ล ชวน บ นท กในห วงร ก เล ม 2.pdf

ร่าย

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา ได้ฟังฝูงเทพเทวา ผ่านฟ้ากริ้วโกรธดั่งเพลิงกาฬ เหม่เหม่ไอ้ตรีบูรัม มาทำองอาจอวดหาญ มันนี้เสียสัตย์ปัฏิญาณ กูจะผลาญให้ม้วยชีวี ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา ดูราองค์ท้าวโกสีย์ ซึ่งจะดับเข็ญในครั้งนี้ เห็นว่าไม่มีผู้ใด ถึงองค์บรมพรหเมศ พระนารายณ์เรืองเดชไม่ปราบได้ จิตุบทจิตุบาทจงเร่งไป เชิญไทพรหเมศนารายณ์มา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จิตุบทจิตุบาทแกล้วกล้า ก้มเกล้ารับเทวบัญชา ถวายบังคมลาแล้วเหาะไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงพระเป็นเจ้าสององค์ นั่งลงยอกรบังคมไหว้ ทูลว่าพระจอมภพไตร ให้ข้ามาแจ้งเหตุการณ์ ด้วยตรีบูรัมอสุรา ย่ำยีเทวาทุกสถาน ได้ความเดือดร้อนรำคาญ ขอเชิญบทมาลย์ไปบัดนี้ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระจักราธาดาเรืองศรี ได้ฟังรับสั่งพระศุลี ต่างสำแดงฤทธีแล้วเหาะไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ ถึงไศลไกรลาศบรรพต ยอกรประณตประนมไหว้ คอยฟังบัญชาเจ้าภพไตร ที่ในท่ามกลางเทวา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระสยมภูวนาถนาถา เห็นองค์บรมพรหมา กับพระจักราเรืองฤทธิ์ จึ่งตรัสว่าบัดนี้ตรีบูรัม มันทำสาธารณ์ทุจริต เราจะสังหารผลาญชีวิต ให้สิ้นพิษสิ้นเสี้ยนธาตรี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์พรหเมศเรืองศรี รับเทวบัญชาพระศุลี นบนิ้วดุษฎีแล้วทูลไป ซึ่งจะดับเข็ญให้เย็นเกศ ทั่วฝูงเทเวศร์น้อยใหญ่ พระคุณลํ้าลบภพไตร ดั่งฉัตรชัยบังแสงทินกร ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระมงกุฎไกรลาสสิงขร จึงมีบัญชาอันสุนทร ซึ่งจะไปราญรอนขุนมาร ครั้งนี้เป็นศึกดึกดำบรรพ์ จะอยู่ชั่วกัปกัลป์อวสาน กราบเท่านารายณ์อวตาร ลงไปสังหารอสุรา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ยานี

๏ ตรัสแล้วเอากำลังพรหเมศ ประสมเดชพระองค์อันแกล้วกล้า เป็นเกราะเพชรอลงกตรจนา ศักดาเลิศลํ้าธาตรี จึงเอากำลังพระเมรุนั้น เป็นคันธนูชัยศรี ชื่อมหาโลหะโมลี มีอานุภาพเพริศพราย เอากำลังอนันตนาคา ซึ่งมีพิษมาเป็นสาย อันกำลังองค์พระนารายณ์ เป็นลูกศรผลาญกายอสุรี แต่บรรดาศัสตราอาวุธ ล้วนกำลังเทพบุตรทุกราศี เสร็จแล้วองค์พระศุลี ให้จัดโยธีชาญฉกรรจ์ ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จิตุบทฤทธิแรงแข็งขัน รับสั่งพระองค์ทรงธรรม์ ถวายบังคมคัลแล้วออกมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

ยานี

๏ จัดเอาพระขันทกุมาร อันเรืองเดชชัยชาญเป็นทัพหน้า คุมอสุรโขมดมารยา พระราหูถือเทพธงชัย องค์พระพิเนตรเป็นปีกซ้าย คุมห่าโหงพรายน้อยใหญ่ พระพินายผู้ปรีชาไว เป็นปีกขวาให้คุมคนธรรพ์ เกียกกายพระกาลชาญฤทธิ์ คุมวิทยาธรแข็งขัน ยกกระบัตรนั้นท้าวเวสสุวัณ คุมหมู่กุมภัณฑ์เข้าราวี พระเพลิงกองหลังรั้งท้าย คุมอสุรกายภูตผี กวัดแกว่งอาวุธเป็นโกลี คอยเสด็จเจ้าตรีโลกา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

ร่าย

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา ครั้นรุ่งรางสร่างแสงสุริยา เสด็จมาโสรจสรงชลธาร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

โทน

๏ ชำระสระสนานสำราญองค์ ทรงสุคนธาทิพย์หอมหวาน สนับเพลาเชิงงอนอลงการ ภูษิตทองผสานดวงลอย ชายแครงชายไหวไหวระยับ พลอยประดับจับแสงดั่งหิ่งห้อย ฉลององค์เกราะแก้วอย่างน้อย สอดสร้อยทับทรวงสังวาลวัลย์ ตาบทิศทองกรมังกรพด พาหุรัดมรกตทับทิมคั่น ธำมรงค์เพชรเหลืองเรือนสุบรรณ มงกุฎแก้วกุดั่นกรรเจียกจร ห้อยพวงมาลัยดอกไม้ทัด ดอกไม้ทิพย์จำรัสประภัสสร จับมหาโมลีฤทธิรอน ฝูงเทพนิกรก็ตามมา ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ บาทสกุณี

