บร ษ ท อ สานพ ฒนาอ ตสาหกรรมปาล ม

Praween Puyrod Download

  • Publications :0
  • Followers :0

ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มราชมงคล

ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มราชมงคล

Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!

Create your own flipbook

View Text Version Likes : 0 Category : All Report

  • Follow
  • Upload
  • 0
  • Embed
  • Share

ผู้เชี่ยวชาญ กลุ่มราชมงคล

(1) เปรียบเทยี บทางดา้ นสดมภ์ คา่ เฉล่ียเปอร์เซ็นต์ความงอกท่รี ะดบั ความชื้นในเมล็ดเช้ือพันธุ์ผักโขมเดียวกัน และอายุการเก็บรักษา 0

- 28 เดอื น ท่ตี ามดว้ ยอกั ษรเหมอื นกนั ไม่แตกต่างกนั ทางสถติ โิ ดยวิธี LSD Test ที่ความเชอ่ื ม่นั 95%

กำรทดลองท่ี 2 เทคนิคกำรเก็บรักษำเมล็ดพันธบุ์ วบหอมในสภำพเยอื กแข็งเพ่ือกำรอนุรักษ์และกำรใช้ประโยชน์ใน ธนำคำรเชื้อพันธุ์พืช

เม่ือลดความช้ืนของเมล็ดพันธ์ุบวบหอมยาว บวบหอมส้ัน และบวบหอมป่าให้มีระดับความช้ืนที่ 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ น้ัน เมล็ดพันธุ์บวบหอมยาวและบวบหอมสั้นท่ีมีระดับความชื้นของเมล็ดเริ่มต้น 8 และ 6 เปอร์เซ็นต์ เม่ือ เก็บรกั ษาในสภาพเยอื กแข็งเปน็ เวลา 0 7 และ 180 วนั พบวา่ ความงอกของเมล็ดพนั ธ์ุไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมล็ดพันธ์ุที่ มรี ะดับความชื้นของเมล็ด 4 เปอร์เซ็นต์ พบว่า ความงอกของเมล็ดพันธ์ุมีแนวโน้มลดลง ในขณะท่ีเมล็ดพันธุ์บวบหอม ป่าที่มีระดับความช้ืนของเมล็ดท่ี 8 และ 6 เปอร์เซ็นต์ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน ความงอกของเมล็ดพันธ์ุไม่เปลี่ยนแปลง แต่เมล็ดพันธ์ุท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดเริ่มต้นและ 4 เปอร์เซ็นต์ ความงอก ของเมล็ดพันธุ์มีแนวโน้มลดลง สาหรับความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ พบว่า เมล็ดพันธุ์บวบหอมยาว บวบหอมส้ัน และ บวบหอมป่าท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดที่ระดับเร่ิมต้น 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็น เวลา 0 7 และ 180 วัน พบว่าความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ลดลง จากการทดลอง พบว่า ระดับความช้ืนของเมล็ดท่ี เหมาะสมต่อการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุบวบหอมทั้ง 3 ตัวอย่าง ในสภาพเยือกแข็ง ได้แก่ ระดับความช้ืนในช่วง 6 - 8 เปอร์เซ็นต์ เน่ืองจากบวบหอมมีความแข็งแรงมากกว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีระดับความช้ืนเร่ิมต้น และ 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อนา

ข้อมลู การวจิ ัยและพัฒนาเทคนคิ การอนุรักษเ์ ชื้อพันธกุ รรมพืช

16

เมล็ดบวบหอมยาว บวบหอมสั้น และบวบหอมป่า ไปปลูกทดสอบในสภาพแปลงปลูก พบว่า บวบหอมยาว และบวบ หอมสั้นมีการเจริญเติบโตได้ดีทุกระยะ ตั้งแต่ ระยะต้นกล้า ระยะเจริญเติบโตด้านลาต้น ระยะออกดอก ระยะติดผล จนถึงระยะเกบ็ เกยี่ ว ลักษณะทางสัณฐานวิทยาเบื้องต้นสอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฏในคาบรรยายลักษณะพืช ในขณะ ท่ี บวบหอมป่า มีการเจริญเติบโตได้ดีในระยะต้นกล้า และระยะเจริญเติบโตด้านลาต้น แต่เมื่อเข้าสู่ระยะออกดอก จนถงึ ระยะติดผลและเก็บเก่ียว พบว่า มีการเจริญเตบิ โตท่ีล่าช้า ให้ผลผลติ น้อย และผลผลิตมคี ุณภาพต่า

ภาพท่ี 1: การเตรียมเพาะกล้าเมล็ดพันธุ์บวบหอม

ภาพที่ 2: การเตรยี มแปลงสาหรับปลูกขยายเมลด็ พนั ธ์บุ วบหอม การทดสอบความแข็งแรงโดยวิธีเร่งอายุ (Accelerated Aging Test –AA test) ของเมล็ดพันธุ์บวบหอมยาว บวบ หอมส้ัน และบวบหอมป่า ภายหลังการเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็ง เป็นระยะเวลา 0 7 และ 180 วัน เมื่อนามาทดสอบ ความงอกด้วยวิธี between paper ตากหลัก ISTA พบว่า เมล็ดพันธ์ุบวบหอมยาวที่มีระดับความชื้นของเมล็ดที่ระดับ เร่ิมต้น (control) เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกที่ 85.494 81.740 และ 79.998 ตามลาดับ เมล็ดพันธุ์บวบหอมยาวที่มีระดับความชื้นของเมล็ดท่ีระดับ 8% เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็ง เป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกที่ 84.994 83.246 และ 82.496 ตามลาดับ เมล็ดพันธ์ุบวบหอมยาวที่มี ระดับความชื้นของเมล็ดท่ีระดับ 6% เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี

ข้อมูลการวจิ ัยและพัฒนาเทคนิคการอนุรักษเ์ ชื้อพนั ธุกรรมพืช

17

85.492 82.739 และ 83.246 ตามลาดับ และเมล็ดพันธ์ุบวบหอมยาวท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดท่ี 4 เปอร์เซ็นต์ เม่ือเก็บ รกั ษาในสภาพเยือกแขง็ เป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มเี ปอรเ์ ซ็นตค์ วามงอกท่ี 79.496 74.998 และ 73.992 ตามลาดบั

เมล็ดพันธ์ุบวบหอมส้ันที่มีระดับความช้ืนของเมล็ดท่ีระดับเร่ิมต้น (control) เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็น เวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 80.496 74.743 และ 72.746 ตามลาดับ เมล็ดพันธุ์บวบหอมสั้นท่ีมีระดับ ความชนื้ ของเมล็ดที่ระดับ 8% เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 82.744 80.496 และ 72.746 ตามลาดับ เมล็ดพันธ์ุบวบหอมส้ันท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดท่ีระดับ 6% เมื่อเก็บรักษาในสภาพ เยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 81.496 79.743 และ 80.243 ตามลาดับ และเมล็ดพันธุ์บวบ หอมส้ันท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดท่ี 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มี เปอรเ์ ซ็นต์ความงอกที่ 80.496 75.496 และ 74.740 ตามลาดบั

เมล็ดพันธ์ุบวบหอมป่าท่ีมีระดับความชื้นของเมล็ดที่ระดับเริ่มต้น (control) เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็น เวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 70.242 64.491 และ 62.998 ตามลาดับ เมล็ดพันธุ์บวบหอมป่าท่ีมีระดับ ความชืน้ ของเมลด็ ทรี่ ะดับ 8% เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 72.496 69.496 และ 67.495 ตามลาดับ เมล็ดพันธุ์บวบหอมป่าที่มีระดับความชื้นของเมล็ดที่ระดับ 6% เมื่อเก็บรักษาในสภาพ เยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 70.496 66.742 และ 68.247 ตามลาดับ และเมล็ดพันธ์ุบวบ หอมป่าท่ีมีระดับความช้ืนของเมล็ดที่ 4 เปอร์เซ็นต์ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน มี เปอร์เซ็นต์ความงอกท่ี 65.246 59.992 และ 60.245 ตามลาดับ จากผลการทดลอง เม่ือทดสอบความแข็งแรงโดยวิธีเร่ง อายุ (Accelerated Aging Test –AA test) ของเมล็ดพันธ์ุบวบหอมยาว บวบหอมสั้น และบวบหอมป่า ภายหลังการ เก็บรักษาในสภาพเยือกแข็ง เป็นระยะเวลา 0 7 และ 180 วัน โดยนามาทดสอบความงอกด้วยวิธี between paper ตากหลัก ISTA พบว่า เมล็ดพันธุ์บวบหอมยาว เมล็ดพันธุ์บวบหอมส้ัน และเมล็ดพันธุ์บวบหอมป่าท่ีระดับความช้ืน เริ่มต้น (control) 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน พบว่าความ แขง็ แรงของเมลด็ พันธ์ุมแี นวโนม้ ลดลงทร่ี ะดบั ความเช่อื มั่น 95%

การปลูกทดสอบเพอ่ื ศกึ ษาการเจริญเติบโตและการรอดชีวิตของเมล็ดพันธ์ุบวบหอมท่ีเก็บรักษาในสภาพเยือก แข็ง เพ่ือศึกษาเจริญเติบโตและการรอดชีวิตของเมล็ดพันธ์ุบวบหอมท่ีเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็ง โดยศึกษาลักษณะ ทางสัณฐานวทิ ยาเบื้องต้น

ข้อมลู การวิจยั และพฒั นาเทคนิคการอนรุ ักษ์เช้ือพันธกุ รรมพชื

18

กำรทดลองที่ 3 ควำมมีชีวิตและกำรเปลี่ยนแปลงปริมำณน้ำมันของเมล็ดพันธ์ุงำภำยหลังกำรเก็บรักษำในสภำพ เยอื กแข็ง

เมล็ดพันธุ์งาจานวน 6 พันธ์ุ ได้แก่ งาขาวพันธ์ุร้อยเอ็ด งาขาวพันธ์ุมหาสารคาม 60 และงาขาวพันธุ์ อุบลราชธานี 2 งาดาพันธ์ุอุบลราชธานี 3 งาแดงอุบลราชธานี 1 และงาแดงอุบลราชธานี 2 มีระดับความชื้นในเมล็ด เร่ิมต้น 9.2, 7.9, 8.0, 8.8, 7.5 และ 7.7 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ และเมื่อลดความช้ืนโดยใช้ห้องลดความช้ืนของ ธนาคารเชื้อพันธ์ุพืช กรมวิชาการเกษตร ท่ีอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 15 เปอร์เซ็นต์ ได้ระดับ ความชน้ื ในเมล็ดในระดับท่ตี อ้ งการ

กำรทดสอบกำรเปลี่ยนแปลงปริมำณน้ำมันในเมลด็ พันธ์ุ จากการศึกษาผลการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์งาจานวน 6 พันธุ์ เมื่อผ่านการลดความช้ืนในเมล็ดพันธุ์จากความช้ินใน เมล็ดพันธ์ุเริ่มต้น 8 เปอร์เซ็นต์ เป็น 6, 4 และ 2 เปอร์เซ็นต์ และนาเข้าเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นระยะเวลา 1 เดือน และตรวจสอบปริมาณน้ามันในเมล็ดพบว่าปริมาณน้ามันในเมล็ดงาทุกสายพันธ์ุ และท่ีทุกระดับความช้ืนในเมล็ดพันธ์ุไม่ แตกตา่ งกันทางสถิติเมื่อเปรียบเทียบระหว่างปริมาณน้ามันงาก่อนและหลังการเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยงาขาวพันธ์ุร้อยเอ็ด 1 ที่ระดับ 8 เปอร์เซ็นต์ (ความช้ืนเร่ิมต้น), 6, 4 และ 2 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ามันในเมล็ด ก่อนการเก็บรักษา 37.91, 42.58, 42.78, และ 42.34 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 38.29, 45.89, 46.53 และ 46.33 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ งาขาวพันธุ์มหาสารคาม 60 มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 38.00, 41.44,39.86 และ 38.62 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพ เยือกแข็งเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 38.65, 42.30, 43.20 และ 43.20 ตามลาดับ งาขาวพันธุ์ อุบลราชธานี 2 มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 38.75, 41.96,40.80 และ 41.13 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือ เก็บรกั ษาในสภาพเยอื กแขง็ เป็นเวลา 1 เดอื น ยงั คงมีปรมิ าณน้ามันในเมล็ด 39.36, 43.52, 43.30 และ 43.58 ตามลาดับ งา ดาพันธ์ุ 3 มปี ริมาณนา้ มนั ในเมลด็ กอ่ นการเก็บรักษา 38.40, 40.94,41.31 และ 43.01 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษา ในสภาพเยอื กแข็งเป็นเวลา 1 เดอื น ยงั คงมปี ริมาณนา้ มนั ในเมล็ด 40.31, 43.49, 42.78 และ 43.79 ตามลาดับ งาแดงพันธุ์ อบุ ลราชธานี 1 มีปรมิ าณน้ามนั ในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 31.98, 44.06,44.44 และ 45.30 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เมื่อเก็บ รักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 44.46, 46.62, 43.77 และ 45.31 ตามลาดับ งา แดงพันธุอ์ บุ ลราชธานี 2 มปี รมิ าณนา้ มันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 40.84, 46.74,47.38 และ 46.82 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 42.39, 46.72, 46.29 และ 46.95 ตามลาดับส่วนการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้อง ผลการทดลองไม่พบความแตกต่างทางสถิติเช่นกันเม่ือเปรียบเทียบ ระหว่างก่อนและหลังการเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยงาขาวพันธุ์ร้อยเอ็ด 1 ท่ีระดับความช้ืนในเมล็ดพันธุ์ 8 เปอร์เซ็นต์ (ความช้ืนเริ่มต้น), 6, 4 และ 2 เปอร์เซ็นต์ มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 37.77, 42.85, 44.22, และ 42.84 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เมื่อเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 38.47, 44.15, 45.23 และ45.75 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ งาขาวพันธ์ุ มหาสารคาม 60 มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บ รักษา 36.62, 40.94,40.62 และ 41.88 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เมื่อเก็บรักษาในสภาพ อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 เดือน ยังคง

