ระบบย่อยอาหาร
คาํ นํา
รายงานเลม นี้เป็นสว นหน่ึงของการศึกษาเกี่ยวกบั ระบบยอย อาหารในรายวิชา สขุ ศกึ ษา เพ่อื ใหผ ูทสี่ นใจในเร่อื งนี้ไดศกึ ษา คน ควาเพ่ือไปตอ ยอดในการศกึ ษา และสมารถนําไปใชในชวี ติ
ประจําวันได
ในการนําเสนอ E-Book เลมนี้เพ่ือใหไดศ ึกษาคนควาไดและมี ความนาสนใจ
ผจู้ ดั ทํา
นาย คมชาญ จนั ทรศ รี เลขท่ี 2 ม.5/11 นาย ณัฐพงษ รัตนบรรเลง เลขท่ี 9 ม.5/11
ระบบยอ่ ยอาหาร
การยอ ยอาหาร (Digestion) หมายถงึ การแปรสภาพของสารอาหารที่มีโมเลกลุ
ใหญและละลายน้ําไมไ ด ใหเ ป็นสารอาหารทม่ี ีโมเลกลุ เล็กลงจนสามารถละลายน้ํา
และดดู ซึมเขา สูกระแสเลือดนําไปใชป ระโยชนได โดยอาศัยกระบวนการทางเชิงกล
และกระบวนการทางเคมี ระบบยอ ยอาหารประกอบดว ยอวยั วะหลาย ๆ
อวัยวะ ไดแ ก ปาก หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ตับ ตบั ออน ลาํ ไสเ ลก็ ลาํ ไสใหญ
ซ่ึงอวยั วะบางอวัยวะไมม ีการยอยแตเก่ยี วขอ งกับทางเดนิ อาหาร การยอย
อาหารเป็นกระบวนการท่ีทาํ ใหอ าหารท่มี โี มเลกุลใหญ มีขนาดเลก็ ลงจนสามารถ
ซมึ เขา สูเซลลไ ด
ขันตอนการยอ่ ยอาหาร
ขัน้ ตอนการยอยอาหาร การยอยอาหารมี 2 ขนั้ ตอน
1.การยอยเชิงกล (Mechanical digestion) เป็นกระบวนการทาํ ใหอ าหาร มีขนาดเล็กลง เพ่อื สะดวกตอ การเคล่ือนทแี่ ละการเกิดปฏกิ ิรยิ าเคมตี อไป โดยการบดเคยี้ ว รวมทัง้ การบบี ตัวของทางเดินอาหาร ยังไมสามารถทาํ ให อาหารมีขนาดเลก็ สดุ จงึ ไมส ามารถดูดซึมเขา เซลลได
2.การยอยทางเคมี (Chemical digestion) เป็นการยอยอาหารใหม ีขนาด เล็กทส่ี ุด โดยการเกดิ ปฏกิ ริ ยิ าเคมีระหวา ง อาหาร กบั น้ํา โดยตรง และ จะใชเ อนไซมหรอื น้ํายอ ยเขาเรงปฏกิ ิริยา
อวยั วะทีชว่ ยในการย่อยอาหาร
1.ตอมน้ําลาย (Salivary Gland) ผลิตน้ํายอ ยอะไมเลส (Amylase) หรือไทยาลนิ (Ptyalin) ยอยแป งใหเป็นน้ําตาลมอลโทส 2.กระเพาะอาหาร (Stomach) ผลติ น้ํายอยเพปซิน ยอ ยโปรตีนใหเ ป็นโปรตีนสายสัน้ (เพปไทด) และ น้ํายอ ยเรนนิน ยอ ยโปรตนี ในนมใหเป็นโปรตนี เป็นลม่ิ ๆ 3.ลําไสเลก็ (Small Intestine) ผลิต น้ํายอ ยมอลเทส ยอ ยน้ําตาลมอลโทสใหกลายเป็นน้ําตาล กลูโคส น้ํายอ ยซเู ครส ยอ ยน้ําตาลซูโครสใหเ ป็นน้ําตาลกลโู คสและน้ําตาลฟรกั โทส น้ํายอยแลก เทส ยอ ยน้ําตาลแลกโทสใหเป็นน้ําตาลกลโู คสและน้ําตาลกาแลกโตส น้ํายอยอะมิโนเพปทิเดส ยอ ยโปรตนี สายสัน้ ใหเ ป็นกรดอะมิโน 4.