๏ ครั้นถึงจึ่งทรงอุศุภราช ฤทธิรงค์องอาจแกล้วกล้า ให้เคลื่อนทัพเทพยาตรา พระราหูโบกธงนำไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

โทน

๏ โคอุศุภราช ร้ายกาจรณรงค์สูงใหญ่ สี่เท้าด่างผ่องยองใย หางขาวอำไพโสภา หน้าแด่นดั่งใบโพธิ์ทอง ขับคล่องว่องไวใจกล้า ผูกเครื่องอร่ามทั้งกายา แต่ล้วนมหาเนาวรัตน์ ประดับด้วยอภิรุมชุมสาย ธงทิวริ้วรายกรรชิงฉัตร พัดโบกโบกบนดั่งลมพัด ปี่กลองเป็นขนัดประโคมครึก เสียงโห่พ่างเพียงจะล่มภพ พลหาญร่านรบคะนองศึก แกว่งอาวุธวามคำรามฮึก คึกคึกเร่งรีบเหาะไป ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงโสฬสนคร จึ่งหยุดนิกรทัพใหญ่ สั่งพระโอรศยศไกร ให้เข้าล้อมราชธานี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระขันทกุมารเรืองศรี รับสั่งแล้วขับโยธี เข้าไปโดยมีพระบัญชา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บัดนั้น ฝ่ายหมู่ปิศาจแกล้วกล้า โห่ร้องอื้ออึงคะนึงมา ดากันเข้าล้อมเมืองมาร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายตรีบูรัมใจหาญ สถิตบัญชรแก้วอลงการ ขุนมารทอดทัศนาไป เห็นหมู่อริราชไพรี ยกพลโยธีทัพใหญ่ ล่วงมาถึงราชเวียงชัย ก็กริ้วโกรธดั่งไฟประลัยกัลป์ เหม่เหม่ใครหนอทะนงฤทธิ์ ไม่กลัวชีวิตจะอาสัญ พลน้อยนิดหนึ่งเท่านั้น หรือจะครั้นฝีมืออสุรา ตรัสแล้วมีราชโองการ สั่งเสนามารหาญกล้า จงเกณฑ์พหลโยธา กูจะไปเข่นฆ่าไพรี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จี่งมหาเสนายักษี รับสั่งพระองค์ทรงธรณี ถวายอัญชลีแล้วกลับไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

ร่าย

๏ เลือกสรรจัดกันเป็นหมู่หมวด เตรียมตรวจตามกระบวนพยุหใหญ่ ล้วนถืออาวุธเกรียงไกร พร้อมไว้ในหน้าพระลาน ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ตรีบูรัมฤทธิไกรใจหาญ แต่งองค์ทรงเครื่องอลงการ จับตระบองทะยานมาขึ้นรถ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ ให้เคลื่อนพิชัยรัถา ผงคลีมืดฟ้าบังบด โห่สนั่นครั่นครื้นถึงโสฬส ขับทศโยธารีบไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ กราว

๏ ครั้นออกมานอกพระทวาร จึ่งให้หยุดพลทหารน้อยใหญ่ ตั้งเป็นทัพขันมั่นไว้ แลไปเห็นองค์เจ้าโลกา หน้าซีดผาดเผือดตะลึงคิด น้อยจิตเศร้าโทมนัสสา ทั้งกลัวทั้งแค้นแน่นอุรา พญามารมิได้อัญชุลี แล้วร้องไปด้วยอหังการ ไฉนพระทรงญาณเรืองศรี จึ่งยกโยธามาราวี เรานี้มีผิดสิ่งใด ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระปิ่นไกรลาสเขาใหญ่ ได้ฟังก็ร้องตอบไป เหวยอ้ายจังไรใจฉกรรจ์ ตัวเองเป็นพาลทุจริต ถือผิดมืดมัวโมหันธ์ เดิมเมื่อขอพรกูวันนั้น ว่าจะรักษาธรรม์ประเวณี เหตุใดจึ่งเบียนโลกา เทวามนุษย์แลฤๅษี ให้ได้ความเดือดร้อนทั้งธาตรี กูไม่ไว้ชีวีขุนมาร ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น อสุรีตรีบูรัมใจหาญ ได้ฟังเทวราชโองการ ให้คิดเดือดดาลอหังการ์ แม้นมาตรถึงพรหมลิขิต สู้เสียชีวิตประเสริฐกว่า กูไม่ง้องอนพระอิศรา ให้ปรากฏไว้ในธาตรี คิดแล้วสั่งหมู่กุมภัณฑ์ จงแยกกันออกตีภูตผี ฆ่าเสียให้สิ้นชีวี ด้วยกำลังฤทธีชัยชาญ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น จึ่งหมู่อสุราทวยหาญ ก้มเกล้ารับสั่งพญามาร ก็ขับกันทะยานออกไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ บ้างไล่โรมรันฟันฟาด จะเกรงปีศาจก็หาไม่ รุกราญหาญหักชิงชัย โห่สนั่นหวั่นไหวเป็นโกลา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พระขันทกุมารแกล้วกล้า ครั้นเห็นอสุรโยธา ดากันเข้าตีผีไพร กริ้วโกรธพิโรธดั่งเพลิงกาฬ กระทืบบาทสะท้านสะเทือนไหว ขับพลโหงห่าเข้าชิงชัย ลุยไล่ล้างพวกกุมภัณฑ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ หัวขาดตัวขาดดาษดา ด้วยกำลังฤทธาแข็งขัน ตายแตกแยกยับทับกัน ไล่ฟันหักโหมโจมตี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น จึ่งตรีบูรัมยักษี เห็นพลแตกตายไม่สมประตี อสุรีกวัดแกว่งคทาวุธ โลดโผนโจนจากรถชัย ไล่พลผีไพรอุตลุด เสียงสนั่นถึงชั้นคนิรุทร ดั่งแผ่นดินจะทรุดด้วยศักดา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา เห็นตรีบูรัมอสุรา เข้ามาต่อตีด้วยผีไพร โกรธาแผดเสียงสีหนาท ขับโคศุภราชรุกไล่ จับนารายณ์ซึ่งเป็นศรชัย ก็ผาดแผลงไปด้วยฤทธิ์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิดฉิ่ง

