คุณอนุญาตให้แอปบางแอปใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในอุปกรณ์ได้ เช่น กล้องถ่ายรูปหรือข้อมูลรายชื่อติดต่อ แอปจะส่งการแจ้งเตือนเพื่อขอสิทธิ์ใช้ฟีเจอร์ต่างๆ ในอุปกรณ์ ซึ่งคุณจะอนุญาตหรือปฏิเสธก็ได้ นอกจากนี้คุณยังเปลี่ยนแปลงการให้สิทธิ์แอปของแอปเดียวหรือตามประเภทของสิทธิ์ในการตั้งค่าของอุปกรณ์ได้ด้วย
เปลี่ยนสิทธิ์ของแอป
- เปิดแอป "การตั้งค่า" ในอุปกรณ์
- แตะแอป
- แตะแอปที่ต้องการเปลี่ยน หากไม่พบ ให้แตะดูแอปทั้งหมด จากนั้นจึงเลือกแอป
- แตะสิทธิ์
- หากอนุญาตหรือปฏิเสธสิทธิ์ใดๆ ของแอป คุณจะเห็นสิทธิ์เหล่านั้นที่นี่
- หากต้องการเปลี่ยนการตั้งค่าสิทธิ์ ให้แตะสิทธิ์ดังกล่าวแล้วเลือกอนุญาตหรือไม่อนุญาต
คุณอาจเลือกตัวเลือกต่อไปนี้ได้สําหรับตําแหน่ง กล้อง และไมโครโฟน
- ตลอดเวลา: สําหรับตําแหน่งของคุณเท่านั้น แอปสามารถใช้สิทธิ์ดังกล่าวได้ทุกเมื่อ แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้แอปอยู่ก็ตาม
- อนุญาตขณะใช้งานอยู่เท่านั้น: แอปจะใช้สิทธิ์ได้เมื่อคุณใช้แอปดังกล่าวอยู่เท่านั้น
- ถามทุกครั้ง: แอปจะขอสิทธิ์จากคุณทุกครั้งที่คุณเปิดแอป และจะใช้สิทธิ์ได้จนกระทั่งคุณใช้แอปเสร็จ
- ไม่อนุญาต: แอปจะใช้สิทธิ์ไม่ได้ แม้ว่าคุณกําลังใช้แอปอยู่ก็ตาม
เปลี่ยนแปลงการให้สิทธิ์ตามประเภท
คุณตรวจสอบได้ว่าแอปใดมีการตั้งค่าสิทธิ์ที่เหมือนกัน เช่น ตรวจสอบว่าแอปใดมีสิทธิ์ดูปฏิทิน
ประเภทของสิทธิ์
ด้านล่างนี้เป็นรายการสิทธิ์และการดำเนินการของแต่ละสิทธิ์เมื่อเปิดไว้ในแอป
- เซ็นเซอร์ร่างกาย: เข้าถึงข้อมูลเซ็นเซอร์เกี่ยวกับสัญญาณชีพของคุณ
- ปฏิทิน: เข้าถึงปฏิทิน
- บันทึกการโทร: อ่านและเขียนบันทึกการโทรของโทรศัพท์
- กล้อง: ถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ
- รายชื่อติดต่อ: ดูรายชื่อติดต่อ
- ไฟล์: เข้าถึงไฟล์ทั้งหมดในอุปกรณ์
- ตําแหน่ง: เข้าถึงตําแหน่งของอุปกรณ์ ดูข้อมูลเกี่ยวกับการตั้งค่าตำแหน่ง
- ไมโครโฟน: บันทึกเสียง
- เพลงและเสียง: เข้าถึงเพลงและไฟล์เสียงอื่นๆ ในอุปกรณ์
- อุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง: ค้นหา เชื่อมต่อ และระบุตําแหน่งสัมพัทธ์ของอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียง
- การแจ้งเตือน: ส่งการแจ้งเตือน
- โทรศัพท์: โทรออกและจัดการการโทร
- รูปภาพและวิดีโอ: เข้าถึงรูปภาพและวิดีโอในอุปกรณ์
- การเคลื่อนไหวร่างกาย: เข้าถึงข้อมูลกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น การเดิน การขี่จักรยาน การขับรถ การนับจํานวนก้าว และอื่นๆ
- SMS: ส่งและดูข้อความ SMS
นําสิทธิ์ของแอปที่ไม่ได้ใช้ออกโดยอัตโนมัติ
- เปิดแอป "การตั้งค่า" ในอุปกรณ์
- แตะแอป
- แตะแอปที่ต้องการเปลี่ยน
- หากไม่พบ ให้แตะดูแอปทั้งหมด จากนั้นจึงเลือกแอป
- ในส่วน "การตั้งค่าแอปที่ไม่ได้ใช้" ให้เปิดหยุดกิจกรรมบนแอปชั่วคราว หากไม่ได้ใช้
ปิดสิทธิ์เข้าถึงกล้องหรือไมโครโฟนในอุปกรณ์
แหล่งข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
- ดาวน์โหลดแอปลงในอุปกรณ์ Android สำหรับวิธีย้าย App ลง SD Card ที่กระปุกดอทคอมแนะนำนี้นั้น เป็นวิธีสากลที่ผู้ใช้งานบนอุปกรณ์ Android ส่วนใหญ่นิยมใช้กัน เนื่องจากสะดวกและไม่ต้องเสียเวลาไปดาวน์โหลดแอพฯ ย้ายไฟล์ต่าง ๆ มาใช้ให้ยุ่งยาก
