พ่อนักศึกษาสาวปริญญาเอก ร้องสายไหมต้องรอด ลูกสาวพลัดตกแมนชั่นดับ หลังคู่กรณีเมาโวยวายอาละวาดบุกเคาะห้องพักยามวิกาล ปมเข้าใจผิดคิดว่าจอดรถ จยย.ทับที่ เผยผู้เสียชีวิตเป็นคนกลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็ก ด้านรอง ผบช.น. สั่ง สน.โชคชัย วิเคราะห์สำนวนใหม่ หลังผู้ก่อเหตุถูกแจ้งเพียง 3 ข้อหา
เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2566 มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และนายนิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด โดยมีกรณีที่น่าสนใจ คือ นายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.อาภาภรณ์ สีชำนาญ หรือน้องเฟิร์น อายุ 27 ปี นักศึกษาปริญญาเอก ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ที่เสียชีวิตตกจากห้องพักชั้น 6 แมนชั่นแห่งหนึ่งภายในซอยลาดปลาเค้า 3 เสียชีวิต โดยสาเหตุมาจากการตกใจที่สามีผู้ดูแลอาคารขึ้นไปบุกทุบห้องพักชั้น 6 ของ น.ส.อาภาภรณ์ โวยวายด้วยเหตุเข้าใจผิด ทำให้ น.ส.อาภาภรณ์ เกิดความหวาดกลัว พยายามปีนระเบียงหลังห้องหนีเอาชีวิตรอดไปห้องข้างๆ แต่เกิดพลัดตกลงมาเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา
นายเอกภพ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ น.ส.อาภาภรณ์ ตกใจกลัวที่สามีของผู้จัดการแมนชั่น บุกมาเคาะห้องเสียงดังในช่วงเวลา 04.00 น. ใช้ถ้อยคำส่งเสียงดังโวยวาย เพราะเข้าใจผิดคิดว่า น.ส.อาภาภรณ์ จอดรถ จยย.ทับที่จอดรถ จยย.ของตัวเอง แต่ข้อเท็จจริง น.ส.อาภาภรณ์ ไม่มีรถ จยย.แต่อย่างใด ด้วยความตกใจและหวาดกลัว ทำให้ น.ส.อาภาภรณ์ รีบแชตข้อความบอกเพื่อนที่อยู่ชั้น 3 ให้ช่วยเหลือ แต่เพื่อนไม่กล้าขึ้นไปช่วย เพราะเกรงว่าผู้ก่อเหตุอาจมีอาวุธ จึงรีบลงไปที่ชั้น 1 เพื่อเรียก รปภ. แต่ระหว่างนั้น น.ส.อาภาภรณ์ กลัวผู้ก่อเหตุจะพังห้องเข้ามา จึงหนีด้วยการปีนระเบียงหลังห้อง จะข้ามไปยังห้องข้างๆ แต่พลัดตกตึกจากห้องพักชั้น 6 กระแทกผ่านหลังคาโรงจอดรถลงมายังพื้นชั้นล่างเสียชีวิต
นายเอกภพ กล่าวว่า ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่าผู้บุกไปโวยวาย มีอาการมึนเมาคล้ายคนดื่มสุรา แต่พนักงานสอบสวนไม่ได้มีการตรวจเรื่องสารเสพติด และล่าสุดทราบว่าทางผู้ก่อเหตุได้กล่าวขอโทษกับแม่ของน้อง แต่ไม่ได้มีการพูดเรื่องการเยียวยาช่วยเหลือใดๆ อีกทั้งประการสำคัญ คือ ที่มีการจอดทับที่ จยย. สรุปแล้วไม่ใช่ จยย.ของน้องผู้เสียชีวิต แต่เป็น จยย.ของคนอื่น เป็นเรื่องเข้าใจผิด รวมถึงการดำเนินคดีมีเพียง 3 ข้อหา คือ ความผิดฐานบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน, ความผิดฐานผู้ใดส่งเสียง ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึง โดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน และความผิดฐานผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ แต่กลับไม่มีการพิจารณาแจ้งข้อหาฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย เพราะน้องพลัดตกตึกโดยมีมูลเหตุจากการถูกเคาะห้องเสียงดัง และผู้เสียชีวิตตกใจ ซึ่งในระหว่างเกิดเหตุน้องผู้เสียชีวิตไม่ได้มีการตอบโต้กับทางผู้ก่อเหตุที่มาเคาะห้อง มีเพียงการส่งข้อความทาง Messenger ใน Facebook แจ้งกับเพื่อนที่อยู่ชั้น 3 เท่านั้น