๏ ลั่นถึงสามหนไม่พ้นสาย เพราะองค์นารายณ์หลับสนิท พระศุลีกริ้วโกรธดั่งเพลิงพิษ ก็ทิ้งศรสิทธิ์เสียจากกร ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระนารายณ์ซึ่งเป็นศร ตกใจฟื้นกายขึ้นจากนอน ภูธรกราบบาทพระศุลี ทูลว่าซึ่งข้าไม่ลังหาร ผลาญตรีบูรัมยักษี ด้วยพระองค์มงกุฎธาตรี มิให้ข้าล้างอสุรา จึ่งเผอิญให้เคลิ้มหลับไป ด้วยประสาทพรไว้แก่ยักษา ซึ่งเคืองใต้เบื้องบาทา ขอเจ้าโลกาจงปรานี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมเรืองศรี ได้ฟังทูลตอบเห็นชอบที จึงมีพจนารถตรัสไป อันตรีบูรัมขุนมาร สังหารด้วยศรแล้วไม่ได้ จำจะฆ่าเสียด้วยตาไฟ ให้ม้วยไหม้เป็นภัสม์ธุลีกัลป์ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ตรัสแล้วจับกล้องมณี กวัดแกว่งรัศมีฉายฉัน ส่องเนตรจำเพาะกุมภัณฑ์ ด้วยฤทธีอันชัยชาญ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ บัดเดี๋ยวก็เป็นเพลิงกรด ไหม้หมดรี้พลทวยหาญ ทั้งตรีบูรัมขุนมาร ก็วายปราณด้วยเดชพระศุลี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ โอด

๏ ครั้นเสร็จซึ่งปราบอสุรยักษ์ พระผู้หลักโลกเฉลิมศรี ให้เอาธนูโมลี ไปไว้ธานีมิถินลา เกราะแก้วนั้นมอบแก่ดาบส พระอัคตะทรงพรตฌานกล้า คอยพระหริรักษ์จักรา จะอวตารลงมาปราบยักษ์ ให้ถวายพระองค์ทรงครุฑ สำหรับกันอาวุธปรปักษ์ แล้วเลิกโยธาสุรารักษ์ ไปอัครสถานวิมานฟ้า ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เชิด

ช้า

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายพระมเหสีทั้งห้า องค์ท้าวลัสเตียนอสุรา แต่สี่กัลยานั้นมีครรภ์ ประสูติเป็นราชกุมาร รูปทรงสะคราญแข็งขัน อันบุตรสุนนทานั้น ชื่อกุเปรันอสุรี ฝ่ายเทพนาสูรเรืองฤทธิ์ ลูกจิตรมาลาโฉมศรี บุตรสุวรรณมาลัยเทวี มีนามชื่ออัครธาดา อันโอรสนางวรประไพ ให้ชื่อมารันยักษา ทั้งสี่ยุพเรศกัลยา เสน่หาดั่งดวงชีวัน เช้าคํ่าผดุงบำรุงรัก เชยพักตร์ขับกล่อมถนอมขวัญ พี่เลี้ยงนางนมทั้งนั้น จัดสรรเลือกให้ที่สะคราญ ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ เจรจา

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกน้ำใจกล้าหาญ ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ ประทานให้ล้างเท้าเทวา อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า บ้างให้ตักนํ้าล้างบาทา บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงาในนํ้าแล้วร้องไห้ ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย มิตายจะได้มาเห็นหน้า คิดแล้วก็รีบเดินมา เฝ้าพระอิศราธิบดี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ เสมอ

