdHo5ck3SgEqeYvi) Mitsubishi Motors ขนทัพรถครบไลน์พร้อมแคมเปญ Hello Motor Expo ร่วมงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 30 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ส่ง Mirage มาพร้อมชุดแต่ง Hello Kitty ภายใต้ธีม Mirage Meets Hello Kitty มาร่วมจัดแสดงเป็นไฮไลท์ของงาน และเตรียมแนะนำ Attrage รุ่นตกแต่งพิเศษ และ Triton รุ่นปี 2014 กับข้อเสนอเด็ดดอกเบี้ย 0% นาน 48 เดือน หรือนำรถเก่ามาแลกรถใหม่เพิ่มมูลค่าสูงสุด 60,000 บาท พร้อมรับโปรโมชั่นออกรถวันนี้จ่ายปีหน้า แถมฟรีไดมอนด์ โปรเทคชั่น ประกันภัยชั้นหนึ่ง ถือโอกาสเปิดตัว ฮัลโหล คิตตี้ แบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของ มิตซูบิชิ ในประเทศไทย พร้อมขนเหล่าพรีเซ็นเตอร์ ทั้ง นิชคุณ, มาริโอ้ และ คิมเบอร์ลี่ ร่วมงาน มอเตอร์ เอ็กซ์โป ครั้งที่ 30 ซีงจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2556 นี้ ที่ชาแลนเจอร์ฮอล์ เมืองทองธานี บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมนำ มิตซูบิชิ มิราจ ที่มาพร้อมชุดแต่ง ฮัลโหล คิตตี้ มาร่วมจัดแสดงเป็นไฮไลท์ของงาน พร้อมแนะนำ Mitsubishi Attrage รุ่นตกแต่งพิเศษ Ralliart Version ที่มาพร้อมชุดแต่งสไตล์สปอร์ต เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าที่สนใจรถยนต์อีโค คาร์ ที่ให้ทั้งการประหยัดน้ำมัน ห้องโดยสารที่กว้างสบาย พร้อมราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้ และให้อารมณ์สปอร์ตยิ่งขึ้น รวมไปถึง Mitsubishi Triton รุ่นปี 2014 ที่ได้รับการพัฒนาให้ลงตัวมากยิ่งขึ้น ด้วยด้วยการเสริมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ ทั้งระบบเครื่องเสียงใหม่ M9N ระบบนำทาง และช่องต่ออุปกรณ์ USB สามารถเชื่อมต่อ iPod/iPhone และถุงลมนิรภัย สำหรับผู้ขับขี่ รวมทั้งเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติพร้อมระบบผ่อนแรง และยังแนะนำสีใหม่ 'ไทเทเนียม' ด้วย สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือ Mitsubishi Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800-900-009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30 - 17.00 น. หรือที่เว็บไซต์อย่างเป็นการของ มิตซูบิชิ ประเทศไทย mitsubishi-motors.co.th ข้อเสนอพิเศษ ฮัลโหล มอเตอร์ เอ็กซ์โป สำหรับลูกค้าที่จองรถทุกรุ่นตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคมนี้ Credir : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

19-11-2013, 08:00

ข่าวเช้าประจำวันที่ 19 พฤศจิกายน 256 //upic.me/i/6w/saic-motor-cp-press-conferrence-01.jpg (//upic.me/show/48216728) SAIC Motor-CP Co., Ltd เตรียมเปิดตัว MG รุ่นแรกในประเทศไทยภายในปี 2557 Shanghai Automotive Industry Corporation หรือ SAIC ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดในประเทศจีน ร่วมทุนกลุ่ม CP ตั้งบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์แบรนด์อังกฤษ MG เพื่อบุกตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลในไทยและอาเซียน พร้อมอัดฉีดเงินกว่า 9,000 ล้านบาท ตั้งฐานการผลิตในไทย ด้วยกำลังการผลิตสูงสุด 50,000 คันต่อปี โดยจะเริ่มจำหน่ายรุ่นแรก คือ MG 6 ในปี 2557 "เอ็มจีเป็นรถยนต์สัญชาติอังกฤษที่มีประวัติยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ ในปี 2548 บริษัทเซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟฯ ได้เข้าควบรวมกิจการ แต่ยังคงดำเนินงานการพัฒนาและออกแบบ รวมถึงเทคโนโลยีต่างๆ ด้านวิศวกรรมยานยนต์ ในเมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เอ็มจีจึงเป็นรถยนต์เทคโนโลยียุโรป เพียงแต่ดึงความเชี่ยวชาญของการหาแหล่งชิ้นส่วน และการควบคุมคุณภาพของเซี่ยงไฮ้ฯ ซึ่งมีหุ้นส่วนธุรกิจอยู่ทั่วโลก มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและส่งมอบสินค้าและบริการ ของเซี่ยงไฮ้ออโตโมทีฟฯ เพื่อให้ เอ็มจีเข้าถึงตลาดและลูกค้าในไทยได้อย่างรวดเร็ว" เมื่อปีที่ผ่านมา เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี ได้ตั้งโรงงานประกอบรถยนต์พวงมาลัยขวาใน นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด ซึ่งอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง เพื่อความสะดวกในการส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศ MG 6 รุ่นปี 2011 เป็นรถที่โรงงาน MG ในลองบริดจ์ ประเทศอังกฤษ กลับมาเดินสายการผลิตอีกครั้งในรอบ 15 ปี โดยความร่วมมือของ MG Rover และ Shanghai Automotive โดยรุ่นปี 2011 นั้นเป็นรถขนาดกลางที่มากับความยาว 4651 มม. กว้าง 1826 มม. และสูง 1480 มม. รูปแบบตัวถังมีทั้ง 5 ประตู ฟาสท์แบค และ 4 ประตู ซาลูน เลย์เอาท์เครื่องยนต์ แบบวางหน้า/ขับหน้า รุ่นเครื่องยนต์มี 2 ทางเลือกคือ 4 สูบ เบนซิน 1.8 เทอร์โบ และ ดีเซล 1.9 สำหรับรุ่นที่ เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จะจำหน่ายในบ้านเรา ต้องรอดูความเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

21-11-2013, 10:27

ข่าวเช้าประจำวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 //upic.me/i/xn/nissan-sylphy-cng-and-1600-sv-sport-01.jpg (//upic.me/show/48252025) Nissan เปิดตัว Sylphy CNG และ Sylphy 1.6SV ที่มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน สสัน ประเทศไทย ประกาศเปิดตัว Sylphy 2 รุ่นใหม่ Nissan Sylphy CNG ประหยัดยิ่งกว่าเดิมด้วยระบบ Bi-fuel และ Nissan Sylphy 1.6SV ที่มาพร้อมชุดแต่งสปอร์ตรอบคัน พร้อมภายในสีดำ-เงิน เติมอารมณ์สปอร์ตในแบบพรีเมี่ยม พร้อมจำหน่ายแล้วที่โชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการรถยนต์พลังงานซีเอ็นจี ที่ขับเคลื่อนสะอาดและประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม นิสสันจึงเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า ด้วยการแนะนำ นิสสัน ซิลฟี ซีเอ็นจี ใหม่ ซึ่งใช้ได้ทั้งน้ำมันเบนซินหรือก๊าซธรรมชาติซีเอ็นจี พร้อมกับเปิดตัว นิสสัน ซิลฟี 1.6SV ที่ให้อารมณ์สปอร์ตหรูเต็มพิกัด โดยยังคงสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมของเครื่องยนต์ ที่มาพร้อมกับระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector ให้การเผาไหม้หมดจด ประหยัดน้ำมันสูงสุดไว้ดังเดิม Nissan Sylphy CNG ติดตั้งเครื่องยนต์ HR16DE ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ความจุ 1.6 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบหัวฉีดคู่ Dual Injector ทำงานร่วมกับระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC กำลังสูงสุด 116 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยเบนซิน และ CNG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และประหยัดน้ำมันมากกว่าด้วยระบบ Bi-fuel ปลอดภัยด้วยระบบโซลินอยด์วาล์ว ใช้งานสะดวกด้วยสวิตช์ปรับเปลี่ยนระบบเชื้อเพลิง ระบบหัวฉีดก๊าซเป็นแบบ Floating Type หัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ประสิทธิภาพสูง ช่วยลดระดับเสียงรบกวน จ่ายก๊าซได้อย่างแม่นยำในทุกจังหวะการทำงาน กล่อง ECU ประมวลผลการสั่งจ่ายก๊าซ CNG ในระดับที่เหมาะสม เครื่องยนต์ทำงานเต็มประสิทธิภาพ ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่า Nissan Sylphy CNG มีให้เลือก 6 สี คือ เทา Deep Iris Gray, ขาว White Pearl, ดำ Black Star, เงิน Brilliant Silver, แดง Radiant Red และน้ำตาล Grayish Bronze ราคาจำหน่าย 859,000 บาท Nissan Sylphy 1.6SV baดีไซน์ลงตัวจากหน้าจรดท้าย เร่งดีกรีสปอร์ตทุกองศาด้วยสเกิร์ตหน้า สเกิร์ตข้าง สเกิร์ตหลัง สปอยเลอร์หลัง ล้ออัลลอยสีพิเศษ Hyper Black ขนาด 16 นิ้ว ภายในตกแต่งด้วยโทนสีดำ เติมความหรูด้วยวัสดุตกแต่งพรีเมี่ยมสีเงิน พร้อมสัญลักษณ์ SV ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสะอาด Pure Drive ทว่ายังคงแรงเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ HR16DE ความจุ 1.6 ลิตร DOHC เบนซิน 4 สูบ 16 วาล์ว หัวฉีดคู่ Dual Injector พร้อมวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC baNissan Sylphy 1.6SV มีให้เลือก 3 สี คือ เทา ดีพ Deep Iris Gray, ขาว White Pearl, ดำ Black Star ราคาจำหน่าย 852,000 บาท สนใจติดต่อได้ที่โชว์รูม นิสสัน ทั่วประเทศ หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.nissan.co.th Credit (//www.nissan.co.thCredit) : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

22-11-2013, 08:12

ข่าวเช้าประจำวันที่ 22 พฤศจิกายน 2556

//upic.me/i/jn/corolado.jpg (//upic.me/show/48267674) เปิดตัว 2015 Chevrolet Colorado นิยามใหม่รถกระบะขนาดกลาง ต่อเนื่องจากภาพหลุดที่เผยแพร่ออกมาเมื่อวานนี้ Chevrolet เปิดตัวรถกระบะพันธุ์แกร่ง 2015 Colorado อย่างเป็นทางการที่งานลอสแองเจลิส ออโต้โชว์ ยักษ์ใหญ่จากดีทรอยท์บอกว่า All-New Colorado รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะ “กำหนดนิยามใหม่ของรถกระบะขนาดกลาง” ในตลาดอเมริกัน เตรียมออกจำหน่ายในช่วงปลายปีหน้า มาพร้อมกับศักยภาพการบรรทุกที่ดีที่สุดในเซกเมนท์และสามารถลากจูงได้น้ำหนักมากกว่า 3,039 กก. เลยทีเดียว Colorado จะมีสามรุ่นย่อยให้ลูกค้าชาวอเมริกันเลือกใช้ เริ่มจาก WT, LT และ Z71 มีทั้งระบบขับเคลื่อนสองล้อและสี่ล้อ โดยรุ่นท็อป Z71 จะใช้ล้ออัลลอย 17 นิ้วดูหล่อเหลากว่าใครเพื่อน เครื่องยนต์จะใช้บล็อกเบนซิน 4 สูบ 2.5 ลิตร ผลิตพละกำลัง 193 แรงม้า แรงบิด 249 นิวตันเมตร ขณะที่รุ่นท็อปไลน์ใช้บล็อกเบนซิน V6 ความจุ 3.6 ลิตร พละกำลัง 302 แรงม้า แรงบิด 366 นิวตันเมตร ทั้งสองเครื่องยนต์ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบตระกูล Duramax ที่จำหน่ายในเมืองไทยนั้นจะตามออกมาภายในปี 2016 ด้วยขนาด 2.8 ลิตร ระบบเบรกเป็นแบบดิสก์เบรกสี่ล้อเหมือนสเปกเมืองไทย ใช้คาลิปเปอร์ขนาด 4 สูบที่ด้านหน้าแบบเดียวกับ 2014 Silverado ซึ่ง Chevrolet บอกว่าเบรกชุดนี้มีความทนทานและค่าบำรุงรักษาต่ำมาก นอกจากนี้ Colorado สเปกอเมริกันยังมาพร้อมระบบล็อกเฟืองท้าย G80 สำหรับการตะกุยในทุกสภาพถนน ราคาจำหน่ายจะได้รับการประกาศอีกครั้งในช่วงกลางปีหน้า Credit : www.autospinn.com (//www.autospinn.com)

