เผยแพร่: 31 ต.ค. 2552 12:20 โดย: MGR Online
ข่าวในประเทศ - กรมการขนส่งทางบก ระบุปัจจุบันมีรถที่เปลี่ยนมาใช้ก๊าซ CNG และ LPG เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ย้ำให้เข้าตรวจและทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ทุกปี เพื่อความปลอดภัย ชัยรัตน์ สงวนชื่อ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า จากการที่ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวสูงขึ้น ทำให้เจ้าของรถยนต์หันมาติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซธรรมชาติอัด (CNG) หรือ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เป็นเชื้อเพลิงในรถยนต์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยสำหรับรถใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้ผู้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซ CNG หรือ LPG ในรถยนต์แก่ประชาชน จะต้องได้รับความเห็นชอบ จากกรมการขนส่งทางบกก่อนจึงจะดำเนินการได้ตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตั้งที่ได้รับความเห็นชอบ อยู่ทั่วประเทศแล้วกว่า 500 ราย และผู้ตรวจและทดสอบอีกเกือบ 200 ราย
สำหรับเจ้าของรถที่นำรถเข้ารับการติดตั้งอุปกรณ์ก๊าซ CNG หรือ LPG กับผู้ติดตั้ง ที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการขนส่งทางบก สามารถมั่นใจได้ในขั้นตอนวิธีการติดตั้งที่ถูกต้อง ปลอดภัย อีกทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ก็ได้มาตรฐานตามที่กำหนด โดยเมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้วเจ้าของรถจะต้องนำรถเข้ารับการตรวจและทดสอบความปลอดภัย กับผู้ตรวจและทดสอบที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมฯอีกครั้ง จากนั้นจึงไปดำเนินการ แจ้งเปลี่ยนชนิดเชื้อเพลิงในสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้ถูกต้อง ณ กรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด ทั่วประเทศ
โดยนำรถเข้ารับการตรวจสภาพ พร้อมหลักฐาน ได้แก่ สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ใบรับรองการติดตั้ง ใบรับรองการตรวจและทดสอบ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มความปลอดภัย ในการใช้งาน กรมการขนส่งทางบก กำหนดให้รถที่ใช้ก๊าซ CNG และ LPG เป็นเชื้อเพลิง จะต้องนำรถเข้ารับ การตรวจและทดสอบความปลอดภัยของอุปกรณ์ กับผู้ตรวจและทดสอบที่ได้รับความเห็นชอบทุกปี โดยจะต้อง นำใบรับรองการตรวจและทดสอบมาเป็นหลักฐานในการชำระภาษีรถประจำปีด้วยทุกครั้ง
ทั้งนี้เจ้าของรถที่ประสงค์ใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง ขอให้ตรวจสอบรายชื่อผู้ติดตั้งหรือผู้ตรวจและทดสอบ ที่ได้รับความเห็นชอบทางเว็บไซต์ www.dlt.go.th/ngv ก่อนนำรถเข้ารับบริการ เพื่อความปลอดภัยและไม่เกิดปัญหาในการดำเนินการทางทะเบียน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ กลุ่มพลังงานและสิ่งแวดล้อม สำนักวิศวกรรมยานยนต์ กรมการขนส่งทางบก จตุจักร หมายเลขโทรศัพท์ 0-2271-8604 0-2271-8604 หรือ สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ หรือ Call Center 1584