ข้อมูลการวิจัยและพัฒนาเทคนิคการอนรุ กั ษเ์ ชื้อพนั ธุกรรมพชื

19

มปี รมิ าณน้ามันในเมล็ด 36.70, 41.84, 41.75 และ 41.12 เปอร์เซ็นต์ตามลาดับ งาขาวพันธุ์อุบลราชธานี 2 มีปริมาณน้ามัน ในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 36.85, 41.00, 42.31 และ 43.21 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 38.80, 42.68, 42.58 และ 43.08 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ งาดาพันธ์ุ อบุ ลราชธานี 3 มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 37.66, 40.24,40.62 และ 41.67 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บ รักษาในสภาพอุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 40.36, 43.21, 42.87 และ 44.13 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ งาแดงพันธุ์ อุบลราชธานี 1 มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 40.50, 43.25, 44.11 และ 44.91 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพ อุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามันในเมล็ด 44.90, 46.75, 44.57 และ 45.05 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ งาแดงพันธ์ุอุบลราชธานี มีปริมาณน้ามันในเมล็ดก่อนการเก็บรักษา 40.95, 46.75,47.31 และ 45.45 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ เม่ือเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องเป็นเวลา 1 เดือน ยังคงมีปริมาณน้ามัน ในเมลด็ 43.34, 46.77, 46.66 และ 47.71 เปอร์เซ็นต์ตามลาดับ นอกจากน้ีจากผลการการตรวจสอบเปอร์เซ็นต์ของปริมาณ น้ามันในเมล็ดพันธ์ุงาในทุกพันธุ์และที่ทุกระดับความชื้นในเมล็ดพันธ์ุ การเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งไม่มีผลทาให้ปริมาณ น้ามันในเมลด็ พนั ธุ์เปลี่ยนแปลงเมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บรักษาท่ีอุณหภูมิห้องเป็นระยะเวลา 1 เดือน (ภาพที่ 1) แสดงให้ เห็นถึงการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุในสภาพเยือกแข็งสามารถหยุดปฏิกิริยาทางชีวเคมี การย่อยสลาย และการแบ่งเซลล์ ซ่ึงใน ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์เช่ือว่าสาเหตุหลักของการเส่ือมสภาพเมล็ดพันธ์ุเกิดจากปฏิกิริยา lipid peroxidation และการ แพร่กระจายของอนุมูลอิสระซ่ึงจะเข้าทาปฏิกิริยากับกรดไขมันไม่อ่ิมตัว ส่งผลให้เมมเบรนสูญเสียคุณสมบัติในการควบคุม การเข้าออกของสารต่างๆภายในเซลล์และสะสมสารพิษทาให้ความแข็งแรงของเมล็ดพันธ์ุลดลง และยับยั้งกิจกรรมของ เอนไซม์ท่ีเก่ียวข้องกับการกาจัดอนุมูลอิสระ (Qun et al., 2007) การเพ่ิมขึ้นของปฏิกิริยา lipid peroxidation และ ปริมาณกรดไขมนั ระหว่างการเก็บรักษา เป็นปัจจัยท่ีมีผลต่อการเส่ือมคุณภาพของเมล็ดพันธ์ุ (Reuzeau et al., 1992) ปกติ ไขมนั ท่สี ะสมในเมล็ดจะลดลงในระหว่างการเก็บรักษา เน่ืองจากเมตาโบลึซึมหรือปฏิกิริยา peroxidation ของเมล็ดเกิดการ ย่อยทาลายของเอนไซม์ ทาให้เกิดกรดไขมันอิสระ (free fatty acid) ซ่ึงสะสมมากข้ึนตามอายุการเก็บรักษาของเมล็ดพันธ์ุ ซ่ึงการเพิ่มข้ึนของกรดไขมันอิสระซ่ึงเป็นพิษต่อเซลล์และมีความสัมพันธ์กับการลดลงของความงอกของเมล็ดอุณหภูมิห้อง ของแต่ละระดบั ของความชน้ื ในเมล็ดพันธุ์หลังเก็บรักษาเป็นระยะเวลา 1 เดอื น

กำรทดสอบกำรเปล่ียนแปลงควำมมีชีวิตของเมล็ดพันธง์ุ ำ กำรเก็บรกั ษำในสภำพเยือกแข็ง จากผลการทดลองงาทุกสายพันธ์ุสามารถมีชีวิตรอดได้ภายใต้การเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็ง และอิทธิพลของระดับ ความชื้นในเมล็ดพันธ์ุมีผลต่ออายุการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุงาในสภาพเยือกแข็ง การลดความชื้นในเมล็ดพันธุ์ให้เหลือต่ากว่า 8 เปอรเ์ ซ็นต์ เปน็ การรักษาความมีชวี ิตและปริมาณน้ามันในเมล็ดให้ได้ยาวนานขึ้น ตามการศึกษาของ Standwood (1987) พบว่า งาจานวน 6 สายพันธุ์ สามารถทนต่อการแช่ไนโตรเจนเหลวได้ และการอยู่รอดของเมล็ดงานั้นนอกจากจะข้ึนอยู่กับ อัตราการลดอุณหภูมิ (cooling rate) ยังข้ึนอยู่กับความชื้นของเมล็ด การศึกษานี้ช้ีให้เห็นว่าเมล็ดงาสามารถทนต่อการ สมั ผัสกับไนโตรเจนเหลวหรืออยู่รอดได้หากความชื้นต่ากว่า 6 เปอร์เซ็นต์ ท่ีอัตราการลดอุณหภูมิ 1 และ 30 องศาเซลเซียส ต่อนาที นอกจากน้ีในประเทศไทยยังมีการทดลองเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชในสภาพเยือกแข็งอีกหลายชนิด โดยภาณี และ

ขอ้ มูลการวจิ ัยและพฒั นาเทคนิคการอนรุ ักษเ์ ช้ือพนั ธกุ รรมพชื

20

คณะ (2543) ได้ศึกษาในเมล็ดพันธุ์พืชผัก พืชพื้นบ้าน และพืชไร่ต่าง ๆ เช่น พริก มะเขือเทศ ผักกวางตุ้ง ข้าวโพดหวาน ถ่ัวเขียว ถั่วเหลือง เป็นต้น พบว่าเมล็ดพันธ์ุต่าง ๆข้างต้นมีเปอร์เซ็นต์การอยู่รอดหลังการเก็บรักษาใกล้เคียงหรือสูงกว่า เมล็ดพันธุ์ปกติ บัวหลวง และคณะ (2542) ได้ศึกษาเทคนิคและวิธีการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืชผักท่ีสาคัญทางเศรษฐกิจ ได้แก่ แมงลกั พริก มะเขือเทศ ข้าวโพดหวาน กระเจ๊ียบเขียว แตงกวา กวางตุ้ง ผักคะน้า และถ่ัวฝักยาว ในสภาพเย็นยิ่งยวด ในไนโตรเจนเหลว พบว่าสามารถเก็บรักษาโดยวิธีง่ายๆ คือ ทาการปรับความช้ืนในเมล็ดให้ต่ากว่าปกติเล็กน้อยข้ึนอยู่กับ ชนิดพืช บรรจุเมล็ดลงในหลอดท่ีทนต่อสภาพใต้จุดเยือกแข็ง แล้วจึงเก็บในไนโตรเจนเหลว เมล็ดต่าง ๆ มีเปอร์เซ็นต์การ รอดชีวติ ต่ากว่าเมลด็ เปรียบเทียบ 5-17 เปอร์เซ็นต์

กำรเก็บรักษำในสภำพอุณหภูมหิ ้อง จากผลการทดลองงาทุกพนั ธย์ุ ังคงเปอรเ์ ซ็นตค์ วามงอกไมเ่ ปลีย่ นแปลงจากเรมิ่ ต้น แสดงใหเ้ ห็นถงึ ภายในระยะเวลา 1 เดอื น ยงั สามารถเกบ็ รักษาเมล็ดพนั ธุง์ าในสภาพอณุ หภูมิห้องได้ ซ่ึงผลจากการทดลองของ Denise et al. (2014) พบว่าการ เก็บรกั ษาในสภาพอุณหภมู โิ ดยธรรมซาตซิ ง่ึ มีอณุ หภมู อิ ยรู่ ะหว่าง 30-32 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 75 เปอร์เซ็นต์ เมล็ดพันธุ์งายังคงความมีชีวิตอยู่ได้ภายในระยะเวลา 6 เดือน แต่จากการศึกษาครั้งน้ีพบว่าระดับความช้ืนในเมล็ดพันธ์ุมีผล ต่ออายกุ ารเก็บรักษาเมลด็ พนั ธ์ุ การลดความชื้นในเมลด็ พนั ธ์ุให้เหลอื ต่ากว่า 8 เปอร์เซ็นต์ เป็นการรักษาความมีชีวิตให้คงอยู่ ได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน Jianfang et al. (1998) เสนอระดับความช้ืนเมล็ดงาท่ีเหมาะสมที่สุดเพ่ือความอยู่รอดสูงสุด ใน สภาวะการเก็บรักษาที่อณุ หภมู หิ อ้ งระหว่าง 0-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉล่ีย 18 องศาเซลเซียส อยู่ที่ 1.8-2.5 เปอร์เซ็นต์ สาหรับแนวทางการจัดการคลังเมล็ดพันธ์ุ แนะนาให้ลดความชื้นของเมล็ดให้น้อยกว่า 3 เปอร์เซ็นต์สาหรับพืชท่ีมีปริมาณ ไขมันสูง (FAO/IPGRI, 1994) นอกจากน้ี Zadorazhna et al. (2014) ศึกษาระดับความช้ืนในเมล็ดพันธ์ุที่เหมาะสมสาหรับ การเก็บรกั ษาเมลด็ พืชน้ามนั หลายชนดิ พบว่าเมล็ดงาต้องมคี ่านอ้ ยกว่าหรอื เท่ากับ 4 เปอรเ์ ซ็นต์

ข้อมลู การวิจยั และพัฒนาเทคนคิ การอนุรกั ษเ์ ช้ือพันธุกรรมพืช

21

ภำพท่ี 4 เปรียบเทียบเปอร์เซ็นต์ความงอกจากการเร่งอายุเมล็ดพันธ์ุของงาจานวน 6 พันธุ์ เพื่อทดสอบความแข็งแรง ระหวา่ งการเกบ็ รกั ษาในสภาพเยือกแขง็ (LN) และสภาพอณุ หภูมหิ อ้ ง (RT) ท่ีระยะเวลา 0, 7 วัน และ 1 เดือน ในแต่ ละระดบั เปอร์เซ็นต์ความชน้ื ในเมลด็ ก่อนทาการเกบ็ รักษา

กำรทดสอบกำรเปล่ียนแปลงควำมแข็งแรงของเมลด็ พนั ธ์ุงำ จากผลการทดลองเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุงาในสภาพเยือกแข็งดังกล่าวเป็นระยะเวลา 1 เดือน งาแต่ละพันธ์ุแสดงการ ตอบสนองของค่าความแข็งแรงต่อการเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งแตกต่างกัน โดยในงาขาวพันธุ์มหาสารคาม 60 ที่ระดับ ความช้ืนในเมล็ดพันธุ์ 6 เปอร์เซ็นต์และต่ากว่ายังสามารถเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งได้โดยไม่มีการเปลี่ยนความแข็งแรง ส่วนงาขาวพันธุ์ร้อยเอ็ด 1 และอุบลราชธานี 2 สามารถคงความแข็งแรงไว้ได้ที่ระดับความชื้นในเมล็ดพันธ์ุ 4 เปอร์เซ็นต์ งาแดงพันธุ์อุบลราชธานีคงความแข็งแรงไว้ได้ที่ระดับความชื้นในเมล็ดพันธุ์ 2 เปอร์เซ็นต์ แต่ในงาดาอุบลราชธานี 3 และ งาแดงอุบลราชธานี 2 สภาพเยือกแข็งสง่ ผลให้ความแข็งแรงทุกระดับความชนื้ ในเมล็ดพันธ์ุลดลง

กำรทดสอบกำรเปลี่ยนแปลงกำรเจริญเติบโตของเมล็ดพนั ธ์ุงำภำยหลังกำรเก็บรักษำในสภำพเยือกแข็ง จากการปลูกเปรยี บเทียบเมล็ดพนั ธงุ์ าจานวน 6 พนั ธุ์ ระหวา่ งการเกบ็ รักษาในสภาพเยอื กแข็ง และอุณหภูมิห้อง เปน็ ระยะเวลา 1 เดือน เพื่อศึกษาอิทธิพลของการเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งต่อการเจริญเติบโตของพืช พบว่างาทุก พนั ธุแ์ ละทุกระดบั ความชื้นในเมล็ดพันธ์ุมีการเจริญเติบโตไม่แตกต่างจากลักษณะประจาพันธ์ุเดิมหรืองาท่ีเก็บรักษาใน สภาพอุณหภูมิหอ้ งปกติ ไดแ้ ก่ การเจริญเติบโตของตน้ กล้า ลกั ษณะของลาต้น ใบ ดอก และฝัก (ภาพท่ี5-10) และจาก การทดสอบความแตกต่างค่าเฉลี่ยน้าหนัก 1,000 เมล็ด ตามระดับความชื้นในเมล็ดพันธุ์ต่าง ๆของงาในแต่ละพันธุ์ เปรียบเทียบระหว่างทผี่ ่านการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องและเยือกแข็ง พบว่าไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติในงา

ขอ้ มูลการวจิ ยั และพัฒนาเทคนคิ การอนุรักษ์เชื้อพนั ธกุ รรมพชื

22

ทุกพันธุ์ตามตารางที่ 3 สอดคล้องกับงานทดลองของ ภาณีและคณะ (2543) ได้ทดลองเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุพื้นบ้าน และสมุนไพรหลายชนิด และได้ทดสอบสมมติฐานท่ีว่าทันทีที่เมล็ดถูกหย่อนลงไปสัมผัสกับไนโตรเจนเหลวในถังบรรจุ ทกุ ส่วนจะแขง็ ตวั เปน็ น้าแข็งทนั ทแี ละไมม่ ีการเปล่ียนแปลงใดๆทางสรีระและซีวเคมี เมอ่ื เมล็ดนั้นไปลูกสามารถงอกป็น ต้นกล้าปกติได้ โดยได้ทดสอบปลูกถ่ัวฝักยาวจานวน 50 พันธุ์ ที่เก็บรักษาไว้ในไนโตรเจนเหลวเป็นระยะเวลา 4 ปี ใน แปลงทดลองพบว่าไม่มีความแตกต่างของการเจริญเติบโตของต้นกล้า และช่วงเวลาการออกดอก สีของดอก คุณภาพ และความแข็งแรงของเมล็ดหลงั การเก็บเกยี่ ว

กำรทดลองที่ 4 เทคนิคกำรเก็บรักษำเมลด็ พันธผุ์ กั โขม (Amaranthus spp.) ในธนำคำรเชอ้ื พันธ์ุพืช เปอร์เซ็นต์ควำมงอกของเมล็ดเช้ือพนั ธ์ุผักโขม ผลการทดลองพบว่า ในแตล่ ะสภาพอณุ หภูมิการเก็บรกั ษา (อุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส และ-10 องศาเซลเซียส)