Aeroklas

25-11-2013, 13:33

ข่าวเช้าประจำวันที่ 25 พฤศจิกายน 2556 //upic.me/i/c6/suzuki-swift-energy-green-02.jpg (//upic.me/show/48315474) 2013 Suzuki Swift Energy Green เปิดตัวสีพิเศษสำหรับรุ่น GLX ราคาคงเดิม Suzuki Swift แชมป์อันดับ 1 ในตลาดอีโค คาร์ 5 เดือนซ้อน เพิ่มสีสันให้คนยุคใหม่ด้วยการส่ง Swift Energy Green (Limited Color) ในรุ่น GLX แบบจำกัดจำนวน นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เพื่อเป็นการสร้างสีสันใหม่ให้แก่แฟนพันธุ์แท้ของสวิฟท์ และตอกย้ำความเป็นอีโค คาร์ ที่ไม่ใช่แค่มีดีไซน์สวย โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และขับขี่ได้แค่ในเมืองเท่านั้น แต่สวิฟท์ยังเปี่ยมไปด้วยสมรรถนะที่เหนือกว่า สามารถขับขี่ในระยะทางไกลได้อย่างสะดวกสบาย และปลอดภัย ให้คุณเติมพลังให้กับชีวิตได้ทุกที่ ทุกเวลาอย่างใจต้องการ"

Suzuki Swift Energy Green (Limited Color) จะจำหน่ายในรุ่น GLX ล้ออลูมิเนียมอัลลอยขนาด 16 นิ้ว ดีไซน์สวยสง่างาม ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กระจกมองข้างปรับ/พับไฟฟ้าพร้อมไฟเลี้ยว พวงมาลัย 3 ก้านแบบหนัง พร้อมระบบควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่อง USB สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นเสียงดิจิตอล ลำโพงคู่หน้า-หลัง ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ระบบสัญญาณเตือนภัย จอแสดงผล มาตรวัดอุณภูมิภายนอก ไล่ฝ้ากระจกหลัง มาตรฐานความปลอดภัยในรุ่น GLX อาทิ ถุงลมนิรภัย SRS ทั้งด้านคนขับและด้านผู้โดยสาร ระบบเบรค ABS พร้อม EBD ป้องกันล้อล็อค ซูซูกิ ประเทศไทย พร้อมทำตลาด Swift Energy Green (Limited Color) แล้ววันนี้ที่โชว์รูม ซูซูกิ กว่า 74 แห่งทั่วประเทศ ราคาคงเดิม 559,000 บาท Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

26-11-2013, 07:55

ข่าวเช้าประจำวันที่ 26 พฤศจิกายน 2556 //upic.me/i/fe/2014-honda-city-india-preview-1.jpg (//upic.me/show/48336017) เปิดตัว All-New 2014 Honda City มาพร้อมห้องโดยสารกว้างสุดในเซกเมนท์ All-New 2014 Honda City เจนเนอเรชั่นที่สี่เปิดตัวครั้งแรกในโลกที่เมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย โดดเด่นด้วยหลายคุณสมบัติเด่นที่ถือว่าอยู่ในระดับ “ดีที่สุด” ในคลาส ไฮไลท์ของ All-New City ไม่ได้อยู่ที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ยังคงเส้นสายของรุ่นเดิมอยู่หลายจุด แต่อยู่ที่ห้องโดยสารซึ่งมีความกว้างขวางมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน ทั้งพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและเนื้อที่บรรทุกสัมภาระใต้ฝากระโปรงหลัง ระยะฐานล้อของ City ใหม่ถูกขยายให้กว้างขวางขึ้นอีก 50 มม. ขณะที่พื้นที่ช่วงขามากกว่าเดิม 60 มม. ระยะห่างระหว่างผู้โดยสารแถวหน้าและแถวหลังเพิ่มขึ้นอีก 60 มม. สำหรับพื้นที่บริเวณช่วงไหล่ของผู้โดยสารตอนหน้ามากกว่าเดิม 40 มม. ส่วนพื้นที่ช่วงขาเบาะหน้ามีเพิ่มขึ้น 10 มม. Honda ประกาศด้วยความเชื่อมั่นว่า City ใหม่มีพื้นที่ห้องโดยสารที่เทียบเท่ารถระดับดีเซกเมนท์เลยทีเดียว พูดง่ายๆก็คือ ค็อกพิทของ City กว้างขวางใกล้เคียงกับ Nissan Teana ใหม่! ที่น่าสนใจก็คือ Honda Cars India บอกว่า พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นในห้องโดยสารไม่ได้ทำให้มิติตัวถังภายนอกใหญ่ขึ้นหรือมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด จุดเด่นสำคัญของ City ยังอยู่ที่ฟังก์ชั่นการควบคุมอันไฮเทค อย่างแผงควบคุมระบบแอร์ที่ดูดีกว่าแอร์แบบดั้งเดิมของ Toyota Vios อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีช่องแอร์ของผู้โดยสารตอนหลังอีกด้วย นอกจากนี้คอไอทีจะต้องประทับใจกับช่องชาร์จไฟสี่ช่องสำหรับผู้โดยสารทั้งเบาะหน้าและเบาะหลัง อ็อปชั่นอื่นๆ ยังรวมถึงระบบสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ ระบบไร้กุญแจ หน้าจอขนาดใหญ่ 5 นิ้ว ระบบเครื่องเสียงชั้นดีพร้อมลำโพงแปดตัว ครูสคอนโทรลและซันรูฟ All-New 2014 Honda City มาพร้อมกับเครื่องยนต์ดีเซล (คาดว่าจะมีเฉพาะในอินเดีย) เป็นบล็อก i-DTEC Earth Dream 1.5 ลิตร เน้นความประหยัดน้ำมันสูงสุด ให้พละกำลังที่ 100 แรงม้า (PS) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 200 นิวตันเมตรที่ 1,750 รอบ/นาที สำหรับเครื่องยนต์เบนซินยังคงเป็นบล็อก 1.5 ลิตร i-VTEC ที่ใช้อยู่ใน City รุ่นปัจจุบัน แต่ได้รับการพัฒนาให้มีความประหยัดน้ำมันมากขึ้น ทั้งการปรับระบบไอดี เปลี่ยนหัวฉีด ระบบวาล์วแปรผันและระบบหมุนเวียนไอเสีย 2014 Honda City จะออกจำหน่ายในอินเดียช่วงเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนในเมืองไทยอีกไม่นานเกินรอ Credit : www.autospinn.com (//www.autospinn.com)

Aeroklas

27-11-2013, 09:14

ข่าวเช้าประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2556 //upic.me/i/wq/nissan-juke-2013-04.jpg (//upic.me/show/48354836) 2013 Nissan Juke ครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ นำเข้าจากอินโดนีเซีย หลังจากปล่อยให้เกรย์มาร์เกททำตลาดอยู่นาน ในที่สุด นิสสัน ประเทศไทย ก็พร้อมจำหน่ายรถครอสโอเวอร์ขนาดคอมแพคท์ หรือ เอสยูวีขนาดเล็ก 5 ประตู Nissan Juke ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยเบื้องต้นจะแบ่งการทำตลาดเป็น 2 รุ่นย่อย ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ต่ำกว่า 9 แสนบาท ราคาต่ำกว่า Juke ที่มีอยู่ในตลาดมากพอสมควร Nissan Juke เปิดตัวเป็นครั้งแรกในช่วงต้นปี 2010 นับเป็นรถครอสโอเวอร์รุ่นที่ 4 ของ นิสสัน ที่เปิดตัวในยุโรป งานออกแบบได้แรงบันดาลใจจากรถต้นแบบ Nissan Qazana ตำแหน่งทางการตลาดอยู่กึ่งกลางระหว่าง Note และ Qashqai ปัจจุบันฐานการผลิตอยู่ที่ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย และสหราชอาณาจักร ในตลาดโลก Nissan Juke มีรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.5 - 1.6 ลิตร แบบไร้ระบบอัดอากาศ และมีเครื่อง 1.6 เทอร์โบ รวมทั้งมีรุ่นดีเซล 1.5 ที่วางเครื่องตระกูล K-Type ของ เรโนลท์ ด้วย นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชั่นพิเศษอีกมากมาย ตั้งแต่การเปิดตัวในปี 2010 อาทิ Juke Shiro, Juke Kuro, Juke Nismo, Juke n-tec, Juke Ministry of Sound ไปจนถึงตัวแรง Juke-R เครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.8 ลิตร ที่ขอยืมพละกำลังมาจาก Nissan GT-R ระบบขับเคลื่อนมีทั้งแบบ 2 ล้อหน้าและ 4 ล้อ นับเป็นหนึ่งในรถมินิ เอสยูวี ที่ขายดีของ นิสสัน อีกรุ่นหนึ่ง นิสสัน ให้ข้อมูลว่า Juke ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด Born to excite ตัวถังด้านบนให้ความรู้สึกเฉี่ยวแบบสปอร์ต ผสานกับความดุดันของตัวถังด้านล่างที่ยกสูง มือเปิดประตูหลังซ่อนเอาไว้ที่ขอบประตูหลัง โดยรุ่นท๊อปที่จำหน่ายในบ้านเราจะมาพร้อม สปอยเลอร์หลัง คิ้วขอบประตูท้ายโครเมียมและปลายท่อไอเสียโครเมียม ส่วนล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว มีให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทั้ง 2 รุ่น ในบ้านเรา นิสสัน จะจำหน่าย Juke เป็น 2 รุ่นย่อย คือ Juke 1.6E และ Juke 1.6V ทั้งคู่ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์ 4 สูบ HR16 ความจุ 1.6 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ ซึ่งยกมาจาก Nissan Sylphy หัวฉีดคู่ Dual Injector System ระบบวาล์วแปรผันคู่ Twin C-VTC ส่งกำลังด้วยเกียร์ Xtrotic CVT พร้อมเฟืองทดกำลังขับเคลื่อนหรือ Sub-Planetary Gear แรงบิดสูงสุด 15.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที กำลังสูงสุด 116 แรงม้า PS ที่ 5,600 รอบ/นาที ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบอิสระ แม็คเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง ห้องโดยสารของ Juke ควบคุมการทำงานด้วยระบบ I-Con หรือ Integrated-Control System แบ่งเป็นโหมด Climate และ D ซึ่งอินเตอร์เฟซจะเปลี่ยนไปตามโหมดที่ใช้งาน โดย Climate Mode จะใช้สำหรับควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร ส่วน D หรือ Drive Mode ใช้ปรับรูปแบบการขับขี่ คือ Normal Mode, Sport Mode และ Eco Mode ส่วนโหมดการขับแบบประหยัด หรือ Eco Mode จะช่วยลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงเมื่อเทียบกับโหมดการขับขี่แบบปกติ โดยลิ้นปีกผีเสื้อจะเปิดให้อากาศเข้าสู่เครื่องยนต์น้อยลง และรักษารอบการทำงานของระบบเกียร์ CVT ให้อยู่ในระดับปกติ พร้อมกับลดภาระการทำงานของระบบปรับอากาศ A/C โดยรักษาอุณหภูมิให้อยู่ในระดับพอเหมาะ และเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของอากาศเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งการใช้งานในโหมด Eco นี้ยังช่วยลดปริมาณการคายคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียด้วย นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น I-Connect หรือ Internet Connectivity Entertainmeny System สามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทผ่านสมาร์ทโฟนได้ทั้งระบบปฎิบัติการ android หรือ iOS ทำงานผ่านจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว โดยตัวจอนั้นสามารถดึงออกมาใช้งานในลักษณะ tablet ได้ ทว่าต้องอาศัยแหล่งพลังงานภายนอก เนื่องจากตัวจอนั้นไม่มีแบตเตอรี่ในตัว ราคาจำหน่าย • Nissan Juke 1.6E - 819,000 บาท • Nissan Juke 1.6V - 858,000 บาท Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