๏ ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์ ผู้ใดทำชอบต่อเบื้องบาท ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์ ตัวข้าก็มีชอบนัก ล้างเท้าสุรารักษ์ถึงโกฏิปี พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้ ทูลพลางโศกีรำพัน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมรังสรรค์ เห็นนนทกโศกาจาบัลย์ พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตา จึ่งมีเทวราชบรรหาร เอ็งต้องการสิ่งไรจงเร่งว่า ตัวกูจะให้ดั่งจินดา อย่าแสนโศกาอาลัย ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนทกผู้มีอัชฌาสัย น้อมเศียรบังคมแล้วทูลไป จะขอพรเจ้าไตรโลกา ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธี จะชี้ใครจงม้วยสังขาร์ จะได้รองเบื้องบาทา ไปกว่าจะสิ้นชีวี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระสยมภูวญาณเรืองศรี ได้ฟังนนทกพาที ภูมีนิ่งนึกตรึกไป ไอ้นี่มีชอบมาช้านาน จำจะประทานพรให้ คิดแล้วก็ประสิทธิ์พรชัย จงได้สำเร็จมโนรถ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนทกผู้ใจสาหส รับพรพระศุลีมียศ บังคมลาแล้วบทจรไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เสมอ

๏ ครั้นถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่ คอยหมู่เทวาสุราลัย ด้วยใจกำเริบอหังการ์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น เทวาสุราฤทธิ์ทุกทิศา สุบรรณคนธรรพ์วิทยา ต่างมาเฝ้าองค์พระศุลี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เหาะ

๏ ครั้นถึงซึ่งเชิงไกรลาส คนธรรพ์เทวราชฤๅษี ก็ชวนกันย่างเยื้องจรลี เข้าไปยังที่อัฒจันทร์ ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ

๏ นนทกก็ล้างเท้าให้ เมื่อจะไปก็จับหัวสั่น สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวัน สรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ บัดนั้น นนทกน้ำใจแกล้วกล้า กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมา อนิจจาข่มเหงเล่นทุกวัน จนหัวไม่มีผมติด สุดคิดที่เราจะอดกลั้น วันนี้จะได้เห็นกัน ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ต้องสุบรรณเทวานาคี ดั่งพิษอสุนีไม่ทนได้ ล้มฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด บรรลัยไม่ทันพริบตา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ โอด

๏ เมื่อนั้น หัสนัยน์เจ้าตรัยตรึงศา เห็นนนทกนั้นทำฤทธา ชี้หมู่เทวาวายปราณ ตกใจตะลึงรำพึงคิด ใครประสิทธิ์ให้มันมาสังหาร คิดแล้วขึ้นเฝ้าพระทรงญาณ ยังพิมานทิพรัตน์รูจี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เสมอ

๏ ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี ว่านนทกมันทำฤทธี ชี้หมู่เทวานั้นบรรลัย อันซึ่งนิ้วเพชรของมัน พระทรงธรรม์ประสิทธิ์หรือไฉน จึ่งทำอาจองทะนงใจ ไม่เกรงใต้เบื้องบาทา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา ได้ฟังองค์อมรินทรา จึ่งมีบัญชาตอบไป ไอ้นี่ทำชอบมาช้านาน เราจึ่งประทานพรให้ มันกลับทรยศกบฏใจ ทำการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา ดูราพระนารายณ์เรืองศรี ตัวเจ้าผู้มีฤทธี เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ จงช่วยระงับดับเข็ญ ให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรค์ เชิญไปสังหารไอ้อาธรรม์ ให้มันสิ้นชีพชีวา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น องค์พระนารายณ์นาถา รับสั่งถวายบังคมลา ออกมาแปลงกายด้วยฤทธี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ ตระ

๏ เป็นโฉมนางเทพอัปสร อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี กรายกรย่างเยื้องจรลี ไปสู่ที่นนทกจะเดินมา ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด เพลง

๏ บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า สิ้นเวลาเฝ้าเจ้าโลกา สำราญกายาแล้วเที่ยวไป ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

ชมโฉม

๏ เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์ พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไร งามนัยน์เนตรงามกร งามถันงามกรรณงามขนง งามองค์ยิ่งเทพอัปสร งามจริตกิริยางามงอน งามเอวงามอ่อนทั้งกายา ถึงโฉมองค์อัครลักษมี พระสุรัสวดีเสน่หา สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน ดูไหนก็เพลินจำเริญรัก ในองค์เยาวลักษณ์สาวสวรรค์ ยิ่งพิศยิ่งคิดผูกพัน ก็เดินกระชั้นเข้าไป ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เข้าม่าน

ชาตรี

๏ โฉมเอยโฉมเฉลา เสาวภาคย์แน่งน้อยพิสมัย เจ้ามาแต่สวรรค์ชั้นใด นามกรชื่อไรนะเทวี ประสงค์สิ่งอันใดจะใคร่รู้ ทำไมมาอยู่ที่นี่ ข้าเห็นเป็นน่าปรานี มารศรีจงแจ้งกิจจา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

ร่าย

๏ เมื่อนั้น นางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา ได้ฟังยิ่งทำมารยา ชำเลืองนัยนาแล้วตอบไป ทำไมมาล่วงไถ่ถาม ลวนลามบุกรุกเข้ามาใกล้ ท่านนี้ไม่มีความเกรงใจ เราเป็นข้าใช้เจ้าโลกา พนักงานฟ้อนรำระบำบัน ชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา มีทุกข์จึ่งเที่ยวลงมา หวังว่าจะให้คลายร้อน ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