เปอรเ์ ซน็ ตค์ วามชน้ื ของเมล็ดเชอื้ พนั ธุ์เริ่มตน้ กอ่ นการเกบ็ รักษา (10, 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์) และระยะเวลาในการเก็บรักษา (0-18 เดอื น) มปี ฏสิ มั พันธ์ (Interaction) กนั อยา่ งมีนยั สาคญั ต่อเปอรเ์ ซ็นตค์ วามงอกของเมล็ดเชือ้ พันธ์ผุ กั โขม

กำรเกบ็ รกั ษำที่อุณหภูมิห้อง เมล็ดเชือ้ พันธผุ์ กั โขมทเ่ี กบ็ รกั ษาทีอ่ ุณหภูมิห้อง (25±2 °C, ความชื้นสัมพัทธ์ 80±5 %) ถ้าเมล็ดเช้ือพันธุ์ยังไม่ ผ่านกระบวนการลดความช้ืน ซ่ึงในการทดลองมีความช้ืนในเมล็ดเช้ือพันธุ์ 10 เปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บรักษาเมล็ดเช้ือ พนั ธไุ์ ดถ้ งึ 18 เดือน โดยเมล็ดเช้ือพันธุ์ยังคงความมีชีวิตอยู่ได้ มีความงอกเหลือเพียง 82 เปอร์เซ็นต์ ขณะท่ีเมล็ดเชื้อ พันธุ์ที่ผ่านการลดความช้ืนเหลือ 8, 6, และ 4 เปอร์เซ็นต์ พบว่าสามารถเก็บได้ถึง 18 เดือน แต่มีความงอก 83, 86 และ 87 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ ดังนั้น เมล็ดเช้ือพันธ์ุผักโขมมีความช้ืนสูงคือ 4-10 เปอร์เซ็นต์ บรรจุในภาชนะท่ีปิด สนิทก่อนนามาเก็บรักษาจะทาให้สามารถเก็บท่ีอุณหภูมิห้องได้นานขึ้น การเก็บรักษาไว้ท่ีอุณหภูมิห้อง สอดคล้อง วัน ชัย (2542) พบว่าอณุ หภมู ิเป็นปัจจัยท่ีสาคัญต่ออายุการเก็บรักษาของเมล็ดเช้ือพันธุ์เช่นเดียวกับความชื้นแต่มีบทบาท น้อยกว่าความชืน้ ในการเกบ็ รักษาเมล็ดเช้อื พนั ธุ์ กำรเกบ็ รกั ษำทีอ่ ุณหภูมิ 5 องศำเซลเซยี ส เมล็ดเช้ือพันธุ์ผักโขมท่ีเก็บรักษาท่ีอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ถ้าเมล็ดเช้ือพันธ์ุยังไม่ผ่านกระบวนการลด ความชื้น ซึง่ ในการทดลองมีความชืน้ ในเมลด็ เช้ือพนั ธ์ุ 10 เปอร์เซ็นต์ สามารถเกบ็ รักษาเมล็ดเชอื้ พนั ธุ์ภายในระยะเวลา 18 เดือน จากความงอกเริ่มต้น 98 เปอร์เซ็นต์ เหลือความงอก 86 เปอร์เซ็นต์ และมีแนวโน้มลดลง ขณะท่ีเมล็ดเช้ือ พนั ธท์ุ ่ีผ่านการลดความชน้ื ทุกระดบั พบว่าภายในระยะเวลาการเกบ็ รักษา 18 เดือน ยังคงเปอร์เซ็นต์ความงอกเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ระดับความชื้นในเมล็ดเชื้อพันธ์ุ 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลือความงอก 88 เปอร์เซ็นต์ ทุก ระดับ และมีแนวโน้มลดลง ดังน้ันการเก็บรักษาเมล็ดเช้ือพันธุ์ผักโขม ที่อุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส ก่อนการเก็บรักษา ควรลดความชืน้ ในเมลด็ เช้อื พนั ธ์ใุ หต้ ่าลงต้ังแต่ 10 เปอร์เซ็นต์ลงไป จะทาให้การเก็บรักษาไดย้ าวนานข้นึ

ขอ้ มลู การวจิ ยั และพัฒนาเทคนิคการอนุรกั ษ์เช้ือพนั ธุกรรมพชื

23

กำรเก็บรกั ษำท่ีอุณหภูมิ -10 องศำเซลเซียส ที่อุณหภูมิ -10 องศาเซลเซียส เม่ือเก็บรักษาเมล็ดเช้ือพันธุ์ผักโขมท่ีระดับความช้ืนเมล็ดเช้ือพันธุ์ 10, 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ สามารถเก็บรักษาเมล็ดเชื้อพันธ์ุได้นาน 18 เดือน มีเปอร์เซ็นต์ความงอกของเมล็ดเช้ือพันธุ์ไม่ แตกต่างกันคอื 88, 89, 90 และ 90 ตามลาดับ และมแี นวโนม้ ลดลง ควำมแข็งแรงของเมล็ดเชือ้ พันธผุ์ ักโขม ผลการทดลองพบว่า เปอร์เซ็นต์ความช้ืนของเมล็ดเช้ือพันธ์ุเริ่มต้นก่อนการเก็บรักษา (10, 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์) อุณหภูมิการเก็บรักษา (อุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส -10 องศาเซลเซียส) และระยะเวลาการเก็บรักษา (0-18 เดือน) มปี ฏิสมั พันธ์ (Interaction) กนั อยา่ งมนี ัยสาคัญตอ่ ความแขง็ แรงของเมลด็ เช้ือพันธผุ์ กั โขม เมล็ดเช้ือพันธุ์ผักโขมท่ีเก็บรักษาท่ีอุณหภูมิห้อง (25±2 °C, ความช้ืนสัมพัทธ์ 80±5 %) ถ้าไม่ผ่านกระบวนการลด ความชื้น พบว่าสามารถเก็บได้ถึง 18 เดือน แต่มีความงอกเหลือเพียง 8ค เปอร์เซ็นต์ เมล็ดเช้ือพันธ์ุท่ีผ่านการลดความช้ืน เหลือ 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ ภายในระยะเวลา 18 เดือน ยังคงเปอร์เซ็นต์ โดยมีเปอร์เซ็นต์ความงอก 88, 90 และ 90 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ (ตารางที่ 1.4.5) เมื่อเปรียบเทียบกับการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส เมล็ดเช้ือพันธุ์ ผักโขมท่ียังไม่ผ่านกระบวนการลดความชื้นมีความมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 18 เดือน มีความงอก 87.33 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเมล็ด เช้ือพันธ์ุท่ีผ่านการลดความชื้นที่ระดับ 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ ยังรักษาระดับเปอร์เซ็นต์ความงอกไว้ได้โดยเม่ือเก็บรักษา เปน็ ระยะเวลา 18 เดือน ยังมีความงอกอยู่ท่ี 89.3, 90.67 และ 90.67 เปอร์เซ็นต์ ตามลาดับ สาหรับการเก็บรักษาในสภาพ อณุ หภมู ิ -10 องศาเซลเซียส ทุกระดับความชื้นในเมล็ดเช้ือพันธุ์สามารถเก็บรักษาได้ หลังผ่านการเร่งอายุเมล็ดเชื้อพันธุ์เพ่ือ ทดสอบความแข็งแรงยังคงความงอก 83.33, 88, 90 และ 92 เปอร์เซ็นต์ โดยภายในระยะเวลาการเก็บรักษา 18 เดือน โดย ท่ีระดับความชื้นในเมล็ดเชื้อพันธ์ุ 10, 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ มีแนวโน้มการลดลงของเปอร์เซ็นต์ความงอกต่ากว่าทุกระดับ ความช้นื ในเมล็ดเชือ้ พันธุ์ สอดคล้องกับงานวิจัยของ Berjark and Pammenter (2008) เมล็ดผักโขมมีขนาดเล็ก มันวาวมัก เปน็ สดี าและมีสองเหลีย่ ม (Norman, 1992) เมล็ดผักโขมเป็นพวก orthodox เมล็ดแห้งมีความชื้น 10-12% และเก็บรักษา ไวใ้ นท่ีภายใตส้ ภาวะที่เหมาะ เมลด็ จะมชี ีวิตอยู่ได้เปน็ ปี

กิจกรรมที่ 2 เทคนคิ กำรอนรุ กั ษ์เชอื้ พนั ธุกรรมพืชในสภำพปลอดเช้ือ กำรทดลองที่ 1 กำรขยำยพันธม์ุ ันสำคู (Maranta arundinacea L.) ในสภำพปลอดเช้อื เพอ่ื กำรอนรุ กั ษ์

1. กำรศึกษำภำคสนำม พบตัวอย่างมันสาคูบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ จังหวัดร้อยเอ็ด อบุ ลราชธานี และศรสี ะเกษ

2. กำรฟอกฆ่ำเช้ือ เตรียมมันสาคูตัวอย่างโดยใช้ช้ินส่วนเหง้าเพาะด้วยกระดาษให้ตาท่ีเจริญเล็กน้อยสาหรับ มาฟอกฆ่าเช้ือ ฟอกฆ่าเช้ือ โดยใช้เหง้าที่มีตาฟอกด้วยคลอรอกซ์ความเข้มข้น 20 และ 30 เปอร์เซ็นต์ ระยะเวลานาน 15 และ 20 นาที นาชิ้นส่วนพืชมาเพาะบนอาหารสูตร MS (Murashige and Skoog, 1962) เพาะเล้ียงภายใต้การ ควบคุมสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ 25±2 องศาเซลเซียส ชั้นติดต้ังไฟสาหรับวางขวดเลี้ยงเนื้อเยื่อ ความสว่างประมาณ 2,000 ลกั ซ์ ควบคุมเวลาปิดเปิดไฟกาหนดระยะเวลาการใหค้ วามสวา่ ง 16 ชั่วโมง พบหน่อต้นสาคทู ่ีไม่พบการปนเปื้อน

ข้อมลู การวิจัยและพัฒนาเทคนิคการอนรุ ักษเ์ ชื้อพันธกุ รรมพืช

24

ของเชอ้ื และเจริญเติบโตได้ เมื่อฟอก 2 ครงั้ ด้วยคลอรอกซ์ความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ นาน 15 นาที และ คลอรอกซ์ ความเข้มขน้ 25 เปอร์เซ็นต์ นาน 5 นาทคี ดิ เปน็ 16.7 เปอร์เซ็นต์

ภำพท่ี 2 เตรยี มตัวอย่างมนั สาคใู ห้ได้ตาทีเ่ จรญิ เล็กน้อยหน่อสาหรบั นามาฟอกฆ่าเช้ือ 3. กำรชกั นำให้เกดิ ต้นมนั สำคใู นสภำพปลอดเช้อื 3.1 การทดลองพบว่ามันสาคูมีการเจริญเติบโตทางลาต้นทุกกรรมวิธี โดยความสูงของยอดเฉล่ียไม่แตกต่าง ทางสถิติ ส่วนการเติมสารละลาย BA ความเข้มข้น 3 mg/l สามารถชักนาการเกิดยอดได้อย่างมีนัยสาคัญ แต่พบว่า การแตกยอดบางครั้งยังไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นต้นท่ีสมบูรณ์ได้ ทั้งน้ีอาจต้องมีการพัฒนาโดยการปรับเพิ่มเติมการ ใช้สารควบคุมการเจรญิ เติบโตทัง้ กลุ่มไซโตไคนินและสารกล่มุ ออกซินเพื่อให้ไดย้ อดท่สี มบรู ณ์ คาดวา่ น่าจะต้องเลย้ี งบนอาหาร MS ท่เี ตมิ สารควบคุมการเจริญเตบิ โตสาร BA ความเข้มขน้ ทีส่ งู ข้ึน หรอื การ เตมิ สารทัง้ กลุ่มไซโตไคนินและสารกลุ่มออกซนิ รว่ มกัน

กรรมวิธีท่ี 5 สตู รอาหาร MS + BA ความเขม้ ขน้ 3 mg/l เลี้ยง ภายใตส้ ภาพแสงปกติ จะพบการแตกยอด แต่ยอดทไ่ี ดไ้ มส่ ามารถพัฒนาเป็นตน้ ทสี่ มบรู ณ์ พบการเหลืองและเน่าตายในทส่ี ดุ

ภำพที่ 5 ลักษณะของมนั สาคูท่เี พาะเลี้ยงบนอาหาร MS ร่วมกับ BA ระดับความเข้มข้น 3 mg/l เพาะเลี้ยงภายใตส้ ภาพ แสงปกติ

3.2 ศึกษำกำรชักนำกำรเกิดยอดและรำก มันสาคูท่ีเลี้ยงบนอาหาร MS ท่ีเติมสาร BA ความเข้มข้น 6.0 mg/l สามารถชกั นาให้เกดิ ยอดสงู สดุ เฉล่ีย 5.5 ยอด ส่วนการเกิดรากพบว่ามันสาคูเล้ียงบนอาหาร MS ท่ีไม่เติมฮอร์โมนช่วยชักนา การเกดิ รากสูงสุดเฉลี่ย 4.6 ราก และพบการแตกรากฝอยได้ดีกว่ามันสาคูเล้ียงบนอาหาร MS ท่ีเตมิ ฮอรโ์ มน

4. กำรทดสอบปลูกในสภำพโรงเรือน โดยการย้ายปลูกต้นมันสาคูที่ได้จากการเพาะเลี้ยงเนื้อเย่ือเลือกใช้ต้นที่มี ความสมบรู ณ์แข็งแรงและมรี ากจานวนมาก นามาปรับสภาพ โดยการนาออกจากห้องเพาะเล้ียงเน้ือเย่ือ คลายฝาขวดเพื่อลด ความชน้ื สมั พทั ธ์ในขวดและมกี ารถา่ ยเทอากาศมากขึน้ ประมาณ 5 - 7 วัน หลังจากน้ัน ล้างวุ้นออกจากรากให้สะอาด จุ่มยา กันเชื้อรา แล้วปลูกโดยใช้วัสดุปลูกดินผสม: กาบมะพร้าวสับ:ทราย อัตราส่วน 4:1:1 นาต้นท่ีปลูกลงในกระถางคลุมด้วย

ข้อมลู การวิจยั และพัฒนาเทคนคิ การอนุรักษ์เชื้อพนั ธกุ รรมพืช

25

ถุงพลาสติกเพ่ือรักษาความชื้นระวังไม่ให้ใบสัมผัสถุง ปรับความช้ืนโดยเปิดปากถุงท่ีละน้อย วางไว้ในที่ร่ม เป็นเวลา 1 เดือน พบว่ามนั สาคมู อี ัตราการรอดชีวติ 100 เปอร์เซ็นต์