12-12-2013, 08:59

ข่าวเช้าประจำวันที่ 12 ธันวาคม 2556 //upic.me/i/bk/motor-expo-2013-02.jpg (//upic.me/show/48600625) Motor Expo 2013 สรุปยอดจองรถ 41,083 คัน ยอดผู้ชมมากกว่า 1.36 ล้าน

มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 30 รถขนาดกลางและรถเอสยูวีขายดี นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงานเผยว่า แม้ว่าช่วงเวลาจัดงานจะมีการชุมนุมทางการเมืองยืดเยื้อ แต่ถือว่ายังคงได้รับกระแสตอบรับที่ดี มีจำนวนผู้เข้าชมงาน 1,367,357 คน ลดลง 14.5% จากยอดประเมินเดิม 1.6 ล้านคน ยอดจองรถตลอดทั้ง 12 วัน รวม 41,083 คัน (ปีที่แล้ว 85,904 คัน) สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนภายในงานได้กว่า 46,000 ล้านบาท (รวมรถยนต์ รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ รถมือสอง และอุปกรณ์เกี่ยวเนื่อง) ค่ายรถยนต์ที่มียอดจองสูงสุดในงาน 5 อันดับแรกคือ: • อันดับ 1 Toyota ยอดจอง 9,075 คัน • อันดับ 2 Honda ยอดจอง 6,099 คัน • อันดับ 3 Nissan ยอดจอง 4,007 คัน • อันดับ 4 Isuzu ยอดจอง 3,753 คัน • อันดับ 5 Mitsubishi ยอดจอง 3,689 คัน ส่วนรถหรู Mercedes-Benz ยอดจอง 1,227 คัน และ BMW ยอดจอง 763 คัน นอกจากนี้ ผู้จัดได้รวบรวมข้อมูลจากผู้ร่วมรายการ ซื้อรถ ชิงรถ ปีนี้ พบว่ารถเก๋งมียอดจองคิดเป็นสัดส่วน 51.4% ของยอดจองทั้งหมดในงาน ตามมาด้วยรถเอสยูวี 26.8%, รถกระบะ 14.6% และรถประเภทอื่น 7.2% ที่น่าสนใจคือ ราคาเฉลี่ยรถในงานปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1,046,457 บาท จากปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 800,000 บาท เนื่องจากความต้องการซื้ออีโค-คาร์ ลดลงจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมีนโยบายคืนภาษีรถคันแรกของรัฐบาล โดยปีนี้ผู้บริโภคหันไปให้ความสนใจรถขนาดกลางและเอสยูวีแทน ด้านรถจักรยานยนต์ มียอดจองรวม 2,104 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 16.6% Honda ขายได้ 1,001 คัน Kawasaki 254 คัน และ Benelli 222 คัน ตามลำดับ Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

13-12-2013, 08:55

ข่าวเช้าประจำวันที่ 13 ธันวาคม 2013 //upic.me/i/h6/heico-sportiv-thailand-volvo-tuning-02.jpg (//upic.me/show/48614972) HEICO Sportiv ชุดแต่งและชุดเสริมสมรรถนะสำหรับผู้หลงใหลในแบรนด์ Volvo เปิดโชว์รูมเป็นทางการในประเทศไทย

ไฮโค่ สปอร์ตทีฟ ประเทศไทย เปิดตัวในฐานะผู้แทนจำหน่ายชุดแต่ง HEICO อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โชว์โฉมชุดแต่งสำหรับ Volvo พร้อมเปิดโชว์รูมเป็นครั้งแรกบนถนนเกษตร - นวมินทร์ หลังจากดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ช่วงปี 2551 คุณเสรี แซ่คู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไฮโค่ สปอร์ตทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "เหตุผลที่ผมตั้งบริษัท ไฮโค่ สปอร์ตทีฟ ประเทศไทย ขึ้นมา เพราะผมทำธุรกิจเกี่ยวกับวอลโว่มาเป็นปีที่ 10 และมีดีลเลอร์วอลโว่ทั้งหมด 2 สาขา หลังจากนั้นผมมองเห็นแนวโน้มว่า ยอดขายของวอลโว่ดีขึ้นมาก อีกทั้งกลุ่มผู้ซื้อเปลี่ยนจากช่วงผู้ใหญ่มาเป็นวัยรุ่นมากขึ้น และธุรกิจรถแต่งในเมืองไทยก็มีการเติบโตมากขึ้น ผมจึงนำชุดแต่งไฮโค่มารวมเข้ากับธุรกิจที่ทำอยู่เดิม เพื่อเพิ่มไลน์การขายรถ" "สำหรับชุดแต่งไฮโค่นั้น เดิมมีการจำหน่ายผ่านดีลเลอร์ สแกนดิเนเวียน ออโต้ มาแล้วเป็นปีที่ 5 แต่สำหรับปีนี้มีการขยายตัวมากขึ้น ผมจึงเปิดโชว์รูมไฮโค่ขึ้นมา ซึ่งเปรียบเสมือนบริษัทในเครือของสแกนดิเนเวียน ออโต้ โดยเราใช้ทีมงานของสแกนดิเนเวียน ออโต้ และมีทีมขายไฮโค่โดยตรงด้วยในเวลาเดียวกัน" HEICO Sportiv เกิดขึ้นด้วยฝีมือของ Mr. Holger Hedtke นักธุรกิจสัญชาติเยอรมันผู้หลงใหลในแบรนด์ วอลโว่ ก่อตั้งขึ่นในปี 1972 โดยเริ่มต้นจากการเป็นดีลเลอร์ วอลโว่ ที่เยอรมัน ก่อนจะเริ่มวิจัยความต้องการ พร้อมกับเริ่มออกแบบโปรดัคท์สำหรับ วอลโว่ ภายในประเทศ ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเริ่มจากการพัฒนาตัวแข่ง Volvo 850 Turbo สำหรับ Group A หลังจากนั้น Mr. Hedtke ก็ได้ร่วมมือกับ วอลโว่ โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายชุดแต่งมาตรฐาน และได้รับการอนุญาตจาก วอลโว่ อย่างเป็นทางการ ซึ่งปัจจุบัน HEICO Sportiv มีชุดแต่งสำหรับ วอลโว่ ราว 500 รุ่น ทั้งยังมีการออกแบบและพัฒนาด้านสมรรถนะควบคู่กันไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุดระบบไอเสีย ตัวถัง และเบรค ผ่านการทดสอบและ homologated ตามของเยอรมนี และกฎหมายที่ได้รับการอนุมัติที่สวิตเซอร์แลนด์ จนได้รับลิขสิทธิ์ในการจำหน่ายชุดแต่งสำหรับ วอลโว่ อย่างเป็นทางการ นอกจากนั้น HEICO Sportiv ยังร่วมมือกับพาร์ทเนอร์รายอื่นๆ เพื่อพัฒนา วอลโว่ รุ่นพิเศษอีกมากมายหลายรุ่น อาทิ ผลงานร่วมกับ Polestar ในการพัฒนา Volvo S60 Performance Concept, ผลงานร่วมกับ ผลงานร่วมกับ Pirelli ในการพัฒนา Heico Sportiv V40 Pirelli Edition ไปจนถึงเวอร์ชั่นพิเศษที่เน้นการรีดสมรรถนะเฉพาะรุ่นอย่าง Heico Sportiv Volvo S60 แคมเปญพิเศษในช่วงเปิดตัว Volvo V40 ราคาเริ่มต้นที่ 1.82 ล้านบาท สำหรับรุ่นที่ติดตั้งแพคเกจ HEICO Sportiv จะเพิ่มกำลังขึ้นอีก 70 แรงม้า, จูนช่วงล่างแบบสปอร์ต, ชุด Body Kit, ล้อแม็กขนาด 19 นิ้ว พร้อมการตกแต่งภายในพิเศษเฉพาะตัว ราคาจำหน่าย 2.29 ล้านบาท สามารถจัดไฟแนนซ์ได้เหมือนรถใหม่ พร้อม warranty สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่โชว์รูม HEICO โทรศัพท์ 02-934-9300 ที่มา : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

16-12-2013, 08:48

ข่าวเช้าประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2556 //upic.me/i/q8/chevy-year-end-campaign-01.jpg (//upic.me/show/48662129) 2013 Chevrolet Year End Celebration โอกาสสุดท้ายส่งท้ายปี รับข้อเสนอพิเศษสุดๆ จากเชฟโรเลต

บริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดข้อเสนอส่งท้ายปีแบบไม่อั้น กับแคมเปญ Chevrolet Year End Celebration โอกาสสุดท้ายส่งท้ายปี ให้คุณได้เป็นเจ้าของรถ เชฟโรเลต พร้อมส่วนลด และของแถมสูงสุดกว่า 200,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ ถึง 22 ธันวาคม 2556 นี้เท่านั้น พิเศษยิ่งขึ้น! เฉพาะ 14 - 15 ธันวาคม 2556 นี้เท่านั้น รับข้อเสนอสุดเซอร์ไพรซ์เพิ่มอีกต่อ เฉพาะผู้ที่จอง Chevrolet Trailblazer, Chevrolet Colorado หรือ Chevrolet Cruze ที่โชว์รูม เชฟโรเลต ใดก็ได้ทั่วประเทศ รับข้อเสนอเพิ่มอีกมูลค่ากว่า 5,000 บาท พบโปรโมโมชั่นสุดคุ้มจากเชฟโรเลตอีกมากมาย: • Chevrolet Trailblazer: เฉพาะ 200 คันแรกเท่านั้น รับส่วนลดพิเศษ และ Samsung Galaxy Note 8.0 รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท หรือเลือกผ่อน 0% นาน 60 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 • Chevrolet Colorado: รับสิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 72 เดือน พร้อมฟรีประกันภัยชั้น 1 และ ฟรี Smart Media พร้อมระบบนำทาง Navigation System • Chevrolet Cruze: ฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และอะไหล่สิ้นเปลือง หรือเลือกผ่อน 0% นานสูงสุด 48 เดือน

สนใจดูรายละเอียด และโปรโมชั่นสำหรับรถยนต์ เชฟโรเลต รุ่นอื่นๆ เพิ่มเติมได้ ที่ลิ๊งค์นี้ หรือ สอบถามเพิ่มเติม โทร. 1734 หรือ ค้นหา โชว์รูมเชฟโรเลต ใกล้บ้านท่านได้ ที่ลิ๊งค์นี้ โอกาสสุดท้ายส่งท้ายปีมาถึงแล้ว! Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

19-12-2013, 09:21

ข่าวเช้าประจำวันที่ 19 ธันวาคม 2556 //upic.me/i/da/hyundai-elantra-2014-01.jpg (//upic.me/show/48711343) 2014 Hyundai Elantra ปรับรุ่นปีเป็น 2014 ทั้งรุ่นซีดาน, คูเป้ และแฮทช์แบค