ร่าย

๏ สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดล้ำเทพอัปสร ทั้งวาจาจริตก็งามงอน ควรเป็นนางฟ้อนวิไลลักษณ์ อันซึ่งธุระของเจ้า หนักเบาจงแจ้งให้ประจักษ์ ถ้าวาสนาเราเคยบำรุงรัก ก็จะเป็นภักดิ์ผลสืบไป ตัวพี่มิได้ลวนลาม จะถือความสิ่งนี้นี่ไม่ได้ สาวสวรรค์ขวัญฟ้ายาใจ พี่ไร้คู่จะพึ่งแต่ไมตรี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น นางเทพนิมิตโฉมศรี ค้อนแล้วจึ่งตอบวาที ว่านี้ไพเราะเป็นพ้นไป อันซึ่งจะฝากไมตรีข้า ข้อนั้นอย่าว่าหารู้ไม่ เราเป็นนางรำระบำใน จะมีมิตรที่ใจผูกพัน ในการนักเลงเพลงฟ้อน จึ่งจะผ่อนด้วยความเกษมสันต์ รำได้ก็มารำตามกัน นั่นแหละจะสมดั่งจินดา ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า ไม่รู้ว่านารายณ์แปลงมา ก็โสมนัสสาพันทวี ยิ้มแล้วจึ่งกล่าวสุนทร ดูก่อนนางฟ้าเฉลิมศรี เจ้าจักปรารมภ์ไปไยมี พี่เป็นคนเก่าพอเข้าใจ เชิญเจ้ารำเถิดนะนางฟ้า ให้สิ้นท่าที่นางจำได้ ตัวพี่จะรำตามไป มิให้ผิดเพลงนางเทวี ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี เห็นนนทกหลงกลก็ยินดี ทำทีเยื้องกรายให้ยวนยิน ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

พระทอง

๏ เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน กินรินเลียบถํ้าอำไพ อีกช้านางนอนภมรเคล้า ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต ทั้งพิสมัยเรียงหมอน ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์ ฝ่ายว่านนทกก็รำตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง ถึงท่านาคาม้วนหางวง ชี้ตรงถูกเพลาทันใด ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เพลง

๏ ด้วยเดชนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์ ขาหักล้มลงไม่ทนได้ นางกลายเป็นองค์นารายณ์ไป เหยียบไว้จะสังหารราญรอน ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ บัดนั้น นนทกแกล้วหาญชาญสมร เห็นพระองค์ทรงสังข์คทาธร เป็นสี่กรก็รู้ประจักษ์ใจ ว่าพระหริวงศ์ทรงฤทธิ์ ลวงล้างชีวิตก็เป็นได้ จึ่งมีวาจาถามไป โทษข้าเป็นไฉนให้ว่ามา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์บรมนาถา ได้ฟังจึ่งมีบัญชา โทษามึงใหญ่หลวงนัก ด้วยทำโอหังบังเหตุ ไม่เกรงเดชพระอิศวรทรงจักร เอ็งฆ่าเทวาสุรารักษ์ โทษหนักถึงที่บรรลัย ตัวกูก็คิดเมตตา แต่จะไว้ชีวามึงไม่ได้ ตร้สแล้วแกว่งตรีเกรียงไกร แสงกระจายพรายไปดั่งเพลิงกาฬ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วหาญ ได้ฟังจึ่งตอบพจมาน ซึ่งพระองค์จะผลาญชีวี เหตุใดมิทำซึ่งหน้า มารยาเป็นหญิงไม่บัดสี หรือว่ากลัวนิ้วเพชรนี้ จะชี้พระองค์ให้บรรลัย ตัวข้ามีมือแต่สองมือ หรือจะสู้ทั้งสี่กรได้ แม้นสี่มือเหมือนพระองค์ทรงชัย ที่ไหนจะทำได้ดั่งนี้ ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี ได้ฟังจึ่งตอบวาที กูนี้แปลงเป็นสตรีมา เพราะมึงจะถึงแก่ความตาย ฉิบหายด้วยหลงเสน่หา ใช่ว่าจะกลัวฤทธา ศักดานิ้วเพชรนั้นเมื่อไร ชาตินี้มึงมีแต่สองหัตถ์ จงไปอุบัติเอาชาติใหม่ ให้สิบเศียรสิบพักตร์เกรียงไกร เหาะเหินเดินได้ในอัมพร มีมือยี่สิบซ้ายขวา ถือคทาอาวุธธนูศร กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี ให้สิ้นวงศ์พงศ์มึงอันศักดา ประจักษ์แก่เทวาทุกราศี ว่าแล้วกวัดแกว่งพระแสงตรี ภูมีตัดเศียรกระเด็นไป ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ เชิด โอด