5. กำรชะลอกำรเจริญเติบโตของต้นมันสำคูในสภำพปลอดเช้ือ โดยเมื่อเล้ียงต้นมันสาคูนาน 3 เดือน มันสาคูท่ี เลี้ยงบนอาหารลดปริมาณอาหาร MS ได้แก่ ¼MS และ ½MS สามารถเจริญเติบโตได้ดี แต่ต้นมันสาคูท่ีเล้ียงบนอาหาร MS ปกติ ต้นมันสาคูไม่สามารถเจริญได้ อาจเน่ืองมาจากชิ้นส่วนที่ใช้ไม่ใช้หน่ออ่อนซ่ึงทาให้ไม่เหมาะสมท่ีจะนามาเลี้ยงบน อาหาร MS ปกติ ต้องมกี ารปรบั ลดปริมาณอาหารจะทาให้ต้นสามารถรอดชีวิตได้ และหลังจากเล้ียงนาน 3 เดือน ต้นท่ีเลี้ยง บน อาหาร ¼MS เริ่มมีอาการเหลืองซีด โดยเมื่อเลี้ยงนาน 5 เดือน พบว่า ต้นมันสาคูท่ีเลี้ยงบนอาหาร ½MS ยังคงมีการ ลักษณะต้นที่แข็งแรงและ มีการเจรญิ เตบิ โตแตกหน่ออ่อนได้

6. กำรจัดทำหลกั ฐำนอ้ำงอิงเชอ้ื พนั ธม์ุ นั สำคู โดยวธิ ีการอดั แห้งเป็นการนาตัวอย่างช้ินส่วนพืชท่ีใช้ในการประเมิน มาอัดแล้วนาไปอบให้แห้ง ท่ีอุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส หลังจากน้ันนาส่งพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพฯ กรมวิชาการเกษตร เพ่ือ เขา้ กระบวนการ นาไปตดิ บนกระดาษสาหรับตดิ พรรณไม้และเกบ็ รักษาในพิพิธภัณฑพ์ ืชกรุงเทพฯ ต่อไป ซ่ึงได้ดาเนินการเก็บ ตวั อยา่ งพรรณไม้อ้างองิ ในพิพิธภณั ฑ์พืชกรงุ เทพฯ กรมวชิ าการเกษตร (Bangkok Herbarium, BK) จานวน 3 ตัวอยา่ ง

ภำพท่ี 9 ตัวอย่างพรรณไม้อ้างอิงในพิพิธภัณฑ์พืชกรุงเทพฯ กรมวิชาการเกษตร (Bangkok Herbarium, BK)

กำรทดลองที่ 2 กำรขยำยพนั ธม์ุ ันขหี้ นใู นสภำพปลอดเชอื้ เพื่อกำรอนุรักษ์ ข้นั ตอนท่ี 1 กำรขยำยช้ินสว่ นมันข้ีหนูในสภำพปลอดเชื้อ (2562-2563)

ตัวอย่างมันขี้หนูในสภาพปลอดเชื้อท่ีอายุ 150 วัน (รูปท่ี 2.1) และเพิ่มปริมาณตัวอย่างเพื่อนาเข้าการทดลองการ ชะลอการเจริญเตบิ โตในสภาพปลอดเชื้อ (รูปท่ี 2.2) และการเกิดราก เพ่ือการเตรียมต้นในการทดสอบการออกปลูกในสภาพ โรงเรือนทดลอง และเตรียมความพร้อมช้ินส่วนเนื้อเยื่อนาเข้าการทดลองการชะลอการเจริญเติบโตในสภาพปลอดเชื้อ (รูปที่ 2.3) เตรียมตัวอยา่ งมันข้ีหนใู นสภาพปลอดเชื้อเพื่อเข้าขั้นตอนการชะลอการเจริญเติบโต (รปู ที่ 2.4)

ข้อมูลการวจิ ัยและพฒั นาเทคนคิ การอนุรกั ษเ์ ช้ือพนั ธุกรรมพชื

26

รปู ท่ี 2.1 มนั ข้ีหนใู นสภาพปลอดเชอื้ (150วัน) รปู ที่ 2.2 มันขหี้ นูในสภาพปลอดเช้ือเตรียมสาหรับการนาเขา้ การ ทดลองการชะลอการเจรญิ เตบิ โต (เมษายน2563)

รปู ท่ี 2.3 มันขี้หนูในสภาพปลอดเชื้อและการเกดิ ราก รูปท่ี 2.5 เตรยี มตวั อยา่ งมนั ข้ีหนใู นสภาพปลอดเชอ้ื เพ่ือ เข้าขั้นตอนการชะลอการเจรญิ เตบิ โต

ขนั้ ตอนที่ 2 กำรเกบ็ รกั ษำมันขห้ี นูในสภำพปลอดเชอ้ื (ทำกำรทดลองปี 2563-2564) การเก็บรักษามันข้ีหนูในสภาพปลอดเช้ือ พบว่า การนายอดและข้อของมันข้ีหนู ฟอกฆ่าเชื้อและนาเข้าเพาะเล้ียง

ในสภาพปลอดเชื้อ เพื่อดาเนินการขยายชิ้นส่วนเนื้อเย่ือ สาหรับการทดลองการเก็บรักษามันขี้หนูในสภาพปลอดเชื้อตาม กรรมวิธีที่กาหนด พบว่า ในระยะเวลา 2 เดือน ทั้ง 9 กรรมวิธี เน้ือเย่ือของมันข้ีหนูยังมีสีเขียว และการเจริญเติบโตปกติใน กรรมวิธีที่ไม่เติม mannitol (กรรมวิธีท่ี 1, 4 และ7) ดังแสดงในภาพที่ 2.6 ในกรรมวิธีที่เติม mannitol 10 g/l (กรรมวิธีท่ี 2, 5 และ8) มีลกั ษณะใบอวบ สเี ขม้ และการเจริญเติบโตช้ากว่ากรรมวิธีที่ไม่เติม mannitol และพบว่า มันขี้หนูสามารถเก็บ รกั ษาในสภาพปลอดเชอื้ (ชะลอการเจริญเติบโต) ก่อนยอดเหลืองเกินร้อยละ50 ท่ีอายุ 6 เดือน แม้ไม่มีการ subculture คือ กรรมวิธีท่ี 8 (¼ MS + mannitol 10 g/l) ซ่ึงมีความแตกต่างอย่างมีนัยสาคัญย่ิงทางสถิติ เมื่อเปรียบเทียบท้ัง 9 กรรมวิธี ดังแสดงในภาพท่ี 2.7 และตารางที่ 2.1 ทั้งนี้กรรมวิธีที่ 7 และ 9 (¼ MS และ ¼ MS + mannitol 20 g/l ตามลาดับ) สามารถชะลอการเจริญเติบโตได้ท่ีอายุ 5 เดือน ส่วนกรรมวิธีที่ 1-6 (MS, MS + mannitol 10g /l, MS + mannitol 20g /l, ½ MS , ½ MS + mannitol 10g /l และ ½ MS + mannitol 20 g/l ตามลาดับ) สามารถชะลอการเจริญเติบโตได้ที่ อายุ 4 เดือน และในเดือนท่ี 6 ต้นและใบมีสีน้าตาลซึ่งหมายถึงไม่มีชีวิต และในกรรมวิธีที่ 8 เม่ือนาชิ้นส่วนสีเขียวกลับมา ทดสอบอัตราการรอดชวี ติ บนอาหารสูตรสังเคราะห์ MS และสามารถเจริญเติบโตได้ตามปกติ

ข้อมูลการวิจยั และพฒั นาเทคนคิ การอนรุ ักษเ์ ช้ือพันธุกรรมพืช

27

รูปที่ 2.6 มันขหี้ นูในสภาพปลอดเชอ้ื ท่ีอายุ 2 เดือน

รูปท่ี 2.7 มนั ข้หี นใู นสภาพปลอดเช้ือท่ีอายุ 6 เดือน กำรทดลองท่ี 3 กำรอนุรักษ์ขิงพระพุทธบำท (Zingiber tenuiscapus) และตะไคร้พรำน (Zingiber citriodorum) พืชถ่ินเดยี วของไทยในสภำพปลอดเชื้อ

1. กำรรวบรวมตัวอย่ำงเชื้อพันธุ์ ได้ตัวอย่างต้นขิงพระพุทธบาทจากการรวบรวมที่บริเวณเขาหินปูน จังหวัด สระบรุ ี และตวั อย่างตน้ ตะไครพ้ รานจากจงั หวัดตาก

2. กำรฟอกฆ่ำเช้ือชิ้นส่วนต้นขิงพระพุทธบำทและตะไคร้พรำน พบว่ายอดต้นขิงพระพุทธบาทมีอัตราการรอด ชีวิตและเจริญเป็นต้นได้ 46.67% (ภาพที่ 2) และตะไคร้พราน 33.33% (ภาพที่ 3) สอดคล้องกันกับการทดลองของ Tan (2016) เพาะเล้ียงพืชสกุล Curcuma ที่เป็น Threatened Medicinal Plant โดยฟอกฆ่าเชื้อชิ้นส่วน rhizome bud .ด้วยสาร NaClO 1.2% นาน 15 นาทีและ 1% นาน 10 นาที พบอัตราการรอดชีวิตถึง 67% และการทดลอง ของ Yusuf et al (2011) ได้ทาการฟอกฆ่าเช้ือส้ินส่วนตายอดของ Boesenbergia rotunda ที่เป็นพืชสมุนไพรโดย จมุ่ ในเอทานอล 70% นาน 2 นาทแี ละสารละลายคลอรอกซ์ 20% นาน 15 นาที พบว่ามีอัตราการรอดชีวิตและเจริญ เป็นต้นได้ 48 %

ภาพที่ 2 ชน้ิ ส่วนและต้นขงิ พระพุทธบาททปี่ ลอดจากการปนเปื้อนของเชอื้ จลุ ินทรยี ์ 3. กำรชักนำให้เกิดยอดในสภำพปลอดเช้ือ พบว่ายอดท่ีเลี้ยงบนอาหาร MS ท่ีไม่ใส่สารควบคุมการ เจรญิ เติบโต (Control) มกี ารเจริญเติบโตและเกดิ ยอดเฉล่ยี 0.8 ยอด/ช้นิ ส่วน ซ่ึงการเติมสารควบคุมการเจริญมีผลต่อ ข้อมลู การวจิ ยั และพัฒนาเทคนคิ การอนรุ ักษเ์ ช้ือพันธกุ รรมพชื

28

การเกิดยอดอย่างมีนัยสาคัญ โดยยอดอ่อนที่เล้ียงบนอาหาร MS ที่เติม BA ความเข้มข้น 3 มก./ล. สามารถชักนาให้ เกิดยอดเฉลี่ยได้สูงสุด 20.9 ยอด/ชิ้นส่วน มีความสูงของยอดเฉล่ีย 3.38 ซม. ต้นท่ีได้มีลักษณะสมบูรณ์ สีเขียว ลาต้น ไมย่ ืดยาว และไม่แตกตา่ งกบั สตู รท่ไี ม่เติมสารควบคุมการเจริญเติบโต (Control) ซ่ึงทุกสูตรอาหารที่ใช้เพาะเลี้ยงทาให้ ตน้ เกดิ รากขนาดยาว สขี าวและมีขนรากจานวนมาก

4. กำรชะลอกำรเจริญเติบโตในสภำพปลอดเช้ือ พบว่า สูตรที่เหมาะสมต่อการชะลอการเจริญเติบโตเพ่ือการ อนุรักษ์ต้นขิงพระพุทธบาท คืออาหารท่ีปรับลดปริมาณน้าตาลซูโครสเพียง 15 กรัม/ลิตร และปรับลดความเข้มข้นของ MS เป็น ½ MS และ ¼ MS จะทาให้ต้นขิงพระพุทธบาทมีการแตกยอดน้อยลงและต้นท่ีได้มีลักษณะแข็งแรงสีเขียวเข้มและ ความสูงของต้นไม่แตกต่างกับอาหาร MS สูตรมาตรฐานท่ีใช้อาหาร MS full-strength ท่ีเติมซูโครส 30 กรัม/ลิตร เม่ือ เพาะเลี้ยงนาน 8 เดือน โดยไม่ต้องเปล่ียนถ่ายอาหารเพาะเลี้ยงใหม่ ซึ่งการปรับลดความเข้มข้นของอาหาร MS ที่ใช้ เพาะเลยี้ งลง เป็นการลดปริมาณธาตุอาหารหลักทาให้พืชดึงสารอาหารไปใชเ้ พื่อการเจรญิ เติบโตไดน้ ้อยลง กำรทดลองที่ 4 กำรอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสมุนไพร : ระย่อมน้อย (Rauvolfiaserpentina (L.) Benth.exKurz) ในสภำพปลอดเชื้อ

1. ทาการสารวจและรวบรวมพันธ์ุระย่อมน้อยทางภาคเหนือ บริเวณที่พบต้นระย่อมน้อย จะเป็นบริเวณท่ีมี ความชน้ื คอ่ นข้างสูง มอี นิ ทรยี วตั ถุทเี่ กิดจากใบไมผ้ คุ ่อนขา้ งมาก ดนิ เป็นดินทราย มีแสงราไร ต้นไม้ใหญ่ไม่หนาทึบ โดย ต้นระย่อมน้อยจะข้ึนอยเู่ ปน็ กลุ่มๆ เน่อื งจากระยอ่ มน้อยนอกจากจะขยายพันธุ์โดยเมล็ดแล้ว ยังสามารถขยายพันธ์ุโดย แตกต้นใหมจ่ ากแขนงรากได้อีกด้วย ดังน้นั ในการเก็บตวั อยา่ ง จงึ เลือกเกบ็ ตน้ ท่ีแตกจากแขนงราก และเหลือต้นหลักไว้ ในพื้นทเ่ี พื่อให้ไม่สญู พนั ธแุ์ ละสามารถขยายพนั ธ์ุไดต้ ่อไป