ตับ (Liver) ผลติ น้ําดี ยอ ยไขมันใหเ ป็นไขมนั แตกตัวเป็นเมด็ เลก็ ๆ 5.ตับออ น (Pancreas) ผลติ น้ํายอยลิเพส ยอ ยไขมันแตกตัวใหเ ป็นกรดไขมนั และกลีเซอรอล น้ํายอ ยทรปิ ซนิ ยอยโปรตนี ใหเป็นพอลิเพปไทดและไดเพปไทด น้ํายอ ยคารบ อกซิเพปพิเดส ยอ ย เพปไทดใหเป็ฯกรดอะมโิ น น้ํายอ ยอะไมเลส ยอยเชน เดียวกบั น้ํายอ ยอะไมเลสในปาก
ตอ่ มนาํ ลาย
ตอ มน้ําลาย (salivary gland) เป็นอวยั วะทเ่ี กี่ยวขอ งกับระบบทางเดนิ อาหารที่ ทาํ หน าที่สราง และหลัง่ น้ําลายเขาสูภายในชอ งปาก โดยมีระบบประสาท อตั โนมัตคิ วบคมุ น้ําลายประกอบดวยน้ํา โปรตนี ไกลโคโปรตนี และแรธ าตุ ตา งๆทเ่ี ป็นอิเล็กโทรไลท
ชนิดตอ มน้ําลาย 1. ตอมน้ําลายหลัก (major gland) ตอมน้ําลายหลกั พบไดบ ริเวณดานนอกของชอ งปาก เป็นตอมท่ที าํ หน าทผี่ ลิต น้ํ าลายออกมามากท่ีสดุ 2. ตอ มน้ําลายรอง (minor gland) ตอมน้ําลายรอง เป็นตอ มทผ่ี ลติ และหลงั่ น้ําลายไดน อย โดยเป็นการหลงั่ น้ําลาย เฉพาะขณะพกั
การย่อยในปาก
เริ่มตน จากการเคยี้ วอาหารโดยการทาํ งานรว มกนั ของ ฟัน ลิน้ และ แกม ซ่ึงถือเป็นการยอยเชิงกล ทาํ ใหอ าหารกลายเป็นชิน้ เล็ก ๆ มี พ้ืนท่ผี ิวสมั ผสั กบั เอนไซมไดมากข้นึ ในขณะเดยี วกนั ตอมน้ําลายก็ จะหลงั่ น้ําลายออกมาชวยคลุกเคลาใหอ าหารเป็นกอนล่นื สะดวกตอ การกลืน เอนไซมในน้ําลาย คอื ไทยาลนิ หรอื อะไมเลสจะยอยแป ง ในระยะเวลาสนั้ ๆ ในขณะทอ่ี ยใู นชองปากใหก ลายเป็นเดกซทริน (Dextrin) ซ่ึงเป็นคารโบไฮเดรตทม่ี ีโมเลกลุ เล็กกวา แป ง แตใ หญก วา น้ําตาล และถกู ยอ ยตอไปจนเป็นน้ําตาลโมเลกุลคู คือ มอลโตส
กระเพาะอาหาร
มีหน าท่ี คอื การยอยสลายสารอาหารโมเลกลุ ใหญใหเ ลก็ ลงโดยอาศยั การ ทํางานของกรดเกลอื (hydrochloric acid) เพ่อื ใหงา ยตอ การดูดซมึ ท่ี ลําไสเ ลก็ นอกจากนี้กระเพาะอาหารยังมหี น าท่ีผลติ เอนไซมท ่ใี ชในการยอ ย โปรตนี คอื เอนไซมเพปซนิ โดยในชวงแรก เอนไซมน ี้จะถูกผลิตออกมาในรปู ของเพปซิโนเจน (pepsinogen) ทยี่ งั ไมส ามารถทาํ งานได แตจะถกู เปลย่ี น เป็นเพปซินเม่ืออยูในสภาวะทเ่ี ป็นกรดภายในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้แลว กระเพาะอาหารยงั ทําหน าทีใ่ นการดูดซมึ น้ํา ไอออนตาง ๆ รวมทงั้ แอลกอฮอล แอสไพริน และกาเฟอนี อีกดว ย อยา งไรกต็ าม หน าทขี่ องกระเพาะอาหารที่ จาํ เป็นตอการดาํ รงชีวิตคอื การผลติ สารท่เี รยี กวา อินทรนิ ซิค แฟคเตอร (intrinsic factor) ซ่งึ เป็นสารทจี่ ําเป็นในการดูดซึมวิตามิน บี12
