ฟลูออไรด์คือแร่ธาตุในธรรมชาติ สามารถพบได้ในแหล่งน้ำทุกแห่ง รวมทั้งในมหาสมุทร ผลการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าฟลูออไรด์ไม่เพียงลดฟันผุในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ยังช่วยซ่อมแซมฟันผุระยะแรก หรือแม้แต่ฟันผุที่ยังมองไม่เห็น ฟลูออไรด์เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันฟันผุได้ดีที่สุดและช่วยให้ฟันทุกซี่แข็งแรง
สารฟลูออไรด์ เป็นสารที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและไม่มีรส จึงทำให้ผู้บริโภคไม่ทราบว่าในน้ำนั้นมีฟลูออไรด์หรือไม่ ปริมาณมากน้อยเพียงไร จนกว่าจะได้รับการตรวจวิเคราะห์ทางเคมี ซึ่งตามมาตรฐานอุตสาหกรรมน้ำสำหรับบริโภค (มอก.257 เล่ม 1-2521) ได้กำหนดให้มีปริมาณฟลูออไรด์สูงสุดได้ไม่เกิน 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสมที่สุด ยิ่งหากได้รับในปริมาณเข้มข้นและนานแล้วล่ะก็...จะเกิดเป็นพิษแก่ร่างกาย โดยสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบด้วยกัน คือ
แบบที่หนึ่ง การเกิดพิษแบบเฉียบพลัน เกิดจากการรับประทานฟลูออไรด์ในปริมาณมากและ ในครั้งเดียวอาจด้วยการตั้งใจ ความเข้าใจผิด หรือด้วยการพลั้งเผลอ นอกจากนั้นอาจเกิดกับบุคคลที่ใช้ยาฆ่าแมลงบางชนิดซึ่งมีฟลูออไรด์ผสมอยู่มาก และใช้ไม่ถูกวิธี ปกติจะพบผู้ป่วยประเภทนี้ได้น้อย อาการพิษที่เกิดขึ้นเริ่มจากอาการน้ำลายไหล ทำให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหาร มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้นควรให้ผู้ป่วยกินนมหรือไข่จะช่วยทุเลาอาการและรีบนำส่งโรงพยาบาลเพื่อล้างท้อง ถ้าร่างกายได้รับฟลูออไรด์มากขึ้นอาจทำให้กล้ามเนื้อไม่มีแรง เกิดอาการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ ชัก แรงดันเลือดต่ำ หัวใจล้มเหลว และอาจเกิดไตวายและตายใน 2-4 ชั่วโมง ขนาดที่กินแล้วทำให้ตายประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม
แบบที่สอง การเกิดพิษแบบเรื้อรัง เกิดจากการกินฟลูออไรด์ในปริมาณมากติดต่อกันนานๆ หรืออยู่ในชุมชนที่มีฟลูออไรด์สูงตามธรรมชาติ ได้แก่
- ฟลูออไรด์ความเข้มข้น 1 ส่วนในน้ำล้านส่วน ส่งผลทำให้เกิดจุดด่างขาวบนฟันในเด็กบางราย
- ฟลูออไรด์ความเข้มข้น 1.4-2 ส่วนในน้ำล้านส่วน ส่งผลทำให้เกิดรอยด่างสีเหลืองถึงสีน้ำตาลที่เคลือบฟันในกลุ่มคนจำนวนน้อย
- ฟลูออไรด์ความเข้มข้นมากกว่า 2 ส่วนในน้ำล้านส่วน ส่งผลทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลในฟันในเกือบทุกราย
- ฟลูออไรด์ความเข้มข้นมากกว่า 2.5 ส่วนในน้ำล้านส่วน ส่งผลทำให้เกิดเคลือบฟันเป็นสีเข้มและไม่เรียบ
- ฟลูออไรด์ความเข้มข้นตั้งแต่ 10 ส่วนในน้ำล้านส่วน ส่งผลทำให้เกิดผลต่อกระดูกและข้อ กระดูกส่วนปลายจะหนาและหยาบ กระดูกคดงอ
ช่วงระยะสุดท้ายทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร มีการเปลี่ยนแปลงที่กระดูกสันหลังและกลายเป็นคนพิการได้ มักพบในผู้ป่วยที่ได้รับฟลูออไรด์มากเป็นระยะเวลานาน
ฟลูออไรด์อาจทำให้เกิดภาวะ โรคฟันตกกระ หากได้รับในปริมาณที่มากเกินไปและวัยที่มีความเสี่ยงค่อนข้างสูงนั่นคือ วัยเด็ก โรคฟันตกกระสามารถเกิดขึ้นได้ในช่วงเด็กอายุตั้งแต่ 12 เดือนจนกระทั่ง 32 เดือน
จากการสร้างเกราะป้องกันเคลือบฟันไปจนถึงการรักษาฟันผุในระยะเริ่มต้น ฟลูออไรด์สามารถช่วยทำให้เด็กและผู้ใหญ่มีสุขภาพช่องปากที่แข็งแรงได้ สนใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากของคอลเกตที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์? ค้นหาข้อเท็จจริงของคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับคอลเกตและฟลูออไรด์ได้ด้านล่างนี้
คำถามที่พบบ่อย
ยาสีฟันคอลเกตมีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสมหรือไม่?