ภาพท่ี 2.4.1 การรวบรวมพนั ธร์ุ ะย่อมน้อยจากแหล่งตา่ งๆ 2. นาต้นระยอ่ มนอ้ ยทีเ่ กบ็ ไดม้ าปลกู ในกระถางในเรือนเพาะชา สานักวิจัยพฒั นาเทคโนโลยชี วี ภาพ(บางเขน) 3. การฟอกฆ่าเชื้อระย่อมน้อย ในไตรมาสท่ี 2 ประมาณปลายเดือนมกราคม ระย่อมน้อยเริ่มมีการแตกยอดใหม่ จึง เลือกตัดยอดระย่อมท่ีเพ่ิงแตกใหม่ยาวประมาณ 1 ซม.ซ่ึงยังไม่มีท่อน้ายาง มาฟอกฆ่าเชื้อด้วย Clorox ความเข้มข้น 15 เปอร์เซ็นต์ 10นาที พบว่า ไม่มีการปนเป้ือนแบคทีเรียและเช้ือราเลย ย้ายลงเล้ียงในอาหารสังเคราะห์สูตรต่างๆ เพ่ือหาสูตร อาหารทเ่ี หมาะสม เมื่อต้นระย่อมใบสีเขียวเจริญเติบโตได้พอประมาณ ทาการตัดเป็นท่อนๆเพ่ือลงเล้ียงในอาหารสูตร MS +

ขอ้ มลู การวิจัยและพัฒนาเทคนคิ การอนรุ กั ษเ์ ช้ือพันธุกรรมพชื

29

IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l และ MS + IAA 0.5ml/l +BA 4ml/l พบว่าต้นที่เลี้ยงในสูตร MS + IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l มี การแตกยอดมากกวา่ โดยชักนาใหเ้ กิดยอดเฉลยี่ ถึง 12.6 ยอด/ชิ้นสว่ น

4. subculture ต้นระย่อมน้อย โดยตัดส่วนข้อเลี้ยง MS + IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l เพื่อให้ได้ต้นระย่อมน้อยท่ีมี ขนาดใกล้เคียงกัน พบว่ามีความแตกต่างกันเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีใบสีเขียว กับ กลุ่มที่มีใบสีเขียวอมเหลือง ซ่ึงจากการ ทดลองเล้ียงต้นที่มีใบสีเขียว และต้นที่มีใบสีเขียวอมเหลือง MS + IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l โดยไม่subcultureเป็นเวลา 4 เดือน พบว่าต้นทมี่ ใี บสเี ขียวจะแตกกอมากกวา่ และไม่เกดิ ราก สว่ นตน้ ทมี่ ีใบสีเขียวอมเหลืองแตกกอน้อยแต่จะเกิดรากดังน้ัน การเลือกต้นระย่อมน้อย เพ่ือทาการทดลองชะลอการเจริญเติบโต ควรใช้ต้นท่ีมีคุณสมบัติเหมือนกัน มีการเจริญเติบโต ใกลเ้ คยี งกนั มากที่สดุ ซงึ่ กลุ่มทม่ี ีใบสีเขียวนา่ จะเหมาะสมสาหรับใช้ในการทดลองการชะลอการเจรญิ เตบิ โตมากกว่า

ภาพที่ 2.4.6 ตน้ ระย่อมน้อยท่ีsubcultureโดยตัดสว่ นขอ้ เลีย้ งในอาหารสูตร MS + IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l

ab ภาพที่ 2.4.7 ต้นระย่อมน้อยท่เี ล้ยี งในอาหารสตู ร MS + IAA 0.1ml/l +BA 3ml/l หลังsubculture 40วัน

พบมตี ้นที่แตกต่างกัน 2 กลมุ่ คอื a ตน้ ทมี่ ีใบสีเขียว b ตน้ ที่มีใบสีเขียวอมเหลอื ง 5. ศึกษาการชะลอการเจริญเติบโตของระย่อมน้อยในสภาพปลอดเชื้อ ตัดยอดระย่อมน้อย (กลุ่มใบสีเขียว) ความยาวประมาณ 1 ซม. มใี บ 2-5 ใบ ลงเลย้ี งในอาหาร 16 สูตร

ข้อมูลการวจิ ัยและพฒั นาเทคนิคการอนุรักษ์เชื้อพันธกุ รรมพืช

30

ข้อเสนอแนะต่อผเู้ กี่ยวขอ้ งสำหรับกำรดำเนินงำนในระยะตอ่ ไป 1. เทคนิคการอนุรักษ์เมล็ดพันธุกรรมพืช ดาวอินคา บวบหอม งา และผักโขม ภายใต้อุณหภูมิในการเก็บ รักษาต่างๆ ในห้องอนุรักษ์ระยะปานกลาง (5๐C) ห้องอนุรักษ์ระยะยาว (-10๐C) และในสภาพเยือกแข็ง มีเทคนิคการ ลดความช้ืนก่อนเก็บรักษาในแต่ละพืชต่างกันไป เพ่ือให้พืชคงความมีชีวิตได้นานสูงสุด สามารถนามาปรับใช้ให้เป็น ประโยชนใ์ นงานอนรุ กั ษ์ของธนาคารเชอ้ื พนั ธุ์พืชต่อไป 2. เทคนิคการเก็บรักษาพันธุกรรมพืชในสภาพปลอดเช้ือ การฟอกฆ่าเชื้อ การชักนาให้เกิดยอด การชักนาให้ เกิดราก และเทคนิคการชะลอการเจริญเติบโตในสภาพปลอดเช้ือของมันสาคู มันข้ีหนู ขิงพระพุทธบาท ตะไคร้พราน และระย่อมน้อย อาจศึกษาเพิ่มเติมองค์ความรู้ในเร่ืองของสารสาคัญที่มีอยู่ในเชื้อพันธุ์ เพื่อต่อยอดและเพิ่มมูลค่าทาง เศรษฐกิจทัง้ ทางด้านโภชนเภสชั ความเป็นประโยชนต์ อ่ ยอดเปน็ ผลิตภณั ฑค์ วามหลากหลายทางชวี ภาพต่อไป

ข้อมลู การวิจยั และพัฒนาเทคนิคการอนุรักษเ์ ชื้อพันธกุ รรมพืช

31

เทคนคิ การเก็บรักษาเมลด็ เช้อื พันธุด์ าวอนิ คา (Plukenetia volubilis L.) ในธนาคารเช้ือพนั ธพุ์ ืช Seed Conservation of Plukenetia volubilis L.

บทคดั ย่อ การศึกษาเทคนิคการเก็บรักษาเมล็ดเช้ือพันธุ์ดาวอินคาในธนาคารเช้ือพันธุ์พืช ได้ทาการทดลองใน ห้องปฏิบัติการและเก็บรักษาเมล็ดเช้ือพันธ์ุของกลุ่มวิจัยและพัฒนาธนาคารเชื้อพันธ์ุพืช สานักวิจัยพัฒนา เทคโนโลยชี วี ภาพ ระหว่างเดือนตุลาคม 2561 - กันยายน 2564 โดยศึกษาระดับเปอร์เซ็นต์ความช้ืนในเมล็ดเช้ือพันธ์ุ ดาวอินคาซง่ึ เป็นปัจจัยหลักท่ีมีผลต่ออายุการเก็บรักษา แบ่งเป็น 3 การทดลอง ตามอุณหภูมิการเก็บรักษา คือ สภาพ อุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส และ -10 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 28 เดือน แต่ละการทดลองวางแผนการ ทดลองแบบ Split plot design จานวน 3 ซ้า main plot คือ ระดับความชื้นในเมล็ดเชื้อพันธุ์ 4 ระดับ ได้แก่ 18 (เริ่มต้น), 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ และ sub plot คือ ระยะเวลาในการเก็บรักษา 28 เดือน โดยเก็บข้อมูลความมีชีวิต และความแข็งแรงทุก 2 เดือน รวม 15 ระดับ พบว่า อัตราเปอร์เซ็นต์ความงอกจากการทดสอบความมีชีวิตของเมล็ด เชื้อพันธุ์ดาวอินคา และเปอร์เซ็นต์ความงอกจากการทดสอบความแข็งแรงของเมล็ดเช้ือพันธุ์ดาวอินคาที่ผ่านการลด ความช้นื เมลด็ พนั ธใุ์ นระดับตา่ งๆ เพือ่ เกบ็ รักษาในท่ีสภาพอุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส และ -10 องศาเซลเซียส น้ัน มีอัตราลดลงเม่ืออายุการเก็บรักษาเพ่ิมขั้น โดยการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิ 5 องศาเซลเซียส สามารถลดความช้ืน ในเมลด็ เชอื้ พันธุ์ใหเ้ หลอื 6 เปอรเ์ ซน็ ต์ หรือตา่ กวา่ ไดโ้ ดยยงั คงเก็บรักษาความมชี ีวิตเกินร้อยละ50 ได้ภายในระยะเวลา 28 เดอื น

Abstract Conservation of Plukenetia Volubilis L. Seed was studied from October 2019 to September 2021. This research was studied on seed moisture content (%) and storage temperature which divided into three experiments according to storage condition; room temperature (25±2 °C), 5 °C and -10 °C by using Split plot design with 3 replications. The Main plot was seed moisture content (%) at different levels; 18 (initial) 8, 6, and 4. The sub plot was 15 levels of storage period (months) and checked the seeds viability and vigor. The findings indicated that the longer storage time caused the decrease in viability and vigor of Plukenetia Volubilis L. seeds after being kept in in 5 °C and -10 °C storage room. It was also revealed that the seed moisture content can be reduced to 6% or lower for 5 °C storage. It can still remain over 50% of the seed viability and vigor after storage for 28 months.

ข้อมลู การวจิ ยั และพฒั นาเทคนิคการอนุรักษ์เช้ือพนั ธุกรรมพชื

32

เทคนคิ การเกบ็ รักษาเมลด็ พันธบ์ุ วบหอมในสภาพเยือกแข็งเพอื่ การอนรุ ักษ์และการใชป้ ระโยชนใ์ นธนาคารเชื้อพนั ธ์ุพืช Cryopreservation Technique of Sponge Gourd (Luffa aegyptiaca) Seed Storage for Conservation and

Utilization in Genebank

บทคดั ยอ่ การเกบ็ รกั ษาเมลด็ พันธุ์ในสภาพเยือกแข็งเป็นทางเลือกหนึ่งในการอนุรักษ์เช้ือพันธุกรรมพืชท่ีช่วยลดข้ันตอน การนาเมลด็ ออกปลกู ฟน้ื ฟเู พอื่ ตอ่ อายแุ ละเพ่ิมปรมิ าณ งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อได้ข้อมูลระดับความชื้นของเมล็ดท่ี เหมาะสมและเทคนิคการเก็บรักษาเมล็ดพันธ์ุบวบหอมในสภาพเยือกแข็ง (-196 องศาเซลเซียส) สาหรับเป็นแนวทาง ในการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชสกุลบวบและเป็นข้อมูลบันทึกในระบบฐานข้อมูลเช้ือพันธุกรรมพืช ทาการทดลองที่ ห้องปฏิบัติการและแปลงปลูกฟื้นฟูพันธุกรรมพืชของกลุ่มวิจัยพัฒนาธนาคารเชื้อพันธุ์พืชและจุลินทรีย์ สานักวิจัย พัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ปทุมธานี ระหวา่ งเดอื นตุลาคม 2561 - กนั ยายน 2564 วางแผนการทดลองแบบ Split split plot design จานวน 4 ซ้า Main plot เป็นพันธ์ุบวบหอม จานวน 3 ตัวอย่างพันธุ์ คือ บวบหอมยาว บวบหอมสั้น และบวบหอมป่า Sub plot เป็นระดับความชื้นในเมล็ด คือ ความชื้นเร่ิมต้น(Control) 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ Sub- subplot เป็นระยะเวลาในการเก็บรักษา คือ 0(Control) 7 และ 180 วัน ผลการทดลอง พบว่า เม่ือลดความชื้นของ เมลด็ พนั ธบ์ุ วบหอมยาว บวบหอมสัน้ และบวบหอมปา่ ให้มรี ะดับความชน้ื ที่ 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ น้ัน เมล็ดพันธุ์บวบ หอมยาวและบวบหอมสัน้ ท่มี รี ะดบั ความชื้นของเมลด็ เร่ิมตน้ 8 และ 6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็น เวลา 0 7 และ 180 วัน พบว่า ความงอกของเมล็ดพันธุ์ไม่เปล่ียนแปลง แต่เมล็ดพันธุ์ที่มีระดับความช้ืนของเมล็ด 4 เปอร์เซ็นต์ พบวา่ ความงอกของเมลด็ พนั ธุ์มีแนวโน้มลดลง ในขณะท่ีเมล็ดพันธุ์บวบหอมป่าที่มีระดับความช้ืนของเมล็ด ท่ี 8 และ 6 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน ความงอกของเมล็ดพันธุ์ไม่ เปล่ียนแปลง แต่เมล็ดพันธุ์ท่ีมีระดับความชื้นของเมล็ดเร่ิมต้นและ 4 เปอร์เซ็นต์ ความงอกของเมล็ดพันธ์ุมีแนวโน้ม ลดลง สาหรับความแข็งแรงของเมล็ดพันธ์ุ พบว่า เมล็ดพันธุ์บวบหอมยาว บวบหอมสั้น และบวบหอมป่าท่ีมีระดับ ความชื้นของเมล็ดท่ีระดับเริ่มต้น 8 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ เม่ือเก็บรักษาในสภาพเยือกแข็งเป็นเวลา 0 7 และ 180 วัน พบว่าความแข็งแรงของเมล็ดพันธุ์ลดลง จากการทดลอง พบว่า ระดับความช้ืนของเมล็ดท่ีเหมาะสมต่อการเก็บรักษา เมล็ดพันธุ์บวบหอมท้ัง 3 ตัวอย่าง ในสภาพเยือกแข็ง ได้แก่ ระดับความชื้นในช่วง 6 - 8 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากบวบหอมมี ความแข็งแรงมากกว่าเมล็ดพันธุ์ท่ีมีระดับความชื้นเร่ิมต้น และ 4 เปอร์เซ็นต์ เม่ือนาเมล็ดบวบหอมยาว บวบหอมส้ัน และ บวบหอมป่า ไปปลูกทดสอบในสภาพแปลงปลูก พบว่า บวบหอมยาว และบวบหอมส้ันมีการเจริญเติบโตได้ดีทุกระยะ ตัง้ แต่ ระยะต้นกล้า ระยะเจรญิ เติบโตดา้ นลาตน้ ระยะออกดอก ระยะติดผล จนถงึ ระยะเก็บเกี่ยว ลักษณะทางสัณฐาน วิทยาเบ้ืองต้นสอดคล้องกับข้อมูลที่ปรากฏในคาบรรยายลักษณะพืช ในขณะท่ี บวบหอมป่า มีการเจริญเติบโตได้ดีใน ระยะต้นกลา้ และระยะเจรญิ เติบโตด้านลาตน้ แต่เมื่อเข้าส่รู ะยะออกดอก จนถึงระยะติดผลและเก็บเก่ียว พบว่า มีการ เจรญิ เติบโตท่ลี า่ ช้า ให้ผลผลิตน้อย และผลผลิตมีคณุ ภาพตา่

ขอ้ มูลการวจิ ยั และพัฒนาเทคนคิ การอนุรักษเ์ ชื้อพันธุกรรมพชื

33

Abstract Cryopreservation is an alternative technique for plant germplasm conservation that can lessen field regeneration process. This research aimed to investigate the optimum moisture content of sponge gourd seed for cryopreservation (-196 C) that can be used as practical guideline in luffa spp. seed storage and as basic data for database recording. This research was conducted at laboratory section and regeneration field of Genebank and Microorganism Research and Development Group, Biotechnology Research and Development Office, Pathumthani from October 2018 to September 2021. Split split plot design with 4 replicates was applied in this study. Main plot was the sample of sponge gourd (Luffa aegyptica) comprising Buab Hawm Yao, Buab Hawm San and Buab Hawm Pah. Sub plot was the percent of Seed Moisture Content (MC): (1) Initial MC% (Control), (2) 8%, (3) 6 % and (4) 4%. Sub-subplot was the storage time, namely 0 day, 7 days and 180 days. It was revealed that when stored all seeds in liquid nitrogen for 0, 7 and 180 days, Buab Hawm Yao and Buab Hawm San seeds with MC at Control 8 and 6 % showed no changes germination but their seeds with 4% of MC had declination of germination, meanwhile seed germination of Buab Hawm Pah seeds with MC at Control and 4% decreased. The findings indicated that seed vigor of all samples decreased after storing in liquid nitrogen for 0, 7 and 180 days. Due to the data of seed vigor, it can be assumed in this study that the optimum seed moisture content of all sponge gourd seeds was in the range of 6 – 8 %. The study about the growth of Buab Hawm Yao, Buab Hawm San and Buab Hawm Pah in the field after being stored in cryopreservation showed that Buab Hawm Yao and Buab Hawm San had good growth and showed normal morphological characteristics in all stages. On the other hand, Buab Hawm Pah had normal growth only from seedling stage to vegetative stage. It was found that Buab Hawm Pah showed reduction in plant growth, lower yield and inferior product quality in flowering and harvesting stages.