ในขณะที่ยังไม่ถึงวาระของการปรับใหญ่ ฮุนได ใช้กลวิธีปรับรุ่นปีให้ Elantra แบบเดียวกับรุ่นอื่นๆ ในค่าย (ยกตัวอย่างเช่น Sonata 2014) คือ ปรับราคา, เพิ่มหลากหลายอุปกรณ์มาตรฐาน และเน้นการเพิ่มความคุ้มค่าในรุ่นพื้นฐาน โดยการปรับรุ่นปีในครั้งนี้มีให้ทั้ง Elantra Sedan, Elantra Coupe และ Elantra GT หรือรุ่นตัวถังแฮทช์แบค ที่จำหน่ายในยุโรปด้วยชื่อ Hyundai i30 Elantra Sedan มีการปรับโฉมใหม่เล็กน้อยทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โคมไฟโปรเจคเตอร์พร้อมหลอด LED หน้า/หลัง เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นกลางและท๊อป โดยมีการดันรุ่นพื้นฐานเดิม (SE) ขึ้นไปใช้อุปกรณ์มาตรฐานในรุ่นกลาง (GLS) ที่จำหน่ายอยู่ก่อนหน้า คือ ให้ระบบอินโฟเทนเมนท์ ลิ๊งค์กล้องมองหลัง ทำงานผ่านจอทัชสกรีน 4.3 นิ้ว และใช้ฟังก์ชั่น internet radio ของค่าย Pandora ได้ รุ่นเครื่องยนต์แม้จะยังเป็น 4 สูบ ตระกูล Nu แต่รุ่นท๊อปมีการขยับขึ้นไปใช้รุ่นความจุ 2.0 ลิตร จากเดิมที่ใช้งาน 1.8 ลิตร ชุดกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงให้แข็งขึ้น เปลี่ยนค่าสปริงหลัง ขยายขนาดกันโคลงหน้า เพื่อให้รับกับกำลังสูงสุดที่เพิ่มขึ้นไปเป็น 173 แรงม้า (+ ราว 23 แรงม้าจากรุ่น 1.8) ส่วนชุดระบบความปลอดภัยมีระบบ blind spot mirror ฝั่งผู้ขับ, ระบบตรวจวัดความดันลมยาง Tire Pressure Monitoring System, Hill-Start Assist Control, ถุงลมนิรภัย 6 ใบ และชุดรักษาเสถียรภาพโดยรวมของรถ (ESC ฯลฯ) Elantra Coupe ยกชุดไปใช้ Nu เบนซิน 2.0 ลิตร จ่ายเชื้อเพลิงตรง ไดเรคอินเจคชั่น แทนที่รุ่น 1.8 ลิตร หัวฉีด MPI ทั้งหมด พร้อมเซ็ทอัพช่วงล่างใหม่เพื่อให้รับกับพละกำลังเช่นกัน แพคเกจแยกทั้งหมดถูกจับมาลงเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย อาทิ ล้ออัลลอย 17 นิ้ว, ชุดแต่งกระจังหน้า, สปอยเลอร์หลัง, ระบบ blind spot side mirror ฝั่งผู้ขับ, ระบบอินโฟเทนเมนท์ชุดใหญ่ Blue Link พร้อมแพคเกจให้ความช่วยเหลือนอกสถานที่ Connected Care ที่สามารถใช้บริการ SOS Emergency Assistance ในกรณีฉุกเฉินได้ และชุดตกแต่งภายด้วยหนังตามจุดต่างๆ เช่น พวงมาลัย และหัวเกียร์ Elantra GT ซึ่งเป็นหนึ่งในรุ่นธงสำหรับตลาดยุโรป ก็จะได้ใช้งานเครื่อง Nu 2.0 ด้วยเช่นกัน การขยับมาตรฐานในครั้งนี้ ฮุนได คาดว่า Elantra GT น่าจะสามารถชิงส่วนแบ่งทางตลาดมาจากรถแฮทช์แบค 5 ประตูรุ่นอื่นๆ ได้อีกนิด เช่น Ford Focus, Mazda3, Subaru Impreza หรือ Volkswagen Golf เป็นต้น อุปกรณ์มาตรฐานและระบบความปลอดภัยเหมือนรุ่นอื่นๆ คือเติมความสมบูรณ์ให้กับรุ่นพื้นฐาน และเพิ่มการตกแต่งในรุ่นท๊อปให้หรูขึ้น ส่วนข่าวในช่วงต้นปี 2012 ที่ว่า Elantra GT อาจจะได้ใช้งานเครื่อง Gamma + เทอร์โบชาร์จ ที่ยกมาจาก Hyundai Veloster Turbo น่าจะยังไม่เกิดขึ้นในเวลาอันใกล้ครับ ที่มา : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

20-12-2013, 09:09

ข่าวเช้าประจำวันที่ 20 ธันวาคม 2556 //upic.me/i/mo/mitsubishi-triton-roadshow-2013-01.jpg (//upic.me/show/48726285) Mitsubishi จัดโรดโชว์ Mitsubishi Triton แรงจัด ปึ้กจริง ทุกเส้นทาง ส่งท้ายปี 2013

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ชวนคนรักกะบะร่วมพิสูจน์ความปึ้กของ มิตซูบิชิไทรทัน พร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้ม และข้อเสนอพิเศษเดียวกับ มอเตอร์สเอ็กซ์โป ในงาน 'มิตซูบิชิ ไทรทัน แรงจัด...ปึ้กจริง...ทุกเส้นทาง' พบกับความปึ้กได้ที่จังหวัดเชียงใหม่ 20 - 22 ธันวาคม 2556 และหาดใหญ่ 17 - 19 มกราคม 2557 นี้ มร. มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงการจัดกิจกรรมทางการตลาดของบริษัทฯ ว่า จะเน้นจัดกิจกรรมแบบรุกถึงตัวลูกค้า เพื่อสร้างการรับรู้และเข้าใจในผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มช่องทางในการจำหน่ายไปยังห้างสรรพสินค้า และงานแสดงรถต่างๆ เพราะนอกจากจะสะดวกสบายแล้ว ยังเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดสอบ สัมผัสสมรรถนะ และฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ โดยมีวิทยากรคอยให้ความรู้ความเข้าใจ ในเทคโนโลยีของ มิตซูบิชิ อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้ายังสามารถพิจารณาและเปรียบเทียบองค์ประกอบอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวรถ ราคา และแคมเปญ ก่อนตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น ล่าสุดบริษัทฯ ได้ร่วมกับผู้จำหน่ายจัดกิจกรรม มิตซูบิชิ ไทรทัน แรงจัด...ปึ้กจริง...ทุกเส้นทาง โดยเชิญชวนลูกค้า และผู้สนใจ ร่วมพิสูจน์สมรรถนะของ มิตซูบิชิ ไทรทัน รวมถึง มิตซูบิชิ ปาเจโร่ สปอร์ต เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และทักษะในการขับขี่รถในทุกสถานการณ์ ทั้งถนนทางเรียบ ทางโค้ง และสะพานเหล็กสูง 9 เมตร ในสนามทดสอบจำลอง พร้อมสนุกกับกิจกรรมบันเทิงครบครัน อาทิ การประกวดวงดนตรี ประกวดกราฟฟิกซิตี้บนฝาฝนัง พร้อมจับแจกรางวัลทองคำให้กับกลุ่มลูกค้าทุกคืน สำหรับผู้ที่สนใจเข้าร่วมสนุกกับกิจกรรม 'มิตซูบิชิ ไทรทัน แรงจัด...ปึ้กจริง...ทุกเส้นทาง' พบกันที่: • 20 - 22 ธันวาคม 2556 ณ ลานกิจกรรม ห้างบิ๊กซี ดอนจั่น เชียงใหม่ • 17 - 19 มกราคม 2556 ณ ลานกิจกรรม ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล หาดใหญ่ ข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าที่จอง Triton ภายในงาน และโชว์รูมทั่วประเทศ • ดอกเบี้ย 0% (เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน ) หรือนำรถเก่าแลกรถใหม่ เพิ่มมูลค่า 60,000 บาท (เฉพาะรุ่นเมกะแค็บ 2.5 GLX, เมกะแค็บพลัส เกียร์ธรรมดา 2.5 GLS, เมกะแค็บพลัส เกียร์อัตโนมัติ 2.5 GLS, ดับเบิ้ลแค็บพลัส เกียร์ธรรมดา 2.5 GLS และ ดับเบิ้ลแค็บพลัส เกียร์อัตโนมัติ 2.5 GLS • โปรโมชั่นออกรถวันนี้จ่ายปีหน้า (เงื่อนไขเงินดาวน์ 25% ผ่อน 48 เดือน พร้อมยืดเวลาการผ่อนงวดแรกออกไป 90 วัน • ฟรี ไดมอนด์ โปรเทคชั่น ประกันภัยชั้นหนึ่ง 1 ปี พร้อมบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง

พิเศษกว่าใครกับ โปรแรงถึงใจ ชวนเพื่อนซี้ปึ้กมาแรงด้วยกันกับ มิตซูบิชิ รับรางวัล 2 ต่อ ต่อแรก แนะนำเพื่อนมาลองขับ รับคูปองเติมน้ำมัน 2,000 บาท ต่อที่สอง ผู้ซื้อรับคูปองน้ำมัน 5,000 บาท

ทดลองขับและจองรถรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่นในงาน รับฟรี: • กระเป๋าเดินทาง ฮัลโหล คิตตี้ มูลค่า 1,500 บาท สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556 • กระเป๋า ฮัลโหล คิตตี้ มูลค่า 200 บาท สำหรับลูกค้าที่ทดลองขับและจองรถภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2556

สามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมได้ที่ www.mitsubishi-motors.co.th (//www.mitsubishi-motors.co.th) หรือ Mitsubishi Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800-900-009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30 - 17.00 น. Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

02-01-2014, 10:33

ข่าวเช้าประจำวันที่ 2 มกราคม 2557 //upic.me/i/22/mitsubishi-triton-my2014-06.jpg (//upic.me/show/48906172) 2014 Mitsubishi Triton ทดลองขับรุ่นปี 2014 Mega Cab Plus/Double Cab Plus เพิ่มระบบนำทาง 3 มิติและสีใหม่

ปลายเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นำสื่อมวลชนร่วมทดสอบ Mitsubishi Triton Plus รุ่นปี 2014 เส้นทางกรุงเทพฯ - จันทบุรี ซึ่งเป็นทริปเล็กๆ เน้นท่องเที่ยวแบบสบายๆ มีสื่อมวลชนเข้าร่วมจำนวน 7 ท่าน กับ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus 2 คัน แบ่งเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา และเกียร์อัตโนมัติ ปิดท้ายด้วย Mitsubishi Triton Double Cab Plus 1 คัน เกียร์อัตโนมัติ เครื่องยนต์ดีเซล แบ่งคันละ 2 ท่าน มอเตอร์ทริเวีย ได้เดินทางไปกับ Triton Mega Cab Plus เกียร์อัตโนมัติ หลังบรรยายสรุปเส้นทางกันคร่าวๆ ก็เตรียมตัวออกเดินทาง เพื่อนสื่อมวลชนอาสาเป็นผู้ขับไม้แรกจาก บริษัท มิตซูบิชิฯ คลองหลวง มุ่งหน้าถนนกาญจนาภิเษกตะวันออก หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า วงแหวนตะวันออก ทางหลวงหมายเลข 9 เส้นทางนี้เพื่อนสื่อมวลชนบอกว่า มีตรวจจับความเร็ว จึงใช้ความเร็วตามกำหนด จากนั้นมุ่งสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 7 หรือเรียกกันว่า มอเตอร์เวย์ ก็ยังคงใช้ความเร็วตามกำหนด เนื่องจากเกรงว่าจะเจอตรวจจับความเร็ว พอใกล้ถึงจุดพักรถมอเตอร์เวย์ มีการใช้วิทยุสื่อสารถามกันว่าจะแวะพักร้านไหน? คำตอบคือ ร้านกาแฟ สตาร์บัคส์ เพื่อนสื่อมวลชนยังคงรับอาสาเป็นผู้ขับต่อจากจุดพักแรก ส่วนจุดหมายตามกำหนดการคือ ทานอาหารกลางวันกันที่จังหวัดจันทบุรี แต่เนื่องจากเวลาไม่ได้ตามที่กำหนด จึงมีการเปลี่ยนแปลงกำหนดการการเดินทาง มุ่งหน้าไปจยังังหวัดระยองโดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 36 ซึ่งถนนเส้นนี้มีรถบรรทุกและรถยนต์ทั่วไปค่อนข้างมาก จึงมีบางจังหวะต้องเร่งแซง ผู้ขับในช่วงนี้ให้ข้อมูลว่า กำลังเจากครื่องยนต์ 178 แรงม้า ตอบสนองได้ดี แต่ก็มีบางจุดที่ถนนชำรุด ทำให้มีอาการพวงมาลัยสะบัดบ้าง ถ้าจับพวงมาลัยไม่แน่นก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้ แต่ภายหลังเพื่อนสื่อมวลชนทดลองปล่อยลมยางออก ก็ได้คำตอบว่าลมยางแข็งเกิน จากนั้นขับไปมองหาร้านอาหารที่เพื่อนๆ สื่อมวลชน แนะนำ ร้าน Bari Lamai เลียบชายหาดแหลมแม่พิมพ์ บรรยากาศดี ทะเลสวย อาหารอร่อย นั่งพักผ่อนกันพอข้าวเรียงเม็ด เพื่อนๆ สื่อมวลชน ก็ตกลงกันว่านำรถยนต์ไปถ่ายรูปกันต่อ จึงมุ่งหน้าไปอ่าวคุ้งวิมาน - เนินนางพญา จังหวัดจันทบุรี ช่วงนี้ มอเตอร์ทริเวีย รับอาสาเป็นผู้ขับ ซึ่งก่อนเดินทางได้ออกมาจากร้านอาหารก่อนเพื่อนสื่อมวลชน เพื่อมาปรับเบาะ ปรับตำแหน่งกระจกต่างๆ ให้เข้ากับสรีระและทัศนวิสัยในการขับ โดยรวมทั้งภายนอกและภายในของ Triton ยังคงดูเฉี่ยว และทันสมัย เมื่อมองในมุมของรถปิคอัพในพิกัดเดียวกัน แต่ขอติเล็กน้อยสำหรับผู้หญิงร่างเล็กว่าเบาะน่าจะปรับสูง - ต่ำ ได้ Mitsubishi Triton Mega Cab Plus / Double Cab Plus MY2014 baTriton Mega Cab Plus และ Double Cab Plus รุ่นปี 2014 มีอุปกรณ์ และสีตัวรถเพิ่มเติมจากรุ่นปี 2012 ได้แก่ เครื่องเล่นวิทยุ DVD ทำงานผ่านจอ Superior Entertainment System ขนาด 7 นิ้ว พร้อมเนวิเกเตอร์ที่รองรับแผนที่แบบ 3 มิติ (มีเฉพาะรุ่น 2.5 GLS ดีเซล) และสีตัวรถใหม่ Titanium Gray (M) สีเทา สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลบล๊อคนี้ มีความจุ 2.5 ลิตร DI-D ไฮเปอร์คอมมอนเรล แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว วีจี เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ พร้อมท่อร่วมไอดีแบบทวิน อินเทคแมนิโฟลด์ กำลังสูงสุด 178 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุดมีให้ถึง 40.7 กก.-ม. เริ่มที่รอบต่ำ 2,000 - 2,850 รอบต่อนาที • Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

15-01-2014, 09:14

ข่าวเช้าประจำวันที่ 15 มกราคม 2557 //upic.me/i/il/toyota-altis-2014-12.jpg (//upic.me/show/49116633) All New Toyota Corolla Altis โฉมใหม่เจนเนอเรชั่นที่ 11 เปิดตัวรับปี 2557 ภายใต้แนวคิด So Excited โตโยต้า รับปีใหม่ 2557 อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการเปิดตัวรถยอดนิยม Toyota Corolla Altis ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 11 ซึ่งช้ากว่าที่คาดกันไว้ว่าจะมีการเปิดตัวในช่วงปลายปีที่ผ่านมาเล็กน้อย หลังจากที่แฟนๆ โตโยต้า ในบ้านเราได้เห็นเวอร์ชั่นตลาดโลกราวกลางปีที่แล้ว ทั้ง เวอร์ชั่นอเมริกา และ เวอร์ชั่นยุโรป ซึ่งให้ภาพลักษณ์ของความปราดเปรียวมากกว่า "ทีมวิศวกรโตโยต้า ได้สร้างสรรค์โคโรลล่า อัลติส ใหม่ โดยมีแรงบันดาลใจในการพัฒนาจากแนวคิดแบบ 'waku doki' สร้างความพึงพอใจเหนือความคาดหมายของลูกค้า (ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง จังหวะการเต้นของหัวใจ เมื่อเกิดความรู้สึกตื่นเต้นสนุกสนาน) ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกใหม่ทั้งหมด ให้ดูสวยล้ำสมัย สปอร์ตโฉบเฉี่ยวตลอดทั้งคัน ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุตกแต่งคุณภาพสูง พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน ดูโอ่อ่า ภูมิฐาน มีการเพิ่มความยาวฐานล้อเพื่อให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ Super CVT-i ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ Dual VVT-i ช่วยให้สมรรถนะการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมสมบูรณ์แบบ" ป้าหมายการขายอยู่ที่ 4,000 คันต่อเดือน และจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่โชว์รูมโตโยต้าทั่วประเทศในวันที่ 18 - 19 มกราคม 2557 นี้ รวมถึงกิจกรรมโร้ดโชว์ในจังหวัดต่างๆ ซึ่งเราได้จัดเตรียมรถทดลองขับไว้ให้ลูกค้าทุกท่านได้สัมผัสประสบการณ์ขับขี่กันอย่างทั่วถึง ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 769,000 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่คุ้มค่าอย่างมาก New Corolla Altis เจนเนอเรชั่นที่ 11 รุ่นที่จำหน่ายในบ้านเรา เป็นโฉมเดียวกับเวอร์ชั่นยุโรป เทียบกับรุ่นก่อนหน้า ตัวรถใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ความสูงถูกลดลงเล็กน้อย ชุดกระจังหน้าใหม่เชื่อมกับกันชนด้วยลายเส้นรูปตัว T ชุดไฟหน้า LED โปรเจคเตอร์ พร้อมไฟ LED daytime สำหรับวิ่งกลางวัน ไฟท้าย LED แบบ surface illumination รูปทรงเรียว ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้ว ห้องโดยสารกว้างขึ้นจากการขยายฐานล้อเป็น 2,700 มม. (+100 มม.) ส่งผลให้มีความยาวรวมเป็น 4,629 มม. (+80 มม.) กว้าง 1,775 มม. (+15 มม.) ระยะห่างระหว่างผู้โโยสารตอนหน้า/หลัง เพิ่มขึ้นเป็น 960 มม. (+75 มม.) เท่ากับว่าผู้โดยสารตอนหลังจะมีพิ้นที่ใช้งานเพิ่มขึ้น และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ห้องโดยสารเลือกได้ 3 โทนสี คือ ดำ, เบจ และเทา หรูด้วยอุปกรณ์มาตรฐานใหม่หมด อาทิ แผงคอนโซลแบบ cyber carbon บุวัสดุที่มีความนุ่ม พวงมาลัยไฟฟ้า EPS ออกแบบใหม่ มาตรวัดเรืองแสง optriton กระจกมองหลังลิ๊งค์ภาพจากกล้องหลัง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ กุญแจรีโมทพับได้ และม่านบังแดดหลัง รุ่นเครื่องยนต์แบ่งเป็น 2 ทางเลือก คือ เบนซิน DOHC Dual VVT-i 4 สูบแถวเรียง ความจุ 1.6 ลิตร (1,598 ซีซี) รหัส 1ZR-FE กำลังสูงสุด 122 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 15.7 กก.-ม. ที่ 5,200 รอบ/นาที ส่วนอีกหนึ่งรุ่นคือ เบนซินความจุ 1.8 ลิตร (1,798 ซีซี) รหัส 2ZR-FBE กำลังสูงสุด 141 แรงม้า PS ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 18.05 กก.-ม. ที่รอบต่ำกว่า 4,200 รอบ/นาที ทั้งคู่ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ Super CVT-i แบบ gate-type พร้อมซีเควนเชียล Altis รุ่นความจุ 1.8 ลิตร สามารถรองรับการใช้เชื้อเพลิงได้สูงสุดถึง E85 ส่วนรุ่นความจุ 1.6 มีระบบ CNG เป็นทางเลือกความประหยัด และเลือกได้ทั้งเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ มาตรฐานความปลอดภัย มากับโครงสร้างนิรภัย GOA, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ชุดระบบเบรค ABS พร้อมฟังก์ชั่นกระจายแรงเบรค EBD และระบบเสริมแรงเบรค BA, ถึงลมนิรภัยคู่หน้า SRS, เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบรั้งกลับอัตโนมัติ, เบาะคู่หน้าแบบ WIL: whiplash injury lessening ลดอาการสะบัดของต้นคอเมื่อเกิดการชนจากทางด้านหลัง, กุญแจ immobilizer ป้องกันการสตาร์ทจากกุญแจปลอมที่รหัสกุญแจและเครื่องยนต์ไม่ตรงกัน ปิดท้ายด้วยระบบ TDS: theft deterrent system ส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีการบุกรุก สีภายนอกมีทั้งหมด 6 สี ในจำนวนนี้มีสีใหม่ 2 สีคือ น้ำตาล dark brown mica metallic และ เทา gray metallic ที่เหลืออีก 4 สีคือ ขาว super white (เฉพาะรุ่น 1.6), ขาวมุก white pearl crystal (เฉพาะรุ่น 1.8), เงิน silver metallic และ ดำ attitude black mica • Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

17-01-2014, 08:40

ข่าวเช้าประจำวันที่ 17 มกราคม 2557 //upic.me/i/o9/mitsubishi-pajero-sport-2014-01.jpg (//upic.me/show/49150988) Mitsubishi Pajero Sport รุ่นใหม่ MY2014 Step Up In Life ความมั่นใจอีกขั้นของชีวิต