๏ ครั้นล้างนนทกมรณา พระจักราผู้มีอัชฌาสัย เหาะระเห็จเตร็จฟ้าด้วยว่องไว ไปยังเกษียรวารี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ฝ่ายนางรัชดามเหสี องค์ท้าวลัสเตียนธิบดี เทวีมีราชบุตรา คือว่านนทกมากำเนิด เกิดเป็นพระโอรสา ชื่อทศกัณฐ์กุมารา สิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร อันน้องซึ่งถัดมานั้น ชื่อกุมภกรรณชาญสมร องค์พระบิตุเรศมารดร มิให้อนาทรสักนาที ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศกัณฐ์กุมารยักษี ครั้นจำเริญวัยสิบสี่ปี อสุรีถวิลจินดา จะใคร่เรียนศิลปศาสตร์ ให้เรืองอำนาจแกล้วกล้า ก็เสด็จยุรยาตรคลาดคลา มาเฝ้าพระชนกชนนี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นถึงน้อมเศียรบังคมบาท พระบิตุราชมารดาทั้งสองศรี ทูลว่าอันตัวของลูกนี้ ไม่มีวิชาสิ่งใด จะขอลาไปอยู่พนาวัน กับพระนักธรรม์ผู้ใหญ่ ร่ำเรียนธนูศิลป์ชัย พระองค์จงได้เมตตา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น พระชนกชนนีนาถา ได้ฟังลูกรักทูลลา แสนโสมนัสสาพันทวี สวมสอดกอดไว้แล้วรับขวัญ เจ้าดวงชีวันเฉลิมศรี พ่อจะไปอยู่ด้วยมุนี ที่ในอรัญบรรพต ฝึกสอนธนูศิลป์ชัย ร่ำเรียนสิ่งใดให้ได้หมด จงสมปรารถนาพระโอรส ให้พระยศนั้นเลื่องลือขจร ฯ

ฯ ๖ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศกัณฐ์กุมารชาญสมร ประนมก้มเกล้ารับพร ของพระบิดรชนนี ครั้นแล้วประณตบทบงสุ์ ลาองค์กษัตริย์ทั้งสองศรี ออกจากลงกาบุรี ตรงไปยังที่อรัญวา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ ครั้นมาถึงอาศรมสถาน พระโคบุตรอาจารย์ฌานกล้า เข้าไปยังบรรณศาลา มัสการพระมหานักพรต ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น องค์พระโคบุตรดาบส เห็นลูกท้าวลัสเตียนทรงยศ จึ่งมีพจนารถถามไป ดูก่อนทศกัณฐ์กุมารา เจ้ามาด้วยเหตุเป็นไฉน จึ่งไม่มีโยธาข้าไท ตานี้สงสัยเป็นพ้นนัก ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศเศียรสุริย์วงศ์ทรงจักร ได้ฟังยอกรขึ้นเพียงพักตร์ จึงว่าหลานรักออกมา จะเรียนศิลปศาสตร์พระอาจารย์ ให้ชํานาญชาญฤทธิ์แกล้วกล้า ขอองค์สมเด็จพระอัยกา จงได้เมตตาปรานี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระโคบุตรมหาฤๅษี ได้ฟังชื่นชมยินดี ลูบหลังอสุรีแล้วตอบไป ความรู้ของตานี้หนักหนา เจ้าจงอุตส่าห์จะบอกให้ ทั้งการธนูศิลป์ชัย ก็จะได้ดั่งใจทุกประการ ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เจรจา

๏ เมื่อนั้น ทศกัณฐ์สุริย์วงศ์ใจหาญ ตั้งจิตปรนนิบัติพระอาจารย์ เรียนวิชาการเป็นนิจไป ว่องไวในที่ธนูศร ชํานาญกรยิงแม่นหาผิดไม่ ทั้งไตรเพทเวทมนต์สิ่งใด ก็จําได้ด้วยไวปัญญา ครั้นรุ่งก็กราบมัสการ ลาพระอาจารย์ฌานกล้า ออกจากอาศรมศาลา เที่ยวไปในป่าพนาดร ฯ

ฯ ๖ คํา ฯ

๏ เดินทางหว่างเขาลำเนาทุ่ง เวิ้งวุ้งห้วยธารสิงขร พบสวนอรชุนฤทธิรอน ขุนยักษ์บทจรเข้าไป ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ ชมไพร

๏ ลดเลี้ยวเที่ยวชมสุมามาลย์ แบ่งบานช่อช้อยอยู่ไสว สาวหยุดนางแย้มแกมใบ มะลิซ้อนหงอนไก่ประยงค์ กรขวาคว้าหักกิ่งแก้ว ซ้ายเด็ดนมแมวมหาหงส์ พิกุลกุหลาบคันทรง กาหลงสารภีจําปา ร้อยลิ้นอินจันตูมตาด ปริงปรางลางสาดพลวงหว้า ทุเรียนมังคุดละมุดสีดา ลําไยพะวาน่าชม ไม้ม่วงพวงผลสุกห่าม ใบงามชิดชื่นรื่นร่ม กรรณิการ์การะเกดสุกรม เที่ยวชมทั้งสระปทุมมาลย์ ลินจงจงกลนีแย้ม อุบลแนมแกมฝักชูก้าน ประพาสเล่นเป็นสุขสำราญ ที่ในอุทยานพนาลี ฯ