ขอ้ มลู การวิจยั และพฒั นาเทคนิคการอนรุ ักษเ์ ช้ือพันธกุ รรมพืช

34

ความมชี วี ิตและการเปลีย่ นแปลงปรมิ าณน้ามันของเมลด็ พันธุง์ าภายหลังการเกบ็ รักษาในสภาพเยือกแข็ง Viability and Oil Content of Sesame (Sesamum indicum L.) Seeds under Cryopreservation

บทคดั ยอ่ การศกึ ษาความมชี วี ิตระหว่างการเกบ็ รักษาและการเปลี่ยนแปลงปริมาณน้ามันงาภายหลังการเก็บรักษาเมล็ด พันธุ์งาในสภาพเยือกแข็ง ได้ทาการทดลองในห้องปฏิบัติการและเก็บรักษาเมล็ดเชื้อพันธ์ุของกลุ่มวิจัยและพัฒนา ธนาคารเชื้อพันธุ์พืช สานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ระหว่างเดือนตุลาคม 2562-กันยายน 2563 โดยศึกษาระดับ เปอร์เซ็นต์ความชน้ื ในเมลด็ พนั ธุง์ าก่อนเกบ็ รักษา ซงึ่ เปน็ ปจั จยั หลักท่มี ผี ลตอ่ การรกั ษาความมีชวี ติ และปริมาณน้ามันงา และส่งผลต่ออายุการเก็บรักษา โดยเปรียบเทียบกับการเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิห้องเป็นระยะเวลา 1 เดือน วาง แผนการทดลองแบบ Split Split plot design จานวน 4 ซ้า main plot คือ งาพันธ์ุรับรองของกรมวิชาการเกษตร 6 พันธุ์ ไดแ้ ก่ งาขาวพนั ธรุ์ อ้ ยเอด็ 1 งาขาวพนั ธ์ุมหาสารคาม 60 งาขาวพันธ์ุอบุ ลราชธานี 2 งาดาพันธ์ุอุบลราชธานี 3 งา แดงพนั ธอุ์ บุ ลราชธานี 1 และ งาแดงพนั ธุ์อบุ ลราชธานี 2 sub plot คอื ระดบั ความชน้ื ในเมล็ดเชอ้ื พันธุ์ 4 ระดับ ได้แก่ 8 (เริ่มต้น), 6, 4 และ 2 เปอร์เซ็นต์ และ sub sub plot เป็นระยะเวลาในการเก็บรักษา จานวน 3 ระดับ คือ 0 วัน, 7 วัน และ 1 เดือน พบว่างาทกุ พนั ธุไ์ ม่มกี ารเปลี่ยนแปลงความมชี วี ิต ความแข็งแรง และปริมาณน้ามันงา สามารถเก็บ รักษาในสภาพเยือกแข็งได้แต่ควรลดความชื้นในเมล็ดพันธุ์ให้อยู่ที่ระดับ 6 เปอร์เซ็นต์ หรือต่ากว่าจะช่วยยืดอายุการ เก็บรกั ษาให้ยาวนานขน้ึ

Abstract The study on cryopreservation of Sesamum indicum L. seed was carried out at Biotechnology Research and Development Office from October 2018 to September 2020. This research was conducted to study seed moisture content (%) which is the main factor affecting seed storage by comparison with ambient conditions for a period of 1 month. Split split plot design was laid out with 4 replicates of each condition. The main plot consisted of 6 certified sesame varieties of Department of Agriculture: 1) White-seeded cultivar “Roi et 1”, 2) White-seeded cultivar “Mahasarakhram 60”, 3) White-seeded cultivar “Ubonratchathani 2”, 4) Black-seeded cultivar “Ubonratchathani 3”, 5) Red-seeded cultivar “Ubonratchathani 1” and 6) Red-seeded cultivar “Ubonratchathani 2”. The sub plot consisted of 4 levels of seed moisture content (%): 8 (initial), 6, 4 and 2 and the sub sub plot consisted of 3 storage periods: 0 day, 7 days and 1 month. Seed viability by monitoring changes in percent of seed germination, seed vigor and oil content were recorded. The result showed that all varieties of sesame could be kept in cryopreservation but the seed moisture content should be reduced to 6 percent or lower to maintain seed viability and oil content of sesame seeds.

ขอ้ มลู การวจิ ยั และพัฒนาเทคนิคการอนุรกั ษเ์ ชื้อพนั ธกุ รรมพชื

35

เทคนคิ การเกบ็ รักษาเมลด็ พนั ธ์ผุ ักโขม(Amaranthus spp.)ในธนาคารเช้อื พันธุ์พชื Seed Conservation of Amaranthus spp.

บทคดั ยอ่ การศึกษาเทคนคิ การเก็บรกั ษาเมล็ดเชื้อพันธผ์ุ ักโขมในธนาคารเชอ้ื พันธพุ์ ชื ได้ทาการทดลองในห้องปฏิบัติการ และเก็บรักษาเมล็ดเช้ือพันธุ์ของกลุ่มวิจัยและพัฒนาธนาคารเช้ือพันธุ์พืช สานักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ ระหว่าง เดือนตุลาคม 2562 - กนั ยายน 2564 โดยศกึ ษาระดบั เปอรเ์ ซ็นต์ความชื้นในเมล็ดเชื้อพันธ์ุผักโขมซ่ึงเป็นปัจจัยหลักท่ีมี ผลตอ่ อายุการเก็บรักษา แบ่งเป็น 4 การทดลอง ตามอุณหภูมิการเก็บรักษา คือ สภาพอุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส และ -10 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 18 เดือน แต่ละการทดลองวางแผนการทดลองแบบ Split plot design จานวน 3 ซ้า main plot คือ ระดับความช้ืนในเมล็ดเชื้อพันธุ์ 4 ระดับ ได้แก่ 10 (เริ่มต้น), 8, 6 และ 4 เปอร์เซ็นต์ และ sub plot คอื ระยะเวลาในการเกบ็ รกั ษา 18 เดอื น โดยเก็บข้อมูลความมีชีวิตและความแข็งแรงทุก 2 เดือน รวม 10 ระดับ พบว่าระดับความช้ืนในเมล็ดเชื้อพันธ์ุก่อนการเก็บรักษาและอุณหภูมิในการเก็บรักษามีผลต่อความมีชีวิต และความแข็งแรงของเมล็ดเชื้อพันธ์ุผักโขม สามารถเก็บรักษาได้นานเกิน 18 เดือน เม่ือเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้อง 5 องศาเซลเซียส และ -10 องศา โดยเปอร์เซ็นต์ความงอกจากการทดสอบความมีชีวิตและความแข็งแรงของเมล็ดเช้ือ พันธ์ุผักโขมน้นั มอี ตั ราลดลงเล็กน้อยเมอ่ื อายุการเก็บรกั ษาเพิ่มข้ึน

Abstract Conservation of Amaranthus L. Seed was studied from October 2019 to September 2021. This research was studied on seed moisture content (%) and storage temperature which divided into three experiments according to storage condition; room temperature (25±2 °C), 5 °C and -10 °C by using Split plot design with 3 replications. The Main plot was seed moisture content (%) at different levels; 10 (initial) 8, 6, and 4. The sub plot was 10 levels of storage period (months) and checked the seeds viability and vigor. The result showed that seed moisture content before storage and storage temperature affected the amaranthus seed viability and seed vigor. It was also revealed that after being stored in 5 °C and -10 °C storage room, the seeds can be conserved for more than 18 months with a slight decrease of seed vigor and seed viability.

ขอ้ มลู การวิจัยและพฒั นาเทคนคิ การอนุรักษเ์ ชื้อพนั ธกุ รรมพืช

36

การขยายพันธ์ุมันสาคู (Maranta arundinacea L.) ในสภาพปลอดเชอื้ เพอ่ื การอนุรกั ษ์ Micropropagation Technique of Maranta arundinacea for Conservation บทคัดย่อ

มนั สาคเู ปน็ พชื ทม่ี ศี กั ยภาพสามารถพัฒนาเปน็ พืชเศรษฐกิจได้เน่ืองจากแป้งที่ผลิตได้จากเหง้ามันสาคูเป็นแป้ง ที่มีค่าดชั นนี า้ ตาลตา่ เหมาะสาหรบั ทาเปน็ อาหารเพ่ือสขุ ภาพ ปัจจบุ นั มีการเพาะปลูกมันสาคูในพ้ืนท่ีค่อนข้างจากัดและ พบเห็นได้น้อยลง จึงได้นาเทคนิคการเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือมาพัฒนาการขยายพันธุ์มันสาคูเพ่ือเป็นการสนับสนุนและ ส่งเสริมการปลูกมันสาคู โดยศึกษาเทคนิคการฟอกฆ่าเช้ือโดยใช้หน่อต้นมันสาคูฟอกฆ่าเช้ือด้วยเอทานอล 70% นาน 10 วินาที และคลอรอกซ์ความเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ นาน 15 นาที ตามด้วยการฟอกด้วยคลอรอกซ์ความเข้มข้น 25 เปอร์เซ็นต์ นาน 5 นาที พบเนื้อเย่ือที่ปลอดการปนเป้ือนของเช้ือ 16.7 เปอร์เซ็นต์ แล้วทาการศึกษาสูตรอาหารท่ี เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงเน้ือเยื่อเพ่ือชักนาการเกิดยอด โดยนาช้ินส่วนหน่ออ่อนที่มียอดความสูงประมาณ 2 ซม. เล้ยี งบนอาหารสตู ร MS ที่เติมสารสารเบนซิลอะดนี ิน (BA) ความเข้มข้น 0, 1.5 และ 3.0 mg/l เล้ียงภายใต้สภาพแสง ปกติและเลี้ยงภายใต้สภาพมืด พบว่ามันสาคูท่ีเลี้ยงภายใต้สภาพแสงปกติและสภาพมืดให้ผลไม่แตกต่างกัน แต่การ เล้ียงบนอาหาร MS ที่เติมสาร BA มีแนวโน้มชักนาการเกิดยอดได้ และทาการศึกษาเพ่ิมปริมาณต้น โดยนาชิ้นส่วน หน่ออ่อนท่ีมียอดความสูงประมาณ 2 ซม. เลี้ยงบนอาหารสูตร MS ท่ีเติมสารกรดแนพทาลีนแอซิติก (NAA) ความ เข้มขน้ 0, 0.5 และ 1 mg/l ร่วมกับสารเบนซิลอะดีนิน (BA) ความเข้มข้น 0, 3.0 และ 6.0 mg/l พบว่ามันสาคูที่เลี้ยง บนอาหาร MS ที่เติมสาร BA ความเข้มข้น 6.0 mg/l เพียงอย่างเดียวสามารถชักนาให้เกิดยอดสูงสุดเฉล่ีย 5.5 ยอด ส่วนการเกิดรากพบว่ามนั สาคเู ล้ียงบนอาหาร MS ทไ่ี ม่เติมฮอรโ์ มนช่วยชักนาการเกิดรากสูงสุดเฉลี่ย 4.6 ราก และยาว เฉลี่ย 4.49 เซนติเมตร นอกจากนี้ยังมีการศึกษาการย้ายออกปลูกในสภาพโรงเรือนโดยนาต้นมันสาคูท่ีมีการราก สมบรู ณ์ปลูกในวัสดุปลูกดินผสม:กาบมะพร้าวสับ:ทราย อัตราส่วน 4:1:1 แล้วคลุมด้วยถุงพลาสติกเพ่ือรักษาความชื้น ระวังไม่ให้ใบสัมผัสถุง ปรับความชื้นโดยเปิดปากถุงท่ีละน้อยวางไว้ในที่ร่ม พบว่าอัตราการรอด 100 เปอร์เซ็นต์ การศึกษาการชะลอการเจริญเติบโตต้นมันสาคู โดยใช้สูตรอาหารลดปริมาณ MS ได้แก่ MS, ½ MS และ ¼ MS ร่วมกับการปรับปริมาณน้าตาลซูโครส (sucrose) 30, 45 และ 60 g/l พบว่าต้นมันสาคูใช้สูตรอาหาร ½ MS เพาะเล้ยี งไดน้ านกว่าสูตรอ่ืนๆจะทาให้มีรอ้ ยละการรอดชวี ิตสงู ขึ้นเมื่อเล้ยี งเปน็ เวลานาน 5 เดอื น

ข้อมูลการวิจัยและพัฒนาเทคนิคการอนรุ กั ษ์เชื้อพันธุกรรมพืช

37

Abstract Arrowroot is alternative crop with potential to be developed into an economic crop. Starch produced from rhizomes of arrowroot is low glycemic index starch suitable for healthy food. Currently, arrowroot was cultivated in a quite limited area. The study on shoot multiplication by in vitro propagation technique was done in this research. The result showed that appropriate sterilization for rhizome buds of arrowroot with 70% ethanol for 10 sec and 20% Clorox for 15 min followed by 25% Clorox for 5 min. It was found that this sterilization method can prevent explants from contamination up to 16.7%. Apart from sterilization technique, shoot multiplication was also conducted in this research. The microplants from rhizome buds (~2 cm) were transferred to MS medium supplemented with 0, 1.5 and 3.0 mg/l Benzyladenine (BA) in light and dark conditions. Arrowroot cultured in light condition showed no difference with dark condition. In this study, MS medium supplemented with BA tended to induced shoots. The micropropagation was also conducted in this research. The microplants from rhizome buds (~2 cm) were transferred to MS medium supplemented with 0, 0.5 and 1 mg/l Naphthalene acetic acid (NAA) and 0, 3.0, 6.0 mg/l BA. The results showed that addition of 6.0 mg/l BA alone could induce the average number of shoots of 5.5. The results demonstrated that MS alone could induce the number of root and root length. They also suggested the MS without NAA and BA was the better medium for root induction. It provided the average root number of 4.6 and average root length of 4.49 cm. The acclimatized plants to healthy vigorous and get domesticated in greenhouse with soil: coconut husk chips: sand (4: 1: 1) gave high survival rate up to 100%. Slow growth treatment improved percent survival and extended subculture time without any effect on the tissue or plant viability. In vitro slow growth was attempted by culturing on MS, ½ MS, and ¼ MS supplemented with 30, 45 and 60 g/l sucrose. The plants could survive on ½ MS until 5 month and were still vigorous.

