หากคุณพักที่เลอ ดีวีนา กอมเมเดียใน เกาะพะงัน คุณจะพักอยู่บนชายหาด และเดินเพียง 5 นาทีก็จะถึง หาดบ้านใต้ หรือเดินเพียง 13 นาทีก็จะถึง Hard Road โรงแรมแห่งนี้อยู่ห่างออกไปเป็นระยะทาง 3.2 ไมล์ (5.1 กม.) จาก ท่าเรือท้องศาลา และ 4.1 ไมล์ (6.6 กม.) จาก ชายหาดหาดริ้นนอก อัยการภาค 8 ส่งฟ้องอดีตนายอำเภอ-จนท.ที่ดิน- เจ้าของโรงแรม-นายกเทศมนตรี รวม 6 คน คดีออก น.ส.3 ก.ทับป่าเกาะพะงันแล้ว - ล่าสุดศาลอาญาคดีทุจริตฯ ให้ประกันตัวคนละ 5 แสน ส่วนที่ดินอยู่ระหว่างกระบวนการเพิกถอน
................................
.สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า จากกรณีที่นายศุภชัย สุกใส ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปราม ที่ 4 (ภาคใต้)กรมป่าไม้ หรือ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพรใต้ ได้รับคำสั่งจากกรมป่าไม้ ให้เข้าตรวจสอบจับกุมพื้นที่ หมู่ 7 และ 8 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2559 ที่ผ่านมา พบการบุกรุกเปิดหน้าดินเป็นพื้นที่กว้าง เมื่อตรวจสอบลงในรายละเอียดปรากฏว่า มีผู้แสดงตน คือ นายจักรพล ไทยพานิช บุตรชาย นางวรรณี ไทยพานิช นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะพะงัน และนำเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. เลขที่ 3403 ออกเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2548 เนื้อที่ 27 ไร่ 3 งาน 26 ตารางวา มายื่นแสดงสิทธิ์การเป็นเจ้าของที่ดิน และกรมป่าไม้ได้ร้องทุกข์ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ออกเลขสืบสวนตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษสืบสวนพบการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงสรุปสำนวนชี้มูลความผิดไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
ขณะที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน พบการกระทำความผิดตามที่ คณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษชี้มูล ป.ป.ช.มีมติ ที่ 123/2563 เมื่อวันที่ 2 พ.ย. 2563 ส่งความเห็นไปยังอัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายปราบปรามการทุจริต ภาค 8 พิจารณา ตามที่ปรากฎเป็นข่าวไปแล้ว
(ข่าวเกี่ยวข้อง:ป.ป.ช.ชี้มูลอาญา อดีตนายอำเภอ-จนท.ที่ดิน พวก 6 ราย ออก น.ส.3 ก. รุกป่าเกาะพะงัน)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 2563 นายศุภชัย เปิดเผย ว่า จากการติดตามข่าวสำนักงานอัยการคดีปราบปรามทุจริตภาค 8 จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับทราบว่า นางสาวอุษา สงจันทร์ อัยการเจ้าของสำนวนคดี และนายประเวศ ศิริศักดิ์ อัยการพิเศษฝ่าย ได้มอบหมายให้นิติกร นำตัวผู้ต้องหา 6 ราย ฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 8 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา ส่วนพื้นที่ข้างเคียงที่ดินแปลงเกิดเหตุหลายแปลง ซึ่งจากการเปิดยุทธการในพื้นที่เกาะพะงันมีการจับกุมกว่า 10 คดี ขณะนี้คดีอยู่ในชั้น พนักงานสอบสวน บางคดี และชั้นการพิจารณาของพนักงานอัยการบางคดี และ บางคดีอยู่ในชั้นพิจารณาของศาลบางคดีศาลชั้นต้นพิพากษาแล้ว
สำหรับผู้ต้องหา 6 รายประกอบ ด้วย
จำเลยที่ 1 นายพรเลิศ โชคชัย อายุ 63 ปี อดีตนายอำเภอเกาะพะงัน
จำเลขที่ 2 ว่าที่ร้อยตรีประภาส รักษ์ศรีทอง อายุ 55 ปี เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช
จำเลยที่ 3 นายเฉลียว ภักดีชน อายุ 70 ปี ข้าราชการบำนาญ
จำเลยที่ 4 นายสมพงศ์ หนูพรหม อายุ 65 ปี ข้าราชการบำนาญ
จำเลยที่ 5 นายพิทยา อินทร์คง อายุ 52 ปี นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเพชรพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
จำเลยที่ 6 นายจักรพล ไทยพาณิช อายุ 42 ปี เจ้าของที่ดิน และเจ้าของโรงแรมในอำเภอเกาะพะงัน
คำฟ้องระบุว่า จำเลยมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1 (16),83,86,151,157 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2507 มาตรา 7 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา(ฉบับที่ 26) พ.ศ.2560 มาตรา 7 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการปิ้งกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 4 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 4 มาตรา 192
เบื้องต้น ศาลได้อนุญาตให้จำเลยทั้ง 6 ประกันตัวไปในวงเงินคนละ 500,000 บาท
สำหรับพฤติกรรมของกลุ่มจำเลย คือ ร่วมกันออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส. 3 ก) เลขที่ 3430 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎรธานี โดยมิชอบ ให้แก่นายจักรพล จำเลยที่ 6 โดยนางวรรณี ไทยพาณิช เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้ดำเนินการ โดยอาศัยหลักฐานที่ดินแบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ส.ค.1เลขที่ 346 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ของนายอุดม เกื้อสกุล ซึ่งได้ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์(น.ส.3 ก.)เลขที่ 315 ตำบลเกาะพะงันไปแล้ว และที่ดินแปลงดั่งกล่าวยังเป็นที่ดิน ภทบ.5 เลขสำรวจ ที่ 276/2546
แหล่งข่าวจากกรมที่ดิน เปิดเผยว่า กรณีที่ดินแปลงนี้ หลังจากที่กรมที่ดินได้รับหนังสือจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ ตาม มาตรา 61 พ.ร.บ.ให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน แต่เนื่องจากผู้มีส่วนได้เสียและมีส่วนเกี่ยวข้องได้ร้องขอความเป็นธรรมคณะกรรมการ จึงมีมติทบทวนให้ความเป็นธรรมกับผู้ร้องจึงยังไม่มีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์แต่อย่างใด
ทั้งนี้ นอกจากพนักงานอัยการได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งฟ้องศาลไปแล้วยังได้แจ้งพฤติกรรมแห่งคดีและฐานะของที่ดินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีทราบ ผ่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎรธานีอีกด้วย
อนึ่ง ปัจจุบันคดีนี้ศาลฯยังไม่มีคำพิพากษา ผู้ถูกกล่าวทั้ง 6 ราย จึงยังไม่มีความผิดตามข้อกล่าวหา เป็นผู้บริสุทธิ์อยู่