ฯ ๑๐ คำ ฯ เพลง

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงพระอรชุนเรืองศรี อยู่ในวิมานรัตนมณี ยังยอดคีรีจักรวาล เรืองฤทธิ์สิทธิศักดิ์ด้วยศิลป์ศร ขจรเดชดั่งองค์สุริยฉาน ทั้งหกชั้นฟ้าบาดาล ผู้ใดไม่ทานฤทธี เจ็ดวันกำหนดเคยประพาส ชมพรรณรุกขชาติในสวนศรี อ่าองค์ทรงเครื่องอันรูจี สะพักศรเหน็บตรีแล้วเหาะไป

ฯ ๖ คํา ฯ เชิด

๏ ครั้นถึงซึ่งสวนมาลา เห็นพรรณพฤกษาน้อยใหญ่ กิ่งหักเดียรดาษประหลาดใจ ใครทำดังนี้ไม่เกรงกัน เหลือบไปก็เห็นขุนยักษ์ สิบเศียรสิบพักตร์ขบขัน โกรธาว่าเหวยกุมภัณฑ์ นามกรมึงนั้นชื่อไร อันซึ่งสุริย์วงศ์พงศา อยู่พาราตำบลหนไหน เอ็งจึ่งอาจองทะนงใจ มาหักมิ่งไม้ในอุทยาน ไม่เกรงกูผู้ทรงศรสิทธิ์ ทศทิศเลื่องชื่อลือหาญ มึงมาถึงมือพระกาล ตัวกูจะผลาญเสียบัดนี้ ฯ

ฯ ๘ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น ทศพักตร์กุมารยักษี ได้ฟังกริ้วโกรธดั่งอัคคี อสุรีร้องตอบวาจา เอ็งนี้มีนามชื่อไร เจรจาหยาบใหญ่เกินหน้า ตัวกูผู้ทรงศักดา ชื่อว่าทศกัณฐ์ขุนมาร หน่อท้าวลัสเตียนสุริย์วงศ์ ซึ่งดำรงลงการาชฐาน องค์พระโคบุตรผู้มีฌาน เป็นอาจารย์บอกศรศิลป์ชัย กูมาเที่ยวเก็บพฤกษา หารู้ว่าสวนของใครไม่ เห็นดอกไม้บานตระการใจ คิดว่าเป็นไพรพนาลี เอ็งอย่าอ้างอวดศักดา จะสู้กูพญาราชสีห์ ตัวมึงดั่งหนึ่งมฤคี น่าที่จะม้วยชีวัน ฯ

ฯ ๑๐ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระอรชุนรังสรรค์ ได้ฟังกริ้วโกรธคือไฟกัลป์ ตัวสั่นร้องตวาดประกาศไป กูชื่ออรชุนเทเวศร์ เรืองเดชฟากฟ้าดินไหว ว่าแล้วกวัดแกว่งศรชัย เข้าไล่ราญรอนอสุรา ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น ทศกัณฐ์กุมารใจกล้า หลบหลีกรับรองเป็นโกลา แกว่งศรเงื้อง่าเข้าโจมตี ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ

๏ ต่างหาญต่างกล้าองอาจ ต่างฟาดต่างรับไม่ถอยหนี ต่างหมายเข่นฆ่าราวี ต่างน้าวศรศรียิงกัน ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น องค์พระอรชุนรังสรรค์ ชักศรพาดสายยืนยัน แผลงสนั่นหวั่นไหวโกลา ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ ศรนั้นกลับกลายเป็นภุชงค์ ไล่กระหวัดรัดองค์ยักษา ผูกมัดรัดทั่วกายา พาขึ้นเวหาตระเวนไป ฯ

ฯ ๒ คํา ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พระมหาโคบุตรอาจารย์ใหญ่ สมาธิเข้าฌานสำรวมใจ อยู่ในอรัญกุฎี ได้ยินสำเนียงกัมปนาท ดังฟ้าฟาดตกต้องคีรีศรี เอะแล้วทศกัณฐ์อสุรี ไปป่ามีเหตุประการใด ตัวกูจำจะไปตาม ให้รู้เนื้อความจงได้ ตริแล้วออกจากศาลาลัย เหาะไปด้วยฤทธิ์พระนักธรรม์ ฯ

ฯ ๖ คํา ฯ เชิด

๏ มาพบพระอรชุนเทเวศร์ ให้ภุชงค์ทรงเดชตัวขยัน ผูกมัดรัดกายทศกัณฐ์ ตระเวนไปในชั้นเมฆา ตกใจกลัวว่าทศกัณฐ์ จะม้วยชีวันสังขาร์ จึ่งว่าดูกรเทวา เหตุใดมาทำดังนี้ ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระอรชุนผู้ชาญชัยศรี ได้ฟังพระมหามุนี จึงว่าอสุรีมันสาธารณ์ มาหักมิ่งไม้ในสวนข้า แล้วอวดฤทธากล้าหาญ กลับกล่าวถ้อยคำอหังการ จึ่งทำประจานให้สาใจ ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น พระโคบุตรผู้มีอัชฌาสัย ได้ฟังก็ปลอบตอบไป พระองค์จงได้เมตตา อันทศพักตร์นี้ทำผิด ชีวิตถึงสิ้นสังขาร์ มันเป็นศิษย์รูปแต่เยาว์มา ขอประทานชีวาอสุรี ฯ