ยาสีฟันคอลเกตมีฟลูออไรด์เป็นส่วนผสม จากการอ้างอิงของสมาคมทันตแพทย์อเมริกัน (ADA) ฟลูออไรด์ช่วยปกป้องให้เคลือบฟันแข็งแรงและช่วยป้องกันฟันผุโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 25% ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ในขณะที่การแปรงฟันและการขัดฟันอย่างเหมาะสมนั้นเป็นกิจวัตรสำคัญในการช่วยกำจัดคราบแบคทีเรีย ยาสีฟันฟลูออไรด์จะทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพในช่องปากของคุณได้
น้ำยาบ้วนปากของคอลเกตมีส่วนผสมของฟลูออไรด์หรือไม่?
ใช่ น้ำยาบ้วนปากคอลเกตบางประเภทนั้นมีส่วนผสมของฟลูออไรด์ น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์มีคุณสมบัติช่วยป้องกันฟันผุทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ น้ำยาบ้วนปากฟลูออไรด์ช่วยทำให้เคลือบฟันแข็งแรงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในบริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงได้
ปริมาณฟลูออไรด์ในผลิตภัณฑ์คอลเกต?
ปริมาณและส่วนประกอบของฟลูออไรด์ในผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปากของคอลเกตนั้นถือว่าเหมาะสมและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคุณ อย่างไรก็ตาม ปริมาณและประเภทของฟลูออไรด์ที่มีในยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากคอลเกตนั้นอาจแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่หน่วยความเข้มข้นฟลูออไรด์ 1100 พีพีเอ็ม ( หนึ่งส่วนในล้านส่วน ) ในยาสีฟัน และความเข้มข้น 225 พีพีเอ็ม ( หนึ่งส่วนในล้านส่วน ) ในน้ำยาบ้วนปาก ควรปรึกษาทันตแพทย์หากคุณมีข้อสงสัยว่าอาจไม่ได้รับปริมาณฟลูออไรด์ที่เหมาะสมหรือเพียงพอ
ทำไมยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากคอลเกตบางประเภทถึงต้องให้แพทย์สั่งจ่าย?
การสั่งจ่ายยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปากโดยทันตแพทย์ เกิดขึ้นในกรณีที่คุณได้รับการวินิจฉัยแล้วว่าจำเป็นต้อได้รับปริมาณฟลูออไรด์ที่มากกว่าที่ได้จากผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากทั่วไป ขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุต่าง ๆ เช่น การครอบฟัน ทำสะพานฟัน การจัดฟันและปัญหาสุขภาพช่องปากอื่นๆ อะไรคือความแตกต่างระหว่างยาสีฟันสั่งจ่ายโดยผู้เชี่ยวชาญและผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากที่หาซื้อได้ทั่วไป? ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดขององค์การอาหารและยาในแต่ละประเทศระบุว่าความเข้มข้นระดับไหนที่จะถูกจัดให้สามารถจำหน่ายได้ในร้านค้าทั่วไป หรือ ต้องสั่งจ่ายโดยทันตแพทย์เท่านั้น ควรใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์หรือผลิตภัณฑ์เสริมฟลูออไรด์ต่างตามคำแนะนำของทันตแพทย์เท่านั้น
ฟลูออไรด์ มีผลเสียอย่างไร
การเกิดพิษชนิดเรื้อรัง เกิดจากการได้รับฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินกว่าปริมาณที่ควรได้รับเป็นเวลานาน อาการที่แสดงออก ได้แก่ ฟันตกกระ ปวดข้อมือ ข้อเท้า ถ้าเป็นมากอาจลุกลามไปยังกระดูกสันหลังจนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ ทำให้หายใจลำบากและเสียชีวิตในที่สุด มักพบในผู้ที่ดื่มน้ำบาดาลในภาคเหนือ
Sodium Fluoride อันตรายไหม
ส่วนผสมในยาสีฟันที่อาจเป็นอันตรายมีดังต่อไปนี้ 1. โซเดียมฟลูโอไรด์ (sodium fluoride) เป็นส่วนผสมหลักที่ใช้ป้องกันฟันผุ โดยสารนี้เป็นอันตรายกับคน หนู และแมลงสาบมากจนถึงตายได้ แต่ปริมาณที่ใช้ในยาสีฟันมีไม่มากพอที่จะเป็นอันตรายกับคนและแม้แต่กับเด็กเล็ก ๆ
ควรนำ Silver Diamine Fluoride มาใช้ในกรณีใด
ซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์(Silver diamine fluoride, SDF) ซิลเวอร์ไดอะมีนฟลูออไรด์ เป็นสารละลายที่ ใช้ทาบนผิวฟันหรือฟันผุ เพื่อหวังผลในการยับยั้งและ ป้องกันฟันผุรวมทั้งลด การเสียวฟัน (Dentin Hypersensitivity) สูตรทางเคมีคือ Ag(NH3)2F.
การใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์มีประโยชน์อย่างไร
ฟลูออไรด์เป็นสารป้องกันฟันผุที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถเรียกได้ว่าเหมาะสมและปลอดภัยมากที่สุดที่จะใช้ในการป้องกันฟันผุ ดังนั้น หากไม่มีอาการแพ้ฟลูออไรด์ก็ควรเลือกใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์เพื่อปกป้องสุขภาพฟันให้แข็งแรงห่างไกลจากฟันผุ ทั้งนี้การเลือกใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ก็ควรตรวจดูส่วนผสมให้มีปริมาณฟลูออไรด์ตาม ...