นายเอกภพ กล่าวว่า คดีนี้ต้องมีการทำสำนวนคดี เเละสอบปากคำพยานแวดล้อมว่าเสียงในคืนเกิดเหตุดังมากแค่ไหน เพราะการเสียชีวิตของน้องถือเป็นพฤติกรรมความประมาทของผู้ก่อเหตุที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิต ไม่อย่างนั้นลอยนวล เพราะมีโทษ 3 ข้อหา ความผิดลหุโทษเท่านั้น นอกจากนี้ ตนได้ประสานไปยัง พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบช.น. เพื่อขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น หากพบว่าการเสียชีวิตของน้องเกิดจากการกระทำของผู้ก่อเหตุหรือใครก็ตาม ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาหนักที่สุด ทาง พล.ต.ต.มานพ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ทำการวิเคราะห์สำนวน เพื่อตรวจสอบให้ถี่ถ้วนว่าการเสียชีวิตของนักศึกษาปริญญาเอกรายนี้เกิดจากมูลเหตุที่ผู้ก่อเหตุเคาะห้องส่งเสียงดังและโวยวาย จึงเป็นเหตุให้น้องตกใจจนตัดสินใจหลบหนีและเสียชีวิต และให้พิจารณาความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องว่าพบอีกหรือไม่
ด้านนายสมชาย สีชำนาญ อายุ 60 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ลูกสาวเป็นคนกลัวเสียงดังมาตั้งแต่เด็ก หลังจากเข้ามาที่กรุงเทพฯ เป็นนักศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ตั้งแต่ปริญญาตรี ปริญญาโท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขอจบการศึกษาระดับปริญญาเอก จากสิ่งที่เกิดขึ้นตนเสียใจอย่างยิ่ง ตนมีลูกสาวที่เรียนเก่งและเป็นนักเรียนทุน แต่กลับต้องเสียชีวิตจากการกระทำของคนที่ขาดสติมึนเมา เพราะความเข้าใจผิดว่าลูกสาวไปจอดรถ จยย.ทับที่ อีกทั้งตนมองว่าผู้ก่อเหตุมีลักษณะคล้ายคนดื่มสุรา แต่กลับไม่มีการตรวจสารเสพติด แค่เรื่องมูลเหตุการจอด จยย.ทับที่กัน ทำไมจึงต้องมีการคลุ้มคลั่งขนาดนี้ ทั้งนี้ ตนอยากให้ทางผู้ก่อเหตุมีจิตสำนึกบ้าง และประสงค์ให้ตำรวจช่วยดำเนินคดีให้ครอบคลุมทั้งหมด.
วันนี้ (17 ธ.ค.2566) นายสมชาย สีชำนาญ เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอดกรณีลูกสาวที่กำลังศึกษาระดับปริญญาเอก ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้อยู่ที่พักอพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลาดปลาเค้า 3 ถูกสามีของผู้จัดการหอพัก บุกขึ้นไปพยายามทุบประตูห้องพักที่อยู่บริเวณชั้น 6
พร้อมกับตะโกนเสียงดังว่า ลูกสาวจอดรถจักรยานยนต์ทับที่จอดของตัวเอง ซึ่งปกติลูกสาวเป็นคนขี้กลัว จึงตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกลัวว่าจะถูกทำร้าย จึงปีนระเบียงหลังห้องเพื่อหนีออกมา แต่กลับพลัดตกลงมาเสียชีวิต
ต่อมาสามีของผู้จัดการหอพัก มาขอโทษพร้อมสารภาพว่าเข้าใจผิดคิดว่ารถจักรยานยนต์ของลูกสาวไปจอดในที่ของตัวเอง จึงบุกขึ้นไปก่อเหตุดังกล่าว
นายเอกภพ กล่าวว่า ทางตำรวจ สน.โชคชัย ได้แจ้งข้อหาพยายามบุกรุกยามวิกาล กระทำอึกกระทึกครึกโครม และข้อหาทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว
พร้อมประสาน พล.ต.ต.มานพ สุคนธ์ธรพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้เข้ามาช่วยกำกับดูแลคดีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมมากที่สุด