ระยะทางเดินราว 17 กิโลเมตร เข้าใจว่าในครั้งโบราณ ชาวบ้านในหมู่บ้าน เหล่านี้และหมู่บ้านที่ห่างไกลอื่น ๆ คงจะมีความสัมพันธ์ โดยเป็นเครือญาติกันแต่ดั้งเดิมบ้างโดยเกี่ยวดองกัน ในทาง แต่งงานกัน และคงจะได้ไปมาหาสู่ติดต่อกันอยู่ในเมืองเกี่ยวด้วยอาชีพและกิจทุกข์สุขของกันและกัน แม้บางหมู่บ้านจะ อยู่ห่างไกลกันก็ย่อมจะรู้จักมักคุ้นกัน เพราะในสมัยที่ยานพาหนะเช่นทางรถไฟยังไม่มีนั้น การเดินทางจากหมู่บ้านที่มีระยะทาง ห่างกันเพียงชั่ววันครึ่งวัน ย่อมเห็นกันเป็นของธรรมดาไม่รู้สึกเห็นเป็น ห่างไกลอะไรเลย ครั้นเมื่อไทยกับพม่าทำสงครามกัน คราวเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งหลัง ท้องที่ทางภาคตะวัน ตกและภาคกลางของประเทศไทยได้กลายเป็นยุทธภูมิบ้าง เป็นที่พักพลและ เป็นทางกองทัพเดินผ่านบ้าง หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ในท้องที่เหล่านี้จึงตกอยู่ในแดนอันตรายที่อาจถูกข้าศึกประทุษร้ายได้ง่าย ชาวบ้าน ในท้องที่ ดังกล่าวนี้ต่างก็พากันรวบรวมทรัพย์สมบัติพาครอบครัวอพยพหนียุทธภัย ทิ้งบ้านเรือนหนึไปหลบซ่อน เอาตัวรอดบ้าง ถูกข้าศึกกวาดต้อนไปกับกองทัพบ้างด้วยเหตุนี้ ภายหลังเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว จึงปรากฎ บ้านร้างขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกัน หลายหมู่บ้าน เช่น บ้านม่วงน้อย บ้านสระพังแลง และบ้านหนองโพ ที่กล่าวแล้ว ส่วนบ้านบุคาโดยเหตุที่ตั้งอยู่ในดงพระยาเย็นห่างไกล จากบริเวณที่ข้าศึกจะไปมาถึง จึงคงตั้งอยู่ ได้ต่อมา ไม่ถูกข้าศึกเบียดเบียนประทุษร้าย แต่มาถูกภัยธรรมชาติรบกวน จึงกลายเป็น บ้านร้างในภายหลัง
ตารางเปรียบเทียบประชากร ปี 2548 , ปี 2549 และปี 2550
รับเรื่องร้องเรียน
โทร. 081-6043619