ข บรถเก ยร ธรรมดา อย าง ม อ อาช พ

ถามผู้ที่ใช้อยู่หรือมีความรู้มาตอบหน่อยครับพอดีให้เพื่อนซื้อมาให้ แล้วซื้อของเกียร์ธรรมดามาครับ ผมใช้ออโต้ สามารถใช้ร่วมกันได้หรือไม่ครับ

#ผมไม่ทราบจริงๆครับถามอากู๋แล้ว แต่ตอบไม่ค่อยตรง ขอบคุณทุกคำตอบล่วงหน้าด้วยครับ

การขับรถขึ้นเขา-ลงเขาอาจเป็นเรื่องยากสำหรับคนขับรถหลายคน โดยเฉพาะมือใหม่หัดขับหรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับการขับรถบนทางลาดชัน เพราะต้องใช้ทักษะในการขับขี่หลายอย่างไปพร้อม ๆ กัน เช่น การเลือกใช้เกียร์ที่เหมาะสม การรักษาความเร็วให้คงที่ และการตัดสินใจที่ดี ต่างต้องใช้ความระมัดระวังและสมาธิเป็นอย่างมาก เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดได้อย่างรวดเร็ว เงินติดล้อจะมาแนะนำเทคนิคสำคัญเกี่ยวกับวิธีขับรถขึ้นเขาใช้เกียร์อะไรให้ปลอดภัยตลอดการเดินทาง

ขับรถขึ้นเขา-ลงเขาเกียร์กระปุก ต้องใช้เกียร์อะไรบ้าง?

รถเกียร์กระปุก หรือ Manual คือ รถยนต์ที่คนขับต้องจัดการทุกอย่างเอง เช่น เข้าเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ หรือปล่อยคลัตช์ ให้เหมาะสมกับการขับขี่ ณ ขณะนั้น สำหรับใครที่สงสัยว่าขับรถขึ้นเขาใช้เกียร์อะไร สำหรับเกียร์กระปุก มีดังนี้ครับ

  1. วิธีขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์ต่ำ

    ต้องบอกก่อนครับว่า ขับรถขึ้นเขาหรือลงเขาผู้ขับรถมือใหม่ที่ไม่เคยขับรถขึ้นดอยเลยอาจคาดคะเนไม่ถูกว่าทางขึ้นเขาจะมีความชันมากแค่ไหน ดังนั้น ให้รู้เอาไว้เลยครับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ขับรถขึ้นเขาแล้วความเร็วรถถูดลดลง ควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ (เกียร์1หรือ เกียร์​ 2) เพราะถ้าใช้เกียร์สูงมากกว่านี้ เครื่องยนต์จะไม่ไม่มีพลังมากพอในการฉุดให้รถขึ้นเขาได้
  2. ขับรถขึ้นเขาแล้วต้องหยุดระหว่างทาง

    ในขณะที่ขับรถขึ้นดอย แล้วจำเป็นต้องหยุดรถ หากจะเริ่มเดินทางต่ออีกครั้ง ให้สตาร์ทรถแล้วเข้าเกียร์​ 1 พร้อมกับใช้ปลดเบรคมือควบคู่กัน เพราะช่วยให้รถไม่ไหลเวลาที่คุณถอนเท้าออกจากคลัตช์นั่นเอง
  3. ขับรถลงเขาต้องใช้เกียร์อะไร

    ขับรถลงเขาต้องใช้เกียร์อะไร คำตอบคือ เกียร์​ 1 หรือ เกียร์ 2 เช่นเดียวกับขับรถขึ้นเขาเลยครับ จริง ๆ จะปล่อยให้ไกลไปก็ได้ด้วยเกียร์ว่าง เพราะเป็นทางลาดลงเหมือนสไลด์เดอร์ แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอครับ ใครเลยจะรู้ว่าจะมีสัตว์ป่าออกมาตอนไหน จะได้สามารถควบคุมเบรคได้ทัน ไม่ให้รถเสียการทรงตัวครับ

วิธีขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขา-ลงเขา ต้องขับอย่างไร?