ฯ ๔ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น องค์พระอรชุนเรืองศรี ฟังพระโคบุตรมุนี พาทีอ้อนวอนก็อ่อนใจ จึ่งว่าพระองค์ได้ขอโทษ ถึงโกรธก็จำจะยกให้ ว่าแล้วแก้มัดเสียทันใด ก็เหาะไปวิมานรัตนา ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น พระโคบุตรอาจารย์ฌานกล้า ก็พาทศกัณฐ์อสุรา เหาะมาอรัญกุฎี ฯ

ฯ ๒ คำ ฯ เชิด

๏ มาจะกล่าวบทไป ถึงพระมเหศวรเรืองศรี ส่องเนตรลงไปในปัถพี ภูมีก็แจ้งในวิญญาณ์ ว่านนทกนั้นไปกำเนิด เกิดเป็นทศพักตร์ยักษา โอรสลัสเตียนในลงกา สิบเศียรสิบหน้ายี่สิบกร หยาบคายร้ายกาจเป็นพ้นนัก ไตรจักรร้อนใจไหวกระฉ่อน ไม่มีผู้ใดจะราญรอน พระนารายณ์ทรงศรจะอวตาร ลงไปรณรงค์กับกุมภัณฑ์ มันล้วนศักดากล้าหาญ จํากูจะให้เวสสุญาณ ไปเกิดร่วมวงศ์วานทศพักตร์ เมื่อพระสี่กรจะลงไป จะได้ถามเหตุเบาหนัก เป็นไส้ศึกอยู่ในเมืองยักษ์ จึ่งจักสิ้นวงศ์สาธารณ์ ฯ

ฯ ๑๐ คํา ฯ

๏ ตริแล้วพระสยมภูวนาถ จึ่งมีเทวราชบรรหาร แก่เทพบุตรเวสสุญาณ ท่านจงจุติลงไป เกิดร่วมอุทรทศเศียร เรียนรู้โหราวิชาไสย คอยท่านารายณ์ฤทธิไกร บอกกลให้ล้างอสุรา แล้วประทานแว่นแก้วอันวิเศษ ไปเป็นนัยน์เนตรซ้ายขวา จะได้ดูทั้งไตรโลกา ให้เหมือนตาทิพย์เทวัญ ฯ

ฯ ๖ คํา ฯ

๏ เมื่อนั้น เทพบุตรเวสสุญาณรังสรรค์ รับพรพระอิศวรทรงธรรม์ กับแว่นแก้วอันศักดา ชื่นชมก้มเกล้าอภิวาทน์ ลาบาทพระบรมนาถา ก็จุติจากสวรรค์ลงมา ยังครรภ์รัชดาเทวี ฯ

ฯ ๔ คำ ฯ เชิด

๏ เมื่อนั้น โฉมนางรัชดามเหสี อยู่ด้วยลัสเตียนอสุรี มีครรภ์ประสูติพระลูกรัก ให้ชื่อพิเภกกุมารา มีสติปัญญาแหลมหลัก แต่ฤทธิ์นั้นหย่อนอ่อนนัก ไม่เหมือนทศพักตร์กุมภกรรณ ทูตขรตรีเศียรวรนุช ล้วนมีฤทธิ์รุทรแข็งขัน อันนางสำมนักขานั้น เป็นน้องสุดครรภ์ลงมา องค์พระมารดรบิตุเรศ รักยิ่งดวงเนตรซ้ายขวา ในโอรสราชธิดา เป็นมหาพิศวาสพันทวี ฯ

ฯ ๘ คำ ฯ เจรจา

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาไทย โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน lmyour แปลภาษา แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip ไทยแปลอังกฤษ ประโยค แอพแปลภาษาอาหรับเป็นไทย ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 แปลภาษาอาหรับ-ไทย Terjemahan พจนานุกรมศัพท์ทหาร หยน แปลภาษา มาเลเซีย ไทย Bahasa Thailand ข้อสอบภาษาอังกฤษ พร้อมเฉลย pdf บบบย tor คือ จัดซื้อจัดจ้าง การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 4 ชขภใ ยศทหารบก เรียงลําดับ ห่อหมกฮวกไปฝากป้า หนังเต็มเรื่อง เขียน อาหรับ แปลไทย แปลภาษาอิสลามเป็นไทย Google map กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย ค้นหา ประวัติ นามสกุล อาจารย์ ตจต แจ้ง ประกาศ น้ำประปาไม่ไหล แปลบาลีเป็นไทย แปลภาษา ถ่ายรูป แปลภาษาจีน แปลภาษามลายู ยาวี โรงพยาบาลภมูพลอดุยเดช ที่อยู่ Google Drive Info TOR คือ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ช่างไฟฟ้า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 กลยุทธ์ทางการตลาด มีอะไรบ้าง การบริหารทรัพยากรมนุษย์ มีอะไรบ้าง การประปาส่วนภูมิภาค การ์ดแคปเตอร์ซากุระ ภาค 3 ขขขขบบบยข ่ส ข่าว น้ำประปา วันนี้ ข้อสอบโอเน็ต ม.6 มีกี่ตอน ตารางธาตุ ประปาไม่ไหล วันนี้