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ปรับโฉม ปาเจโร สปอร์ต รุ่นปี 2014 รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ตหรู เสริมออปชั่น ความบันเทิง ความปลอดภัย และประโยชน์ใช้สอยครบครัน ทางเลือกใหม่ของคนรักความคุ้มค่าและสนใจ โดย มิตซูบิชิ พร้อมเริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศไทย มร. มาซะฮิโกะ อูเอะกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า "ในช่วงต้นปี บริษัทฯ ได้แนะนำมิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต รุ่นใหม่ปี 2014 รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง (SUV) ได้รับการดีไซน์ให้ดูสปอร์ตหรูหรา โฉบเฉี่ยว และภูมิฐานมากขึ้น ทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งมาพร้อมแนวคิด Step Up In Life - ความมั่นใจอีกขั้นของชีวิต โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ตอบทุกไลฟ์สไตล์ และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ กับเทคโนโลยี All Wheel Control ซึ่งช่วยให้ทั้งผู้ขับและผู้โดยสารปลอดภัย และสะดวกสบายมากขึ้น" มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต โฉมใหม่ ได้รับการปรับเปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนดีไซน์ใหม่ กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถพร้อมไฟเลี้ยว กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ เส้นกะระยะสำหรับกล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง เน้นประโยชน์ใช้สอย ตกแต่งภายในโทนคาร์บอนพริ้นสีดำสไตล์สปอร์ตหรูหรา ที่บริเวณคอนโซลกลาง และแผงประตู ระบบความบันเทิง เต็มรูปแบบกับเครื่องเล่นวิทยุแบบ 2 Din, DVD, CD, MP3 พร้อมจอภาพระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว ช่องต่อ USB เชื่อมต่อความบันเทิงหลากหลาย iPod, iPhone, SD Card และ Flash Drive ระบบเครื่องเสียง Mitsubishi Power Sound System แอมปลิฟายเออร์ 420 วัตต์ พร้อม 8 ลำโพง คุณภาพเสียง คมชัด รอบทิศทาง มาพร้อมสวิตซ์ควบคุมวิทยุที่พวงมาลัย และบลูทูธเชื่อมต่อความบันเทิง และรองรับทุกการสื่อสาร และระบบนำทางในรถยนต์ที่แสดงผลการจราจรตลอดเส้นทาง พร้อมแนะนำสีใหม่ เทาไทเทเนี่ยม สำหรับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ปาเจโร สปอร์ต โฉมใหม่มากับระบบ All Wheel Control ควบคุมการทำงานของระบบขับเคลื่อนด้วยคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วยเทคโนโลยี ที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ขับขี่ ดังนี้:

  1. Super Select 4WD: SS4 หนึ่งเดียวในรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ปรับเปลี่ยนการขับขี่ได้ 4 รูปแบบ
  2. ASTC เพิ่มความปลอดภัยอีกขั้นด้วยจากการทำงานร่วมกันของ 2 ระบบ คือ: - ASC: Active Stability Control ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวในภาวะที่รถเสียสมดุล ป้องกันการลื่นไถล - ATC: Active Traction Control ป้องกันล้อหมุนฟรี ในสภาวะถนนลื่น ขรุขระ หรือทางชัน สูญเสียการยึดเกาะถนน
  3. ABS: Anti-lock Breaking System ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อค 4 ชาแนล 4 เซ็นเซอร์
  4. EBD: Electronic Brake-force Distribution กระจายแรงดันน้ำมันเบรก EBD ลดระยะเบรกให้สั้นลง
  5. BA: Break Assist ระบบเสริมแรงเบรค ช่วยรีดแรงดันน้ำมันเบรค ทำให้สามารถหยุดรถได้อย่างทันท่วงที สำหรับลูกค้าที่สนใจ สามารถชมและทดลองขับ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ MY2014 ได้ที่โชว์รูมรถยนต์ มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หรือติดต่อมิตซูบิชิ Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1800 900 009 หรือ โทร. 02-529-9500 ทุกวันจันทร์ - เสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-17.00 น. หรือติดตามข่าวสรอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th (//www.mitsubishi-motors.co.th) • Credit : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

20-01-2014, 08:29

ข่าวเช้าประจำวันที่ 20 มกราคม 2557 ยอดผลิตรถยนต์ในไทยทุบสถิติ 52 ปีในปีที่ผ่านมา ติดท๊อปเทนฐานการผลิตโลก //upic.me/i/s9/production_cover.jpeg (//upic.me/show/49200338) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รายงานยอดการผลิตรถยนต์ในประเทศไทยของปี 2556 ที่ผ่านมา พบยอดผลิตมากกว่า 2.45 ล้านคัน ซึ่งเป็นยอดการผลิตที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย ส่งผลให้ประเทศไทยขึ้นเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 10 ของโลก สุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยจำนวนการผลิตรถยนต์ที่ผลิตได้ในเดือนมกราคม – ธันวาคม 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,457,086 คัน สูงสุดรอบ 52 ปี ส่งผลให้ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรถยนต์ใน 10 อันดับแรกของโลก โดยเพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2555 ร้อยละ 0.14 แม้ยอดผลิตในเดือนที่ผ่านมา จะต่ำสุดในรอบ 20 เดือนก็ตาม ทั้งนี้ ยอดผลิตดังกล่าวเป็นการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1,335,783 คัน คิดเป็นร้อยละ 54.36 ของยอดการผลิตทั้งหมด ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 6.72 ขณะที่เป็นยอดผลิตเพื่อการส่งออกผลิต 1,121,303 คัน เท่ากับร้อยละ 45.64 เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 9.75 ขณะที่รถจักรยานยนต์มียอดการผลิตในปี 2556 ทั้งสิ้น 2,820,592 คัน ลดลงจากปี 2555 ร้อยละ 10.43 แยกเป็นรถจักรยานยนต์สำเร็จรูป 2,218,625 คัน ลดลงร้อยละ 14.87 และชิ้นส่วนประกอบรถจักรยานยนต์ 601,967 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.87 “ในส่วนของยอดจำหน่ายรถยนต์ในปีที่ผ่านมา พบว่ามียอดขาย 1,325,478 คัน ลดลงจากปี 2555 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 7.7 ส่วนรถจักรยานยนต์ มียอดขาย 2,004,498 คัน ลดลงจากเดือนมกราคม – ธันวาคม 2555 ร้อยละ 5.9″ การส่งออกรถยนต์ในปีที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 1,128,152 คัน เพิ่มขึ้นจากปี 2555 ในระยะเวลาเดียวกัน ร้อยละ 9.88 ส่งผลให้มีมูลค่าการส่งออก 512,186.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ร้อยละ 4.5 การส่งออกรถจักรยานยนต์ในปีที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้น 935,747 คัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.2 มีมูลค่า 50,149.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.08 Credit : www.autospinn.com (//www.autospinn.com)

Aeroklas

23-01-2014, 08:17

ข่าวเช้าประจำวันที่ 23 มกราคม 2557 //upic.me/i/6c/ford-f-150-2015-01.jpg (//upic.me/show/49251713) 2015 All-New Ford F-150 เจนเนอเรชั่นที่ 13 ของเจ้าตลาดอเมริกันปิคอัพ

จากที่เราได้เห็นตัวพรีวิวของ F-150 รุ่นใหม่ในรถต้นแบบ Atlas Concept ช่วงต้นปี 2013 ในที่สุดคันจริงของ Ford F-150 เจนเนอเรชั่นที่ 13 ก็เผยโฉมออกมาแล้วที่งาน 2014 ดีทรอยท์ ออโต้โชว์ หรือ NAIAS: - American International Auto Show โดย ฟอร์ด ยังคงเก็บงานออกแบบโดยรวมเอาไว้ได้อย่างครบถ้วน แตกต่างที่รายละเอียดปลีกย่อยบางจุดเท่านั้น จุดเด่นของ F-150 ใหม่ นอกเหนือจากการติดตั้งเครื่องยนต์ตระกูล EcoBoost คือการลดน้ำหนักลงไปได้ถึง 320 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน ฟอร์ด ออกแบบเฟรมใหม่ทั้งหมดโดยใช้เหล็ก high strength steel และใช้บอดี้อลูมิเนียมทั้งหมด โดยมีวัสดุเสริมที่ไม่ใช่อลูมิเนียมเพียงชนิดเดียว คือ 'Quiet Steel' ซึ่งเป็นชั้นวัสดุสำหรับซับเสียงและแรงสั่นสะเทือนเท่านั้น ไฮไลท์สำคัญคือการใช้งานเครื่องยนต์ EcoBoost รุ่นใหม่แบบ V6 ความจุ 2.7 ลิตร เบากว่า กะทัดรัดกว่า และให้พละกำลังใกล้เคียงเครื่องยนต์ V8 โดยในการวางตำแหน่งทางการตลาดนั้น ฟอร์ด จะใช้เครื่องยนต์ EcoBoost V6 ความจุ 3.5 ลิตร เป็นรุ่น entry-level แทนที่เครื่องยนต์ V6 ความจุ 3.7 ลิตร TiVCT บล๊อคเดิมเพื่อลดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ส่วน EcoBoost V6 ความจุ 2.7 ลิตร จะถูกใช้เป็นรุ่นคั่นกลางระหว่างรุ่นพื้นฐาน 3.5 และรุ่นสูงสุดแบบ V8 ความจุ 5.0 ลิตร ซึ่งขณะนี้ ฟอร์ด ยังคงไม่ปล่อยตัวเลขสมรรถนะใดๆ ออกมา จนกว่าจะได้ตัวเลขอย่างเป็นทางการจาก SAE: Society of Automotive Engineers แบบเดียวกับที่ จีเอ็ม ใช้ทำการตลาดตอนเปิดตัว Silverado ด้านความปลอดภัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ฟอร์ด เพิ่มกล้อง 360 องศา, ชุดไฟ LED หน้า/หลัง, เข็มขัดนิรภัยแบบถุงลม Inflatable rear seatbelts ในเบาะแถว 2, ระบบ Curve Control ช่วยเรื่องการทรงตัวในขณะใช้ความเร็วสูงในโค้ง, cruise control แบบ adaptive ตรวจวัดระยะห่างด้วยเรดาห์, hill start assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และ lane-keep assist ป้องกันการเปลี่ยนเลนโดยไม่ตั้งใจ เพิ่มความสะดวกด้วยแรมพ์แบบเก็บสำเร็จ สำหรับเป็นทางขึ้นให้เครื่องตัดหญ้า - มอเตอร์ไซค์ หรือ ATV, จุดพ่วงปลั๊ก 110 โวลท์/400 วัตต์, tailgate step หรือบันไดพับที่ฝากระบะหลังเจนเนอเรชั่นใหม่ ฝังตัวอยู่ในฝาท้าย, ฟังก์ชั่น trailer hitch assist ช่วยให้การพ่วงเทรลเลอร์ง่ายขึ้น ลิ๊งค์ภาพกับกล้องมองหลัง ปรับมุมกล้องตามองศาการหมุนของพวงมาลัย และ smart trailer tow module ชุดบายพาสสำหรับเชื่อมต่อระบบไฟสัญญาณต่างๆ ของรถพ่วง นอกจากนี้ 1 ใน 3 ของระบบต้นแบบใน Atlas Concept อย่างระบบ Active Grille Shutters ซึ่งเป็นระบบเปิด/ปิดบานพับอัตโนมัติ ติดตั้งอยู่ที่บริเวณกระจังหน้าเพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น จะถูกนำมาใช้งานในรุ่น 3.5 V6 และ 5.0 V8 ด้วย ราคา...สมรรถนะโดยรวม และกำหนดการจำหน่าย เราจะกลับมาอัพเดทกันอีกครั้งครับ Credit: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