เกียร์ออโต้ หรือ Automatic เป็นเกียร์รถยนต์ที่ทำให้ผู้ขับขับรถง่ายขึ้น ถ้าขับรถบนถนนทางหลวงในเมือง เพียงใช้ตำแหน่ง D ก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่ขับรถเกียร์ออโต้ขึ้นเขาไม่ใช่แบบนั้นเลยนะครับ

  1. ขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์ออโต้

    ดูความชันของเส้นทางด้วยว่าชันมากหรือชันน้อย หากขับเกียร์ D แล้วเครื่องยนต์เร่งไม่ขึ้น ให้เปลี่ยนมาใช้เกียร์ D1-D2 เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปได้ และหาความเร็วที่เหมาะสมเพื่อควบคุมรถ หลังจากนั้นค่อยกลับมาใช้เกียร์​ D ถ้าเป็นทางราบปกติ หากขับเกียร์​ D ตลอดระยะทางก็ทำได้ครับ แต่จะทำให้เกียร์ร้อนได้ การใช้เกียร์ต่ำเลยทำให้รถวิ่งได้อย่างต่อเนื่อง
  2. ขับรถลงเขาด้วยเกียร์ออโต้

    เช่นเดียวกับวิธีขับรถขึ้นเขาด้วยเกียร์กระปุกเลยครับคือ ห้ามใส่เกียร์ว่าง หรือ N เพราะจะทำให้รถไหลแล้วเสียการควบคุม ทางที่ดีควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ D1-D2 เพื่อรักษาความเร็วของรถให้เสถียร รถจะวิ่งหน่วง ๆ และช้าลง ทำให้คุณขับรถลงเขาอย่างปลอดภัย แล้วที่สำคัญไม่เหยียบคันเร่ง และไม่เหยียบเบรคยาว ๆ

  1. วิธีขับรถขึ้นเขาต้องใช้เกียร์ต่ำ

    ต้องบอกก่อนครับว่า ผู้ขับรถมือใหม่ที่ไม่เคยขับรถขึ้นดอยเลยอาจคาดคะเนไม่ถูกว่าทางขึ้นเขาจะมีความชันมากแค่ไหน ดังนั้น ให้รู้เอาไว้เลยครับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่ขับรถขึ้นเขาแล้วความเร็วรถถูกลดลง ควรเปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำ คือ เกียร์ 1 หรือ เกียร์​ 2 เพราะถ้าใช้เกียร์สูงมากกว่านี้ เครื่องยนต์จะไม่ไม่มีพลังมากพอในการฉุดให้รถขึ้นเขาได้
  2. ขับรถขึ้นเขาแล้วต้องหยุดระหว่างทาง

    ในขณะที่ขับรถขึ้นดอย แล้วจำเป็นต้องหยุดรถ หากจะเริ่มเดินทางต่ออีกครั้ง ให้สตาร์ทรถแล้วเข้าเกียร์​ 1 พร้อมกับใช้ปลดเบรคมือควบคู่กัน เพราะช่วยให้รถไม่ไหลเวลาที่คุณถอนเท้าออกจากคลัตช์นั่นเอง
  3. ขับรถลงเขาต้องใช้เกียร์อะไร

    ขับรถลงเขาต้องใช้เกียร์อะไร คำตอบคือ เกียร์​ 1 หรือ เกียร์ 2 เช่นเดียวกับขับรถขึ้นเขาเลยครับ จริง ๆ จะปล่อยให้ไหลไปก็ได้ด้วยเกียร์ว่าง เพราะเป็นทางลาดลงเหมือนสไลด์เดอร์ แต่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอครับ ใครเลยจะรู้ว่าจะมีสัตว์ป่าออกมาตอนไหน จะได้สามารถควบคุมเบรคได้ทัน ไม่ให้รถเสียการทรงตัวครับ

4 เทคนิค การขับเกียร์กระปุกและเกียร์ออโต้ขึ้นเขาที่เหมือนกัน

เพื่อให้คุณสามารถขับรถได้ทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นรถเกียร์กระปุกหรือรถเกียร์ออโต้ในการขึ้นเขาหรือทางลาดชันได้อย่างมืออาชีพ เราจึงได้สรุปเทคนิคการขับที่เหมือนกันสามารถใช้ขับขึ้นลงเขาได้ทั้ง 2 เกียร์ ดังนี้

  1. ความเร็วในการขับรถขึ้นเขา

    ด้วยความที่การขับรถขึ้นดอย หรือขับรถขึ้นเขาเป็นเส้นทางที่ชันมาก ทำให้ต้องรักษาความเร็วอยู่ที่ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะถ้าขับไวมาก ๆ จะทำให้คุณสูญเสียการบังคับรถ เหยียบเบรครถยนต์ได้ยาก และก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชน หรือขับรถตกเขาได้
  2. ความเร็วในการขับรถลงเขา

    ก่อนอื่นต้องหมั่นเหยียบเบรครถยนต์เป็นระยะ เพราะถ้าเหยียบค้างนาน ๆ จะทำให้เกิดเบรคไหม้ หรือเบรกแตกได้ครับ และความเร็วควรรักษาระดับให้คงที่ 30-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  3. ความเร็วที่ไม่ให้ขับรถหลุดโค้ง