ลาํ ไส้เล็ก
มหี น าที ยอยอาหารประเภทคารโบไฮเดรต โปรตีน และไข มัน โดยวลิ ไล (มหี น าที่เพมิ่ พ้นื ท่ใี นการยอ ยอาหารใน ลําไสเ ล็ก) เอนไซมย อ ยในลําไสเล็กนัน้ มาจากลาํ ไสเล็กหลัง่ เอง สวนหน่ึงและตบั ออนหลัง่ สว นหน่ึง อาหารที่ยอยแลวบางสว น และทย่ี งั ไมถ ูกยอ ยจะเคล่อื นที่ผานกลา มเน้ือหูรดู ระหวาง กระเพาะอาหารกบั ลําไสเล็ก
ตบั
มหี น าที่ ตบั สรา งน้ําดวี ันละประมาณ 500 – 1000 CCเพ่ือยอยอาหารไข มนั สรา งโปรตีนอกี หลายชนิดท่สี ําคญั คอื Globulin Albumin และโปรตนี ทีช่ วยในการแข็งตวั ของเลือดกําจัดสารพิษตางๆ ไดแก ยาบางชนิดและ แบคทีเรียบางชนิดสรางเมด็ เลอื ดแดงตัง้ แตอ ายุครรภได 2 เดอื นหน าท่ีใน การรีไซเคิลสารจากเมด็ เลอื ดแดงทถ่ี ูกทําลายท่ีมา มเป็นที่เกบ็ วิตามนิ ตา งๆ เชน วติ ามนิ B12, วติ ามิน A, D, E และ Kเป็นแหลง เก็บพลงั งานให รา งกายในรูปของแป ง (Glycogen) และสามารถนํา Glycogen มาสลาย เป็นพลงั งานใหแ กร างกายได
ตบั ออ่ น
มหี น าที่ ชว ยยอยอาหารและชวยผลิตฮอรโมนตับออนอยใู นตําแหนงชองทอง ดา นหลงั กระเพาะอาหาร อยใู กลกบั ตําแหนงของลําใส มสี ีเหลอื งออ น ตับออนมี ความยาวราวๆ 6 นิ้ว แบงออกไดเ ป็นสวนหวั (Head) สวนกลาง (Body) และสวน หาง (Tail)ตบั ออ นทาํ หน าที่หลกั 2 ประการคอื 1. ชว ยยอยอาหาร ตับออนชวยยอ ยอาหารโดยชว ยสรางเอนไซมแ ลว สง ไปชวย ยอ ยอาหารท่ีลําไส เลก็ โดยมเี อนไซมไลเปสชว ยยอ ยไขมัน เอนไซมอ ะไมเลสชวย ยอ ยแป ง เอนไซมท ริบซนิ ชว ยยอยโปรตนี ใหเป็นกรดอะมิโน 2. เป็นตอมไรท อ ชว ยผลิตฮอรโ มนตบั ออ นทาํ หน าทผี่ ลิตฮอรโ มนหลายชนิด โดย ฮอรโมนท่ีสําคญั ท่สี ุดคอื ฮอรโ มนอินซูลนิ (Insulin)ฮอรโมนอินซลู ินทาํ หน าที่ ควบคมุ ระดบั น้ําตาลในเลือดใหสมดุล กลา วคือจะเปลี่ยนน้ําตาลท่ีรา งกายไดรบั ให เป็นสารจาํ พวกกลยั โคเจน (glyeogen) เพ่ือเก็บไวใ นตับและกลา มเน้ือเพ่อื เป็น พลังงานสาํ รองในรางกาย นอกจากนี้ฮอรโมนอินซลู ินยังชว ยกระตุน ใหเ ซลลตางๆ เผาผลาญน้ําตาลใหไ ด พลงั งานท่รี า งกายเอาไปใช
จดั ทําโดย
นาย คมชาญ จนั ทรศรี เลขท่ี 2 ม.5/11 นาย ณัฐพงษ รัตนบรรเลง เลขที่ 9 ม.5/11