24-01-2014, 09:38

ข่าวเช้าประจำวันที่ 24 มกราคม 2557 2014 Honda City เจนเนอเรชั่นที่ 4 อีกขั้นแห่งความสำเร็จที่สะท้อนตัวตน Be Your B-E-S-T //upic.me/i/rt/honda-city-2014-05.jpg (//upic.me/show/49272276) ฮอนด้า ประเทศไทย เปิดตัว Honda City ใหม่ เจนเนอเรชั่นที่ 4 พัฒนาภายใต้แนวคิด Advanced Cool Stunner ขับเน้นความเป็นรถพรีเมี่ยม ออกแบบใหม่ทั้งภายนอกและภายใน เด่นด้วยเครื่องยนต์ i-VTEC 1.5 และเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ เทคโนโลยี Earth Dreams พร้อมรองรับเชื้อเพลิง E85 ตั้งเป้ายอดจำหน่าย 60,000 คันภายในหนึ่งปี การออกแบบ และพละกำลัง New City ออกแบบภายใต้แนวคิดใหม่ ซึ่ง ฮอนด้า เรียกว่า Exciting H Design โดยตัวอักษร H หมายถึง ผู้ขับและผู้โดยสารเป็นศูนย์กลางของรถ หรือ Human Center ซึ่งต่อยอดมาจากแนวคิด Man Maximum Machine Minimum และสะท้อนออกมาเป็น 3 องค์ประกอบหลัก คือ High Tech นวัตกรรมล้ำสมัย แต่ใช้งานง่าย, High Tension โครงสร้างที่แสดงถึงหลังในการขับเคลื่อน และ High Touch ทุกรายละเอียดในงานออกแบบ ตอบสนองต่อประสาทสัมผัสทั้งห้า New City ใช้พละกำลังจากเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร SOHC i-VTEC กำลังสูงสุด 117 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. ที่ 4,700 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ใหม่ ออกแบบและพัฒนาภายใต้เทคโนโลยี Earth Dreams อัตราทดเกียร์กว้างขึ้น พร้อมระบบ G-Design Shift ช่วยให้ใช้เชื้อเพลิงได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น อัตราเร่งและการตอบสนองดีขึ้น รวมทั้งสามารถใช้เชื้อเพลิง E85 ได้ New City ยังมาพร้อมระบบ ECO Coaching ช่วยควบคุมเครื่องยนต์ให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยระบบจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์, ลิ้นปีกผีเสื้อ และระบบส่งกำลัง ให้ทำงานสัมพันธ์กันในขณะใช้งาน รวมทั้งยังควบคุมการทำงานระบบปรับอากาศ และระบบหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสาร ให้เหมาะสมกับอุณหภูมิภายนอกตัวรถด้วย ห้องโดยสาร ห้องโดยสารออกแบบโดยใช้แนวคิด Layered Floating Cockpit เน้นภาพลักษณ์ที่ล้ำสมัย แต่แฝงไว้ด้วยความสปอร์ต ใช้วัสดุคุณภาพดี ให้ความสะดวกสบายในการใช้งาน คอนโซลหน้าเชื่อมกับคอนโซลกลางแบบ T Zone เพิ่มพื้นที่ให้ผู้โดยสารตอนหลังมากขึ้น เพิ่มพื้นที่หัวไหล่ 40 มม. เพิ่มพื้นที่วางขาให้ผู้โดยสารด้านหลัง 60 มม. องศาในการเอนเบาะหลังถูกคำนวณมาให้เหมาะสมกับสรีระ โดยรุ่น SV และ SV+ สามารถปรับ/พับได้แบบ 60:40 สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในห้องโดยสาร New City รุ่น V+, SV และ SV+ มากับจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว Advanced Touch เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ รองรับการสั่งงานด้วยเสียง Siri Eye Free Mode สำหรับ iPhone 4s ขึ้นไป โดยสมาร์ทโฟนบางรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ HondaLink App ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มีให้ในรุ่น V+, SV และ SV+ ส่วนมาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับ MID, ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ One Push Ignition System และระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ Smart Key System มีให้ในรุ่น V, V+, SV และ SV+ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น แยกตัวช่วยไปตามรุ่นย่อยต่างๆ โดยรุ่น V+, SV และ SV+ มีสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับ/วางสายโทรศัพท์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ส่วนรุ่น SV และ SV+ มีระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 จังหวะ พร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติให้เพิ่มเติม ความปลอดภัย มาตรฐานความปลอดภัย จุดเด่นยังคงเป็นโครงสร้างตัวถังนิรภัย G-CON ปกป้องห้องโดยสารจากการชนรอบทิศทาง เสริมความมั่นใจด้วยระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรคกระทันหัน ESS และจุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX & Child Anchor นอกจากนี้ยังมีถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ประกอบด้วย ถุงลมคู่หน้า Dual SRS, ถุงลมด้านข้างคู่หน้าอัจฉริยะ i-Side Airbag และม่านถุงลมนิรภัยด้านข้าง Side Curtain Airbags (เฉพาะรุ่น SV+) และในรุ่น V+, SV และ SV+ ยังมีกล้องมองหลัง ปรับมุมมองได้ 3 ระดับ สำหรับช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการถอย โดยเลือกปรับมุมกล้องได้ 3 แบบ คือ 130 องศา, 180 องศา และมุมมองจากด้านบน ราคาจำหน่าย New Honda City แบ่งการจำหน่ายเป็น 6 รุ่นย่อย คือ S MT, S AT, V, V+, SV และ SV+ สีภายนอกมีให้เลือก 7 สี คือ เทาเมทัลลิค Modern Steel, แดงมุก Carnelian, ดำมุก Crystal, เงินเมทัลลิค Alabaster, ขาว Taffeta พร้อม 2 สีใหม่ น้ำเงินเมทัลลิค Brilliant Sporty และ น้ำตาลเมทัลลิค Golden Brown สำหรับสีภายในห้องห้องโดยสาร รุ่น S, V และ V+ ตกแต่งด้วยเบาะผ้าสีเบจ ส่วนรุ่น SV และ SV+ ตกแต่งด้วยเบาะผ้าสีดำ •

• Honda City S MT ราคาจำหน่าย 550,000 บาท • Honda City S AT ราคาจำหน่าย 589,000 บาท • Honda City V ราคาจำหน่าย 649,000 บาท • Honda City V+ ราคาจำหน่าย 689,000 บาท • Honda City SV ราคาจำหน่าย 734,000 บาท • Honda City SV+ ราคาจำหน่าย 749,000 บาท ที่มา : www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

27-01-2014, 08:37

ข่าวเช้าประจำวันที่ 27 มกราคม 2557 2014 Volkswagen Polo R WRC AWD เวอร์ชั่นถนนสำหรับคนชอบรถเล็ก //upic.me/i/l9/volkswagen-polo-r-wrc-awd-2014-01.jpg (//upic.me/show/49319161)

ปีที่ผ่านมา โฟล์คสวาเก้น คว้าแชมป์ WRC ทั้งผู้ขับและผู้ผลิตด้วยรถรุ่น Polo R WRC ล่าสุด โฟล์ค กำลังทดสอบเวอร์ชั่นถนนของรถรุ่นนี้โดยใช้ชื่อรุ่น Polo R WRC AWD ใช้เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 250 แรงม้า (PS) ขับเคลื่อน 4 ล้อ หลังจากเมื่อปีที่แล้วได้เปิดตัวรุ่นพิเศษ Polo R WRC เพื่อให้ผ่านกฎ Homologation แต่ยังไม่สะใจคนเท้าหนักเพราะมีกำลังแค่ 220 แรงม้า (PS) (เวอร์ชั่นรถแข่งมี 211 แรงม้า) กับระบบขับเคลื่อนล้อหน้า ด้วยกำลังเครื่องยนต์ที่มากกว่า และใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ จึงคาดกันว่า Polo R WRC AWD จะให้อรรถรสในการขับที่ใกล้เคียงกับตัวแข่งแรลลี่มากกว่า โดยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง น่าจะต่ำกว่า 6 วินาที (รุ่นขับล้อหน้า 6.4 วินาที) และท๊อปสปีดจำกัดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปัญหาอยู่ที่ว่า โฟล์ค จะนำรถรุ่นนี้ขึ้นสายพานการผลิตจริงหรือไม่ ถ้าจริงก็น่าจะทำความลำบากให้ ออดี้ S1 ที่เตรียมเปิดตัวได้ไม่น้อย ส่วนราคาก็น่าจะแพงกว่ารุ่นขับล้อหน้า ซึ่งเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาทในเยอรมนี Credit: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

28-01-2014, 08:49

ข่าวเช้าประจำวันที่ 28 มกราคม 2557 Toyota ยอดขายอันดับ 1 ของโลก //upic.me/i/4e/toyota-global-sales-2013-01.jpg (//upic.me/show/49338768)

ในปี 2013 โตโยต้า ยังคงครองแชมป์ยอดขายรถทั่วโลกด้วยตัวเลข 9.98 ล้านคัน แซงหน้า 2 ยักษ์ใหญ่แหง่อุตสาหกรรมยานยนต์ทั้ง จีเอ็ม และ เครือโฟล์คสวาเก้่น โดยยอดขายรวมทั้งหมดของ โตโยต้า รวมถึงรถในเครืออย่าง ฮีโน่ มอเตอร์ส และ ไดฮัทสุ มอเตอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.4 เปอร์เซ็นต์จากยอดขายรวม ตามมาด้วย เจนเนอรัล มอเตอร์ส กับยอดขายรวม 9.71 ล้านคัน และ เครือโฟล์ค 9.7 ล้านคัน โตโยต้า มีความหวังว่าในปีนี้ ยอดขายรวมทั่วโลกอาจทะลุ 10 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่า 10.32 ล้านคัน และมียอดการผลิตเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ หรือ 10.43 ล้านคัน แต่ก็จะประมาท 2 คู่แข่งในอันดับ 2 และ 3 ไม่ได้ เพราะในปี 2012 โตโยต้า มียอดขายรวมมากกว่า จีเอ็ม 460,000 คัน แต่ในปีที่ผ่านมา จีเอ็ม ไล่ตามมาห่างเพียง 270,000 คันเท่านั้น รวมทั้งรถใน เครือโฟล์ค ที่ทำยอดขายรวมได้ถึง 9.7 ล้านคันในปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ โฟล์ค ยังประกาศว่าจะเป็นอันดับ 1 ด้านยอดขายรถภายในปี 2018 โดยมีแผนจะเพิ่มเงินลงทุนเฉพาะในตลาดอเมริกาเหนือ 2.3 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้ายอดขายในอเมริกาเหนือไว้ 1 ล้านคันในปี 2018 ส่วน จีเอ็ม ก็เตรียมเปิดตัวรถทั้งโมเดลและไมเนอร์เชนจ์ รวม 14 รุ่นในตลาดสหรัฐอเมริกาภายในปีนี้ เพื่อเพิ่มยอดขายและเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้า • หมายเหตุ: ภาพประกอบ Toyota Hilux Invincible MY2014 Credit: www.motortrivia.com (//www.motortrivia.com)

Aeroklas

31-01-2014, 09:44

ข่าวเช้าประจำวันที่ 31 มกราคม 2557 มาแล้ว! Nissan Almera 2014 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ล่าสุด หรูล้ำกว่าเดิม!

//upic.me/i/r7/co200.jpeg (//upic.me/show/49391030) ริษัท นิสสัน มอเตอร์(ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเปิดตัวอีโคคาร์ซีดาน Nissan Almera 2014 รุ่นไมเนอร์เชนจ์ล่าสุด ปรับโฉมใหม่หมดรอบคันเพิ่มดีกรีความหรู อัดออพชั่นพิเศษ จอทัชสกรีนพร้อมระบบนำทาง เคาะราคาน่าคบ 6 แสนนิดๆ นิสสัน อัลเมร่าถือเป็นรถอีโคคาร์ซีดานรุ่นแรกของไทย และได้รับการตอบรับจากลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี สร้างยอดขายรวมเฉพาะในไทยกว่า 104,000 คัน ในขณะที่ยอดจำหน่ายรวมรถกลุ่มอีโคคาร์ทั้งหมดจากค่ายนิสสัน ทั้ง March และ Almera มีสูงถึง 200,000 คัน นับได้ว่าเป็นผู้นำตลาดรถอีโคคาร์ในไทยอย่างแท้จริง ด้านรูปลักษณ์ภายนอกของ Nissan Almera 2014 ใหม่ ได้รับการปรับปรุงด้านหน้าใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระจังหน้าโครเมี่ยมดีไซน์ใหม่ ไฟหน้าโฉมใหม่ กันชนหน้าและไฟตัดหมอกที่เสริมโครเมียมเพิ่มความหรูยิ่งขึ้น ส่วนด้านหลังมีการปรับปรุงกันชนใหม่ให้ดูดุดันกว่าเดิม มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ภายในเพิ่มความหรูหรายิ่งขึ้นด้วยแผงคอนโซลดีไซน์ใหม่ ตกแต่งด้วยสีดำ Piano Black แผงประตูและมือจับแบบโครเมียม พวงมาลัยดีไซน์ใหม่แบบ 3 ก้านตัดด้วยสีเงิน พร้อมปุ่มควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย มาพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ (MID - Multi Information Display) เรืองแสงสีขาว ด้านฟีเจอร์ภายใน เพิ่มระบบนำทางในรถยนต์ (Navigation System) ผ่านหน้าจอแบบสัมผัสขนาด 6.1 นิ้ว สามารถเล่นแผ่น DVD ได้ และยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth, USB และ AUX นอกจากนั้นยังมีกล้องมองหลังขณะถอยจอด ทำงานควบคู่กับสัญญาณเตือนกะระยะ 3 จุด กุญแจอัจฉริยะพร้อมปุ่มสตาร์ท พร้อมฟังก์ชั่นเปิดกระโปรงท้ายรถ ด้านความปลอดภัยครบครัน มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้าตั้งแต่รุ่นล่างสุด ระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD และเสริมแรงเบรค BA ราคาจำหน่าย Nissan Almera 2014 ใหม่ล่าสุด S MT 433,000 บาท E MT 464,000 บาท E CVT 498,000 บาท EL CVT 532,000 บาท V CVT 572,000 บาท VL CVT 608,000 บาท Credit: www.auto.sanook.com (//www.auto.sanook.com)