ขอ้ มลู การวิจัยและพัฒนาเทคนคิ การอนรุ ักษ์เช้ือพันธุกรรมพืช

38

การขยายพันธม์ุ นั ขีห้ นใู นสภาพปลอดเชื้อเพ่ือการอนุรกั ษ์ In Vitro Propagotion of Plectranthus rotundifolius for Conservation

บทคัดยอ่ มันข้ีหนูเป็นพืชท้องถิ่นทางภาพใต้ของประเทศไทย และเป็นล้มลุกฤดูเดียว นิยมนามาใช้ประกอบอาหาร พ้ืนบ้านทางภาคใต้ และขยายพันธุ์โดยใช้หัว หัวถูกทาลายด้วยไส้เดือนฝอยในแปลงปลูก จึงมีวัตถุประสงค์เพ่ือ การศึกษาวิธกี ารขยายพันธ์ุ และการอนุรักษ์ในสภาพปลอดเชื้อ พบว่า มันข้ีหนูสามารถขยายเพิ่มปริมาณได้โดยการใช้ สว่ นของยอดมันขีห้ นใู นสภาพปลอดเชือ้ ได้ในอาหารสงั เคราะห์สตู ร MS+ IAA1มก./ล. + BA3มก./ล. หลังจากน้ันชักนาให้ เกดิ รากบนอาหารสตู รสงั เคราะห์ MS + IBA 2 มก./ล. (MSr) และการเก็บรกั ษามนั ข้ีหนูในสภาพปลอดเชื้อ (การชะลอ การเจริญเติบโต) สามารถเก็บรักษาได้นานสูงสุด 6 เดือน อย่างมีนัยสาคัญย่ิงทางสถิติ แม้ไม่มีการ subculture เม่ือ เล้ยี งบนอาหารสตู รสงั เคราะห์ ¼ MS + mannitol 10 ก./ล. และเม่ือนาช้ินส่วนสีเขียวกลับมาทดสอบอัตราการรอด ชีวิตบนอาหารสูตรสังเคราะห์ MS + IAA 1 mg/l + BA 3 mg/l. ก่อนย้ายลงบนอาหารสูตรสังเคราะห์ MSr สามารถ เจริญเติบโตไดต้ ามปกติ สามารถเจริญเติบโตได้

Abstract Plectranthus rotundifolius is a plant native to southern Thailand, and a biennial for one season. It is commonly used for cooking local dishes in the south and propagated by tubers. The head being destroyed by nematodes, so this be the cause in propagated and the conservation. It was found that the apex plant could be propagated by in vitro method with MS + IAA 1 mg/l + BA 3 mg/l. The roots induction were achieved in MS + IBA 2 mg/l (MSr). The result revealed that the plants cultured on ¼ MS + mannitol 10 g/l could be conserved by in vitro for 6 months without a subculture had the significantly highest. The green parts of those plantlets were tested their survival rate to MS + IAA 1 mg/l + BA 3 mg/l followed on MSr. It showed that they were able to grow normally.

ขอ้ มลู การวจิ ัยและพัฒนาเทคนิคการอนุรกั ษ์เชื้อพันธกุ รรมพชื

39

การอนุรักษ์ขิงพระพุทธบาท (Zingiber tenuiscapus) และตะไคร้พราน (Zingiber citriodorum) พืชถ่นิ เดียวของ ไทยในสภาพปลอดเช้อื

In vitro conservation of Zingiber tenuiscapus and Zingiber citriodorum; an Endemic Species in Thailand บทคดั ยอ่

ขิงพระพุทธบาท (Zingiber tenuiscapus) และตะไคร้พราน (Zingiber citriodorum) เป็นพืชถิ่นเดียวของ ไทยจัดอยู่ในวงศ์ขิง ซ่ึงท่ีมีขอบเขตการกระจายพันธ์ุจากัดในพื้นท่ีที่มีลักษณะเฉพาะ ในธรรมชาติขยายพันธ์ุโดยไม่ อาศัยเพศ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรพืชถน่ิ เดยี วจึงมคี วามจาเป็นอยา่ งย่งิ เพือ่ เก็บรกั ษาพรรณพืชท่ีหายากที่อาจมีศักยภาพ ในเชิงเศรษฐกิจในอนาคต งานวิจัยน้ีได้ทาการศึกษาเพิ่มปริมาณต้นขิงพระพุทธบาทและตะไคร้พราน และการอนุรักษ์ ในสภาพปลอดเชอ้ื โดยใชส้ ารควบคุมการเจริญเติบโต (ออกซนิ และไซโตไคนนิ ) อาหารเพาะเลี้ยง (MS medium) และ น้าตาลซูโครส ท่ีระดับความเข้มข้นต่างๆ พบว่าอาหารสูตร MS ท่ีสามารถชักนาให้เกิดยอดได้มากท่ีสุดสาหรับขิงพระ พุทธบาทและตะไคร้พราน คือ อาหาร MS ที่เติม BA 3 มก./ล. และ อาหาร MS ที่เติม BA 3 มก./ล. ร่วมกับ NAA 1 มก./ล ตามลาดบั โดยสามารถชักนาให้เกิดยอดได้เฉลี่ย 20.9 และ 9ยอด/ช้ินส่วน ตามลาดับ เมื่อทาการเพาะเลื้ยงใน อาหารเพื่อชะลอการเจริญเติบโต 12 สูตร พบว่าสูตรอาหารที่เหมาะสมสาหรับการชะลอการเจริญเติบโตของขิงพระ พทุ ธบาท คอื ½ MS หรอื ¼ MS ทเ่ี ตมิ น้าตาลซูโครส 15 ก./ล. และสูตรท่ีเหมาะสมสาหรับชะลอการเจริญเติบโตของ ตะไคร้พราน คือ ½ MS ท่ีเติมน้าตาลซูโครส 15 ก./ล. สามารถชะลอการเจริญเติบโตในสภาพปลอดเชื้อได้นาน มากกวา่ 8 เดือน โดยไม่ต้องเปลยี่ นถ่ายอาหารใหม่

ข้อมลู การวิจัยและพฒั นาเทคนิคการอนรุ กั ษ์เช้ือพนั ธกุ รรมพชื

40

Abstract Zingiber tenuiscapus and Zinigiber citriodorum are endemic species of Thailand, classified in Zingiberaceae Family. Which found a limited distribution in a specific area. These species are asexually propagated in the natural conditions. The conservation of endemic plant is therefore essential to the preservation of rare plant that may have future economic viability. Therefore, this research tried to apply tissue culture techniques to multiply and conserve these species. In vitro multiplication and growth minimization of Z. tenuiscapus and Z. citriodorum were used various concentrations of factors such as plant growth regulators (auxin and cytokinin), MS media and sucrose. The results indicated that the highest shoot number of Z. tenuiscapus and Z. citriodorum (20.9 and 9 shoots per explant) was obtained from MS medium supplemented with 3 mg/l BA and MS medium supplemented with 3 mg/l BA and 1 mg/l NAA, respectively. ½ MS and ¼ MS, both contained 15 g/l sucrose, were found as suitable media for in vitro growth minimization of Z. tenuiscapus. And the suitable Medium for minimal growth of Z. citriodorum was ½ MS contained 15 g/l sucrose as they can be conserved for more than 8 months without subculture.

ขอ้ มูลการวิจยั และพฒั นาเทคนคิ การอนรุ ักษเ์ ชื้อพนั ธกุ รรมพืช

41

การอนุรักษ์พนั ธกุ รรมพืชสมุนไพร : ระย่อมน้อย (Rauvolfia serpentina (L.) Benth. Ex Kurz) ในสภาพปลอดเช้ือ Conservation of Medicinal Plant : (Rauvolfia serpentina (L.) Benth.exKurz) on In Vitro บทคดั ยอ่ ระย่อมน้อย (Rauvolfia serpentina (L.) Benth. ex Kurz) เป็นหน่ึงในพืชสมุนไพรที่สาคัญท่ีถูกจัดอยู่ใน

ประเภทที่ใกล้สูญพันธ์ุ เน่ืองจากส่วนรากของระย่อมน้อยมีสารสาคัญคือ reserpine และ phenolic compounds ที่ ช่วยในการรักษาโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น จึงมีการขุดต้นและรากเพ่ือนามาขายเป็น สมุนไพรพื้นบ้าน ในขณะท่ีการขยายพันธ์ุในธรรมชาติค่อนข้างต่า ประกอบกับมีการเจริญเติบโตได้ในสภาพนิเวศน์ที่ ค่อนข้างจากัด งานวิจัยนี้จึงได้ทาการศึกษาการเพ่ิมปริมาณ และการอนุรักษ์ในสภาพปลอดเช้ือ พบว่าอาหารสูตร MS + IAA 0.1 ml/l + BA 3 ml/l ยอดระยอ่ มน้อยจะเจรญิ เติบโตและแตกยอดดีที่สุดโดยชักนาใหเ้ กิดยอดเฉล่ีย 12.6 ยอด/ช้นิ ส่วน จากนัน้ ศึกษาการชะลอการเจริญเติบโตของระย่อมน้อยในสภาพปลอดเชื้อโดยใช้อาหารสูตร MS + IAA 0.1 ml/l + BA 3 ml/l เติมสารชะลอการเจริญเติบโตได้แก่ สารพาโคลบิวทราโซล (paclobutrazol, PBZ) และ น้าตาลแมนนิทอล (mannitol) โดยวางแผนการทดลองแบบ 4x 4 factorial in CRD จานวน 3 ซ้า โดยปัจจัย A คือ สาร PBZ 4 ความเขม้ ขน้ ได้แก่ 0, 5, 10 และ 15 มลิ ลิกรัมต่อลติ ร ปจั จัย Bคือ สาร mannitol 4 ความเข้มข้น คือ 0, 10, 20 และ 30 กรัมต่อลิตร รวม 16 กรรมวิธี สาหรับการชะลอการเจริญเติบโตในสภาพปลอดเช้ือของระย่อมน้อย พบวา่ สามารถเพาะเลี้ยงไดน้ านถึง 4 เดอื น โดยไมต่ ้องเปลยี่ นถา่ ยอาหารใหม่

ขอ้ มลู การวจิ ยั และพัฒนาเทคนิคการอนรุ ักษ์เช้ือพนั ธกุ รรมพชื

42

บรรณำนกุ รม กรมพัฒนาท่ดี นิ . มปป. ประวัตแิ ละความสาคญั ของถัว่ เหลือง สบื ค้นจาก

www.ldd.go.th/Lddwebsite/web_ord/Technical//P_Technical06028.pdf [2 พฤษภาคม2557] กรมวิชาการเกษตร. 2548. กวาวเครือขาว-พืชมหัศจรรย์. โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.

กรงุ เทพฯ. 41 หนา้ . กรมวิชาการเกษตร. 2550. รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ : โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตกวาวเครือขาว. กองทุน

สนบั สนุนงานวิจยั กรงุ เทพฯ. 166 หน้า. กญั จนา ดีวิเศษ. 2542. ผกั พ้นื บา้ นภาคกลาง. โรงพิมพอ์ งค์การสงเคราะห์ทหารผา่ นศึก, กรุงเทพฯ 280 หนา้ . กาญจนา รุ่งรัชกานนท์ และอริยาภรณ์ พงษ์รัตน์. 2551. การเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือหนอนตายหยาก (Stemona

collinsae Craib.). วารสารวชิ าการ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. 10(2):1-13. กุหลาบ สทิ ธสิ วนจกิ . 2553. แป้งทนต่อการย่อยด้วยเอนไซม์: แป้งเพ่อื สขุ ภาพ. กา้ วทันโลกวิทยาศาสตร์, 10(2):70-77. จวงจนั ทร์ ดวงพตั รา. 2521. เทคโนโลยขี องเมลด็ พนั ธุ์. กลุ่มหนังสอื เกษตร, กรุงเทพฯ. 210 น. จวงจนั ทร์ ดวงพัตรา. 2529. การตรวจสอบและวเิ คราะห์คุณภาพเมล็ดพันธุ์. กลุ่มหนงั สือเกษตรกรุงเทพฯ. 9 น. จวงจันทร์ ดวงพัตรา. 2529. เทคโนโลยเี มล็ดพันธ.์ุ กล่มุ หนังสือเกษตร. กรงุ เทพฯ. ชนวัตร พึ่งนนทสกุล. 2554. คุณค่าของสมุนไพรไทยเพื่อชีวิตที่มีคุณค่า. สืบค้นจาก: //www.yodsunthon

network.com. [22 ม.ี ค. 2562] ชานิ (นามแฝง). 2556. การปลูกสาคู. นานาสาระเกษตร สืบค้นจาก: //nanasarakaset.blogspot

.com/2013/04/blog-post.html. [20 เมษายน 2560]. ฎายิน ทัศนเสถียร. 2543. คุณสมบัติและการนาไปใช้ประโยชน์ของแป้งมันขี้หนู. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์

มหาบัณฑติ , บณั ฑิตวิทยาลยั ,มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์. ธนากร วงษศา หนึ่งฤทัย จักรศรี และอนพุ ันธ์ กงบังเกดิ . 2564. ผลของความเข้มข้นสูตรอาหารร่วมกับน้าตาลซูโครส

ต่อการเก็บรักษาหน่ออ่อนกล้วยไข่กาแพงเพชรในสภาพปลอดเชื้อ. วารสารวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวยิ าลยั ราชภฏั อุดรธานี. 9(2) : 139-151. ธนาภร รตธิ รรมธร. 2560. แปง้ ตา้ นทานการยอ่ ย. วารสารวทิ ยาศาสตรบ์ รู พา, 22(1): หน้า 166-176. ธิดารัตน์ ทองแผ่ ทัศนี ขาวเนียม และ สมปอง เตชะโต. (2558). ผลของสูตรอาหารและสภาพวางเล้ียงต่อการชักนา เอ็มบรโิ อเจนิคแคลลสั จากคัพภะอ่อนของปาล์มน้ามันพิสิเฟอรา (Elaeis guineensis Jacq. var. Pisifera). วารสารพชื ศาสตร์สงขลานครินทร์. 2(2): 41-45. นชุ จรี สงิ หพ์ นั ธ์ และ สรุ ีภรณ์ ยอดดี. 2563. การเจริญเติบโตของมันจาวพรา้ วในสภาพทาเทยี มความเข้มข้นของแมน นทิ อลแตกตา่ งกนั . วารสารนเรศวรพะเยา 13(1) : 21-25. บัวหลวง จ้อยปอย มณฑา วงศม์ ณีโรจน์ และภาณี ทองพานัก. 2542. เทคนิคการเก็บรักษาเชื้อพันธุกรรมท่ีสาคัญของ พชื ผัก และไม้ผลที่สาคัญทางเศรษฐกจิ ภายใต้สภาพเยน็ ยง่ิ ยวด.

