แม้ครูครองจักรจะเป็นเกษตรกรมือใหม่ที่เพิ่งปลูกอินผลัมได้แค่ 9 ปี (เริ่มปี 2556 )แต่สวนอินทผาลัมชอนสารเดช เป็นแห่งแรกของจังหวัดลพบุรีที่ใช้ต้นพันธุ์จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ และเป็นแหล่งผลิตพืชปลอดภัยสารเคมี ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งศึกษาดูงานและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้านการผลิตอินทผาลัมปลอดสารพิษ ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น โดรนเพื่อการเกษตร ในการบริหารจัดการสวนเพื่อลดการใช้แรงงาน ใช้สารชีวภัณฑ์ป้องกันโรคและแมลง 100%
สวนอินทผาลัมชอนสารเดช นอกจากขายอินทผลัมผลสดและแช่แข็งแล้ว ยังแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มอินทผลัมในรูปแบบต่างๆ เช่น นมสดอินทผาลัม ชาดอกอินทผาลัม น้ำเชื่อมอินทผาลัม ฯลฯ สวนอินทผาลัมชอนสารเดช ประสบความสำเร็จในด้านรายได้และมีความยั่งยืนในอาชีพอย่างชัดเจนแล้ว ยังส่งผลให้ครูครองจักรได้รับการยกย่องให้เป็นเกษตรกรดีเด่นสาขาอาชีพทำสวน ปี 2564 ของจังหวัดลพบุรี
ปลูกอินทผลัมให้ผลตอบแทนสูง
อินทผาลัม เป็นพืชที่ใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ต้นพันธุ์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ความสูง 20 เซนติเมตร ราคาสูงถึงต้นละ 2,000 – 2,500 บาท ครูครองจักรปลูกอินทผลัม 25-30 ต้นต่อไร่ ลงทุนวางระบบน้ำ 40,000 บาทต่อไร่ รวมต้นทุน 62,955บาทต่อไร่ หรือประมาณ 1.2 ล้านบาท
การปลูกอินทผลัมให้ผลตอบแทนคุ้มค่ากับการลงทุน เพราะขายผลผลิตได้ราคาสูงกว่าไม้ผลชนิดอื่น ทั้งให้ผลผลิตต่อต้นสูง อินทผลัมเป็นพืชที่มีอายุยืนยาว ปี 2561 เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 12,000 ก.ก. มีรายได้ 4.2 ล้านบาท ปี 2562 ได้ผลผลิต 900 ก.ก. มีรายได้ 6.3 ล้านบาท ปี 2563 มีผลผลิต 20 ตัน ขายได้ ก.ก. ละ 500 – 1,000 บาท มีรายได้ 7 ล้านบาท ปี 2564 ผลผลิต 22 – 25 ตัน ปี 2565 คาดว่าจะได้ผลผลิต 28 – 30 ตัน