turbo129

31-01-2014, 09:49

ขอบคุณครับ....สำหรับข่าว..อัพเดท

Aeroklas

06-02-2014, 09:04

ข่าวเช้าประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2557 Honda เปิดตัว 2014 Civic Hybrid และ Civic Natural Gas ลุยตลาดมะกัน //upic.me/i/go/civicinusa.jpg (//upic.me/show/49482700) Honda ได้ฤกษ์ปรับโฉมไมเนอร์เชนจ์รถคอมแพกต์รุ่นประหยัดพลังงาน 2014 Honda Civic Hybrid และ Civic Natural Gas ออกทำตลาดอเมริกา Civic ทั้งสองรุ่นเตรียมเปิดให้ลูกค้าชาวอเมริกันจับจองในช่วงปลายเดือนนี้ มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเพิ่มเติมอย่างระบบเชื่อมต่อ HondaLink และหน้าจอ Display Audio ที่ใช้ระบบสัมผัสขนาดใหญ่เจ็ดนิ้ว ระบบขับเคลื่อนของ Civic Hybrid ได้รับการปรับปรุงใหม่โดยทาง Honda บอกว่าอัตราบริโภคน้ำมันดีขึ้นเล็กน้อย มีตัวเลขเฉลี่ยทั้งการขับในเมืองและนอกเมืองอยู่ที่ 19.1 กม./ลิตร ส่วน Civic Natural Gas ถูกอัพเกรดห้องโดยสารด้วยวัสดุที่มีคุณภาพดีขึ้นและปรับปรุงเบาะที่นั่งให้สบายกว่าเดิม โดยรุ่นท็อปมาพร้อมเบาะหนังแบบปรับอุณหภูมิให้ความอบอุ่นและเครื่องเสียงลำโพงหกตัว Honda ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิค แต่คาดว่า Civic Natural Gas จะใช้เครื่องยนต์เหมือนรุ่นเดิม ความจุ 1.8 ลิตร พละกำลัง 110 แรงม้า ส่วน Civic Hybrid ใช้บล็อก 4 สูบ 1.5 ลิตร พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้า พละกำลัง 110 แรงม้า 2014 Civic Hybrid เคาะราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 24,635 เหรียญสหรัฐฯ ส่วน Civic Natural Gas เริ่มที่ 26,640 เหรียญฯ Credit: www.autospinn.com (//www.autospinn.com)

Aeroklas

10-02-2014, 08:34

ข่าวเช้าประจำวันที่ 10 กุทภาพันธ์ 2557 เริ่มแล้ว Honda ทดสอบการใช้งานรถไฟฟ้าขนาดจิ๋วในญี่ปุ่น //upic.me/i/l6/honda-mc-beta_653.jpg (//upic.me/show/49541897) Honda เริ่มโครงการทดสอบการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าและสถานีชาร์จไฟพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นแล้ว โดยรถไฟฟ้าคันจิ๋วดังกล่าวคือ MC-β เผยโฉมครั้งแรกที่งานโตเกียว มอเตอร์โชว์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา MC-β ซึ่งจัดอยู่ในหมวดไมโครคาร์ มีขนาดเล็กกว่า Smart ForTwo เล็กน้อยกำลังถูกทดสอบโดยทีมวิศวกรของ Honda ซึ่งร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น การทดสอบมีขึ้นในเมืองมิยาโคจิมาซึ่งเป็นเมืองแห่งระบบนิเวศต้นแบบตั้งอยู่ใกล้กับเกาะโอกินาว่า ปัจจุบันมีสถานีชาร์จไฟทั้งหมดสามแห่ง สร้างโดยยักษ์ใหญ่วงการอิเลกทรอนิกส์อย่าง Toshiba Takeo Kiuchi หัวหน้าทีมวิจัยและพัฒนาของ Honda เผยว่าเป้าหมายของโครงการนี้คือการสร้างระบบการเดินทางขนส่งที่ปราศจากมลพิษอย่างสิ้นเชิง รถไฟฟ้า MC-β มาพร้อมกับตัวถังที่ทำด้วยพลาสติกเพื่อลดน้ำหนัก โดยโครงสร้างส่วนใหญ่ถ่ายทอดดีไซน์มาจากรถมอเตอร์ไซค์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 15 แรงม้า สามารถทำท็อปสปีดได้เกือบ 70 กม./ชม. ขับเคลื่อนได้ระยะทางไกลสูงสุด 80 กม. การชาร์จไฟด้วยกระแสไฟ 100 โวลต์ต้องใช้เวลาราวเจ็ดชั่วโมง ขณะที่กระแสไฟ 200 โวลต์ใช้เวลาไม่ถึงสามชั่วโมง Credit: //www.autospinn.com

Aeroklas

12-02-2014, 09:13

ข่าวเช้าประจำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557

//upic.me/i/xd/mazda3_2.jpg (//upic.me/show/49574082) โฆษณาของ Mazda3 2014 ที่กำลังฉายอยู่ในสหรัฐฯ เผยฟังก์ชั่นเด็ดโดนใจขาโซเชี่ยล สามารถเช็ค/อัพโหลดเฟซบุ๊คได้แม้ในขณะขับรถผ่านระบบ Mazda Connect Mazda3 รุ่นปี 2014 ใหม่ล่าสุด จะมาพร้อมระบบอินโฟเทนเม้นท์ Mazda Connect ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนของผู้ขับได้ โดยนอกจากจะสามารถเล่นเพลงที่อยู่ในสมาร์ทโฟนผ่านระบบบลูทูธได้แล้ว ยังสามารถเชื่อมต่อบริการวิทยุอินเตอร์เน็ท 'Aha' ได้ เพื่อการฟังเพลง, เช็ค/อัพโหลด Facebook และ Twitter ได้อีกด้วย ซึ่งระบบดังกล่าวทำงานผ่านเทคโนโลยี HMI (Human-Machine Interface) ที่มาพร้อมหน้าจอแบบลอยตัวติดตั้งบริเวณคอนโซลด้านบน เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นได้ง่ายขึ้น สั่งงานผ่านปุ่มควบคุมแบบหมุนที่ติดตั้งใกล้บริเวณคันเกียร์ นอกจากนั้นระบบ Aha ยังมาพร้อมความสามารถในการอ่านอีเมล์ หรือข้อความได้ ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนออกมาเพื่อเช็คข้อความ Mazda3 2014 ใหม่ มีรูปแบบตัวถังให้เลือก 2 แบบเช่นเคย ทั้งแฮทช์แบ็ค 5 ประตู และซีดาน 4 ประตู โดยจะเป็นรถมาสด้ารุ่นที่ 3 ที่มาพร้อมระบบ SKYACTIV แบบเต็มคัน (รองจาก CX-5 และ Mazda6) ซึ่งในตลาดญี่ปุ่นนอกจากจะมีเครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G และดีเซล SKYACTIV-D แล้ว ยังมาพร้อมเวอร์ชั่นไฮบริด SKYACTIV-HYBRID ในรุ่นตัวถังแบบ 4 ประตูให้เป็นทางเลือกอีกด้วย ตัวเลขด้านความประหยัดของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ สามารถทำได้เหนือความคาดหมาย โดยรุ่น SKYACTIV-G 2.0 เคลมตัวเลขไว้ถึง 19.0 กม./ลิตร ขณะที่ SKYACTIV-HYBRID ได้ตัวเลขพุ่งไปถึง 30.8 กม./ลิตร (ทดสอบตามมาตรฐาน JC08 ของญี่ปุ่น) ส่วนในประเทศไทยมีกำหนดเปิดตัวราวต้นเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ Credit: www.auto.sanook.com (//www.auto.sanook.com)

Aeroklas

19-02-2014, 09:28

ข่าวเช้าประจำวันที่ 19 มีนาคม 2557 Mercedes-Benz ใช้นาฬิกาอัจฉริยะดูระดับน้ำมัน //upic.me/i/pj/mercedes-benz-pebble-smartwatch-partnership-2.jpg (//upic.me/show/49707497) Mercedes-Benz ประกาศเป็นพันธมิตรกับบริษัท Pebble Technology เพื่อสร้างยานยนต์ที่สามารถเชื่อมต่อกันอุปกรณ์ไอทีที่ผู้ใช้สามารถสวมใส่ได้ ผลคือผู้ใช้จะได้รับข้อมูลเตือนหรือ notification จากรถได้อย่างสะดวกสบายผ่านนาฬิกาข้อมือ ขณะเดียวกันก็สามารถรับประสบการณ์ใช้งานรถแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน ความร่วมมือนี้ถูกประกาศออกมาก่อนงาน CES 2014 งานเทรดแฟร์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่กำลังจะจัดขึ้นที่ลาส เวกัสในวันที่ 7-10 มกราคมนี้ โดยบริษัทที่ Mercedes-Benz เลือกจับมืออย่าง Pebble Technology นั้นเป็นบริษัทผู้พัฒนานาฬิกาอัจฉริยะที่ผู้ใช้สามารถรับประโยชน์จากเซ็นเซอร์มากมายที่ฝังอยู่ในตัวนาฬิกาสิ่งที่เกิดขึ้นคือ Mercedes-Benz เปิดกว้างให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกับรถเบนซ์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน Digital DriveStyle โดยผู้ใช้ Pebble Smartwatches จะสามารถตรวจสอบระดับน่ำมันของรถ (fuel level), สถานะการล็อคประตู (door-lock status) และจุดจอดรถ (vehicle location) ได้อย่างแม่นยำ รายงานระบุว่า Pebble Smartwatch จะสามารถทำงานเป็นศูนย์ข้อมูลเรียลไทม์หรือ real-time data center ที่จะเตือนให้ผู้ใช้ทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นด้วย เช่น การเกิดอุบัติเหตุ หรือการก่อสร้างถนนที่อาจกีดขวางการเดินทางในบางเส้นทาง จุดนี้จะเป็นการเตือนผ่านการสั่น ขณะเดียวกัน ผู้ใช้ Pebble Smartwatch จะสามารถเปิดการทำงานแอปพลิเคชัน Digital DriveStyle เพื่อให้ระบบจัดหาเส้นทางอัตโนมัติ การเป็นรีโมทคอนโทรลควบคุมเครื่องเล่นมัลติมีเดียในรถ รวมถึงการอัปเดทข้อมูลการจราจร คาดว่าทั้งหมดนี้ Mercedes-Benz จะสาธิตการทำงานของระบบนี้ที่งาน CES 2014 ต่อไป ที่มา : www.marketingoopscom (//www.marketingoopscom)

ขับเคลื่อนระบบโดย vBulletin™ Version 4.2.5 Copyright © 2023 vBulletin Solutions, Inc. All rights reserved.

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้