ขอ้ มูลการวิจยั และพัฒนาเทคนิคการอนุรักษ์เช้ือพนั ธุกรรมพืช

43

บัวหลวง จ้อยปอย, ประเทือง ดอนสมไพร, มณฑา วงศ์มณีโรจน์ และภาณี ทองพานัก. 2542. การเก็บรักษาพันธุกรรม พืชผักที่สาคัญทางเศรษฐกิจในสภาพเย็นย่ิงยวดในไนโตรเจนเหลว -196 องศาเซลเซียส. หน้า 240-241. ในรวม บทคดั ย่อผลงานวิจัยของคณาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาไทย ในระหว่างปี 2540-2542. สานักงานปลัดกระทรวง ทบวงมหาวทิ ยาลัย.

ปรชั ญา คงทวีเลิศ. 2560. มหศั จรรยง์ าดา. แหล่งที่มา:, 8 มิถนุ ายน 2560. ปราณี แสนวงศ์. 2550. วิธีการทาลายการพักตัวของเมล็ดพันธ์ุบวบหอม. แหล่งท่ีมา: www.agri.ubu.ac.th/

masterstu/docs/20080430-Pranee.doc, 15 มิ.ย. 2560 ปราโมทย์ ทิพย์ดวงตา, สุวรรณา เวชอภิกุล, สุนีย์ จันทร์สกาว และวิสินี จันทร์มหเสถียร. 2548. การศึกษา

เปรียบเทียบปริมาณสารองค์ประกอบสาคัญจากกวาวเครือขาวในช่วงเวลาต่างๆ. คณะเภสัชศาสตร์. มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่: เชียงใหม.่ ปาจารีย์ อินทชุบ. 2551. พืชสกุลหนอนตายหยาก (Stemona Lour.) บางชนิดในประเทศไทย. วารสารข่าวศูนย์ ปฏิบตั ิการวจิ ยั และเรือนปลูกพชื ทดลอง. 22(2): 20-23. แผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ. 2560-2564. 2560. สืบค้นจาก: //www.dtam.moph.go.th/images/download/dl0021/MasterPlanThaiherb.pdf. [22 ม.ี ค. 2562] พนมกร ขุนอ่อน. 2550. การใช้น้าสกัดชีวภาพสมุนไพรหนอนตายหยากควบคุมหนอนแมลงวันบ้าน. วิทยานิพนธ์ ปริญญาโท. คณะพฒั นาสังคมและสิง่ แวดลอ้ ม, สถาบันบญั ฑติ พฒั นบรหิ ารศาสตร.์ พีรศักดิ์ วรสุนทโรสถ สุนทร ดุริยะประพันธ์ ทักษิณ อาชวาคม สายันต์ ตันพานิช ชลธิชา นิวาสประกฤติ และปรียา นันท์ ศรสูงเนิน. 2544. PROSEA ทรพั ยากรพืชในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 9 พืชท่ีให้คาร์โบไฮเดรต ที่ไม่ใช้เมล็ด. สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย กรงุ เทพฯ. 299 หนา้ . พืชเกษตร.คอม เว็บเพ่ือพืชเกษตรไทย. 2557. ต้นสาคู/สาคูไทย/ปาล์มสาคู/สาคูพุทธรักษา ประโยชน์ และสรรพคุณ ตน้ สาค.ู พืชผัก/สมนุ ไพร. สืบคนจาก: //puechkaset.com/ตน้ สาค/ู . [25 เมษายน 2560]. เพญ็ ศริ ิ วงษ์อาท. 2558. ถ่ัวดาวอินคา ปลูก 1 ไร่ ได้ 1 แสน. วารสารเศรษฐกิจการเกษตร. ปที ี่ 61 ฉบับท่ี 706. 60 น. ไพบูลย์ ปะนาเส. 2551. ผลของสารกาจัดแมลงชีวภาพจากหนอนตายหยาก (Stemona curtisii Hook.f.) และสารภี (Mammea siamensis Miq. T.) ต่อระดับอะซิทิลโคลีนเอสเทอเรสและกิจกรรมไลโซไซม์ในปลานิล (Oreochromis niloticus). วทิ ยานพิ นธป์ ริญญาโท ภาคชวี วิทยา มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่. ภัทร์พชิ ชา รจุ ิระพงศ์ชยั , ศริ พิ ร ซึงสนธพิ ร และ กาญจนา พฤกษพันธ์ .2556. สัณฐานวิทยาของเมล็ดวัชพืชวงศ์ผักโขม Amaranthaceae (Seed Morphology of Amaranthaceae Weed). รายงานผลงานวิจัยประจาปี ๒๕๕๖ สานักวิจัยพฒั นาการอารกั ขาพชื . กรมวชิ าการเกษตร. น. 2083-2105. ภาณี เตมีศักด์ิ, มณฑา วงศมณีโรจน, บัวหลวง ผันแปร และประเทือง ดอนสมไพร. 2542. การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ และคพั ภะพชื ผักในสภาพเย็นยง่ิ ยวด. การประชมุ พันธศุ าสตรแ์ ห่งชาติ ครัง้ ท่ี 10 ณ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยี สุรนารี จ.นครราชสมี า.

ข้อมลู การวิจยั และพัฒนาเทคนิคการอนรุ กั ษเ์ ช้ือพันธกุ รรมพืช

44

ภาณี ทองพานัก, มณฑา วงศมณโี รจน, บัวหลวง จอยปอย และ พีระศักด์ิ ศรีนิเวศน. 2543. การเก็บรักษาพันธุกรรม พืชพื้นบานในระยะยาวนานภายใตสภาพเย็นยิ่งยวด. ในการประชุมวิช าการเมล็ดพันธุแหงช าติ คร้ังท่ี 5. มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์ กรงเทพฯ.

ภาณี ทองพานัก, มณฑา วงศมณีโรจน, บัวหลวง จอยปอย และพีระศักด์ิ ศรีนิเวศน. 2540ก. การเก็บรักษาเมล็ด พันธุ์พืชภายใต้สภาพเย็นย่ิงยวด. รายงานวิจัยเบื้องต้น โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเน่ืองมาจาก พระราชดาริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานเก็บรักษาพันธุกรรมพืช กิจกรรมปลูก รักษา. ธนั วาคม 2540.

ภาณี ทองพานัก, มณฑา วงศมณีโรจน, บัวหลวง จอยปอย และพีระศักด์ิ ศรีนิเวศน. 2540ข. การเก็บรักษาเมล็ด พันธุ์พืชภายใต้สภาพเย็นย่ิงยวด. การประชุมวิชาการครั้งท่ี 14 เร่ืองเทคนิคและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ชีวภาพ. ศูนยป์ ฏบิ ัตกิ ารวิจยั และเรอื นปลูกทดลอง, มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ นครปฐม.

ภาณี ทองพานัก, มณฑา วงศมณีโรจน, บัวหลวง จอยปอย และพีระศักดิ์ ศรีนิเวศน. 2541. การเก็บรักษาเมล็ด พันธุ์ถ่ัวเหลืองและถ่ัวเหลืองฝักสดภายใต้สภาพเย็นยิ่งยวด. การประชุมถ่ัวเหลืองแห่งชาติ คร้ังที่ 7 ณ มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธริ าช จ.นนทบุรี.

ภาณี ทองพานกั ประเทือง ดอนสมไพร มานะชัย ทองบญุ รอด เนตรชนก นุ้ยสี รุ่งอาสาฬหะ พัฒนธารา บัวหลวง พันแปร และสุดใจ ลอ้ เจรญิ . 2549. ธนาคารพันธกุ รรมพชื 50 ปี แห่งการวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. การ ประชมุ วิชาการทรพั ยากรไทย : สรรพสิ่งล้วนพนั เก่ยี ว (ภาคบรรยาย หนา้ 167 - 172)

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกาแพงแสน ฝ่ายปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง. กรุงเทพฯ. 2540. 28 หน้า

เมฆ จันทรป์ ระยูร. 2541. ผักสวนครัว. โรงพมิ พไ์ ททรรศน,์ กรงุ เทพฯ. 144 หนา้ . ยงศักดิ์ ขจรผดุงกิตติ และอัญชลี จาละ. 2557. อิทธิพลของ BA และ NAA ท่ีมีต่อการเพ่ิมจานวนยอดต้นพรมมิ โดยการ

เพาะเลย้ี งเนอื้ เยื่อ. Thai Journal of Science and Technology. 3 (1):7–14. รังสฤษฎดิ์ กาวีต๊ะ. (2541). การเพาะเลี้ยงเน้ือเย่ือพืช: หลักการและเทคนิค . กรุงเทพฯ: สานักพิมพ์

มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์ 219 หน้า. รงั สฤษดิ์ กาวีตะ๊ . 2540. การเพาะเล้ียงเน้ือเย่ือพืช หลักการและเทคนิค. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ. 219

หน้า. รุจน์ สุทธิศรี. 2547. สารเอสโตรเจนจากพืช (phyoestrogen). ภาควิชาเภสัชวิทยา. คณะเภสัชศาสตร์.จุฬาลงกรณ์

มหาวิทยาลยั . กรงุ เทพมหานคร. วราภรณ์ ภตู ะลุน. 2551. การเพาะเลีย้ งเนอ้ื เยอื่ พชื สมุนไพร: แนวทางการศึกษาเพื่อผลิตสารทุติยภูมิท่ีมีฤทธ์ิทางเภสัช

วิทยา, สานกั พิมพข์ อนแก่นพิมพ์พฒั นา, ขอนแก่น, 120 หนา้ .

ข้อมลู การวจิ ยั และพฒั นาเทคนคิ การอนุรักษเ์ ชื้อพันธุกรรมพชื

45

วันชัย จันทร์ประเสริฐ และ เสาวรี ตังสกุล. 2544. การเปลี่ยนแปลงความชื้นและความงอกในระหว่างเก็บรักษาของ

เมล็ดงา 3 พันธุ์ ภายใต้สภาพความช้ืนสัมพัทธ์ 4 ระดับ. หน้า 250-263. ใน : รายงานการประชุมวิชาการ

งา ทานตะวัน ละหุง่ และคาฝอยแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี 2. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร.์

วนั ชัย จนั ทร์ประเสริฐ. 2538. สรรี วิทยาเมล็ดพนั ธ.ุ์ ภาควิชาพืชไรน่ า คณะเกษตร มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร,์ กรุงเทพฯ.

วนั ชัย จนั ทรป์ ระเสริฐ. 2542. เทคโนโลยีเมล็ดเชื้อพนั ธ์ุพชื ไร่. กรงุ เทพฯ : สานักพิมพ์มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร.์

วันดี กฤษณพันธ์, เอมอร โสมนะพันธุ์ และเสาวณี สุริยาภณานนท์. 2541. สมุนไพรในสวนครัว. เมดิคัล มีเดีย, กรุงเทพฯ.

295 หน้า.

วันดี รังสีวิจิตรประภา, ไชยวัฒน์ ไชยสุต, จินตนา นภาพร, นัทที พัชราวนิช และจารุวรรณ ธนวิรุฬห์. มปป. การ

พั ฒ น า ส า ร ส กั ด ถั่ ว เ ห ลื อ ง บ ร ร จุ แ ค ป ซู ล แ ล ะ ก า ร ก า ห น ด ข น า ด รั บ ป ร ะ ท า น สื บ ค้ น จ า ก

//www.arda.or.th/kasetinfo/north/research_soybean/research_soybean 39.pdf

[3 พฤษภาคม 2557]

วัลลภ สันติประชา. 2550. เทคโนโลยีเมล็ดพันธุ์. สงขลา: ภาควิชาพืชสาสตร์ คณะทรัพยากรธรรมชาติ

มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่.

วิทย์ เทย่ี งบรู ณธรรม. 2542. พิมพ์ครง้ั ที่ 5. พจนานกุ รมสมุนไพรไทย. โรงพมิ พอ์ ักษรพิทยา, กรงุ เทพฯ. 880 หน้า.

วิทิต วัณนาวิบูล. 2552. หมอชาวบ้าน. บวบหอม. แหล่งท่ีมา: //www.doctor. or.th/taxonomy/

term/4270, 4 ก.ย. 2552

วีระพล จันทร์สวรรค์ สถาพร จิตตปาลพงศ์ และนงนุช จันทราช. 2536. ประสิทธิภาพของสารสกัดจากหนอนตายห

ยากตอ่ เหบ็ โค. ว.เกษตรศาสตร์ (วทิ ย์.). 27:336-340.

วุฒิ วฒุ ธิ รรมเวช. 2552. ยอ่ เภสัชกรรมไทยและสรรพคุณสมุนไพร. พิมพ์คร้ังท่ี 3. ศิลป์สยายบรรจุภัณฑ์และการพิมพ์,

กรุงเทพฯ. 224 น.

ศศิวิมล จันทร์สุเทพ. 2553. การผลิตสาร plumbagin จากการเพาะเล้ียงเนื้อเย่ือ hairy root ของเจตมูลเพลิงแดง

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้