จาก พรีวิว Lenovo A7000 ของท่าน @Octopatr เราจะได้เห็นว่าเครื่อง Lenovo A7000 สามารถเพิ่มเมมหรือหน่วยความจำในเครื่องจากที่ให้มาเพียง 8GB กลายเป็น 32GB หรือ 64GB ได้ในบัดดล ซึ่งอย่าเข้าใจผิดว่าเป็นการย้ายแอพไปลง SD Card เหมือนที่เคยเจอกัน เพราะนี่มันเหมือนเปลี่ยนหน่วยความจำหลักไปอยู่ใน SD Card ไม่ใช้เอาข้อมูลบางส่วนของแอพมาเท่านั้น และความสามารถนี้ไม่ได้มีเพียงแค่รุ่นนี้ แต่ติดมากับ Software ของแอนดรอยด์บางยี่ห้อ ซึ่งมีการทำมารองรับการสลับหน่วยความจำหลักให้เปลี่ยนไปใช้ SD Card แทนได้ วันนี้ผมจึงขอเอามาเรียบเรียงใหม่ให้ได้ทราบกันอีกรอบถึงวิธีการเพิ่มเมมเครื่องอย่างง่ายดาย รวดเร็ว และประหยัดนี้ครับ
**เนื่องจากมีเพื่อนๆถามกันเข้ามามากเรื่องที่ไม่สามารถย้ายแอปไปทั้งหมดได้ ผมจึงไปหาเครื่องมาทดสอบให้อีกครั้งอยู่นะครับ เพราะตอนเขียนบทความนี้ไม่ได้ลองเล่นเอง แต่เป็นการถอดความและคุยกับทาง @Octopatr มาเท่านั้น ขอเวลาอีกแป๊บเดี๋ยวมาชี้แจงเรื่องทั้งหมดให้ครับ**
สรุปว่าไม่สามารถย้ายหน่วยความจำทั้งหมดได้นะครับ อ่านบททดสอบการใช้งานได้ที่ //droidsans.com/sdcard-default-write-disk-test
Updated
– ตรวจสอบรุ่นที่สามารถใช้งานได้ด้านล่างนะครับ
– ข้อมูลจากเพื่อนๆ เห็นว่าฟีเจอร์นี้มาพร้อมกับ CPU ของค่าย MediaTek ยังไงฝากใครที่มีอยู่ในมือลองเช็คให้หน่อยนะครับว่าใช้กันได้รึเปล่า แล้วแจ้งเข้ามาให้ทราบหน่อยครับ
วิธีการสลับเมมไปใช้ SD Card
เข้าไปที่ Settings (การตั้งค่า) > Storage (พื้นที่จัดเก็บข้อมูล) > Default Write Disk (ดิสก์หลักการเขียนข้อมูล) แล้วให้เลือกเป็น SD Card เท่านี้ก็เรียบร้อย
จากนั้นเครื่องจะรีบูท 1 ครั้งแล้วก็ทำการตั้งค่าอีกนิดหน่อย จากนั้นก็พร้อมใช้งานลงเกมหรือแอปใหญ่ๆได้ตามสะดวกเลยครับ
ข้อควรรู้และความเสี่ยง
- หลังจากปรับไปใช้ SD Card เป็นที่เก็บข้อมูลหลักแล้ว ไม่ควรถอดเปลี่ยน SD Card ซึ่งอาจะทำให้แอปในเครื่องหรือข้อมูลบางส่วนหายได้
- โดยปกติ eMMC ที่เป็นหน่วยความจำในเครื่องจะทนกว่า SD Card ดังนั้น…
- เลือกใช้ SD Card ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ไม่พังง่าย มิฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดอาจสูญหายไปได้ในพริบตา ยี่ห้อที่แนะนำ : ส่วนตัวใช้ Sandisk ยังไม่เคยพังคามือ แต่ว่า Kingston นี่หลายแผ่นละ
- วิธีนี้ไม่ใช่การย้ายแอพไปลง SD Card แต่เป็นการเปลี่ยนหน่วยความจำตั้งต้น (Default Storage) ไปเป็น SD Card แทน
ยี่ห้ออื่นที่ทำได้
เท่าที่ทราบตอนนี้จะมี Lenovo และ Wiko ที่สามารถทำได้ โดยถ้าหากว่าเพื่อนๆคนใดใช้ยี่ห้อไหนรุ่นไหนอยู่และพบว่าทำได้เหมือนกัน ก็สามารถแจ้งเข้ามาได้นะครับ
รุ่นที่ทดสอบแล้วว่ามี
- Lenovo A7000 (ในเครื่องบอกว่ารองรับ microSD สูงสุดเพียง 32GB แต่ใส่ 64GB ก็ยังใช้ได้นะ)
- Wiko RIDGE
- Wiko RIDGE Fab 4G ไม่มีนะครับ เข้าใจผิดกันเล็กน้อย
- DTAC Eagle X (ZTE Blade S6 lite)
- Asus memo pad hd 7 ( Android 4.2)
- Alcatel one touch flash (Android 4.4)
- Lenovo s930 (Android 4.2 และอัพ 4.4 ก็ย้ายได้)
- HTC desire 820s (Android 4.4)
- True Lenovo 4G LTE
หน่วยความจำก่อนสลับไปใช้ SD Card จะเห็นว่ามีแค่ 8.00 GB
เมื่อสลับใส่เอา microSD ขนาด 32GB ลงไป ก็จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาทันที
ลงเกมส์ได้สะบึม FIFA + Modern Combat + Gangstar สามเกมส์นี้นี่ก็ทะลุ 4GB เข้าไปแล้ว
และนี่คือพื้นที่เกมที่ใช้ไปทั้งหมด 7.9GB ซึ่งทั้งหมดติดตั้งลงบน micro SD โดยตรง เราไม่ต้องไปโยกย้ายอะไรทั้งนั้น แค่สลับ default write disk ไปที่ micro SD แค่นั้น ทำครั้งเดียวจบ