    ขับรถบนถนนทางหลวงเวลาเข้าโค้งก็ว่าอันตรายแล้ว แต่ขับรถขึ้นลงเขาและต้องเข้าโค้ง คงทวีคูณความน่ากลัวสำหรับมือใหม่มาก ๆ เพราะถ้าหลุดโค้งขึ้นมาจะทำให้ร่างกายและทรัพย์สินเสียหาย ดังนั้น ควรลดความเร็วให้อยู่ที่ 40-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ
  4. ปล่อยเกียร์ว่างทำให้รถไหล

    ปกติแล้วเรามักจะใช้เกียร์ว่างไว้เวลาจอดรถซ้อนคันอื่นในลานจอดรถ เพื่อให้ใครก็ตามสามารถเข็นรถไปมาได้ แต่ในกรณีนี้ที่ขับรถลงเขา ไม่ควรใช้เกียร์ว่าง เพราะทางลงเขาเป็นทางลาดเหมือนสไลเดอร์ ทำให้รถไหลด้วยความเร็วสูง จึงควบคุมหรือใช้เบรกได้อยาก ซึ่งก่อให้เกิดอุบัติเหตุรถชนได้

ไม่อยากเบรคแตกตอนลงเขา เงินติดล้อสรุปให้!

ย้ำอีกครั้งว่า ห้ามเหยียบเบรคค้างไว้นาน ๆ เพราะจะทำให้ผ้าเบรคไหม้หรือเบรคแตกได้ ให้ค่อย ๆ แตะเบรคพร้อมใช้เกียร์​ 1 หรือ เกียร์ 2 สำหรับเกียร์กระปุก และใช้เกียร์ D1-D2 สำหรับเกียร์ออโต้ในการขับรถลงเขา และอย่าลืมสังเกตการณ์ใช้งานของเบรคว่าต้องเปลี่ยนผ้าเบรครถแล้วหรือไม่ เพื่อให้การเดินทางขึ้นเขา-ลงเขาหรือทางลาดชันปลอดภัยมากที่สุด

ขับรถขึ้นเขา-ลงเขาก็ไม่หวั่น เพราะมีประกันรถยนต์

การเช็ครถก่อนออกเดินทางไกล หรือออก Road Trip ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการท่องเที่ยวไปกับเพื่อนหรือครอบครัวได้อย่างแน่นอน แต่หลายคนอาจหมดสนุกหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นระหว่างทาง ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่จะช่วยทำให้ปัญหาเบาลงและความหงุดหงิดหายไปได้ก็คือ การทำประกันรถยนต์ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถชั้น 1 ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+

เพราะประกันรถยนต์จะทำหน้าที่คุ้มครองความเสี่ยงให้กับคุณเมื่อเกิดอุบัติเหตุรถชน ไม่ว่าจะรถชนกันเอง รถชนในซอย หรือขับรถขึ้นเขาแล้วรถชน ต่อให้เป็นมืออาชีพที่ขับรถแบบเก่งกาจ หรือมือใหม่หัดขับรถก็ต้องพึ่งพาประกันรถยนต์ทั้งสิ้น

ซึ่งประกันรถยนต์​ เงินติดล้อ จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการขับรถของคุณ หากคุณอยากหาประกันรถยนต์ใหม่ แล้วไม่รู้จะซื้อประกันรถยนต์ที่ไหนดี ต้องเงินติดล้อสิครับ เพราะมีให้เลือกถึง 16 บริษัทประกันรถยนต์ รวมไปถึงการผ่อนจ่าย 0% นาน 6 เดือน แล้วที่สำคัญสามารถขอเคลมได้ในขณะที่ผ่อนจ่ายอีกด้วย

สรุป ขับรถขึ้นเขา-ลงเขา ต้องใช้เกียร์อะไรบ้าง?

เพื่อให้คุณถึงจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย หัวใจสำคัญของการขับรถขึ้นเขา-ลงเขา คือ การควบคุมความเร็วรถกับเกียร์ให้ทำงานสัมพันธ์กัน เพื่อให้รถสามารถวิ่งต่อไปได้เรื่อย ๆ เครื่องยนต์ทำงานได้ตามปกติ ผ้าเบรคไม่ไหม้จนทำให้เบรคแตก ซึ่งเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุที่เรามักได้ยินกันบ่อย ๆ แต่อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้เกียร์จะขึ้นอยู่กับความชันของเนินเขาและประเภทของรถที่ขับด้วยเช่นกัน และที่สำคัญ ควรเช็คสภาพรถยนต์ก่อนออกเดินทางเสมอ และทำประกันรถยนต์เพิ่มความสบายใจในการเดินทางได้มากยิ่งขึ้น

กระทู้ที่เกี่ยวข้อง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้